คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter2 : แขกที่ไม่ได้รับเชิญคนที่สาม
ผมมองไอ้สองตัวที่หน้าประตูอย่างไม่เชื่อสายตา เร็นจิกับเบียคุยะจริงๆด้วย เร็นจิอยู่ในชุดเสื้อยืดสีครามกับกางเกงขายาวโคร่งๆลายทหาร ส่วยเบียคุยะ เชิ๊ตขาว-เสื้อนอกดำ-กางเกงดำ(จะไปงานศพใครฟะ)
ไม่อยากพูดเลยว่ามันเท่โคตร- - (แม่ยกเร็นจิ/เบียคุยะ- กรี๊ดดดดดด>o<)
“.....T_T” ยูซึยังคงกอดแขนผมแน่น ปกติสาวกรี๊ดไม่ใช่เรอะ ไหงเจอเด็กแล้วเด็กกลัวฟะ
“งายยย ไม่ได้เจอกันนานนะ อิจิโกะ” เร็นจิยักคิ้วให้ผมแล้วเดินเข้าบ้านมาหน้าตาเฉย
“เข้ามาด้วยสิครับ หัวหน้า”
“นายสองคนมาทำอะไรที่นี่ฟะO_-”
“พวกข้ามีเหตุผลของข้าน่า” เร็นจิตอบผมอย่างไม่ใส่ใจ แล้วก้มหน้าไปใกล้ๆยูซึ
“ว่าไง สาวน้อย^^ น้องสาวอิจิโกะใช่มั้ยเอ่ย น่ารักไม่เหมือนพี่เลยเนอะ^^”
“ฮึก...ฮึก...งะ...แง้~~~~~~~TToTT”
เร็นจิพยายามเล่นกับยูซึ แต่ท่าทางน้องผมจะไม่เล่นด้วย เพราะตอนนี้ยูซึวิ่งมาหลบหลังผม ร้องไห้ใหญ่เลย
“ไปยืนไกลๆเลยไป๊ เร็นจิ ท่าทางยูซึจะกลัวรอยสักแกอ่ะ” ผมพูดพลางลูบหัวยูซึ
“อิจิโกะ เจ้าอยากตายโดยดาบไม้หรือวิถีมารดี-_-”
“ไม่เอาทั้งสองอย่างอ้ะ=_=”
“ไม่ต้องห่วง เจ้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อโซลโซไซตี้เรื่องไอเซ็น ข้าจะเตรียมหลุมศพอย่างดี เอาระดับวีไอพีเลยล่ะ ให้ทำความสะอาดทุกวัน เปลี่ยนดอกไม้ทุกวัน มีคนเฝ้า5คนขึ้นไป แถมจะฝังฮีตเตอร์เผื่อตอนหน้าหนาวให้ด้วยนะ^o^”
“รบกวนท่านรองฯแบบนี้เกรงใจจังเลย ขออนุญาตท่านหัวหน้าหน่วยแล้วเหรอขอรับ-_-”
“หึหึหึหึ หัวหน้าคงไม่ว่าอะไรหรอก หึหึหึ”
หัวเราะน่ากลัวอะไรเยี่ยงนี้=_=’’
ผมนึกในใจแล้วเหลือบไปมองเบียคุยะ หมอนี่ตั้งแต่เจอกันยังไม่พูดอะไรซักคำ แถมยังหันหน้าเชิดอีกด้วย เย็นชาเป็นบ้าเลย สงสารลูเคียแฮะ=_= ถึงเบียคุยะจะเล่าถึงเหตุผลที่ไม่คัดค้านการประหารลูเคียก็แล้วตาม แต่ก็รับไม่ได้จริงๆ พี่ชายแบบนี้
แล้วจู่ๆดวงตาสีนิลก็ตวัดมามองผมโดยที่ใบหน้าไม่หันตาม
“มองอะไร คุโรซากิ อิจิโกะ”
“ป่าวครับท่าน=o=”
โอ้วววว รังสีฆ่าฟันแผ่กระจาย แค่มองหน้าทำไมต้องใช้เสียงน่ากลัวขนาดนั้นอ่ะเฮีย ทั้งผมทั้งน้องกลัวกันแทบตายแล้ววววT-T
“เอ้า ยูซึ หนีพี่ชายน่ากลัวไปอยู่ที่ห้องดีกว่านะ เดี๋ยวถึงเวลาอาหารแล้วพี่จะยกขึ้นไปให้” ผมกระซิบไล่ยูซึให้ขึ้นไปที่ห้องตัวเอง ก่อนที่จะโดนเบียคุยะกินตับ (me/ถูกแฟนคลับเบียตบกระจุย)
“ยืนคุยมันเมื่อยนะ ไปคุยกันที่ห้องรับแขกดีกว่า”
----------------------------------------------------------------------------
-ที่ห้องรับแขก-
“ชั้นไม่ถามแล้วล่ะว่าพวกนายมาโลกมนุษย์ทำไม แต่จะถามว่าพวกนายมาที่บ้านชั้นทำไม-_-”
“มาปฏิบัติภารกิจคราวนี้ต้องมาอยู่ราว 1 อาทิตย์ เลยกะว่าจะมาพักที่บ้านเจ้า” เร็นจิตอบ
“เออๆ ถ้าสองคนยังพอจะรับได้ ดีนะลูเคียไม่มาด้วยเป็นสามคน บ้านชั้นห้องไม่พอชัวร์.....”พูดยังไม่ทันจบประโยค ความคิดนึงก็แวบขึ้นมาในหัว
“เฮ้ย เร็นจิ แล้วนี่ลูเคียไม่มาด้วยรึไงO_o”
“ทำไมยัยนั่นต้องมาด้วยล่ะ”
จะให้ตอบว่า อยากเจอ ก็อายตายสิฟะ-//-
“ก็พี่ชายมาน้องสาวก็น่าจะมาด้้วยนี่นา”ผมตอบไปงั้นๆ แต่จริงๆแล้ว ก็แอบผิดหวังนิดๆ
“เมื่อ3วันก่อน ลูเคียขออนุญาตหัวหน้าลางานไปทำธุระส่วนตัว แต่หัวหน้าไม่ให้ ยัยนั่นเลยโดดงานไปเฉยเลย”
“โดดงานO_-”ผมทวนซ้ำอีกครั้ง
“เออ แล้วหัวหน้าจับได้เลยลงโทษกักบริเวณ 1 อาทิตย์ก็เลยมาไม่ได้น่ะ”
“แล้วจะลางานไปไหนอ่ะ”
“ก็........”
เร็นจิไม่ตอบผม เพียงแต่เหลือบตาไปมองเบียคุยะเป็นเชิงขอความเห็น แต่คำตอบที่ได้จากชายผู้นั้นคือการเบือนหน้าไปอีกทางหนึ่งเท่านั้น
“เอาเถอะๆ มาว่าเรื่องที่พวกข้าจะมาพักดีกว่า แล้วพวกข้าจะไปนอนห้องไหนล่ะ”
จู่ๆเร็นจิมันก็เปลี่ยนเรื่องพูดซะอย่างนั้น แต่ผมก็ขี้เกียจจะไปซักอะไรมันอีก เลยปล่อยไปอย่างงั้นก่อนละกัน
“นายนอนห้องดูทีวีละกัน ส่วนเบียคุยะนอนห้องรับแขกก็ได้”
“ข้าว่านอนห้องเดียวกันเลยดีกว่า จะได้คุ้มกันหัวหน้าเผื่อมีเรื่อง” (อ้ะ ไอสีม่วงแผ่ปกคลุม)
“ไม่เป็นไร ห้องมันว่างอ่ะ จะไปนอนเบียดกันทำไม”
คือ....จริงๆแล้ว ข้าขี้เกียจรับผิดชอบถ้ามันเกิดคดี......อะไรขึ้นอ่ะ=_=
“โอเช เอาอย่างที่เจ้าว่าก็ได้ เอากระเป๋าของหัวหน้าไปวางไว้ที่ห้องหน่อยสิ”
“ชั้นไม่ใช่พนักงานยกกระเป๋านะเฟ้ย เอาไปวางเองไป๊.....”
ผมหยุดพูดทันทีและยกกระเป่าไปอย่างว่าง่าย เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เมื่อกี้ดวงตาเรียวๆของท่านหัวหน้าหน่วยหันมาจ้องผม(อย่างน่ากลัว)อีกแล้ว
-แล้วก็ถึงเวลาอาหารเย็น-
“อะไรฟะ อิจิโกะ พวกข้ามาทั้งทีเจ้าให้มาม่าคนละกระป๋องเป็นข้าวเย็นเรอะ-_-^” เร็นจิถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ก็นายทำยูซึกลัวจนไม่กล้าลงมาทำกับข้าวให้น่ะสิ”
“-0-”
“ว่าแต่ทำไมกระเป๋าเบียคุยะหนักจังฟะ ตอนชั้นยกไปงี้แขนแทบหลุด”
“ข้าก็ว่างั้นอ่ะ หัวหน้าครับ เอาอะไรใส่กระเป๋ามาเหรอครับ”
“มีแต่เสื้อผ้า”
เบียคุยะตอบเรียบๆ
“มันแปลกตรงที่ว่า ตอนข้าวางกระเป๋าหัวหน้าไว้ที่เซ็นไกมงยังเบาๆยกมือเดียวลอยอยู่เลย แล้วข้าก็เดินไปเรียกหัวหน้า พอยกกระเป๋าอีกรอบกลับหนักแทบตาย”
“นายฝีมือตกล่ะมั้ง-0-”
“เจ้าก็ว่าหนักใช่มั้ยล่ะ”
“เออ” ผมพยักหน้ารับช้าๆ
แต๊ง แต๊ง แต๊ง แต๊ง แต๊ง แต๊ง แต๊ง
1 ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย ยูซึคงหิวแย่เลย
“เดี๋ยวชั้นเอามาม่าไปให้น้องก่อน นายอยู่ที่นี่เลย-0- เร็นจิ เดี๋ยวน้องชั้นเป็นลมตายกันพอดี”
“เออ ไหนๆก็จะไปแล้ว ฝากหยิบซองเอกสารสีขาวในกระเป๋าหัวหน้าให้หน่อยดิ”
“ไม่มีทา...” ผมนึกถึงสายตาอันเย็นชาประดุจน้ำแข็งแล้วก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที
“เอ้ย...ไม่มีปัญหาเลยครับ...แหะๆ”
“ขาก็มีเดินเองไม่เป็นเหรอฟะ เป็นหัวหน้าหน่วยแล้วทำจุ้ยนะเอ็ง ชิชะ”
ผมบ่นเบาๆกับตัวเองขณะที่เดินออกจากห้องครัว (me/โดนแฟนคลับเบียรุมตื้บรอบสอง)
หลังจากยกมาม่าไปให้ยูซึแล้ว ผมก็ใช้เวลาอยู่นานสองนานในการเปิดกระเป๋าเบียคุยะ ขั้นแรกต้องปลดแม่กุญแจ3อัน ตามด้วยรูดซิปอีก2ชั้น เสื้อผ้ามันติดเพชรรึไงฟะถึงต้องเก็บซะแน่นหนาขนาดนี้=_= กว่าจะเปิดได้แทบจะกระอักเลือด
“กระเป๋าตุงจริงวุ้ย เสื้อมันพองขนาดนี้เลยเรอะเนี่ย.....”
ผมบ่นอุบอิบขณะที่รูดซิปเปิดกระเป๋าชั้นสุดท้ายออก แล้วผมก็เจอกับเสื้อผ้าที่ยัดไว้แน่นเอียดเต็มกระเป๋า มีทั้งเสื้อเชิ้ต กางเกง เสื้อโค้ต ผ้าพันคอ ถุงเท้าฯลฯ ทุกชิ้นล้วนเป็นสีขาวดำ มันจะปลงอะไรนักหนากับชีวิตฟะ ใส่แต่ขาวดำขาวดำขาวดำ=o= คิดในใจว่าคงต้องรื้อออกมาหมดกว่าจะเจอซองเอกสารที่ว่า
แต่ผมก็ต้องสะดุ้งเ์ฮือกใหญ่ เพราะสายตาดันไปสะดุดกับมือเล็กๆข้างหนึ่งที่โผล่พ้นกองเสื้อออกมาพร้อมกับมีเสียงอู้อี้ที่ดังกว่าเสียงลูกแมวนิดเดียวดังออกมา ไม่รู้ว่าเพราะสัญชาติญาณที่อยากช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตด้วยกัน หรือเพราะนึกว่าเบียคุยะเป็นฆาตกรฆ่าหมกศพO_O ผมเลยรีบดึงมือเล็กๆนั่นสุดแรง ส่งผลให้ร่างเล็กๆที่ถูกยัดไว้ในกระเป๋าหลุดออกมากองอยู่ตรงหน้าผม
ผมนั่งอึ้งไปประมาณ5วินาทีกับร่างเล็กๆที่คุ้นเคยตรงหน้า ไม่ว่าจะขยี้ตาอีกกี่ครั้ง หยิกแก้มตัวเองอีกกี่ที ทุบหัวตัวเองอีกกี่รอบ ผมสีดำขลับทรงหัวหอมกับชุดแต่งกายโบราณก็ยังกองอยู่หน้าผมจริงๆ ดวงตากลมสีไพลินกระพริบถี่ๆแล้วจ้องมาที่ผมอย่างไม่เชื่อสายตาเหมือนกัน
“อิจิโกะO_O”
“ลูเคียO_O”
ความคิดเห็น