ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Writer : [แปล] ปริศนาสาววรรณกรรม Bungaku Shoujo 文学少女

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 รุนพี่โทโกะเป็นนักชิม [เสร็จ30%]

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 53


    ตอนที่ 1 รุนพี่โทโกะเป็นนักชิม

     “เรื่องสั้นของกาลิโก้ เต็มไปด้วยรสของฤดูหนาว เหมือนกับหิมะใหม่ละลายในลิ้นของนายอย่างสงบ ความรู้สึกผสมผสานระหว่างความนุ่มนวลและความเหนือจริงนี้ชะล้างมลทินทั้งหมดออกจากหัวใจของชั้น ช่างสวยงาม แต่ก็ยังมีสัมผัสแห่งความโศก” รุ่นพี่โทโกะ ครางออกมาเมื่ออ่านรวมเรื่องสั้นของ พอล กาลิโก้[1]

    ชุมนุมวรรณศิลป์ของโรงเรียนคิโยะชิโจที่พวกเราอยู่ ตั้งอยู่ในอาคารสูงสี่ชั้น ด้านมุมตะวันตกชั้นสาม

    เมื่ออาทิตย์โรยลง แสงทองจะส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ย้อมห้องเรียนจนดูราวกับอาบด้วยน้ำผึ้ง

    กล่องกระดาษที่ใช้ใส่ของวางซ้อนกันตรงมุมห้อง ตรงกลางเป็นโต๊ะไม้บีชเก่าๆ กับชั้นหนังสือเหล็กสองตัวและลิ้นชัก ทั้งหมดเต็มไปด้วยหนังสือ หนังสือที่ไม่มีที่เก็บถูกสุมไว้ทุกซอกทุกมุม หากเกิดแผ่นดินไหวหอคอยหนังสือพวกนี้ต้องพังทลายลงมาอย่างแน่นอน เราคงจะถูกฝังใต้กองหนังสือและตายเพราะขาดอากาศหายใจ

    ผู้ที่นั่งในห้องเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอับของหนังสือเก่าและเชื้อรา คือรุ่นพี่โทโกะ เธอนั่งชันเข่าบนเก้าอี้จนเกือบจะเห็นกางเกงใน ยิ่งกว่านั้น ทุกครั้งที่เธอเปลี่ยนท่านั่งจะดึงดูดสายตาให้เหลือบมอง ดูไม่งามเอาซะเลย

    รุ่นพี่วางใบหน้าซีดขาวของเธอบนเข่า โอบแขนข้างหนึ่งกอดขา แล้วใช้นิ้วเรียวยาวพลิกหน้าหนังสือที่อ่านอยู่อย่างระมัดระวัง

    ผมม้าสีดำของเธอปรกลงบนหน้าผากขาว ผมเปียยาวทิ้งจากไหล่ลงถึงเอว ผิวของเธอซีดตัดกับสีดำของ ผม คิ้ว และแก้วดวงตา ดูราวดาวสลัวในค่ำคืน

    เมื่อรุ่นพี่โทโกะเงียบเสียงเธอดูงามราวกับตุ๊กตา

    ทว่า...

    นิ้วเรียวยาวของรุ่นพี่โทโกะฉีกหน้ากระดาษออกมาช้าๆ และหย่อนเข้าสู่ปากของเธอ เหมือกินเคี้ยวหญ้า แล้วเริ่มเคี้ยว

    พระเจ้า เธอกินกระดาษ... เหตุการณ์นี้ยังดูเหลือเชื่อสำหรับผมไม่ว่าจะเห็นเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ตาม

    แล้วเธอก็กลืนลงไป

    คอของเธอส่งเสียงกลืนออกมาเล็กน้อย หลังจากจัดการเสร็จ เธอก็ฉีกกระดาษอีกหน้าออก แล้วกินมัน เกือบจะทันใดนั้น ใบหน้าเฉยชาของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข หางตาของเธอโค้งตกลง ยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้า

     “เรื่องของกาลริโก รสชาติดีจริงๆ! อา... กาลิโก้ ผู้เกิดในนิวยอร์ค หนังที่สร้างจากหนังสือของเขา ‘The Poseidon Adventure’ และวรรณกรรมเยาวชนของเขา ‘Mrs. Harris’ สมควรแล้วที่จะดัง แต่ชั้นคิดว่างานที่ดีที่สุดของเขาคือ ‘The Snow Goose’ ศิลปิน ลายาเดอร์ ผู้ใช้ชีวิตอย่างสันโดษในประภาคารที่ถูกทิ้ง และเด็กหญิงฟริท่า ผู้ซึ่งประคองห่านขาวบาดเจ็บไว้ไว้ในอ้อมแขนเมื่อพบลายาเดอร์ หัวใจของพวกเขาสัมผัสกันด้วยความโศกเศร้าที่เงียบงันอะไรอย่างนั้น!  พวกเขาเปี่ยมด้วยรักและความเข้าใจไร้ที่สิ้นสุดโดยไม่ต้องพูดคุย เฮ้อ! เป็นรักที่บริสุทธิ์อะไรเช่นนี้

    นายรู้มั้ย โคโนฮะ ไม่ใช่ทุกอย่างที่สามารถแสดงออกด้วยคำพูด สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือการอยู่ข้างๆ กับหัวใจของใครสักคนตราบที่เขาจะสิ้นลม ด้วยการอดทนต่อแรงยั่วยวนให้พูดเท่านั้นเราจึงจะสามารถชื่นชมความงามแห่งการคร่ำครวญ ชั้นร้องไห้ทุกครั้งเมื่อถึงตอนจบ เรื่องจองกาลลิโกสามารถแช่หัวใจที่ระสับระส่าย เหมือนกับที่เยลลี่เลิศสูงสามารถรักษาบาดแผลในจิตใจ สัมผัสนุ่มนวลผ่อนคลายในคอ หรูเลิศที่สุด โอ นายต้องอ่าน ‘Jennie’ กับ ‘Snowflake’ ด้วย!! ชั้นแนะนำสำนวนแปลของ ยากาว่า ซุมิโกะ”

    ผมวางกระดาษตารางสำหรับเขียนต้นฉบับแผ่นที่ห้าลงบนโต๊ะที่ไม่เรียบ แล้วเตรียมตัวเขียนเรื่องสั้นสามหัวข้อ ด้วยดินสอ HB หัวข้อของวันนี้คือ “รักแรก” “สตอว์เบอรี่ไดฟุกุ” และ “ตึกรัฐสภา” หัวข้อพวกนี้ดูงี้เง่าสักหน่อยสำหรับผม

    ผมก้มหน้าลงมือเขียน แล้วสวนรุ่นพี่กลับอย่างเยือกเย็นว่า

     “รุ่นพี่โทโกะเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้รสอะไรอะไรนอกจากคำกับกระดาษ ไม่รู้รสชาติของเยลลี่แล้วจะอุปมาแบบนี้ได้ยังไง”

    “ชั้นทำได้แน่ ชั้นจินตนาการถึงผลไม้นั้นได้ อา... รสชาติของเยลลี่ต้องเป็นแบบนี้ ที่นายบอกว่าชั้นเป็นสัตว์ประหลาดนี่อคติไปหน่อย ชั้นแค่อยากกลืนเรื่องและคำบนโลกใบนี้ลงสู่กระเพาะ ชั้นเป็นแค่นักเรียน ม. ปลาย ที่ตกหลุมรักวรรณกรรมธรรมดาๆ แค่สาวน้อยวรรณกรรมธรรมดาๆ”

     “ถึงมีหนังสืออร่อยที่สุดในโลก ผมก็ไม่คิดไม่คิดว่าจะมีเด็กสาว ม.ปลายที่ไหนจะฉีกกินมันลงไป ตลอดชีวิตสิบหกปีของผมผมไม่เคยได้ยินว่าใครแปลกเหมือนรุ่นพี่โทโกะ”

    แก้มของรุ่นพี่โทโกะป่องขึ้นด้วยความไม่พอใจ เธอตะเบงเสียง

    “หยาบกระด้างอะไรแบบนี้! เรียกเด็กสาวว่าตัวประหลาดซึ่งๆ หน้า ไม่คิดหน้าคิดหลังเอาซะเลย ชั้นเจ็บปวดจัง โคโนฮะ ทั้งๆ ที่เธอมีใบหน้าที่แสนสุภาพเรียบร้อยจนชวนให้คิดว่าคงจะตั้งชื่อกุหลาบที่บ้านว่า  “แนนซี่” “แบตตี้” หรืออะไรทำนองนั้น แล้วเฝ้าดูแลมัน พูดกับมันอย่างอ่อนโยน เธอน่าจะพูดแบบนั้นกับรุ่นพี่บ้างนะ”

    รุ่นพี่โทโกะทำเสียงฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเปลี่ยนท่าทางในเกือบจะทันที เธอถีบตัวขึ้นจากเก่าอี้เสียงดัง ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข แล้วเดินเข้ามาหาผม

     “เอาล่ะ การให้อภัยของชั้นกว้างใหญ่ไปถึงกาแล็คซีแอนโดรเมดา ชั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องที่รุ่นน้องพูดจาไร้มารยาทมากเท่าไหร่ ว่าแต่ของว่างของชั้นเสร็จรึยัง?

     

    เธอเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ ด้วยเหตุนี้เธอจึงสามารถร้องหาของว่างด้วยสำเนียงสดใส ถ้าเธอเป็นแมวเราคงจะได้ยินเสียงเธอกลืนน้ำลายไปแล้ว



    [1] Paul William Gallico (1897-1976) นักเขียนชาวอเมริกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×