ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic one piece] รักแบดๆของ my bad boy (All x Robin)

    ลำดับตอนที่ #29 : My bad boy -...★☆ Chapter 22 ☆★ แพ้ทาง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 419
      50
      20 พ.ค. 63

    My bad boy -...★☆ Chapter 22 ☆★

    บทที่ 22

    แพ้ทาง

              “ข้อมูลใหม่ ๆ ก็พอจะได้มาบ้างค่ะ แต่ก็ไม่เยอะเท่าที่ควร มีหลายเรื่องที่ฉันยังสงสัยและหาคำตอบไม่ได้” ฉันออกมาคุยโทรศัพท์นอกห้องอัดเสียงระหว่างที่รอซาโบอัดเพลงใหม่ของเขาอยู่

              ก็ยังดี เข้าบริษัทมารายงานฉันพร้อมหลักฐานด้วย บอสที่อยู่ปลายสายตอบกลับมา

              “เรื่องนั้น...ไว้ทีหลังได้ไหมคะ?” ตอนนี้ฉันลังเลอย่างบอกไม่ถูก บางทีฉันก็รู้สึกว่าไม่อยากจะแฉพวกเขาเลย ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เหมือนรู้สึกสำนึกถูกผิดขึ้นมา

              แต่นี่มันก็นานแล้วนะ บอสพูดด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ

              “ฉันเข้าใจนะคะว่าบอสคิดถึง แต่ก็ช่วยรออีกสักสัปดาห์นะคะ หรือไม่ก็จนกว่าฉันจะเคลียร์ปัญหาได้” ฉันพูดแหย่บอสไป เพราะทำแบบนี้ทีไร ความซีเรียสจะลดลงนิดหน่อย(?)

              พูดอะไรของเธอ เฮ้อ...แล้วแต่ละกัน อย่านานนักล่ เขาพูดจบกตัดสายไปทันที ไม่ปล่อยให้ฉันได้แซวต่ออีกหน่อยเลย

              “บอสนี่นะ จะว่าไปก็ไม่เจอบอสนานแล้วเหมือนกัน...” ฉันมองโทรศัพท์แล้วอมยิ้ม

              ฉันเดินเข้าไปในห้องอัดเสียง ซึ่งพอจบประโยคที่ซาโบร้องอยู่ การอัดเสียงก็จบพอดี ซาโบเดินออกจากห้องอัดเสียงมาและเอ่ยขอบคุณพวกทีมงานก่อนจะเดินมาหาฉัน

              “ฉันหิวแล้วล่ะ” เขาพูดพลางทำหน้าตาใสซื่อใส่ฉัน มันดูน่ารักน่าหมั่นไส้ยังไงก็ไม่รู้

              “งั้นออกไปหาอะไรกินกัน” ฉันยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องอัดเสียง

              “เธอเลือกเลยอยากไปที่ไหน” ซาโบพูดในขณะที่เดินไปตามทางพร้อมกัน

              “ตามใจนายดีกว่า นายเป็นคนหิวนี่” ฉันถามพลางหันไปมอง

              “งั้นไปร้านคนรู้จักฉันดีกว่า”  เขาหันมามองฉันเมื่อนึกที่หมายออก

              “แล้วนี่ไม่มีงานตอนเย็นแล้วใช่ไหม?” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ ถึงจะเช็คตารางงานเขามาก่อนแล้ว

              “ไม่มีแล้ว” เขายิ้มกว้างจนฉันอยากจะดึงแก้มเขาด้วยความหมั่นไส้

     

     

     

     

     

     

     

    ซาโบขับรถมาจอดที่ท่าเรือ เขาเดินนำฉันไปตรงท่าเรือและเช่าเรือสปีดโบ๊ทมาลำหนึ่ง หลังจากเขาเดินลงไปในเรือก็ส่งมือมาให้ฉันจับและลงตามไป ซาโบขับเรือออกไปด้วยความเร็วอย่างชำนาญ

    “ร้านอาหารลอยทะเลเหรอ?” ฉันไปยืนข้างหลังเขาและถามขึ้นอย่างคาดเดาเพราะอาจเป็นร้านที่ฉันรู้จัก

    “ใช่ เป็นร้านที่มีชื่อเลยล่ะ” ซาโบตอบพลางมองไปที่ทะเลเบื้องหน้า

    “ทะเลกว้างมากเลยนะ” ฉันมองตามเขาพลางพูดขึ้นแล้วยิ้มบาง ๆ

    “กลัวรึเปล่า?” เขาถามขึ้นเล่น ๆ แล้วหัวเราะเบา ๆ

    “จริง ๆ มันก็น่ากลัวนะ แต่เราต้องมองข้ามอะไรบางอย่างไป” ฉันตอบตามที่คิดจริง ๆ ถ้าเราอยู่คนเดียวในที่ที่กว้างและมีแต่อันตราย ตกลงไปก็ตาย มันก็น่ากลัวเหมือนกัน

    “...” ซาโบใช้มือข้างหนึ่งจับมือฉันไว้ “เธอมีฉันนะ ไม่ต้องกลัวหรอก”

    “...” ฉันก้มมองมือที่เขาจับไว้ ก่อนจะเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มบาง ๆ ฉันรู้สึกได้ว่าหัวใจมันกำลังเต้นแรง ทำไมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกแบบนี้นะ

     

     

    “ถึงแล้วล่ะ” เขาพูดพลางเอาเรือเข้าเทียบท่าแล้วก้าวขึ้นจากเรือ ก่อนจับมือฉันและพยุงให้ขึ้นตามเขาไป

    “ขอบใจนะ” ฉันพูดพลังจากขึ้นจากเรือแล้ว

    “อยู่ที่นี่ก่อนนะ” เขาพูดแล้วเดินไปที่หลังร้าน ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนรองง ๆ อยู่ที่เดิม

    ฉันมือมองไปรอบ ๆ ที่นี่ลมพัดตลอด มีคลื่นเล็ก ๆ เรื่อย ๆ น้ำทะเลก็ใส ตัวร้านก็ดูดี มีกระจกใสติดอยู่ทั้งสามด้านของร้าน ทำให้ชมบรรยากาศภายนอกได้

     “ทางนี้ โรบิน” ซาโบกวักมือเรียกฉันจากหลังร้าน ท่าทางกวักมือที่ทำให้ฉันนึกถึงแมวกวักนั่น(?) ทำไมดูน่ารักขนาดนี้

    ฉันเดินไปที่หลังร้านตามที่เขาเรียกก็พบกับบรรยากาศที่ดูเป็นส่วนตัวเหมือนเขามาจัดเตรียมไว้ มีโต๊ะที่ถูกปูผ้าอย่างดีกับเก้าอี้สองตัว บนโต๊ะมีเทียนและแจกันดอกไม้อยู่ อาหารถูกจัดวางจนเต็มโต๊ะในเวลาไม่นาน มองไปด้านข้างก็จะเห็นทะเลได้ชัดเจน

    “เชิญเลย” ซาโบเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่งลง ก่อนเขาจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม

    “อาหารเยอะขนาดนี้ทำไมเร็วจัง?” ฉันมองไปที่อีกฝ่าย

    “ฉันมาที่นี่บ่อย เลยมีเส้นนิดหน่อยน่ะ” เขาตอบและยิ้มให้ฉัน

    “ใช้เส้นนะเรา” ฉันยิ้มแซว ๆ เขา

    “จริง ๆ ฉันโทรสั่งล่วงหน้าแล้วน่ะ” เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะรินไวน์ใส่แก้วให้ฉัน “ฉันพอจะสนิทกับหัวหน้าเชฟที่นี่อยู่บ้าง”

    “แอบโทรตอนไหนเนี่ย?...ขอบคุณนะ” ฉันมองอีกฝ่ายที่รินไวน์ให้พลางยิ้มบาง ๆ

    “ตอนไปเช่าเรือนั่นแหละ ^^” ซาโบยิ้มก่อนจะหันไปมองทางทะเลที่เริ่มมืดแล้วจึงจุดไฟที่เทียน

    “งั้นเหรอ...หิวไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวอาหารก็ชืดหมดหรอก” ฉันยิ้มบาง ๆ มองอีกฝ่ายที่ดูใจเย็นต่างจากตอนที่มาบอกฉันว่าหิวในตอนแรก

    “ฮะ ๆ นั่นสินะ กินละนะ” ซาโบพูดก่อนจะลงมือทาน

    เราเริ่มลงมือทานอาหารตรงหน้าซึ่งทุกอย่างล้วนอร่อยและเป็นเอกลักษณ์มาก ซาโบเองก็คอยตักอาหารแต่ละอย่างใส่จานฉันราวกับกลัวฉันจะกินไม่อิ่ม หลังจากทานไปได้สักพักซาโบก็รวบช้อนแล้วมานั่งมองฉันพลางจิบไวน์เพลิน ๆ

    “ไม่กินแล้วเหรอ?” ฉันมองเขาอย่างแปลกใจ ปกติพวกสามพี่น้องเอส ซาโบ ลูฟี่จะกินเยอะไม่แพ้กันแท้ ๆ

    “อิ่มแล้วล่ะ” เขายิ้มให้

    “กินน้อยจัง เดี๋ยวผอมนะ” ฉันพูดหลังจากกินอาหารในจานหมด

     “ปกติฉันก็หุ่นแบบนี้อยู่แล้ว” เขาหัวเราะเบา ๆ

    “จะผอมจนซิกแพคหายเลยนะ มา ฉันป้อนให้” ฉันพูดราวกับจะโน้มน้าวใจเด็ก ในสายตาฉันเขาก็น่าเอ็นดูไม่ต่างกับลูฟี่

    “ใครบอก...” เขาลุกขึ้นยืนแล้วถอดเสื้อโค้ทกับเสื้อกั๊กออก ตามด้วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกและเปิดให้เห็นซิกแพคที่เรียงตัวกันสวยอย่างคนสุขภาพดีให้ฉันดู

    “เดี๋ยวสิ...-///- ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้” ฉันอยากยกมือขึ้นปิดปาก แต่ทำได้แค่หันหน้าที่แดงก่ำหนีไปทางอื่นเพื่อรักษาภาพพจน์ อยู่ ๆ เขาก็ทำอะไรแบบนี้...ไม่คิดเลยว่าซาโบจะเป็นคนแบบนี้(?)

    “ก็กลัวเธอไม่เชื่อนี่” ซาโบยิ้มมุมปาก มือหนาแตะบนโต๊ะและยื่นหน้ามาใกล้ฉันอย่างตั้งใจแกล้ง ก่อนจะถอยออกไปจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย

    “คนบ้า...” ฉันบ่นพึมพำด้วยความเขิน

    “เธอไม่ต้องห่วงฉันหรอก” เขาหัวเราะเบา ๆ

    “ฉันไม่ห่วงคนขี้แกล้งหรอก” ฉันเบือนหน้าหนีเพราะยังเขินไม่หาย

    “ไม่ห่วง แต่หวงใช่ไหม” เขายิ้มมุมปากใส่ฉัน

    “ซาโบ!” เพราะเขาอยู่ในระยะของแขนฉัน ฉันเลยตีแขนเขาด้วยความเขินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    “ฮ่า ๆ” เขาหัวเราะอย่างชอบใจ “ฉันเจ็บนะ” เขาส่งสายตาอ้อน ๆ พลางรูปแขนป้อย ๆ

    “ไม่พูดด้วยแล้ว” ฉันทำหน้าบึ้งแก้เขิน เพราะไม่รู้จะเอาความเขินไปเก็บที่ไหน

    “ไม่งอนสิ” เขามองและหัวเราะเบา ๆ

    “ไม่ได้งอนเลยสักนิด” ฉันแอบเบ้ปาก

    “จริง?” เขาเอามือมาแตะแก้มฉันแล้วยิ้มอ่อนโยนให้ เขาไม่รู้รึไงว่ามันเป็นจุดอ่อนฉันเลย รอยยิ้มของเขาเนี่ย

    “จริง -*-“ ฉันพยายามเก็บความเขินเอาไว้ ถึงอยากจะยิ้มออกมาก็ตาม

    “ไอศกรีมครับ” เด็กเสิร์ฟนำถ้วยไอศกรีมมาเสิร์ฟ ซาโบจึงปล่อยมือออกไป

    “ขอบคุณครับ” ซาโบเอ่ยขอบคุณพลางนั่งให้เรียบร้อย

    ซาโบดูจะตั้งหน้าตั้งตารอไอศกรีมโดยเฉพาะ เมื่อไอศกรีมมาเสิร์ฟเขาจึงกินอย่างดูอารมณ์ดีและจัดการจนหมดในเวลาไม่นาน

    “งั้นมื้อนี้ฉันเลี้ยงนะ” ฉันเตรียมจะจ่ายเงินเมื่อเรากำลังจะกลับกัน

    “ฉันจ่ายไป แล้วทำไงดีล่ะ?” เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยื่นหน้ามาหอมแก้มฉันแล้วผละออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับยิ้มกวน ๆ ให้ “แค่มากับฉัน ฉันก็ดีใจแล้ว”

    “...” ฉันตกใจปนอึ้งที่อยู่ ๆ เขาก็ทำอะไรแบบนี้ “ซาโบ โกงนี่!” ฉันเอามือจับแก้มที่แดงเพราะความเขินเอาไว้

    “ฮ่า ๆ ฉันโกงตั้งนานแล้ว เธอไม่รู้เองนะ” เขายิ้มเป็นเด็กขี้แกล้งจนน่าหมั่นไส้

    เสียทีให้เด็กจนได้ ////

     

     

     

     

     

     

     

     

    ซาโบขับรถมาถึงคอนโดฉันตอนประมาณ 3 ทุ่มกว่าแล้ว แต่แทนที่เขาจะได้รีบกลับบ้านก่อน กลับต้องมาติดฝนที่ตกหนักอยู่ที่ห้องของฉัน ฉันยกชาอุ่น ๆ มาให้เขาดื่มระหว่างรอฝนหยุด

    “เธออยู่คนเดียวเหรอ?” เขาถามพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย ทำให้ฉันหน้าแดงขึ้นมาทันทีอย่างห้ามไม่ได้

    “ก็ใช่...ทำไมต้องยิ้มแบบนั้นด้วยล่ะ” ฉันอยากจะเอาหมอนมาปิดหน้า ฉันคุมสีหน้าตัวเองไม่อยู่แล้ว

    “ก็แค่แกล้งเธอเท่านั้นแหละ” เขาหัวเราะร่า “แล้วเธอมีแฟนรึยัง?” เขามองฉันด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ

    “นี่ก็จะแกล้งงั้นเหรอ?” ฉันมองเขากลับ

    “ฉันถามจริงจัง ถึงจะช้าไป แต่ก็อยากรู้นะ” เขาพูดแล้วยิ้มบาง ๆ ทั้งรอยยิ้มและคำพูด ทำเอาฉันใจเต้นแปลก ๆ อีกแล้ว

    “...ไม่มีหรอก” ฉันมองเขาก่อนจะตอบ ในใจเต้นรัวเหมือนกำลังลุ้นอะไรสักอย่าง

    “เหมือนกันเลยนะ” เขาพูดทั้งที่ยังมองฉันและยิ้มอยู่อย่างนั้น

    หยุดยิ้มสักแป๊บได้ไหม ขอฉันตั้งสติก่อน

    “...?” ฉันมองอีกฝ่ายอย่างงง ๆ เมื่อเขาวางมือลงบนหัวฉัน ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนมือไปตามผมยาวสีดำขลับปรากฏให้เห็นกิ๊บรูปโบว์สีขาวที่ผมฉันราวกับมายากล

    “ฉันว่าแบบนี้เธอดูสวยดีนะ” เขาพูดแล้วยิ้มให้ฉัน

    “...” ฉันอมยิ้มอย่างกับจะอมความเขินไว้ด้วย “ปากหวานจริงนะ...”

    “ฉันพูดความจริงนะ” เขายิ้มขำ ๆ

    “ชาจะเย็นแล้วนะ” ฉันพูดก่อนจะลุกไปหยิบหนังสือเพื่อหาอะไรทำกลบเกลื่อน

    “นั่นสินะ...” เขายิ้มก่อนจะยกชาขึ้นดื่ม

    ฉันถือหนังสือมานั่งอ่านที่โซฟา แต่ก็รู้สึกเหมือนกำลังโดนมองอยู่ จึงหันไปมองคนข้าง ๆ ซึ่งก็ดูตั้งใจมองฉันจริง ๆ ฉันจึงยกหนังสือขึ้นปิดหน้าเพราะรู้สึกเขินขึ้นมาอีกแล้ว 

    “...” ฉันก้มมองตักตัวเองที่อีกฝ่ายมาหนุนโดยไม่บอกไม่กล่าว “ซาโบ...” ฉันเรียกชื่อคนที่นอนหลับตาอยู่

    “อื้อ...ง่วงจัง” เขาตอบและพูดเบา ๆ

    “...” ฉันยิ้มบาง ๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะวางหนังสือในมือลงแล้วมาลูบหัวเขาแทน

    ไม่นานนักเขาก็หลับไป ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขากำลังหลับสบาย ฉันเหลือบไปมองทางหน้าต่างที่ตอนนี้ฝนหยุดตกไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะปลุกคนที่หลับอยู่ จึงปล่อยให้เขานอนต่ออีกหน่อย

     

    “ซาโบ” ฉันเรียกและเขย่าตัวเขาเบา ๆ หลังจากปล่อยให้เขานอนไปราว ๆ 20 นาที

    “อื้อ...” เขาลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย แต่ไม่นานนักเขาก็ตื่นเต็มตา

    “ฝนหยุดตกแล้วล่ะ” ฉันบอกเขาในขณะที่เขาลุกจากตักฉัน

    “เร็วจังเลยนะ” ซาโบยิ้มเล็ก ๆ พลางลุกขึ้นยืน

    “รีบกลับไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องทำงานนี่” ฉันยิ้มบาง ๆ พลางเดินไปส่งเขาที่ประตู

    “นั่นสินะ... ฝันดีนะ” เขายิ้มก่อนจะกอดฉันไว้

    “อ...อื้อ ฝันดีนะ” ฉันลูบหลังเขาเบา ๆ

    “เธอนี่ช่องว่างเต็มไปหมดเลยนะ” เขาพูดทั้งที่ยังกอดฉันอยู่และก่อให้เกิดความสงสัยขึ้นมาในใจฉัน ก่อนจะผละออกแล้วจับมือฉันขึ้นมาจูบเบา ๆ และงับปลายนิ้ว

    “...?!” ฉันมองเขาอย่างตกใจ ในขณะที่อีกฝ่ายก็ยิ้มกวน ๆ “ซาโบ...” ฉันกัดปากและยกมือจะตีต้นแขนเขา แต่อีกฝ่ายก็จับข้อมือฉันไว้ก่อน

    “ขอบคุณนะ” เขายิ้มกว้างก่อนจะขโมยหอมแก้วฉันแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างอารมณ์ดี

    ขอบคุณเหรอ? ถึงฉันจะไม่รู้ว่าเขาขอบคุณอะไร แต่ก็รู้สึกดีจริง ๆ และก็เขินมาก ๆ เหมือนกัน ฉันยกมือทั้งสองขึ้นมากุมหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อไม่หาย

     


    ☆★☆★

    แต่งไปเขินไปเลยตอนนี้ ยิ้มเชียว

    ขอโทษที่อัพช้าอีกแล้ว 555+ ส่วนหนึ่งก็เป็นที่เน็ตด้วย อีกส่วนคือไรท์แต่งช้าเองแหละ 

    ขนาดนั่งจ้องหน้ากระดาษมาทั้งวัน ยังได้แค่นี้

    อีกอย่างตอนนี้ไรท์ก็ซุ่มแต่ง Cavendish x Robin อยู่ด้วย 

    สัปดาห์หน้าน่าจะเปิดเรื่องแล้ว จะมีคนอ่านไหมนะ

    Tiny Hand
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×