ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เก็บของ Yomatob,Makina

    ลำดับตอนที่ #2 : ออริประกิบฟิค The Story of Curse Sea

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 57


    Phase 1 : Who are you, lady?

    บท : เจ้าคูสิธผู้ตามหาตัวตน

    คู่ :จีอ๊อตโต้

    Phase 2 : How are you?

    สำเนารูปถ่าย : 

    ลักษณะรูปร่างหน้าของท่าน : เรือนรางสูงบอบบางเรือนเกศาสีซากูระแรกแย้มยามสุริยันต์สอดส่องแต่กลับเปล่งประกายสีแดงยาวเพลิงกาฬยามราตรีเมื่อแสงจันทราส่องลงมากระทบเรือนเกศานั้น ใบหน้ากลมเรียวรูปไข่แต่กลับมีรอยแผลเป็นแต่แตกออกราวรากไทรของต้นไม้ ลากลวดลายไปตามใบหน้าไปจนถึงมือด้านซ้ายกินอณาเขตยาวไปจนถึงเรียวขา ดวงเนตรสีโลหิตจางกลมโตมักจะทอประกายแสงง่วงซึมอยู่ตลอดเวลา รูปร่างที่สูง แต่ก็ไม่ได้สูงจนน่าเกียจนักถ้าคำนวณเป็นตัวเลขคงจะได้ประมาณ 169 เซนติเมตรก็ไม่ปานส่วนน้ำหนักนี่อย่าพูดถึงเลย แต่ถึงน้ำหนักจะมากเพียงไหนแต่รูปร่างสวย เอวยี่สิบสาม อกสามสิบแปด นี่ถือว่าหลอกตาคนที่จับจ้องใช้ได้เลยล่ะนอกจากความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์สร้างออกมาราวนางฟ้าแล้วยังซ่อนกรงเล็บแหลมยาวปาดร่างกายรวมถึงหัวใจเอาไว้ในมือเรียวบางนุ่มของอิสตรีผู้นี้อีกด้วย หากใครรักตัวกลัวตายและหัวใจของตน อย่ามาเล่นกับคูสิธตัวนี้เด็ดขาด ไม่งั้นหัวใจและร่างกายของเจ้าอาจจะกลายเป็นเศษอาหารของเจ้าหล่อนก็เป็นได้...

    ชื่อ : เฟสก้า คาเรเมลพรีโรโบ้ (Fresca CarmepiLobo)

    ความหมาย : หมาป่าแห่งการฉลองเลี้ยงเลือดสด

     ชื่อเล่น :เฟสก้า (เฉพาะเพื่อนที่สนิท) คาราเมล (คนปกติทั่วไปที่รู้จักกัน)

    ลักษณะนิสัย : ป่าหมามักมีนิสัยดุร้าย.... แต่ขอโทษที กรุณาลบคำเหล่านี้ออกไปจากสมองของท่านได้เลย สำหรับเฟสก้าคนนี้แล้วจะไม่กัดใครก่อนนอกเสียจากคนที่มาเริ่มหาเรื่องก่อนเท่านั้น เธอเป็นคนไม่ชอบทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ แต่ชอบทำสงครามเย็นโดยใช้วาจาเป็นอาวุธทำลายล้างมากกว่า เพราะเหตุใดน่ะเหรอ? เพราะว่าเธอนั้นไม่ชอบใช้กำลัง เธอคิดว่าการใช้กำลังก่อนโดยไม่มีเหตุผลเป็นความคิดของเด็กโง่เขลาธรรมดา มีอะไรควรจะมานั่งจับเข่าคุยกันก่อนเสียมากกว่า แต่เพราะว่าเธอเป็นคนนิสัยตรงๆ คิดอย่างไงก็พูดไปอย่างงั้นเลยทำให้ปากของเธอจะชวนหาเรื่องทำร้ายร่างกายกันมากกว่ามาเจรจานะ....คิดว่า... แต่ถึงจะปากร้ายอย่างไง เธอเป็นคนห่วงพวกพ้องของตัวเองมาก อาจจะเป็นนิสัยของหมาป่าที่จะรักและปกป้องพวกเพื่อนฝูงของตัวเองเป็นพิเศษทำให้เมื่อเพื่อนเธอตกอยู่ในอันตราย ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟไปที่ไหนเธอก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเสมอ แต่ถึงแม้ว่าจะดูเป็นคนที่ไม่ชอบทำร้ายคนอื่นแต่เธอเป็นคนใจร้อนนะอยากจะบอก ถึงภายนอกจะดูนิ่งสงบราวกับพายุที่สงบนิ่งเพียงไหน แต่ในใจของเธอจะเป็นคนที่ใจร้อนมากกกก แต่ว่าไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ เพราะเธอเป็นคนเก็บอาการเก่งยกเว้น “แพ้อาหารทะเล..” เธอเป็นพวกแพ้อาหารทะเลโดยเฉพาะ หอยลาย อย่าให้เธอกินชวนนะนั้น ถ้าเผลอกินเข้าไปคุณจะพบกับสาวจอมขี้เมาแดรกไม่เลือกหน้าทันที แล้วพอหายเมาแล้วเธอจะอ้วกออกมาจนน่ากลัวเลยล่ะ (ยังกับคนท้อง..) นั้นคงจะเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งของเธอล่ะนะ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ เธอเป็นคนที่พึ่งพาได้ดีนะ ดีมากถึงมากที่สุดเลยล่ะ ถึงแม้จะปากร้าย แต่ถ้าใครอยากจะปรึกษาปัญหาชีวิตเธอก็รับฟังแล้วสามารถให้คำปรึกษาได้ดีมากเลยทีเดียว เลยเป็นคน ค่อนข้างที่จะพึ่งพาได้สูง แต่พอถึงปัญหาชีวิตของตัวเองเธอจะไม่สามารถแก้ไขมันได้เลย ดังนั้นเธอเลยต้องการที่ปรึกษาบ้างอะไรบ้าง แต่คนปากร้ายใจแข็งอย่างเธอจะบอกให้คนอื่นรู้ก็โง่แล้วล่ะ เธอเลยค่อนข้างจะเก็บตัวได้เกิดว่ามีปัญหา ไม่ค่อยพูด ถึงจะชวนทะเลาะกันหรือว่าพูดอะไรไม่เข้าหูเธอ เธอก็จะไม่พูดตอบเหมือนตอนปกติที่แค่ไปแหย่นิดหน่อยก็เกิดสงครามเย็นกันขึ้นมาแล้ว ดังนั้นเลยเป็นคนที่จับผิดได้ง่ายมากถึงมากที่สุด แต่วิธีการแก้ไขปัญหาของเธอนั้นน่าแปลกใจจนแทบอยากหัวเราะดังๆเลยล่ะค่ะ... วิธีนั้นก็คือ.... การกินค่ะ... ถ้าเจอปัญหาทีไรเธอจะหลบหน้าทุกคนแล้วไปหาอะไรกินค่ะ ของโปรดที่เธอชอบมากที่สุดเนื้อกวาง แต่ถ้าหาเนื้อกวางไม่ได้จริงๆเธอก็จะกินไก่แทนค่ะ(เป็นตัวตายตัวแทนที่โคตรแตกต่างกันเลย...)ถึงแม้จะดูเหมือนตลกแต่ก็ซีเรียสนะคะ เพราะว่าเวลากินแล้วเธอจะมีความสุขมากเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดก็ไม่ปาน เพราะงั้นอย่าไปขัดเธอตอนเธอกินเชียวนะ ถ้ายังไม่อยากมีเรื่อง=_=;

    ประวัติ : เฟสก้าเป็นลูกหลานของหมาป่าทางไอแลนด์ (แต่ทำไมชื่อมันเป็นภาษาสเปนคะ ;w;…) ตอนที่เฟสก้าเป็นเพียงแค่ลูกหมาป่าตัวน้อยๆ พ่อแม่ของเธอโดนนายพรานฆ่าตาย แต่เพราะเหตุใดกันก็ไม่รู้ที่พอนายพรานเห็นเฟสก้าในคาบของลูกหมาป่าสีดำกับหวาดกลัวแล้วขาสั่นจนล้มลงไป ทั้งๆที่เธอเป็นแค่ลูกหมาป่าธรรมดาๆ แทนที่นายพรานคนนั้นน่าจะหวาดกลัวต่อพ่อและแม่ของเธอที่เขาเพิ่งจะพลั้งมือฆ่าไปเมื่อสักครู่มากกว่า ตอนนั้นเฟสก้ายังเด็ก ด้วยความสงสัยเธอจึงเดินไปใกล้กับนายพรานคนนั้นเพื่อต้องการที่จะรู้ว่าทำไมนายพรานคนนั้นถึงหวาดกลัวเธอนัก แต่ยังไม่ทันที่จะแปลงร่างกลายเป็นมนุษย์มาถาม เธอก็โดนดาบของนายพรานผู้นั้นฟันเข้าที่ใบหน้าด้านซ้ายลากยาวไปถึงขาด้านซ้าย ทำให้เธอเผลอพลั้งมือฆ่านายพรานคนนั้นตายไปอย่างช่วยไม่ได้ เฟสก้าเดินไปเรื่อยๆด้วยอาการปาดเจ็บขั้นรุนแรงเพราะแผลของเธอนั้นติดเชื้อและเธอยังเด็กเกินไปที่จะทนต่ออาการบาดเจ็บและทรมาณถึงขั้นนั้นเธอ เธอเดินมาถึงสุสานแห่งหนึ่งใจกลางป่าใหญ่ เธอคิดกับตัวเองว่าเธอไม่รอดแน่นอน ทำให้เธอตัดใจแล้วนอนลงข้างๆป้ายสุสานขนาดใหญ่นั้น แต่เมื่อเธอตื่นขึ้นมานั้นเธอได้รับการรักษาอย่างดี แผลที่เธอโดนฟันกลับปิดสนิททิ้งไว้เพียงรอยแผลเป็นที่ใบหน้านั้นที่กลับกลายเป็นรอยที่เหมือนรอยสักเสียมากกว่า เธอไม่รู้ว่าเธอได้รับการรักษาจากใคร หรือว่าเธอตายไปแล้ว หรืออย่างไง แต่สิ่งที่เธอพบก็คือเด็กผู้ชายวัยสิบปี เรือนเกศาสีอำพันสง่าราวทองคำนั้นกำลังฟุบหลับอยู่ตรงเก้าอี้ข้างๆพื้นที่เธอนอนอยู่ เฟสก้าคิดว่าถ้าหากว่าเขาเห็นเธอในสภาพของมนุษย์ตอนที่เธอกำลังไม่ใสอะไรเลยอยู่มันคงจะไม่ดีแน่แท้เธอเลยกลายร่างเป็นหมาป่าสีดำตัวน้อยนั้นเหมือนเดิมแล้วรอให้เด็กนั้นตื่นขึ้น เด็กนั้นมีท่าทีมึนงงเล็กน้อยแต่เขากลับจ้องมองมายังที่ตัวเธอในคาบลูกหมาป่าสีดำอย่างเอ็นดู...กิริยาท่าทางที่ทำให้เธอหลงรักตั้งแต่แรกพบ... เธออยู่เป็นเพื่อนกับเด็กชายคนนั้นแทบจะตลอดวันและคืน เธอรู้ว่าเด็กคนนั้นเสียพ่อแม่ไปจากการเดินทางทางทะเล แล้วที่ที่เธอสลบไปก็คือสุสานประจำตระกูลของเด็กน้อยคนนั้น เธอเดินมาแล้วเล่นกับเด็กคนนั้นจนเจอทางออกจากป่า เฟสก้าไม่ต้องการที่จะให้เด็กคนนั้นไป แต่เธอเองก็ไม่สามารถออกไปจากป่าแห่งนี้ได้เช่นกัน ถึงจะไม่เข้าใจแต่เธอก็รู้ว่าเธอคงจะหลงรักเด็กคนนั้นไปเสียแล้ว เธอจึงรอเด็กคนนั้น รอมาตลอด ไม่ว่าจะกี่เดือนกี่ปี เธอก็รอเด็กคนนั้นกลับมา ถึงแม้ว่าเธอจะรู้แค่ว่าเขาชื่อ จีอ๊อตโต้เพียงแค่นั้น แต่เธอก็รออยู่ที่สุสานนั้นและคอยปกป้องสุสานนั้นของพ่อแม่ของเด็กคนนั้นจนกว่าเด็กคนนั้นจะกลับมาเวลาผ่านไปจนไม่รู้เท่าไหร่ วันหนึ่งเธอได้เจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มาก่อไฟอยู่ ด้วยความที่หิวเธอเห็นน่องไก่ที่ชายคนนั้นล่าสัตว์มาได้เธอเลยกระโจนเข้าไปแย่งเนื้อไก่ของชายหนุ่มคนนั้นแล้วแง่มเข้าที่มือของชายหนุ่มนั้นอย่างลืมตัว(ปกติไม่ชอบทำร้ายครายยย~) ด้วยความที่โชคร้ายหรือว่าอะไรก็ไม่ทราบเธอโดนชายหนุ่มผู้นั้นชกเข้าที่ท้องอย่างแรงทำให้ต้องกลายร่างกลับเป็นคนดั่งเดิม แต่พอมองใบหน้าของชายหนุ่มที่หาญกล้าผู้นั้นมันคือ จีอ๊อตโต้เด็กชายที่เธอเฝ้ารอมาตลอดหลายสิบปี แต่ว่าทั้งนิสัย ท่าทาง และทุกๆอย่างนั้นผิดแปลกไปจากเด็กน้อยแสนน่ารักนั้นทำให้เธอสงสัย ถึงแม้ว่าจะถามไปเขาก็ตอบกลับมาว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรและเขาก็จำเธอไม่ได้ด้วย แต่ด้วยความป่าเถื่อนนั้นจีอ๊อตโต้ก็ทำการลากเธอ หมาป่าคูสิทแห่งสุสานโบราณออกมาจากป่าที่เธออาศัยอยู่แล้วลากเธอไปยังทะเลที่เธอค่อนข้างที่จะไม่ชอบกลิ่นมันสักเท่าไหร่ และนี่คือการเริ่มต้นของเฟสก้า คาราเมลฟรีโรโบ้ ที่จะต้องนำนิสัยและความทรงจำของเด็กชายกลับมา (แลจะยิ่งใหญ่..)

    ลักษณะการพูดจาพร้อมตัวอย่างคำพูด :

    วิธีการพูด : หน้านิ่งกวนส้นตึกไว้ก่อนพ่อเฟสก้าสอนไว้ =w=;

    แทนตัวเองว่า : “เรา”

    แทนคนอื่นว่า : “เจ้า”

    คำติดปากที่ต้องมีแทบทุกประโยค : “เฮ้อ.....” // “คือแบบ....” // “ไม่ๆ...” 

    ยกตัวอย่างเวลาเถียงคน : จีอ๊อตโต้ : “มาที่นี่ต้องการอะไร...”

                            เฟสก้า : “เฮ้อ... นั้นมันเรื่องของเรา เจ้าไม่ยุ่งเรื่องของเราสักเรื่องมันจะตายไหม...”//ทำหน้านิ่งไป

                            จีอ๊อตโต้: “จะเอาใช่ไหม...”//ชักปืนขึ้นมาจ่อหัว

                            เฟสก้า ://เหลือบมอง// “เราไม่เอา เจ้า หรือ ลูกตะกั่ว ไร้รสชาติอย่างนั้นหรอกนะ เราต้องการไก่ที่ลูกน้องเจ้าเตรียมเอาไว้มากกว่า เพราะงั้นหลบไป” (ก็ปู่จ๊อตถามว่า “จะเอาไหม” ลูกหนูไม่อยากได้ก็บอกไม่เอาก็ถูกแล้วนี่คะ อร๊ายยย //โดนไรเตอร์เตะออกนอกบทความ)

                            จีอ๊อตโต้ : //เงิบไป10วิ // “ข้าไม่หลบ เจ้าจะทำไม..”

                            เฟสก้า : “ไม่ๆ ไม่ทำไมทั้งงั้นล่ะ เพราะถ้าเจ้าไม่หลบเราจะแดรกหัวเจ้าแทนไก่เนี่ยล่ะ...”

    เฟสก้า Win!!! (//โดนไรเตอร์ทั้งสองตรบตาย)

     

     อาวุธและความสามารถของอาวุธ : คงจะเป็นกงเล็บที่ซ่อนเอาไว้ที่เล็บ(ในตอนที่อยู่ในร่างคน) พอเฟสก้าจะสู้เล็บของเธอจะยาวขึ้นทันทีที่เธอต้องการแล้วทุกอย่างที่เธอฟันมันจะมอดไหม้และไฟนั้นของเธอจะไม่มีวันดับจนกว่าเธอจะอยากให้มันดับ เพราะงั้นต่อให้โยนลงทะเลอย่างไงมันก็ไม่ดับหรอก แต่ถ้าเป็นไปได้จะไม่ค่อยสู้เท่าไหร่เพราะเป็นพวกรักสงบ แต่ว่าแค่มีรอยข่วนจากกงเล็บของเธอก็มีสิทธิที่จะไหม้ได้เหมือนกันนะ ถ้าเธอต้องการ

    เพิ่มเติม : ถ้าจะเพิ่มเติมคือลักษณะการแต่งตัว เอาจริงๆ พวกสุนัขเขาจะไม่ชอบใสเสื้อ แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเวลาที่ออกไปพบใครอะไรทำนองนี้จะไม่ชอบใส่อะไรมากมาย เสื้อกล้ามการกาง จบ อะไรทำนองนั้นค่ะ แต่ว่าเวลาอยู่ในห้องคนเดียวหรือเวลานอน กางเกงขาสั่นตัวเดียวจบค่ะ เพราะงั้นเธอค่อนข้างที่จะโชว์เนื้อหนังหน่อยเวลานอน แต่สิ่งสำคัญคือ แพ้อาหารทะเลและชอบ การกิน’ และเวลาเธอเป็นพวกจะแปลงร่างก็แปลงจะเป็นคนก็เป็น เพราะงั้นแล้วแต่อารมณ์ของเฟสก้าทั้งนั้นเลยว่าว่าจะแปลงร่างเป็นหมาป่าหรือเป็นมนุษย์ แค่นั้นล่ะค่ะ

    Phase 3 : Can I hear your voice? (ทรงลูกตัวเองตอบเลยนะคะ ส่งผลต่อคะแนนรองจากนิสัยเลยค่ะ!)

    อรุณสวัสดิ์ท่านหญิงไม่ทราบว่าท่านเป็นใครกันรึ? บอกชื่อเสียงเรียงนามของท่านให้เราฟังหน่อยได้หรือไม่?” : “เฮ้อ.... ก่อนที่จะถามคนอื่นว่าชื่ออะไร น่าจะบอกชื่อของเจ้ามาก่อนนะ... “ดวงเนตรสีแดงราวหยาดโลหิตแก้วจ้องมองไปยังบุคคลที่อยู่ๆก็มาถามชื่อของตนอย่างไร้มารยาทด้วยสายตาเบื่อหน่ายปนความหงุดหงิดเล็กน้อย “แต่ช่างมันเถอะ เราชื่อ เฟสก้า คาราเมลพรีโรโบ้ เรานั้นเป็นหมาป่าคูสิท...”

    อ้อท่านคือหญิงสาวผู้โด่งดังคนนั้นนี่เองเช่นนั้น ได้ข่าวรางๆมาว่าท่านกำลังติดพันอยู่กับเหล่าโจรสลัดงั้นรึ? หึหึหึ พวกเขาทุกคนมีภาพรวมเป็นเช่นใดในสายตาท่านกัน?” : “หือ....โจรสลัด?...”เลิกคิ้วข้างหนึ่งด้วยสายตามึนงงแต่ก็ต้องร้องอ้อแล้วกอดอกพร้อมกับมองอีกฝ่ายอย่างหน่ายจะพูด “คือแบบว่า...อย่าให้เรานั้นต้องพูดเลย ถึงแม้จะแข็งแกร่งแต่ต้องมาพึ่งอิสตรีมันก็ช่างน่าสมเพชเวทนามากแล้ว “ กระดกยิ้มเยาะอย่างเงียบงันแล้วทอดมองไปยั่งอีกฝ่ายด้วยสายตาท้าทาย “แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดว่าจะพ่ายแพ้ต่อพวกกระจอกเช่นเจ้า...”

    แล้วชายผู้นั้นผู้ที่ท่านต้องแก้คำสาปให้เขาน่ะ ท่านมีความเห็นเป็นเช่นไรกัน? ท่านมีสิ่งใดต้องการจะบอกให้เขารู้หรือไม่?” : “อี๊....” ใบหน้างามหยิกขึ้นแล้วทำท่าทางจะอ้วกแบบไม่รู้ตัว “อย่าให้เราต้องพูดถึงเจ้าบ้าต่ำทรามผู้นั้นเลยนะ แต่ก็นะ มันเป็นหน้าที่ของเรา ถึงไม่อยากทำก็เถอะ แต่ แหวะ ทำไมเวลาเจอหน้ากับเราต้องมีการทะเลาะกันตลอดเลย เฮ้อ....ข้าไม่เข้าใจ” ส่ายหน้าไปมาอย่างรู้สึกอับอายกับกิริยาท่าทีของตนที่มีต่อบุคคลที่สามที่กำลังสนทนาถึงอยู่

    งั้นหรือ? แล้วท่านเต็มใจช่วยเขาหรือไม่ละ? หากเต็มใจ ท่านมั่นใจแค่ไหนกันว่าจะช่วยได้…?” :”ข้าไม่ได้เต็มใจที่อยากจะช่วยคนโง่เขลาชอบใช้กำลังเลยแม้แต่น้อย”หัวเราะออกมาเล็กน้อยแล้วมองอีกฝ่ายที่ถามคำถามน่าขันนั้นมาสู่ตน “แต่ว่าเราก็ไม่มีข้อรังเกียจอะไรที่จะไม่ทำมัน และเราก็มีเหตุผลของเราที่ทำ แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องตอบว่าเราจะทำได้หรือไม่กับคนไม่มีมารยาทที่ไม่แม้แต่จะเอ่ยนามของตนด้วยซ้ำ”

    ข้าไม่มีคำถามใดจะถามท่านแล้วละ ขอตัวก่อนนะไว้เราจะได้พบกันอีก…” : ร่างงามลุกขึ้นยืนพร้อมกับสายหางตามองไปยั่งร่างที่กำลังนั่งอยู่นั้นแล้วสถบคำบางคำที่คนฟังต้องเจ็บราวไปถึงชาติหน้า....

     

    “ไม่ๆ...คนอย่างเรา ไม่จำเป็นต้องพบกับคำชั้นต่ำอย่างเจ้าเป็นครั้งที่สองหรอก...”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×