ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic one piece] รักแบดๆของ my bad boy (All x Robin)

    ลำดับตอนที่ #31 : My bad boy -...★☆ Chapter 24 ☆★ อีกมุมของเอส

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 383
      56
      3 มิ.ย. 63

    My bad boy -...★☆ Chapter 24 ☆★

    บทที่ 24

    อีกมุมของเอส

    ~

    เสียงกริ่งหน้าประตูห้องดังขึ้นในตอนเช้าเหมือนทุก ๆ วัน แต่วันนี้มันออกจะเช้าไปหน่อยนะ ถึงฉันจะตื่นแล้วก็เถอะ นี่มันยังตี 5 อยู่เลยนะ ใครเขามาหาคนอื่นเวลานี้กัน? อย่าบอกนะว่าคนที่มาอยู่หน้าห้องจะเป็น

    ฉันส่องตาแมวหน้าประตูดูทำให้เห็นผู้ชายผมดำที่แสนจะคุ้นเคยยืนรออยู่ที่อีกฝั่งของประตู ฉันเปิดประตูออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้และเขาก็เข้ามาข้างในทันที

    “เธอหายดีแล้วใช่ไหม? ปวดหัวหรือตัวร้อนอีกรึเปล่า?” เขารัวคำถามใส่ฉันพลางใช้หลังมือแตะหน้าผากฉัน สีหน้าเขาก็ดูเป็นกังวลจนฉันเข้าใจได้ดีเลยว่าเขาเป็นห่วงฉันจริง ๆ

    “ฉันไม่เป็นไรแล้วขอบใจนะ” ฉันยิ้มบาง ๆ ให้เขา ตอนแรกก็เคือง ๆ ที่มาซะเช้าแบบนี้ แต่พอเห็นเขาเป็นห่วงแบบนี้ฉันก็นึกขำมากกว่า ทำซะเป็นเรื่องใหญ่ไปได้

    “ก็ดีแล้วล่ะ” เอสถอนหายใจเบา ๆ “เพื่อความมั่นใจว่าเธอหายแล้วจริง ๆ ฉันต้องพิสูจน์หน่อยว่าเธอตัวไม่ร้อน” เอสพูดอย่างจริงจังก่อนจะเข้ามากอดฉันไว้

    “อเอส! อย่างมาอ้างหน่อยเลย” ฉันดันตัวเขาออก แต่อีกฝ่ายก็กอดไม่ยอมปล่อย

    “ช่วยอยู่นิ่ง ๆ แป๊บนึงได้ไหม?” เขาพูดด้วยเสียงเรียบนิ่งต่างจากทุกที ฉันจึงยอมทำตามที่เขาบอก

    แชะ!

    เสียงดังเหมือนตอนกดถ่ายรูปทำให้ฉันดันตัวเขาออกทันที ฉันมองโทรศัพท์ในมือเขาก็สงสัยก่อนเลยว่าเมื่อกี้เขาต้องถ่ายรูปอะไรแน่ ๆ

    “นายถ่ายอะไรน่ะ” ฉันจ้องเขาอย่างจับผิด

    “นี่ไง” เขาหันโทรศัพท์ที่โชว์รูปถ่ายที่เขากำลังกอดฉันมาให้ฉันดู

    “ลบเลยนะ! นายจะถ่ายไว้ทำไม?” ฉันยื่นมือจะไปคว้าโทรศัพท์เขามาแต่เขาก็หลบได้ทัน

    “ก็เก็บไว้ดูเวลาคิดถึงเธอไง~” เขายิ้มร่าจนน่าหมั่นไส้

    “นายมันไว้ใจไม่ได้” ฉันมองเขม่นเขาพลางหาช่องว่างที่จะแย่งโทรศัพท์มา

    “ฉันไม่เอาไปทำร้ายเธอหรอกน่า แค่เก็บไว้ให้ชื่นใจเล่นเท่านั้น” เขาพูดพลางกดโทรศัพท์เหมือนพิมพ์อะไรสักอย่าง เมื่อฉันชะโงกหน้าไปดูก็เห็นเหมือนว่าเขากำลังคุยแชทอยู่ แต่ไม่ทันไรเขาก็เก็บไปซะก่อน

    “นายคุยแชทกับใครน่ะ? สาวที่ไหนรึเปล่า?” ฉันมองเขาอย่างจับผิด

    “เปล่า แชทกลุ่มน่ะ” เขายิ้มให้ฉัน สีหน้าเหมือนกำลังสะใจอะไรสักอย่าง

    “งั้นเหรอแล้วทำไมนายถึงใส่ชุดนอนมาเนี่ย?” ฉันที่สังเกตมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วเอ่ยถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้

    “เอ่อ” เอสก้มมองชุดตัวเองเหมือนเขาเองก็ไม่รู้ตัว “รีบจนลืมเปลี่ยนชุดเลยแฮะ ที่แท้ก็ฝันเหรอเนี่ย?” เอสพูดพลางเกาหัวตัวเองไปด้วย

    …?” ฉันมองเขาอย่างงง ๆ

    “ก็ฉันฝันว่าอยู่ ๆ เธอทรุดป่วยลงกลางดึกน่ะสิ เลยตกใจลุกจากเตียง” เขาพูดประโยคหลังเบาลงอย่างอาย ๆ

    “นายนี่นะ” ฉันหลุดขำเบา ๆ

    “งั้นฉันกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนละกัน แล้วจะรีบกลับมา ทำอาหารเช้าให้ฉันด้วยล่ะ” เอสพูดแกมสั่ง

    “แล้วทำไมนายไม่กินที่บ้านนายล่ะ ที่บ้านนายน่าจะมีแต่ของดี ๆ ให้กินมากกว่าที่นี่นะ”

    “นั่นสินะ งั้นเธอก็ไปกินข้าวเช้าที่บ้านฉันดีกว่า”

    “ไม่ล่ะ ฉันจะรอนายอยู่ที่นี่แหละ”

    “แต่ฉันอยากกินข้าวกับเธอ มาเถอะน่า ครั้งก่อนลูฟี่พาเธอไปบ้านนี่ แต่คราวนี้ไปกับฉัน มันไม่เหมือนกัน คราวนี้ก็ไปฝากตัวกับพ่อฉันไง” เอสพูดหน้าระรื่น

    “พวกนายคิดอะไรกันอยู่นะ” ฉันถอนหายใจเบา ๆ อย่างเหนื่อยใจ เหมือนพี่น้องพวกนี้เล่นอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้

    “ก็คิดจริงจังน่ะสิ” เอสพูดยิ้ม ๆ

    “แต่ฉันคิดว่าพวกนายคงคิดสนุก ๆ มากกว่า” ฉันมองเขานิ่ง ๆ

    “เธอคอยดูไปแล้วกัน ฉันคงไม่บังคับเธอ แต่ฉันจะจีบเธอจนกว่าเธอจะชอบฉันหรือไม่ก็ช่างเถอะ ยังไงเธอก็ต้องไปกับฉัน” เขามองเข้ามาในตาฉันด้วยแววตาจริงจัง ก่อนจะเปลี่ยนประเด็นอย่างดูลำบากใจที่พูดต่อ

    …?” ฉันเลิกคิ้วมองเขา ก่อนจะตอบกลับไป “งั้นรอฉันก่อนแล้วกัน ฉันก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย” ฉันยอมตามใจเขาเพราะยังไงก็คงเลี่ยงไม่ได้

    “โอเค แต่งตัวสวย ๆ เลยนะ” เขายิ้มทะเล้น เห็นแล้วหมั่นไส้จริง ๆ แต่ฉันก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินเข้าไปในห้อง

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากเอสกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่บ้านเสร็จ ฉันก็มานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับครอบครัวเขาเหมือนที่เคยมาร่วมโต๊ะแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ฉันต้องเปลี่ยนที่มานั่งข้างเอสแทน ซึ่งใช้เวลาไม่นานทุกคนก็ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย

    “หนูโรบินนี่เก่งจังเลยนะ ทำยังไงถึงทำให้เจ้าเอสมันตกหลุมรักขนาดนี้ได้” คุณโรเจอร์ที่นั่งข้างเอสพูดก่อนจะหัวเราะชอบใจ

    “เอ่อฉันไม่ได้ทำอะไรนะคะ” ฉันหัวเราะแห้ง ๆ อย่างทำตัวไม่ถูก

    “นั่นสิ ๆ เจ้าลูฟี่เองก็ดูจะชอบหนูโรบินมากเหมือนกัน ปกติไม่เห็นจะสนใจผู้หญิงเลย” คุณดราก้อนพูดขึ้นอย่างขำ ๆ ทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่ได้ยินที่ฉันพูดด้วยซ้ำ

    “ก็ฉันถูกชะตานี่นา ฉันชอบโรบินน่ะ” ลูฟี่พูดพลางยิ้มกว้าง “ฉันรู้สึกว่าโรบินจะต้องคอยซัพพอร์ตฉันได้แน่เลย ไม่ว่าฉันจะทำอะไร และคงหัวเราะได้แม้ว่าฉันจะทำอะไรแปลก ๆ โรบินน่ะใจดีกับฉันเสมอเลย” พูดจบอีกฝ่ายก็หัวเราะร่า จะว่าไปเหมือนโดนสารภาพรักรึเปล่านะ?

    “ไม่เห็นเธอจะใจดีกับฉันบ้างเลยนะ” เอสหันมาพูดกับฉัน

    “ก็ฉันเอ็นดูลูฟี่มากกว่านายนี่นา เขาน่ารักดีออกนะ” ฉันตอบแล้วหัวเราะเบา ๆ

    “เธอไม่รู้อะไร หมอนี่ร้ายกว่าที่เธอคิดนะ วงฉันไม่มีคนดี ๆ แบบคนปกติหรอกนะ” ฉันมองอีกฝ่ายอย่างตั้งใจเพื่อคิดตามว่าจะจริงรึเปล่า เพราะฉันว่าอย่างลูฟี่กับซาโบก็ถือว่าเป็นคนดีอยู่นะ

    “พูดแบบนี้ได้ยังไงกันเอส -*-” ลูฟี่ทำหน้าบึ้งอย่างงอน ๆ “แล้วทีนายล่ะ รูปที่ส่งมาคืออะไร นายนั่นแหละที่ร้าย” เขาว่าอีกฝ่ายต่ออย่างไม่พอใจ แต่ฉันดูแล้วเหมือนเด็กกำลังชวนทะเลาะมากกว่าและมันก็ดูน่ารักเกินกว่าจะเรียกว่าทะเลาะกัน

    “ลูฟี่! ชู่ววว” เอสเอานิ้วชี้แตะปากแล้วส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายเงียบ

    “พูดเรื่องอะไรกันเหรอ?” คุณโรเจอร์ถามขึ้น ซึ่งฉันเองก็สงสัยเหมือนกัน ทำตัวมีความลับแบบนี้ รูปที่ว่าคืออะไรกัน?

    “ฉันรู้มาว่ารางวัลของคนที่ชนะแข่งรถวันนี้เป็นรถราคาแพงที่แรงและเท่ที่สุดเลยล่ะ” ลูฟี่เปลี่ยนเรื่องคุยกับเอสทันที ใบหน้าเขาเหงื่อแตกอย่างชัดเจน ดูยังไงก็จงใจทำกลบเกลื่อนชัด ๆ

    “จริงเหรอ?! หรือจะเป็นที่ฉันหมายตาไว้?” เอสดูจะสนใจที่อีกฝ่ายพูดขึ้นมาจริง ๆ

    “ใช่ ฉันก็อยากจะลงแข่งนะ แต่ติดงานนี่สิ เอสนายว่างนี่ ไปสิ ถ้าได้มาก็แบ่งฉันขับด้วยนะ” ลูฟี่คะยั้นคะยอและยิ้มอย่างคาดหวัง

    “ฉันต้องชนะให้ได้ แต่ไม่ให้นายขับหรอกนะ มีหวังรถพังเร็วพอดี” เอสมองลูฟี่อย่างคาดโทษเหมือนเขาเคยทำคดีอะไรไว้

    “เอสสสสส ขี้งก!” ลูฟี่ทำหน้าบึ้งใส่เอสอีกครั้ง

    “เอส” ฉันสะกิดแขนเอสแล้วมองหน้าเขาเพื่อช่วยขอความเห็นใจแทนลูฟี่

    “ไม่!” เอสกอดอกและยืนยันคำเดิม

    “ฉันจะเอาใจนายเป็นพิเศษ 1 วัน” ฉันกระซิบข้อเสนอกับเขา

    “ก็ได้!” เอสรีบพูดขึ้นทันที

    “จริงเหรอ? เย้!” ลูฟี่ชูมือขึ้นอย่างดีใจ “แล้วเมื่อกี้พวกนายกระซิบอะไรกันเหรอ?

    “ไม่มีอะไรหรอก” เอสฉีกยิ้ม ฉันล่ะไม่ชอบรอยยิ้มนั้นเลย

    “งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ” ลูฟี่พูดแล้วลุกไปจากโต๊ะ

    “โชคดีนะลูฟี่” คุณพ่อทั้งสองพูดพร้อมกัน

    “ฉันก็ไปดีกว่า แข่งช่วงสายนี่นะ” เอสพูดแล้วลุกขึ้นบ้าง ฉันจึงลุกตาม

    “งั้นพ่อไปด้วย พ่อจะไปดูแข่งด้วย” คุณโรเจอร์ลุกขึ้นตามอีกคน

    “ทำไมต้องไปกับพ่อด้วยเล่า” เอสพูดอย่างไม่เต็มใจจะให้ไป “ถ้าพวกนั้นกลัวพ่อจนอ่อนให้ฉันล่ะ?

    “ไม่หรอกน่า หรือจะให้โทรเรียกการ์ปไปด้วยดีล่ะ” คุณโรเจอร์พูดขู่

    “มีหวังปู่เอาทหารไปปิดสนามแข่งกันพอดี ไปก็ไป!” เอสขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด แล้วเดินนำไป

    “ไปกันเถอะ หนูโรบิน” คุณโรเจอร์ยิ้มให้ฉัน ฉันก็ยิ้มตอบเขา นาน ๆ ทีจะได้เห็นเอสโดนขู่ซะบ้าง

     

     

     

     

     

     

     

    พวกฉันมาถึงที่สนามแข่งราว ๆ หนึ่งชั่วโมง เมื่อมาถึงที่พ่อของเอสก็แยกไปอีกทาง ฉันกับเอสเดินไปโซนสำหรับพวกนักแข่งด้วยกัน ฉันมองไปรอบ ๆ ที่เต็มไปด้วยพวกนอกกฎหมาย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเอสไม่อยากให้ปู่ของเขามา

    ฉันยืนรอเอสที่กำลังลงสมัครเข้าแข่งอยู่ข้าง ๆ ฉันรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่จึงหันไปมองทำให้สบตากับชายคนหนึ่งพอดี เขายิ้มให้ฉัน แต่ฉันรู้สึกแปลก ๆ จึงหันหน้าหนี ก่อนจะเห็นว่าผู้ชายคนอื่นก็มองฉันเหมือนกัน จนเริ่มสงสัยแล้วว่าฉันมีอะไรแปลกรึไง ฉันพยายามมองสำรวจตัวเองแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เสื้อผ้าฉันก็ใส่เดรสสั้นปกติที่ใส่เป็นประจำ

    “ไปกันเถอะ” เอสพูดขึ้นหลังจากสมัครเสร็จ เขาโอบไหล่ฉันแล้วเดินไป ฉันที่กำลังจะปัดมือเขาออกก็หยุดมือตัวเองไว้เพราะคำสัญญาที่แลกเปลี่ยนกับเขาไป วันนี้ฉันจะตามใจเขาหนึ่งวัน

    เอสสำรวจรถแข่งของเขาที่ให้คนเตรียมไว้ให้ เขาเช็คความพร้อมอย่างรอบคอบและเรียบร้อยดีทุกอย่าง

    “เธอกลัวความเร็วรึเปล่า?” เขาหันมามองฉันและถามเสียงเรียบ

    “ไม่กลัว...ถามทำไม?” ฉันมองเขาอย่างสงสัย

    “เธอต้องนั่งรถกับฉันตอนแข่ง...” เขาสบตาฉันกลับนิ่ง ๆ บ่งบอกว่าเขาเอาจริง

    “หมายความว่านายจะให้ฉันตัวติดกับนายตลอด แม้แต่ตอนแข่งน่ะเหรอ แบบนั้นมันได้ที่ไหนล่ะ?” ฉันขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจความคิดของเขา ทำแบบนั่นมันจะผิดกฎรึเปล่า?

    “ได้สิ ตามกฎของที่นี่เขาอนุญาตให้ผู้หญิงนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถด้วยอยู่แล้ว” เขายังคงตอบด้วยหน้านิ่ง ๆ เหมือนกับไม่พอใจอะไรอยู่ เพราะปกติเขาน่าจะพูดเรื่องแบบนี้อย่างร่าเริงกว่านี้

    “ฉันอยากดูการแข่งนี่ ฉันว่าฉันดูจากข้างสนามน่าจะเห็นชัดกว่านะ...” ฉันพยายามจะพูดขอเขาดี ๆ แต่อีกฝ่ายก็พูดขึ้นมาซะก่อน

    “ที่ฉันให้เธออยู่ในรถกับฉันก็เพื่อกันหมาที่จ้องจะคาบเธอไปตอนฉันเผลอน่ะสิ” เอสขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด เขาน่าจะสังเกตเห็นเหมือนฉันแน่ ๆ

    “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ...นายไม่เห็นจะต้องหงุดหงิดเลยนี่” ฉันเข้าใจเรื่องที่ต้องเข้าไปในรถกับเขาแล้ว เพราะคนพวกนั้นอันตราย รับประกันไม่ได้ว่าฉันจะปกป้องตัวเองรอด แต่เรื่องที่เขาดูหงุดหงิดนี่สิ ทำไมต้องดูหงุดหงิดขนาดนี้ ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย พวกนั้นก็แต่มองเอง

    “มันผิดที่เธอน่าดึงดูดนั่นแหละ ดันน่ามองขนาดนั้น พวกบ้านั่นก็เลยเชยชมกันเต็มที่” เขาบ่นอย่างหงุดหงิด

    “เอ่อ...” ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก เป็นการโดนว่าที่ไม่เจ็บเลยสักนิด รู้สึกผิดแต่ก็รู้สึกดี นี่มันอะไรเนี่ย?!

    “เฮ้อ...ดันหัวร้อนก่อนแข่งซะได้” เอสถอนหายใจแล้วบ่นกับตัวเอง

    “จะแข่งให้ชนะก็ต้องมีสติให้มาก ๆ นะ” ฉันพยายามจะพูดอะไรสักอย่างให้เขาเปลี่ยนอารมณ์ แต่ดูจะไม่เป็นผล

    ...” ฉันมองเขาที่ยังดูไม่สบายใจอยู่ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเขาไว้ เอสมองฉันอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังจะทำ

    “พวกนั้นทำได้แค่มอง...” ฉันจับมือเอสมาแนบแก้มตัวเองไว้ “แต่นายสัมผัสฉันได้...” ฉันยิ้มบาง ๆ ให้เขา

    ...” เอสมองฉันเหมือนจะอึ้งไป ก่อนจะค่อย ๆ ยิ้มออกมา

    “ไปกันเถอะ เมื่อกี้ฉันได้ยินประกาศเรียกตัวนักแข่งให้ไปรอที่สนามแล้วนะ” ฉันปล่อยมือเขาออกแล้วยิ้มบาง ๆ

    “วันนี้ฉันต้องทำลายสถิติใหม่แน่ ๆ” เขาหัวเราะร่าพลางเปิดประตูรถออกให้ฉันเข้าไป

    “ถ้าไม่ชนะก็แสดงว่านายไม่ได้เรื่องน่ะสิ” ฉันหัวเราะเบา ๆ แล้วเข้าไปนั่งในรถ ก่อนเขาจะเข้าประจำที่แล้วขับรถออกไป

    รถแข่งทั้งหมด 8 คันเข้าประจำที่ที่จุดสตาร์ท เสียงกรี๊ดเสียงปรบมือจากข้างสนามดังสนั่น ทุกคนดูสัญญาณแข่งที่กำลังจะปล่อยให้ออกตัว ทุกคันเตรียมเร่งเครื่อง เมื่อได้สัญญาณรถที่ฉันนั่งกับเอสก็พุ่งตัวออกไปเป็นคันแรก เอสเหยียบคันเร่งขึ้นเรื่อย ๆ เขาเข้าโค้งได้อย่างสวยงามแม้รถจะพุ่งไปด้วยความเร็วสูงก็ตาม

    สนามแข่งนี้กว้างพอสมควรและมีทางให้ขับไปได้มากกว่าทางเดียว มีทางที่อันตรายให้เลือกไป ถ้าขับดีก็จะทำให้ถึงเร็วขึ้น แต่ถ้าพลาดก็อาจทำให้ตกอันดับไปคันท้าย ๆ ได้เลย แต่เอสก็ดูจะตาไวและชำนาญสนามดี เขาเลือกไปทางที่ใกล้ที่สุด เอสขับขึ้นทางลาดสูงก่อนรถจะเหินฟ้าแล้วลงสู่พื้น ทันทีที่ถึงพื้นถนนเขาก็เหยียบเร่งเข้าเส้นชัยไปทันที

    ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ถึงฉันจะไม่ได้กลัว แต่ก็รู้สึกระทึกใจอยู่บ้าง เหมือนมาออกรบก็ไม่ผิด ฉันเกร็งจนจับข้างประตูรถไว้แน่น คนข้าง ๆ หันมามองฉันและยิ้มอย่างดีใจ แต่ฉันนี่สิถึงจะดีใจแต่ก็ยิ้มไม่ออก

    “ชนะแล้ว!” เขาจับมือทั้งสองข้างของฉันไปแล้วยิ้มตาหยี

    “ดีใจด้วยนะ” ฉันยิ้มแห้ง ๆให้เขา

    “เดี๋ยวฉันจะไปรับรางวัล” เอสพูดด้วยความดีใจ ที่เขาดีใจคงไม่ใช่แค่เพราะชนะหรอก คงอยากได้รถนั่นแหละ

    “เดี๋ยวฉันจะรอในรถ” ฉันพูดแทรกขึ้นทันที “จะได้ไม่มีใครมองฉันไง ดีไหม?” ฉันยิ้มให้เขา จริง ๆ ก็แค่ไม่อยากออกไปเป็นจุดเด่น

    “ดีเลย สมกับเป็นผู้หญิงของฉัน” เขาลูบหัวฉันเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไป แต่ฉันไปเป็นผู้หญิงของเขาตอนไหนเนี่ย ยังไงก็เถอะวันนี้ฉันจะยอมเอาใจเขาสักวัน เพราะเห็นแก่ความน่ารักของลูฟี่(?)

    เอสขึ้นไปรับรางวัลตามพิธีการของที่นี่ เมื่อรับรางวัลอะไรเสร็จ เขาก็โดนรุมล้อมไปด้วยพวกผู้หญิงที่เข้ามาหา ฉันมองภาพนั้นอย่างลังเลว่าควรจะไปลากตัวเขาออกมาดีไหม? แต่ฉันก็ไม่อยากไปยุ่งกับใครด้วยสิเลยนั่งเท้าคางกับขอบประตูรถและมองไปที่เขาพลางแผ่รังสีอำมหิต ดูสิว่าจะสนใจยัยผู้หญิงพวกนั้นไหม?

    “ขอโทษทีนะ ฉันรีบ” เอสรีบปัดมือคนที่มาเกาะแขนเขาออกเมื่อเห็นฉันที่มองไปที่เขา

    เอสสลัดตัวเองออกจากผู้หญิงพวกนั้นแล้วรีบเดินเร็ว ๆ เข้ามาในรถ เขาขับรถกลับไปจอดที่เดิม ก่อนจะส่งกุญแจให้คนดูแลรถของเขา

    “ร...โรบิน” เขาเดินมาหาฉันที่รีบลงมาจากรถ เธออย่ามองฉันดุ ๆ แบบนั้นสิเอสยิ้มแหย ๆ

    “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมองแบบนั้นสักหน่อย” ฉันก็สงสัยตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกหมั่นไส้แบบนี้เนี่ย

    “เธอไม่ได้โกรธฉันใช่ไหม?” เขามองฉันอย่างเกร็ง ๆ

    “ฉันไม่ได้โกรธนายหรอก นี่นายกำลังทำให้ฉันสงสารนะ” ฉันมองเขาแล้วหัวเราะเบา ๆ เขานี่ก็น่ารักเหมือนกันนะ เหมือนเด็กที่โดนโกรธแล้วรู้สึกผิดเลย

    “งั้นเหรอ?…” เขาทำหน้าเหวออย่างงง ๆ

    “แล้วรถใหม่นายล่ะ?” ฉันชวนเขาเปลี่ยนเรื่อง

    “งั้นเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเลี้ยงชัยชนะของฉัน มาสิ” เขายิ้มอย่างร่าเริงก่อนจะเดินนำไป

     

     

     

     

     

     

     

     

    เอสขับรถคันใหม่ของเขาออกมาจากสนามแข่งแล้วทิ้งคุณพ่อของเขาให้กลับกับรถที่นั่งไปในตอนแรก รถคันสีดำลายแดงสไตล์รถแข่งขับมาตามถนนใกล้ชายหาด ก่อนจะจอดลงที่สำหรับจอดรถของนักท่องเที่ยว ถึงตอนนี้จะเที่ยงแล้ว แต่ก็แทบจะไม่มีแดดเลย

    “เธอนั่งรอตรงนี้นะ เดี๋ยวฉันไปสั่งอาหารมาให้” เขาพาฉันมานั่งที่โต๊ะริมชายหาด

    “นายนั่นแหละนั่งรอ เดี๋ยวฉันจะไปสั่งให้เอง นายอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหมล่ะ?” ฉันจับไหล่เขาให้นั่งลง

    “ฉันไปช่วยถือดีกว่านะ” เขาลุกขึ้นมาอีกแล้วจับมือฉันพาไปร้านขายอาหารริมหาด

    เราช่วยกันยกอาหารที่ซื้อมาวางบนโต๊ะจนเต็ม ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารของเอส เพราะเขาเองก็กินจุไม่ต่างกับลูฟี่ ฉันกับเขานั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะเริ่มลงมือทานอาหาร

    “ทะเลที่นี่สวยนะ” ฉันว่าพลางมองไปที่ทะเล

    “ใช่ สวย” เขาพูดพลางมองมาที่ฉัน

    “สวยก็มองทะเลสิ จะมองฉันทำไม?” ฉันมองเขากลับ

    “นนั่นสินะ” เขาหันไปมองทะเลอย่างลนลาน

    “เอส” ฉันเรียกเขา ทำให้เขาหันมามองทันที “กินสิ” ฉันป้อนกุ้งชุบแป้งทอดให้เขา

    …?” เขามองอย่างงง ๆ ก่อนจะกินเข้าไป เธอมาแปลกนะเนี่ย?” เขาพูดทั้งที่อาหารยังอยู่ในปาก

    “กลืนก่อนสิ” ฉันใช้กระดาษทิชชูปิดปากเขา “ฉันทำตามสัญญาไงอีกอย่างวันนี้นายก็เป็นเด็กดี” ฉันยิ้มบาง ๆ

    “งั้นเหรอ?” เอสกลืนอาหารลงไปแล้วพูดขึ้น “ถ้าเธอใจดีกับฉันแบบนี้ ฉันก็อยากจะเป็นแบบลูฟี่แล้วสิ”

    “ไม่ต้องหรอก คงไม่เข้าเท่าไหร่” ฉันยิ้มขำ ๆ

    “แล้วทำยังไงเธอถึงจะใจดีด้วยล่ะ” เขารีบกินเข้าไปแล้วกลืนเพื่อจะได้ถามต่อ

    “ไม่ต้องทำอะไรหรอก เพราะฉันคงไม่ใจดีกับนายบ่อย ๆ พิเศษแค่วันนี้เท่านั้นแหละ ชดเชยที่เคยผิดสัญญานายด้วย” ตอนเจอกันแรก ๆ ที่คอนเสิร์ตฉันเคยบอกว่าจะรอเขาอยู่ในห้อง แต่ก็ผิดสัญญาอย่างตั้งใจ พอเจอกันอีกครั้ง เขาเลยหาว่าฉันผิดสัญญา ฉันนึกเรื่องนี้ได้พอดีจึงถือโอกาสนี้รวบยอดไปเลย

    “จะว่าไปก็ใช่ งั้นต้องชดเชยเยอะ ๆ หน่อยแล้วล่ะ” เขายิ้มมุมปาก ก่อนจะกินต่อ

     

     

     

     

     

    ช่วงบ่าย ๆ ที่น่าจะมีแดดแต่กลับมืดกว่าปกติ เมฆฝนเริ่มก่อตัว ฉันกับเอสจึงกลับเข้ามานั่งในรถ เขาลังเลว่าจะไปไหนต่อดี เพราะวันนี้เขาก็ว่างทั้งวัน จนกระทั่งฝนเริ่มตกลงมา

    ~

    เสียงโทรศัพท์ของเอสที่วางไว้ตรงคอนโซลรถดังขึ้นเรียกความสนใจของฉันให้ชะโงกไปมองเบอร์ที่จอโทรศัพท์ ก่อนฉันจะเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายพอดี

    “ขอโทษฉันนึกว่าโทรศัพท์ตัวเอง” ฉันยิ้มแห้ง ๆ แก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ

    ฉันไม่ว่าอะไรหรอก ถ้าเธอจะซ้อมเป็นแฟนฉันด้วยการเช็คโทรศัพท์เขายิ้มมุมปากแล้วยักคิ้วกวน

    บ้า ไม่รับโทรศัพท์รึไง?” ฉันหันไปมองทางอื่น พอโดนเขายักคิ้วใส่ฉันก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมา ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ

    “โทรศัพท์มันเงียบไปแล้ว” เขาพูดเบา ๆ พลางจับปลายคางฉันให้หันไปหาเขา “ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว วันนี้ฉันขออะไรสักอย่างได้ไหม” เขาพูดพลางมองเข้ามาในตาของฉัน

    “ออะไร?” ฉันมองเขาด้วยความประหม่า

    “ขอทำตามใจตัวเอง” เขาพูดก่อนจะขยับหน้ามาใกล้ฉันมากขึ้น

    “ดเดี๋ยวสิเอส!” ฉันขยับถอยไปจนหลังติดประตูรถ ชั่วขณะหนึ่งในใจฉันมันกำลังเถียงกัน มันไม่ได้ปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง

    “โรบิน ฉันชอบเธอแม้กระทั่งชื่อนั่นแหละ” เขาขยับตัวจากที่นั่งคนขับมาหาฉัน ฝ่ามือหนาจับประคองหน้าฉัน ก่อนจะประกบริมฝีปากตามมา

    ” ฉันเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ ตัวฉันไม่ขยับแม้แต่จะขัดขืน จนกระทั่งเขาเริ่มสอดลิ้นเข้ามา มือฉันผลักตัวเขาออกโดยอัตโนมัติ

    ขอโทษนะ” เขามองฉันอย่างรู้สึกผิดขึ้นมา

    นั่นสินะฉันเกือบลืมไปแล้วว่าเขาเองก็เป็นเสือผู้หญิง จะทำแบบนี้ก็ไม่แปลกฉันไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง จะว่าโกรธก็ไม่เชิง แต่มันสบสน

    “ออื้อ” ฉันพนักหน้ารับแล้วหันไปทางอื่น

    ~

    “ครับ?” เอสยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู “จะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” เขาวางสายไปหลังจากคุยได้ไม่นาน

    “มีประชุมวงน่ะ” เขาหันมาบอกฉันก่อนจะขับรถออกไป

    ตั้งสติสิโรบิน ก็แค่จูบเองนะ…’



    ☆★☆★

    แต่งไปแต่งมา มันก็ยาวไปเอง 

    ตอนแรกว่าจะอัพเมื่อวาน สรุปยาวเกินแต่งไม่จบ 555+

    ไรท์จะเข้ามาแก้คำผิดตอนอื่น ๆ รวมถึงตอนนี้เรื่อย ๆ ตามสะดวก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×