ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องของผมกับผี? 2

    ลำดับตอนที่ #2 : ข้อสอบ -2-

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 52


     

    -2-

    ผมไม่อยากสอบ ขี้เกียจอ่านหนังสือ ขี้เกียจตื่นไปทำข้อสอบสุดๆ แต่จะให้โทรกลับไปบอกคุณป้าแบบนั้นผมกลับทำไม่ลง

    แต่ขณะเดินกลับบ้านนั่นเอง ผมก็คิดวิธีอะไรบางอย่างได้

    ด้วยเหตุนี้วันนี้ผมจึงเข้าไปที่ห้องสมุดแต่เช้า

    ดังคาด โนบิตะนั่งอยู่ตรงนั้น เขานั่งบนโต๊ะลึกสุดของห้องสมุด หนังสือหนาหลายเล่มวางอยู่บนโต๊ะ

    “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ผมเอ่ยกับเขาที่กำลังอ่านหนังสืออยู่

    โนบิตะเงยหน้าขึ้นมามองงงๆ ผมรู้สึกว่าเขาประหม่าเล็กน้อย

    “ได้... ได้สิ... เชิญ” เขาผายมือ เชิงให้ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้าม

    ผมนั่งลง โนบิตะไม่สบตาผม ท่าทางยังกับว่าผมกำลังแกล้งเขาอยู่

    “อย่างแรกเลย” ผมเข้าประเด็นโดยไม่อ้อมค้อม “นายรู้รึยังว่าตัวเองตายไปแล้ว”

                โนบิตะก้มหน้าลงเงียบไปอยู่นาน ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

    ขอร้องล่ะ อย่าทำตัวเหมือนผู้ต้องหาที่กำลังถูกสองสวนได้มั้ย

                    “นายรู้ใช่ไหมว่าพรุ่งนี้เป็นวันสอบ”

                    โนบิตะพยักหน้าอีกครั้ง

                    “ทำไมผมจะไม่รู้ คุณไม่รู้หรอกว่าผมรอวันนี้มานานแค่ไหน พยายามเพื่อวันนี้มานานแค่ไหน... แต่...”

                    “แต่พอถึงเวลากลับไปสอบไม่ได้?

                    โนบิตะกัดฟัน พยักหน้าช้าๆ

                    “ดังนั้นชั้นก็เลยมีข้อเสนอมาให้นาย”

                    โนบิตะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมด้วยความสงสัย

                    อา... ผมช่างเป็นคนดีอะไรเช่นนี้

     

    ********************

     

    วันรุ่งขึ้นคุณป้าขับรถเก๋งของเธอมารับผมที่บ้าน เธอไม่รู้เลยว่ามีผู้โดยสารอีกคนขึ้นมาพร้อมๆ กับผม

    “โชคดีนะจ๊ะ” เธออวยพรด้วยรอยยิ้ม

    ผมรู้สึกผิดนิดๆ ผมคิดว่าคุณป้าคงอยากทำแบบนี้กับลูกสาวของเธอทว่าไม่มีโอกาส ผมเองก็อยากให้เธอมาสอบด้วยเหมือนกัน

    “นายพร้อมใช่ไหม” ผมหันไปถามโนบิตะ

    “แน่นอน” ผมสาบานได้ว่าเห็นประกายไฟอยู่ในดวงตาของเขา

    เรื่องต่อจากนั้นก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายมากมาย ผมก็แค่นั่งหาว ฝนคำตอบไปตามที่โนบิตะบอกแล้วผลิกชีทข้อสอบเป็นหน้าถัดไป

    วิชาที่หนึ่งผ่านไปอย่างง่ายดาย ในขณะที่คนอื่นออกมาจากห้องสอบด้วยความเหนื่อยหน่าย ในขณะที่คนอื่นพยายามอ่านหนังสือมาสอบแทบตาย ผมกลับผ่านมันง่ายๆ โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

    พอถึงตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกผิดมากขึ้น ผมพึ่งมาสำนึกได้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นี่มันโกงข้อสอบชัดๆ

    ผมคิดจะบอกโนบิตะให้ยกเลิกแผนการ ทว่าเมื่อเห็นหน้าตาจริงจังของเขา ผมกลับพูดไม่ออก ผมพึ่งเคยเห็นคนสนุกกับการสอบแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ทำไมผมไม่อาจหักใจห้ามไม่ให้โนบิตะสอบ

    เมื่อรู้สึกตัวอีกทีผมกับโนบิตะก็มาอยู่ในห้องสอบวิชาต่อไป

    เมื่อรู้สึกตัวอีกทีการสอบของวันนี้ก็จบลง

    เมื่อรู้สึกตัวอีกทีผมก็มาอยู่บนรถของคุณป้าที่มารับหลังสอบเสร็จ

    คุณป้าถามผมว่าการสอบเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยบ้างไหม

    ผมได้แต่ยิ้ม เจื่อนๆ นึกไม่ออกว่าควรจะตอบอะไรกลับไป

     

    ********************

     

    ผมทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้...

    ผมไม่ใช่คนดีมีศีลธรรม ผมไม่เคยแคร์ว่าคนอื่นจะเสียประโยชน์ยังไง ใครใช้ให้พวกบ้านั่นจริงจังเอาชีวิตไปทิ้งกับการอ่านหนังสือสอบล่ะ ผมไม่สนหรอกว่าคนอื่นจะคิดยังไง อยากนินทาผมยังไงก็ทำไป แต่ผมไม่อาจแบกรับความรู้สึกผิดจากการโกงการสอบแบบนี้ได้

    ผมนึกภาพออกเลย ถ้าผมปล่อยให้โนบิตะทำข้อสอบให้แบบนี้ต่อไป ทันทีที่คะแนนสอบออกผมจะกลายเป็นเด็ก ม.4 อัจฉริยะในช่วงข้ามคืน

    อีกไม่นานผมจะได้ไปยืนหน้าเสาธง ผอ. จะมอบโล่ให้ผม ประธานนักเรียนจะออกมาปราศรัยจับมือผม พูดเหมือนเราเป็นพี่น้องสนิทกันมาตั้งแต่ออกจากท้องแม่ เผลอๆ รูปผมจะได้ออกทีวีในฐานะคนที่ได้คะแนนสอบอันดับต้นๆ ทั้งๆ ที่ยังอยู่ ม.4 จากนั้นผมก็จะได้เข้าไปเรียนในคณะไหน มหาวิทยาลัยใดก็ได้ในประเทศนี้ที่อยากเข้า เสร็จแล้วความลับนี้ก็จะคอยหลอกหลอนผมไปตลอดชีวิต

    ผมจำเป็นต้องบอกโนบิตะ ไม่ว่าจะทำให้โนบิตะเสียใจขนาดไหนก็ตาม ผมตัดสินใจเลือกที่จะให้เขาเสียใจ มากกว่าที่จะต้องทนรับผลจากการกระทำนี้ด้วยตัวเอง ผมคิดว่าการตัดสินใจเช่นนี้สมเป็นผมที่สุดแล้ว

    ด้วยเหตุนี้หลังจากกลับมาถึงบ้าน ผมจึงบอกโนบิตะ

    โนบิตะเงยหน้าจากหนังสือขึ้นมามองผมเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

    “นายว่าอะไรนะ”

    “ชั้นขอยกเลิก ชั้นจะไม่ไปสอบของวันพรุ่งนี้แล้ว” ผมกล่าวซ้ำอีกครั้ง

    “ทำไม?” เขาถามเหมือนผมพูดอะไรที่ไม่มีเหตุผลที่สุดที่เคยได้ยิน

    “ชั้นเบื่อแล้ว ขี้เกียจไปทำข้อสอบแล้ว” ผมตอบไปแบบนั้น

    “ได้ยังไง นายเป็นคนเริ่มเรื่องนี้เองนะ!

    “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ชั้นไม่เอาด้วยแล้ว ชั้นยกเลิก!” ผมกล่าวเสียงแข็ง

    ดูเหมือนว่าเสียงของผมจะมีพลังมากกว่าโนบิตะมากนัก โนบิตะได้แต่ทำหน้าเซื่องๆ ผมรู้สึกผิดอยู่บ้าง ผมเป็นคนให้ความหวังโนบิตะ แล้วก็แย่งมันไปอีกครั้ง ผมนึกไม่ออกเลยว่าโนบิตะจะเจ็บปวดขนาดไหน... แต่มันไม่ใช่เรื่องของผมนี่หว่า

    แล้วโนบิตะก็ทำเรื่องที่ผมคาดไม่ถึง

    โนบิตะร้องไห้ เขาร้องไห้ออกมาไม่อายใครเหมือนเด็กๆ

    ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไจแอนท์

    ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ปล่อยคิดจะให้มันร้องไปจนหยุดเอง ทว่าพอโนบิตะร้องไห้ผมก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา ราวกับความรู้สึกของโนบิตะที่เป็นวิญญาณถ่ายทอดเข้าหาวิญญาณของผมโดยตรง

    ผมเริ่มรู้สึกอยากร้องไห้ ผมไม่เข้าใจว่าไอ้การไม่ได้ไปสอบนี้มันน่าเศร้าถึงขนาดนี้เลยเหรอ

    “เฮ้ย... อย่าร้องน่า นายก็น่าจะรู้ว่าสิ่งที่พวกเราทำน่ะมันเป็นการโกงข้อสอบชัดๆ ถ้านายเป็นคนสอบ นายจะรับได้เหรอที่มีคนทำแบบนี้”

    “ผมไม่แคร์” โนบิตะตอบ “คุณรู้ไหมว่าผมรอวันนี้มานานขนาดไหน ผมรอวันนี้มาทั้งชีวิต ผมใช้เวลาทุกนาที ทุกวินาทีกับการคิดเรื่องอนาคต ผมไม่ทำอะไรไร้สาระอย่างที่เพื่อนร่วนชั้นทำ ผมมองไปที่อนาคต อนาคตที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่แล้วมันก็ไม่มีทางมาถึง”

    ผมไม่อาจเอ่ยคำใด ได้แต่มองโนบิตะที่หน้าเลอะไปด้วยน้ำมูก น้ำตา

    “พอคุณบอกผมวันก่อน ผมดีใจมาก อย่างน้อยถึงจะไปไม่ถึงอนาคตที่ฝันไว้ แต่ขอให้ได้แสดงผลของสิ่งที่พยายามออกมาบ้างก็ยังดี... แต่อยู่ๆ คุณก็จะยกเลิก ถ้าคุณจะมาทำลายความหวังของผมทีหลังแบบนี้คุณให้โอกาสผมมาให้ดีใจทำไมกัน?

    โนบิตะกลับไปร้องไห้สะอึก สะอื้นอีกครั้ง

    ผมได้แต่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย ผมพอจะเข้าใจความรู้สึกของโนบิตะอยู่บ้าง แต่เมื่อชั่งน้ำหนักกับการให้ผมยอมแบบรับความรู้สึกผิดนั่นไปตลอดชีวิต ผมยอมเป็นไจแอนท์ดีกว่า

    “เอาแบบนี้... ชั้นไปสอบให้นายไม่ได้จริงๆ แต่นายมีสิ่งที่อยากทำอย่างอื่นไหม อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ไปสอบ ชั้นจะทำให้นาย”

    โนบิตะสะอึกสะอึ้นอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังคิดอยู่

    “อะไรก็ได้เหรอ”

    “ช่าย อะไรก็ได้” ผมหลุดปากออกไป ก่อนจะรู้ว่าตัวเองพลาดไปแล้ว

    “ผมอยากมีแฟน ไม่สิ ผมอยากแต่งงาน”

    “หา?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×