ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องเล่าในคืนไร้ดาว

    ลำดับตอนที่ #14 : สาย

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 51


    />

                ผมพบเธอครั้งแรกบนสะพายลอย

                จู่ๆ หญิงสาวที่เดินอยู่ข้างหน้าก็กระโจนไปเกาะราวสะพาน มองลงไปเบื้องล่าง แล้วตะโกนร้องสุดเสียง

                แทบจะพร้อมๆ กับเสียงตะโกนของเธอนั้น เสียงเบรกกะทันหัน เสียงยางเสียดสีกับพื้น และเสียงวัตถุหนักๆ กระแทกกัน ก็ดังกระหึ่ม

                เบื้องล่าง ผมเห็นร่างของชายคนหนึ่งลอยกระเด็นขึ้นจากพื้น ดูราวตุ๊กตาที่ถูกเหวี่ยงขึ้นบนอากาศ ก่อนจะตกลงไถลครูดไปกับพื้นถนน คอของเขาบิดผิดรูป แขนขาแทบจะหลุดออกจากร่าง เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นนองถนน

                คนขับได้แต่นั่งช็อคอยู่บนรถที่กันชนบุบเบี้ยว เช่นเดียวกับผมที่ได้แต่เกาะราวสะพานลอยด้วยแขนที่สั่นเทา

                เมื่อตั้งสติได้ ผมเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้ ผมเองก็รู้สึกเหมือนจะร้องไห้เหมือนกัน แต่ก็ยังพยายามสั่งให้คอที่แหบแห้งส่งเสียงถามเธอว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

                 เธอส่ายหัวช้าๆ แต่ยังไม่หยุดร้องไห้ ผมพยายามปลอบเธอว่าไม่เป็นไร ระหว่างนั้นผมได้ยินเธอพึมพำทำนองว่าสายเกินไป สายเกินไปเบาๆ

                ไม่นานตำรวจก็มาถึง พวกผมถูกตำรวจสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่พบเห็น ผมตัดสินใจไม่บอกตำรวจเรื่องที่เธอตะโกนเตือนชายผู้เคราะห์ร้ายก่อนที่เขาจะถูกรถชน

                หลังจากที่เราถูกอนุญาตให้ไป เธอยังไม่หยุดร้องไห้ ผมพยายามปลอบเธออีกครั้งทว่าเธอส่ายหน้า ผมไม่อาจทนปล่อยเธอไปในสภาพนี้ได้จึงตัดสินใจไปส่งที่หอ

                ดวงตาของเธอดูว่างเปล่า ไม่แปลกสำหรับคนที่พึ่งพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ผมพยายามชวนเธอคุยเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ทว่าเธอแทบจะไม่เอ่ยอะไรตอบเลย ผมรู้สึกราวกับเธอแบกความผิดทั้งหมดในเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้บนบ่าเล็กๆ นั้น

                ในที่สุดเราก็มาถึงหอพักของเธอ เธอก้มหัวขอบคุณผมก่อนจะก้าวจากไป

                ไม่ต้องคิดมาก นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอสักหน่อย ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมเอ่ยออกไปเช่นนั้น

                ประโยคนี้ทำให้เธอหยุดเท้าแล้วหันกลับมา

                เธอมองผมด้วยแววตาไร้ความมั่นใจก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ

                ฉันมองเห็นมัน

                ผมก็เห็นเหมือนกัน

                ไม่ใช่ ฉันเห็นมันก่อนที่มันจะเกิด แต่ฉันหยุดมันไม่ได้ มันสายเกินไป ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน

                ผมรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังจะร้องไห้ ผมไม่เข้าใจว่าเธอหมายความว่ายังไง แต่ก็พยักหน้าตอบกลับไป

                มันเป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันเห็นมันก่อนที่มันจะเกิด แต่ไม่ว่าฉันพยายามจะเปลี่ยนแปลงมันยังไงมันก็จะเกิด มันว่ายังไงก็ยังสายเกินไปเสมอ สายไปเพียงนิดเดียว เพียงแค่ปลายนิ้ว ฉันช่วยอะไรไม่ได้เลย

                มีคำหลายคำที่ผมอยากจะเอ่ย แต่ผมกลับทำได้แค่ยืนนิ่งๆ

                เธอซับน้ำตาที่คลออยู่ก่อนจะฝืนยิ้มให้ผม

                ขอโทษที่พูดอะไรแปลกๆ ลืมมันซะเถอะ เธอเอ่ยก่อนจะเดินจากไป

                ผมอ้าปาก แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป

     

                นานทีเดียวกว่าผมจะได้พบเธออีกครั้ง

                วันนั้นผมกำลังรอข้ามถนน

                ผมไม่รู้เลยว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คือเธอ จนกระทั้งเธอกระโจนออกไป

                ผมเอื้อมมือ ทว่ามันสายไปเพียงปลายนิ้ว

                เสียงเบรก กลิ่นยางเสียดสีกับพื้น เสียงกระแทก

                ร่างของเธอลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสีคราม

                ผมกระโจนออกไป

                เธอกระทบกับพื้นถนน ไถลครูดไปกับพื้น

                ผมช้อนเธอขึ้น เลือดแดงกระเซ็นโดนใบหน้าขาวผ่อง ผมเอื้อมมือหายเช็ดมันออกแต่ทำได้แค่ป้ายมันให้เปื้อนเป็นทางยาว

                เธอยิ้มให้ผม

                ในที่สุดก็ทันสินะ

                ผมเห็นแมวดำตัวหนึ่งในอ้อมแขนของเธอ

                อืม ผมยิ้มตอบ

                เลือดไหลออกมาจากรอยยิ้มของเธอ

                ผมเชื่อคุณ ผมรู้ว่าคุณไม่ได้โกหกผมเอ่ยคำพูดที่ไม่ได้เอ่ยในวันนั้นออกไป ทว่ามันสายเกินไป เธอไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไปแล้ว

                ผมเอื้อมมือไปปิดเปลือกตาของเธอ ค่อยๆ วางร่างของเธอลง แล้วช้อนร่างของแมวดำออกจากอ้อมกอดของเธอ

                ผมโกหก เจ้าแมวตายไปแล้ว ไส้ของมันทะลักออกมาเพราะแรงกระแทก

                ผมอุ้มศพของมันออกมา ผมไม่อยากให้เธอเห็นมัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×