คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : My bad boy -...★☆ Chapter 19 ☆★ ทะเลาะกัน เดอะ ซีรีส์
My bad boy -...★☆ Chapter 19 ☆★
บทที่ 19
ทะเลาะกัน เดอะ ซีรีส์
ลูฟี่พาฉันมาทานอาหารเช้าพร้อมกับครอบครัวของลูฟี่
เมื่อเข้ามาในห้องรับปะทานอาหารก็มีเอส ปู่ของลูฟี่ พ่อของเอสและพ่อของลูฟี่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
เป็นบรรยากาศที่น่าเหลือเชื่อมาก ๆ
“ทุกคน~ ฉันพาแฟนมากินข้าวด้วยนะ นี่โรบินนะ”
ลูฟี่ยิ้มแฉ่งหลังจากแนะนำฉันให้ทุกคนรู้จัก ในขณะที่คนอื่น ๆ มองอย่างแปลกใจ
แต่เดี๋ยวนะ?!
“เจ้าลูฟี่!”
เอสตบโต๊ะพลางลุกขึ้นยืนและมองลูฟี่อย่างเคือง ๆ
“ก็ได้ ๆ พูดเล่นน่ะ”
ลูฟี่เบ้ปาก แต่ก็ยอมเอสอย่างง่าย ๆ
“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นเพื่อนของลูฟี่ค่ะ”
ฉันหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะก้มหัวให้ผู้ใหญ่ในห้อง
“นั่งก่อนสิหนูโรบิน”
คุณดราก้อนซึ่งเป็นพ่อของลูฟี่ผายมือเชิญฉันนั่ง ฉันล้วนรู้จักทุกคนเป็นอย่างดี
ก็เป็นคนใหญ่คนโตกันนี่นา
“ขอบคุณค่ะ” ฉันกับลูฟี่นั่งข้าง
ๆ กัน ในขณะที่เอสนั่งตรงข้าม
“เมนูพิเศษยามเช้ามาแล้วครับ~”
เสียงที่คุ้นหูนั่นทำให้ฉันหันไปมอง
“ซันจิ!
ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ?” คนที่ถามขึ้นเป็นลูฟี่ที่เพิ่งรู้ว่าซันจิมาอยู่ที่นี่พร้อม
ๆ กับฉัน
“ก็ตั้งใจจะมารับโรบินจังนั่นแหละ
เลยถือโอกาสนี้เป็นคนทำอาหารเช้าซะเลย มื้อนี้ต้องเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดแน่นอน”
ซันจิวางจานอาหารต่าง ๆ ลงบนโต๊ะ ก่อนจะมานั่งข้าง ๆ ฉัน
“สวัสดีจ๊ะ ซันจิ”
ฉันยิ้มบาง ๆ ให้เขา
“โรบินจรวงงงง
ลองชิมอาหารจากความรักของผมนะครับ ^^”
ซันจิพูดพลางส่งออร่าบางอย่างออกมาจากตัวเขา(?)
“จ๊ะ ^^” ฉันตอบเขาไปสั้น ๆ
“เอาล่ะ
ลงมือทานกันเถอะ” คุณปู่การ์ปพูดขึ้น ทำให้ทุกคนเริ่มลงมือทานกัน บรรยากาศตึง ๆ
ในตอนแรกพลันหายไปกลายเป็นความวุ่นวายแทน
ไม่คิดเลยว่าจะเป็นกันเองขนาดนี้
เห็นแบบนี้ก็เข้าใจเลยว่าเอสกับลูฟี่เหมือนใคร
หลังจากทานอาหารเช้ากับครอบครัวเอสและลูฟี่เสร็จ
ซันจิก็พาฉันมาที่ห้องซ้อมของพวกเขาทันที ตอนนี้ในห้องก็มีชายอีกสองคนรออยู่แล้ว
“ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะมาก่อน” ซันจิพูดพลางเหล่มองนายหัวเขียวที่นั่งอยู่ที่โซฟา
“มีอะไรงั้นเหรอ คุณรองที่โหล่”
โซโลตอบกลับด้วยนำเสียงกวน ๆ
“แค่มาเร็วกว่าฉันครั้งเดียวทำเป็นอวดนะแก! แล้วแกมาคนที่เท่าไหร่?”
ในระหว่างที่สองคนนั้นกำลังเถียงกัน
ฉันก็นั่งลงที่โซฟาอีกด้านซึ่งห่างจากโซโลและลอว์ที่นั่งเงียบอ่านแผ่นกระดาษบางอย่างอยู่ปลายโซฟา
“คนแรก” โซโลยิ้มเย้ย
ซึ่งก็ยั่วซันจิขึ้นซะด้วยสิ
“นี่พวกนายเงียบ ๆ หน่อยได้ไหม
เอาเวลามาซ้อมร้องให้มันดี ๆ ดีกว่า จะได้ไม่ต้องอัดเสียงหลายรอบ”
ลอว์พูดขึ้นห้ามศึกด้วยความรำคาญ
จะว่าไปพวกนี้ก็มีทำเพลงใหม่กันทุกสัปดาห์เลยนะ
บางสัปดาห์ก็ 2 เพลง แถมมีงานถ่ายหนัง ถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ ออกรายการอีก
ทำทุกอย่างในสัปดาห์เดียวได้ยังไงกันนะ สุดยอดจริง ๆ แค่คิดก็เหนื่อยแทนแล้วล่ะ
แต่ขนาดยุ่งขนาดนี้ พวกเขายังมีเวลาเถลไถลกันอีกนะ
“โย่ว!”
เสียงเอ่ยขึ้นพร้อมกับประตูห้องซ้อมที่เปิดออก
“นายมาช้านะเอส” ลอว์หันไปมองและพูดขึ้น
ฉันมองพวกเขาอย่างรู้สึกสนใจนิด ๆ นาน ๆ
ทีจะเห็นลอว์เขาพูดอะไรที่ดูเป็นลีดเดอร์วงหน่อย
“ที่บ้านวุ่นวายกันนิดหน่อยนะ”
เอสตอบก่อนจะมานั่งข้างฉัน
ก่อนจะออกมาจากบ้านพวกเขา
ฉันเห็นเอสกับลูฟี่ทะเลาะกันต่อน่ะนะ แต่คงจะเป็นเรื่องปกติล่ะมั้ง?
หรือจะเพิ่งเกิดขึ้นบ่อยช่วงที่มีเรื่องของฉันก็ไม่รู้
ช่างเถอะ...แล้วทำไมถึงมานั่งติดฉันแบบนี้ล่ะ!
ฉันขยับออกห่าง เอสทำท่าจะขยับตาม
แต่ซันจิที่ยืนเถียงกับโซโลจนถึงเมื่อกี้ก็มานั่งตรงช่องว่างพอดี
“เรามาซ้อมกันเถอะ” ซันจิพูดพลางหันไปยิ้มให้เอส
“- -...อ่า...งั้น...ขึ้นสิ”
เอสหันหน้าจากที่มองซันจิอยู่ไปยังโซโลและลอว์แทน
ลอว์เปิดเสียงดนตรีประกอบขึ้นมา ตามด้วยซันจิที่ร้องเปิดตามคิวของตัวเองทันที
แล้วตามด้วยเสียงของโซโล ในช่วงแรกทั้งสองคนต้องร้องด้วยกัน
พอผ่านท่อนฮุคแรกไปก็เป็นคู่เอสและลอว์ พวกเขาร้องไปพลางขยับมือและเท้าไปตามจังหวะอย่างเป็นธรรมชาติ
พอได้มองแบบนี้แล้วก็เพลินดีเหมือนกันนะ
“ซันจิ...” ฉันที่เดินตามซันจิไปยังห้องอัดเสียงเรียกเขาเบา
ๆ
“มีอะไรเหรอครับโรบินจัง?” ซันจิขยับมาฟังฉันใกล้
ๆ
“ฉันขอไปข้างนอกหน่อยได้ไหม?”
ฉันขออนุญาตเขาเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
“ไม่ได้นะครับ มันอันตราย อยู่ใกล้ ๆ
พวกเราไว้ดีกว่านะครับ” ซันจิพูดด้วยสีหน้าที่ดูตึงเครียดเล็กน้อย
“อื้อ...” ฉันตอบรับอย่างไม่เต็มใจนัก
“ไว้เสร็จงานแล้วผมจะพาไปเที่ยวนะครับ ถ้าโรบินจังอยากไป”
ซันจิยิ้มอย่างอ่อนโยน ปราศจากความหื่นเหมือนทุกที
ทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจกับภาพที่ได้เห็นอยู่นิด ๆ เขาเองก็ทั้งหล่อและเท่เหมือนกันนะ
น่าแปลกที่ปกติฉันมองไม่เห็นมันเลย อีกอย่างก็เป็นสุภาพบุรุษต่างจากภาพที่เคยเห็นตอนเจอกันครั้งแรก
“ขอบใจนะ” ฉันยิ้มบาง ๆ ตอบไป ถึงเป้าหมายจริง ๆ
ที่ขอออกไปข้างนอกจะขอไปเพื่อหาทางไปสืบข้อมูลก็ตาม
แต่ตอนนี้คงสืบอะไรได้ยากแล้วล่ะนะ เรื่องให้แฉมีอยู่อีกไหมเนี่ย?
สมองส่วนหนึ่งของฉันบอกว่า มันไม่มีหรอก เจ้านายงี่เง่าเขาคิดไปเองว่ามี(?)
♪~
‘นึกถึงก็โทรมาเลยนะ’ ฉันมองเบอร์ที่โชว์อยู่ ซึ่งก็เป็นเบอร์ของบอสที่ไม่ได้ติดต่อกันนานพอสมควร
ฉันไม่ได้เข้าบริษัทนานแล้วด้วยสิ
“ซันจิ นายเข้าห้องอัดไปก่อนเถอะ
ถ้าคุยโทรศัพท์เสร็จฉันจะตามไป” ฉันบอกกับซันจิ โดยยังไม่กดรับสาย
“ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวผมจะอยู่เป็นเพื่อน
คอยเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ก็ได้ ถ้าโรบินจังอยู่คนเดียวผมเป็นห่วงนะครับ” สีหน้าเขาดูจะเป็นห่วงจริง
ๆ นั่นแหละ แต่ฉันก็ไม่สามารถคุยโทรศัพท์ต่อหน้าเขาได้
ถ้าไม่รับเขาก็อาจสงสัยอีก...เอาไงดีเนี่ย?
“งั้นก็ได้จ้ะ...” ฉันตอบไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก่อนจะกดรับสาย “สวัสดีค่ะ คุณลุง” ฉันตอบพลางเบาเสียงของอีกฝ่ายให้เบาลงและเดินออกมาห่าง
ๆ
〔เรียกใครว่าลุงกัน นิโค โรบิน
หายไปนานแล้วยังมา...〕
“ใจเย็น ๆ ก่อนสิคะ ช่วงนี้ฉันมีปัญหาน่ะค่ะ
แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ วงแบดบอยเขาช่วยปกป้องฉันอยู่ค่ะ ไว้เรื่องทุกอย่างดีขึ้นแล้ว
ฉันจะไปเยี่ยมนะคะ” ฉันพูดไปยิ้มไป
〔หืม?...เฮ้อ...ไว้มาอธิบายทุกอย่างด้วยล่ะ〕
“ค่ะ ^^” ฉันตอบรับ ก่อนเขาจะวางสายไป
หลังจากวางสายแล้ว
ฉันกับซันจิจึงเดินเข้าไปในห้องอัดเสียง
วงแบดบอยทั้งสี่คนยืนประจำที่ในห้องอัดเสียง ทีมงานคนอื่น ๆ
ก็เตรียมพร้อมทำหน้าที่และการอัดเสียงก็เริ่มขึ้น ฉันยืนฟังพวกเขาอยู่ที่ไกลสุดและห่างจากพวกทีมงาน
เพราะไม่อยากไปเกะกะสายตาเขา แค่พวกแบดบอยขอให้ฉันมาด้วยก็เกรงใจจะแย่แล้ว
“♪...”
ฉันฮึมฮัมตามที่พวกเขาร้องอยู่เบา ๆ ฟังบ่อยจนติดหูซะแล้วสิ
การอัดเสียงเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งสี่เดินออกมาจากห้องอัดเสียงเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบโดยที่พวกเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ
แต่ก็กลายเป็นภาพที่น่ารักและหาได้ยากดี
“หึ...” ฉันหลุดหัวเราะเบา ๆ
จนพวกเขาพากันมองมาอย่างสงสัย
“เดี๋ยวเชิญไปลองชุดที่จะใช้ถ่าย MV พรุ่งนี้ทางนี้นะคะ”
ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะเดินนำพวกเขาไป
“รีบไปสิ” ฉันพูดขึ้นและยิ้มบาง ๆ
เมื่อพวกเขายังมองฉันอย่างจับผิด
“หัวเราะอะไรของเธอ?” โซโลถามพลางขมวดคิ้วเป็นปม
“ไม่มีอะไรนี่...รีบไปเถอะซันจิ ^^” ฉันยิ้มให้ซันจิพลางจับมือเขาแล้วดึงให้เดินตามผู้หญิงคนเมื่อกี้ไป
“มือของโรบินจัง ♥” ซันจิยิ้มด้วยหน้าหื่น ๆ เหมือนทุกที
พลางทำตัวย้วยไปมา
“เฮ้ย!” เสียงเอสดังตามหลังมาอย่างไม่พอใจนัก
ฉันกับซันจิเข้ามาในห้องแต่งตัวตามด้วยเอส ลอว์
และโซโล ผู้หญิงคนนั้นวางชุดไว้ให้แต่ละคน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“เธอก็ออกไปได้แล้ว คิดจะดูผู้ชายเปลี่ยนเสื้อผ้ารึไง?”
โซโลพูดพลางมองฉันด้วยสายตาดุ ๆ
“ใครจะไปอยากดู นายนี่มัน...ใส่ความฉันตลอดเลย”
ฉันขมวดคิ้วมองเขาอย่างเคือง ๆ
“แต่ถ้าเธออยากดูฉันก็ยินดีให้ดูนะ”
เอสพูดและมองมาทางฉัน ก่อนจะยิ้มกริ่ม
“ผมด้วยครับบบ” ซันจิเองก็ตามน้ำไปกับเอส
“เฮ้อ...” ลอว์ถอนหายใจแล้วหลับตาลง
‘มีแต่คนบ้าเต็มไปหมดเลย!’
ฉันรีบเดินออกไปจากห้องแต่งตัว
ฉันไม่รู้จะโต้กลับหรือทำหน้ายังไงแล้วเลยออกมารอหน้าประตู แต่ไม่ทันไรซันจิก็เดินตามออกมา
“โรบินจังครับ หมอนั่นมันปากเสียก็จริง
แต่อย่าไปใส่ใจเลยนะครับ ไม่ต้องออกมาแบบนี้หรอกครับ ผมบอกแล้วว่ามันอันตราย อย่าอยู่ห่างพวกเราสิครับ”
ซันจิพูดอย่างใจเย็นด้วยท่าทีเป็นห่วง
“ฉันไม่อยากอยู่ให้เขาว่าหรอกนะ
เดี๋ยวก็หาว่าฉันหน้าด้าน ไม่ก็ว่าฉันโรคจิตอีก ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”
ฉันพูดพลางกอดอกและหันไปทางอื่น
“งั้นเดี๋ยวผมจะไปเปลี่ยนชุดอีกห้องแล้วกันนะครับ
คุณโรบินจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว” พูดจบซันจิก็เข้าไปเอาชุดในห้อง ไม่ถึง 2
วิก็กลับออกมาอย่างรวดเร็ว
“...” ฉันมองตามเขานิ่ง ๆ
“มาครับ” ซันจิจับมือฉันและพาฉันเข้าไปอีกห้อง
”เอ่อ...ฉันรอตรงนี้นะ” ฉันพูดพลางหันหลังให้เขา
จะให้ฉันมาดูนายเปลี่ยนชุดรึไงเนี่ย?...
ซันจิยิ้มขำ ๆ ก่อนจะเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนหลังม่านที่ทำไว้สำหรับเปลี่ยนชุด
เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เปลี่ยนชุดจนเสร็จแล้วเดินออกมา
“โรบินจังครับ เป็นไงบ้างครับ?”
เมื่อได้ยินเสียงของเขา ฉันจึงหันไปมองเขาที่จัดคอเสื้ออยู่
“อื้ม...ก็ปกติดีนะ” ฉันมองชุดของเขาที่ก็ไม่ต่างจากสไตล์ที่เขาแต่งเป็นปกติ
“แค่ปกติเองเหรอครับ” ซันจิทำหน้าหงอยลงไปทันตา
“...” ฉันหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “เดี๋ยวต้องไปซ้อมเต้นต่อไม่ใช่เหรอ
รีบเปลี่ยนชุดกลับเถอะ”
“ครับ” ซันจิยังทำหน้าหงอยไม่เลิก
แต่ก็ยอมกลับไปเปลี่ยนชุดอย่างว่าง่าย
หลังจากเสร็จงานทุกอย่าง ซันจิก็พาฉันกลับมาที่คฤหาสน์ของเขา
แต่ที่ต่างจากครั้งก่อนที่เคยมาคือ วันนี้พ่อและพี่น้องของซันจิอยู่กันครบเลย
สีผมนี่สุด ๆ ไปเลย
“ชื่อโรบินสินะ สนใจจะเดตกับฉันไหม?”
ฉันมองชายคิ้วม้วนผมเขียวหรือยงจิที่ทำหน้าตาหื่น ๆ ไม่ต่างกับซันจิเลย
“อย่ายุ่งกับโรบินจังนะเฟ้ย”
ซันจิเตะเก้าอี้ที่คนคนนั้นนั่งอยู่จนเก้าอี้เลื่อนออกไปอยู่ปลายโต๊ะ
แล้วซันจิก็เอาเก้าอี้อีกตัวมานั่งแทน
“หน๋อย แก!”
แล้วทั้งสองคนนั้นก็นั่งทะเลาะกันต่อไป
“เธอเป็นอะไรกับซันจิงั้นเหรอ?” คุณเรย์จูที่นั่งอยู่อีกข้างของฉันกระซิบถามฉันเบา
ๆ
“ถ้าถามว่าเป็นอะไรก็...ผู้ติดตามล่ะมั้ง”
ฉันหัวเราะเบา ๆ “หรือไม่ก็เพื่อนนั้นแหละ”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ
ถ้าไปชอบซันจิเข้าก็คงจะปวดหัวน่าดู” เธอพูดแล้วหัวเราะคิกคัก
“หยุดพูดเลยนะเรย์จู!”
ซันจิแหวดใส่เรย์จูต่อ
“พอได้แล้วน่า” ชายคิ้วม้วนผมแดงหรืออิชิจิพูดขึ้นนิ่ง
ๆ อย่างรำคาญ
“กินข้าวกันเถอะน่า”
ชายคิ้วม้วนผมน้ำเงินหรือนิจิพูดขึ้นอีกคน
“เอาล่ะ เลิกทะเลาะกันแล้วกินข้าวกันได้แล้ว”
ผู้เป็นพ่อพูดขึ้น ก่อนคนอื่น ๆ จะเริ่มทานกัน
หลังทานอาหารกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง
ส่วนฉันก็ต้องเดินตามซันจิไปอย่างรู้หน้าที่
“เดี๋ยวสิ”
เสียงของเรย์จูทำให้ฉันและซันจิหยุดเดิน “ให้โรบินนอนห้องฉันดีกว่านะ”
“ไม่ได้หรอก
เดี๋ยวเธอก็เอาเรื่องอะไรมาเล่าให้โรบินจังฟังอีก
แล้วอีกอย่างฉันมีหน้าที่ที่ต้องปกป้องโรบินจังให้ดี” ซันจิปฏิเสธอย่างจริงจัง
“นอนกับซันจิก็ระวังด้วยนะ” เรย์จูกระซิบกับฉัน
ก่อนซันจิจะดึงมือฉันให้เดินตามไป
“โรบินจังครับ ผม...ขอนอนด้วยได้ไหมครับ”
ซันจิพูดขอขึ้นด้วยท่าทางน่าเอ็นดู
“ถ้าสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรฉันก็ได้อยู่หรอกนะ” ฉันยิ้มขำ ๆ
กับท่าทีที่ดูน่ารักของเขา มันเลยอดใจอ่อนไม่ได้ อีกอย่างเตียงก็ใหญ่มาก มาก มาก
และเป็นเตียงของเขาอีก ก็คงไม่เป็นไรหรอก และฉันก็...นอนกับพวกแบดบอยอยู่ทุกวันนี่นา
รู้สึกเหมือนเป็นทำเนียมในการคุมกันฉันไปในตัวด้วยซะแล้ว
“ค...ครับ” ซันจิขึ้นมานอนข้าง ๆ ฉัน แต่เว้นระยะห่างกันระยะหนึ่ง
“ฝันดี” ฉันนอนหันหลังให้เขาและหลับตาลง
.
.
.
ส่วนทางด้านซันจิก็เอื้อมมือมาทำท่าจะกอดโรบิน แต่ก็ดึงมือกลับไป ชายหนุ่มพลิกตัวหันหลังให้อีกฝ่ายพลางนอนดิ้นไปมาด้วยความเขินอะไรสักอย่างของเขา คืนนั้นกว่าเขาจะหลับได้ก็เกือบจะโต้รุ่ง
☆★☆★
ชื่อตอนเกิดจากไรท์เห็นว่ามีแต่คนตีกันทั้งเรื่อง ไม่รู้จะตั้งว่าอะไรดี ใครมีความคิดที่ดีกว่า เสนอมาได้
ไรท์กลับมาแล้วนะ! อัพอีกทีก็สิ้นเดือน ยังสอบไม่หมดเลย
ส่วนคำผิด ไรท์จะมาเช็คทีหลังนะ
รีดเดอร์ก็กลับมาอ่านกันได้แล้วนะ
ความคิดเห็น