ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Writer : [แปล] ปริศนาสาววรรณกรรม Bungaku Shoujo 文学少女

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 52


    บทนำ : ย้อนอดีตแนะนำตัว ---- นักเขียนสาวน้อยอัฉริยะผู้โด่งดัง

     

    ชีวิตของผมเต็มไปด้วยเรื่องน่าอับอาย

    หา? ใครกันที่เป็นคนพูดเรื่องพรรค์นี้?

    นักแสดง? นักกีฬา? หรือว่านักการเมืองที่พึ่งถูกจับด้วยข้อหารับศีลบน?

    เรื่องนั้นช่างมันเถอะ... อย่าไปสนใจนักเลยว่าใครเป็นคนพูด

    ผมพึ่งจะผ่านเข้าสู่ปีที่สองของชีวิตมัธยมปลาย เร็วไปนิดที่จะกล่าวว่า “ชีวิตของผมเต็มไปด้วย...” ทว่าเมื่อผมอายุสิบห้า ผมประสบเหตุการณ์ที่จะทำให้ทุกคนที่รู้ตื่นตะลึง เหตุการณ์นั้นอัดผมจนน็อก ราวกับคลื่นยักษ์จากทะเล ในปีสั้นๆ ผมรู้สึกราวกับชีวิตทั้งชีวิตจะสิ้นสุดลง ในปีสั้นๆ ปีเดียว ผมกลายเป็นนักเขียนสาวน้อยลึกลับ ผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักไปทั่วญี่ปุ่น

    มันเกิดขึ้นในฤดูใบไม่ร่วงที่สามในชีวิตมัธยมต้นของผม

    ตอนนั้นผมอายุเพียง 14 - 15 ปี เป็นแค่นักเรียนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ผมมีเพื่อน มีคนที่ผมแอบชอบ ช่างเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ นั่นแหละ... ผมคงจะกินยาอะไรสักอย่างผิดไปจึงส่งนิยายเรื่องแรกที่เขียนไปยังการประกวดที่นิตยสารวรรณกรรมจัดขึ้น

    ไม่น่าเชื่อ ผมกลายเป็นนักเขียนอายุน้อยที่สุดที่ชนะการประกวด

    เรื่องของผมเล่าโดยใช้มุมมองแบบบุคคลที่หนึ่งซึ่งเป็นเด็กผู้หญิง ด้วยเหตุนี้ ผมจึงใช้ชื่อผู้หญิงว่า มิอุ อาซากุระ เป็นนามปากกา ดังนั้นนิตยสารจึงคิดว่า

    “ผู้ชนะการประกวดเป็นนักเรียนม.3 นักเขียนสาวน้อยอายุ 14 ปี! ผู้ชนะที่อายุน้อยทีสุดเท่าที่เคยมีมา!

     “ช่างเป็นไสตล์การเขียนที่เปี่ยมไปด้วยอัฉริยภาพ โครงเรื่องกับการดำเนินเรื่องแสดงให้เห็นอารมณ์อ่อนไหว ละมุมละไม! เนื้อเรื่องได้รับเสียงชื่นชมจากกรรมการทุกท่านด้วยความภาคภูมิใจ!

    นิตยาสารใช้ย่อหน้านี้โฆษณาเรื่องของผม

    อ่า... ผมอายชมัด

     “นักเขียนสาวเป็นที่นิยมมากกว่าอยู่แล้ว ทำการตลาดให้เธอเป็นนักเขียนสาวน้อยน่ารัก ผู้สวมหน้ากากลึกลับไว้ดีกว่า”

    บก. โน้มนาวผมอย่างเอาจริงเอาจัง...

     

     (ผู้อ่านจะรู้ได้ยังไงฟะว่าผมเป็น สาวน้อย “น่ารัก” ถ้าใส่หน้ากากอยู่?)

    แต่ในที่สุด ผมก็ต้องยอมพิมพ์เรื่องของผมออกมา แล้วมันก็กลายเป็นหนังสือ เบสท์เซลเลอร์ และยอดขายก็พุ่งสูงกว่าล้านเล่ม กระทั่งถูกทำเป็นหนัง ทีวีซีรี่ แม้แต่หนังสือการ์ตูน ใครๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้

    ผมช็อก

    ทางบ้านของผมก็ตกตะลึงเช่นกัน

    อะไรกัน? ลูกของเราน่ะเหรอ... แต่เขาเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ นะ คุณพระช่วย เกิดอะไรขึ้น? อะไรนะ!? ค่าลิขสิทธิ์มากกว่าพันล้านเยน!! หวา! นี่มันเงินเดินปรกติของพ่อยี่สิบเดือนเชียวนะ

    พวกเขาพึมพำด้วยความหวาดหวั่น

    บนรถไฟ คุณจะเห็นชื่อหนังสือของผมบนบอร์ดโฆษณาภายในรถ เมื่อคุณเข้าไปในร้านหนังสือ คุณจะเห็นมันวางอยู่บนแท่นว่างอันสวยงาม ตั้งซ้อนกันราวกับป้อมปราการหน้าแคชเชียร์

     “คนที่เขียนหนังสือเล่มนี้ มิอุ เป็นเด็กม.ต้น! เธอจะเป็นคนยังไงกันนะ? คงต้องน่ารักแน่ๆ ใช่ไหม?

     “ชั้นได้ยินมาว่าเป็นทายาทของตระกูลใหญ่ เธอต้องเป็นคุณหนูแน่ๆ เลย เพราะแบบนี้ยังไงล่ะเธอเลยไม่เปิดเผยหน้าตา!

     “เธอคงจะโตมาท่ามกลางสังคมไฮโซ จะต้องไม่เคยจับอะไรที่หนักกว่าปากกาแน่ๆ!

    “แน่นอน! คำว่า “บังกะคุโชโจ” ทำให้นายรู้สึกเหมือนว่าเธอต้องเป็นสาวน้อยใสบริสุทธิ์ อาห์ มิอุ โมเอะ!Every time I hear

    ทุกครั้งที่ผมได้ยินใครกล่าวเช่นนี้ ผมรู้สึกอายเหลือเกิน อายจนอยากจะหยุดหายใจ

    ขอโทษ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ เรื่องนั้นน่ะมันเป็นแค่เรื่องไร้สาระที่ผมคิดขึ้นมาได้ ไม่มีค่าอะไรให้อ่าน มันเป็นแค่เรื่องเหลวไหลที่ผมเขียนขึ้นในชั่วโมงเรียน มันแค่บังเอิญที่ผมชนะการประกวด ผมขอโทษจริงๆ “อารมณ์อ่อนไหว ละมุมละไม” อะไรนั่นก็แค่เรื่องเหลวไหล ทั้งหมดมันก็แค่น้ำลายของเด็กผู้ชายน่าเบื่อคนหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นในงานประกวดเป็นแค่แผนร้ายของกรรมการ ที่คิดว่า “ถ้าเด็กสาวอายุสิบสี่ชนะการประกวดจะกลายเป็นเรื่องดังแน่ๆ ทุกคนต้องพูดถึงหนังสือ ต้องเป็นผลดีกับวงการวรรณกรรมแน่ๆ! สำนักพิมพ์ก็คงจะดีใจที่จะมีหนังสือซึ่งเป็นที่รู้จัก” ทุกคนต่างคิดไปเอง ผมไม่ได้มีความสามารถพิเศษมากมายอะไรเลย ปล่อยผมออกจากเรื่องพวกนี้เถอะ ขอร้องล่ะ!

     

    ความรู้สึกผิดอย่างไร้ที่สิ้นสุด ผสมกับ ความหายนะที่เกิดขึ้นจากมวลชน ทำให้เป็นลมล้มลงไปในโรงเรียนด้วยโรคที่เรียกว่า “กลุ่มอาการหายใจเกิน” [1]ซึ่งเกิดจากความเครียดสะสม ผมถูกหามเข้าโรงพยาบาล ผมรู้สึกเหมือนหัวหัวใจแตกสลาย ผมร้องไห้ “ผมเขียนนิยายไม่ได้อีกแล้ว” หลังจากนั้น ผมไม่อยากไปโรงเรียน มันทำให้พ่อแม่ และน้องสาวเป็นห่วงมาก

    ช่างเป็นปีที่น่าอับอาย

    ด้วยเหตุนี้ นักเขียนอัฉริยะสาวผู้ลึกลับ มิอุ อาซากุระ จึงเขียนหนังสือไว้เพียงเล่มเดียวก่อนจะหายไปโดยไม่บอกกล่าว และในที่สุดผมก็สามารถกลับไปสู่กับการสอบเลื่อนชั้นขึ้น ม. ปลาย ได้เหมือนเด็กม. ต้นทั่วๆ ไป

    เพราะเหตุนี้ ผมจึงได้รู้จักกับ “บังกะคุโชโจ” ตัวจริง รุ่นพี่ โทโกะ อามาโนะ

    แต่ ทำไมตอนนี้ผมถึงเขียนอีกครั้งล่ะ?

    เพราะในวันนั้น ภายใต้แสงริบหรี่ที่ลอดผ่านใบของต้นมณฑาป่า [2]ผมพบรุ่นพี่โทโกะ

     

     

     



    [1] กลุ่มอาการหายใจเกิน (Hyperventilation syndrome)บางทีก็เรียกว่าโรคหอบจากอารมณ์ มีอาการหายใจหอบลึกและเร็วอยู่พักใหญ่จะทำให้เกิดอาการมือและเท้าทั้ง สี่ จีบเกร็งคลัายเป็นตะคริวขึ้นพร้อมกัน จัดเป็นโรคประสาทชนิดหนึ่ง ซึ่งมีสาเหตุด้านอารมณ์และจิตใจ โดยไม่มีความผิดปกติทางร่างกายแต่อย่างใด

    [2] Magnoliaceae เป็นไม้ดอกยืนต้น คล้ายต้นจำปา มีดอกสีขาว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×