ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic one piece] รักแบดๆของ my bad boy (All x Robin)

    ลำดับตอนที่ #10 : My bad boy -...★☆ Chapter 5 ☆★ ยอดกุ๊กสุดหื่น(?)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.31K
      68
      19 พ.ค. 63

    My bad boy -...★☆ Chapter 5 ☆★

    บทที่ 5

    ยอดกุ๊กสุดหื่น(?)

              เช้าวันใหม่ที่เหมือนจะสดใส แต่สำหรับฉันคงไม่ใช่เท่าไหร่ ฉันตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาอาบน้ำแต่งตัว รอรับมือกับคนพวกนั้น... ก็พวกแบดบอยนั่นแหละ หลังจากเมื่อวานที่ฉันโดนบุกถึงห้อง ฉันก็ไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่ ถึงฉันจะล็อคประตูระเบียงไปแล้วก็เถอะ ไม่รู้วันนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

    กริ๊ง~

              เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น วันนี้วันอังคาร ซันจิสินะ จะมาไม้ไหนเนี่ย... ทำไมฉันถึงได้ระแวงพวกนี้ขนาดนี้นะ

              ฉันเดินไปที่ประตูก่อนจะส่องตาแมว และเป็นซันจิจริง ๆ ที่ยืนอยู่ เขาใช้มือจับขอบแว่นที่เขาใส่มาเพื่อให้มันเข้าที่ แล้วยิ้มแปลก ๆ แต่ดูแล้วเหมือนคิดอะไรอยู่ คงไม่พ้นการหลงตัวเองแน่

              ฉันตัดสินใจเปิดประตูออกไป ก่อนท่าทางของอีกฝ่ายที่วางมาดไว้ซะเท่จะเปลี่ยนเป็นพวกหื่นกามในชั่วพริบตา(?) อย่างตาเป็นรูปหัวใจและทำหน้าหื่นแปลก ๆ แต่อีกฝ่ายก็รีบปรับตัวสู่สภาพเดิม ถึงจะยังไม่เนียนก็เถอะ

              “สวัสดีครับโรบินจัง ^^ วันนี้แต่งตัวน่ารักมากเลยครับ” อีกฝ่ายโค้งตัวพลางพูดเสียงหวาน

    “จ้ะ ^^;” เขาเป็นผู้ชายแปลก ๆ สินะ ฉันแค่แต่งตัวธรรมดา ๆ เอง

    “ขออนุญาตเข้าไปข้างในได้ไหมครับ~ _” เขาเริ่มมีอาการลั้ลลาอีกแล้ว

    “เชิญจ้ะ” ฉันเปิดประตูออกให้เขาเข้ามาข้างใน ก่อนจะปิดประตูลง “วันนี้ไม่มีงานเหรอ” ฉันพูดพลางเดินนำเขาไปนั่งที่โซฟาห้องรับแขก

    “มีครับ แต่เป็นงานช่วงบ่ายครับ”

    “งั้นเหรอจ๊ะ แล้วทานข้าวเช้ารึยังจ๊ะ?”

    “ทานมาแล้วคร้าบ~

    “งั้นจะหาของว่างมาให้นะ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม”

    “ผมขอกาแฟละกันครับ”

    “รอสักครู่นะ”

    “คร้าบ~ _

    ฉันเดินเข้ามาในห้องครัวก่อนจะหยิบกาแฟมาชงใส่แก้วสองแก้ว และเอาคุกกี้มาจัดใส่จาน แล้วจะยกไปวางที่โต๊ะกาแฟในห้องรับแขก

    “ขอบคุณคร้าบ~” ซันจิพูดพลางยกแก้วกาแฟขึ้นมาและมองตามฉันตาเยิ้มแล้วดื่มกาแฟในแก้ว ฉันเดินมานั่งโซฟาตัวด้านข้างก่อนจะยิ้มบาง ๆ ตอบเขา

    “ผมมีเรื่องจะถามนะครับ” สักพักซันจิก็พูดขึ้น ในขณะที่เปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติ

    “อะไรเหรอ?”

    “ก่อนมาที่นี่ผมผ่านหน้าบริษัทที่ผมสังกัดอยู่เห็นพวกนักข่าวกำลังรุมสัมภาษณ์ลูฟี่อยู่ เกี่ยวกับผู้หญิงในคลิปเสียง นั่นใช่คุณรึเปล่า...”

    “คลิปเสียง?” คลิปเสียงอะไรกัน

    “ถ้าคุณเปิดเน็ตดูก็น่าจะรู้ ข่าวพวกนี้เร็วอยู่แล้ว”

    นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?

    ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาคลิปที่ว่า โดยใช้คำค้นหาเป็นชื่อของลูฟี่และมันก็ขึ้นเว็บต่าง ๆ เกี่ยวกับลูฟี่ ซึ่งข่าวที่แชร์กันเกี่ยวกับคลิปเสียงก็มีอยู่ว่อนเน็ต

    ฉันเปิดคลิปเสียงให้ทั้งฉันและซันจิได้ยิน

    …‘มีอะไรเหรอลูฟี่?

    เราจะไปกินที่ไหนดีล่ะ

    อื้ม...

    ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ

    ใจเย็น ๆ สิ เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว ฉันมีที่ใกล้ ๆ นะ

    เนื้อนุ่มรึเปล่า

    นุ่มสิ อร่อยด้วย

    น่ากิน *0* เราไปกินกันเถอะ

    ฉันจะคอยบอกทางให้นะ…〙

    นี่มัน...ตอนที่คุยกันในรถนี่ แย่แล้ว! เพราะพูดจากำกวมสินะ มันเลยฟังออกไปในทางไม่ดี แต่ว่า...คลิปเสียงนี่มาได้ยังไงกัน ไม่ใช่ฝีมือฉันกับลูฟี่แน่ ๆ เขาคงไม่ทำให้ตัวเองเสียหาย...

    จะว่าไปตอนที่ลงจากรถที่ร้านอาหาร ก็เหมือนมีอะไรตก เป็นไปได้ว่าจะเป็นเครื่องดักฟัง ส่วนเอาไปติดไว้ตอนไหน ก็น่าจะเป็นตอนที่ลูฟี่ถ่ายโฆษณาอยู่ เพราะฉันมั่นใจว่าฉันเก็บกุญแจไว้ถูกกระเป๋าแล้ว คนที่ใส่ผิดกระเป๋าต้องเป็นเขาแน่ ๆ แต่นี่ก็เป็นแค่ข้อสันนิษฐานของฉันเท่านั้น

    มีคนคิดร้ายกับลูฟี่งั้นเหรอ?

    “โรบินจัง...” ซันจิโบกมือไปมาตรงหน้าฉัน

    หลังจากฉันอ่านในเว็บรวมทั้งฟังคลิปนั้นทำให้สมองฉันมันพยายามประมวลผลหาเหตุผลที่เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ฉันอยู่ในความคิดของตัวเองเลยเผลอเงียบไปนาน

    “จ๊ะ...” ฉันมองอย่างงง ๆ เมื่ออีกฝ่ายเรียกฉันขึ้นมา

    “มันอาจทำให้คุณลำบากใจ แต่ผมก็อยากฟังความจริงจากปากคุณว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ซันจิถามอย่างร้อนรนและเอาจริงเอาจังอย่างอยากรู้ให้ได้

    “มันก็เป็นเสียงฉันจริง ๆ นั่นแหละ...” ฉันตอบด้วยสีหน้านิ่ง ๆ

    ...” ซันจิอ้าปากค้าง สีหน้าบ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อ 

    “แต่ที่เราคุยกันนั้นเป็นเรื่องที่ฉันจะพาลูฟี่ไปเลี้ยงข้าว ไม่ใช่เรื่องอะไรแบบนั้นเหมือนที่คนอื่นคิด”

    “จริงเหรอครับ!?” ซันจิเบิกตากว้าง

    ...” ฉันพยักหน้ารับเบา ๆ

    ...ผมดีใจที่สุดเลย~” ซันจินิ่งค้างไปสักพักก่อนจะดีดตัวขึ้นมาหมุนตัวเป็นพายุพลางทำตาเป็นรูปหัวใจแล้วมานั่งที่แขนโซฟาที่ฉันนั่งอยู่

    “...” ฉันไม่ได้สนใจอีกคนเท่าไหร่ แต่เป็นห่วงลูฟี่มากกว่า จะเป็นอะไรไหม?

    “โรบินจังครับ?...” อีกฝ่ายเรียกฉันเบา ๆ

    “ฉันต้องไปแก้ข่าวให้ลูฟี่” ฉันลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู

    ปล่อยไว้แบบนี้เขาก็จะเสียชื่อเสียง ฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุทำร้ายชีวิตเขา แบบนั้นฉันก็คงรู้สึกผิดแย่ ถึงเดิมที เหตุผลที่ฉันมาอยู่ตรงนี้เพราะต้องการจะแฉพวกเขาก็เถอะ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดแบบนี้

    “ไปไม่ได้นะครับ” ซันจิวิ่งมาคว้าแขนฉันไว้

    “แต่ฉันเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์นะ ฉันก็มีส่วนผิด” ฉันยังคงฝืนที่จะเดินออกไป

    “ผมรู้ว่าคุณก็รู้สึกผิด แต่ตั้งสติก่อนสิครับ” ซันจิจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันให้หันไปเผชิญหน้ากับเขา

    “...” ฉันมองหน้าเขาทั้งที่ในใจยังคิดจะต่อต้าน

    “ถ้าคุณไปแล้วนักข่าวหันมาสนใจคุณมันจะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าเขารู้ว่าคุณคือผู้หญิงคนนั้นเรื่องมันไม่จบง่าย ๆ แน่ และมันจะนำไปสู่เรื่องอื่น ๆ แทน ทีนี้มันจะไม่ใช่แค่เรื่องคลิปเสียงแน่”

    “...” การที่เขาพูดมาแบบนี้มันทำให้ฉันได้สติคืนมา ฉันคิดตามและคิดต่อจากที่เขาพูด มันจะกลายเป็นเรื่องแบบไหนบ้าง ไม่อยากจะคิดเลย...

    “คุณรออย่างใจเย็นดีกว่านะครับ ทางนั้นให้ลูฟี่กับผู้จัดการเป็นคนเคลียร์เถอะครับ ไม่ต้องห่วง” เขายิ้มบาง ๆ มาให้ฉัน

    “...อื้ม นั่นสินะ ^^” ฉันยิ้มตอบ ฉันจะพยายามอดทนอยู่เฉย ๆ

    o///o...” อยู่ ๆ อีกฝ่ายก็มีอาการแปลก ๆ หน้าแดงขึ้นมา

    “เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ?” ฉันเอียงคอมองอีกคน

    “เปล่าครับ ๆ” ซันจิกระโดดถอยหลังออกจากฉันพลางปัดมือพัลวันก่อนจะเอามือปิดจมูกแล้วหันหลังไป

    “...?” ฉันมองอย่างงง ๆ

    เขาเป็นอะไรของเขา?

    “แน่ใจนะ?”

    “ค...ครับ” เมื่อเขาหันหน้ากลับมา ฉันถึงกลับตกใจ เพราะมีเลือดออกทางจมูกเขา นี่เขาเป็นอะไร? อันตรายรึเปล่า?

    “เลือดนายออกน่ะ...รอแป๊บนะ” ฉันรีบไปเอาทิชชู่มาซับให้อีกคน แต่แค่แป๊บเดียวเขาก็ถอยหลังออกเล็กน้อยจนฉันเช็ดไม่ถนัด

    “อย่าขยับสิ...” ฉันดึงแขนอีกคนให้มานั่งที่โซฟาก่อนฉันจะนั่งลงข้าง ๆ และจับหน้าเขาไว้เบา ๆ พลางใช้อีกมือหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดให้ใหม่

    “ซ...ซันจิ ไหวไหม?” เขาไม่ขยับก็จริงอยู่ แต่เลือดมันไหลหนักกว่าเดิมนี่สิ แถมเขายังหายใจแปลก ๆ ทำหน้าแปลก ๆ ด้วย

    “ไหวคร้าบ~” เขาตอบเสียงใสก่อนจะล้มลงหน้าซบไหล่ฉัน

    “ซันจิ...” ฉันเรียกพลางเขย่าเขาเบา ๆ ก่อนจะจับตัวเขาออกจากไหล่ฉันทำให้เห็นว่าเขาสลบไปแล้ว ฉันจับเขานอนลงบนโซฟาก่อนจะจัดการเช็ดเลือดและเอายาดมให้ดมพลางพัดให้

    อาการน่าเป็นห่วงนะเนี่ย...

     

     

    “...โรบินจัง” อีกฝ่ายลืมตาขึ้น ฉันยิ้มบาง ๆ ให้คนที่นอนหนุนตักฉันอยู่ ฉันเป็นคนจับเขามานอนตอนที่เขายังสลบอยู่ “แอ่ก...สลบต่อดีกว่า” เมื่อรู้ตัวว่านอนอยู่บนตักฉันเจ้าตัวก็ทำท่าจะสลบอีกครั้ง

    “เที่ยงแล้วนะ” ฉันพูดให้เขารู้ตัวว่าใกล้เวลาทำงานแล้ว

    “งั้นผมทำอาหารเที่ยงให้โรบินจังทานดีกว่า” ซันจิเด้งตัวลุกขึ้น

    “เกรงใจจัง...”

    “ผมเต็มใจครับ ขอยืมครัวหน่อยนะครับ เดี๋ยวจะโชว์ฝีมือทำอาหารให้คุณทานเอง”

    “งั้นให้ฉันเป็นลูกมือนะ”

    “ตกลงครับ” ซันจิยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินไปที่ห้องครัวพร้อมกับฉัน

    เขามอบหมายหน้าที่ให้ฉันอย่างชำนาญ ฉันทำตามอย่างรู้หน้าที่ และคอยส่งวัตถุดิบและเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้เขา ในเวลาไม่นานอาหารก็ถูกจัดลงจานไปแล้วหลายเมนู มื้อนี้ถือเป็นมื้อที่หรูที่สุดเท่าที่เคยทานในคอนโดตัวเองเลย

    “หอมน่าทานจัง” ฉันยืนข้าง ๆ ซันจิพลางมองซุปที่เขากำลังทำอย่างสนใจ

    “ลองชิมดูสิครับ ^^” ซันจิตักซุปมาจ่อปากฉัน ก่อนฉันจะชิมซุปที่อีกฝ่ายป้อนให้

    “อร่อยมากเลย ^^

    “นอกจากอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ด้วยนะครับ โรบินจังไปรอที่โต๊ะเถอะครับ เดี๋ยวผมยกตามไป”

    “จ้ะ ^^

     

    อาหารมื้อนี้อร่อยจริง ๆ ต้องขอบคุณซันจิเขาที่ทำของอร่อยให้ทาน >< ฉันน่ะทำอาหารไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเขาด้วยซ้ำ แถมเขายังอาสาล้างจานเองทั้งหมดอีก ถึงบอกว่าจะช่วยแต่เขาก็ไม่ยอม ฉันเลยมานั่งเช็คข่าวตามอินเทอร์เน็ต เผื่อจะมีข่าวอัพเดทเรื่องลูฟี่ ปัญหาจะเคลียร์ รึยังนะ

    พยานออกมาโต้ คลิปเสียงเป็นการเข้าใจผิด

    ฉันคลิกเข้าเว็บ ก่อนจะเลื่อนลงดูข้อความในเว็บ ทำให้เห็นหน้าผู้หญิงสองคนที่คุ้นตา ภาพนั้นทำให้ฉันนึกออกว่าผู้หญิงสองคนนั้นคือคนที่ขอลูฟี่ถ่ายรูปเมื่อวาน เธอให้หลักฐานที่เป็นเวลาที่ถ่ายรูปเทียบกับเวลาที่โพสต์คลิปมาเป็นพยานให้ และยังยืนให้อีกว่า ที่คนโพสต์คลิปกล่าวหาเป็นไปไม่ได้ คำที่ลูฟี่ให้สัมภาษณ์เป็นความจริง นี่มันแฟนพันธุ์แท้ลูฟี่ชัด ๆ แฟนคลับทำได้ขนาดนี้เลยสินะ ปกติจะเงียบไว้ก็ได้

    จากที่มีคนออกมายืนยันทำให้ข่าวนั้นได้ข้อสรุปและหมดคำถามไป กระแสก็ดูจะสงบลงหน่อย เท่าที่ดูจากคอมเมนท์ นักข่าวก็คงหยุดตามลูฟี่ไปแล้วมั้ง คงสบายใจได้หน่อย

    “เสร็จแล้วครับโรบินจัง” เสียงอีกคนดังออกมาพร้อมกับร่างที่เดินมาหาฉันที่ห้องรับแขก “ไปกองถ่ายกันเถอะครับ ใกล้ถึงเวลาแล้ว”

    “จ้ะ” ฉันเดินออกจากห้องพร้อมกับซันจิ ก่อนจะล็อคประตู แล้วเดินไปที่ที่จอดรถพร้อมเจ้าของรถ

    รถเริ่มเคลื่อนออกไป มีเป้าหมายคือ ชายหาดแองเจิ้ล เป็นชายหาดที่บรรยากาศดีมาก ทางรายการประชันเชฟ รายการแข่งทำอาหารที่ดีที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด ได้จัดการแข่งขันสำหรับถ่ายออนแอร์สดในรอบสัปดาห์นี้ขึ้นที่นี่ในหัวข้อการแข่งคือ อาหารทะเล และเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องตามเหล่าซุปตาร์พวกนี้ไปทำงานอย่างรู้หน้าที่เมื่อถึงที่หมายทางทีมงานก็รีบมาต้อนรับและนำตัวซันจิไปแต่งตัวเพื่อเข้าถ่ายทำ ส่วนฉันก็ถือโอกาสเดินสำรวจกองถ่ายเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ฉันคงหลอกถามข้อมูลบางอย่างจากคนในกองถ่ายได้ไม่ยาก เพราะทีมงานส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย J

    “พี่ทีมงานคะ ^^” ฉันยิ้มให้ทีมงานคนหนึ่งที่กำลังยืนมองไปรอบ ๆ บริเวณถ่ายทำ

    “ค...ครับ” เขาหันมามองฉันเหมือนจะประหม่าอยู่หน่อย ๆ

    “ได้ทำงานร่วมกับวงแบดบอยนี่ดีจังเลยนะคะ” ฉันระบายยิ้มบาง ๆ

    “ใคร ๆ ก็คิดแบบนั้นแหละครับ แต่ยิ่งทำงานกับคนดังยิ่งลำบาก”

    “ลำบากยังไงเหรอคะ?” ฉันตีหน้าสงสัย

    “ก็ทุกอย่างต้องเป๊ะต้องดีหมด ต้องระวังทุกอย่าง ต้องเคร่งครัดเป็นพิเศษ” เขาพูดแล้วถอนหายใจ

    “ก็ปกตินี่คะ?”

    “มันพิเศษตรงที่ต้องเซ็นสัญญาพร้อมกับเซ็นรับรองว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวทุกอย่างของพวกเขา พวกเขาจะทำอะไรก็แล้วแต่ จะไม่มีสิทธิ์ยุ่ง รวมทั้งห้ามนำเรื่องที่รู้ไปบอกใครเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบบไหน”

    “งั้นเวลาพวกเขาทำอะไรไม่ดีต้องเก็บเป็นความลับสินะคะ

    “ทำเหมือนไม่เห็นครับ”

    “ว่าแต่เคยทำงานกับใครในวงบ้างคะ”

    “แค่คุณซันจิแหละครับ”

    “งั้นคงไม่มีปัญหาอะไรสินะ ^^

    “คุณน่ะมองโลกในแง่ดีไปแล้ว”

    “เห?”

    “เรื่องผู้หญิงนะเรื่องใหญ่เลย ไม่เป็นอันทำงาน เขาไม่มีสมาธิเลย”

    “แบบนั้นก็แย่เลยนะ”

    “อ๊ะ! ผมต้องไปทำงานละครับ คุยเพลินเลย”

    “ตั้งใจทำงานนะ ^^” ฉันโบกมือเบา ๆ ให้ก่อนเขาจะเดินไป แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วปิดการบันทึกเสียง

    “โรบินจังคร๊าบบบ” มีเสียงเรียกดังมาจากด้านหนึ่ง ทำให้ฉันหันไปมอง

    “จ้ะ ^^” ฉันยิ้มให้ซันจิที่วิ่งตรงมาทางฉัน

    “ผมตามหาคุณแทบแย่ คุณมาทำอะไรแถวนี้ครับ”

    “แค่มาเดินเล่นนิดหน่อยเอง แล้วแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ”

    “ครับ ใกล้ถ่ายแล้วด้วย โรบินจังไปรอผมที่ห้องแต่งตัวนะครับ ผมถ่ายไม่นาน”

    “จ้ะ จะไม่เถลไถลแล้ว ^^” ฉันหัวเราะเบา ๆ

    “ผมไม่ได้ว่าโรบินจังนะครับ” ซันจิแก้ตัวพัลวัน “ผมแค่เป็นห่วง...”

    “ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอกจ้ะ ฉันไม่คิดมาก ไปทำงานเถอะ”

    “ครับ ผมไปนะ” ฉันโบกมือให้เขาเป็นการส่ง ก่อนจะเดินไปนั่งรอที่ห้องแต่งตัว

     

     

     

    “มาแล้วครับโรบินจัง” ฉันที่กำลังนั่งอ่านอะไรเพลิน ๆ ในโทรศัพท์ก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามา “ขอผมเปลี่ยนชุดแป๊บนึงนะครับ”

    “จ้ะ” ฉันตอบไป ก่อนเขาจะไปเปลี่ยนชุด ซึ่งไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย

    “โรบินจังหิวไหมครับ”

    “ไม่จ้ะ” ฉันยิ้มบาง ๆ “มีงานที่ไหนต่อรึเปล่า”

    “ผมมีอัดเสียงอัลบั้มใหม่ที่สตูดิโอนะครับ”

    “งั้นไปสตูดิโอกันเถอะจ้ะ จะได้ไปเตรียมตัวไว้ก่อนด้วย”

    “งั้นก็ได้ครับ ถ้าโรบินจังอยากได้อะไรก็บอกผมนะครับ”

    “โอเคจ้ะ ไปกันเถอะ” ฉันเดินนำซันจิออกไป ตอนนี้เลือดนักสืบฉันพุ่งพล่านไปทั้งตัวแล้ว

     

     



    ซันจิขับรถมาจอดที่ที่จอดรถของสตาร์โปรเจคก่อนเขาจะลงมาเปิดประตูรถให้ฉันเขาเดินนำฉันเข้าไปในตึกใหญ่ซึ่งเป็นค่ายที่เขาสังกัดอยู่ ที่นี่ทั้งหรูทั้งสูงไม่ต่างจากบริษัทที่ฉันอยู่เท่าไหร่ แต่ดูจะมีสไตล์ที่ดูดีกว่า ภายในก็ตกแต่งดูดีมาก บรรยากาศทำให้อยากมาทำงานจริง ๆ

    “เฮ้! ซันจิ” ฉันและซันจิหยุดเดินระหว่างทางเพื่อหันไปมองคนที่เรียกเขา

    “ไงลูฟี่...สวัสดีครับพี่ชาย ^^” ซันจิทักทายลูฟี่และเอสที่เดินมาด้วยกัน ทั้งสองยิ้มตอบโดยไม่พูดอะไรมาก

    “โรบิน! ดีใจที่เจอเธออีกนะ ^[++]^” ลูฟี่ยิ้มเห็นฟันตามแบบของเขา เมื่อเห็นฉันอยู่กับซันจิ

    “เช่นกันจ้ะ ^^

    “นึกว่าเธอจะหนีไปแล้วซะอีก” เอสยิ้มมุมปาก เจอกันก็หาเรื่องเลยสินะ

    “ฉันเป็นคนรักษาคำพูดอยู่แล้ว”

    “เธอคงจำไม่ได้ว่าเคยผิดสัญญาอะไรกับฉันไว้สินะ” นี่เขาจะพูดอะไรเนี่ย

    “นายพูดเรื่องอะไร” ทั้งซันจิและลูฟี่เริ่มมองเราอย่างงง ๆ

    “ให้ฉันเตือนความจำดีไหม” เขายื่นมือจะมาฉวยแขนฉันไป แต่ฉันไหวตัวทันไปกอดแขนซันจิไว้หลวม ๆ เพื่อหาที่พึ่ง

    “ซันจิเราไปกันเถอะ ยืนนาน ๆ เริ่มเมื่อยแล้ว” ฉันพูดอ้อนนิด ๆ

    “ค...คร้าบ ❤..❤” ซันจิพาฉันเดินต่อไปและทิ้งสองคนนั้นไว้ข้างหลัง ฉันเลิกสนใจเสียงโวยวายของไอคนชอบฉวยโอกาส(?) และเหมือนว่าซันจิจะเริ่มมีอาการหื่นขึ้นมาอีกแล้ว แต่ช่างเถอะ แค่หนีจากหมอนั่นได้ก็พอ




    ซันจิพาฉันเดินเข้ามาในห้องที่จะใช้อัดเสียง และก็พบว่ามีคนมารอในห้องอยู่ก่อนแล้ว ร่างสูงที่นั่งอยู่ที่โซฟาหันมามองเราสองคนนิ่ง ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

    “นายมานานรึยังน่ะ” ซันจิเอ่ยถามขึ้น

    ...สักพัก” เขาเลื่อนสายตาลงต่ำมาหยุดที่มือฉันที่กำลังกอดแขนซันจิอยู่ เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ มันทำให้ฉันรีบปล่อยมือออกทันทีที่รู้ตัว

    “มากันครบรึยัง?” เอสที่ตามเข้ามาพร้อมลูฟี่พูดขึ้น

    “ขาดหมอนั่นสินะ” ลูฟี่มองไปรอบ ๆ ก่อนจะหัวเราะร่ากับนิสัยที่ชอบมาช้าของเพื่อนคนหนึ่ง

    “เรามาซ้อมกันสักรอบเถอะ จะได้ไม่พลาด” เอสเรียกไปรวมทางด้านหนึ่ง 

    ทั้งลูฟี่และลอว์ก็เดินตามเอสไป เขาก็ดูมีความเป็ผู้นำดีนะ ฟังไม่ผิดหรอกลอว์อยู่ที่นี่นานแล้ว

    “โรบินจังครับ รอผมตรงนี้นะครับ”

    “ซันจิ ฉันอยากไปเข้าห้องน้ำน่ะ เดี๋ยวมานะ” ได้เวลาออกสำรวจแล้ว J

    “ไปถูกเหรอครับ เดี๋ยวผมพาไปดีกว่า”

    “ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้ นายไปซ้อมเถอะนะ ^^” เชื่อฉันสิ!

    “งั้นก็ได้ครับ มีอะไรโทรหาผมได้ตลอดนะ เดี๋ยวผมส่งเบอร์ไปให้” ซันจิหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรมาหาฉัน เมื่อเสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้นเขาก็กดวางไป

    “จ้ะ ^^ จะรีบไปรีบมานะ ตั้งใจซ้อมล่ะ”

    “คร้าบ~~~


    ฉันเปิดประตูออกจากห้อง แต่เกือบจะชะงักฝีเท้าไว้ไม่ทัน เมื่อเกือบจะชนคนที่กำลังเดินเข้าประตูมา หน้าเขาอยู่ในระดับสายตาฉันพอดี...เรือนผมสีเขียวเด่น...ตาที่บอดข้างหนึ่ง เจ้าคนที่ชอบจับผิด!

    ฉันตกใจอยู่หน่อย ๆ ที่เปิดประตูโผล่มาเจอเขาในระยะประชิด ไหนจะสายตาคมนั่นอีก ความน่าเกรงขามทำให้ฉันกลัวเขาอยู่หน่อย ๆ

    “เธอมาทำอะไรที่นี่?” เขาถามเสียงเรียบ

    “ฉันก็ตามหนึ่งในพวกนายมาไง” ฉันยิ้มบาง ๆ

    “แล้วจะไปไหน?” นายจะถามอะไรฉันนักหนาเนี่ย ฉันไม่ใช่นักโทษนะ

    “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ”

    “เหรอ?...==” ทำหน้าแบบนั้นไม่เชื่อสินะ เคยเชื่ออะไรฉันบ้างไหม? ...ไม่(?)

    “อื้อ ขอตัวก่อนนะ” ฉันเดินเลี่ยงเขาไปด้านข้าง เพราะเขาขวางฉันอยู่

    “เดี๋ยว!” เขาขยับมาขวางทางฉัน “เธอคงไม่ชินทาง เดี๋ยวฉันพาไป”

    “ฉันไปเองได้” ฉันเดินเลี่ยงไปอีกทาง

    “ฉันพาไปเร็วกว่า” เขาขยับมาขวางฉันไว้อีก

    “ไม่เป็นไร ฉันไม่รีบ” ฉันเดินเลี่ยงอีกครั้ง

    “ไม่ได้!” และเขาก็ไม่หยุดขวางฉัน

    “นี่นาย!...”

    “ทำไม? กลัวอะไรเหรอ?” เขายิ้มมุมปาก

    “เปล่า...ฉันไม่ปวดแล้ว” หมอนี่ยังไง! ฉันเดินกลับเข้าสตูดิโอ ไม่ไปมันแล้ว!

    “โรบินจัง กลับมาเร็วจังเลยนะครับ” ซันจิเดินออกจากวงสนทนามาหาฉัน

    “ยังไม่ได้ไปเลยจ้ะ”

    “ทำไมละครับ?” ซันจิและฉันหันไปมองคนที่เดินเข้ามาพอดี แต่ฉันเลือกที่จะหันหน้ากลับ “เพราะเจ้าหมอนี่สินะครับ” ฉันไม่ทันได้พูดอะไร ซันจิก็ตรงเข้าไปหาโซโล ฉันขี้เกียจเข้าไปยุ่งจึงไปนั่งที่โซฟา

    “ไอหัวมอส แกแกล้งอะไรโรบินจัง”

    “เปล่านี่”

    “โกหก”

    “ก็บอกว่าเปล่า”

    “บังอาจมาแกล้งเลดี้นะ ไอหัวสาหร่าย”

    “ใครจะไปหื่นเหมือนไอคิ้วม้วนล่ะฟะ”

    “ไม่เกี่ยวกันเลยเฟ้ย จะเอาใช่ไหมฟะ”

    “กลัวที่ไหนล่ะวะ”

    “พร้อมกันแล้วใช่ไหมทุกคน” มีชายคนหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะได้ทันก่อนที่สองคนนั้นจะตีกัน “ประจำที่ได้แล้ว เอ้า เร็ว ๆ หน่อยหนุ่ม ๆ” ฉันจำได้แล้วเขาคือผู้จัดการวง

    เมื่อเขาหันมาสังเกตฉัน ฉันก็ยกมือไหว้ตามมารยาทก่อนซันจิจะกระซิบบางอย่างกับเขา ซึ่งก็เป็นอันเข้าใจ เขาไม่ได้ถามอะไรอีกและเริ่มทำงานกัน

    เมื่อถึงเวลาทำงานพวกหนุ่ม ๆ ก็เข้าไปในห้องอัดเสียงและยืนประจำที่ ทีมงานต่าง ๆ รวมทั้งผู้จัดการเองก็ประจำที่เหมือนกัน ส่วนฉันก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมซึ่งตรงข้ามกับด้านที่พวกแบดบอยหันหน้ามาพอดี เรียกได้ว่าเห็นชัดสุด ๆ แต่ไม่น่าดีใจเลย ;-;

    ทุกอย่างอยู่ในความเงียบและการอัดเสียงก็เริ่มขึ้น เมื่อดนตรีดำเนินไปถึงท่อนร้อง เอสก็ร้องขึ้นเป็นคนแรก เนื้อร้องส่วนใหญ่จะเป็นเอสที่ร้อง ส่วนคนอื่นจะคอยเป็นคอรัสหรือร้องในบางท่อนให้ เพลงนี้คงแต่งให้เขาร้องโดยเฉพาะล่ะมั้ง ส่วนคนอื่นก็มาช่วยกัน วงนี้เป็นวงที่ช่วยสนับสนุนกัน พลัดกันขึ้นมาเด่นอะไรทำนองนั้น

    ฟังไปก็เพราะดีนะ นั่นสินะ...จะไม่เพราะได้ไงล่ะ ก็เขาเป็นนักร้องนี่นะ ฉันนั่งมองพวกเขาร้องเพลงเพลิน ๆ เวลาร้องเพลงกับเวลาอยู่นอกเวลางานเหมือนคนละคนกันเลยนะ ปกติราวกับปีศาจ แต่ร้องเพลงราวกับเทวดา มันทำให้คนที่ดูอยู่หลงเสน่ห์ได้เลย

    “เยี่ยมมากครับทุกคน”

    โปรดิวเซอร์พูดขึ้นหลังจากการอัดเสียงเสร็จเรียบร้อย ทั้งห้าคนก็ออกจากห้องอัดเสียง พร้อมกับที่ทีมงามและคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างนอกปรบมือให้พวกเขา และพวกเขาบางคนก็ก้มหัวเป็นการขอบคุณ ส่วนบางคนน่ะเหรอ...คงยึดคำว่า ไม่ก้มหัวให้ใคร เป็นคติละมั้ง

    “เดี๋ยวเราจะมีประชุมเรื่องโปรเจคนี้กันต่อนะ ทุกคนตามไปที่ห้องประจำด้วยล่ะ” ผู้จัดการพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับคนอื่น ๆ ตามด้วยพวกแบดบอยที่ทยอยเดินตามไป

    “โรบินจังครับ เชิญทางนี้ครับ” ซันจิผายมือให้ฉัน ฉันยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเดินไปตามคำเชื้อเชิญ

    “โรบินจังรอผมตรงนี้นะครับ มันเป็น...”

    “จ้ะ ฉันเข้าใจ เรื่องธุรกิจนี่นะ” ฉันพูดขัดขึ้นซะก่อน เพราะฉันเข้าใจดีเลยล่ะ ว่าคนนอกจะเข้าไปยุ่งไม่ได้

    “ครับ ถ้าเบื่อจะไปเดินเล่นก็ได้นะครับ แต่ส่งข้อความทิ้งไว้ด้วย” ฉันรู้สึกว่าเริ่มเหมือนเขาเป็นแฟนฉันแล้วนะ

    “จ้ะ ฉันรอได้” ฉันนั่งลงที่โซฟาใกล้ ๆ ห้องประชุม

    “ผมขอตัวก่อนนะครับ” ฉันพยักหน้ารับ





    [Sanji's part]

    กว่าจะประชุมเสร็จก็ 6 โมงกว่าแล้ว เริ่มค่ำแล้วด้วย ไม่คิดว่าจะใช้เวลาประชุมนานขนาดนี้เลย ป่านนี้โรบินจังรอแย่แล้ว

    ผมเดินออกมาจากห้องประชุม เมื่อกี้เหมือนเห็นเงาคนยืนอยู่แถวโซฟาที่โรบินจังนั่งอยู่ หรือผมจะตาฝาดไป... ผมเดินเข้าไปหาร่างบางที่รออยู่ แต่ก็พบว่า...เธอกำลังนั่งหลับอยู่?

    รอจนเผลอหลับไปเลยเหรอเนี่ย?

    ผมเห็นเธอเริ่มสัปหงกจึงไปนั่งข้าง ๆ แล้วจับให้เธอเอียงหัวมาพิงไหล่ผม ผมใช้มือนึงพาดกับโซฟา อีกมือหยิบโทรศัพท์มากดอะไรบางอย่าง

    “โรบินจังครับ...” ผมเรียกอีกฝ่ายเบา ๆ เมื่อไม่มีการตอบรับ ผมจึงอุ้มเธอไปที่รถ

    ผมขับรถไม่นานนักก็มาถึงคอนโดของเธอ ตลอดทางเธอหลับมาตลอด คงไม่ตื่นง่าย ๆ มั้ง?

    ผมยื่นหน้าไปหาคนที่หลับอยู่ที่ที่นั่งข้างคนขับ แค่จินตนาการอะไรนิดหน่อยมันก็พาลจะเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว ผมต้องคอยคุมตัวเองตลอด ยิ่งคนตรงหน้ามีเสน่ห์มากแค่ไหนมันก็ยิ่งยากเท่านั้น แต่แค่หอมแก้มเอง คงไหวมั้ง...

    “อื้อ...” เธอเริ่มขยับตัวเหมือนกำลังจะตื่น หรือเป็นเพราะลมหายใจของผมที่เป่ารดบริเวณแก้มเธอ

    เสียดายจัง J

    อีก 6 วัน ถึงจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีก ผมจะตั้งตารอนะ นางฟ้าของโผมมมม ~
    [End Sanji's part]


    ☆★☆★

    มันไม่ใช่ 43% ที่เหลือแล้วแหละ มันน่าจะเกินมาเยอะ เพราะยาวมากกกก ตอนนี้ปาไป 20 หน้าในเวิล์ด ยาวมากๆ ซันจิเหมือนจะบทเยอะนะเนี่ย -.- ตอนแรกก้ไม่คิดว่าจะเยอะแต่งไปมา เยอะเฉย ตอนแรกนึกว่าแต่งเสร็จแล้ว พอมาดู อ้าวยังไม่เสร็จ เลยไม่ได้ลง สับสนๆ

    ไรท์สงสัย วิวเป็น 100 แต่ทำไมคอมเมนทืไม่ถึง 5 อะ ;-; มันก็จะเสียกำลังใจหน่อยๆนะ ไรท์กำลังเริ่มวางตอนจบไว้คราวๆแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะให้ใครเป็นพระเอก สับสนอยู่ ยังไงก็ช่วยๆเสนอนะ

    ใครคือพระเอกคะ!!!? 555+

    **มาแก้ชื่อตอน -.-

    ***แก้คำผิดจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×