คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : My bad boy -...★☆ Chapter 22 ☆★ แพ้ทาง
My bad boy -...★☆ Chapter 22 ☆★
บทที่ 22
แพ้ทาง
“ข้อมูลใหม่ ๆ
ก็พอจะได้มาบ้างค่ะ แต่ก็ไม่เยอะเท่าที่ควร
มีหลายเรื่องที่ฉันยังสงสัยและหาคำตอบไม่ได้” ฉันออกมาคุยโทรศัพท์นอกห้องอัดเสียงระหว่างที่รอซาโบอัดเพลงใหม่ของเขาอยู่
〔ก็ยังดี
เข้าบริษัทมารายงานฉันพร้อมหลักฐานด้วย〕 บอสที่อยู่ปลายสายตอบกลับมา
“เรื่องนั้น...ไว้ทีหลังได้ไหมคะ?”
ตอนนี้ฉันลังเลอย่างบอกไม่ถูก บางทีฉันก็รู้สึกว่าไม่อยากจะแฉพวกเขาเลย
ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เหมือนรู้สึกสำนึกถูกผิดขึ้นมา
〔แต่นี่มันก็นานแล้วนะ〕 บอสพูดด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ
“ฉันเข้าใจนะคะว่าบอสคิดถึง
แต่ก็ช่วยรออีกสักสัปดาห์นะคะ หรือไม่ก็จนกว่าฉันจะเคลียร์ปัญหาได้”
ฉันพูดแหย่บอสไป เพราะทำแบบนี้ทีไร ความซีเรียสจะลดลงนิดหน่อย(?)
〔พูดอะไรของเธอ เฮ้อ...แล้วแต่ละกัน
อย่านานนักล่ะ〕 เขาพูดจบกตัดสายไปทันที
ไม่ปล่อยให้ฉันได้แซวต่ออีกหน่อยเลย
“บอสนี่นะ จะว่าไปก็ไม่เจอบอสนานแล้วเหมือนกัน...”
ฉันมองโทรศัพท์แล้วอมยิ้ม
ฉันเดินเข้าไปในห้องอัดเสียง
ซึ่งพอจบประโยคที่ซาโบร้องอยู่ การอัดเสียงก็จบพอดี
ซาโบเดินออกจากห้องอัดเสียงมาและเอ่ยขอบคุณพวกทีมงานก่อนจะเดินมาหาฉัน
“ฉันหิวแล้วล่ะ”
เขาพูดพลางทำหน้าตาใสซื่อใส่ฉัน มันดูน่ารักน่าหมั่นไส้ยังไงก็ไม่รู้
“งั้นออกไปหาอะไรกินกัน”
ฉันยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องอัดเสียง
“เธอเลือกเลยอยากไปที่ไหน”
ซาโบพูดในขณะที่เดินไปตามทางพร้อมกัน
“ตามใจนายดีกว่า
นายเป็นคนหิวนี่” ฉันถามพลางหันไปมอง
“งั้นไปร้านคนรู้จักฉันดีกว่า”
เขาหันมามองฉันเมื่อนึกที่หมายออก
“แล้วนี่ไม่มีงานตอนเย็นแล้วใช่ไหม?”
ฉันถามเพื่อความแน่ใจ ถึงจะเช็คตารางงานเขามาก่อนแล้ว
“ไม่มีแล้ว”
เขายิ้มกว้างจนฉันอยากจะดึงแก้มเขาด้วยความหมั่นไส้
ซาโบขับรถมาจอดที่ท่าเรือ เขาเดินนำฉันไปตรงท่าเรือและเช่าเรือสปีดโบ๊ทมาลำหนึ่ง
หลังจากเขาเดินลงไปในเรือก็ส่งมือมาให้ฉันจับและลงตามไป
ซาโบขับเรือออกไปด้วยความเร็วอย่างชำนาญ
“ร้านอาหารลอยทะเลเหรอ?”
ฉันไปยืนข้างหลังเขาและถามขึ้นอย่างคาดเดาเพราะอาจเป็นร้านที่ฉันรู้จัก
“ใช่ เป็นร้านที่มีชื่อเลยล่ะ” ซาโบตอบพลางมองไปที่ทะเลเบื้องหน้า
“ทะเลกว้างมากเลยนะ”
ฉันมองตามเขาพลางพูดขึ้นแล้วยิ้มบาง ๆ
“กลัวรึเปล่า?” เขาถามขึ้นเล่น ๆ แล้วหัวเราะเบา
ๆ
“จริง ๆ มันก็น่ากลัวนะ
แต่เราต้องมองข้ามอะไรบางอย่างไป” ฉันตอบตามที่คิดจริง ๆ
ถ้าเราอยู่คนเดียวในที่ที่กว้างและมีแต่อันตราย ตกลงไปก็ตาย มันก็น่ากลัวเหมือนกัน
“...” ซาโบใช้มือข้างหนึ่งจับมือฉันไว้
“เธอมีฉันนะ ไม่ต้องกลัวหรอก”
“...” ฉันก้มมองมือที่เขาจับไว้
ก่อนจะเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มบาง ๆ ฉันรู้สึกได้ว่าหัวใจมันกำลังเต้นแรง
ทำไมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกแบบนี้นะ
“ถึงแล้วล่ะ” เขาพูดพลางเอาเรือเข้าเทียบท่าแล้วก้าวขึ้นจากเรือ
ก่อนจับมือฉันและพยุงให้ขึ้นตามเขาไป
“ขอบใจนะ” ฉันพูดพลังจากขึ้นจากเรือแล้ว
“อยู่ที่นี่ก่อนนะ” เขาพูดแล้วเดินไปที่หลังร้าน
ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนรองง ๆ อยู่ที่เดิม
ฉันมือมองไปรอบ ๆ ที่นี่ลมพัดตลอด มีคลื่นเล็ก ๆ
เรื่อย ๆ น้ำทะเลก็ใส ตัวร้านก็ดูดี มีกระจกใสติดอยู่ทั้งสามด้านของร้าน
ทำให้ชมบรรยากาศภายนอกได้
“ทางนี้
โรบิน” ซาโบกวักมือเรียกฉันจากหลังร้าน
ท่าทางกวักมือที่ทำให้ฉันนึกถึงแมวกวักนั่น(?) ทำไมดูน่ารักขนาดนี้
ฉันเดินไปที่หลังร้านตามที่เขาเรียกก็พบกับบรรยากาศที่ดูเป็นส่วนตัวเหมือนเขามาจัดเตรียมไว้
มีโต๊ะที่ถูกปูผ้าอย่างดีกับเก้าอี้สองตัว บนโต๊ะมีเทียนและแจกันดอกไม้อยู่ อาหารถูกจัดวางจนเต็มโต๊ะในเวลาไม่นาน
มองไปด้านข้างก็จะเห็นทะเลได้ชัดเจน
“เชิญเลย” ซาโบเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่งลง
ก่อนเขาจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม
“อาหารเยอะขนาดนี้ทำไมเร็วจัง?” ฉันมองไปที่อีกฝ่าย
“ฉันมาที่นี่บ่อย เลยมีเส้นนิดหน่อยน่ะ”
เขาตอบและยิ้มให้ฉัน
“ใช้เส้นนะเรา” ฉันยิ้มแซว ๆ เขา
“จริง ๆ ฉันโทรสั่งล่วงหน้าแล้วน่ะ”
เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะรินไวน์ใส่แก้วให้ฉัน “ฉันพอจะสนิทกับหัวหน้าเชฟที่นี่อยู่บ้าง”
“แอบโทรตอนไหนเนี่ย?...ขอบคุณนะ”
ฉันมองอีกฝ่ายที่รินไวน์ให้พลางยิ้มบาง ๆ
“ตอนไปเช่าเรือนั่นแหละ ^^”
ซาโบยิ้มก่อนจะหันไปมองทางทะเลที่เริ่มมืดแล้วจึงจุดไฟที่เทียน
“งั้นเหรอ...หิวไม่ใช่เหรอ
เดี๋ยวอาหารก็ชืดหมดหรอก” ฉันยิ้มบาง ๆ มองอีกฝ่ายที่ดูใจเย็นต่างจากตอนที่มาบอกฉันว่าหิวในตอนแรก
“ฮะ ๆ นั่นสินะ กินละนะ” ซาโบพูดก่อนจะลงมือทาน
เราเริ่มลงมือทานอาหารตรงหน้าซึ่งทุกอย่างล้วนอร่อยและเป็นเอกลักษณ์มาก
ซาโบเองก็คอยตักอาหารแต่ละอย่างใส่จานฉันราวกับกลัวฉันจะกินไม่อิ่ม หลังจากทานไปได้สักพักซาโบก็รวบช้อนแล้วมานั่งมองฉันพลางจิบไวน์เพลิน
ๆ
“ไม่กินแล้วเหรอ?” ฉันมองเขาอย่างแปลกใจ
ปกติพวกสามพี่น้องเอส ซาโบ ลูฟี่จะกินเยอะไม่แพ้กันแท้ ๆ
“อิ่มแล้วล่ะ” เขายิ้มให้
“กินน้อยจัง เดี๋ยวผอมนะ” ฉันพูดหลังจากกินอาหารในจานหมด
“ปกติฉันก็หุ่นแบบนี้อยู่แล้ว”
เขาหัวเราะเบา ๆ
“จะผอมจนซิกแพคหายเลยนะ มา ฉันป้อนให้”
ฉันพูดราวกับจะโน้มน้าวใจเด็ก ในสายตาฉันเขาก็น่าเอ็นดูไม่ต่างกับลูฟี่
“ใครบอก...”
เขาลุกขึ้นยืนแล้วถอดเสื้อโค้ทกับเสื้อกั๊กออก
ตามด้วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกและเปิดให้เห็นซิกแพคที่เรียงตัวกันสวยอย่างคนสุขภาพดีให้ฉันดู
“เดี๋ยวสิ...-///- ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้”
ฉันอยากยกมือขึ้นปิดปาก แต่ทำได้แค่หันหน้าที่แดงก่ำหนีไปทางอื่นเพื่อรักษาภาพพจน์
อยู่ ๆ เขาก็ทำอะไรแบบนี้...ไม่คิดเลยว่าซาโบจะเป็นคนแบบนี้(?)
“ก็กลัวเธอไม่เชื่อนี่” ซาโบยิ้มมุมปาก
มือหนาแตะบนโต๊ะและยื่นหน้ามาใกล้ฉันอย่างตั้งใจแกล้ง
ก่อนจะถอยออกไปจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย
“คนบ้า...” ฉันบ่นพึมพำด้วยความเขิน
“เธอไม่ต้องห่วงฉันหรอก” เขาหัวเราะเบา ๆ
“ฉันไม่ห่วงคนขี้แกล้งหรอก”
ฉันเบือนหน้าหนีเพราะยังเขินไม่หาย
“ไม่ห่วง แต่หวงใช่ไหม” เขายิ้มมุมปากใส่ฉัน
“ซาโบ!” เพราะเขาอยู่ในระยะของแขนฉัน
ฉันเลยตีแขนเขาด้วยความเขินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ฮ่า ๆ” เขาหัวเราะอย่างชอบใจ “ฉันเจ็บนะ”
เขาส่งสายตาอ้อน ๆ พลางรูปแขนป้อย ๆ
“ไม่พูดด้วยแล้ว” ฉันทำหน้าบึ้งแก้เขิน
เพราะไม่รู้จะเอาความเขินไปเก็บที่ไหน
“ไม่งอนสิ” เขามองและหัวเราะเบา ๆ
“ไม่ได้งอนเลยสักนิด” ฉันแอบเบ้ปาก
“จริง?” เขาเอามือมาแตะแก้มฉันแล้วยิ้มอ่อนโยนให้
เขาไม่รู้รึไงว่ามันเป็นจุดอ่อนฉันเลย รอยยิ้มของเขาเนี่ย
“จริง -*-“ ฉันพยายามเก็บความเขินเอาไว้ ถึงอยากจะยิ้มออกมาก็ตาม
“ไอศกรีมครับ” เด็กเสิร์ฟนำถ้วยไอศกรีมมาเสิร์ฟ ซาโบจึงปล่อยมือออกไป
“ขอบคุณครับ” ซาโบเอ่ยขอบคุณพลางนั่งให้เรียบร้อย
ซาโบดูจะตั้งหน้าตั้งตารอไอศกรีมโดยเฉพาะ เมื่อไอศกรีมมาเสิร์ฟเขาจึงกินอย่างดูอารมณ์ดีและจัดการจนหมดในเวลาไม่นาน
“งั้นมื้อนี้ฉันเลี้ยงนะ”
ฉันเตรียมจะจ่ายเงินเมื่อเรากำลังจะกลับกัน
“ฉันจ่ายไป แล้วทำไงดีล่ะ?” เขาหัวเราะเบา ๆ
ก่อนจะยื่นหน้ามาหอมแก้มฉันแล้วผละออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับยิ้มกวน ๆ ให้
“แค่มากับฉัน ฉันก็ดีใจแล้ว”
“...” ฉันตกใจปนอึ้งที่อยู่ ๆ เขาก็ทำอะไรแบบนี้
“ซาโบ โกงนี่!” ฉันเอามือจับแก้มที่แดงเพราะความเขินเอาไว้
“ฮ่า ๆ ฉันโกงตั้งนานแล้ว เธอไม่รู้เองนะ”
เขายิ้มเป็นเด็กขี้แกล้งจนน่าหมั่นไส้
‘เสียทีให้เด็กจนได้ ////’
ซาโบขับรถมาถึงคอนโดฉันตอนประมาณ 3 ทุ่มกว่าแล้ว
แต่แทนที่เขาจะได้รีบกลับบ้านก่อน กลับต้องมาติดฝนที่ตกหนักอยู่ที่ห้องของฉัน
ฉันยกชาอุ่น ๆ มาให้เขาดื่มระหว่างรอฝนหยุด
“เธออยู่คนเดียวเหรอ?”
เขาถามพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ทำให้ฉันหน้าแดงขึ้นมาทันทีอย่างห้ามไม่ได้
“ก็ใช่...ทำไมต้องยิ้มแบบนั้นด้วยล่ะ”
ฉันอยากจะเอาหมอนมาปิดหน้า ฉันคุมสีหน้าตัวเองไม่อยู่แล้ว
“ก็แค่แกล้งเธอเท่านั้นแหละ” เขาหัวเราะร่า “แล้วเธอมีแฟนรึยัง?”
เขามองฉันด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ
“นี่ก็จะแกล้งงั้นเหรอ?” ฉันมองเขากลับ
“ฉันถามจริงจัง ถึงจะช้าไป แต่ก็อยากรู้นะ”
เขาพูดแล้วยิ้มบาง ๆ ทั้งรอยยิ้มและคำพูด ทำเอาฉันใจเต้นแปลก ๆ อีกแล้ว
“...ไม่มีหรอก” ฉันมองเขาก่อนจะตอบ
ในใจเต้นรัวเหมือนกำลังลุ้นอะไรสักอย่าง
“เหมือนกันเลยนะ” เขาพูดทั้งที่ยังมองฉันและยิ้มอยู่อย่างนั้น
‘หยุดยิ้มสักแป๊บได้ไหม
ขอฉันตั้งสติก่อน’
“...?” ฉันมองอีกฝ่ายอย่างงง ๆ
เมื่อเขาวางมือลงบนหัวฉัน ก่อนจะค่อย ๆ
เลื่อนมือไปตามผมยาวสีดำขลับปรากฏให้เห็นกิ๊บรูปโบว์สีขาวที่ผมฉันราวกับมายากล
“ฉันว่าแบบนี้เธอดูสวยดีนะ” เขาพูดแล้วยิ้มให้ฉัน
“...” ฉันอมยิ้มอย่างกับจะอมความเขินไว้ด้วย
“ปากหวานจริงนะ...”
“ฉันพูดความจริงนะ” เขายิ้มขำ ๆ
“ชาจะเย็นแล้วนะ”
ฉันพูดก่อนจะลุกไปหยิบหนังสือเพื่อหาอะไรทำกลบเกลื่อน
“นั่นสินะ...” เขายิ้มก่อนจะยกชาขึ้นดื่ม
ฉันถือหนังสือมานั่งอ่านที่โซฟา
แต่ก็รู้สึกเหมือนกำลังโดนมองอยู่ จึงหันไปมองคนข้าง ๆ ซึ่งก็ดูตั้งใจมองฉันจริง ๆ
ฉันจึงยกหนังสือขึ้นปิดหน้าเพราะรู้สึกเขินขึ้นมาอีกแล้ว
“...” ฉันก้มมองตักตัวเองที่อีกฝ่ายมาหนุนโดยไม่บอกไม่กล่าว
“ซาโบ...” ฉันเรียกชื่อคนที่นอนหลับตาอยู่
“อื้อ...ง่วงจัง” เขาตอบและพูดเบา ๆ
“...” ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะวางหนังสือในมือลงแล้วมาลูบหัวเขาแทน
ไม่นานนักเขาก็หลับไป
ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขากำลังหลับสบาย
ฉันเหลือบไปมองทางหน้าต่างที่ตอนนี้ฝนหยุดตกไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะปลุกคนที่หลับอยู่
จึงปล่อยให้เขานอนต่ออีกหน่อย
“ซาโบ” ฉันเรียกและเขย่าตัวเขาเบา ๆ
หลังจากปล่อยให้เขานอนไปราว ๆ 20 นาที
“อื้อ...” เขาลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย แต่ไม่นานนักเขาก็ตื่นเต็มตา
“ฝนหยุดตกแล้วล่ะ” ฉันบอกเขาในขณะที่เขาลุกจากตักฉัน
“เร็วจังเลยนะ” ซาโบยิ้มเล็ก ๆ พลางลุกขึ้นยืน
“รีบกลับไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องทำงานนี่”
ฉันยิ้มบาง ๆ พลางเดินไปส่งเขาที่ประตู
“นั่นสินะ... ฝันดีนะ” เขายิ้มก่อนจะกอดฉันไว้
“อ...อื้อ ฝันดีนะ” ฉันลูบหลังเขาเบา ๆ
“เธอนี่ช่องว่างเต็มไปหมดเลยนะ”
เขาพูดทั้งที่ยังกอดฉันอยู่และก่อให้เกิดความสงสัยขึ้นมาในใจฉัน
ก่อนจะผละออกแล้วจับมือฉันขึ้นมาจูบเบา ๆ และงับปลายนิ้ว
“...?!” ฉันมองเขาอย่างตกใจ ในขณะที่อีกฝ่ายก็ยิ้มกวน
ๆ “ซาโบ...” ฉันกัดปากและยกมือจะตีต้นแขนเขา แต่อีกฝ่ายก็จับข้อมือฉันไว้ก่อน
“ขอบคุณนะ”
เขายิ้มกว้างก่อนจะขโมยหอมแก้วฉันแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างอารมณ์ดี
‘ขอบคุณเหรอ? ถึงฉันจะไม่รู้ว่าเขาขอบคุณอะไร
แต่ก็รู้สึกดีจริง ๆ และก็เขินมาก ๆ เหมือนกัน’
ฉันยกมือทั้งสองขึ้นมากุมหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อไม่หาย
☆★☆★
แต่งไปเขินไปเลยตอนนี้ ยิ้มเชียว
ขอโทษที่อัพช้าอีกแล้ว 555+ ส่วนหนึ่งก็เป็นที่เน็ตด้วย อีกส่วนคือไรท์แต่งช้าเองแหละ
ขนาดนั่งจ้องหน้ากระดาษมาทั้งวัน ยังได้แค่นี้
อีกอย่างตอนนี้ไรท์ก็ซุ่มแต่ง Cavendish x Robin อยู่ด้วย
สัปดาห์หน้าน่าจะเปิดเรื่องแล้ว จะมีคนอ่านไหมนะ
ความคิดเห็น