ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #77 : ตอนที่ 75 ข้อเท็จจริง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.28K
      63
      9 พ.ค. 64

        

     

                หลังจากนั้นทั้งห้องก็ถูกปกคลุมไว้ด้วยความเงียบ

     

                ความเงียบที่คอยปลอบโยนพวกเขาเอาไว้

     

                ไม่ให้แสดงความรู้สึกอื่นใดมามากกว่านี้

     

     

     

     

             

      “จะว่าไปแล้ว...นายปล่อยเจ้าพวกนั้นไปทำไม” โนอาห์ยิ้มที่มุมปาก เงยหน้านิดๆเหลือบมองดวงหน้าสวยที่มิควรจะมาอยู่ในตัวบุรุษเพศ

     

                หรือบางทีอาจจะมีอะไรที่เขาเองก็ยังไม่รู้

     

                “ปล่อย? ถ้างั้นทางนี้เองก็ขอย้อนกลับคำเดิน ทีนายยังทำก่อนฉันอีกไม่ใช่หรือไง” อารันหัวเราะเบาๆ นึกย้อนรอยคำถามอย่างอารมณ์ดี

     

                “บ๊ะ!! ให้มันน้อยๆหน่อย คิดหรือว่าฉันจะทำแบบนั้นไปโดยที่ไม่มีเหตุผล” ชายต่างโลกสบถออกมาในลำคอ

     

                “นั้นแหละคำตอบของคำถาม” อารันแย้มรอยยิ้มขึ้นมาประดับอยู่บนใบหน้าดั่งเช่นทุกครั้ง และเป็นอีกคราด้วยกันที่โนอาห์ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังจากต้องมาโต้เถียงกับพ่อค้าที่ยืนค้ำหัวตนอยู่

     

                หากโนอาห์ลงมือจริงจังไฉนเลยหนึ่งมือสังหารหนึ่งจอมเวทจะรอดกลับไปได้ครบสามสิบสอง ทว่าผลที่ตามมามันร้ายแรงจนยากที่จะเสี่ยง อีกทั้งก้าวเดินนั้นของโนอาห์ยังเป็นการกรุยทางเพื่อหนทางอันสว่างไสวในเบื้องหน้าอีกทางหนึ่ง โนอาห์เชื่อมั่นถึงเจ็ดส่วนว่าหากเขาลงมือกำจัดไรเซลหรือโรสแมรี่ ไม่ก็ทำให้สองคนนั้นพิกลพิการจนยากที่จะรักษาตัวได้ ฝ่ายศัตรูย่อมไม่รีรอที่จะส่งกำลังคนที่ร้ายกาจยิ่งกว่านี้มาเพื่อทดแทนของเดิม ดังนั้นโนอาห์เลยจงใจถนอมฝีมือบางส่วนเอาไว้ เพื่อที่จะรักษาขุมกำลังชุดนี้ต่อไป

     

                ไม่มีเหตุผลอะไรที่โนอาห์จะต้องมาสู้กับคนที่เก่งกว่านั้น

     

                ที่สำคัญนอกจากกำลังคนแล้วยังน่าจะมีกลอุบายพิสดารตามมา

     

                ในส่วนของเหตุผลเพื่อปูทางนั้น แต่เดิมโนอาห์หรือนามเดิมคือชิวหลงนั้น มีนิสัยติดเที่ยวเล่นไม่จริงจังอยู่เป็นอาจิณ ชาวยุทธทั้งหลายที่รู้จักต่างพากันบอกเป็นเสียงเดียวว่าคนจรผู้นี้ไม่เคยลงมือต่อสู้สุดกำลังเลยแม้ซักครั้งเดียว ในแนวคิดของชิวหลงนั้นมักจะกระทำการเพื่อผ่อนปรนสถานการณ์ไม่คาดฝันในภายภาคหน้า และนี่เองจึงเป็นหนึ่งในเคล็ดลับสำคัญซึ่งไม่แพ้ยอดวิชาทั้งสามที่ทำให้เขาเอาตัวรอดในยุทธจักรมาได้แม้จะอยู่ในสภาวะกึ่งเล่นกึ่งเอาจริงเช่นนี้

     

                ลงมือหกส่วนเก็บงำสี่ส่วน

     

                นี่คือตัวตนของจอมยุทธที่มีชื่อว่าชิวหลง

     

                ที่สำคัญโนอาห์ยึดเอาการต่อสู้กับไรเซลและโรสแมรี่เปรียบดั่งการฝึกปรือวิชา จริงอยู่ที่ว่าโนอาห์สามารถลองใช้เองได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครเอาวิชาต่อสู้ไปฟาดฟัดอากาศ หรือป้องกันตัวจากจุลินทรีย์สารที่อยู่รอบๆตัว ดังนั้นการทดลองกับยอดฝีมือจึงถือเป็นเหยื่อทดลองชั้นเลิศ

     

             

     

                “พวกมันต่อรองกับตระกูลไรท์การ์ดได้ตรงๆนี่...น่ากลัวเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ เหนือคาดจริงๆ แต่ว่าถ้าแบบนี้ การเมืองภายในอัลเทร่าจะไม่วุ่นวายแย่เหรอครับ” นิกซ์พลันเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีหลังจากอ่านข้อความในจดหมายฉบับนั้นจบ

     

                สิ่งที่อยู่ในกระดาษแผ่นนั้นเป็นข้อความสั้นๆเพียงไม่กี่ประโยค ทว่ามันกลับสร้างประโยชน์ให้กับตาเดินของพวกเขาได้อย่างมากมายมหาศาล คนที่กุมความลับของโนอาห์ดูเหมือนว่าจะมีเส้นสายมากกว่าที่คิด หลังจากข้อความในกระดาษเขียนไว้ว่าทางไรท์การ์ดได้ติดต่อกับคนผู้หนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นคนปล่อยข่าวนี้ให้กับทางตระกูลขุนนางนี้เอง

     

                หลังจากนั้นราวกับเจอกระจกหกสิบแปดด้าน

     

                ไม่ว่าพ่อของเซเรน่าจะใช้กำลังคนที่มีสืบหาความจริงมากเท่าใด หรือว่าสอบถามผู้รู้เห็นเรื่องนี้มากแค่ไหน สุดท้ายแล้วปลายทางดันมาบรรจบอยู่ที่ทางตัน จนในที่สุดเวลเบอร์ หัวหน้าตระกูลคนปัจจุบันของสวานีเซียร์จึงเดิมพันหมากขั้นสุดท้าย โดยการไปสอบถามจักรพรรดิอัลเครอซโดยตรง ซึ่งคำตอบที่เวลเบอร์ได้รับจะมีเพียงเขากับอัลเครอซเท่านั้นที่รู้ เพราะเขาไม่ได้บันทึกเนื้อหาส่วนนั้นลงกระดาษแผ่นนี้แต่อย่างใด

         “แต่ก็นับว่าไม่เลว ถึงกับมองออกว่าพวกไรท์การ์ดเป็นกลุ่มขุนนางที่ยึดมั่นความถูกต้องเป็นอันดับหนึ่งมาช้านาน กระจายข่าวทางนี้ย่อมรับรองว่าได้ผลชะงัดนักแล ยิ่งถ้าเจ้านั่นมีหลักฐานยืนยันว่าโนอาห์มาจากต่างโลกจริงๆล่ะก็...” อารันพูดออกมาราวกับเป็นเรื่องง่ายๆ โดยเจ้าตัวโบกมือน้อยๆปฏิเสธไม่ต้องการอ่านจดหมายฉบับนั้นที่นิกซ์ยื่นให้แต่อย่างใด

     

                ราวกับรู้เรื่องราวเหล่านี้อยู่แล้วไม่มากก็น้อย

     

                หรือบางเขาอาจจะมีความคิดในใจอะไรบางอย่าง

            

     

                “ถ้านายรู้อะไรก็รีบๆคายออกมาให้หมดเถอะ ไม่งั้นแล้วทุกๆอย่างมันจะยิ่งเกินเยียวยายิ่งกว่าไปตอนนี้อีกนะ” เซเรน่าบ่นอุบ เธอย่อมรู้เป็นอย่างดีว่าขุมปัญญาระดับอารันนั้นคำนวณได้ถึงก้าวที่เท่าไหร่ เสียแต่ว่าชอบทำเป็นเก็บงำความคิดอยู่คนเดียว จากนั้นค่อยมาเฉลยหลังจากเรื่องมันจบลงแล้ว

     

                “เรื่องบางเรื่องต่อให้ไม่พูด มันก็ดีกว่าพูดเยอะนะเซเรน่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาตอนนี้ไม่มีอะไรรับประกันได้แล้วว่าอวาลอนจะปลอดภัยอีกต่อไป ป้องกันได้ก็ป้องกันไว้ก่อน แถวนี้อาจจะมีเวทดักฟังฝังอยู่ก็ได้ใครจะไปรู้” อารันหัวเราะเบาๆ เซเรน่าจึงได้แต่หรี่ตามองชายหัวเขียวอย่างใช้ความคิด

     

                เสียแต่ว่ามองอย่างไรก็มองไม่ออก

                    “นายคิดอย่างไร ฉันก็คิดแบบนั้น อาจจะมีแตกต่างกันบ้างในรายละเอียด....แต่ว่าโดยรวมแล้วเจ้าพวกนั้นยังมีประโยชน์ต่อฝ่ายเราไม่น้อย” อารันพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าปกติ วิชาฝีมือของไรเซลตัวเขานั้นเรียนรู้จนแทบสิ้นวิชา ไม่นับไพ่ตายหรือความสามารถซ่อนเร้นที่ชายผู้นั้นอาจจะยังเก็บงำเอาไว้

     

                “แต่สุดท้ายแล้วเรื่องภายในวันนี้ก็ดูเหมือนจะสมใจไปซะทุกอย่างแล้วนี่ ถ้าไม่นับการลอบโจมตีซึ่งคนที่สมควรโดนมันควรเป็นฉัน ไม่ใช่เธอ...” โนอาห์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะส่ายหน้าไปมาไล่ความรู้สึกประหลาดให้ลอยละล่องออกไปจากหัว

     

                “ต้องขอบคุณนายอยู่ไม่น้อยที่ทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังออกมายืนอยู่ ณ เบื้องหน้า ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับซายากะก็เกินขอบเขตความคิดของฉันไปมากโข...ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ซักเท่าไหร่หรอกนะ” พ่อค้าคนสำคัญพูดพลางแหงนหน้ามองดูดาว จงใจเลียนแบบสหายคนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆตน

     

                เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันนักว่าบนนั้นมันจะมีอะไรสำคัญนักหนา

     

                “อารัน....เรื่องที่ฉันให้นายไปเตรียมไว้ เรียบร้อยดีใช่ไหม” โนอาห์เงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะกล่าวประโยคหนึ่งออกมา ประโยคที่ถึงกับทำให้ชายผู้เจนจัดโลกาถึงกับหนาววูบไปชั่วครู่

     

                             ไม่นึกเลยว่าชายผู้นี้จะดำเนินก้าวนั้นจริงๆ

     

                “ระดับฉันขอบอกไว้ก่อนว่าไม่มีพลาด...อีกกี่วันกันล่ะ” แม้ภายนอกอารันจะเต็มไปด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มเหมือนอย่างเคย แต่ว่าข้างในใจของเขากลับรู้สึกตรงกันข้าม

     

                “ไม่เกินเจ็ดวัน” โนอาห์ตอบ

     

                เจ็ดวันเป็นช่วงเวลาที่จะว่าเร็วก็เร็ว จะว่าช้าก็ช้า

     

                ทว่าเวลาเพียงเท่านี้ก็เพียงพอ สำหรับการรอคอยของเขา

     

                รอคอยช่วงเวลาแห่งการแว้งกัดเอาคืน

     

     

     

     

                “ท่านไม่ได้บอกข้าว่ามันจะเป็นแบบนี้!!” โรสแมรี่สบถขึ้นอย่างหัวเสียใส่ผู้เป็นนายของตน ผู้ซึ่งยังคงนั่งยิ้มอย่างสบายใจอยู่บนเก้าอี้นวมตัวโปรด

     

                ไม่เคยเลยที่เธอจะรู้สึกหัวเสียกับหัวหน้าเท่าเรื่องในวันนี้

     

                และเธอรู้ดีว่าไรเซลเองก็รู้สึกแบบเดียวกันกับเธอ

     

                เพียงแต่คนผู้นั้นฉลาดเกินกว่าที่จะพูดออกมา

     

                “เจ้าก็เห็นไม่ใช่หรือไงว่าภายในวันนี้พวกเราประสบความเร็จถึงขั้นไหน อีกอย่างเจ้าต้องขอบคุณข้าถึงจะถูก ที่ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้” ชาร์ลพูดกลั้วยิ้ม ไม่ใส่ทีท่าโกรธเคืองของลูกน้องตนซักเท่าไหร่

     

                “ข้าเอาตัวรอดเองได้” โรสแมรี่ตอบกลับทันควัน

     

                “จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ” ชาร์ลสวนกลับด้วยรอยยิ้มที่คาดเดาอารมณ์ได้ยาก

     

                โรสแมรี่พลันชะงักไปชั่วครู่

     

                เป็นความจริงที่ยอมรับได้ยากว่าฝีมือของเธอกับนักเรียนหญิงคนนั้นสูสีกันวัดผลได้ยาก ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ไม่สามารถทำให้เธอล้มลงได้ ทว่าเธอเองก็ไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายยอมจำนนได้เช่นกัน จะตัดสินกันให้รู้ผลมีเพียงทางเดียวก็คือเข้าแลกกันถึงชีวิต

     

                แน่นอนว่าเธอขอไม่เลือกทางนั้น

     

                แต่เจ้าเด็กประหลาดที่สู้กับไรเซลนั้นแทบจะเป็นคนละเรื่อง

     

                ตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกันมา โรสแมรี่ยังไม่เคยเห็นไรเซลอยู่ในสภาพสิ้นท่าขนาดนั้นมาก่อน เธอรู้ดีว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่เกินกว่าจะมียอดฝีมือเพียงหลักสิบ แต่เธอเองก็คาดไม่ถึงอย่างเด็ดขาดว่าจะมีคนอายุรุ่นนั้นที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถถึงขนาดกดดันไรเซลจนแทบเอาชีวิตไม่รอด

     

                “จะยังไงก็ตามแต่ ข้าต้องขอแนะนำสมาชิกใหม่ในหน่วยของเราให้รู้จัก จริงอยู่ที่นับตามศักดิ์พวกเจ้าถือว่าเป็นผู้อาวุโส แต่เชื่อข้าเถอะ...ว่าพวกเจ้าไม่อยากแหยมกับคนๆนั้น” ชาร์ลพูดขึ้น ถึงเวลาเสียทีที่เขาต้องแนะนำตัวหมากสำคัญในวันนี้ให้ลูกน้องทั้งสองรู้จักมักคุ้น

     

                เจ้าของผลงานอันยอดเยี่ยมที่ยากจะหาใครในแผ่นดินเทียมทัน

     

                เพราะว่านานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้าลงมือกับคนในเขตปราสาทหลังนั้น

     

                “แล้วไหนล่ะคนที่ท่านว่า” โรสแมรี่เลิกคิ้วออกมาด้วยความสนอกสนใจ อยากรู้นักว่าสมาชิกใหม่ของหน่วยจะเป็นคนแบบไหน

     

                “เขาอยู่ในห้องนี้ตลอดเวลา...ใช่ไหมหรือนายท่าน” ไรเซลตอบแทนชาร์ลที่ผงกหัวขอบคุณเล็กน้อย ก่อนจะผายมือไปทางมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งปรากฏชายร่างสูงผู้หนึ่งยืนพิงกำแพงด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม เรือนผมสีดำจัดไม่เป็นทรง ที่ใบหน้ามีแผลเป็นพาดผ่านดวงตาสีทับทิม รูปร่างกำยำสมส่วน เขาผู้นั้นแสดงท่าทีออกมาว่าไม่ต้องการพูดจากับใคร

     

                “ซิกม่า ควอเตอร์” ชาร์ลกล่าวแนะนำตัวแทนชายผู้นั้นด้วยรอยยิ้ม

     

                ถ้าอีกฝ่ายมีแผนการสำรองมาเกื้อหนุนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้

     

                ฝ่ายเขาก็ยังมีตัวหมากตัวใหม่ที่พร้อมจะกระโจนเข้ามาสู่สนามรบแห่งนี้ได้ทุกเมื่อ

     “เดี๋ยว! ช่วยรอก่อนได้ไหม” เสียงใสดังก้องขึ้น ณ ระเบียงทางเดินในโรงเรียนอวาลอน อันเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ถูกเรียกหันหน้ามามองตามเสียงแทบจะพร้อมกัน

     

                คนแรกเป็นชายร่างเล็กกว่าใครๆ

     

                คนที่สองเป็นชายที่หน้าสวยยิ่งกว่าใครๆ

     

                และคนสุดท้าย ชายผู้ซึ่งสร้างปัญหาได้มากกว่าใครในโรงเรียนแห่งนี้

     

                      “ไม่เกินหกวัน” อารันกล่าวตอบหญิงสาวในทันที

     

                 “คุณเซเรน่ามีอะไรเหรอครับ ถ้าผมจำไม่ผิดสภานักเรียนก็ไม่มีเรื่องด่วนอะไรถึงขั้นต้องดึงพวกผมไปช่วยงานนี่นา” นิกซ์เลิกคิ้วสงสัย ในช่วงหลังมานี้พวกเขาทั้งสามแทบจะไม่ต้องช่วยงานเซเรน่าอีกเลย อาจจะเป็นเพราะงานที่คั่งค้างทั้งหมดดันถูกเคลียไปตั้งแต่ช่วงที่ระดมนักเรียนปีหนึ่งถึงปีสองมาช่วย

     

                ดังนั้นนิกซ์จึงนึกไม่ออกว่าทำไมเซเรน่าถึงทักพวกเขาขึ้นมาในตอนนี้

     

                ถ้านับด้วยเรื่องของช่วงเวลาเมื่อวานซายากะก็พึ่งนอนสลบไสลไม่ได้สติ

     

                “นั้นน่ะสิ ไม่เห็นเหรอว่าพวกฉันกำลังรีบ” โนอาห์พูดกลั้วหัวเราะ ตั้งใจหยอกเล่นไปงั้นๆไม่ได้จริงจังอะไรเสียอย่างใด ทว่าแววตาของผู้หญิงนางหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆเซเรน่ากลับจริงจังจนโนอาห์ถึงกับผิดคาด

     

                มันจะเป็นอะไรที่วิเศษกว่านี้มากถ้าหญิงสาวคนที่ว่าไม่ใช่ยูกิ

     

                นี่คงไม่ได้มาคุยเรื่องวางแผนแก้แค้นหรอกนะ

     

                “เมื่อวานพอดีมีแต่เรื่องยุ่งๆ ช่วงเช้าก็หาโอกาสพูดกับพวกนายไม่ได้ เพราะงั้นตอนนี้แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว” เซเรน่าพยักหน้าหงึกๆตีสีหน้าจริงจัง ช่วงเช้าที่เธอหาจังหวะพูดคุยเรื่องนี้กับพวกโนอาห์ไม่ได้ ก็เพราะว่าเพื่อนร่วมชั้นปีดันพร้อมใจกันเดินมาถามพวกเขาถึงโต๊ะอาหารว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับซายากะ จนเธอและยูกิต้องรอให้ถึงช่วงเดินเข้าคาบเรียนในตอนเช้าเสียก่อน

     

                “แล้ว...” โนอาห์ไม่ทันพูดจบก็ต้องชะงักค้างไปชั่วครู่ มองมือของตนที่บัดนี้ถูกดึงให้มารับจดหมายฉบับหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ เจ้าตัวขมวดคิ้วสงสัยซักพัก ก่อนที่จะรู้แจ้งเห็นจริงว่าเซเรน่าพยายามจะบอกอะไรกับตน

     

                “จดหมาย...อย่าบอกนะครับว่า....” นิกซ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกตกใจ เซเรน่าหันมาพยักหน้าให้นิกซ์ช้าๆยืนยันคำตอบในใจของเขาให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก

     

                ดูเหมือนเขาจะหลงลืมไปแล้วจริงๆว่าเมื่อวานพวกเซเรน่าออกไปทำอะไรที่นอกโรงเรียน

     

                “คุณอารันก็ไม่เห็นบอกพวกผมเลยนะครับ” นิกซ์ยิ้มเจื่อนๆ เบือนหน้ามองไปทางพ่อค้าหัวใสที่บัดนี้ได้แต่อมยิ้มนิดๆไม่พูดอะไร

     

                “ไม่มีใครถาม” คำตอบสั้นๆง่ายๆดังออกมาจากของอารัน ซึ่งทำให้นิกซ์จดจำไปจนวันตายว่าจะไม่ลองดีกับผู้ชายคนนี้อีกเป็นครั้งที่สอง

     

                ในระหว่างที่นิกซ์กับอารันกำลังคุยข้ามหัวกันอยู่นั้น โนอาห์ที่ดึงจดหมายออกจากซองไล่อ่านไปทีละบรรทัดกลับค่อยๆขมวดคิ้วขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะคลี่รอยยิ้มบางออกมาเหมือนอย่างที่เคยเป็น และยื่นกระดาษจดหมายในมือให้นิกซ์อ่านต่อเป็นคนที่สอง

     

                “ดูวุ่นวายกว่าที่คิดกันในตอนแรกอีกแฮะ...” โนอาห์ยิ้มแห้งๆ พร้อมกับเซเรน่าที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเพื่อปลอบใจชายต่างโลกดี จึงได้แต่ยืนยิ้มอยู่เฉยๆ พลางมองรอบๆว่ามีใครอยู่ในบริเวณนี้อีกหรือเปล่า

     

                ตามด้วยนิกซ์ที่พึมพำเบาๆเสมือนกระซิบบอกภูตพราย

     

     

                “แล้วแบบนี้เราจะเอาไงกันต่อ หรือจะให้เธอไปลงมือล้างแค้นรวดเดียวเลยล่ะ” โนอาห์พูดติดตลก เบนหน้าหันไปมองยูกิที่เงียบมาตั้งแต่ต้น

     

                “ข้ามีสติพอจะไม่ทำแบบนั้น...แต่ว่า...” ยูกิพูดพลางส่งกลิ่นไอบางอย่างออกมาจากจิตใต้สำนึก  ทำให้บริเวณระเบียงทางเดินแถวนี้ดูหนาวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆที่ดวงตะวันยังคงทอแสงเจิดจ้าอยู่บนท้องนภา

     

              “เจอกันครั้งหน้า ข้าไม่เอามันไว้แน่” นั้นเป็นคำพูดสุดท้ายของนักดาบสาวผู้สูญเสียนายอันเป็นที่รักไป โนอาห์จึงได้แต่ยิ้มเจื่อนประหนึ่งคำขอโทษ แต่อย่างน้อยในตอนนี้พวกเขาก็ได้รับคำยืนยันมาหนึ่งอย่าง

     

                ยูกิจะไม่ทำอะไรบ้าๆในช่วงสองสามวันนี้อย่างแน่นอน

     

                “อีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ ถึงจะไม่รู้ก็เถอะว่าพ่อเธอหาข้อมูลนี้มาได้ยังไง แต่ก็คงเป็นข้อมูลจริงแท้แน่นอนใช่หรือเปล่า” โนอาห์ถามหยั่งเชิง พยายามหาหลักประกันให้ตัวเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าขืนพวกเขาเดินหมากพลาดเพราะข้อมูลลวงเหล่านี้แล้วล่ะก็ ผลที่ตามมาคงสุดแท้ที่จะคาดเดาได้

     

                “จริงแท้แน่นอนสิยะ นายอารันเองก็ยืนยันมาแล้วไม่ใช่เหรอ” เซเรน่าแหวใส่โนอาห์เบาๆ ทึกทักเอาเองว่าการที่อารันไม่บอกว่าข้อมูลในจดหมายฉบับนี้เป็นข่าวลวง ก็ถือได้ว่าเป็นการยืนยันขั้นต้นในทันทีว่าข้อมูลเหล่านี้เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง

     

                “ถ้างั้น...กว่าพวกมันจะลงมือก็...” นิกซ์เอ่ยแทรกอย่างรู้งาน

     

                “อีกไม่เกินเจ็ดวัน” อารันคลี่ยิ้มบางอย่างรู้ดี

     

                แต่ว่าคนที่รู้เวลามากที่สุดดูเหมือนจะเป็นโนอาห์

     

                “แต่ว่าตอนนี้อีกไม่เกินเจ็ดนาทีเราจะไปเข้าเรียนสายกันแล้วนะ” โนอาห์พูดพลางยิ้มไปมองเพื่อนของตนทีละคน ซึ่งทุกคนล้วนทำสีหน้าเหมือนเจอสิ่งที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน จนในที่สุดคนพูดก็ได้แต่ยิ้มแหยๆสาวเท้านำไปทางห้องเรียนคนเดียว

     

                “ถ้าเข้าสายฉันไม่แก้ตัวให้นะบอกไว้ก่อน” โนอาห์กลับหลังหันมายิ้มให้กับพวกอารันที่ดูเหมือนจะยังตั้งตัวไม่ถูก ก่อนจะเร่งความเร็วในการเดินเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ

     

                พวกเซเรน่าได้แต่หันหน้ามามองกันเป็นทางเดียว

     

                พร้อมกับคิดในใจว่ามีอะไรบางอย่างที่ดูผิดปกติ

     

     

                  พร้อมกับคิดในใจว่ามีอะไรบางอย่างที่ดูผิดปกติ

     

                ผิดปกติเสียจนจะยอมเชื่อได้ว่าผู้ชายที่ชื่อโนอาห์จะทำตัวแบบนั้น

     

                คงมีแต่อารันเท่านั้นที่รู้ดีว่าสาเหตุของความผิดปกติมันมาจากสิ่งใดกันแน่

     

                

    ไม่เคยเลยที่ห้องนั่งเล่นชั้นปีหนึ่งของบ้านพักซูซาคุจะปราศจากเสียงหัวเราะ บ้างก็มาจากการหยอกล้อตามประสาหนุ่มสาววัยกำลังตัว บ้างก็มาจากการหัวเราะจากกวนประสาทระหว่างหมู่เพื่อนฝูง แต่ดูเหมือนสิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นในวันนั้น ในช่วงเวลาตอนเย็นหลังเลิกเรียน

     

                คนนอกไม่รู้สึกแต่คนในย่อมรู้แจ้งกระจ่างชัดดั่งลายนิ้วมือตัวเอง

     

                “พักนี้เจ้าโนอาห์มันแปลกๆไปหน่อยว่าไหม” ชายผมสองสีหน้าตากร้านโลกกระซิบถามคนอื่นที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่สายตายังเหลือบมองไปยังบุรุษที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุดในชั่วโมงนี้ซึ่งก็คือโนอาห์

     

                ว่าช่วงนี้ผู้ชายมากปัญหานามว่าโนอาห์ดูแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด

     

                “มีวันที่หมอนั่นทำตัวปกติกับชาวบ้านชาวช่องเขาด้วยหรือไง” เดรคยิ้มขำ หลังจากสั่งโยกม้าฝั่งตนรุกคิงของดรากูนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของกระดานหมากรุก

     

                “บ๊ะ! ก็ปกติโนอาห์มันทำแบบนี้ซะเมื่อไหร่กันล่ะ” ไรอันบุรุษเจ้าของสองสีกระแทกเสียงเบาๆ กระทุ้งศอกเพื่อนสนิทให้หันไปมองต้นเหตุในคำพูดของเขา

     

                และนั่นเองถึงกับทำให้เดรคเลิกคิ้วด้วยประหลาดใจ

     

                โนอาห์ที่ยามปกติมักจะเอาเวลาว่างในแต่ละวันมานั่งคุยกับพวกเขา ไม่ก็เดินร่อนไปทั่วโรงเรียน กลับนั่งทำงานของสภานักเรียนอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่มุมห้องด้านหนึ่ง ที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือการที่โนอาห์นั่งทำอยู่เงียบๆไม่แหกปากโวยวายโทษใครบางคนอย่างที่มันชอบทำ

     

                 แปลกกว่านี้ก็คงจะเป็นเรื่องที่มังกรเต้นได้กระมัง

     

                “มันอาจจะแกล้งทำงั้นหลอกใครบางคนก็ได้ ไม่รู้หรือไงว่าช่วงนี้เรื่องของเจ้าหมอนี่มันฮอตน่าดู...โดยเฉพาะเรื่องอย่างว่า” เดรคยักไหล่คล้ายไม่ใส่ใจอะไรนัก ก่อนจะตาเบิกกว้างหลังจากพบว่าม้าบนกระดานของตนหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ พบเห็นสิ่งที่พอเป็นหลักฐานได้ก็มีแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้มของดรากูนเท่านั้น

     

                “ข่าวพวกนั้นมันลือซะยิ่งกว่าลือ อีกอย่างถ้าคนอย่างมันคิดจะเอาใจสาวจริงๆล่ะก็ วิธีร้อยแปดมีตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่เห็นต้องมาลำบากนั่งทำอะไรแบบนั้นเลย” ไรอันยังคงค้านเสียงแข็ง ถึงแม้ว่าช่วงนี้พ่อหนุ่มในคำทำนายคนดังกล่าวจะมีข่าวซุบซิบกับใครบางคนอยู่เป็นเนืองๆ และคนที่เป็นกระแสของข่าวลือก็มีเพียงสองคนเท่านั้น

     

             

                จักรพรรดิอัลเครอซ ผู้ปกครองสูงสุดในดินแดนมนตราแห่งนี้

     

                “ก่อนอื่นข้าคงต้องขอโทษเจ้าก่อนเป็นอันดับแรก ที่เป็นเหตุให้ท่านต้องมาสาย” องค์เหนือหัวตอบด้วยน้ำเสียงรื่นหูเหมือนอย่างเคย เพราะมีไม่บ่อยที่จะมีการประชุมฉุกเฉิน

     

                   โดยเฉพาะการประชุมที่มีแต่ขุนนางฝ่ายพลเรือนด้วยยิ่งแล้วใหญ่

     

                “ข้ามิบังอาจ” เวลเบอร์ตอบกลับตามมารยาที่พึงมี ไม่ใช่เพราะหน้าที่ แต่เป็นเพราะนั้นคือสิ่งที่เขาควรกระทำ

     

                “ท่านคงทราบมาบ้างว่าช่วงนี้ในเมืองมีข่าวลือหนึ่งที่ค่อนข้างฟังดูหนาหู” อัลเครอซวกกลับเข้าเรื่องสำคัญซึ่งเป็นแก่นหลักของการประชุมครั้งนี้ในทันที ทว่าในใจของเวลเบอร์กลับกำลังสั่นร้องอยู่เนืองๆ

     

                เพราะเขารู้แล้วว่าหัวข้อหลักในการประชุมครั้งนี้คืออะไรกันแน่

     

                “เรื่องบุรุษในคำทำนาย” สิ้นเสียงของอัลเครอซ ทั่วทั้งห้องเหมือนปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายทมิฬกาล ก่อนที่เวลเบอร์จะพูดอะไรบางอย่างออกมา

     

                “แล้วข้อสรุปที่เกลนดอนว่าคือสิ่งใดกันฝ่าบาท” น้ำเสียงของเวลเบอร์ยังฟังดูใจเย็นเหมือนทุกที

     

                “เรื่องนี้พวกข้าขออธิบายแทนได้หรือไม่” เกลนดอนประสานมือคารวะไปทางอัลเครอซอย่างนอบเหนือ ถึงแม้ภายนอกจะดูเหมือนคนที่ไว้ใจไม่ได้ ใครเล่าจะรู้ว่าคนผู้นี้เป็นบุคคลที่มีความภักดีเป็นอันดับต้นๆต่อราชวงศ์และทั้งต่อปวงชน

     

                การที่ไรท์การ์ดเป็นต้นตอของการปล่อยความลับของโนอาห์ย่อมเป็นหลักประกันได้เป็นอย่างดี

     

                 “เชิญท่านตามสะดวก” คำอนุญาตดังออกมาจากปากอัลเครอซ และนั้นคือสัญญาณที่ช่วยให้เกลนดอนทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แจงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

     

                “คนในคำทำนายนั้นตอนนี้อยู่นี้อยู่ที่อวาลอน ในฐานะของนักเรียนปกติทั่วไป” เกรนดอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ ราวกับจะให้ทุกคำสลักลึกเข้าไปในทุกส่วนของความทรงจำแก่ผู้ฟังทั้งหลาย

     

                เว้นเสียแต่จะมีอะไรบางอย่างดูผิดแผกแปลกแยกไปจากเดิม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×