คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เลือด -1-
-1-
ผมพบว่าตัวเองอยู่ที่หน้าบ้านทรงยุโรป ผมจำไม่ได้ว่ามาถึงตรงนี้ได้ยังไง
ผมเริ่มปวดไปทั้งตัว โดนเฉพาะมือขวา
เมื่อออกมาจากตึก ผมคิดเพียงว่าต้องตามหาตัวฆาตกร
งานแรกผมต้องการข้อมูล โลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่การ์ตูนเจ้าหนูนักสืบ ประเภทที่เมื่อไม่นับนักสืบก็จะมีคนติดอยู่ในเกาะปิดตายอยู่สี่-ห้าคน แค่ปล่อยให้คนตายให้หมดก็เหลือแต่ตัวเอกกับฆาตกรเอง
ผมยังไม่รู้ตัวผู้ต้องสงสัย ยังไม่อาจจับร่องรอยใดๆ ได้ ดังนั้นผมต้องการข้อมูล ข้อมูลยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี
ผมเชื่อมั่นในเครือข่ายซุบซิบของคุณป้า ไม่มีทางที่ข่าวเด็กหายจะหลุดไปจากความสนใจ เรื่องนี้ผมถามคุณป้าได้แน่นอน
เมื่อคิดเช่นนั้นผมจึงมาอยู่ที่บ้านทรงยุโรป
แม้จะดึกมากแล้ว คุณป้าเปิดประตูรับผมแทบจะทันทีที่กดกริ่ง
“ตายแล้ว!?” คุณป้าอุทานเมื่อเห็นหน้าผม ผมรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะทักเธอตามมารยาทด้วยซ้ำ
“ไปทำอะไรมา ถูกทำร้ายเหรอ?”
ผมพึ่งสังเกตว่าตัวเองถลอกไปทั้งตัว แผลเลือดซึมเต็มแขนขวา ชุดเปื้อนเหมือนไปคลุกฝุ่นดินมา ผมมีสารรูปไม่ต่างจากคนที่พึ่งขี่จักรยานล้ม
ผมไม่ได้ตอบคำถามของคุณป้า แต่ปล่อยให้เธอลากผมเข้าไปในบ้านแต่โดยดี
คุณป้าเข้าพาผมเข้าไปในห้องรับแขก ให้นั่งลงบนโซฟาตัวประจำ
เธอหยิบอุปกรณ์ทำแผลกับยาออกมา แตะแอลกอฮอล์กับสำลีแล้วเช็ดไปยังแผลที่แขน ผมสะดุ้งเพราะความแสบในครั้งแรก ก่อนจะเริ่มชิน
ผมรู้สึกด้านชากับความเจ็บแสบที่แขนกับกำปั้น มันเทียบกับความเจ็บปวดในจิตใจไม่ได้เลย
ผมรู้สึกหดหู่ หดหู่กับสิ่งที่เห็น ผมโกรธแค้นคนที่ทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ผมโกรธยมทูต ผมสาปแช่งโลก สาปแช่งพระเจ้า สวรรค์ เทวดา ซาตาน สาปแช่งตัวห่าเหวอะไรก็ได้ที่นึกออก สาปแช่งกันทั้งตัวเอง
ผมผิดเองที่คาดหวัง ผมผิดเองที่มองมนุษย์ในแง่ดีเกินไป ผมผิดเอง
ผมเริ่มเกลียดมนุษย์ ผีไม่ได้ฆ่าใคร แต่มนุษย์ต่างหากที่ฆ่ากันเอง
“คุณน้าเคยได้ยินเรื่องเด็กผู้หญิงหายไปไหมครับ” ผมเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน
คุณป้ามองผมด้วยสายตาดูกังวลหน่อยๆ
“เด็กผู้หญิงขนาดไหนล่ะจ๊ะ”
“เด็กผู้หญิงสักประถมปลาย ใส่โบว์สีขาวๆ ใหญ่ๆ”
คุณป้ามองหน้าผม ก่อนจะก้มหน้าลง มือของเธอแตะยาค้างไว้ยังแผลที่แขนของผม
“ขอร้องล่ะครับ เรื่องนี้สำคัญมากจริงๆ”
“ลูกเห็นเด็กคนนั้นเหรอ?”
ผมพยักหน้า
เธอมองผมด้วยสายตาลำบากใจ “หมายความว่า?”
ผมพยักหน้าช้าๆ
คุณป้าก้มหน้าลง
เธอดูเหมือนจะเสียใจจริงๆ กับเรื่องนี้ ผมปล่อยให้เธอก้มหน้าอยู่อย่างนั้น
คุณป้าหลับตาอยู่ครู่หนึ่ง
เธอลืมตาขึ้น แล้วยิ้มให้ผม
ผมคุ้นกับรอยยิ้มประเภทนี้ดี รอยยิ้มที่เหมือนเอาฉากงดงามทาบบังซากเมืองรกร้าง รอยยิ้มแบบที่ยมทูตมักจะทำ
ผมเกลียดมัน
แต่ผมเหนื่อยเกินกว่าจะตอบสนองกับมัน
คุณป้าทำแผลต่อไป ผมปล่อยให้เธอทำแผลต่อไปจนเสร็จ
คุณป้ามองหน้าผม ผมคิดว่าเธอคงจะสัมผัสได้ถึงความอ่อนล้า หดหู่ เกลียดชัง ภายในใจของผม
เธอหลบตา แล้วถอนหายใจ
“ตอนนี้ดึกแล้ว ความจริงแม่อยากให้ลูกค้างที่นี่ แต่ไม่มีเสื้อให้เปลี่ยน กลับก่อนดีไหมจ๊ะ”
ผมพยักหน้าช้าๆ
เธอมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
“แล้ววันพรุ่งนี้ ค่อยมาหาแม่อีกที แล้วตอนนั้นแม่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง... นะ เรื่องมันค่อนข้างจะกะทันหันไปสักหน่อย ขอเวลาแม่สักพัก”
ผมพยักหน้าให้เธออีกครั้ง ตามเธอไปยังรถ ปล่อยให้เธอขับมันไปส่งที่บ้าน ก้มหน้าลา โดยที่ไม่ได้เอ่ยอะไรเลย
********************
คืนนั้นผมฝัน ในฝันผมมองเห็นตัวเองอยู่กับเธอ เรายังเดินไปบนถนนเส้นเดิม
เพลงนั้นยังแต่งไม่เสร็จ เธอยังไม่หายไป ทว่าเราไม่ใช่เรา ผมไม่ใช่ผม เธอไม่ใช่เธอ เราไม่ได้เดิน
ในฝันพวกเราเป็นเพียงตุ๊กตาสองตัว ที่ถูกด้ายที่มองไม่เห็นเชิดอยู่ ถูกเชิดให้เดิน ถูกเชิดให้พูด ถูกเชิดให้โกรธ ถูกเชิดให้เสียใจ ถูกเชิดผูกพัน ตัวผมที่เป็นตุ๊กตาไม่ได้รู้สึกตัวเลย
ผมตะโกน ตะโกน แล้วก็ตะโกน บอกตุ๊กตารูปตัวเองว่าเรื่องนี้มันไม่จริง ห้ามตัวเองไม่ให้ทำแบบนั้น เตือนตัวเองว่าจะเสียเธอไป
ทว่าตัวผมกับเธอไม่ได้ยินเลย
ละครหุ่นยังเล่นไปตามบทที่มันเป็น
ผมพาเธอไปยังลานกว้าง
เธอเล่นเพลงของเธอ
แล้วก็หายไป
ผมมองเธอหายไปต่อหน้าอีกครั้งโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับเธอด้วยซ้ำ
ผมมองขึ้นไปยังท้องฟ้า พยายามจะมองหามือที่เชิดหุ่นอยู่ ทว่าเบื้องบนมีเพียงท้องฟ้าสีดำ ผมตะโกนด่า พร่ำด่า ด่าจนคอแหบแห้ง แล้วก็ร้องไห้ ผมร้องไห้ ร้องไห้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ไม่มีเสียงใดตอบกลับ ขาผมไร้เรียวแรง ผมทรุดตัวลงคุกเข่า
ละครหุ่นเปลี่ยนฉาก
เด็กหญิงอยู่ตรงนั้น
เธอถูกล่ามด้วยโซ่
เงาดำอยู่เบื้องหน้าเธอ มีดในมือมันสองแสงวับ
เด็กหญิงตะโกนร้องให้ผมช่วย
ผมพยายามจะลุกขึ้นก่อนจะพบว่าตัวเองลุกไม่ได้
ผมถูกล่ามด้วยเชือก เชือกที่เหนียวราวกับเอ็น ราวกับสลิง ยิ่งผมพยายามยิ่งรัดแน่น ยิ่งพยายามยิ่งรัดเข้าไปในเนื้อ
ผมเงยหน้าขึ้นฟ้า สู่มือที่เชิดหุ่น
หยุดเถอะ ผมอ้อนวอน
ผมอ้อนวอน
อ้อนวอน
ทว่าไม่มีใครได้ยิน
เสียงกรีดร้องของเด็กหญิงค่อยๆ เงียบหายไป
เงาดำค่อยๆ หั่นเด็กหญิงเป็นชิ้นๆ ร่างของเธอยังกระตุกอยู่
ผมก้มหน้าลงไม่อาจมองอะไรได้อีกต่อไป แล้วก็เห็นสิ่งที่พันผมอยู่
เชือกเชิดหุ่น?
ผมหัวเราะ
หัวเราะด้วยความขนขื่นก่อนที่จะหันหลังกลับไป
ยมทูตยืนอยู่ตรงนั้น
เธอยิ้มให้ผมเศร้าๆ
ความคิดเห็น