คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter4 : การทดสอบ
สิ่งที่เร็นจิเปิดเจอมีแต่ ฟูกที่นอน กอร์น และ ความว่างเปล่า
"อ้-า-ว ไหงมีแต่ตุ๊กตายัดนุ่นฟะ หรือว่าแกเปลี่ยนรสนิยม หือ อิจิโกะ-_-"
ตอนนี้ผมไม่ได้ใส่ใจกับคำถามของเร็นจิ เพียงแต่กำลังงงกับภาพตรงหน้า
"พลังวิญญาณบางเบาลงมากจนตรวจหาไม่ได้ซะแล้วสิ คงหนีออกจากที่นี่ไปแล้ว ช่างเถอะ เดี๋ยวยมทูตที่เข้าเวรวันนี้คงจัดการเองแหละ อิจิโกะ ช่วยปลุกข้าตอนตีห้าให้ด้วยนะ แล้วก็อาหารเช้าขอดีๆหน่อย ข้าไม่ชอบกินมาม่า ไปนอนละนะ" เร็นจิพ่นออกมายาวเป็นพรืดแบบแทบไม่หายใจ ก่อนจะหันหลังเดินลงบันไดไป
"เฮ้ กอน นายอยู่ในตู้นี่ตลอดเลยใช่มั้ย รู้รึป่าวว่าลูเคียหายไปไหน" ผมหิ้วกอนขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา
"เจ๊ของเค้าน่ะเหรอ หึหึหึหึ"
กอนหัวเราะพร้อมกับยิ้มที่มุมปากนิดๆ
"ตอนชั้นเข้ามาในตู้ก็เจอเจ๊อยู่ก่อนแล้ว หลังจากนั้นก็มีชั้นกับเจ๊อยู่ด้วยกัน2ต่อ2ในตู้มืดๆ เราสองคนก็เลย.....แอ๊ฟฟฟฟฟ"
ผมปล่อยให้กอนตกลงไปอยู่ที่ระดับข้อเท้า ก่อนจะกระหน่ำบาทาใส่ไม่ยั้ง
"แอ๊ฟ...เจ็บนะเฟ้ย อิจิ...แอ๊ฟ แอ๊ฟ โอ้ย"
"เจ็บก็บอกมาสิฟะว่าลูเคียอยู่ไหน ว่าแต่ลูเคียเป็นของแกตั้งแต่เมื่อไหร่-_-^"
"เจ๊เป็นผู้ให้ชีวิตชั้นมาว้อย เพราะฉะนั้นเจ๊เป็นของเค้า"
"ลูเคียเป็นผู้ให้ชีวิตแก แกก็ต้องเป็นของลูเคียสิเฟ้ย ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นใหม่เลย ไป๊ แล้วอีกอย่างลูเคียเป็นของชั้น จำไว้ซะ"
"หนวกหู ของเค้าอ่ะ>_<"
"ของชั้นตะหากว้อย!!"
บึ้ก!!!
หมัดน้อยๆของบุคคลที่สามอัดเข้าเต็มๆหน้าผมและกอน ส่งผลให้เราทั้งคู่กลิ้งลงไปกองอยู่กับพื้น
"ข้าเป็นของพวกเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันฮึ!"
ลูเคียโผล่มาจากไหนไม่รู้ แต่ตอนนี้เธอกำลังมองมาที่กอนด้วยสายตาอันโหดร้าย....
"หึหึหึ เมื่อกี้เจ้าว่าไงนะกอน เมื่อกี้ข้ากับเจ้า2ต่อ2ในตู้มืดๆใช่มั้ย.....หึหึหึ"
ตอนนี้ผมเห็นรังสีฆ่าฟันพวยพุ่งออกมาจากเธอแล้วล่ะครับ
"ตายซะ!!!>O<"
ร่างของกอนล่อยละลิ่วออกจากหน้าต่างห้องผมไปอย่างรวดเร็ว แล้วผมจะตามไปเก็บซากมันมาอีท่าไหนเนี่ย หรือจะมีหมาข้างถนนมางับไปแด๊กส์หว่า
แต่ตอนนี้ช่างมันก่อนเหอะ ห่วงตัวเองก่อนดีกว่า=_=
"เสร็จไปหนึ่ง ทีนี้ตาเจ้าแล้ว อิจิโกะ"
"อะไรอ่ะ เรื่องที่ชั้นบอกว่าเธอเป็นของชั้นน่ะเหรอ=0="
ขอร้องล่ะ อย่าฆ่ากระผมเลย ผมผิดไปแล้ววว
"ไม่ใช่ย่ะ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ข้าอยากรู้ว่าเจ้าทำอีท่าไหนเร็นจิถึงขึ้นมาที่ห้องได้ห๊า-_-?"
อ่ะ โล่งไป นึกว่าจะโดนเช็คบิลซะแล้ว
"ก็เธออำพรางพลังกดดันวิญญาณอีท่าไหนเล่า เร็นจิมันถึงรู้ตัวน่ะ"
"เร็นจิรู้ตัว เจ้าก็หาข้ออ้าง หรือไม่ก็ขวางมันไว้สิ!!"
"เร็นจิแรงเยอะจะตาย"
"แก้ตัวน้ำขุ่นๆ!!"
"......."
เอาเข้าไป พูดความจริงก็หาว่าแก้ตัว จะอธิบายให้ฟังยังไงดีล่ะเนี่ย=_=
".....เอาเถอะ....ตอนนี้ช่างมันก่อน ดึกแล้ว ข้านอนล่ะ"
จู่ๆเธอก็เปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆ แล้วหมุนตัวเข้าตู้เก็บของ
"เฮ้ย นี่เธอจะค้างบ้านชั้นเรอะO_O"
"ใช่สิ-_- อยู่บ้านเจ้าจนกว่าพวกท่านพี่จะกลับนั่นแหละ ข้าจะได้ติดกระเป๋ากลับไปด้วย"
"ขนาดเร็นจิยังจับพลังกดดันวิญญาณได้ แล้วพี่เธอจะไม่รู้เรื่องรึไง"
"ไม่เป็นไรหรอกน่า ท่านพี่มาข้าก็หนี ก็แค่นี้เอง"
โธ่เอ๊ย=_= เบียคุยะคงปล่อยเธอหนีง่ายๆหรอก เอ๊ะ แต่ลูเคียหนีออกจากบ้านมันยังไม่รู้ตัวเลยนี่หว่า
"ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย งั้น ราตรีสวัสดิ์"
ลูเคียจบการสนทนาแล้วเลื่อนประตูตู้ปิดอย่างช้าๆ พร้อมๆกับเสียงนาฬิกาที่ตีครบ12ครั้งดังกังวานไปทั่วเมืองคาราคุระ
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง
ผมเอื้อมมือไปตะปบนาฬิกาปลุกเจ้ากรรม ก่อนจะโงหัวขึ้นดูเวลา
"เพิ่ง7โมงเอง วันหยุดแท้ๆ จะตั้งปลุกหาแสงอะไรฟะ เซ่อจริงเรา"
ผมบ่นกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะลุกจากที่นอนอย่างงัวเงีย พลางนึกในใจว่ายูซึคงไม่กล้าลงไปทำข้าวเช้าแน่ๆเลย
"เฮ้ ลูเคียตื่นยัง"
"................................."
"ลูเคีย 7โมงแล้วนะ"
"................................"
ไรฟะ ปกติยัยนี่จะตื่นก่อนผมทุกครั้งเลยนะ
"เฮ้ เป็นอะไรรึปล่าว"
"..............................."
"ลูเคีย ลูเคีย ลูเคีย ลูเคีย ลูเคีย"
"............วันหยุดจะรีบปลุกข้าทำไมเ่ล่า ไม่มีฮอลโลว์ซะหน่อย=_="
ในที่สุดเธอก็แง้มประตูตู้แล้วโผล่หน้าออกมาบ่น
"ก็เรียกตั้งนานไม่เห็นตอบ เลยนึกว่าเป็นอะไรไปน่ะสิ แต่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว"
"ไม่เป็นไรบ้านเจ้าน่ะสิ ข้าปวดหัวจะแย่ ตัวร้อนๆด้วย=_="
"หืมO_- จริงด้วย เป็นไข้ล่ะสิเนี่ย"
ผมยื่นมือไปแตะหน้าผาก ร้อนจริงๆแฮะ
"ข้าชอบหน้าร้อนจะตาย จะเป็นไข้ได้ไงO_o"
"ชอบหน้าร้อนไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นไข้ซะหน่อย-_- หน้าร้อนแรกที่มาอยู่บ้านชั้นเธอก็เป็นไข้ ปีที่แล้วหลังงานดอกไม้ไฟ กลับมาเธอก็เป็นไข้อีกไม่ใช่เรอะ"
สรุปว่ายัยนี่เป็นไข้ตอนหน้าร้อนของทุกปี
"เซ็งชะมัด นี่ต้องหนีท่านพี่ยังไม่พอ ยังมาเป็นไข้อีก-3- จะทำยังไงให้หายเร็วๆล่ะเนี่ย"
"กินยาลดไข้ นอนหลับพักผ่อน กินอาหารที่มีประโยชน์"
ผมท่องประโยคในหนังสือสุขศึกษาให้ฟัง
"ข้าเกลียดยา>_<"
"ไม่กินแล้วจะหายได้ยังไงฟะ"
"ข้าไม่กินซะอย่าง แล้วเจ้าจะมาห่วงทำไม...."
จู่ๆลูเคียก็หยุดพูดแล้วทำหน้าเหมือนฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา
"ข้าคิดอะไรสนุกๆได้แล้วล่ะ>_< ข้าจะไปปล่อยข่าวให้ท่านพี่รู้ว่าข้าหนีออกจากบ้าน แถมยังเป็นไข้ด้วย ท่านพี่จะได้ห่วงข้าเล่นๆ น่าสนุกดีออก"
คิดอะไรแผลงๆอีกละ ยัยนี่=_=
"ว่าแต่จะปล่อยข่าวยังไงดีล่ะเนี่ย"
"นั่นสิ คิดไม่ออกเลย เลิกล้มความคิดนี้เหอะ"
ผมพยายามที่จะทำให้ลูเคียเลิกคิดไอ้แผนการบ้าๆบอๆนี่ซะ เพราะไอ้การที่จะปล่อยข่าวเพื่อทำให้เบียคุยะมาเป็นห่วงเล่นๆ เป็นความคิดที่งี่เง่่าแท้ๆ
"................................................."
ลูเคียยังคงนั่งขมวดคิ้วใช้ความคิดอยู่โดยไม่สนใจผมเลย
"งั้นชั้นลงไปหาข้าวกินก่อนละกัน อย่าส่งเสียงดังล่ะ"
"................................................."
เงียบ----กำลังใช้ความคิด
"มื้อเช้าจะกินอะไรล่ะ เดี๋ยวชั้นยกขึ้นมาให้"
"................................................"
เงียบ----กำลังใช้ความคิด
"เออ-_-^จะนั่งคิดก็นั่งไป ชิชะ คนเราก็น้อยใจเป็นเหมือนกันนะเฟ้ย-_-"
ผมบ่นอุบอิบๆแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปช้าๆ และหวังว่าเธอจะได้ยินประโยคสุดท้าย-----
ทันทีที่ผมเหยียบย่างเข้าสู่ห้องครัว ก็มีสายตาสองคู่ก็จ้องมาที่ผม สายตาคู่หนึ่งแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงขีดสุด ส่วนสายตาอีกคู่ ไร้ซึ่งความโกรธใดๆ แต่แฝงไปด้วยความเย็นเยียบชนิดทำให้ขนลุกซู่ได้เลยทีเดียว
แล้วโดนจ้องพร้อมๆกันอย่างนี้ ผมจะหนาวหรือร้อนดีล่ะ?
“ทำไมเจ้าไม่ปลุกข้าล่ะเฟ้ย ข้าเลยโดนหัวหน้าว่าเลยรู้มั้ย ข้าให้เจ้าปลุกกี่โมงหือ ตีห้า้ใช่มั้ย แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามฟะ ข้าให้เจ้าปลุกข้า แล้วข้าจะได้ปลุกหัวหน้าทัน แล้วนี่เป็นยังไงล่ะ ข้าตื่นหลังหัวหน้าอีก โดนทำโทษห้ามกินข้าวเช้าฐานปฏิบัติหน้าที่รองหัวหน้าบกพร่องเลยนะเฟ้ย นี่ถ้าลูเคียมาได้ยินหัวเราะข้าตายเลย”
เร็นจิกระชากคอเสื้อผมพร้อมกับกระหน่ำเอ็ม16ใส่ แล้วจ้ิองหน้าผมราวกับต้องการคำขอโทษหรืออะไรซักอย่าง แต่ไม่รู้เพราะอะไร ผมรู้สึกว่าอยากกวนตีนเร็นจิเล่นๆขึ้นมา
“หืม ว่าไงนะ”
“อุวะ ข้าถามว่าทำไมไม่ปลุกข้าล่ะเฟ้ย!!?”
“อะไรนะ ไม่ได้ยิน”
“ทำไมไม่ปลุกข้า!!?”
“ทำไม...อะไรนะ”
“ไอ้.....ไอ้....ไอ้...โว้ยยยย” ท่าทางมันจะคิดคำด่าไม่ออกแฮะ สะใจจริงจริ๊งงงงง 555+
ก่อนที่หมัดของไอ้หนุ่มหัวแดงจะสอยเข้าท้องผม พริบตานั้นร่างของเร็นจิตรงหน้าก็หายไป แล้วไปโผล่อยู่ฝั่งตรงข้ามของห้องแทน โดยมีมือของเบียคุยะจับคอเสื้ออยู่
“หัวหน้าคุจิกิ
!?”
“อย่าชกเขา เร็นจิ”
น้ำเสียงที่เย็บเยียบราวกับประกาศิตดังขึ้น ยับยั้งความโกรธในใจของลูกน้องตนได้อย่างรวดเร็ว
“เรามาอาศัยเขาอยู่ เพราะฉะนั้นห้ามไปหาเรื่อง เข้าใจใช่หรือไม่”
ผมมองทั้งคู่อย่างทึ่งนิดๆ ถึงผมจะเคยปะทะกับเบียคุยะตัวต่อตัวมาแล้ว แต่ก็ยังอดทึ่งกับก้าวพริบตาอันสมบูรณ์แบบนั้นไม่ได้
ทันใดนั้นผมก็รู้สึกได้ถึงพลังกดดันของอะไรบางอย่าง ที่ตอนนี้กำลงัเคลื่อนตัวผ่านเข้ามาในห้องนี้.......
ปีกสีนิลกระพือเบาๆพร้อมกับบินวนเวียนอยู่เหนือหัวของเราสามคน
ผีเสื้อนรก
“ขอแจ้งแก่หัวหน้าหน่วย6 ท่านคุจิกิเบียคุยะ และรองหัวหน้าหน่วย ท่านอาบาราอิ เร็นจิ นักสู้ลำดับที่15สังกัดหน่วย13 คุจิกิ ลูเคีย ได้หายตัวไปจากเขตเซย์เรย์เทย์ และโซลโซไซตี้ ขณะนี้กำลังค้นหาตัวอยู่ หากพบเห็นกรุณาแจ้งมายังหน่วย13ด้วย”
ข่าวคราวที่ได้ยินนั้น ไม่เพียงแต่สะกดความคิดของพวกผมให้หยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น แต่ยังสะกดบรรยากาศในห้องให้เงียบงันอย่างน่าประหลาดอีกด้วย
“อะไร...นะ...?”
เร็นจิเอ่ยออกมาเ็ป็นคนแรก สีหน้าบ่งบอกถึงความกังวลและตกใจอย่างเห็นได้ชัด
“หรือยัยนั่นจะคิดถึงวันนั้นขึ้นมาอีก....”
คำพูดที่พึมพำเบาๆออกมาจากปาก ทำให้ผมเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัย
“วันนั้น...?วันไหนเหรอ”
“............เอ้อ..........ไม่มีอะไรหรอก...อย่าสนใจเลย”
ถึงปากจะบอกว่าไม่ีมีอะไร แต่ดูเหมือนความกังวลของคนตรงหน้าจะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และนั่นทำให้ผมยิ่งสงสัยเพิ่มตามไปด้วย
“อย่าทำเป็นกลบเกลื่อนดีกว่าเร็นจิ ก่อนหน้านี่นายก็ทำตัวเหมือนมีความลับอะไรซักอย่าง”
“เล่าให้ชั้นฟังเถอะน่า”
----------------------------------------------------------------------------
Yokun :
อัพเต็ม100%แล้วนะคะ ไปแล้วเน้ออออ....
ความคิดเห็น