คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : My bad boy -...★☆ Chapter 13 ☆★ หนึ่งวันสบาย ๆ (เหรอ?)
My bad boy -...★☆ Chapter 13 ☆★
บทที่ 13
หนึ่งวันสบาย ๆ (เหรอ?)
เมื่อคืนฉันก็เก็บข้อมูลได้มาพอสมควร
และซันจิก็ให้คนจัดห้องให้ฉันอยู่ต่างหาก ถือว่าดีแล้วที่เขาไม่คิดจะทำอะไรฉัน
ไม่งั้นคงลำบากอยู่ ถึงเขาจะไม่เคยปล่อยให้ผู้หญิงหลุดมือ
แต่ก็ไม่เคยบังคับและให้เกียรติผู้หญิง ถือเป็นข้อดีของเขา แต่เพราะฉันไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนจึงต้องอาบน้ำแล้วใส่ชุดเดิม
“โรบินจัง อาหารเช้าครับ” ซันจิหมุนตัวมาหยุดข้าง ๆ
เก้าอี้ที่ฉันนั่งอยู่ ก่อนจะวางจานอาหารหน้าตาน่าทานลงตรงหน้าฉัน
“ขอบใจจ้ะ” ฉันยิ้มบาง ๆ ให้เขา
“ทานให้อร่อยนะครับ~” ซันจิหมุนตัวไปนั่งฝั่งตรงข้าม
“จ้ะ ^^” ฉันตอบก่อนจะลงมือทาน “อร่อยมากเลยล่ะ” ฉันพูดต่อหลังชิมไปคำนึง
“ดีใจจังเลยครับ~❤”
ฉันกินจนเกือบหมดแล้ว
แต่อยู่ ๆ ก็มีทหารโคนที่หน้าตาเหมือน ๆ
กันหมดคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพลางพยายามห้ามชายอีกคนที่เอะอะโวยวายเข้ามา
“เฮ้ย! ไอคิ้วม้วน
นี่มัยจะไม่เลยเวลาไปหน่อยเหรอฮะ!?”
เจ้าของหัวมอสนั่น...ไม่สิ โซโลโวยวายขึ้นเมื่อเดินเข้ามาถึง
“แกมาบ้านฉันถูกได้ไงเนี่ย แปลกใจจริง ๆ”
ซันจิเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ
“ฉันมีระบบนำทางเฟ้ย เลิกแปลกใจเวอร์ ๆ สักที!” โซโลโวยต่อ
ก่อนจะหันมามองฉัน “ไปได้แล้ว” โซโลฉวยข้อมือฉันไป ก่อนจะลากให้เดินตามไป
“เฮ้ย เดี๋ยวสิวะ
แกจะมาฉุดโรบินจังแบบนี้ไม่ได้นะ” ซันจิลุกขึ้นโวยต่อ
“แกหมดสิทธิ์ตั้งแต่เมื่อวานแล้วเฟ้ย”
โซโลหันไปตอบ ก่อนจะลากฉันเดินต่อ
“เดี๋ยวสินาย เบา ๆ ก็ได้”
ฉันแทบถลาไปตามแรงอีกฝ่ายและเขาก็เดินเร็วมาก
“รีบ ๆ เดินตามมาละกัน” โซโลหันมามองฉัน
ก่อนจะปล่อยมือออก แล้วเดินนำไป
โซโลพาฉันกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
ฉันให้เขาเข้ามารอในห้องรับแขก แล้วจึงเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องนอน
ก่อนจะเดินกลับมาหาเขาอีกครั้ง ซึ่งเขาดันนอนหลับอยู่บนโซฟาทั้ง ๆ ที่ฉันก็เปลี่ยนชุดแค่ไม่นานแท้
ๆ
“นาย...” ฉันเขย่าตัวเขาเบา ๆ
“จะว่าไปเธอก็ไม่เคยเรียกชื่อฉันเลยนะ...”
ร่างหนาที่นอนอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“นายไม่ได้หลับหรอกเหรอ?”
“หลับแล้ว ตื่นแล้ว...ฉันว่าฉันเคยบอกชื่อเธอไปแล้วนะ
เธอลืมรึไง ถึงไม่เรียกน่ะ?” โซโลจ้องเข้ามาในตาฉัน
“ก็ไม่ได้ลืมหรอก
แค่...ไม่ชินล่ะมั้ง...อยากให้เรียกงั้นเหรอ” ฉันพูดจบแล้วยิ้มมุมปาก
“ก...ก็...แค่รู้สึกแปลก ๆ น่ะ ที่เธอเอาแต่เรียก
นาย ๆ” โซโลหันไปมองทางอื่น แต่ก็ไม่อาจปิดบังหน้าที่ขึ้นสีแดงจาง ๆ
จากสายตาฉันได้
“นายก็ไม่ได้เรียกชื่อฉันเหมือนกันนะ” ฉันยิ้มบาง
ๆ พลางมองเขา
“...โรบิน” เขาเอ่ยชื่อฉันเบา ๆ
“ว่าไง โซโล?” ฉันยิ้มบาง ๆ มองคนที่นอนอยู่
“หนังที่เธอเคยไปถ่ายกับฉันครั้งก่อน
ไปดูด้วยกันไหม?”
“อื้อ ไปสิ ^^”
ฉันยืนรอโซโลที่ไปซื้อน้ำกับป๊อปคอร์นพลางมองไปรอบ ๆ
บริเวณหน้าทางเข้าโรงหนังในห้าง ปกติฉันไม่ค่อยได้มาดูหนังที่โรงหนังเท่าไหร่
แต่ก็อยากเห็นผลงานที่ตัวเองมีส่วนร่วม เลยอยากมาดูสักหน่อย
“ป๊อปคอร์น...” โซโลที่ถือป๊อปคอร์นพร้อมกับแก้วน้ำสองแก้วมา ยื่นป๊อบคอร์นมาให้ฉัน
“ไม่ล่ะ ขอแค่น้ำก็พอ” ฉันปฏิเสธและรับน้ำมาจากมือของเขา
“งั้นเหรอ...ใกล้จะได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ” โซโลพูดก่อนจะเดินนำไป
“โซโล...ทางนี้ต่างหาก” ฉันพูดพลางชี้ไปอีกทาง
“ก...ก็แค่เดินไปดูทางอื่นบ้าง” โซโลตอบพลางเหงื่อตก ก่อนจะเดินไปตามที่บอก
“☺...” ฉันมองตามพลางหัวเราะเบา ๆ แล้วเดินตามไป
ฉันกับโซโลมานั่งประจำที่ในโซนที่สามารถดูได้ชัดที่สุด
ภายในโรงหนังอยู่ในความมืด
มีแค่แสงสว่างจากจอขนาดใหญ่ที่กำลังเริ่มฉายหนังเท่านั้น
เรื่องเริ่มมาโดยมีนางเอกเป็นโบอา แฮนค็อก ดาราหญิงที่สวยที่สุด
และพระเอกของเรื่องก็...นายหัวเขียวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“นายนี่แสดงเก่งเหมือนกันนะ” ฉันพูดกับคนข้าง ๆ เบา ๆ
“ก็มันเป็นงานของฉันอยู่แล้ว แปลกตรงไหน”
“งั้นคงแปลกตั้งแต่ที่คนแบบนายมาทำงานแบบนี้สินะ”
“คนแบบฉัน?” โซโลเลิกคิ้วสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอก ดูต่อเถอะ” ฉันยกยิ้มมุมปาก
ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปดูหนังต่อ
ฉันหันกลับมาสนใจภาพบนจอต่อ ตอนนี้เป็นตอนที่ฉันแสดงแทนแฮนค็อก
ซึ่งดูไปแล้วเราก็คล้ายกันมากเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จริง ๆ ก็คงดูไม่ออก
เพราะทั้งมุมกล้องและเทคนิคต่าง ๆ ก็ช่วยปิดบังเต็มที่
“เธอเองก็แสดงได้ดีเหมือนกันนี่ ไม่บอกคงไม่รู้ว่าแสดงครั้งแรก” โซโลเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณที่ชมนะ ☺ เป็นเพราะนายส่งอารมณ์มาดีต่างหากล่ะ
อย่างกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเลยนะ”
“...งั้นเหรอ” โซโลตอบนิ่ง ๆ พลางหันไปมองจอต่อ
“นายเป็นอะไรรึเปล่า?” ฉันเอียงหน้าไปมองเขา
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ตั้งใจดูไปเถอะ คงไม่ได้แสดงบ่อย ๆ หรอก” โซโลตอบนิ่ง
ๆ
“นั่นสินะ ☺” ฉันตอบพลางหันไปดูหนังต่อ
หลังจากหนังและเพลงจบลงไฟภายในโรงหนังก็ถูกเปิดจนสว่างทั่วทั้งโรง
ผู้คนต่างทยอยลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินออกไป
คนที่นั่งโซนด้านหน้าของพวกเราเริ่มหันกลับมาด้านหลัง เมื่อฉันหันไปมองคนข้าง ๆ
ทำให้นึกบางอย่างได้ จึงกอดให้หัวของเขาซุกอยู่กับอกฉัน
“...!? อำอะไออองเออเอี่ย” โซโลโวยพลางดิ้นอยู่อย่างนั้น
แต่ฉันก็ยังคงไม่ปล่อย
“ทนแป๊บนึงสิ...” ฉันเหลือบมองคนที่หันมามองและเดินผ่านไป
จนทุกคนออกไปหมดจึงปล่อยอีกฝ่ายออก
“จะฆ่ากันรึไง -///-*” เขาบ่นต่อพร้อมกับหน้าที่ขึ้นสีอย่างปิดไม่ได้
“ฉันแค่ช่วยนายต่างหาก
พวกนายไม่อยากให้คนอื่นเห็นหน้าเวลาไปไหนไม่ใช่รึไง
แล้วมานั่งแบบไม่ปลอบตัวอะไรแบบนี้ ไม่คิดรึไงว่ามันจะเกิดความวุ่นวายน่ะ”
ตอนที่ซื้อตั๋วมีคนอยู่น้อยจึงไม่มีปัญหาอะไร
และตอนที่เข้ามาในโรงหนังภายในก็มืด ทำให้ไม่มีใครสังเกต แต่ตอนหนังจบนี่สิจะกลายเป็นจุดสังเกตได้
คนอะไรไม่รู้จักระวังหรือปลอมตัวเอาซะเลย
“ง...งั้นเหรอ ขอบคุณนะ...” เขาพูดพลางเหลือบมองไปทางอื่น
“แล้วตอนออกไปนายจะทำยังไงล่ะ?”
“...นั่นสิ” โซโลเงียบอย่างใช้ความคิด “ทำแบบเมื่อกี้อีก...” โซโลพูดค้างไว้แล้วเหลือบมามองฉันที่มองเขากลับด้วยสายตานิ่ง
ๆ “ไม่ได้สินะ... ._.”
“หัวเขียว ๆ แบบนายคงซ่อนยากหน่อยนะ...”
“...” โซโลคิ้วกระตุกเหมือนโดนฉันหลอกด่า(?)
“ถ้ารีบ ๆ เดินผ่านไป ไม่สบตาใคร อาจไม่มีใครสังเกตก็ได้
ฉันว่านั่งอยู่ในนี้ไปนาน ๆ ก็ไม่ดี เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาแล้ว”
“งั้นรีบออกไปจากที่นี่ก่อนละกัน” โซโลพูดพลางลุกขึ้นยืน
แล้วรีบเดินออกไป ฉันเร่งฝีเท้าเดินไปให้ทันเขา จนเราออกมาข้างนอกห้าง
♪~
เสียงโทรศัพท์ของโซโลดังขึ้น ก่อนเขาจะกดรับสาย
ฉันพยายามตั้งใจฟังถึงแม้จะไม่ค่อยได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ก็ตาม
“ว่าไงนะ...เข้าใจแล้ว
ส่งที่อยู่มา เดี๋ยวฉันจะจัดการให้” โซโลตอบ แล้วเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิม
ก่อนจะยิ้มมุมปาก นั่นยิ่งทำให้ฉันสงสัยเข้าไปอีก
“มีธุระที่ต้องไปทำงั้นเหรอ?” ฉันเอ่ยถามขึ้น
“อ่า...เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอก่อนละกันนะ...”
“อื้ม...”
โซโลขับรถมาส่งฉันที่หน้าคอนโด ก่อนจะรีบขับรถออกไปที่ไหนสักแห่ง
คิดว่าฉันจะยอมให้คนที่มีพิรุธแบบนี้รอดพ้นไปจากสายตาได้เหรอ
ฉันเรียกรถแท็กซี่มาแล้วตามเขาไปห่าง ๆ เขาต้องปิดบังอะไรอยู่แน่ ๆ
รถของโซโลมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านทรงญี่ปุ่นหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ไกลจากถนนสายหลัก
ตลอดทางที่ผ่านมาเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ถ้ามองให้เป็นสิ่งที่สวยงามก็จะเป็นบรรยากาศที่สงบดี
แต่ถ้ามองอีกมุมมันก็วังเวงดีเหมือนกัน
หลังจากฉันจ่ายเงิน แท็กซี่ก็รีบขับออกไปทันที ว่าจะบอกให้รอก่อนแท้ ๆ
รีบไปไหนของเขาเนี่ย แล้วเดี๋ยวฉันจะกลับยังไง ไม่ค่อยมีรถผ่านมาด้วยสิ...
แต่เอาไว้ก่อนเถอะ ฉันรีบตามไปดูสถานการณ์ข้างหน้าว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรที่นี่
“ก...แกเป็นใคร”
ชายที่แต่งตัวเหมือนซามูไรจับดาบข้างตัวขึ้นมาในท่าทางที่ระแวง ส่วนฉันก็แอบดูทางช่องหน้าต่างอยู่เงียบ
ๆ พร้อมกับโทรศัพท์ที่ยกขึ้นมาถ่ายวิดีโอไว้
“เป็นยมทูตที่จะมาเอาชีวิตแกไงล่ะ” โซโลแสยะยิ้มอย่างดูน่ากลัว
ก่อนจะเข้าไปฟันอีกฝ่ายที่ยกดาบขึ้นมากัน แต่ก็กันไม่อยู่เพราะดาบถูกฟันจนหัก
“...” ฉันยกมือขึ้นปิดปากเมื่อเลือดสาดออกมาจากการฟันของโซโล
ฉันก้าวถอยหลังออกมาพร้อมกับกดปิดโทรศัพท์ แล้วรีบวิ่งออกไป
ถ้ายังอยู่ตรงนี้เขาอาจจะออกมาเห็นก็ได้
‘น่ากลัว...เขาเป็นคนที่น่ากลัวมาก...จิตสังหารของเขารุนแรงมาก
เหมือนไม่มีความเมตตาอยู่ในหัวใจยังไงอย่างนั้น’
ฉันรีบวิ่งไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้จนเลี้ยวมาพ้นถนนสายนั้น ข้างทางเริ่มมีร้านค้าและบ้านเรือน ก่อนฉันจะถูกหยุดลงด้วยการไปชนเข้ากับอกแกร่งของใครบางคนที่ขวางอยู่จนตัวฉันเกือบล้มลงไป
แต่ดีที่เขาโอบเอวฉันไว้ซะก่อน
“โอ๊ย!...ขอโทษค่ะ...” ฉันเงยหน้ามองอีกฝ่าย ก่อนจะเบิกตาด้วยความตกใจ
คนตรงหน้าไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เป็นคนที่ฉันรู้จัก
“เธอมาทำอะไรแถวนี้น่ะ?” เขาเอ่ยถาม
“อ...เอส? แค่หลงน่ะ...” ฉันไม่รู้จะโกหกว่ายังไง ก็เลยตอบส่ง ๆ ไป
“เธอหลงทางงั้นเหรอ?...” เอสทำหน้าประหลาดใจ ในขณะที่ฉันกำลังจะตอบ
แต่เขาก็พูดขึ้นต่อซะก่อน “หรือว่าหลงฉันกันล่ะ...” เขายกยิ้มเจ้าเล่ห์
“...” ฉันมองด้วยหน้าที่ชา ๆ
เขาพูดอะไรของเขาเนี่ย เล่นเอาฉันไปต่อไม่ถูกเลย “ปล่อยฉันได้แล้ว”
ฉันดันตัวเขาออก ซึ่งฉันก็หลุดออกจากอ้อมแขนเขาอย่างง่ายดาย
เพราะเขาไม่ทันได้ออกแรงอะไร
“ไม่ตอบแสดงว่าใช่สินะ~”
“พอเลย นายกะจะโผล่มากวนฉันทุกวันเลยรึไง ไม่ใช่วันของนายสักหน่อย
วันจันทร์ก็ครั้งนึงแล้ว”
“ฉันไม่ได้จะมากวนสักหน่อย แค่ผ่านมาแถวนี้พอดี
ส่วนวันจันทร์ก็แค่ไปรับลูฟี่เองไม่ใช่รึไง”
“เหรอ...แย่งลูฟี่กินซะขนาดนั้น - -”
“มันเป็น...”
“เธอ...เอส...” เอสพูดยังไม่ทันจบก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน
ทำให้ฉันและเอสหันไปมองเสียงคนที่ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงรถที่จอดลง
“โซโล...” เอสเอ่ยเรียก ฉันมองคนมาใหม่อย่างสั่น ๆ
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เห็น
“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?” โซโลหันมาถามฉัน
“ค...คือฉัน...” ฉันก้าวถอยออกมาก้าวนึง
“อ๋อ โรบินบอกว่าหลงน่ะ” เอสตอบแทนฉัน ก่อนฉันจะหันไปมองค้อนเขาเล็ก ๆ
“งั้นเหรอ ต้องให้ดูแลตลอดเลยนะ” โซโลถอนหายใจเบา ๆ
แต่ท่าทางที่หนักใจแบบนั้นมันอะไรกัน “ฉันขอตัวยัยนี่ไปก่อนนะ” เขาพูดต่อ ก่อนจะดึงข้อมือฉันให้ตามเขาไปที่รถ
“จะไปไหน?” ฉันพูดพลางพยายามแกะมือเขาออก
“ก็กลับคอนโดไง ขึ้นไปบนรถซะ” โซโลพยายามพาฉันขึ้นมอเตอร์ไซค์ราคาแพงของเขา
“ฉันกลับเองได้ ปล่อยเถอะ...” ฉันยื้อไว้พลางพยายามแกะมือเขาออก
ใจฉันยังสั่นเพราะเรื่องตอนนั้นไม่หาย
ถึงสิ่งที่เขาแสดงออกกับฉันตอนนี้จะไม่มีความน่ากลัวอยู่เลยก็เถอะ
“ดื้อจริงเลยเธอเนี่ย!” โซโลยกตัวฉันขึ้นนั่งบนรถ
ก่อนเขาจะขึ้นนั่งซ้อนและคร่อมตัวฉันไว้กันหนี
“โซโล ปล่อยเถอะ...” ฉันยังคงไม่เลิกดิ้น ถึงมันจะไม่เป็นผลก็ตาม
“ไปก่อนนะ...” เขาหันไปลาเอสที่ยืนมองอยู่ แล้วซิ่งรถออกไป
หลังจากขับรถมาจนถึงที่คอนโดโซโลก็ลากข้อมือฉันมาจนถึงหน้าห้องของฉัน
ก่อนเขาจะยอมปล่อยมือออก
“คงไม่หลงแล้วสินะ...” เขาพูดขึ้น
ใครหลงกัน - - กล้าพูดนะ ตลอดทางก็พาฉันหลงไม่ใช่รึไง?
“อื้อ...” ฉันขมวดคิ้วเล็ก ๆ พลางตอบไป ก่อนจะหันไปเปิดประตูเข้าห้อง
“เดี๋ยวสิ...” โซโลดึงข้อมือฉันให้หันกลับไป
“อะไร...O_O” เมื่อฉันหันหน้ากลับไป
ปลายจมูกของฉันก็ไปชนกับแก้มของอีกฝ่ายพอดี ทำให้ฉันรีบขยับออกห่าง
“...ไม่มีอะไร” โซโลเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบปัด ๆ แล้วเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง
“นี่มันอะไรเนี่ย” ฉันพึมพำพลางมือข้างหนึ่งเปิดประตูห้องเข้าไปข้างใน
อีกมือยกขึ้นกุมหน้าตัวเอง
นี่มันวันอะไรกัน
☆★☆★
ขอโทษที่อัพช้าไป 2 อาทิตย์นะคะ ไรท์ติดค่ายช่วงต้นเดือนไปประมาณสัปดาห์
และตัน ๆ คิดไม่ค่อย + อัพอีกเรื่องด้วย ขอโทษจริง ๆ ค่ะ
ชอบใครก็ร่วมโหวตพระเอกกันได้เลยในคอมเมนท์นะคะ
อีก 4 ตอนก็จะปิดโหวตแล้วนะ มาให้กำลังใจว่าที่พระเอกกัน
ความคิดเห็น