ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Psychic

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 ความทรงจำหลังลืมตา 100%

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 55


    บทที่1
    ความทรงจำหลังลืมตา




     
     
              

                   

    แพขนตาอันหนักอึ้งค่อยๆ ลืมขึ้นมาอย่างยากลำบาก แสงจากหลอดไฟทำให้ดวงตาพร่ามัวผิดปกติ

                    ภายในห้องพิเศษของโรงพยาบาล ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาโดยมีหญิงสาวกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้ข้างๆ เขา เครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่ทำให้เขารู้สึกหนาวจนต้องเอาผ้าห่มที่ใช้เมื่อคืนมาห่มแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ห่มก็ต้องเปลี่ยนใจไปห่มให้หญิงสาวข้างๆ แทนเพราะอะไรบางอย่างในตัวชายหนุ่มกำลังบอกว่าเธอต้องหนาวกว่าเขาอย่างแน่นอน

                    อืม...

                    ริมฝีปากของหญิงสาวส่งเสียงครางออกมาเล็กน้อยทำให้ตั้งหันไปมองอย่างสนใจ

                    รู้สึกตัวแล้วหรอตั้งลุกขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาหญิงสาว

                    นายเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหนกัน

                    ผมก็คือคนที่ช่วยคุณไง ส่วนที่นี่คือโรงพยาบาล

                    แล้วโรงพยาบาลมันคืออะไรกัน

    หญิงสาวถามเสียงซื่อๆ พลางกลอกตาสีเขียวมรกตมองไปรอบๆ ห้อง

                    ยัยนี่ถามอะไรแปลกๆ ไปอยู่ที่ดาวเคราะห์ไหนมาเนี่ย ตั้งคิดแล้วแอบหัวเราะเล็กน้อย

                    นี่นายว่าฉันหรอ

                    แต่ราวกับว่าเธอรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่จึงโพล่งออกมาแทบจะทันที

                    เปล่าสักหน่อย

                    ตั้งรีบปฏิเสธพัลวัน ทำให้หญิงสาวส่งค้อนให้วงโตแต่มันดูน่ารักน่าเอ็นดูเสียมากกว่า

                    ยิ้มอะไร

                    เธอพูดทันทีที่เห็นเขามองเธอแล้วยิ้มออกมา

                    เปล่า” ตั้งปฏิเสธเสียงสูง

                    ก็ฉันเห็นนายยิ้มอยู่นี่ไง” เธอพูดต่ออย่างไม่เลิกละ ตั้งจึงพูดเปลี่ยนเรื่องทันที

                    “เออ แล้วตกลงเธอชื่ออะไรเนี่ย

                    ฉันชื่อ...ชื่อ...ชื่อ...ฉันชื่ออะไรอ่ะ

                    เธอทำหน้างงเล็กน้อยที่จะตอบคำตอบที่ทำให้ตั้งเบิกตาโต

                    นี่เธอกำลังอำเขาเล่นใช่มั้ย!

                    นี่ ฉันไม่ได้อำนายนะ ฉันจำไม่ได้จริงๆ!”

         รู้ได้ไงฟ่ะ!  นี่เธออ่านความคิดฉันออกด้วยหรอเนี่ย! ดูท่าเธอจะไม่ได้อำเราจริงๆ!

              ในขณะที่ตั้งกำลังยืนคิดอยู่นั้น ผู้ชายวัยกลางคนดูมีอายุในชุดเสื้อกาวน์ก็เดินเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับสาวสวยในชุดทำงานพยาบาลคนหนึ่งกำลังเดินตามหลังมาติดๆ

              หมอขออนุญาตตรวจเช็คคนไข้หน่อยนะครับ

     

     

              ไม่นานนักคุณหมอก็ตรวจอาการของหญิงสาวเสร็จเรียบร้อย ตั้งจึงรีบถามอาการของเธอแทบจะทันทีด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก

              คือสรุปเธอเป็นอะไรหรอครับหมอ

                เนื่องจากสมองของผู้ป่วยเกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ทำให้เธอสูญเสียความทรงจำที่เธอมีไปครับ

            "แล้วเธอจะมีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหมครับหมอ..."

                    "เรื่องนี้หมอคงจะให้คำตอบไม่ได้นะครับ ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้ และกำลังใจจากญาติพี่น้อง บางคนใช้เวลา2-3เดือนก็หายแล้วครับ บางคนก็ใช้เวลาเป็นปี บางคนก็ใช้เวลาตลอดชีวิตครับ งั้นหมอว่าหมอขอตัวก่อนนะครับ ส่วนเรื่องการออกจากโรงพยาบาล หมอว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็สามารถออกได้วันนี้เลยครับแต่หมอคงต้องนัดตรวจอีกทีนะครับ

                    ทันทีที่คุณหมอพูดจบก็กล่าวลาอย่างสุภาพแล้วเดินจากไปในทันทีทิ้งให้ตั้งยืนตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น

                    ความจำเสื่อม ไม่รู้ว่าจะหายเมื่อไหร่ ?

                    นี่นาย ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้

                    เสียงของหญิงสาวดังขึ้นเบาๆ แม้เธอเองจะไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของคุณหมอที่พูดแบบนั้นก็ตามที แต่เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอได้ยินนั้นมันคงเป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างแน่นอนไม่งั้นผู้ชายตรงหน้าเธอคงไม่ยืนเครียดอยู่แบบนี้หรอก

                    ไม่ต้องขอโทษๆ เธอไม่ได้ผิด เรื่องนี้มันห้ามกันได้ที่ไหนกันล่ะ

                    ตั้งยิ้มให้เล็กน้อย แม้มันจะเป็นรอยยิ้มที่ฝืนก็ตาม ตอนนี้เขาเองกำลังสับสนว่าจะปล่อยเธอไว้ที่นี่เลยหรือว่าจะดูแลเธอต่อไป เพราะยังไงเธอและเขาก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอยู่แล้วแถมผู้หญิงคนนี้เป็นใครตั้งก็ไม่รู้จัก แค่ช่วยชีวิตเธอที่กำลังจะตายอยู่หน้าบ้านตัวเองเท่านั้น แต่ถ้าหากปล่อยเธอไว้แบบนี้เขาเองก็ไม่แน่ใจอีกว่าพอเธอออกจากโรงพยาบาลแล้วจะมีอะไรมาทำร้ายเธอแบบที่เขาเห็นครั้งก่อนอีกหรือไม่เพราะสภาพเธอที่เขาเห็นนั้นมันช่างดูน่ากลัวเสียเหลือเกิน

                    นี่ ว่าแต่นายชื่ออะไรหรอ

                    ฉันหรอ ? ฉันชื่อตั้งน่ะ

                    หรอ ดีจังเลย แล้วฉันชื่ออะไรเนี่ย

                    ช่างมันเถอะนา ไว้ค่อยคิดไปเรื่อยๆ ก็ได้

                    ตั้งให้กำลังใจหญิงสาวที่ทำหน้ามุ่ยอยู่บนเตียง เขาคงต้องพาเธอออกจากโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยคิดหาทางว่าจะพาเธอไปอยู่ที่ไหนสินะเพราะขืนยังให้พักที่โรงพยาบาลต่อไปแบบนี้มีหวังค่าห้องของเธอทำเขาตายแน่ๆ

                    หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย หันมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง ในหัวเริ่มมีเรื่องคิดมากมาย มือเล็กกุมจี้ที่สวมใส่อยู่โดยไม่รู้ตัว ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลยนะ จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ที่ไหน แล้วเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เธอจะมาอยู่ในที่ที่เรียกว่าโรงพยาบาล รอบๆ ตัวของเธอในตอนนี้เป็นสิ่งแปลกตาที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แล้วถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในตอนนี้มันจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนล่ะ อย่างเช่นนายตั้งคนที่บอกว่าพาเธอมาส่งที่นี่ อาจจะได้รับความเดือดร้อนไปด้วยก็ได้

                    นี่ตั้ง นายพอรู้มั้ยว่าตอนที่นายเจอฉัน ฉันเป็นยังไงบ้าง

                    หืมม์ ตอนเจอเธอหรอก็เห็นเธอนอนจมกองเลือดอยู่ที่กำแพงบ้านฉัน ก็เลยช่วยพาเธอมาส่งโรงพยาบาล หรือว่าเธอพอจำอะไรได้บ้างแล้ว

                    หญิงสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบว่ายังนึกไม่ออก ตอนนี้เธอพอจะเดาได้ว่าเธอน่าจะหนีอะไรมาสักอย่างแต่อะไรกันที่ทำให้เธอบาดเจ็บจนตั้งบอกเลยว่านอนจมกองเลือดอยู่ อีกอย่างก็คือ ทำไมเธอถึงรู้ได้นะว่าใครกำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่าแท้จริงแล้วเธออ่านใจคนได้ งั้นคนอื่นๆ คงเป็นแบบเธอสินะ

                    กำลังคิดอะไรอยู่น่ะ บอกแล้วว่าไม่ต้องเครียด

                    เสียงของตั้งดังขัดจังหวะความคิดของหญิงสาวทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์ความคิดที่ไม่สิ้นสุด เขาย่นคิ้วเล็กน้อยที่โดนหญิงสาวมองหน้าด้วยสายตาสงสัย

                    มีอะไรติดหน้าฉันรึไงกัน

                    เปล่าหรอก ไม่ใช่ แต่นายไม่รู้หรอว่าฉันคิดอะไรอยู่?

                    ฉันจะไปรู้ได้ไงกันเล่า พวกที่อ่านใจคนได้สงสัยคงมีแต่พวกที่หลุดออกมาจากโลกอื่นเท่านั้นแหละที่จะทำอะไรแบบนี้ได้ ถามอะไรแปลกๆ

                    ตั้งบ่นยาวพรืด แต่นั่นกลับทำให้หญิงสาวมีสีหน้าเครียด เพราะคำพูดของเขานั้นได้แทงใจดำเธออย่างไม่รู้ตัวไปเสียแล้ว

                   

     

                    ตั้งพาหญิงสาวกลับมาบ้านตัวเองก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วเพราะมัวแต่วุ่นวายกับชุดของเธออยู่เพราะชุดตัวเก่าของหญิงสาวมันอยู่ในสภาพเปื้อนเลือดและขาดจนไม่สามารถใส่ได้อีกครั้งแถมไม่สามารถเอาชุดของทางโรงพยาบาลกลับบ้านได้เลยไม่ว่าตั้งจะขอร้องยังไงก็ตามทีผลสุดท้ายเขาจึงต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าให้เธอโดยต้องเดาสุ่มแถมต้องไปคนเดียวอีกต่างหาก

                    ยัยตา อยู่รึเปล่านะ

                    ตั้งตะโกนเรียกน้องสาวตัวดีที่เขาเองไม่แน่ใจว่าอยู่บ้านหรือออกไปเที่ยวกันแน่ แต่ถ้าตุ๊กตาออกไปเที่ยวล่ะก็เห็นทีเขาคงต้องโทรฟ้องแม่เสียแล้วล่ะ

                    นี่! ยัยตาอยู่บ้านรึเปล่า ออกมาหาพี่หน่อย

                    ตั้งตะโกนเรียกอีกครั้งคราวนี้มีร่างของใครบางคนเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างหนักที่โดนปลุกตั้งแต่เที่ยงคืน แถมเธอเพิ่งจะนอนหลับไปเองด้วยทำให้อารมณ์เสียมากกว่าปกติ

                    จะตะโกนอะไรของพี่นักหนา แล้วนี่พี่พาเธอกลับมาด้วยหรอ สรุปเธอชื่ออะไรแล้วทำไมถึงมีเลือดท่วมตัวล่ะวันนั้นอ่ะ

                    อย่ามารัวคำถามใส่พี่แบบนี้สิ แต่ก็ดีเลยฟังพี่เล่าให้ดีแล้วช่วยพี่คิดเลยนะว่าจะเอายังไงดี เข้าใจมั้ย?

                    ตั้งค่อยๆ เล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นให้น้องสาวตัวเองฟังตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมาแล้วจำอะไรไม่ได้เลย ทั้งชื่อ และเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ เรื่องที่คุณหมอบอกหรือเรื่องที่เขาต้องไปทรมานกับการซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงให้หญิงสาว

                    ก็อย่างที่พี่เล่ามา คือเธอความจำเสื่อมจำอะไรไม่ได้สักอย่างเลย

                    อืม...

                    แล้วจะให้พี่ทำยังไงดีล่ะ

                    อืม...

                    เฮ้ย! ยัยตาฟังพี่รึเปล่าเนี่ย

                    อืม...

                    ตั้งร้องโวยวายเมื่อเห็นว่าตุ๊กตานั่งหลับเรียบร้อยไปแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องที่เขาเพิ่งเล่าไปเมื่อกี้ไม่ได้อยู่ในหัวของตุ๊กตาเลย แล้วไอ้ที่ อืมๆ เนี่ยหมายความว่าเธอหลับไม่ได้ฟังเขาแล้วตอบรับว่า อืม

                    ตั้งเขย่าตัวตุ๊กตาเพื่อให้ตื่นแล้วเริ่มเล่าเรื่องใหม่อีกครั้งคราวนี้เขาจ้องตุ๊กตาเพื่อให้รู้ว่าเธอไม่ได้แอบหลับอีก เพราะถ้าเป็นแบบนั้นคราวนี้เขาตั้งใจว่าจะเอาน้ำมาสาดน้องสาวตัวเองเพื่อให้ตื่นเต็มตาได้เอง

                    งั้นคือเขาความจำเสื่อมใช่มั้ย ในเมื่อบ้านก็ไม่มีชื่อก็จำไม่ได้ก็ไม่เห็นยากนี่นา เราให้เขาอยู่บ้านเราไปก่อนก็ได้ ส่วนเรื่องชื่อ...ตุ๊กตาเว้นวรรคไปเล็กน้อยเพื่อใช้ความคิดก่อนที่จะพูดต่อ ให้ชื่อแอ้มสิ น่ารักดีนะ

                    เฮ้ยๆ ไม่ได้ๆ พี่ไม่ให้เธออยู่ที่นี่เป็นอันขาด

                    ตั้งร้องประท้วง เขาไม่ได้รังเกียจเธอหรอกนะแต่ว่าการอยู่บ้านกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักเนี่ยจะให้ทำได้ยังไง คนอื่นได้เอาไปว่าเสียๆ หายๆ หมดพอดีล่ะสิ

                    ทำไมล่ะ พี่คิดดูนะผู้หญิงน่ะจะให้อยู่คนเดียวได้ไงแถมความจำเสื่อมอีกเดี๋ยวถูกหลอกไปข่มขืนจะทำยังไงล่ะ ใช่มั้ยแอ้ม

                    ตุ๊กตาไม่พูดเปล่ายังหันไปขอความเห็นแอ้มที่กำลังนั่งขมวดคิ้ว งงอยู่กับชื่อใหม่ของตัวเองที่ฟังดูแล้วแปลกๆ ยังไงอย่างบอกไม่ถูก

                    อะ...อืม ใช่เลย

                    แอ้มตอบกลับไปแบบงงๆ แล้วยิ้มเจื่อนๆ ให้ทั้งคู่ ตุ๊กตาจึงฉีกยิ้มกว้าง

                    ยังไงก็ไม่ได้ พี่ไม่ให้อยู่ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ให้อยู่

                    นายกล้าให้ผู้หญิงไปอยู่คนเดียวเลยหรอ

                    แอ้มเอียงคอถาม เธอตั้งใจจะแกล้งตั้งดูเล่นๆ เพราะเธออยากจะเอาคืนเรื่องที่เขาจ้องหน้าเธอในโรงพยาบาลแล้วนั่งยิ้ม

                    ทำไมเราต้องให้ผู้หญิงที่ไม่รู้จักมาอยู่บ้านเราด้วยกันเล่า

                    ตั้งแอบนั่งคิดอยู่ในใจแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่แต่พอหันหน้าไปมองแอ้มเขาก็ต้องตกใจเมื่อหญิงสาวมองเขาอยู่ก่อนแล้วแถมยังส่งค้อนให้วงใหญ่อีกต่างหาก นี่เขายังไม่ทันพูดอะไรเลยนะจะมาจ้องเขาด้วยสายตาแบบนี้ได้ยังไงกัน

                    คนไม่รู้จักกันอยู่บ้านด้วยกันไม่ได้หรือไงกัน

                    แอ้มถามขึ้นอย่างไม่ชอบใจ และเมื่อได้ยินคำถามนี้ทำให้ตั้งถึงบางอ้อทันที เขาเคยแอบสงสัยอยู่ว่าเธออ่านใจคนได้รึไงกันนะแต่พอได้ยินตรงๆ แบบนี้ทำให้เขาหาคำตอบได้ทันทีเลยว่าเธอต้องอ่านใจคนออกได้อย่างแน่นอน

                    ก็เปล่า แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ จะมาอยู่บ้านเดียวกันกับผู้ชายได้ยังไงกัน

                    แต่ตาก็เป็นผู้หญิงนะ

                    ตุ๊กตาเถียงตั้งทันทีที่ตั้งพูดจบ เธออยากที่จะให้ผู้หญิงมาอยู่บ้านหลังนี้บ้างเพราะพี่ชายเขาวันทั้งวันเอาแต่เที่ยวกับวาดรูป น้อยครั้งนักที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอและนี่คือเหตุผลที่เธอจึงชอบออกไปเที่ยว เพราะอยู่ไปก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วแต่ถ้าเธอได้มีคนมาอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ตุ๊กตาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปเที่ยวแก้เซ็ง แถมเป็นผู้หญิงอีกด้วย คงจะคุยอะไรหลายๆ อย่างสะดวกขึ้นอีกมากโข

                    เออ อยากอยู่ก็อยู่ไปเลย เฮอะ! พี่ไปนอนแล้วล่ะ

                    เมื่อตั้งหาข้ออ้างที่จะเถียงต่อไม่ได้ก็ต้องยอมแพ้แล้วเดินตรงไปยังที่ห้องของตัวเองทิ้งให้ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะอยู่อย่างนั้น อยากจะขำนักก็ขำไปเลยให้น้ำลายมันติดคอตายนั่นแหละ

                    นี่แอ้ม ชื่อนี้ใช้ได้ใช่มั้ย ยังไงคืนนี้ก็นอนกับฉันก่อนก็ได้ พี่เขานิสัยแบบนี้แหละปล่อยเขาไปเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันนะ

                    ตุ๊กตายิ้มกว้างให้กับแอ้มแล้วลากเธอไปยังห้องนอนของตนเองด้วยความเพลียจัด

                    แอ้มมองห้องแปลกๆ ที่ตุ๊กตาพาเข้ามา ทุกอย่างดูแปลกตาไปหมด ตั้งแต่ตู้ใหญ่ๆ จนไปถึงผ้าแปลกๆ บนพื้นที่ตุ๊กตาเรียกมันว่า พรม

     

     

                    เราต้องรีบวิ่งแล้วล่ะ อย่าให้พวกมันตามเธอทัน

                    เสียงของชายหนุ่มกระซิบบอกหญิงสาวในชุดที่ขาดเล็กน้อยและเริ่มมีบาดแผลตามตัวพยักหน้ารับพร้อมกับวิ่งให้เร็วที่สุด เธอหันไปมองเบื้องหลังก็พบว่ามีชายสามสี่คนวิ่งไล่ตามเธอมาอยู่และพยายามใช้พลังโจมตีเธอไม่หยุด ความกลัวพุ่งเข้ามาในจิตใจ กลัวว่าเธอจะหนีไม่พ้น กลัวว่าครอบครัวเธอจะเป็นอะไรไป กลัวทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า แต่เสียงของคนข้างกายก็ยังสามารถทำให้เธออุ่นใจได้เล็กน้อย

                    แสงอะไรน่ะ

                    หญิงสาวเพ่งตามองไปยังแสงสีขาวที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนที่ต้องชะงักเมื่อร่างของชายหนุ่มที่วิ่งคู่กับเธอถูกทำร้ายอย่างจัง

                    อย่าหันกลับมามอง วิ่งไปซะ วิ่งไปเรื่อยๆ

                    ชายหนุ่มรีบตะโกนห้ามหญิงสาวที่ทำท่าจะหยุดชะงักเพื่อกลับมาหาเขาที่ล้มลงอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวแต่กลับเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด เขาพยายามลุกขึ้นวิ่งตามหลังเธอไป

                    หญิงสาวรีบวิ่ง อย่างไม่หยุดพัก น้ำตาเอ่อล้นออกมาจนดวงตาเริ่มพร่ามัว แสงสีขาวค่อยๆ กลืนกินร่างกายของเธอ ภาพของชายหนุ่มที่วิ่งตามหลังมาเริ่มเลือนรางพร้อมกับระเบิดที่กำลังปะทุขึ้นด้านหลังของเขา จนทำให้เธอต้องหวีดเสียงร้องออกมาอย่างตกใจ คิดอยากจะวิ่งกลับไปแต่เหมือนมีอะไรดึงเธอไว้ไม่ให้ไปไหน

                    ม่ายยย! กรี๊ดดดดดด~”

                   

     

                    แอ้ม แอ้ม เป็นอะไรไปน่ะ

                    เสียงใสๆ ของตุ๊กตาปลุกแอ้มที่นอนส่ายหัวไปมาอย่างรุนแรง ดูท่าแอ้มคงกำลังฝันร้ายเป็นอย่างมากสินะ เลยเกิดอาการแบบนี้ขึ้นมา

                    ตุ๊กตา…”

                    แอ้มร้องออกมาเบาๆ เมื่อลืมตาขึ้นแล้วพบตุ๊กตายืนอยู่ข้างเธอ พร้อมกับตั้งที่ทำหน้าบูดบึ้ง ชุดที่เขาใส่มันดูแปลกตายังไชอบกล

                    จะกรี๊ดอะไรของเธอนักหนา ตาถ้าไม่มีอะไรแล้วไปอาบน้ำเลยไป วันนี้พี่ไม่มีเรียนเดี๋ยวดูแลยัยนี่เอง

                    ตั้งบ่นงึมงำแล้วไล่ให้ตุ๊กตาไปอาบน้ำทันที

                    หลังจากที่ตุ๊กตาไปเรียนตั้งก็เริ่มเลือกๆ ชุดของตุ๊กตาให้แอ้มใส่แบบขอไปทีก่อนจะปิดท้ายด้วยการทำอาหารเช้าให้กินโดยที่แอ้มพูดได้คำเดียวเลยว่ารสชาติแบบนี้เธอขอไม่กินอีกเป็นครั้งที่สองก็โอเคแล้ว

                    ก็ฉันทำอาหารไม่เป็นนี่นา ทำได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว

                    ตั้งหาข้อแก้ตัวที่มันก็คือความจริง เพราะปกติแล้วหากไม่ไปกินข้าวนอกบ้านเขาก็กินฝีมือของแม่บ้านที่ถูกจ้างมาทำอาหารให้ทุกเช้าส่วนทำความสะอาดเธอจะมาแค่วันอาทิตย์เท่านั้น และตั้งก็ลืมบอกไปเลยว่ามีคนมาอยู่บ้านเพิ่มต้องทำอาหารเพิ่มด้วย

                    นี่ตั้ง นี่มันคืออะไรหรอ

                    แอ้มชี้ไปที่โทรทัศน์จอใหญ่ที่กำลังเปิดช่องหนังแอ็กชัน บู๊กันเลือดสาดเต็มหน้าจอ

                    โทรทัศน์น่ะ เอาไว้ดูอะไรต่างๆ

                    คนเขาเข้าไปอยู่ในกล่องเล็กๆ แบบนี้ได้ด้วยหรอ เก่งจังเลยเนอะ

                    แอ้มยิ้มแล้วนั่งดูหนังในโทรทัศน์ แรกๆ ก็สนุกดีออกแต่พอหลังๆ มาเธอชักไม่อยากดูเพราะมันเริ่มคล้ายๆ กับความฝันเมื่อคืนสุดท้ายแอ้มเลยลุกขึ้นหนีจากโทรทัศน์แล้วเริ่มมองหาอย่างอื่นทำต่อ

                    นี่! แอ้มเดี๋ยวเพื่อนฉันจะมาที่บ้านนะ

                    ตั้งบอกกับแอ้มที่กำลังนั่งมองไปนอกบ้านอย่างเพลินๆ ซึ่งแอ้มก็พยักหน้าว่ารับรู้แล้วแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น เอาแต่มองไปนอกบ้าน

                   

     

                    ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมก็มีเสียงออดดังขึ้นจากรั้วบ้านด้านนอก ตั้งจึงเดินไปเปิดประตูให้เพราะรู้ว่าเพื่อนของเขามาแล้ว

                    ทันทีที่ผู้ชายอีกคนเดินเข้ามาในบ้านแอ้มก็ถึงกับตะลึงอยู่อย่างนั้น ด้วยอาการตกใจปนกลัวเล็กน้อย

                    ร่างสูงโปร่ง ดูผอมเล็กน้อย แว่นตาหน้าเตอะอยู่บนสันจมูก หน้าเรียว ผิวซีด ใบหน้าซูบเล็กน้อย ตาสีดำซึ่งเป็นสีเดียวกับสีผมเข้มปล่อยเอาไว้ดูรุงรังเล็กน้อย  

                    หวัดดีเพื่อน



    เดี๋ยวจะมาลงต่อ รอดูคอมเม้นต์อยู่ครับ ^^" อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง อ่า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×