ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมนิยายสั้นดีๆน่าอ่าน

    ลำดับตอนที่ #1 : นิยายสั้นเรื่อง เซ้นส์หัวใจบอกว่าคนที่ใช่คือเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 55


    นิยายสั้นเรื่อง

    เซ้นส์หัวใจบอกว่าคนที่ใช่คือเธอ

               ที่โรงเรียนสหศึกษาแห่งหนึ่ง

               ยัยปีใหม่ เด็กสาวหน้ากลม ตาแบ๊ว สาวแก่นประจำห้องม.6/4 เดินกลับมาที่หักช่วงพักเบรก 10 นที หลังจากที่ไปชิ่งฉ่องแบบด้วยๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

              “เฮ้ยไอ้โป้ง! แกมายืนเกะกะอะไรแถวโต๊ะฉันมิทราบ อย่าบอกนะว่าแกแกล้งเอาจิ้งจกปลอมซ่อนไว้ใต้โต๊ะฉันอีกแล้วน่ะ” ยัยปีใหม่ชี้นายนายโป้งเพื่อนผู้ชายร่วมห้องที่มายืนอยู่แถวโต๊ะประจำตำแหน่งของเธอ

              “ฉันรู้แล้วว่าแกไม่กลัวจิ้งจกแล้วมาแกล้งแกให้เสียเวลาอีกทำไม ฉันแค่เดินมายืมปากกาโน็ตตางหาก” นายโป้งทำหน้าเซ๊งๆใส่ยัยปีใหม่

              “จริงเหรอโน้ต” ยัยปีใหม่หันไปถามยัยโน็ต เพื่อนสาวที่นั่งข้างๆเธอมาตั้งแต่ ม.4

              “อือ!” ยัยโน้ตเงยหน้าจากหนังสือการ์ตูนในมือมาตอบสั้นๆแล้วก้มหน้าก้มตาอ่านต่อ ส่วนนายโป้งก็เดินกลับไปนั่งที่ตัวเองแล้วเมาส์กับเพื่อนๆตามปกติ

              เรื่องทุกอย่างคงจบลงแค่นี้ เพราะไม่มีประเด็นอะไรให้ยัยปีใหม่ต้องสงสัยอีก แต่เซ้นส์ของเธอกับบอกว่ากำลังเกิดเรื่องมาชอบมาพากลเกิดขึ้นแน่ๆเพียงเธอเธอเลือกเงียบไปเท่านั้นเอง

              ตอนเย็นหลังเลิกเรียน

              “โน้ต! วันนี้แกกลับบ้านคนเดียวแล้วกันนะ พอดีฉันมีธุระต้องเรียบจัดการกับนังอ้อนมันก่อน ใช่มั้ยนังอ้อน” ยัยปีใหม่บอกยัยโน้ตพร้อมกับหันไปขยิบตากับยัยอ้อนเพื่อนซี้อีกคนในกลุ่ม

              “อ๋อ ใช่ๆฉันขอยืนตัวนังใหม่วันหนึ่งนะ แก่ไม่ว่าอะไรใช่มั้ย” ยัยอ้อนทำหน้าเหวอไป2วินาที แล้วเรียบรีบรับมุกตามประสาคนหัวไวขั้นเทพ

              “ไม่ว่าหรอก ตามสบายเลย” ยัยโน้ตตอบยิ้มๆไม่ถามด้วยซ้ำว่าธุระของยัยอ้อนกับยัยปีใหม่คืออะไร ทั้งที่การเป็นเพื่อนไม่น่าจะมีคำว่า ธุระ กันหรอกนะ

               “และเมื่อยัยโน้ตเปิดไฟเขียวให้แล้ว ยัยอ้อนกับยัยปีใหม่ก็เดินกอดคอกันออกมาจากห้อง แต่ไม่ได้เรียบร้อยไปทำธุระอะไรกันอย่างที่บอกแต่อย่างใด

              “เจี๊ยบๆกลับบ้านพร้อมกันมั้ย” ยัยปีใหม่ยังมีแก่ใจหันไปชวนเพื่อนต่างกลุ่มแต่อยู่บ้านซอยเดียวกันที่เพิ่งกดวางมือถือตอนที่พวกเรากำลังเดินมาใกล้

               “ไม่อ่ะ เดี๋ยวฉันต้องกลับพร้อมกอล์ฟ”

               “พร้อมตัวติดกันจังเลยน้า น่าอิจฉาจริงจริ๊ง เมื่อไหร่ฉันจะมีแฟนที่คบกันมาราธอนแบบนี้บ้างเนี่ย” ยัยอ้อนแซวยัยเจี๊ยบขำๆเพราะยัยเจี๊ยบกับนายกอล์ฟถือเป็นคู่รักตัวอย่างที่กันมาตั้งแต่ม.4 เทอม 1 แล้ว

               แต่เมื่อยัยใหม่กับยัยอ้อนเดินมาถึงป้ายรถเมล์ ยัยใหม่ก็พูดในสิ่งที่ทำให้ยัยอ้อนทำตาโต อ้าปากค้าง เหมือนโดนผีหลอกตอนเย็นๆ

                “ว่าไงนะ ยัยโน้ตกำลังคบกับไอ้โป้ง ส่วนยัยเจี๊ยบก็กำลังมีกิ๊ก!!!

                “เออ ไม่เชื่อแกก็เคยดูแล้วกัน เซ้นส์ฉันไม่มีพลาดหรอก”

                “ก็จริงอะนะ ฉันเห็นแกฟันธงเรื่องความรักของชาวบ้านได้โชะๆตลอดๆ...แต่คราวนี้ฉันไม่อยากเชื่อเลยอ่ะ โดยเฉพาะเรื่องของยัยโน้ตกับนายโป้งอะฝนไม่มีทางตั้งเค้าเลยนี่หว่า”

                “มาพนันกันไหมล่ะ เดี๋ยวฉันคาดคั้นจนพวกมันยอมรับเมื่อไหร่ แกต้องให้ฉัน 200 ส่วยเรื่องของยัยเจี้ยบก็...อุ๊ยย!” ยัยใหม่กำลังพนันขันต่อกับยัยอ้อนอย่างเมามัน แต่ดันมีใครบางคนเดินชนจนเซไปหลายองศา

                คนที่เดินเอาไหล่กว้างๆ ชนยัยใหม่คือนายแต๊งค์ หนุ่มนักบาสประจำโรงเรียนที่ขึ้นชื่อเรื่องความขี้เก๊ก เขาเพียงแค่ปรายตามองยัยใหม่ที่ยืนรอคำขอโทษอยู่แว็บเดียวและทำท่าจะเดินต่อไป

               “เฮ้ย! ไม่คิดจะขอโทษซักคำเหรอ ฉันไม่ใช่หัวหลักหัวตอนะ”ยัยใหม่โวย เพราะนึกหมั่นไส้ความขี้เก็กของนายแต๊งค์มานานแล้ว แม้จะอยู่กันคนล่ะห้องก็เถอะ

               “เหรอ!” นายแต๊งค์เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งแล้วมองยัยใหม่หัวจรดเท้า เป็นผลทำให้ควันออกหูยัยใหม่มากขึ้นไปอีก

               “ไอ้...ไอ้...” ยัยใหม่พยายามนึกคำด่าเจ็บๆ แต่นึกไม่ออก

               “ช่างเถอะใหม่ เรื่องแค่นี่เอง เราคุยกันต่อดีกว่า” ยัยอ้อนช่วยไกล่เกลี่ยสถานการณ์ด้วยการจับหน้าของยัยใหม่หันกลับมาทางตนเอง แล้วแอบโบกมือไล่ให้นายแต๊งค์เรียบไป นี่ถ้าไม่ใช่เพราะนายแต๊งค์หน้าตาใช้ได้ ยัยอ้อนคงไม่ช่วยแบบนี้หรอกนะ

              3 วันต่อมา

              ข่าวครกโครมประจำห้องของยัยใหม่กับยัยอ้อนก็เกิดขึ้นพร้อมกัน 2 เรื่อง นั่นคือข่าวที่มีคนเห็นยัยโน้ตกับนายโป้งนั่งหม่ำไอศกรีมกันสองต่อสองด้วยอาการกระหนุงกระหนิงเกินเพื่อน และข่าวที่ยัยเจี้ยบโดนนายกอล์ฟจับได้ว่ามีกกิ๊กและทะเลาะกันใหญ่โต

              “เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้วว่าเซ้นส์เรื่องความรักของฉันไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว” ยัยใหม่คุยโวระหว่างเดินไปขึ้นรถเมล์กับยัยอ้อนหลังเลิกเรียน

             “แล้วเซ้นส์ของแกมีบอกมั่งมั้ยล่ะว่าฉันกับแกจะได้ลงจากคานเมื่อไหร่ใกล้ยังๆ” ยัยอ้อนถามขำๆ ไม่ได้จริงจังนัก

             “เอ่อออ...” ยัยใหม่จ้องหน้ายัยอ้อนที่เต็มไปด้วยสิวแบบใช้ความคิดก่อนจะสรุป “เซ้นส์ของฉันบอกว่า ของฉันน่ะเร็วๆนี้แหละ แต่ของแกยังไม่มีวี่วาวเลย สงสัยจะอีกนานมวากกก”

             “ว้า! ไหงงั้นล่ะ นี่แกจะทิ้งฉันไปอีกคนแล้วเหรอ” ยัยอ้อนแกล้วทำหน้าผิดหวัง

             แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนายแต๊งค์หนุ่มจอมเก็กเดินเข้ามาพูด ทั้งยัยใหม่และยัยอ้อนไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากเขา

             “ฉันชอบเธอ เรามาคบกันเถอะ” คนที่นายแต๊งค์สบตาตรงๆ และพูดด้วยคือยัยอ้อน

             “เดี๋ยวๆ นายตั้งสติใหม่นะ นายตั้งใจจะมาพูดประโยคนี้กับยัยใหม่แต่เขินจัดก็เลยดันมาพูดกับฉันแมนอะไรทำนองนั้นใช่มั้ย” ยัยอ้อนพยายามจะปะติดปะต่อเรื่องราวใหม่ เพราะรู้ตัวว่าไม่มีความสวยอยู่เลย ผิดยัยใหม่ที่ยังน่ารักและน่าเอ็นดูกว่าเธอหลายเท่า

              “เปล่า! ฉันหมายถึงเธอนี่แหละ” นายแต๊งค์ยืนยันคำตอบเดิม

              “ตะ...แต่ว่า เมื่อกี้ยัยใหม่พึ่งบอกว่าฉันไม่มีวี่วาวจะ...”

              “จะอะไรเหรอ”

              “เปล่าๆ...ตกลงว่านี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยเนี่ย” ยัยอ้อนยังไม่อยากจะเชื่อว่าหนุ่มน่าตาดี แถมเป็นนักบาสประจำโรงเรียนอีกต่างหากจะมาขอคบด้วยแบบนี้

              “ไม่ได้ฝันแน่ๆ...ว่าแล้วฉันก็ขอยืมตัวเพื่อนเธอหน่อยนะ” นายแต๊งค์ตอบยัยอ้อน แล้วหันไปทางยัยใหม่ที่ยังทำหน้าเหวอๆมึนๆอยู่ ว่าแต่ทำไมนายแต๊งค์ต้องทำแววตาเหมือนพึ่งวิ่งแข่งชนะยัยใหม่แบบนั้นด้วยเนี่ย

              วันรุ่งขึ้น

              ไม่ว่ายัยใหม่จะตื้อถามยัยอ้อนว่านายแต๊งค์ดึงตัวอ้อนไม่คุยอะไรด้วย หรือไปไหน ทำอะไรกันหลังจากที่แยกย้ายกันยังไง ยัยอ้อนก็เอาแต่บอกว่าเป็นความลับและอมยิ้มเท่านั้น สร้างหงุดหงิดให้ยัยใหม่ไม่ใช่น้อย

              “ไปกินข้าวกันเถอะ” นายแต๊งค์โหล่หน้ามาชวนยัยอ้อน หลังจากเสียงออดพักกลางวันดังไม่ถึง 10 วินาที

              “งั้นฉันไปกินคนเดียวก็ได้ แกไปกับนายแต๊งค์เถอะ” ยัยใหม่พยายามยิ้มทั้งๆ ที่เพิ่งปรับตัวกับการไม่มียัยโน้ตไปกินข้าวด้วยได้ แต่ต้องมาเสียยัยอ้อนไม่อีกคนซะงั้น

               “ไปด้วยกันนี่แหละ ฉันว่าเธอไม่เป็น ก.ข.ค.หรอก” นายแต๊งค์พูดยัยอ้อนก็พยักหน้ายิ้มๆ เห็นด้วย

              “สุดท้ายยัยใหม่ก็เลยไปกินข้าวพร้อมนายแต๊งค์และยัยอ้อน ซึ่งเธอก็เพิ่งรู้ว่าเธอตัดสินใจผิดอย่างแรง เมื่อยัยอ้อนกับนายแต๊งค์ผลัดกันตักอาหารให้กันและหยอกล้อกันไปมาอย่างสนุกสนาน จนเธอรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินและปั้นหน้าไม่ถูกเอาซะเลย

              “ฉันอิ่มแล้ว ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ แล้วก็ว่าจะไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดซะหน่อย ไว้เจอกันบนห้องแล้วกันนะอ้อน” ยัยใหม่บอกยัยอ้อนและยิ้มแบบฝืนๆ ให้นายแต๊งค์ ก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำ

               ที่หน้ากระจกในห้องน้ำ ยัยใหม่มองหน้าเจื่อนๆ จ๋อยๆ ของตัวเอง แล้วถอนหายใจดังเฮือก ไม่รู้ว่าความรู้สึกในใจตอนนี้คืออะไรกันแน่ ทีที่รู้ว่ายัยโน้ตคบกับนายโป้ง เธอยังไม่รู้สึกจิ๊ดๆ ในใจอย่างนี้เลย

               ยัยใหม่ไปกินข้าวกลางวันพร้อมกับยัยอ้อนและนายแต๊งค์อีก 2-3 วัน แล้วก็ตัดสินใจขอแยกไปกินข้าวกับเพื่อนกลุ่มอื่นแทน ส่วนตอนเย็นก็แยกกลับบ้านไปก่อน ทั้งที่นายแต๊งค์และยัยอ้อนช่วยพูดให้เธอยินดีไปไหนมาไหนด้วย เพราะไม่ได้ต้องการความเป็นส่วยตัวตามประสาข้าวใหม่ปลามันขนาดนั้น

               เช้าวันจันทร์ต่อมา แม้วันนี้จะเป็นวันเกิดของยัยใหม่แท้ๆ แต่เธอกลับดูจ๋อยๆ ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ขนาดเพื่อนๆ ผลัดกันเดินมาอวยพรหรือให้ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เธอก็ได้แต่ยิ้มตอบเบาๆ

              “ใหม่! ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย” ตอนที่ยัยใหม่กำลังเดินขึ้นรถเมล์กลับบ้าน นายแต๊งค์ก็เดินมาขวางหน้าเธอเอาไว้

              “มีอะไรเหรอ”

              “อะนี่! แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะ” นายแต๊งค์เอาของขวัญกล่องใหญ่ที่ถือแอบไว้ข้างหลังส่งมาให้ยัยใหม่ แววตาของนายแต๊งค์ดูเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้

              “ขอบใจนะ แต่ที่จริงไม่ต้องให้ของขวัญฉันก็ได้ แล้วดูซิ! ให้ซะกล่องใหญ่เลย ไว้ตอนวันเกิดยัยอ้อน นายต้องให้กล่องใหญ่กว่านี้นะ ไม่งั้นยัยอ้อนงอนแน่”

               “ถึงฉันไม่ให้ของขวัญอะไรอ้อนเลย อ้อนก็ไม่งอนหรอก เพราะอ้อนเค้ารู้ว่าฉันย่อมให้ของขวัญเธอเป็นพิเศษอยู่แล้ว”

              “แล้วทำไมนายต้องให้ของขวัญฉันเป็นพิเศษด้วยล่ะ ฉันไม่ใช่แฟนนายซะหน่อย”

              “ก็ฉันกำลังให้เธออยู่นี่ไงล่ะ”

              “เฮ้ย! นี่นายจะบ้าเหรอ อย่าบอกนะว่านายจะทิ้งเพื่อนฉัน แล้วมาคบฉันแทน นอกจากฉันไม่โอเคแล้ว ฉัยยังจะฆ่านายอีกต่างหาก”

              “ฮ่าๆๆ ฉันกับเพื่อนเธอน่ะไม่เคยเป็นแฟนกันเลยแม้แต่วินาทีเดียว จะเรียกว่าฉันทิ้งเพื่อนเธอได้ไง...จริงมั้ย!” นายแต๊งค์ถามขึ้นมาลอยๆ เหมือนรู้ว่ามีคนแอบฟังอยู่

              “จริง!” ยัยอ้อนโผล่หน้าออกมาตอบยิ้มๆ แววตาเจ้าเล่ห์ไม่แพ้นายแต๊งค์เลย

              “นี่มันอะไรกันเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้ว”

               “คืองี้!” ยัยอ้อนเสนอตัวเฉลยทุกอย่างเอง “ที่จริงแล้วนายแต๊งค์น่ะ เขาสนใจเธอตั้งแต่วันที่เดินชนเธอที่ป้ายรถเมล์แล้ว แล้วเขาก็บังเอิญได้ยินเราคุยกันเรื่องที่เธอมีเซ้นส์เรื่องความรักแม่นอย่างนั้นอย่างนี้ด้วย เขาก็เลยนึกสนุกอยากแกล้งให้เธอเสียเซลฟ์ แล้วก็ให้ฉันช่วยเล่นละครว่าเป็นแฟนกับเขาเพื่อนดูปฏิกิริยาของเธอไง”

               “โหยยย ทำไมทำแบบนี้กับฉันล่ะ”

               “เอาเป็นว่า ฉันยอมรับเลยนะว่าเซ้นส์ของเธอแม่นจริงๆ แล้วถ้าไม่อยากให้เซ้นส์ของเธอพลาดอีก เธอก็ต้องยอมโอเคที่จะเป็นแฟนฉันเท่านั้นถูกมั้ย” นายแต๊งค์ยื่นหน้าเข้ามาถามใกล้ๆ

               “ไม่ นายไม่คิดบ้างเหรอเซ้นส์ที่บอกว่าฉันกำลังจะได้ลงจากคานน่ะ อาจจะหมายถึงผู้ชายคนอื่นก็ได้ เพราะฉันไม่ได้ชอบนายซะหน่อย”

               “จริงเหรอ เธอไม่นึกชอบฉันซักนิดจริงเหรอ” นายแต๊งค์คาดคั้นถามยิ้มๆ

              “จริง ตรงกันข้ามเลย ฉันหมั่นไส้แล้วก็เกลียดนายมากเลยด้วยซ้ำ”

              “ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันจะทำให้เธอเปลี่ยนใจมาชอบฉันเอง รับรองว่าฉันทำได้แน่ๆ”

              “ฝันไปเถอะ”

              นายแต๊งค์กับยัยใหม่เถียงกันไปเถียงกันมา โดยไม่ทันสังเกตว่ายัยอ้อนค่อยๆ แอบย่องออกมา และปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ลองถ้ารูปการเป็นแบบนี้ ยัยก็รู้แล้วล่ะว่าเรื่องจะลงเอยยังไง แต่ถึงเพื่อนทั้งสองคนจะทิ้งเธอไปมีแฟนกันหมดก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะเธอรู้ว่าซักวันก็ต้องถึงคิวของเธอนั่นแหละ

     

    จบแล้วค่ะ สำหรับนิยายสั้นๆ จบสนุกหรือเปล่านะ ช่วยแสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×