ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้แสวงบุญ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.58K
      428
      26 มี.ค. 64

         ยามเช้าของเมืองอัลเทร่าเป็นไปดั่งเช่นทุกครั้ง ถึงในความเป็นจริงมันจะวิเศษยิ่งไปกว่าครั้งไหนๆ เพราะวันนี้เป็นวันสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ที่โด่งดังที่สุดในดินแดนไอช่า ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่กันบนท้องถนนมากกว่าปกติ รวมถึงบรรดาพ่อค้าแม่ขายที่รู้งานรีบตื่นมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เช้าตรู่

              โนอาห์ที่มองภาพบรรยากาศภายในเมืองจากบนท้องถนนก็ได้แต่อมยิ้ม ในตอนนี้เขาและอารันอยู่ในโรงแรมระดับกลางภายในเมืองอัลเทร่า ถึงจะบอกว่าระดับกลางแต่ค่าเช่าต่อคืนนั้นราคาแพงเอาเรื่อง ยังดีที่พวกเขามีเงินติดตัวมากพอที่จะอยู่อาศัยติดกันหนึ่งอาทิตย์เพื่อจะเข้าไปสอบ โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ไปยื่นสมัครเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าจะไม่เหยียบย่ำเข้าไปในอาณาเขตของโรงเรียน แต่จำนวนก็ไม่ใช่เรื่องที่โนอาห์จะดูถูกได้

              ไม่บอกนึกว่าต่อแถวรับของฟรี

              หลังจากแทบจะเรียกได้ว่าช่วงเวลาแห่งความว่างที่แท้จริง ทั้งสองเลยต่างพากันกระทำสิ่งที่ตนถนัด โนอาห์ได้ลองโคจรลมปราณดูเพื่อตรวจเช็คว่าจะมีผลยังไงในดินแดนที่เต็มไปด้วยไอพลังงานประหลาดที่เรียกว่ามานา นับว่ายังโชคดีที่เขายังสามารถโคจรลมปราณได้อย่างปกติ ทั้งยังรู้สึกทรงพลังมากกว่าเดิมเพราะแทนที่จะใช้พลังวัตรที่มีอยู่ข้างในอย่างเดียวเหมือนที่ภายใน ทุกครั้งที่โนอาห์โคจรลมปราณกลับดึงเอามานาในอากาศไปประสมร่วมด้วยจนเกิดผลลัพธ์ที่แตกต่าง

              ในตอนนี้อาจจะไม่เห็นผลเท่าไหร่

              แต่โนอาห์เชื่อมั่นว่าในอนาคตมันจะต้องมีประโยชน์อย่างแน่นอน

              และนั้นเองจึงทำให้โนอาห์รับรู้ความจริงเกี่ยวกับสหายของเขาอีกหนึ่งอย่าง ดูเหมือนว่านอกจากจะเป็นพ่อค้าที่มากไปด้วยวาทิศิลป์ อารันยังเป็นจอมเวทที่ทรงภูมิคนหนึ่งเท่าที่โนอาห์จะอนุมานได้ ที่มันหิ้วหอบกระดาษและพู่กันมานั้นก็ไม่ใช่เอามาขีดเขียนเล่นแต่อย่างใด แต่อารันซื้อมาเพื่อนำมาประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ด้วยตัวเอง เพื่อให้กำเนิดม้วนคัมภีร์เวทมนตร์หลากหลายรูปแบบดังที่เขาได้เห็นในหลายวันที่ผ่านมา

              ไว้คราวหลังค่อยไปขอให้มันทำให้ซักม้วนสองม้วน

     

              “นายมั่นใจจริงๆใช่ไหมว่าจะเอาไม้เท้านั่นไปสอบ” อารันเอ่ยทักหลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมเผ้าชุ่มฉ่ำจากการสระผม เสื้อผ้าที่ใส่มาแล้วเรียบร้อยตั้งแต่ในห้องน้ำ ซึ่งโนอาห์ก็ยังนับว่าแปลก แต่แปลกว่านั้นก็คือระยะเวลาในการใช้ห้องน้ำของอารันที่นานเสียจนเขาหลับตื่นหนึ่งได้

               “บ๊ะ! ไม่ใช้ไม้เท้าสยบมังกรแล้วจะให้ฉันไปเอากิ่งไม้ที่ไหนมาสอบล่ะเพื่อน ถามแปลกๆ” โนอาห์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเริงร่า หลังจากที่เข้ามาห้องพักวันแรก โนอาห์ได้เล่าเรื่องที่ตนรู้เกี่ยวกับไม้เท้าสยบมังกรให้อารันฟัง เพราะคิดว่าเพื่อนหัวเขียวคนนี้จะคลี่คลายความสงสัยในใจของเขาได้

              น่าเสียดายที่ช่วยไม่ได้เลยซักนิด

              “ก็เผื่อเกิดเหตุผิดพลาด ใครบางคนจะได้ไม่มาโทษว่าฉันไม่ได้เตือน” อารันยักไหล่ เดินไปเช็คข้าวของอีกทีให้แน่ใจ ในขณะที่โนอาห์ได้แต่สบถในใจให้กับความสนิทสนมที่ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ จนเขาเองยังแอบตกใจอยู่ไม่น้อย

              เมื่อเขาเห็นเพื่อนร่วมห้องทำการเช็คข้าวของ โนอาห์ที่ไม่รู้จะมองหาอะไรต่อผ่านทางหน้าต่างจึงลองทำเลียนแบบดูทั้งๆที่ไม่มีอะไร แน่นอนว่าความเร็วในการตรวจตรานั้นย่อมมากกว่าอารันหลายเท่าตัว เจ้าตัวคว้าห่อผ้าที่ภายในบรรจุดไม้เท้าสยบมังกรที่เป็นดั่งยันต์คุ้มภัยของเขาในยามนี้มาสะพานไว้ที่ข้างหลัง อาสาเดินนำไปที่ประตูอย่างออกหน้าออกตา

              “ไม่เห็นต้องรีบขนาดไหนแท้ๆ” อารันส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเดินมายืนอยู่ข้างหลังโนอาห์ เพื่อรอว่าเมื่อไหร่มันจะเปิดประตูซักที

              โนอาห์สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ก่อนจะค่อยเอื้อมมือไปขยับลูกบิดช้าๆ ถ้าเขาเดินก้าวข้ามประตูบานนี้ไป ก็เท่ากับว่าได้เหยียบเข้ามาในโลกอิซซูมีลแห่งนี้เต็มฝ่าเท้าเสียที นั้นจึงเป็นเหตุให้เขาต้องใช้เวลาในการตัดสินใจนานหน่อยเป็นเรื่องธรรมดา

              และในที่สุดประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออก

              พร้อมกับมโนทัศน์ที่ถึงกับทำให้โนอาห์กระพริบตาปริบๆ

              ด้านขวาของเขามีหญิงสาวสองคนหยุดชะงักเนื่องจากบานประตูถูกเปิดออก พร้อมกับการก้าวมาของชายหนุ่ม หนึ่งเป็นผู้หญิงน่าตาค่อนไปทางน่ามากกว่าสวย ผมเผ้าสีน้ำตาลประบ่า อีกคนเป็นผู้หญิงที่ราวกับว่าผลิตน้ำแข็งออกมาได้ด้วยตัวเอง เรือนผมสีดำสลวยและนัยต์ตาสีเดียวกัน

              ผู้หญิงที่โนอาห์และอารันจะจำได้ดีไม่มีวันลืม

              “อ๊ะ...คุณเมื่อตอนนั้นนี่คะ” หญิงสาวผมสีน้ำตาลเอ่ยทักเสียงใส ในขณะที่โนอาห์ได้แต่โบกมือตอบกลับตาปริบๆเนื่องจากทำอะไรไม่ถูก อารันเองที่ชะโงกมาหาว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้แต่เม้มรีมฝีปากพยักหน้าทักทายไปก่อนในขั้นแรก

               หลังจากคณะเดินทางของพวกเขาก็ได้บรรจุคนเพิ่มเข้าไปอีกสองคน

     

     

     

     

                “ไม่นึกเลยนะคะว่าจะมาเจอกันในที่แบบนั้น นึกไม่เลยว่าจะพักอยู่โรงแรมเดียวกัน” ซายากะพูด ในตอนนี้เธอกับยูกิกำลังเดินอยู่กับอารันและโนอาห์ที่เหมือนจะปรับตัวเข้ากับพวกเธอได้เร็วเหลือเชื่อ เพราะต      

                “ว่าแต่...เมื่อไหร่จะถึงกันล่ะนี่ ฉันจำได้ว่าเราเดินกันมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอไง” โนอาห์เอ่ยทักขึ้น การเดินไปชมวิวรอบข้างไปช่วงแรกมันก็น่าสนุกดีอยู่หรอก แต่พอนานไปความเมื่อยดันมีมากกว่าความสนุก จนเขาเองก็เริ่มรู้สึกอยากเจอตัวโรงเรียนขึ้นมาเร็วๆเหมือนกัน

                “เงยหน้าขึ้น” อารันตอบกลับด้วยประโยคสั้นๆ แต่โนอาห์ก็เลือกที่จะทำตาม และนั้นเองจึงทำให้เขาพบกับสิ่งที่ตามหามาตั้งแต่เข้าเมืองแห่งนี้มา

                 พวกโนอาห์เงยหน้าขึ้นไปมองภาพที่เห็นเบื้องหน้าให้ชัดๆ ปราสาทสีขาวล้อมรอบด้วยกำแพงสีขาวขนาดใหญ่จนเกือบจะเท่ากำแพงเมืองอัลเทร่า สถาปัตยกรรมของตัวปราสาทอวาลอนงดงามราวกับภาพวาด ดูแปลกตาสำหรับชายต่างโลกอย่างโนอาห์ยิ่งนัก

            ความจริงแล้วอารันได้เล่าข้อมูลเบื้องต้นของโรงเรียนแห่งนี้ให้เขาฟังบ้างบางส่วน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในการตอบคำถามซึ่งอาจส่งผลยุ่งยากตามมาในภายหลัง โดยเฉพาะเนื้อหาในส่วนของอาจารย์ใหญ่ซึ่งดูเหมือนอารันจะเน้นเป็นพิเศษ จอมเวทที่ว่ากันว่ามีอายุยืนยาวมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งอาณาจักร คนๆเดียวกับที่วางข่ายอาคมและรากฐานหลายสิ่งหลายอย่างให้กับอัลเทร่า แต่ในสมัยปัจจุบันกลับไม่เคยมีใครได้เห็นหน้าอาจารย์ใหญ่ผู้นี้อีกเลย

       มองดูไกลๆเหมือนไม่มีอะไรนอกจากสิ่งปลูกสร้างสีขาว

                 พอมาดูใกล้ๆกลับได้พบเห็นสวรวงสวรรค์เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง

                 ”คนน้อยกว่าที่คิดแฮะ...” โนอาห์ทำปากพึมพำ หลังจากพบว่าประตูโรงเรียนมีน้อยคนนักที่จะเดินเข้าไป ซึ่งทั้งหมดล้วนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาทั้งสิ้น

           ไมตรีจิตกับทุกคนไม่เลือกหน้า ดูไปดูมาก็ละม้ายคล้ายกับโนอาห์เสียเหลือเกิน ในขณะที่ยูกิก็ดูมืดมนผิดกับคนอื่นๆลิบลับ แต่ว่าก็เหมือนจะเป็นมิตรกว่าที่นิกซ์คิด

    สรุปแล้วไม่มีอะไรน่ากลัว

     “พวกคุณอยากรู้อะไรบ้างล่ะครับ” นิกซ์ถาม เมื่อทำใจยอมรับกับกลุ่มคนที่คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเขาในอนาคตแล้ว ความประหม่าก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

    “เรื่องที่จะสอบ หรืออะไรเทือกๆนี้น่ะ” โนอาห์ตอบ ในหัวตอนนี้ของเขาว่างเสียยิ่งกว่าว่าง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรเริ่มจากจุดไหน หรือควรทำยังไงต่อไปกับการสอบที่แม้แต่เขาเองยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร

    “ขอโทษด้วยนะครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน...และอาจจะรวมถึงคนอื่นๆในห้องนี้ด้วย ตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้ก็ไม่มีใครมาอธิบายให้ฟังซักคน” นิกซ์ยิ้มเจื่อนๆ เหลือบมองบริเวณโดยรอบที่ผู้เข้าสอบแต่ละคนนั่งแยกกันอย่างเป็นเอกเทศ

    “เป็นระบบที่ดูซับซ้อนวุ่นวายดีนะ ใครมันเป็นคนคิดเนี้ยถามจริง...” ชายผมดำหัวเราะในลำคอ ในขณะที่นิกซ์นั้นอ้าปากค้าง พร้อมกับซายากะที่อมยิ้มเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะ ในขณะที่ยูกิยังคงรักษาใบหน้าปูนปั้นของตัวเองเอาไว้ได้อย่างเคย

    ส่วนอารันนั้นกุมขมับไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×