คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : My bad boy -...★☆ Chapter 9 ☆★ ผู้ชายหน้านิ่ง
My
bad boy -...★☆ Chapter 9 ☆★
บทที่
9
ผู้ชายหน้านิ่ง
♪~
ในขณะที่ฉันกำลังดูข่าวในโทรทัศน์อยู่นั้น
เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายของเบอร์แปลก ๆ ที่ไม่คุ้นตา
“สวัสดีค่ะ”
〔นิโคยะ
เธอเตรียมตัวเสร็จรึยัง〕
“นั่นใครเหรอ? ลอว์รึเปล่า?”
〔ใช่ ฉันเอง ถ้าแต่งตัวเสร็จแล้ว
ลงมารอหน้าคอนโดนะ เดี๋ยวฉันไปรับ〕
“ฉันนึกว่านายไม่สนใจบทลงโทษแบบนี้ซะอีก
...คิดว่าวันนี้จะรอดแล้วเชียว” ประโยคหลังฉันพูดเบา ๆ
ปกติคนอื่น ๆ
จะรีบมาหาฉันหรือตามจิกฉันตั้งแต่เช้า แต่นี่สายแล้ว เขาเพิ่งจะโทรมา
ฉันก็คิดเองเออเองว่า เขาอาจจะสละ ไม่ใช้สิทธิ์
แล้วฉันก็จะรอดพ้นจากการเป็นผู้ติดตามไปหนึ่งวัน
〔ถ้าฉันได้ประโยชน์
ทำไมฉันต้องปล่อยให้มันหลุดลอยไปล่ะ... ฉันกำลังจะไปรับ〕เขาพูดจบก็ตัดสายไปเลย
ฉันก็อยากจะอยู่เฉย ๆ สบาย ๆ สักวัน
ทำไมต้องเข้าไปยู่ในวงจรชีวิตพวกเขาด้วย จะมีวันหยุดบ้างไหมเนี่ย! = =
“เธอกินอะไรรึยัง?”
ลอว์ถามฉันขึ้นในขณะที่เขากำลังขับรถ
“ฉันกินแล้วล่ะ” ฉันตอบนิ่ง ๆ
“แต่ฉันยังไม่กิน”
‘แล้วจะบอกฉันทำไม’ ฉันก็ได้แต่คิดในใจ
“...”
“...”
“เดี๋ยวฉันต้องไปซ้อมเต้นสำหรับเพลงใหม่
ต้องแวะไปซื้อของเผื่อเจ้าพวกนั้นด้วย” เขาพูดต่อหลังจากบรรยากาศเงียบไปสักพัก
“อื้ม” ฉันไม่รู้จะตอบอะไรจึงตอบไปสั้น ๆ
ทำไมฉันรู้สึกเกร็ง ๆ แบบนี้นะ
“...” และก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
จนเดินทางไปถึงห้างกลางเมือง
ฉันเดินตามหลังลอว์ที่เดินดูรายการที่จดไว้ในสมุดโน้ตเล่มเล็ก
ๆ อีกทั้งยังใส่ฮู้ดคลุมหัวไว้ แบบนั้นเขาจะไม่คิดว่าโจรเหรอ(?)
ฉันสังเกตเห็นคนอื่นหันมามองในแวบแรกที่เขาเห็นผ่าน
ๆ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก จึงหันกลับไป ลอว์หยิบขนมซองใส่ตะกร้า
ฉันมองเขาอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจเดินไปใกล้ ๆ
“นี่นายเอาฮู้ดลงเถอะ”
ฉันพูดพลางจับเสื้อส่วนที่เป็นฮู้ด ก่อนจะดึงลง
“อย่านะ!” เขารีบห้ามพลางจับฮู้ดเอาไว้
ไม่ให้ฉันถอด
“ทำไมล่ะ?
เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยว่านายจะมาขโมยของเอานะ”
“ช่างเขาสิ - - ถ้าเธอถอดออกจะเป็นปัญหามากกว่า”
“ทำไม?” ฉันขมวดคิ้ว
“เธอลืมไปแล้วรึไงว่าฉันเป็นใคร
ถ้าคนอื่นเห็นหน้าฉันหรือรู้ว่าฉันคือใคร มีหวังไม่ได้ซื้อของแน่”
เขาพูดพลางหยิบของลงตะกร้า
อ๋อ คงกลัวพวกแฟนคลับเห็นแล้วจะมาตามกรี๊ดสินะ
เอ๊ะ!
หรือว่ากลัวเจ้าหนี้ตามทวงหนี้นะ(?)
“ขนาดนั้นเลยเหรอ...อย่างนายเนี่ยนะ?”
มันจะเป็นเหตุวุ่นวายขนาดนั้นเลยเหรอ กับแค่เห็นนักร้อง...
“...อย่างฉันแล้วมันทำไม - -” เขาเหลือบมอง
“เปล่านี่...” ฉันทำเป็นมองอย่างอื่น
มือก็หยิบจับของไปเรื่อย
“จะจับของอีกนานไหม ฉันต้องไปซื้ออย่างอื่นอีก”
“...” ต...ตาบ้า นายทำให้ฉันดูแย่! ฉันไม่น่าพูดกับเขาเลย
ตอนแรกก็ดีอยู่แล้ว พอเริ่มพูดหน่อย ก็โดนตอกกลับอีก หมั่นไส้
ตั้งแต่ที่คอนเสิร์ตครั้งก่อนแล้วนะ ฉันต้องเอาคืนให้ได้...สักวันหนึ่ง
“รู้แล้ว” ฉันเดินตามไป ถึงสีหน้าจะเรียบเฉย
แต่แววตาฉันก็สะท้อนความไม่พอใจออกมาบ้าง
“หึ...”
พึ่บ!
ฉันมองอย่างตกใจเล็กน้อย
เมื่อคนที่เดินสวนมาและถือของจนล้นมือ เดินเฉียดไหล่ลอว์ไป ของที่เขาถือก็ไปติดกับฮู้ดของลอว์ทำให้มันลากให้ฮู้ดตกลงมา
ลอว์หันมามองเขาโดยอัตโนมัติ ซึ่งคนคนนั้นก็รีบขอโทษ
“ขอโทษครับ ๆ เป็นอะไรไหมครั----” อยู่ ๆ
คำพูดของเขาก็ขาดตอน
“ไม่เป็นไร...” ลอว์ตอบสั้น ๆ และกำลังจะเดินไป
“นั่นใช่ลอว์วงแบดบอยใช่ไหมครับ?” เขาจ้องมองหน้าของลอว์
“อ...” ลอว์พยายามจะปฏิเสธ
แต่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้วเพราะคนแถวนั้นต่างหันมามองเขากันทั้งนั้น และตามด้วย...
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”
“ท่านลอวววววว์”
เสียงดังจนแก้วหูฉันแทบแตก
แต่ระหว่างที่ฉันกำลังสนใจเสียงของเหล่าแฟนคลับพวกนี้ ลอว์ก็ดึงข้อมือฉันให้วิ่งตามเขาไป
“นี่นายจะวิ่งไปไหน”
“ก็วิ่งไปไม่ให้โดนรุมน่ะสิ อย่าถามมากเลยน่า”
“แล้วจะหนีไปไหนล่ะ ออกจากห้าง?”
“ก็ไม่แน่...”
“คงไม่ได้หรอก ทางออกคนเยอะจะตาย
มีหวังโดนล้อมมากกว่า” เราวิ่งไปพูดไปตามโซนที่เราซื้อของอยู่เมื่อกี้
“ฉันก็ไม่คิดจะออกไปหรอก ฉันต้องซื้อของก่อน”
หน้าที่สำคัญสินะ - -
“ทางนี้” ฉันดึงข้อมือตัวเองกลับมา
เพื่อให้เขาตามฉันมาแทน
ฉันวิ่งมาทางโซนขายเสื้อผ้า
ซึ่งก็มีเสื้อผ้ามากมายและมีที่ทางให้เดินหลายทางแต่แคบกว่าโซนก่อนหน้านี้
ทางนี้น่าจะหลบได้ง่ายกว่า การจะวิ่งให้หลุดจากการไล่ตามคงยาก นอกจากจะหาที่หลบ ให้พวกเขายอมถอดใจไปเอง
กึก...
ฉันปิดประตูห้องลองชุดลง
ซึ่งเป็นห้องลองชุดของผู้หญิง
ก็ฉันเป็นผู้หญิงนี่จะให้ไปซ่อนที่ห้องลองชุดของผู้ชายได้ไงกัน แต่...
“นี่มันห้องลองชุดผู้หญิงนะ เธอคิดจะทำอะไร
ยัยโรคจิต”
“ฉันไม่ได้คิดอะไรบ้า ๆ แบบนายหรอกน่า - -
ถ้าว่าฉันอีกที ฉันจะส่งตัวนายให้พวกแฟนคลับรุม” ฉันมองอย่างคาดโทษ
“แต่นี่มัน...”
“ก็นี่มันที่ซ่อนที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้
เขาคงไม่คิดว่านายจะมาซ่อนในห้องลองชุดของผู้หญิงหรอก”
“...” ในที่สุดเขาก็ยอมสงบปากสงบคำ
ฉันแนบหูฟังเสียงข้างนอกประตู แต่เสียงข้างนอกก็ยังคงดังอยู่
ฉันเอนหลังชนผนังแล้วมองเขาพลางขมวดคิ้ว
“มีอะไร?” เขาถามนิ่ง ๆ
“เปล่า...” ก็ฉันหมั่นไส้นี่ พวกนี้ชอบว่าฉันจริง
ๆ เหน็บกันเก่ง แถมเขาก็ชอบระแวงฉันไม่ต่างจากโซโล
“ดูก็รู้ว่ามี”
“เปล่า---“
ฟึบ!!
ไม่ทันสิ้นเสียงพูด อยู่ ๆ ไฟก็ดับ นี่มันวันอะไรกันเนี่ย
“ไฟดับแบบนี้ เราน่าจะหนีออกไปได้นะ”
เขาพูดพลางแง้มประตูออกไป
แอ๊ด...
กึก...
แต่ก็ปิดประตูลงทันที
“มีอะไรเหรอ?”
“พวกเขาเปิดไฟฉายที่มือถือ...”
“แล้วแบบนี้จะได้ออกไปไหมเนี่ย?”
ฉันบ่นพึมพำพลางไถลตัวกับผนังลงนั่งกับพื้นในห้องลองชุดที่พอจะนั่งได้
เพราะห้องก็ไม่ได้แคบขนาดนั้น
“นั่นเธอทำอะไร?”
เขาคงถามขึ้นเพราะได้ยินเสียงที่หลังฉันถูกับผนัง
“นายจะระแวงอะไรฉันขนาดนั้น?”
“ฉันไม่ได้ระแวง ฉันแค่...”
“แค่...?”
“ช่างเถอะ อย่าถามมา---“
กึก...ปึง!
เขาขยับทั้งที่มองไม่เห็นเลยทำให้เขาสะดุดขาฉันแล้วล้มลง
มือหนายันเข้ากับผนังข้าง ๆ ตัวฉันอย่างรู้สึกได้ แบบนี้แสดงว่า... ฉันมองไปตรง ๆ
ในความมืด
“เธออยู่นี่เหรอ...”
เขาใช้มืออีกข้างคว้าหาตัวฉัน ก่อนจะจับเข้าที่ต้นแขนฉัน
“อ...อื้ม” ฉันพยายามจะขยับตัวออก
แต่เข่าฉันก็ไปโดนขาเขา ถึงจะแค่เบา ๆ แต่ก็พอจะเดาได้
“อย่าขยับสุ่มสี่สุ่มห้าสิ”
เขาพูดพลางยันมือที่จับต้นแขนฉันไปที่ผนังแทน
เสียงเขาใกล้มาก ๆ
ฉันควรออกจากระยะนี้...แต่ขยับตัวสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้... จริงสิ ฉันมีโทรศัพท์นี่
แต่ว่า...ฉันวางกระเป๋าไว้ตรงไหนในห้องลองชุดเนี่ย
“บอกว่าอย่าขยับไง” เขาพูดขึ้นเมื่อฉันพยายามควานหาโทรศัพท์
“ฉันแค่จะหาโทรศัพท์ ถ้ามีไฟ
เราจะได้ขยับออกจากกันได้”
“งั้นเอาโทรศัพท์ฉันก็ได้ อยู่ในกระเป๋ากางเกง”
“นายก็เอาออกมาสิ”
“ทำได้ที่ไหนเล่า ที่ฉันยันผนังไว้
ก็เพื่อไม่ให้ล้ม ถ้าปล่อยก็อาจจะล้มทับเธอก็ได้ ฉันอยู่ในสภาพที่ทรงตัวไม่ถนัดนักนะ”
“ปล่อยข้างเดียวก็ได้นี่”
“มันล้วงกระเป๋าไม่ถนัด นี่มันกางเกงยีนส์นะ
เธอจะเอาไหมโทรศัพท์น่ะ?”
“ก็ได้...” ฉันถอนหายใจ “แล้วกระเป๋าไหนล่ะ?
ฉันจะหาเจอไหม - -?”
“กระเป๋าขวา ขวามือเธอน่ะ”
ฉันเอื้อมมือไปจับแขนเขาที่อยู่ทางขวาของฉัน เพื่อหาตำแหน่งตัวเขาก่อน
ฉันค่อย ๆ เลื่อนมือไปตามแขนเขา แล้วเลื่อนจากไหล่ ไปตามข้าง ๆ ตัวเขา
“นิโคยะ อย่าลูบสิ...แค่แตะ ๆ ก็พอ”
พ...พูดอะไรของเขาเนี่ย พ...พูดแบบนี้ออกมาทำไม ฉันรู้สึกแปลก
ๆ ที่หน้าจังเลย
“ข...ขอโทษ .///.”
ฉันค่อย ๆ ขยับมือไปที่ละนิด แค่พอแตะโดนตัวเบา ๆ
แล้วขยับมือออกห่าง จนในที่สุดก็มาถึงต้นขา...หมายถึง บริเวณกระเป๋าน่ะ...
“ได้รึยัง?...”
“กำลังหยิบ...” ฉันพยายามหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขา
แต่มันก็แคบจริง ๆ นั่นแหละ
ฟึบ!
แสงสว่างที่ส่องลงมาทำให้ฉันเห็นเสื้อผ้าและกางเกงคนตรงหน้าได้อย่างชัดเจน...นี่ไฟติดแล้วนี่...
“...”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองตามร่างที่อยู่เหนือตัวฉัน
จนไปสบตากับสายตาที่อยู่เหนือหัวฉันพอดี
หน้าเขาอยู่บนหัวฉันพอดีห่างจากหัวฉันเพียงคืบเดียว
ถ้าไม่เงยหน้าไปมองก็คงจะดีอยู่แล้วเชียว...
“...” เขาเองก็มองฉันเงียบ ๆ ฉันรีบดึงมือออกเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามือฉันมันอยู่ในลักษณะที่ไม่ดีเท่าไหร่
อาจทำให้เขาเหน็บฉันอีกก็ได้
แล้วเมื่อไหร่เขาจะขยับออกไปล่ะเนี่ย!?
ฉันเองจะพูดก็พูดไม่ออก จึงหันหน้าหนีแทน
“...” ลอว์ลุกขึ้นก่อนจะไปแง้มประตูดู “ข้างนอกทางสะดวกแล้ว
รีบเอาของไปจ่ายเงินเถอะ” เขาพูดพลางเอาฮู้ดคลุมหัวแล้วเดินออกไป
ฉันลุกแล้วเดินตามเขาออกไป
เรารีบจ่ายเงินแล้วออกจากห้างไป ก่อนที่จะมีใครสังเกตแล้วจับได้อีก
ฉันกับลอว์ถือของเดินเข้าไปในห้องซ้อมเต้นที่ตอนนี้คนอื่น
ๆ กำลังต่างคนต่างซ้อมกันอยู่ คงเพราะต้องรอให้ครบก่อนถึงจะซ้อมจริง ๆ
“ของกินมาแล้ว”
ลูฟี่เป็นคนแรกที่วิ่งตรงมาหาพวกเราและรีบเปิดดูของในถุง
“โรบินจรวงงงงงงง”
ซันจิเป็นอีกคนที่รีบพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ก่อนจะเดินวนไปวนมารอบตัวฉัน
“ทำบ้าอะไรของแกไอ้กุ๊กหื่น”
โซโลพูดขึ้นพลางมองด้วยสีหน้าเบื่อโลก
“หาเรื่องเหรอฟะ!” ซันจิหันขวับไปเขม่นใส่
ฉันหันไปมองคนอีกคนที่ไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ เอสยืนขยับขาไปมาเป็นสเต็ปอยู่หน้ากระจกบานใหญ่
ฉันมองเงาเขาที่สะท้อนอยู่ในกระจก แต่บังเอิญที่เขาก็เหมือนจะมองฉันอยู่เหมือนกัน
“นิโคยะ เธอนั่งรอตรงนี้นะ เดี๋ยวฉันไปซ้อมก่อน”
“จ้ะ...” ฉันยิ้มบาง ๆ
“ลูฟี่ไปซ้อมก่อน ค่อยมากิน นายก็ด้วยซันจิ”
ลอว์พูดพลางลากลูฟี่ไปประจำที่
“ผมไปซ้อมก่อนนะครับโรบินจัง
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ” ซันจิจับมือฉันเบา ๆ ก่อนจะกลับไปซ้อม
ระหว่างนั่งดูพวกเขาซ้อมอยู่
ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าฉันลืมอะไรบางอย่างไป นั่นคือ...การสืบเรื่องของลอว์
แล้วฉันจะหาข้อมูลจากไหนล่ะ กุญแจรถเขาฉันก็ไม่มี ของทุกอย่างเขาก็พกติดตัว
ทางที่ดีที่สุดคงต้องหาทางไปบ้านเขาให้ได้
“นิโคยะ...นิโคยะ ๆ” ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
เมื่อรู้สึกถึงเสียงเรียกและการสัมผัสที่ไหล่
“O_O”
เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เจอกับดวงตาอีก 4 คู่ กับ 1 ข้าง กำลังมองฉันอยู่
“วันนี้ฉันคงต้องซ้อมดึก
เดี๋ยวฉันพาเธอไปส่งก่อนนะ” ฉันหันไปมองลอว์
“อ...อื้ม” ฉันตอบรับไปอย่างว่าง่าย
เพราะเพิ่งตื่นจึงไม่อยากคิดอะไรมาก
“ขอโทษที่ทำให้เธอรอนานนะ” รอจนหลับไปเลยล่ะ
“อื้อ ไม่เป็นไรหรอก...” เอ๊ะ...เดี๋ยวสิ
นี่เขาจะไปส่งฉันที่บ้านเหรอ? ฉันยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยนะวันนี้
“เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่อยากกลับ”
ฉันจับแขนลอว์ที่กำลังขับรถอยู่ “พาฉันไปบ้านนายก่อนก็ได้...”
-0- นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย มันตรงเกินไป
“...นี่เธอคิดอะไรกับฉันรึเปล่า?”
เขาหันมามองตาฉัน... แต่อยู่ ๆ มันก็ทำให้ฉันคิดถึงเรื่องที่ไฟกับตอนนั้น...
“บ้า! ใครจะไปคิดแบบนั้นกับนายกัน”
“แล้วจะไปทำอะไรที่บ้านฉัน”
“ก็...ฉันแค่ไม่อยากกลับ เลยพูดไปงั้นแหละ
แต่ตอนนี้ฉันอยากกลับแล้ว” ฉันนั่งกอดอก
“เปลี่ยนใจเร็วดีนะ...”
ลอว์ขับรถจนมาถึงคอนโดที่ฉันอยู่ รถคันหรูเคลื่อนมาจอดในที่ว่าง
ฉันลงจากรถเขาและกำลังจะปิดประตู
“ไว้โอกาสหน้าฉันจะพาเธอไป ‘บ้าน’ ฉันละกันนะ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ฉันล่ะอยากจะเอาอะไรฟาดเขาจริง ๆ เลย
“รีบกลับไปซ้อมเถอะ
มัวแต่อู้ เดี๋ยวก็เต้นผิดอยู่คนเดียวหรอก” ฉันพูดแล้วปิดประตูลง ก่อนจะเดินหันหลังให้
ตาบ้าลอว์นี่...
☆★☆★
ความคิดเห็น