ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #100 : ตอนที่ 98 ลูกศิษย์คนแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.81K
      62
      8 เม.ย. 64

                   “ต่อให้เป็นหยดน้ำเพียงน้อยนิด เมื่อมารวมกันก็สร้างได้แม้กระทั่งมหานที ไม่จำเป็นว่าต้องยิ่งใหญ่หรือต้อยต่ำ ขอแค่รู้จักประสานนอกใน ใช้จุดเด่นของตนให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อนั้นเจ้าก็จะกำชัยในทุกสมรภูมิ” ชายผู้นั้นกล่าวทิ้งท้าย พร้อมๆกับมองภาพเบื้องหน้าที่กำแพงน้ำแข็งระเบิดออก แน่นอนว่าคนที่อยู่ภายในย่อมได้รับอาการบาดเจ็บอยู่ไม่น้อย ทั่วเรือนร่างของหญิงสาวเต็มไปด้วยบาดแผลและลอยถลอก แต่ดูเหมือนจะยังมีสติอยู่ครบถ้วนจากการงอตัวเก็บอวัยวะที่สำคัญเอาไว้ข้างใน

     

                    “และหลังจากนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเจ้าต้องจัดการด้วยตนเอง ข้าช่วยชี้แนะได้เพียงเท่านี้ แต่มันคงจะเพียงพอสำหรับนักฆ่าที่ใกล้ตายคนนั้น” เขาแย้มรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ศัตรูแม้จะไม่ได้อยู่ในอันดับต้นๆของทางฝั่งนั้น แต่ก็นับว่ายื้อเวลาได้ไม่เลว

     

                ในสภาวะที่เขายังไม่เอาจริง รักษาชีวิตไม่ให้ตายได้ก็นับว่าเป็นบุญมากแล้ว

     

                “ท่าน...” นิกซ์ไม่รู้จะพูดอะไร ตอนนี้ร่างกายของเขาเริ่มฟื้นฟูอย่างไม่ทราบสาเหตุ คาดว่าคงมาจากชายปริศนาที่ยืนอยู่ด้านหน้า ทั้งทักษะและฝีมือในเวทอัญเชิญดูเหมือนจะสูงกว่าเขาไปซะทั้งหมด แต่ก็นับว่าได้เปิดหูเปิดตาไม่ใช่น้อย

     

                “ไปสั่งสอนศัตรูของเจ้าให้รู้สำนึก ว่านักอัญเชิญเช่นเจ้าทำอะไรได้บ้าง” ชายปริศนาพูดขึ้น ก่อนจะทิ้งท้ายอีกหนึ่งประโยค

     หากในหมู่สิงโตมีกระต่ายปะปนอยู่แล้วไซร้ ไม่มีทางเป็นได้เลยที่กระต่ายตัวนั้นจะเป็นชนชั้นธรรมดาสามัญ นิกซ์เองก็ถือว่าตรงตามหลักข้อนั้น คนที่อยู่รอบกายเขาล้วนแล้วแต่มีความเก่งกาจยากลึกสุดหยั่ง แต่กระนั้นเองก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะด้อยค่าไปกว่าคนอื่นๆ

     

                สิ่งที่นิกซ์มีแต่พวกโนอาห์ไม่มี ในวันนี้มันเริ่มกระจ่างชัดขึ้นมาแล้ว

     

                “ดูเหมือนว่าท่านจะชอบเล่าเรื่องตลกเสียเหลือเกินเลยนะครับ...” นิกซ์ฝืนยิ้มเจื่อน หลังจากผงะไปได้ซักพักใหญ่ ชื่อเสียงของจ้าวมนตราโด่งดังแค่นั้นนิกซ์นั้นรู้ดีไม่แพ้คนอื่นๆ อีกทั้งตอนนี้หนึ่งในนั้นกำลังมายืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับยื่นมือมาช่วยเหลือ นิกซ์คาดว่าคงเก็บเรื่องนี้ไปโม้ได้อีกพักใหญ่ๆ

     

        

         “นักฆ่าคนนั้น...ในตอนนี้คงมีสภาพไม่แตกต่างไปจากเจ้าซักเท่าไหร่ หากจะลงมือก็ควรจะรีบทำโดยเร็วที่สุด” หนึ่งในมหาจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ไม่ตอบคำถามของเด็กหนุ่ม กลับไพล่ไปอีกทางซึ่งนิกซ์เองก็เห็นว่าในตอนนี้ควรจดจ่อไปกับสถานการณ์ตรงหน้าจะดีซะกว่า

     

                เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

     

                โรสแมรี่ที่เริ่มพยุงตัวขึ้นมาได้หรี่ตามองภาพเบื้องหน้าอีกครั้ง หวังเพียงแต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นแค่ความฝัน ถ้าหากชายผมดำคนนั้นพูดความจริง ก็นับว่าในตอนนี้เธอได้สะดุดเข้ากับภูเขาใต้ทะเลเข้าเสียแล้ว และในตอนนี้สิ่งที่เธอควรทำก็คือเร่งส่งข่าวให้หัวหน้าของเธอรู้ เพื่อลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด เจ็ดจ้าวมนตรายามลงมือผลลัพธ์นั้นเป็นยังไงใครต่อใครย่อมรู้ดี ที่สำคัญถ้าคนกลุ่มนี้ไม่ได้มาเพียงแค่หนึ่งก็ยิ่งอันตรายเป็นเท่าทวี

     

                พริบตานั้นหญิงสาวนักฆ่าพลันเบิกตากว้าง เมื่อพบว่าบริเวณรอบๆถูกปกคลุมไปด้วยข่ายเวทระดับสูง ปิดทางหนีของเธอทุกช่องทางไม่มีเหลือ และคนที่เป็นต้นเหตุคงจะมีเพียงหนึ่งเดียวที่ตอนนี้ยังยืนนิ่งเฉยๆไม่ได้ขยับตัวไปไหน จอมเวทในตำนานที่เปรียบได้กับพญามัจจุราชสำหรับกุหลาบที่ใกล้ตายอย่างเธอ

     

                “หวังว่าเจ้าจะฉลาดพอ” โซโลมอนกล่าวเป็นความนัยบางอย่าง ซึ่งมากพอจะให้โรสแมรี่รู้ตัวว่าหากจะตีจากไปได้ก็ต้องชนะนิกซ์ให้ได้ซะก่อน เพราะสิ่งที่โซโลมอนก็เพื่อสอนชายหนุ่มที่พึ่งแพ้เธอไปหมาดๆให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

     

                แต่นั้นก็หมายความว่าถ้าเธอชนะ

     

                ด้วยศักดิ์ศรีของจ้าวแห่งเทพปิศาจ เธอย่อมหนีได้อย่างสะดวกโยธิน

     

                “แล้วท่านจะต้องเสียใจ” โรสแมรี่พูด ถึงเธอจะพึ่งได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อเทียบกันแล้วก็ยังเหนือกว่านิกซ์อยู่หลายขุม หนำซ้ำนักฆ่าสาวยังไม่อยากจะเชื่อว่าแค่การลงมือเพียงไม่กี่ครั้งของโซโลมอน จะทำให้นิกซ์เก่งขึ้นได้ภายในระยะเวลาเช่นนั้น

     

                เวทมนตร์สายอัญเชิญ ระดับ 4 โกเล็มหินผา

     

              ฝ่ายที่เริ่มเปิดฉากก่อนคือนิกซ์ ในตอนนี้มาของเขามากพอที่จะร่ายเวทอัญเชิญระดับกลางได้แล้ว โกเล็มที่มีขนาดตัวเทียบเท่ามนุษย์โผล่ขึ้นมาอยู่ข้างหน้าชายตัวเล็ก ทั่วทั้งล้วนเป็นสีเทา ไร้ซึ่งอาวุธใดๆในมือ มันวิ่งไปหาศัตรูของเป็นผู้เป็นนายในทันที การย่ำเท้าแต่ละครั้งนั้นก่อให้เกิดเสียงสั่นสะเทือน แต่โรสแมรี่ยังคงยิ้มกระหย่อง ถือมีดสั้นคู่ใจด้วยท่วงท่าสบายๆ

     

                “ถ้าเจ้าทำได้แค่นั้น...” เธอเอ่ย “ก็อย่าหาว่าข้ารังแกคนอ่อนแอเลย” ทันใดนั้นเองร่างของมือสังหารพลันอันตรธานหายตัวไปในอากาศ โกเล็มหินผาเมื่อเจอกับสถานการณ์แบบนั้นก็ได้แต่ยืนนิ่ง หันซ้ายมองขวาไปมาเพื่อหาโรสแมรี่ที่ตอนนี้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

     

                เคล็ดวิชาหกบุปผา กระบวนท่าที่ 4  ร้อยรัดสังหาร

     

              โรสแมรี่โผล่ขึ้นมาเป็นภาพเงาลางๆจากทั่วทิศทางรอบๆโกเล็มหิน ชวนให้นิกซ์นึกถึงยอดวิชาพิสดารของโนอาห์ยิ่งนัก ร่างเงาเหล่านั้นเคลื่อนไหวสอดประสานปาดเจ้าจู่โจมโกเล็มอัญเชิญจากทั่วทุกทิศทาง จนแม้แต่สัตว์เวทที่มีร่างกายแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆ ในตอนนี้เริ่มแตกร่วนไปเรื่อยๆ หนำซ้ำยังไม่อาจหาช่องทางโจมตีกลับได้แต่อย่างใด ทำให้พลังโจมตีที่มากเป็นทุนเดิมกลับต้องมาเสียเปล่า

     

                เวทมนตร์ไร้ธาตุ ระดับ 3 จุดยืนพลิกผัน

     

              วงเวทสีขาวโผล่ขึ้นใต้พื้นของนิกซ์และโกเล็มหินผา ทันใดนั้นร่างทั้งสองกลับสลับตำแหน่งกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ จุดที่นิกซ์ยืนอยู่กลายเป็นโกเล็มอัญเชิญยืนแทน จุดที่โกเล็มหินผายืนกลับเป็นนิกซ์ที่โผล่ขึ้นมาแทนที่ โรสแมรี่มองสิ่งที่ชายหนุ่มก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ

     

                มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ทำแบบนี้ ถึงจะรักษาโกเล็มเวทเอาไว้ไม่ได้ แต่การเลือกที่จะมายืนอยู่ในตำแหน่งนี้เท่ากับรนหาที่ตาย ร้อยรัดสังหารเป็นกระบวนท่าที่เน้นการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง การโจมตีแต่ละครั้งแฝงรูปแบบจู่โจมไม่ต่ำกว่าสามรูปแบบ อีกทั้งระดับเธอแค่ลงมีดได้ซักครั้งหนึ่ง ผู้อัญเชิญไม่เจนโลกตรงหน้าคงจะยืนหยัดไม่ไหว จากที่ตอนแรกมือสังหารสาวคิดว่าจะจัดการตัวเกะกะแล้วค่อยปราดไปจัดการนิกซ์ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายยืนคอขึ้นเขียงเองแบบนี้

     

                เธอเองก็ไม่มีอะไรจะพูด นอกจากแสยะยิ้มออกมาหนึ่งคำรบ

     

                เวทมนตร์ไร้ธาตุ ระดับ 2 โล่มนตรา

     

              โล่เวทโปร่งแสงล้อมกรอบนิกซ์เอาไว้ตรงกลาง คล้ายกับโดมแก้วที่คอยป้องกันการโจมตีอันบ้าระห่ำของนักฆ่าที่ผันตัวยุทธวิธีให้ดุดันยิ่งขึ้น การลงดาบแต่ละครั้งของโรสแมรี่รุนแรงและเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว กำแพงเวทเองเมื่อโดนคมมีดจากรอบทิศทางไปมากๆเข้าก็เริ่มส่อแววแห่งหายนะ รอยปริร้าวเริ่มผุดขึ้นมามากพอๆกับปริมาณเม็ดเหงื่อที่ไหลรินอยู่บนใบหน้า เนื่องจากต้องประคองสติอย่างหนักเพื่อรักษาโล่มนตรานี้เอาไว้

     

                “น่าขำ คิดจะใช้ตัวเองเป็นตัวล่อ แล้วค่อยให้เจ้าโกเล็มนั้นตลบหลังล่ะสิ...แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเจ้าจะตายก่อนหน้านั้นแน่” หญิงสาวหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เมื่อมองจากการก้าวเดินของโกเล็มหินที่เชื่องช้าลงเป็นเพราะผลของอาการบาดเจ็บ กับกำแพงมนตราที่เริ่มทานฝีมือเธอเอาไว้ไม่ได้แล้วไซร้ คงถึงเวลาที่เธอจะได้เชยชมรสชาติแห่งชัยชนะแล้ว

     

                ชัยชนะที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×