ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Midnight of Blood **รัตติกาลสีเลือด** (Infinite & snsd)

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 55


     Chapter 2

     
     

    “มาดื่มคนเดียวเหรอคะ”เสียงหวานเซ็กซี่เอ่ยดังขึ้นข้างๆ ใบหน้าคมหันไปมองหญิงสาวที่พึ่งมาใหม่ เมื่อรู้ว่าเป็นใคร แอลยกยิ้มขึ้นทันที

     

    “ก็มาดื่มกับเธอนี่ไง มีอา”หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ ใบหน้าหวานสไตล์อเมริกันเกริลล์ ดวงตาสีน้ำข้าวสดสวยที่ประดับด้วยไฝเจ้าน้ำตาเม็ดเล็ก สีผิวที่ซีดเหมือนกับชายหนุ่ม ทำให้เธอดูดีไม่น้อย

     

    “ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้พี่สาวคอยคุมไม่ห่างเลยนี่”ร่างเล็กนั่งลงข้างๆแอล

     

    “ใช่ น่าเบื่อชะมัด”แอลกระดกแก้วรวดเดียว ของเหลวสีใสไหลลงคอไปอย่างรวดเร็ว

     

    “ช่วงนี้สภาสูงส่งการ์เดี้ยนมาติดตามนายห่างๆ ทำอะไร ระวังหน่อยนะ ฉันเป็นห่วงนายแอล”มีอาเข้าไปกระซิบใกล้ร่างสูง นัยน์ตาสีน้ำข้าวฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด พลางเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

     

    “หึ พวกคนแก่นี่น่ารำคาญจริงๆ”แอลหันไปมองตามหญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะหันหน้ากลับมา

     

    “ระวังหน่อยละกันล่ะ”มีอาตบบ่าเพื่อนสนิทก่อนจะขอตัวไปทำธุระอย่างอื่น

     

    ร่างสูงจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มและเดินออกไป ปกติเขาจะไปแดนซ์กลางฟลอร์ แต่ครั้งนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์จะเต้นซักเท่าไหร่ ขายาวก้าวไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยแสงสี ในใจก็คิดถึงใครบางคน คนที่เขาเฝ้ารอการกลับมาของเธอ....

     

    “นายไม่เหนื่อยหรือไง เดินตามฉันมา”แอลทนไม่ไหวที่จะต้องถูกติดตามโดยใครบางคน ใบหน้าคมหันไปพูดกับชายหนุ่มร่างสูงที่เดินตามเขามาตลอดทาง

     

    “แล้วนายไม่เหนื่อยหรือไง ที่เดินอยู่ตลอดเวลา แอล”ชายหนุ่มถอดแว่นดำออก เผยให้เห็นดวงตาสีแดงสด

     

    “ฉันไม่ชอบที่จะต้องมีใครเดินตามฉันตลอด”

     

    “คำสั่งของสภาสูง”

     

    “นายจำเป็นต้องฟังตาแก่พวกนั้นด้วยเหรอ”

     

    “ไม่ควรลบหลู่ผู้นำของเผ่าพันธุ์เรานะ”

     

    “เรื่องของฉัน ถ้านายอยากจะเดินตามฉันมาตลอดก็เชิญ”

     

    “มยองซู”

     

    “ยังมีคนจำชื่อจริงฉันได้อีกเหรอ นายจำได้ด้วยเหรอ อีริค”แอลรู้สึกนึกขำ เขาไม่ได้ยินชื่อแท้ที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด เขาไม่ยินมันมานานมาก

     

    “ฉันรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด ทางสภาสูงพยาบาลปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้นายรู้”

     

    “เรื่องอะไร”

     

    “มีสายข่าวรายงานมาว่าพบ อลิซซาเบธ”แอลชะงักไปชั่วหนึ่ง คิ้วหนาเริ่มขมวดมากขึ้น

     

    “ที่ไหน”

     

    “ฉันไม่รู้ นายต้องประชุมกับสภาสูงพรุ่งนี้ นายอาจจะรู้อะไรมากกว่านี้”

     

    “ขอบใจนายมาก อีริค”แอลเอ่ยขอบคุณอีริคนี่นำข่าวดีมากบอก เธอกำลังจะกลับมา แต่ติดตรงที่ว่าไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน

     

    “ฉันบอกนายแค่นี้แหละ ฉันต้องไปแล้ว”

     

    “โชคดี”สิ้นเสียงอีริคก็หายไปในความมืดทันที ทิ้งไว้เพียงความเงียบงัน ใบหน้าคมเผยรอยยิ้มที่ใครๆไม่ได้เห็นง่ายๆจากเขา แม้แต่พี่สาวของเขาเองก็ตาม....

     

     

     

    วันต่อมา......

     

    เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

     

    แอลเดินทางมาพร้อมกับพี่สาว ใช้เวลาร่วมเกือบ 3 ชั่วโมงจะถึงเมืองซูริคที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่เป็นอันดับสองของโลก และได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพการดำเนินชีวิตที่ดีที่สุดในโลก

     

    กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกลากไปตามพื้น แอลอยู่ในชุดสบายๆสวมทับด้วยเสื้อขนเฟอร์สีดำยิ่งขับให้ผิวของเขาขาวขึ้นกว่าเดิม ดวงตาคมถูกปกปิดด้วยแว่นกันแดดสีดำ ทำให้ร่างสูงดูดีไม่น้อย เจสสิก้าเองก็ดูดีไม่น้อยไปกว่าน้องชาย ชุดเดรสสีดำยาวระดับเข่าลายลูกไม้ มิกซ์กับรองเท้าบูทส้นสูงสีดำขลับ พร้อมกับใบหน้าหวานที่แต่งเติมอ่อนๆด้วยเครื่องสำอาง

     

    “ห้ามหนีไปไหนอีกนะ”เจสสิก้าเอ่ยดักหน้าน้องชายไว้ก่อน ขืนหนีไปอีกล่ะก็เธอต้องโดนสภาสูงลงโทษแน่ๆ

     

    “ไม่หนีหรอกน่า คนที่นี่เลือดไม่ค่อยหวาน เขากินกระเทียมกันเยอะ ฮึๆ”แอลพูดหยอกล้อพี่สาวที่เริ่มทำหน้าบูดบึ้ง

     

    “แล้วก็ห้ามทำแบบที่อยู่อเมริกาด้วย เดี๋ยวคุณย่าไม่ปลื้มนะ”

     

    “น่าจะนะ 55”ไม่วายที่จะแซวหยอกล้อพี่สาวอีกรอบ วันนี้ชายหนุ่มค่อนข้างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะข่าวที่รับมาเมื่อวาน

     

     

     

     

     

    สายตาคมทอดมองออกไปทางหน้าต่างรถ บรรยากาศแบบยุโรปค่อนข้างจะแตกต่างกับบรรยากาศที่อเมริกา ใบหน้าคมยกยิ้มมุมปากขึ้นน้อยๆ

     

    “เป็นอะไร คิดถึงอลิซซาเบธเหรอ แอล”เจสสิก้าสังเกตเห็นน้องชายนั่งยิ้มอยู่ข้างหน้าต่างรถออกมา จึงถามขึ้น

     

    “รู้ด้วยเหรอ”แอลเลิกคิ้วหันมามองพี่สาวด้วยความแปลกใจ

     

    “รู้สิ ฉันเป็นพี่สาวนายนะแอล ทำไมจะไม่รู้ว่าน้องชายตัวเองคิดอะไรอยู่”เจสสิก้าหัวเราะน้อยๆพลางหันมามองน้องชายเป็นระยะๆ

     

    “เธอรู้มั้ยว่า อลิซซาเบธอยู่ไหน”

     

    “ไม่รู้สิ สภาสูงไม่ยอมบอก”

     

    “เดี๋ยวฉันตามหาเองก็ได้”

     

    “พูดเป็นเล่นน่ะแอล อย่าไปคิดมาก”มือบางยื่นไปขยี้หัวน้องชายเล่นก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา นานแล้วนะที่ไม่ได้เล่นด้วยกันแบบนี้ โตขึ้นเยอะ อะไรๆก็เปลี่ยน....

     

    ใช้เวลาไม่นานนัก รถเบนซ์คันหรูแล่นมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่โต อาจะเรียกว่าพระราชวังเลยก็ได้ เพราะมันใหญ่จริงๆ คนรับใช้ถ้าดูภายนอกแล้วก็น่าจะอายุราวๆ 50 ปี รีบวิ่งออกมาเปิดประตูรถให้

     

    “ยินดีต้อนรับครับ คุณหนูทั้งสอง”คุณลุงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเปี่ยมบนใบหน้าก่อนจะรีบไปขนกระเป๋าออกมาจากหลังรถ

     

    “คุณลุงอเล็กซ์เดี๋ยวสิก้ากับน้องถือเองก็ได้ค่ะ ลำบากเปล่าๆ”

     

    “ไม่เป็นไรครับๆๆ ลุงถือเองครับๆ”

     

    “ค่ะๆ มานี่สิแอล ไปยืนทำอะไรตรงนั้น”เจสสิก้าเรียกน้องชายที่ยืนมองรอบๆอย่างไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่นัก เขาไม่ค่อยได้มาที่นี่บ่อยซักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะคนในสภาสูงไม่ค่อยชอบนักที่จะให้เขามาที่นี่

     

    “แน่ใจเหรอว่าเธอจะให้ฉันเข้าไปจริงๆ”

     

    “-3-* หรือนายอยากจะยืนอยู่ตรงนั้นเล่า”เจสสิก้าจูงมือน้องชายเข้ามาในห้องโถงที่หรูหรา มีรูปโบราณเก่าแก่ติดอยู่บนฝาผนังมากมาย บรรดาผู้คนในคฤหาสน์ต่างจับจ้องไปที่แอล

     

    “ดูนั่นสิเธอ เจ้าฆาตกรยังมีหน้ามาถึงที่นี่อีก น่าไม่อายจริงๆ”

     

    “ใช่ๆ ยังกล้ามาอีก”

     

    เสียงนินทาว่ากล่าวเหล่านั้น แอลได้ยินทั้งหมด ร่างสูงพยายามข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ มือหนากำมือพี่สาวแน่นจนเจสสิก้าต้องรีบพาน้องชายออกไปจากตรงนี้

     

    “ใจเย็นๆนะแอล ไม่ต้องไปสนใจหรอก”มือบางลูบหลังน้องชายเบาๆเพื่อให้สงบสติอารมณ์

     

     

    แอ๊ด....

     

     

    ประตูสีดำสลักลวดลายหรูหราสไตล์ยุโรปถูกเปิดออก ห้องภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวกับสีแดงซึ่งดูแล้วก็มีสเน่ห์ไปอีกแบบ หญิงสาวที่นั่งคอยอยู่บนโซฟารีบลุกขึ้นมาต้อนรับทั้งสองด้วยความดีใจ ถ้าหากดูเผินๆแล้วเธอก็จะเหมือนคนอายุ 20 ต้นๆ แต่ถ้าให้ดูอายุจริงๆก็คงไม่น่ารู้เท่าไหร่นัก

     

    “มากันแล้วเหรอลูก ย่าคิดถึงหนูทั้งสองจริงๆ”

     

    “สวัสดีค่ะ คุณย่า ยังดูสาวไม่เปลี่ยนเลยนะคะ”เจสสิก้าเข้าสวมกอดผู้เป็นย่าอย่างคิดถึง

     

    “ย่าสวยเสมอจ้ะ แอลเป็นยังไงบ้างลูก หืม?”ผู้เป็นย่ายิ้มหวานพลางลูบหัวหลานสาวอย่างเอ็นดู

     

    “ก็สบายดีครับ ผมดีใจที่เจอคุณย่านะครับ”

     

    “จ้ะ ย่าก็ดีใจที่ได้เจอหนูๆเหมือนกัน”แอลเข้าสวมกอดผู้เป็นย่าด้วยอีกคนก่อนจะยิ้มให้

     

    “หนูๆเดินทางกันมาตั้งไกล คงจะเหนื่อยกันแย่ ย่าเตรียมของโปรดของหนูทั้งสองไว้ให้ด้วยนะจ้ะ”ผู้เป็นย่าสั่งให้คนรับใช้ไปเอาของที่เตรียมไว้มาเสิร์ฟบนโต๊ะ

     

    “ว้าว! ของโปรดของหนูตั้งเด็กๆแล้วนะเนี่ย ขอบคุณมากนะคะคุณย่า”เจสสิก้าฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นของโปรดถูกเสิร์ฟตรงหน้า

     

    “กินกันเลยจ้ะ”ทั้งสามลงมือรับประทานกับอาหารและของว่างที่ถูกเสิร์ฟมาเรื่อยๆผู้เป็นย่าพูดคุยกับหลานทั้งสองอย่างออกรส อาจเป็นเพราะไม่เจอกันนาน เลยมีเรื่องคุยกันมากมาย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนในสวิตเซอร์แลนด์นั้นดูสวยงามกว่าที่ไหนๆ ดวงจันทร์ดวงโตเด่นอยู่บนท้องฟ้าท่ามกลางหมู่ดาวระยิบระยับมากมาย สายลมเย็นพัดเอื่อยๆ ดวงตาคมมองดูทิวทัศน์รอบๆเมืองพลางคิดถึงอดีตที่ผ่านมา

     

     

    “ทำไมแอล ถึงชอบดูดวงจันทร์ล่ะ”

     

    “แอลว่ามันดูสวยดี”

     

    “เหรอ งั้นถ้าให้แอลเลือกระหว่างดวงดาว กับดวงจันทร์แอลจะเลือกอะไร”

     

    “แอลเลือกดวงดาว แอลจะเป็นดวงดาว ส่วนอลิซเป็นดวงจันทร์ ดวงดาวจะคอยโอบกอดดวงจันทร์แม้ในวันที่ฟ้ามืด และดวงดาวจะอยู่คู่กับดวงจันทร์ตลอดไป”

     

    ^^ รักแอลที่สุดเลย”

     

     

     

     

    .....................................................................................................................................

    Talk with writer : อันยองงงงงงงงงงงงงงงงงงง รีดเดอร์ เย้ๆๆ อัพแย้วๆ ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก

    แต่มีปริศนานิดๆหน่อยให้ รีดเดอร์ได้ขบคิด อิอิ

       

    ^

    ^

    ^

    นี่คือคุณย่าของสิก้ากับแอล =[]=!! RY.q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×