ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short Fiction' NOGUN 63 (โน่กัน)

    ลำดับตอนที่ #14 : Pluto 4

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 58




     





    ฮัลโหล ครับม๊า

     

    กันเรียนอยู่ครับ เดี๋ยวเย็นๆกลับ

     

    อ้าวว!!! ไหงงั้นล่ะม๊า แล้วกันจะอยู่กับใครล่ะ

     

    ก็ได้ครับ

     

    คร๊าบบบบ เดินทางปลอดภัยนะม๊า เที่ยวให้สนุกแล้วอย่าลืมของฝากด้วยล่ะ

     

    เคครับ รักป๊าม๊าเหมือนกันครับ

     

    ทันทีที่วางสายสนทนากับผู้เป็นแม่ กันถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะแพลนที่จะกลับบ้านดันล่มไม่เป็นท่า

    ก็ป๊ากับม๊าน่ะสิ!!! ดันมือดีจับรางวัลใหญ่แพ็คเกตเที่ยวญี่ปุ่นฟรีของทางบริษัทได้ สองสามีภรรยาจึงไปสวีทกันไกลถึงญี่ปุ่นในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ทิ้งลูกน้อยตาดำๆให้โดดเดี่ยวเดียวดายได้ลงคอ เฮรื่อออออ!!!! T^T”

    ร่างบางฟุบหน้าลงบนโต๊ะเลคเชอร์ตัวเล็ก ภายในศูนย์เรียนรวมที่มีนิสิตเกือบห้าร้อยชีวิต เสียงอาจารย์ที่กำลังสอนประหนึ่งขับเสภาเป็นตัวช่วยกล่อมอย่างดี เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆปิดอย่างช้าๆก่อนจะจมสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด

    .

    .

    .

    อื้มมมมมมม ตาโตค่อยๆปรือตามองไปยังหน้าห้องเรียนที่ก่อนหน้านี้มีอาจารย์สอนอยู่แต่บัดนี้กลับไม่มีแล้ว ร่างบางค่อยๆบิดตัวไปมาเพื่อคลายอาการปวดเมื่อยพรางสอดส่ายสายตาไปบริเวณโดยรอบก็พบเพียงความว่างเปล่า แต่ต้องสะดุ้งตื่นเต็มตัวเมื่อพบกับใครบางคนที่นั่งส่งยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ

     

    เฮ้ยยยริท!!!!!”

     

    ถ้าอีก 5 นาที กันไม่ตื่น ริทว่าจะเรียกมูลนิธิมาเก็บศพแล้วนะเนี่ย คนที่ลักลอบแอบมองคนหลับอยู่นานเมื่อถูกจับได้ก็ทำทีพูดจาชวนหาเรื่อง

     

    บ้าหรอริท กันยังไม่ตายซะหน่อย

     

    ก็เห็นหลับเป็นตาย แล้วนี่ไปอดหลับอดนอนมาจากที่ไหนเนี่ย

     

    เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับอ่ะ ร่างบางตอบก่อนจะค่อยๆเลื้อยไปบนโต๊ะเลคเชอร์อีกครั้ง

    ไม่รู้ว่าไอ้คนที่เป็นต้นเหตุของการนอนไม่หลับมันจะทำอะไรอยู่ จะให้กลับห้องไปตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้า ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไง ไม่รู้ว่าต้องแสดงออกแบบไหน…

     

    เฮ้ยยย!! ยังจะนอนอีก คนอื่นเค้ากลับกันหมดแล้วนะ

     

    ริทกลับไปก่อนเถอะ ขอกันนอนต่ออีกสักพัก

     

    ได้ไงอะกัน เดี๋ยวก็มีคนมาใช้ห้อง นอนแบบนี้ไม่ได้ เอางี้!!กันก็กลับไปนอนต่อที่คอนโด เดี๋ยวริทไปส่ง

     

    กันยังไม่อยากกลับ ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะ ใบหน้าที่เคยสดใสกลับเต็มไปด้วยความหม่นหมองทำให้อีกคนเดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น

     

    ทะเลาะกับโตโน่มาหรอ

     

    ก็ไม่เชิง

     

    ริทก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกนะ แต่เห็นกันเป็นแบบนี้ริทไม่สบายใจเลย มีอะไรก็รีบๆเคลียร์กันนะ อย่าปล่อยเอาไว้นานเดี๋ยวมันจะลุกลามไปใหญ่

     

    อื้มม ร่างบางตอบรับในลำคอแล้วส่งรอยยิ้มให้กับเพื่อนตัวเล็ก

    อันที่จริงเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเคลียร์กับใครด้วยซ้ำ เพราะปัญหามันเกิดจากตัวเขา ตัวเขาเองที่ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีตอนนี้มันคืออะไร

     

    เหม่ออีกแล้วนะ ไปกันเถอะ!!!” คำพูดที่มาพร้อมกันฝ่ามือที่สัมผัสบริเวณข้อมือ แล้วออกแรงดึงเล็กน้อยเพื่อให้อีกคนที่ขนาดตัวไม่ต่างกันเท่าไหร่นักลุกขึ้น

     

    จะไปไหนริท?

     

    ไหนๆก็ไม่อยากกลับห้องแล้ว ไปนอนในโรงหนังสักสองสามชั่วโมงคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ

     

    ไม่เอาริท กันไม่อยากไป

     

    น่านะ ไปดูหนังเป็นเพื่อนริทหน่อย เรื่องนี้ริทอยากดูมากเลยนะกัน

     

    แต่กันง่วงนอนหนิ

     

    ไปนอนในโรงหนังก็ได้ น่านะ อยู่เป็นเพื่อนริทหน่อย

     

    ก็ได้ๆ แต่ริทต้องเลี้ยงนะแล้วถ้ากรนเสียงดังอย่ามาว่ากันทีหลังแล้วกัน

    .

    .

    .

    ใช้เวลาในโรงหนังเกือบสองชั่วโมง หนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ เรียกความสนใจจากกันได้อย่างมาก จากคนที่เอ่ยปากว่าง่วงนอนในตอนแรกกลับคุยจ่อไม่หยุดตั้งแต่เดินออกมาจากโรงหนัง

     

    “กันว่า…ตอนจบเปลี่ยนให้นางเอกตายแล้วให้พระเอกคู่กับเพื่อนพระเอกดีกว่าอีก เคมีมันใช่อ่ะ”

     

    แล้วฉากนั้นนะอย่างฟิน ที่พระเอกเข้าไปช่วยเพื่อนตอนจมน้ำ กันนึกไปถึงฉากขวัญกับเรียมลงไปเล่นน้ำในคลองแสนแสบเลย ฮ่าๆๆๆ”

     

    “แล้วตอนที่ตกลงมาจากดาดฟ้านี่แทบหยุดหายใจ น่าจะมีประกบปากกันซะหน่อย กรุบกริบ ฟินไปดิ!!!!” เสียงเจื้อยแจ้วจากหนุ่มวายตัวพ่อที่ยังคงเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างสดใสเรียกรอยยิ้มจากคนข้างๆได้เป็นอย่างดี

     

    “หนังสนุกดีนะ ริทว่าไง?”

     

    “ห่ะ!!! อ่อ อื้มมม สนุกดี” ริทได้แต่เออออตามคนข้างๆที่ถามตาเป็นประกาย จะให้ไปวิจารณ์เป็นฉากๆเหมือนคนข้างๆก็คงไม่ได้ เพราะเขาแทบจะไม่ได้ดูหนังเลยด้วยซ้ำ สติหายไปตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็จ้องคนข้างๆแบบไม่วางตาซะแล้ว ทุกๆปฏิกิริยาของกันเรียกความสนใจจากเขาได้ไม่น้อย เวลาที่กันสะดุ้งเพราะตกใจ หัวเราะ หรือแม้แต่น้ำตาซึมๆ ตามในหนังมันช่างดูน่ามองไปหมด

     

    กันบอกแล้วว่าเรื่องนี้สนุก

     

    เดี๋ยวนะ!!! รู้สึกว่าเรื่องนี้ริทเป็นคนเลือกไม่ใช่หรอ?

     

    เอาน่า!!! ปลายทางมันก็เหมือนกันนั่นแหละ เดี๋ยวกันเลี้ยงขนมริทตอบแทน”

     

    “จริงดิ!! โหยย ป๋าอ่ะ”

     

    “แน่น๊อนน” ร่างบางยักไหล่น้อยๆพร้อมกับทำหน้าตาชวนหมั่นเขี้ยวจนอีกคนทนไม่ไหวดึงแก้มนิ่มเบาๆ

     

    วันนี้ริทมีนัด ติดไว้ก่อนนะป๋า

     

    ก็ได้ มือเล็กปัดมือของอีกคนที่ยังคนดึงแก้มนิ่มไปมาออก ก่อนจะยู่หน้าใส่

     

    งั้นเดี๋ยวริทไปส่งที่คอนโดนะ

     

    เอ่อออ…” คิ้วสวยขมวดมุ่นจนจะผูกเป็นปมราวกับกำลังคิดอะไรอยู่  

     

    กันขอไปกับริทด้วยได้มั้ย

     

    ขอตามไปน่ะรู้หรือเปล่าว่าจะไปที่ไหน?

     

    ที่ไหนก็ไปหมดแหละ ริทคงไม่เอากันไปขายหรอกใช่ม๊า?

     

    แต่.. มันจะดีหรอ

     

    ดีสิ!!!!”

     

    แต่…”

     

    เถอะน่า!!!!”

    .

    .

    .

    เสียงเพลงกระหึ่มและแสงสีของไฟที่ชวนปวดหัวกับสถานที่แปลกตาที่ผมไม่เคยได้สัมผัส ผมมองไปรอบๆ ดูผู้คนโยกย้ายตามจังหวะเพลงบีทหนักๆอย่างเซ็งๆ ที่แบบนี้มันคงไม่เหมาะกับผมจริงๆนั่นแหละ

     

    เบื่อหรอกัน

     

    แค่ไม่ค่อยชินอ่ะ ผมยิ้มน้อยๆให้กับริท ถึงปากจะตอบไปแบบนั้น แต่ในใจกลับอยากร้องตะโกนดังๆแข่งกับเสียงเพลงว่า ไม่ไหวแล้วโว้ยยย แรกๆมันก็สนุก น่าตื่นเต้นอยู่หรอก แต่หลังๆมันเริ่มหูอื้อตาลายจนเวียนหัวไปหมด นี่ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าคนพวกนี้ทนกันไปได้ยังไง

     

    กลับมั้ยเดี๋ยวริทไปส่ง

     

    ริทสนุกกับเพื่อนต่อเถอะ กันโอเค ผมส่งยิ้มให้ริททอีกครั้งเพื่อให้ริทสบายใจ

     

    เพื่อนๆของริทคุยสนุกแต่บางเรื่องผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก จึงได้แต่ยิ้ม หัวเราะบ้างตามประสา

    ผมทอดสายตาไปเรื่อยๆ มองผู้คนที่ต่างมาเสพความสุขกันในสถานที่แห่งนี้ ผู้คนมากหน้าหลายตาที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน น่าแปลกที่พวกเขาเหล่าชูแก้วในมือแล้วส่งยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร ผมก็ได้แต่ยิ้มตอบไปแบบงงๆ แต่สายตาก็ดันไปสะดุดกับร่างสูงของใครคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในสถานบันเทิงแห่งนี้ เพียงแค่มองข้างหลังก็รู้ว่าเป็นใคร แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจไปมากกว่านั้นคือคนที่เดินเคียงคู่มาด้วยกันกับมัน หญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีดำ พี่จูนพี่รหัสของผมคนที่เราเพิ่งเจอเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนตอนที่ไปท้องฟ้าจำลอง

     

    ดวงดาวที่มันฝันใฝ่ ดวงดาวที่มันเฝ้ามองหากำลังโคจรอยู่รอบๆตัวมัน

    เหอะ!!!” ผมยิ้มเยาะให้กับตัวเอง ทำไมไม่นึกเอะใจบ้างเลยนะ มือก็พาลไปหยิบแก้วเครื่องดื่มของใครสักคนบนโต๊ะขึ้นดื่ม น้ำสีอำพันรสชาติขมคอที่เมื่อไหลสู่ลำคอกลับทำให้รู้สึกร้อนวาบ ผมเบ้หน้าเมื่อสัมผัสได้ถึงรสชาติที่แผ่ซ่านอยู่ภายในลำคอ ภาพที่ผมเห็นตอนนี้มันเป็นตัวกระตุ้นให้มือกรอกน้ำรสชาติขมคอนี่เข้าไปเสมือนน้ำเปล่า ชายหญิงสองคนที่ผมรู้จักดีกำลังหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสนิทสนม รอยยิ้มที่ผมคิดว่ามันเคยมีให้ผมคนเดียวบัดนี้ถูกใช้กับคนอื่น ทำไมมันทำให้ผมรู้สึกแย่ขนาดนี้นะ นี่ผมแค่กำลังหวงเพื่อนใช่มั้ย?

     

    ผมไม่อยากเห็นภาพนี้ต่อไป เพราะนั่นทำให้เสียงหัวใจของผมมันชัดเจนยิ่งขึ้น มันไม่สนุกหรอกนะกับการหลอกตัวเอง แต่มันคือวิธีเดียวที่จะรักษาความสัมพันธ์อันเปราะบางนี้ ผมคงจะเข้าไปทักทายถ้าคนคนนั้นไม่ใช่…มัน ผมคงจะกล้าเข้าไปแทรกกลางระหว่างเค้าสองคนถ้าคนคนนั้นไม่ใช่เพื่อน ผมคงจะยิ้มอย่างยินดีถ้าคนคนนั้นไม่ใช่ไอ้โน่

     

    ผมเตรียมที่จะกระดกแก้วเครื่องดื่มเข้าปากอีกครั้ง เพียงแต่มีมือใครสักคนมารั้งมันเอาไว้

    เป็นอะไร? ผมหันไปมองเจ้าของคำถาม ก่อนจะเบนสายตาไปยังต้นเหตุอีกครั้ง ผมมองดูภาพเค้าทั้งคู่อยู่พักใหญ่ก่อนที่มันจะค่อยๆผล่ามัวลง ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว ผมสัมผัสถึงหยดน้ำอุ่นๆบนใบหน้า นี่ผมร้องไห้หรอ?

     

    ไปกันเถอะ ริทกระตุกมือผมให้ลุกขึ้น ผมมองหน้าริทอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่ริทจะพูดอะไรอีกประโยคที่ไม่ได้ไขข้อข้องใจนั้นเลย ถ้าอยากเข้มแข็งก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน เช็ดน้ำตาซะ!!!”

     

    ริทลากผมไปยังหน้าเวทีที่มีผู้คนมากมายโยกย้ายไปตามจังหวะเพลง ผมได้แต่ขืนตัวเพราะกลัวใครบางคนเห็นเข้า วงดนตรีสดกำลังเล่นเพลงร็อคจังหวะหนักๆให้กระโดดตามกันได้

     

    และหากว่าเธอยังรัก ยังห่วงใย หากว่าเธอยังมีน้ำใจ ให้ฉันหน่อย อย่าปล่อยให้ฉันใจน้อย คอยเรื่อยไป

    และหากว่าฉันยังดีไม่พอ ก็จะขอทำดีให้เธอได้เข้าใจ ได้โปรดอย่าทำร้ายกันเลย” ริทร้องเพลงตามนักร้องที่ดูยังไงก็เหมือนแหกปากอยู่หน้าเวที ก่อนจับมือผมให้กระโดดไปกับเขา ดนตรีจังหวะหนักๆ กับเนื้อเพลงโดนๆ ผสมกับแฮลกอฮอล์ที่แผ่ซ่านอยู่ในร่างกาย มันทำให้ผมสนุกตามได้ไม่ยาก

     

    แต่ถ้าตัวเธอยังรัก ยังห่วงใย และถ้าอดีตของเรายังพอมีความหมาย ได้โปรดอย่าจากฉันไป ได้โปรดอย่าทำร้ายกันเลย เราทั้งคู่แหกปากร้องเพลงกันอย่างเมามันส์ เสมือนกำลังต้องการสื่อความหมายให้ใครบางคนได้รับรู้

    แรงกระชากที่ข้อมือทำให้ผมหันกลับไปมอง ก็พบกับบุคคลที่ผมไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้ หน้าตามันตอนนี้บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ครุกรุ่น แต่นั่นมันไม่ได้ทำให้ผมเกรงกลัวเลยสักนิด ผมกระชากมือออกจากการเกาะกุมของมันเราทั้งสองเล่นสงครามประสาทกันพักใหญ่ ต่างฝ่ายต่างไม่พูด เอาแต่จ้องตากันไปมา เสียงเพลงที่ดั่งกระหึ่มอยู่ตอนนี้ไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทเลยสักนิด

    มันดึงมือผมอีกครั้งแต่ริทเข้ามาขวางไว้ซะก่อน แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคเพราะด้วยขนาดตัวแล้วแค่มันผลักก็ทำให้ริทเสียการทรงตัวก่อนที่มันจะชี้หน้าริทเหมือนคาดโทษแล้วลากผมออกไปหลังร้าน

     

    ไหนว่าจะกลับบ้าน มันถามเสียงเรียบเหมือนกำลังควบคุมอารมณ์

     

    ไม่อยากกลับ

     

    แล้วทำไมมาในที่แบบนี้

     

    แล้วมึงล่ะ มาทำไม? ผมตอบกลับอย่างไม่กลัวเกรง อาจจะเพราะด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ผมกล้าที่จะพูดกับมันไปแบบนั้น

     

    กัน!!! นี่มึงดื่มหรอ?

     

    มันเรื่องของกู

     

    มึงเป็นอะไรก็บอกกูสิ อย่ามาทำตัวแบบนี้

     

    มึงเป็นใคร?

    เป็นเจ้าชีวิตกูหรอ?

    ทำไมกูต้องรายงานมึงทุกเรื่อง?

    มึงไม่ได้สำคัญขนาดนั้นโน่ อย่าสำคัญตัวผิด”

     

    โธ่เว้ย!!!!” มันเตะขวดเบียร์ที่ตั้งอยู่หลังร้านแตกกระจายเสียงดังจนผมเองก็ตกใจ

     

    ไอ้โน่!!!” เสียงบุคคลที่สามที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวอีกคนที่ควงคู่มากับมัน ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปดูเอาแต่ก้มหน้าเรียกสติตัวเอง นี่ผมพูดแรงไปหรือเปล่า?

     

    เป็นอะไรหรือเปล่ากัน? ริทจับผมหมุนไปหมุนมาซึ่งผมก็เอาแต่ก้มหน้าไม่ได้ตอบมันออกไป

     

    โตโน่!!! จูนว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่จูนที่เอ่ยเสียงเฉียบขาด ก่อนจะหลุบตาลงเมื่อพี่จูนมองกลับมา กันกลับไปก่อนเถอะ พี่มีเรื่องต้องคุยกับโตโน่

     

    ริทดึงมือผมไปที่รถทันที พร้อมกับอาสาไปส่งที่คอนโด ก่อนจะขอโทษขอโพยชุดใหญ่ที่ทำให้เกิดเรื่อง

    ……………………………………………………………………….

     

    ทางด้านโตโน่เมื่อคล้อยหลังร่างบางไป หญิงสาวก็ยิงคำถามขึ้นมาทันที

     

    เป็นบ้าอะไร ทำไมทำตัวเป็นหมาบ้าแบบนี้?

     

    ก็แค่โมโห ที่เห็นกันมันมาในที่แบบนี้

     

    แค่นั้นจริงๆหรอ? เพื่อนกันจำเป็นต้องหวงกันขนาดนี้เลยหรอ

     

    “……”

     

    หรือที่ใครๆเคยพูดไว้มันจะจริง

     

    หมายความว่ายังไงร่างสูงจ้องหญิงสาวตาเขม็ง

     

    นายกับกันเป็นอะไรกัน? คบกันในสถานะไหนกันแน่?

     

    ผมก็บอกจูนตั้งหลายครั้งแล้วว่าเราเป็นเพื่อนกัน ต้องให้ผมทำยังไงจูนถึงจะเชื่อ

     

    จูนว่าโตโน่น่าจะรู้ดีนะ ว่าควรต้องทำยังไง

     

    แต่..”

     

    เลือกเอาว่าโตโน่จะเลือกใคร อ่อ!!! แล้วจะหาว่าจูนร้ายไม่ได้นะ โตโน่ผิดเองที่ไม่ชัดเจน

     

    “…..”

     

    หวังว่าจะได้ยินข่าวดีรอยยิ้มสวยปรากฏบนใบหน้าหญิงสาวพร้อมกับคำพูดที่ทำให้คนได้ยินฟังรู้สึกถึงแรงกดดัน

     

     

    ถ้าวันหนึ่งคุณต้องเลือกระหว่าง “ความรักกับ ความผูกพัน คุณจะเลือกอะไร?

     

    คนที่เฝ้าคอยมาตลอด กับคนที่อยู่เคียงข้างเสมอ คนไหนที่ใจต้องการ?






     


    ใกล้จะจบแล้ว เป็นกำลังใจให้เราด้วยน้าาาา
    ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า หวังว่าจะยังไม่ลืมกันเน้อ ^___^

     

     

     

     

     

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2025

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×