ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    9th letter

    ลำดับตอนที่ #7 : วันที่ 1 ตอนที่ 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 170
      0
      8 เม.ย. 52

      />

     

    -7-

     

                    เคบิ้นของเรือดูเล็กลงถนัดตาเมื่อจุคนทั้งเก้าเข้าไป

                    เราจะถึงเกาะในอีกราวสามสิบนาทีข้างหน้า ทนายที่นั่งอยู่ประสานมือวางบนโต๊ะ ผมจึงอยากถามความมั่นใจอีกครั้ง... ตลอดเวลาเก้าวันนี้จะไม่มีใครเข้าไปที่เกาะ หากมีเหตุฉุกเฉินเราไม่อาจรับประกันความปลอดภัย มีใครต้องการถอนตัวไหมครับ

                    บรรยากาศอึมครึมปกคลุมทั้งห้อง รวียกมือขึ้นช้าๆ กวาดสายตาหวาดหวั่นมองทุกคน

                    คุณต้องการถอนตัวเหรอครับ ทนายเอ่ยถามช้าๆ

                    เอ่อ... เปล่าค่ะ คือ... ชั้นแค่จะถามคุณทนายเกี่ยวกับ... เรื่องคำสาป

                    คำสาป?” ธีระทวนคำ เคทหัวเราะคิกๆ เบาๆ

                    ทนายหลับตาลงครู่หนึ่ง คุณไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหนครับ

                    คือ... เธอหันไปมองปองพลราวต้องการความช่วยเหลือ

                    เราได้ยินมาจากไต้ก๋งเรือครับ ปองพลเอ่ย ค่อยๆ เล่าเรื่องที่เขาได้ยินมาเมื่อครู่ช้าๆ

                    ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ราวกับทะเลเงียบเสียงลง ไม่มีเสียงใดอื่นนอกจากเสียงของชายหนุ่ม

                    แม้ได้ยินเป็นครั้งที่สองรวีก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ภาพของร่างลึกลับโชกเลือดที่ค่อยๆ เดินไปทั่วคฤหาสน์ฆ่าผู้คนทีละคน ทีละคน ภาพห้องโถงที่ชดลมด้วยเลือด และภาพซากศพเปื่อยเน่าของทหารญี่ปุ่นปรากฏในขึ้นในหัวอีกครั้ง เธอกวาดสายตาดูปฏิกิริยาของทุกคน

                    ธีระก้มหน้าครุ่นคิด ดลแตะดันแว่นขึ้นจมูกกรอกตาครุ่นคิดตาม ฟ้ามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยใบหน้าเรียบเฉยราวกับไม่สนใจเรื่องราวนี้เลย เคทอมยิ้ม หัวเราะออกมาเบาๆ ในบางครั้ง หญิงสูงอายุแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายเหมือนกำลังฟังเรื่องไร้สาระอยู่ ชายหนุ่มใส่แว่นอีกคนขยับตัวไปมาด้วยท่าทางอึดอัด

                    รวีคิดว่าทุกคนเองก็คงรู้สึกถึงบรรยากาศกดดันนี้เหมือนเธอ มันหนักอึ้ง ขุ่นข้น

                    แล้วเรื่องที่ปองพลเล่าก็จบลง

                    เสียงของทะเลกลับมาอีกครั้ง แต่บรรยากาศหนักอึ้งไม่หายไป ราวกับเข็มวินาทีเดินช้าลงจนรู้สึกได้ชัดเจน

                    ทนายถอนหายใจในที่สุด ครับ ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่มีข่าวลือแบบนี้ ความจริงผมควรชี้แจงเรื่องนี้กับทุกคนแต่แรก ในถานะที่พวกคุณคนใดคนหนึ่งอาจจะเป็นผู้รับมรดก

                    เขาเพิ่มเสียงขึ้นเพื่อให้ได้ยินทั่วกัน

                    เรื่องราวส่วนใหญ่เป็นไปตามเรื่องที่คุณได้ยินมา เกาะนี้เคยเป็นที่คุมขังนักโทษการเมืองก่อนจะที่รัฐบาลจะยกให้กองทัพญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารญี่ปุ่นใช้มันเป็นสถานที่คุมขังนักโทษ... เขาเว้นระยะเล็กน้อย และทดลองทางการแพทย์

                    ทดลองทางการแพทย์เหรอครับ ดลซึ่งเป็นหมอเอ่ยถาม

                    ครับ ญี่ปุ่นใช้เกาะนี้ทดลองการรักษาโรคเขตร้อนเช่นมาลาเลียเป็นต้น...

                    คุณหมอปิดปาก ใบหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่จะเอ่ยออกมา คุณคงไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทดลองกับ...

                    ทนายไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

                    ผมเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับห้องทดลองของญี่ปุ่นในแมนจูเรียที่ทดลองกับคนเป็นๆ ไม่นึกว่าในไทยก็... ชายใส่แว่นผู้เลือนรางเอ่ยออกมาเป็นครั้งแรกด้วยเสียงที่บ่งบอกความไม่มั่นใจในตนเอง

    หมายความว่าคำสาปนี้ เป็นของนักโทษพวกนั้น... รวีเอ่ยด้วยความสยดสยอง

    เคทหัวเราะคิกๆ เบาๆ ทำให้ทุกคนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ยกเว้นฟ้าที่รู้สึกคลื่นไส้กับเสียงหัวเราะของเธอ

                    เหลวไหล! หญิงอาวุโสเอ่ยเสียงดังกังวาน คำสาปมันมีที่ไหนกัน

                    ผมเองก็คิดแบบนั้น ธีระเอ่ย นี่อาจจะเป็นแค่เกมส์ของทีมงานก็ได้

                    ห้องเงียบลงอีกครั้ง ทุกคนจมกลับเข้าไปในห้วงความคิด

                    ว่ายังไงครับ ทนายถามขึ้นอีกครั้ง มีใครจะถอนตัวตรงนี้รึเปล่า

                    ชั้นไม่ หญิงสูงอายุเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก

                    ผมไม่ ธีระเอ่ย เขามีเป้าหมายที่สำคัญเกินกว่าจะกลัวเรื่องโง่ๆ แบบนี้

                    แบบนี้ก็น่าสนุกไปอีกแบบใช่ไหมครับ ดลเอ่ย พยายามยิ้มทั้งๆ ที่สีหน้ายังซีดจางอยู่

                    ไม่ค่ะ เคทเอ่ย

                    ผมก็ไม่ หนุ่มแว่นผู้เลือนรางเอ่ย

                    ปองพลเกาหัว เอาไงเอากันล่ะครับ

                    รวีหันมองรอบๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยนำเสียงไม่มั่นใจ ถ้า... เอ่อ ชั้นก็... ไม่ถอนตัวคะ

                    ปองพลยิ้มให้เธอ

                    งั้น และคุณหนูล่ะครับ ทนายความเอ่ยถามฟ้า ที่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

                    อะไร?”

                    จะถอนตัวไหมครับ

                    ถอนตัว? เรื่องอะไร?” เธอถามเหมือนไม่ได้ฟังเรื่องเมื่อครู่เลย

                    ทนายความพยักหน้าช้าๆ ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าทุกคนตกลงยอมรับเงือนไขนี้นะครับ ตามกฎหมายแล้วถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณจะไม่อาจฟ้องร้องใครได้ เขาใจนะครับ

                    ทุกคนพยักหน้า

                    งั้นกรุณาเซ็นเอกสารนี้ด้วย การรับพินัยกรรมสามารถรับได้ตามกฎหมายแม้แต่ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหากับคุณหนูเขามองไปที่เด็กสาว เอกสารนี้แค่เซ็นเพื่อเป็นหลักฐานว่าทุกคนได้รับรู้ และยอมรับข้อตกลง

                    ทนายความแจกเอกสารใบหนึ่งให้ทุกคน ความคร่าวๆ คือผู้เซ็นรับรู้เงื่อนไข และมีประสงค์จะเข้าร่วมเงื่อนไขการรับพินัยกรรมโดยการตัดสินใจของตัวเอง

                    เอาล่ะ หญิงสูงอายุเอ่ยหลังจากเซ็นเอกสารเรียบร้อยเป็นคนแรก เมื่อเกมส์เริ่มขึ้นแล้วอย่างแรกเราควรจะแนะนำตัวกัน เธอยืดตัวขึ้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวาน ชั้น แสงจันทร์ วันเทวา เคยเป็นครูมาก่อน เรียกว่าจันทร์ก็ได้

                    เคทหัวเราะคิกๆ

                    มีอะไรจ๊ะ จันทร์ถาม ด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก

                    เปล่าค่ะ แค่รู้สึกเหมือนกลับไปอยู่ชั้นประถม เธอยิ้มจางๆ ดิชั้นชื่อเคทค่ะ แนะนำแค่นี้ก็พอใช่ไหมล่ะคะ เคทเอ่ยพลางยื่นเอกสารที่เซ็นแล้วให้ทนาย

                    ผมธีระครับ เรียกทีก็ได้ ธีระเอ่ยเมื่อเซ็นเอกสารเรียบร้อย

                    ดลครับ ดลยื่นเอกสารที่พิจารณาถี่ท่วนแล้วให้ทนายความแล้วหันกลับมาแนะนำตัวกับทุกคน

                    ปองพลครับ ชื่อเล่นชื่อป็อก แล้วนี่รวี

                    ค่ะ รวีค้อมหัวให้ทุกคน

                    เคนทร์ครับ หนุ่มแว่นเอ่ยเบาๆ

                    แล้วหนูล่ะจ๊ะ จันทร์ถามเด็กสาวที่อยู่นั่งเงียบๆ

    เธอเงยหน้าขึ้น เอ่ยห้วนๆ ฟ้า

    ทนายพยักหน้า ครับอย่างนั้นผมจะขอแจ้งเงื่อนไขของการรับพินัยกรรมให้ทุกท่านทราบอย่างละเอียด

    ทุกคนจับจ้องไปที่เขาด้วยสีหน้าจริงจัง

    เรือจะส่งทุกท่านที่เกาะในเวลาราว สิบหกนาฬิกา สามสิบนาที พวกท่านจะต้องนำสำพาระเดินเท้าไปที่คฤหาสน์

    รวีอ้าปากคล้ายจะเอ่ยอะไร แต่ก็กลืนคำพูดนั้นลงท้อง

    ห้องพักของทุกคนถูกเตรียมไว้ที่คฤหาสน์ ผมจัดเตรียมเสบียงไว้พอสำหรับเก้าวันในครัว คฤหาสน์มีน้ำบาดาลและไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟละเครื่องสูบน้ำ เครื่องปั่นไฟให้พลังงานจากน้ำมัน ในกรณีฉุกเฉินเราเตรียมน้ำมันสำรองไว้ในห้องเก็บของ

    ทุกคนพยักหน้า

    เงื่อนไขก็คือ ก่อนเวลาเที่ยงคืนของทุกวัน ทุกท่านต้องเขียนชื่อคนที่ต้องการให้หมดสิทธิ์รับพินัยกรรมลงใส่ลงในกระดาษใส่กล่องที่เตรียมไว้ให้ในห้องโถง คนที่มีชื่อมากที่สุดในกล่องในแต่ละวันจะหมดสิทธิ์รับพินัยกรรม และสิทธิ์ที่จะเขียนชื่อในวันต่อไป

    สรุปง่ายๆ คือให้โหวตออกวันละคนสินะปองพลพึมพำกับตัวเอง

    ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเหลือสองคนสุดท้าย ถึงเวลานั้นพวกคุณจะทราบวิธีตัดสินเอง

    วิธีตัดสินเหรอ จันทร์ถามแทรกขึ้น

    ครับ ทนายตอบ พินัยกรรมระบุไว้เช่นนั้น

    จันทร์พยักหน้าด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจกับคำตอบนัก

    ผู้ที่ไม่ได้มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนจะถูกปรับให้เป็นผู้ที่เสียการรับมรดกในวันนั้น ต้องระวังด้วยนะครับ...

    ทุกคนพยักหน้า

    และอีกอย่างคือห้ามทุกท่านออกมาจากห้องของตัวเองหลังเที่ยงคืนจนกระทั้งพระอาทิตย์ขึ้น มีใครมีคำถามไหมครับ

                    ทุกคนมองหน้ากันก่อนที่ธีระจะถามขึ้นเป็นคนแรก ทำไมต้องให้เวลาเก้าวันครับ ไม่เมื่อถ้าเราคิดว่าถ้าค่อยๆ ถูกโหวตออกทีละคนจะเหลือสองคนในวันที่หก สองคนนั้นตัดสินกันใจวันที่เจ็ด พวกคุณก็มารับในวันที่แปดก็ได้ ทำไมต้องให้เวลาเกินมาวันหนึ่ง

                    ทนายความครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผมเองก็ไม่ทราบเช่นกันครับ แต่พินัยกรรมระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามให้ใครไปยุ่งจนกว่าจะครบกำหนดในวันที่เก้าโดยนับวันออกเดินทางเป็นวันแรก

                    เป็นไปได้ไหมว่าอาจจะมีผู้เข้าร่วมเก้าคนในตอนที่วางแผนไว้ครั้งแรก แต่คนที่ได้รับจดหมายฉบับที่เก้าไม่ปรากฏตัว จันทร์แสดงความคิดเห็น

                    ทุกคนคิดว่าทฤษฎีนี้มีเหตุผล

                    ครับ อาจจะเป็นไปได้ ทนายตอบรับ

                    อย่างนั้นพอจะเลื่อนเวลาเข้ามาเป็นแปดวันได้ไหม ปองพลถามดูเหมือนเขาจะห่วงความลำบากของเพื่อนสาวและคิดว่าแร่งเวลากลับได้อีกสักวันก็ยังดี

                    ทว่าทนายส่ายหน้าช้าๆ ไม่ได้ครับ พินัยกรรมระบุไว้อย่างชัดเจน ก่อนที่เขาจะยิ้มจางๆ แต่พวกคุณอาจจะใช้วันสุดท้ายนั้นพักผ่อนหรือฉลองชัยอะไรก็ได้

                    ทุกคนพยักหน้าเชิงว่าเข้าใจ

                    อีกอย่าง ดลเอ่ยขึ้น จะให้ทำยังไงกับคนที่ถูกโหวตออกครับ ปรกติเกมส์พวกนี้จะให้คนที่ถูกโหวตออกออกจากบ้านหรืออะไรทำนองนั้น แต่เราไม่มีทางเอาเขาออกจากเกาะได้

                    ไม่ต้องทำอะไรครับ ทนายเอ่ยตอบ พินัยกรรมไม่ได้ระบุกส่วนนี้ไว้ ผมคิดว่าเขาเพียงแค่เสียสิทธิ์จากพินัยกรรม แต่ยังอยู่ในบ้านได้ตามปรกติ

                    อืมม ครับ ดลส่งเสียงตอบรับอย่างพอใจกับคำตอบ

                    มีใครมีคำถามอีกไหมครับ ทนายถามเมื่อความเงียบปกคลุมห้อง

                    เอ่อคือ รวียกมือขึ้นแบบกล้าๆ กลัวๆ พวกคุณทนายเลือกคนรับจดหมายยังไงคะ

                    ทนายส่ายหัวช้าๆ ผมเองก็ไม่ทราบครับ ไม่มีใครทราบเลยว่าจดหมายไปถึงพวกคุณได้ยังไง เป็นไปได้ว่าเจ้าพินัยกรรมอาจจะฝากให้คนสนิทจัดการเรื่องนี้

                    งั้นทำไมเขาถึงตั้งเงื่อนไขแบบนี้ขึ้นมาล่ะคะ ทำไมเขาไม่มอบสมบัติให้ญาติหรืออะไรทำนองนั้น

                    เจ้าพินัยกรรมไม่มีญาติครับ และผมเองก็ไม่ทราบความคิดของเขา บางทีพ่อแม่ของพวกคุณอาจจะมีความเกี่ยวพันกับท่าน

                    รวีไม่ค่อยพอใจในคำตอบนักแต่เธอรู้ว่าไม่อาจถามอะไรได้มากกว่านี้

                    มีใครมีคำถามอีกไหมครับ ทนายถาม กวาดตาไปยังทุกคน เมื่อไม่เห็นใครถามอีกเขาก็ตั้งท่าจะตัดบท งั้น...

                    เดี๋ยว!” จันทร์ขัดขึ้น ถามจริงๆ ว่านี่เป็นการเล่นตลกของทางรายการโทรทัศน์อะไรสักอย่างใช่ไหม

                    ทนายความอึ้งอยู่พักหนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ หัวเราะเสียงดังทิ้งมาดเงียบขรึมไปหมดสิ้น จันทร์จ้องเขาด้วยสายตาตำหนิ

                    ขอโทษครับ แต่ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย เขาเอ่ยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเสียมารยาทมาก พยายามกลับสู่ท่าทางจริงจัง ผมขอรับรองด้วยเกียรติครับว่าเรื่องพินัยกรรมนี้เป็นจริงทุกประการ

                    งั้นดิชั้นขอดูพินัยกรรมนั้นได้ไหม จันทร์ถามรุกต่อ

                    เกรงว่าไม่ได้ครับ ทนายตอบ พินัยกรรมระบุชัดเจนว่าจะไม่ให้ผู้มีสิทธิ์ดูพินัยกรรม จดว่าจะเหลือผู้ได้สิทธิ์นั้นพียงชอบธรรมเพียงคนเดียวเท่านั้น กล่าวคือมีเพียงผู้ชนะเท่านั้นจะได้เปิดพินัยกรรม แต่ถ้าหากเป็นเรื่องตลกของรายการโทรทัศน์ประเภทเรียลลิตี้โชว์จริงๆ คุณก็มีสิทธิ์ฟ้องทางรายการได้ตามกฎหมายครับ

                    คำแนะนำตอนท้ายถูกเอ่ยด้วยนำเสียงติดตลก จันทร์แสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

                    เอาล่ะครับ ทนายตัดบทเมื่อเริ่มเห็นเกาะใกล้เข้ามาเบื้องหน้า ในเวลานับจากนี้ไปขอให้ทุกท่านโชคดี

                    ทุกคนพยักหน้าและเตรียมตัวลงเกาะโดยไม่มีใครสนใจมือของเคนทร์ที่ยกขึ้นเตรียมจะตั้งคำถาม

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×