คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The Story of Curse Sea Makina
Application Form สำเนาเอกสารใบสมัคร!!!
Phase 1 : Who are you, lady?
บท : ลามิเอ ผู้สัมผัสดวง
คู่ : โคซาร์ท
Phase 2 : How are you?
สำเนารูปถ่าย :
ลักษณะรูปร่างหน้าของท่าน : เป็นเพียงรูปร่างของหญิงสาวธรรมดาวัยราวๆแค่ยี่สิบห้าปีเหมือนพี่สาวแสนงามราวดอกไม้แรกแย้ม ผมสลวยสีดำสนิทหยักศกเล็กน้อยมักจะหมัดรวบเอาไว้ด้านขวาเพราะมันจะเกะกะใบหน้าของเธอ(แต่มันก็ไม่ทำให้ความสวยของเธอลดลงเลยแม้แต่เสี่ยว) ภายใต้หน้าม้าที่ที่ปกปิดหน้าผากเอาไว้นั้นไม่มีใครรู้ว่านั้นมีรอยสักที่ถูกแต่งเติมเป็นรูปลูกตาสีแดงอยู่กลางหน้าผาก เพราะสิ่งนั้นมันทำให้เธอจะแลดูไม่เหมือนมนุษย์เธอจึงจำต้องตัดหน้าผมให้มันปกปิดเพื่อให้เธอสามารถออกไปไหนมาไหนได้สะดวก เรียวหน้ารูปไข่ที่งดงามได้รูปของสาวสวยนั้นช่างตัดกับดวงตาสีฟ้าครามได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อทำให้เธอดูเหมือนรูปภาพประติมากรรมชั้นเยี่ยมแห่งยุค เจ้าหล่อนเป็นคนที่ถือว่าสูงใช้ได้เกณฑ์มาตรฐานราวๆ 175 เซนติเมตร(ในร่างคนน่ะนะ..) หน้าอกค่อนข้างใหญ่นิดหน่อยทำให้มีอาการปวดหลังมากกว่าสาวปกตินัก แต่เอกลักษณ์ที่พอเห็นสาวเจ้าคนนี้ต้องร้อง “อ๋อ!” เพราะการแต่งตัวของเธอนั้นจะต้องมีรูปร่างของงูขาวๆมาเป็นส่วนประกอบ อาทิเช่น เข้มขัด แขนเสื้อ ต่างหู ก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกับงูมากนัก แต่ว่าไอ้พวกเครื่องประดับเล่านั้นก็คือลูกๆของเธอที่เป็น งูพิษ จริงๆ (อย่าไปสนใจรูปนะคะ มองแค่ลักษณะใบหน้าพอ ส่วนกิโมโนก็คิดว่ามันเป็นแค่ของแถม...)
ชื่อ :อทิสซี่ เดนเฟย์อลาคฟรี (Atheaze Denfayalovfe )
ชื่อเล่น : อลิส (คนยุโรปจะออกเสียงอย่างนี้มากกว่าค่ะ)
ลักษณะนิสัย : อทิสซี่ เจ้าหล่อนผู้เป็นทายาทของลาเมียผู้น่าสงสาร หรือแม่ของเธอนั้นล่ะคงจะเป็นข้อเสียของเธอ เพราะว่าเธอเป็นขี้สงสาร ไม่รู้ว่าเป็นคนดีหรือคนโชคเลวทรามเธอก็จะช่วยเอาไว้หมด นอกจากจะเป็นคนใจดีแล้วยังเป็นพวกรักสัตว์ไม่ว่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยเธอชอบหมดล่ะ โดยเฉพาะงูเธอนี่รักมากราวจะแต่งงานกับมันก็ไม่ปาน (กระทบใครรึเปล่านะ หึ...) แต่ว่าจุดอ่อนของอทิสซี่มีเพียงอย่างเดียวนั้นก็คือ ....”แมงมุม...” เธอเกลียดมันมาก เกลียดจนเลยขั้นไปถึงคำว่า’กลัว’ ด้วยซ้ำ ถึงว่าแมงมุมที่เธอเจอจะตัวเล็กแค่ไหนเธอก็กรี๊ดเรือจะแตก แล้วถ้าเจอตัวใหญ่ๆเนี่ยสิ... คงสลบคาเรือไปเลยล่ะ... (ใครว่างมาช่วยพยุงด้วยนะคะ....) ก็นะ...คนเราก็มีสิ่งที่กลัวที่สุดในโลกบ้างล่ะ อยากบอกนะว่าไม่มีกัน? แต่ถ้าไม่เจอแมงมุม(?) อทิสซี่เป็นคนเรียบร้อยราวผ้าพับเอาไว้ก็ไม่ปานเลยล่ะเป็นแม่ศรีเรือนที่ดี ชอบทำความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ เพราะเธอถือคติที่ว่า “บ้านคือสิ่งที่เกื้อหนุนจิตใจของผู้คน” เพราะนั้นถ้าบ้านสกปรกมันจะทำให้ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทุกคนจะสั่นเครือ เธอเลยมักจะทำความสะอาดบ้าน(เรือ)อยู่เป็นประจำ แต่อทิสซี่ไม่ใช่คนที่สดใสร่าเริงราวคนไร้เดียงสานะ...เพราะเธอรู้มากเกินไปด้วยซ้ำทำให้เธอจะดูเป็นผู้ใหญ่ คิดอะไรรอบคอบ ใจเย็น ไม่ทำอะไรที่มันจะทำให้เธอเสียเปรียบหรือว่าต้องทำให้เพื่อนต้องตกอยู่ในอันตราย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นพวกรักเพื่อนฝูงเกินกว่าชีวิตของตัวเองนะ แค่เป็นคนเห็นอกเห็นใจคนอื่นมากกว่าที่ว่ารักพวกพ้อง เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่มองผ่านดวงตาของเธอจะไม่มีคำว่า ‘รัก’ ส่วนมากที่พบจะเห็นเป็น ‘ความสงสาร’ เสียมากกว่า อ๋อ...แล้วก็นะถ้าลองสังเกตดีๆจะรู้ว่าอทิสซี่จะไม่กระพริบตา และจะไม่นอน เป็นคนที่อดหลับอดนอนได้เก่งมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่นอนนะ เธอแค่ไม่อยากนอนมากกว่า เพราะเมื่อเธอนอนหลับหรือหลับตาเธอจะนึกถึงภาพของแม่ที่ร้องไห้ออกมาเป็นสายโลหิตท่ามกลางกองศพของลูกน้อยที่ยังไม่ทันที่จะได้เกิดมาลืมตาดูโลก มันทำให้เธอทำใจไม่ได้ และรู้สึกผิดที่เธอรอดมาได้ เพราะงั้น เวลาใครจี้จุดอย่างเช่นการพูดว่า “พ่อแม่น่ะน่ารำคาญ” “พวกนั้นไปตายให้หมดก็ดี” อะไรทำนองนี้ เธอจะรู้สึกเสียใจมาก และจะพยายามทุกอย่างให้คนที่เอ่ยเห็นค่าของพ่อแม่ แต่ถ้าพวกเขาไม่สนใจและยังคงด่าทอต่อ อทิสซี่จะโมโหมาก และเวลาเธอโมโห เธอไม่ฆ่าทิ้งหรอก แต่เธอจะทรมาณจนกว่าคนเหล่านั้นจะสำนึก อีกอย่างหนึ่งที่อทิสซี่กลัวนอกจากแมงมุม เธอกลัวเลือด.... ถ้าเจอเลือดเธอจะมือสั่นเหมือนเจ้าเข้าพยายามไม่มองแล้วทำใจเย็น แต่ถ้าเธอเห็นเลือดมากๆเข้า เธอจะกลายร่างเป็นลาเมียหางสีดำใหญ่และพิษที่เธอปล่อยออกมาไม่มีวันรักษา ไม่ทิ้งตาย แค่เป็นอัมพาตหรือแค่ทรมาณจนขอร้องให้ฆ่ากันเลยทีเดียว เพราะงั้นได้โปรดอย่าให้เธอเห็นเลือดมากๆเลย เพราะอทิสซี่จะไม่รู้ว่าใครเป็นใครกันเลยทีเดียว
ประวัติ: ถ้าเป็นลูกหลานของลาเมีย อันนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายมาก แต่ว่าการที่เธอเจอกับชายหนุ่มผู้ไม่สามารถมองเห็นมนุษย์ได้อย่างไรนั้น มันเริ่มจากการที่เธออาศัยอยู่ในถ้ำลึกที่ปัจจุบันกลายเป็นเกาะ สวนมากชีวิตประจำวันของเธอก็แค่เก็บของหากิน เดินเล่น เพียงแค่นั้น แต่วันหนึ่งตอนที่เธอกำลังเก็บของในป่า (ตอนกลางคืน) เธอเจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่วิ่งมาแล้วชนเข้ากับเธอ ถึงแม้เธอจะอยู่ในร่างของมนุษย์สาวสวยนั้น แต่เขากลับยังคงกรีดร้องเธอเช่นเห็นปีศาจแล้วเธอก็ไปสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มที่เธอชนแล้วทำท่าหวาดกลัวเธอนั้นมีลอยแปลกๆที่เหมือนกับรอยตรีตราบนหน้าผากของเธอทำให้อทิสซี่รู้ว่าชายหนุ่มนั้นได้ถูกคำสาปเข้า ส่วนการรักษาเธอนั้นเพียงแค่เปิดหน้าผากที่มีรอยตรีตรารูปดวงตานั้นให้เขาเห็นเขาก็จะหาย แต่ว่ามันออกผลแค่ยี่สิบหน้าที่เขาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่พอเขากลับมามองรอยนั้นอีกเขาก็จะหาย ทำให้เขาต้องมองและจ้องดูเอาไว้ (อทิสซี่จึงต้องเปิดเถิกทุกๆ20นาที) ถึงมันยุ่งยากนักแต่เป็นสิ่งที่รักษาได้แน่นอน ตอนแรกชายหนุ่มนั้นต้องการจะจากไป และขอบคุณที่ทำให้เขาไม่ต้องมองเห็นปีศาจตั้งหนึ่งคืน(?) แต่ว่าอทิสซี่นั้นมีความสามารถที่เห็นอนาคตด้วย ทำให้เธอรู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้ต้องตายแน่ถ้าหากว่าเธอไม่ไปกับเขาด้วย ด้วยความที่สงสารอทิสซี่จึงขอตามไปด้วย โดยอ้างเหตุผลว่าอยากจะเป็นแม่บ้านให้ และเธอเองก็อยากจะออกไปจากเกาะนี้มาก(เพราะว่าเธอต้องหลบแม่ของเธอด้วย เพราะอาการของลาเมียจะคลุ้มคลั่งอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้) ทำให้เขายอมพาเธอไปด้วยโดยที่แนะนำตัวเองว่าเขาชื่อ “โคซาร์ท”
ลักษณะการพูดจาพร้อมตัวอย่างคำพูด :
สไตป์การพูด : คนสุภาพ อ่อนโยน คุยเหมือนกับพี่สาวให้คำแนะนำน้องสาวที่ยังเด็ก
คำพูดติดปาก : “...นะคะ” // “นั้นสินะคะ...”//”อ่าคือ...”
เวลาเรียกคนอื่น(พวกหนุ่มๆผู้ชาย//คนไม่รู้จัก) :”ท่าน(ชื่อ)...”
เวลาเรียกคนอื่น(พวกผู้หญิง) : “คุณ(ชื่อ)
เรียกตัวเอง : “ตัวเรา”
ประโยคสนทนา
“อ่าคือ....ท่านโคซาร์ทเจ้าคะ ตัวเราไปเจอยิ่งนี้จากใต้เตียงของท่านน่ะค่ะ”//ชูหนังสือโป๊เรทสิบแปดบวกขึ้นมาต่อหน้าอีกฝ่าย
“เฮ้ยยยย!!!!”//เรียบคว้ามาทันที// “จะ เจ้าไปเอามันออกมาทำไม! ไม่สิ ไปขุดมันมาทำไม!!” //หน้าแดงนิดหน่อย
“อ่าคือ ตัวเราไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นจริงๆนะคะท่านโคซาร์ท เพียงแต่ ท่านโคซาร์ทชอบแบบแบนราบเหรอคะ? “//เอียงคอถามอย่างใสซื่อ
“แบบอกนู้นก็เยี่ยมอยู่... ไม่ใช่เรื่องนั้นนะอลิส! จะ เจ้าถามอะไรของเจ้าเนี่ย!!”
….พอเถอะเดี๋ยวเสื่อมไปมากกว่านี้....
ปล.มีเพื่อนคนหนึ่งเขาบอกให้ยกตัวอย่างนี้....
อาวุธและความสามารถของอาวุธ : ปกติไม่สู้ เลยไม่มีอาวุธประจำตัว คือโดนทำร้ายก็ของใกล้ๆตัวเอามาเป็นอาวุธล่ะ แต่ความสามารถมีอยู่บ้าง คือสิ่งที่เธอสัมผัสมันจะกลายเป็นพิษร้ายทันทีถ้าเธอต้องการ เพราะฉะนั้นเธอจะไม่สามารถแตะพวกของสดอย่างพวกอาหารได้เลย เพราะพิษของเธอนั้นจะไม่มีกลิ่น ไม่มีสี สามารถลอบฆ่าคนได้อย่างเยี่ยมเลย เพราะงั้นเธอเลยจะไม่ค่อยเข้าไปยุ่งในครัวถ้ามันไม่จำเป็นนอกจากจะไปหาโคซาร์ทเพื่อถามว่าอาการเป็นอย่างไง
เพิ่มเติม : ก็คือตอนแปลงร่างเป็นลาเมียอย่านำนิสัยเธอมาเลย มันจะตรงข้ามหมด เพราะงั้นเวลาเธอกลายเป็นลาเมียพยายามออกห่างแล้วถ้าเธอจะกลับเป็นร่างเดิมก็คือตอนที่มีใครใจกล้าเอามีดหรือของแหลมไปทิ่งที่หางของเธอ(โดยที่มีพิษอยู่) แล้วเธอก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่เธอจะจำตอนที่ตัวเองเปลี่ยนร่างไม่ได้ เพราะงั้นอย่าไปถือโทษโกรธอะไรเลยนะ ส่วนตอนที่เป็นมนุษย์ เธอจะไม่ชอบต่อสู้ เพราะงั้นเวลาบู๊กันอย่าลากเธอเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย เพราะใครที่สู้กับเธอมีแต่อัมพาตกับกลายเป็นบ้าแค่สองตัวเลือกเท่านั้น
Phase 3 : Can I hear your voice? (ทรงลูกตัวเองตอบเลยนะคะ ส่งผลต่อคะแนนรองจากนิสัยเลยค่ะ!)
“อรุณสวัสดิ์ท่านหญิง…ไม่ทราบว่าท่านเป็นใครกันรึ? บอกชื่อเสียงเรียงนามของท่านให้เราฟังหน่อยได้หรือไม่?” : “อ่ะคือ....”ร่างบางค่อยๆหันหน้ามามองผู้ที่อยู่ก็เดินเข้ามาอย่างไม่ให้ซุ่มเสียงสร้างความตกใจปนฉงนใจเล็กน้อยแต่ใช่ว่าเธอจะเป็นคนตกใจงานสักทีไหนเล่า “ตัวเราชื่อ อทิสซี่ นะคะ อะ เอ๋!! ถ้าหากว่าท่านเรียกไม่ได้เรียกตัวเราว่า อลิสก็ได้นะคะ” เปล่งเสียงด้วยความรีบร้อนทันทีที่เผลอพูดชื่อที่ชาวยุโรปหลายคนไม่สามารถเอ่ยเรียกพรรณาของมันได้เป็นชื่อที่เธอนำมาตั้งใหม่
“อ้อ…ท่านคือหญิงสาวผู้โด่งดังคนนั้นนี่เอง…เช่นนั้น ได้ข่าวรางๆมาว่าท่านกำลังติดพันอยู่กับเหล่าโจรสลัดงั้นรึ? หึหึหึ พวกเขาทุกคนมีภาพรวมเป็นเช่นใดในสายตาท่านกัน?” :”อ่ะคือ...ท่านหมายถึงพวกท่านจีอ๊อตโต้หรือไม่คะ?”ร่างบางเอียงคอมองอีกฝ่ายเล็กน้อยแล้วระบายรอยยิ้มอบอุ่นออกมา “ตัวเราคิดว่าพวกท่านโจรสลัดนั้นถึงแม้บางคนจะป่าเถื่อน แต่ตัวเราคิดว่าพวกเขานั้นเป็นคนดีนะคะ เพียงแต่หัวดื้อเหมือนเด็กๆ คริๆ แต่นั้นก็สมวัยของพวกเขาแล้วเจ้าค่ะ”
“แล้วชายผู้นั้น…ผู้ที่ท่านต้องแก้คำสาปให้เขาน่ะ ท่านมีความเห็นเป็นเช่นไรกัน? ท่านมีสิ่งใดต้องการจะบอกให้เขารู้หรือไม่?” : “ท่านหมายถึงท่านโคซาร์ทหรือเปล่าเจ้าคะ”ดวงตาเผลอเบิงออกกว้างอย่างไม่รู้ตัวเมื่ออีกฝ่ายพูดถึงคนที่เจ้าตัวดูแลอยู่พลันรอยยิ้มก็แสดงขึ้นมาพร้อมมือที่ปิดริมฝีปากเล็กน้อยราวกำลังกลั้นมิให้เสียงหัวเราะออกมา “นั้นสินะคะ คือว่าตัวเราคิดว่าท่านโคซาร์ทก็เป็นคนดีนะเจ้าคะ ถึงแม้ว่าตัวเราจะไปเจอของแปลกๆที่อยู่ใต้เตียงหรือในห้องของท่านแต่มันก็อยู่ในช่วงวัยของท่านโคซาร์ทและคงเป็นที่คลายความเครียดน่ะค่ะ”หัวเราะพร้อมกับนึกถึงเสียงที่ตนเพิ่งไปค้นเจอในตู้เสื้อผ้าของอีกฝ่ายก็พยายามกลั้นขำ
“งั้นหรือ? แล้วท่านเต็มใจช่วยเขาหรือไม่ละ? หากเต็มใจ ท่านมั่นใจแค่ไหนกันว่าจะช่วยได้…?” :”ตัวเราเป็นคนขอร้องให้ท่านโคซาร์ทพาข้ามายังที่นี่ ข้าต้องการที่จะช่วยท่านโคซาร์ทให้หายจริงๆค่ะ “ทำหน้ามุ่นมั่นแล้วดวงเนตรสีฟ้าครามนั้นส่อประกายว่าจะต้องทำให้ได้พลัยเนตรนั้นก็กลับเป็นความเศร้าสร้อย “ข้าสงสารท่านโคซาร์ทเหลือเกิน สภาพของเขาตอนที่เห็นเพื่อนของตนเป็นปีศาจมันทรมาณนะคะ...”
“ข้าไม่มีคำถามใดจะถามท่านแล้วละ ขอตัวก่อนนะ…ไว้เราจะได้พบกันอีก…” : ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วส่งยิ้มไปยั่งผู้ที่ไม่รู้แม้แต่ว่าเขาเป็นใครแล้วเอ่ยคำพูดออกมา “ตัวเราเองก็หวังว่าจะได้เจอท่านเหมือนกันนะคะ”
ความคิดเห็น