ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic one piece] รักแบดๆของ my bad boy (All x Robin)

    ลำดับตอนที่ #25 : My bad boy -...★☆ Chapter 19 ☆★ ทะเลาะกัน เดอะ ซีรีส์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 498
      50
      21 มิ.ย. 63

    My bad boy -...★☆ Chapter 19 ☆★

    บทที่ 19

    ทะเลาะกัน เดอะ ซีรีส์

              ลูฟี่พาฉันมาทานอาหารเช้าพร้อมกับครอบครัวของลูฟี่ เมื่อเข้ามาในห้องรับปะทานอาหารก็มีเอส ปู่ของลูฟี่ พ่อของเอสและพ่อของลูฟี่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นบรรยากาศที่น่าเหลือเชื่อมาก ๆ

              “ทุกคน~  ฉันพาแฟนมากินข้าวด้วยนะ นี่โรบินนะ” ลูฟี่ยิ้มแฉ่งหลังจากแนะนำฉันให้ทุกคนรู้จัก ในขณะที่คนอื่น ๆ มองอย่างแปลกใจ แต่เดี๋ยวนะ?!

              “เจ้าลูฟี่!” เอสตบโต๊ะพลางลุกขึ้นยืนและมองลูฟี่อย่างเคือง ๆ

              “ก็ได้ ๆ พูดเล่นน่ะ” ลูฟี่เบ้ปาก แต่ก็ยอมเอสอย่างง่าย ๆ

              “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นเพื่อนของลูฟี่ค่ะ” ฉันหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะก้มหัวให้ผู้ใหญ่ในห้อง

              “นั่งก่อนสิหนูโรบิน” คุณดราก้อนซึ่งเป็นพ่อของลูฟี่ผายมือเชิญฉันนั่ง ฉันล้วนรู้จักทุกคนเป็นอย่างดี ก็เป็นคนใหญ่คนโตกันนี่นา

              “ขอบคุณค่ะ” ฉันกับลูฟี่นั่งข้าง ๆ กัน ในขณะที่เอสนั่งตรงข้าม

              “เมนูพิเศษยามเช้ามาแล้วครับ~” เสียงที่คุ้นหูนั่นทำให้ฉันหันไปมอง

              “ซันจิ! ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ?” คนที่ถามขึ้นเป็นลูฟี่ที่เพิ่งรู้ว่าซันจิมาอยู่ที่นี่พร้อม ๆ กับฉัน

              “ก็ตั้งใจจะมารับโรบินจังนั่นแหละ เลยถือโอกาสนี้เป็นคนทำอาหารเช้าซะเลย มื้อนี้ต้องเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดแน่นอน” ซันจิวางจานอาหารต่าง ๆ ลงบนโต๊ะ ก่อนจะมานั่งข้าง ๆ ฉัน

              “สวัสดีจ๊ะ ซันจิ” ฉันยิ้มบาง ๆ ให้เขา

              “โรบินจรวงงงง ลองชิมอาหารจากความรักของผมนะครับ ^^” ซันจิพูดพลางส่งออร่าบางอย่างออกมาจากตัวเขา(?)

              “จ๊ะ ^^” ฉันตอบเขาไปสั้น ๆ

              “เอาล่ะ ลงมือทานกันเถอะ” คุณปู่การ์ปพูดขึ้น ทำให้ทุกคนเริ่มลงมือทานกัน บรรยากาศตึง ๆ ในตอนแรกพลันหายไปกลายเป็นความวุ่นวายแทน

    ไม่คิดเลยว่าจะเป็นกันเองขนาดนี้ เห็นแบบนี้ก็เข้าใจเลยว่าเอสกับลูฟี่เหมือนใคร

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากทานอาหารเช้ากับครอบครัวเอสและลูฟี่เสร็จ ซันจิก็พาฉันมาที่ห้องซ้อมของพวกเขาทันที ตอนนี้ในห้องก็มีชายอีกสองคนรออยู่แล้ว

    “ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะมาก่อน” ซันจิพูดพลางเหล่มองนายหัวเขียวที่นั่งอยู่ที่โซฟา

    “มีอะไรงั้นเหรอ คุณรองที่โหล่” โซโลตอบกลับด้วยนำเสียงกวน ๆ

    “แค่มาเร็วกว่าฉันครั้งเดียวทำเป็นอวดนะแก! แล้วแกมาคนที่เท่าไหร่?”

    ในระหว่างที่สองคนนั้นกำลังเถียงกัน ฉันก็นั่งลงที่โซฟาอีกด้านซึ่งห่างจากโซโลและลอว์ที่นั่งเงียบอ่านแผ่นกระดาษบางอย่างอยู่ปลายโซฟา

    “คนแรก” โซโลยิ้มเย้ย ซึ่งก็ยั่วซันจิขึ้นซะด้วยสิ

    “นี่พวกนายเงียบ ๆ หน่อยได้ไหม เอาเวลามาซ้อมร้องให้มันดี ๆ ดีกว่า จะได้ไม่ต้องอัดเสียงหลายรอบ” ลอว์พูดขึ้นห้ามศึกด้วยความรำคาญ

    จะว่าไปพวกนี้ก็มีทำเพลงใหม่กันทุกสัปดาห์เลยนะ บางสัปดาห์ก็ 2 เพลง แถมมีงานถ่ายหนัง ถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ ออกรายการอีก ทำทุกอย่างในสัปดาห์เดียวได้ยังไงกันนะ สุดยอดจริง ๆ แค่คิดก็เหนื่อยแทนแล้วล่ะ แต่ขนาดยุ่งขนาดนี้ พวกเขายังมีเวลาเถลไถลกันอีกนะ

    “โย่ว!” เสียงเอ่ยขึ้นพร้อมกับประตูห้องซ้อมที่เปิดออก

    “นายมาช้านะเอส” ลอว์หันไปมองและพูดขึ้น ฉันมองพวกเขาอย่างรู้สึกสนใจนิด ๆ นาน ๆ ทีจะเห็นลอว์เขาพูดอะไรที่ดูเป็นลีดเดอร์วงหน่อย

    “ที่บ้านวุ่นวายกันนิดหน่อยนะ” เอสตอบก่อนจะมานั่งข้างฉัน

    ก่อนจะออกมาจากบ้านพวกเขา ฉันเห็นเอสกับลูฟี่ทะเลาะกันต่อน่ะนะ แต่คงจะเป็นเรื่องปกติล่ะมั้ง? หรือจะเพิ่งเกิดขึ้นบ่อยช่วงที่มีเรื่องของฉันก็ไม่รู้ ช่างเถอะ...แล้วทำไมถึงมานั่งติดฉันแบบนี้ล่ะ!

    ฉันขยับออกห่าง เอสทำท่าจะขยับตาม แต่ซันจิที่ยืนเถียงกับโซโลจนถึงเมื่อกี้ก็มานั่งตรงช่องว่างพอดี

    “เรามาซ้อมกันเถอะ” ซันจิพูดพลางหันไปยิ้มให้เอส

    “- -...อ่า...งั้น...ขึ้นสิ” เอสหันหน้าจากที่มองซันจิอยู่ไปยังโซโลและลอว์แทน

    ลอว์เปิดเสียงดนตรีประกอบขึ้นมา ตามด้วยซันจิที่ร้องเปิดตามคิวของตัวเองทันที แล้วตามด้วยเสียงของโซโล ในช่วงแรกทั้งสองคนต้องร้องด้วยกัน พอผ่านท่อนฮุคแรกไปก็เป็นคู่เอสและลอว์ พวกเขาร้องไปพลางขยับมือและเท้าไปตามจังหวะอย่างเป็นธรรมชาติ พอได้มองแบบนี้แล้วก็เพลินดีเหมือนกันนะ

     

     

     

     

    “ซันจิ...” ฉันที่เดินตามซันจิไปยังห้องอัดเสียงเรียกเขาเบา ๆ

    “มีอะไรเหรอครับโรบินจัง?” ซันจิขยับมาฟังฉันใกล้ ๆ

    “ฉันขอไปข้างนอกหน่อยได้ไหม?” ฉันขออนุญาตเขาเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

    “ไม่ได้นะครับ มันอันตราย อยู่ใกล้ ๆ พวกเราไว้ดีกว่านะครับ” ซันจิพูดด้วยสีหน้าที่ดูตึงเครียดเล็กน้อย

    “อื้อ...” ฉันตอบรับอย่างไม่เต็มใจนัก

    “ไว้เสร็จงานแล้วผมจะพาไปเที่ยวนะครับ ถ้าโรบินจังอยากไป” ซันจิยิ้มอย่างอ่อนโยน ปราศจากความหื่นเหมือนทุกที ทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจกับภาพที่ได้เห็นอยู่นิด ๆ เขาเองก็ทั้งหล่อและเท่เหมือนกันนะ น่าแปลกที่ปกติฉันมองไม่เห็นมันเลย อีกอย่างก็เป็นสุภาพบุรุษต่างจากภาพที่เคยเห็นตอนเจอกันครั้งแรก

    “ขอบใจนะ” ฉันยิ้มบาง ๆ ตอบไป ถึงเป้าหมายจริง ๆ ที่ขอออกไปข้างนอกจะขอไปเพื่อหาทางไปสืบข้อมูลก็ตาม แต่ตอนนี้คงสืบอะไรได้ยากแล้วล่ะนะ เรื่องให้แฉมีอยู่อีกไหมเนี่ย? สมองส่วนหนึ่งของฉันบอกว่า มันไม่มีหรอก เจ้านายงี่เง่าเขาคิดไปเองว่ามี(?)

    ~

    นึกถึงก็โทรมาเลยนะฉันมองเบอร์ที่โชว์อยู่ ซึ่งก็เป็นเบอร์ของบอสที่ไม่ได้ติดต่อกันนานพอสมควร ฉันไม่ได้เข้าบริษัทนานแล้วด้วยสิ

    “ซันจิ นายเข้าห้องอัดไปก่อนเถอะ ถ้าคุยโทรศัพท์เสร็จฉันจะตามไป” ฉันบอกกับซันจิ โดยยังไม่กดรับสาย

    “ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวผมจะอยู่เป็นเพื่อน คอยเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ก็ได้ ถ้าโรบินจังอยู่คนเดียวผมเป็นห่วงนะครับ” สีหน้าเขาดูจะเป็นห่วงจริง ๆ นั่นแหละ  แต่ฉันก็ไม่สามารถคุยโทรศัพท์ต่อหน้าเขาได้ ถ้าไม่รับเขาก็อาจสงสัยอีก...เอาไงดีเนี่ย?

    “งั้นก็ได้จ้ะ...” ฉันตอบไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะกดรับสาย “สวัสดีค่ะ คุณลุง” ฉันตอบพลางเบาเสียงของอีกฝ่ายให้เบาลงและเดินออกมาห่าง ๆ

    เรียกใครว่าลุงกัน นิโค โรบิน หายไปนานแล้วยังมา...

    “ใจเย็น ๆ ก่อนสิคะ ช่วงนี้ฉันมีปัญหาน่ะค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ วงแบดบอยเขาช่วยปกป้องฉันอยู่ค่ะ ไว้เรื่องทุกอย่างดีขึ้นแล้ว ฉันจะไปเยี่ยมนะคะ” ฉันพูดไปยิ้มไป

    หืม?...เฮ้อ...ไว้มาอธิบายทุกอย่างด้วยล่ะ

    “ค่ะ ^^” ฉันตอบรับ ก่อนเขาจะวางสายไป

    หลังจากวางสายแล้ว ฉันกับซันจิจึงเดินเข้าไปในห้องอัดเสียง วงแบดบอยทั้งสี่คนยืนประจำที่ในห้องอัดเสียง ทีมงานคนอื่น ๆ ก็เตรียมพร้อมทำหน้าที่และการอัดเสียงก็เริ่มขึ้น ฉันยืนฟังพวกเขาอยู่ที่ไกลสุดและห่างจากพวกทีมงาน เพราะไม่อยากไปเกะกะสายตาเขา แค่พวกแบดบอยขอให้ฉันมาด้วยก็เกรงใจจะแย่แล้ว

    ...” ฉันฮึมฮัมตามที่พวกเขาร้องอยู่เบา ๆ ฟังบ่อยจนติดหูซะแล้วสิ

     

     

     

     

     

    การอัดเสียงเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งสี่เดินออกมาจากห้องอัดเสียงเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบโดยที่พวกเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็กลายเป็นภาพที่น่ารักและหาได้ยากดี

    “หึ...” ฉันหลุดหัวเราะเบา ๆ จนพวกเขาพากันมองมาอย่างสงสัย

    “เดี๋ยวเชิญไปลองชุดที่จะใช้ถ่าย MV พรุ่งนี้ทางนี้นะคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะเดินนำพวกเขาไป

    “รีบไปสิ” ฉันพูดขึ้นและยิ้มบาง ๆ เมื่อพวกเขายังมองฉันอย่างจับผิด

    “หัวเราะอะไรของเธอ?” โซโลถามพลางขมวดคิ้วเป็นปม

    “ไม่มีอะไรนี่...รีบไปเถอะซันจิ ^^” ฉันยิ้มให้ซันจิพลางจับมือเขาแล้วดึงให้เดินตามผู้หญิงคนเมื่อกี้ไป

    “มือของโรบินจัง ” ซันจิยิ้มด้วยหน้าหื่น ๆ เหมือนทุกที พลางทำตัวย้วยไปมา

    “เฮ้ย!” เสียงเอสดังตามหลังมาอย่างไม่พอใจนัก

    ฉันกับซันจิเข้ามาในห้องแต่งตัวตามด้วยเอส ลอว์ และโซโล ผู้หญิงคนนั้นวางชุดไว้ให้แต่ละคน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    “เธอก็ออกไปได้แล้ว คิดจะดูผู้ชายเปลี่ยนเสื้อผ้ารึไง?” โซโลพูดพลางมองฉันด้วยสายตาดุ ๆ

    “ใครจะไปอยากดู นายนี่มัน...ใส่ความฉันตลอดเลย” ฉันขมวดคิ้วมองเขาอย่างเคือง ๆ

    “แต่ถ้าเธออยากดูฉันก็ยินดีให้ดูนะ” เอสพูดและมองมาทางฉัน ก่อนจะยิ้มกริ่ม

    “ผมด้วยครับบบ” ซันจิเองก็ตามน้ำไปกับเอส

    “เฮ้อ...” ลอว์ถอนหายใจแล้วหลับตาลง

    มีแต่คนบ้าเต็มไปหมดเลย!’

    ฉันรีบเดินออกไปจากห้องแต่งตัว ฉันไม่รู้จะโต้กลับหรือทำหน้ายังไงแล้วเลยออกมารอหน้าประตู แต่ไม่ทันไรซันจิก็เดินตามออกมา

    “โรบินจังครับ หมอนั่นมันปากเสียก็จริง แต่อย่าไปใส่ใจเลยนะครับ ไม่ต้องออกมาแบบนี้หรอกครับ ผมบอกแล้วว่ามันอันตราย อย่าอยู่ห่างพวกเราสิครับ” ซันจิพูดอย่างใจเย็นด้วยท่าทีเป็นห่วง

    “ฉันไม่อยากอยู่ให้เขาว่าหรอกนะ เดี๋ยวก็หาว่าฉันหน้าด้าน ไม่ก็ว่าฉันโรคจิตอีก ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย” ฉันพูดพลางกอดอกและหันไปทางอื่น

    “งั้นเดี๋ยวผมจะไปเปลี่ยนชุดอีกห้องแล้วกันนะครับ คุณโรบินจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว” พูดจบซันจิก็เข้าไปเอาชุดในห้อง ไม่ถึง 2 วิก็กลับออกมาอย่างรวดเร็ว

    “...” ฉันมองตามเขานิ่ง ๆ

    “มาครับ” ซันจิจับมือฉันและพาฉันเข้าไปอีกห้อง

    ”เอ่อ...ฉันรอตรงนี้นะ” ฉันพูดพลางหันหลังให้เขา จะให้ฉันมาดูนายเปลี่ยนชุดรึไงเนี่ย?...

    ซันจิยิ้มขำ ๆ ก่อนจะเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนหลังม่านที่ทำไว้สำหรับเปลี่ยนชุด เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เปลี่ยนชุดจนเสร็จแล้วเดินออกมา

    “โรบินจังครับ เป็นไงบ้างครับ?” เมื่อได้ยินเสียงของเขา ฉันจึงหันไปมองเขาที่จัดคอเสื้ออยู่

    “อื้ม...ก็ปกติดีนะ” ฉันมองชุดของเขาที่ก็ไม่ต่างจากสไตล์ที่เขาแต่งเป็นปกติ

    “แค่ปกติเองเหรอครับ” ซันจิทำหน้าหงอยลงไปทันตา

    “...” ฉันหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง  “เดี๋ยวต้องไปซ้อมเต้นต่อไม่ใช่เหรอ รีบเปลี่ยนชุดกลับเถอะ”

    “ครับ” ซันจิยังทำหน้าหงอยไม่เลิก แต่ก็ยอมกลับไปเปลี่ยนชุดอย่างว่าง่าย


    Tiny Hand

     



    หลังจากเสร็จงานทุกอย่าง ซันจิก็พาฉันกลับมาที่คฤหาสน์ของเขา แต่ที่ต่างจากครั้งก่อนที่เคยมาคือ วันนี้พ่อและพี่น้องของซันจิอยู่กันครบเลย สีผมนี่สุด ๆ ไปเลย

    “ชื่อโรบินสินะ สนใจจะเดตกับฉันไหม?” ฉันมองชายคิ้วม้วนผมเขียวหรือยงจิที่ทำหน้าตาหื่น ๆ ไม่ต่างกับซันจิเลย

    “อย่ายุ่งกับโรบินจังนะเฟ้ย” ซันจิเตะเก้าอี้ที่คนคนนั้นนั่งอยู่จนเก้าอี้เลื่อนออกไปอยู่ปลายโต๊ะ แล้วซันจิก็เอาเก้าอี้อีกตัวมานั่งแทน

    “หน๋อย แก!” แล้วทั้งสองคนนั้นก็นั่งทะเลาะกันต่อไป

    “เธอเป็นอะไรกับซันจิงั้นเหรอ?” คุณเรย์จูที่นั่งอยู่อีกข้างของฉันกระซิบถามฉันเบา ๆ

    “ถ้าถามว่าเป็นอะไรก็...ผู้ติดตามล่ะมั้ง” ฉันหัวเราะเบา ๆ “หรือไม่ก็เพื่อนนั้นแหละ”

    “งั้นก็ดีแล้วล่ะ ถ้าไปชอบซันจิเข้าก็คงจะปวดหัวน่าดู” เธอพูดแล้วหัวเราะคิกคัก

     “หยุดพูดเลยนะเรย์จู!” ซันจิแหวดใส่เรย์จูต่อ

    “พอได้แล้วน่า” ชายคิ้วม้วนผมแดงหรืออิชิจิพูดขึ้นนิ่ง ๆ อย่างรำคาญ

    “กินข้าวกันเถอะน่า” ชายคิ้วม้วนผมน้ำเงินหรือนิจิพูดขึ้นอีกคน

    “เอาล่ะ เลิกทะเลาะกันแล้วกินข้าวกันได้แล้ว” ผู้เป็นพ่อพูดขึ้น ก่อนคนอื่น ๆ จะเริ่มทานกัน

    หลังทานอาหารกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง ส่วนฉันก็ต้องเดินตามซันจิไปอย่างรู้หน้าที่

    “เดี๋ยวสิ” เสียงของเรย์จูทำให้ฉันและซันจิหยุดเดิน “ให้โรบินนอนห้องฉันดีกว่านะ”

    “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเธอก็เอาเรื่องอะไรมาเล่าให้โรบินจังฟังอีก แล้วอีกอย่างฉันมีหน้าที่ที่ต้องปกป้องโรบินจังให้ดี” ซันจิปฏิเสธอย่างจริงจัง

    นอนกับซันจิก็ระวังด้วยนะ” เรย์จูกระซิบกับฉัน ก่อนซันจิจะดึงมือฉันให้เดินตามไป

     

     

     

     

     

     

    “โรบินจังครับ ผม...ขอนอนด้วยได้ไหมครับ” ซันจิพูดขอขึ้นด้วยท่าทางน่าเอ็นดู

    “ถ้าสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรฉันก็ได้อยู่หรอกนะ” ฉันยิ้มขำ ๆ กับท่าทีที่ดูน่ารักของเขา มันเลยอดใจอ่อนไม่ได้ อีกอย่างเตียงก็ใหญ่มาก มาก มาก และเป็นเตียงของเขาอีก ก็คงไม่เป็นไรหรอก และฉันก็...นอนกับพวกแบดบอยอยู่ทุกวันนี่นา รู้สึกเหมือนเป็นทำเนียมในการคุมกันฉันไปในตัวด้วยซะแล้ว

    “ค...ครับ” ซันจิขึ้นมานอนข้าง ๆ ฉัน แต่เว้นระยะห่างกันระยะหนึ่ง

    “ฝันดี” ฉันนอนหันหลังให้เขาและหลับตาลง

    .

    .

    .

    ส่วนทางด้านซันจิก็เอื้อมมือมาทำท่าจะกอดโรบิน แต่ก็ดึงมือกลับไป ชายหนุ่มพลิกตัวหันหลังให้อีกฝ่ายพลางนอนดิ้นไปมาด้วยความเขินอะไรสักอย่างของเขา คืนนั้นกว่าเขาจะหลับได้ก็เกือบจะโต้รุ่ง



    ☆★☆★

    ชื่อตอนเกิดจากไรท์เห็นว่ามีแต่คนตีกันทั้งเรื่อง ไม่รู้จะตั้งว่าอะไรดี ใครมีความคิดที่ดีกว่า เสนอมาได้

    ไรท์กลับมาแล้วนะ! อัพอีกทีก็สิ้นเดือน ยังสอบไม่หมดเลย

    ส่วนคำผิด ไรท์จะมาเช็คทีหลังนะ

    รีดเดอร์ก็กลับมาอ่านกันได้แล้วนะ

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×