ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~+Fic+Reborn! Romeo and Juliet[10027]~

    ลำดับตอนที่ #4 : #4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 894
      7
      11 ธ.ค. 53


          “นี่ สึนะโยชิคุง คืนดีกันเถอะนะครับ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆพลางพยายามกระแซะร่างบางที่ตอนนี้กำลังสวมเสื้อของตัวเองนิ่งๆ

     

    “…” ร่างบางไม่พูดอะไรตอบ เอาแต่จัดการเสื้อผ้าของตัวเอง ยัดสัมภาระลงถุงกระดาษแล้วทำท่าจะเดินออก

     

    เดี๋ยว!!! เดี๋ยวก่อนสิสึนะโยชิคุง ผมขอโทษน้า ยกโทษให้ผมเถอะ

     

    สึนะเดินหนีจากร่างสูงไปอีกทาง ยิ่งชวนให้เบียคุรันใจแป้วเข้าไปอีก ครั้นจะเข้าไปกระชากร่างเล็กให้หันกลับมาฟังคำอธิบายก็คงยิ่งรังแต่จะทำให้อารมณ์ของใบหน้าหวานคุกรุ่นเข้าไปอีก แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ

     

    อ๊า… เดี๋ยวก่อนสิ สึนะโยชิคุง” ร่างสูงซอยฝีเท้าตามร่างบางออกไปข้างนอก โดยไม่ลืมที่จะคว้ากุญแจและข้าวของอีกไม่กี่อย่างของตัวเองออกมาด้วย ก่อนจะรีบกระโดดขึ้นรถจักรยานที่ยังไม่แห้งสนิทจากน้ำฝนเมื่อวาน

     

    สึนะโยชิคุงแบบนี้ไม่ดีเลยน้า คืนดีกันเถอะนะคร้าบ

     

    “…”

     

    ตึก ตึก ตึก

     

    เสียงฝีเท้าของร่างเล็กกระทบกับพื้นทรายยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เบียคุรันปั่นจักรยานต่อเรื่อยๆ ยังคงพยายามขอคืนดีกับร่างเล็กที่ยังคงรักษาสีหน้านิ่งๆไว้ได้เป็นอย่างดี

     

    สึนะโยชิคุงอย่าลงโทษผมแบบนี้เลยนะ หันมาคุยกันดีๆเถอะนะครับ

     

    “…”

     

    โหยย ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนั้นเลยนี่นา~~”

     

    “…” ไม่ให้โกรธขนาดนั้นงั้นเหรอ แล้วจะให้โกรธขนาดไหนเล่า

     

    ร่างบางลอบคิด ถึงจะไม่มั่นใจว่าความรู้สึกของตัวเองตอนนี้มันใช่ความรู้สึกโกรธจริงๆรึเปล่าก็เถอะ แต่จะให้เขาทำหน้ายังไง จะให้พูดทักทาย จะให้มองหน้ากันติดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง ก็เมื่อคืนน่ะ

     

    คิดได้เพียงเท่านั้น ใบหน้าหวานก็แดงระเรื่อขึ้นอีกรอบ ทั้งอาย ทั้งโกรธ ทั้งพอใจและไม่พอใจปนกันไปหมด แต่ขืนเข้าพูดความจริงออกไปก็มีแต่จะทำ ให้ร่างสูงยิ่งได้ใจแล้วหาเรื่องแกล้งเขาเท่านั้นแหละ

     

    สึนะโยชิคูงง~”

     

    “…”

     

    โธ่เอ๊ย… ไม่เห็นต้องอารมณ์เสียขนาดนั้นเลย

     

    “…”

     

    ยังไงซะสึนะคุง ก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ

     

    ฉ่าาา

     

    อ๊ะ หน้าแดงแล้ว” ร่างสูงพูดแซวพลางเหยียดยิ้มหวานอย่างอารมณ์ดี “อะไรกัน ที่แท้ก็อายนี่เอง หึๆๆ สึนะโยชิคุงนี่น่ารักจริงๆ

     

    บะ… บ้ารึไง ทำผิดแล้วยังไม่ยอมรับผิดอีกงั้นเหรอ!” ร่างบางแหวใส่คนที่ปั่นจักรยานอยู่ข้างๆที่เลื่อนมือมาจิ้มแก้มเขา

     

    โอ๋ๆๆๆ อย่าโกรธผมเลยนะ ดีกันเถอะนะครับ โกรธกันนานๆไม่ดีน้า

     

    สึนะเร่งฝีเท้าของตัวเองขึ้นอย่างหงุดหงิดแกมอายๆ แต่ถึงอย่างนั้นเดินเท้ามีหรือจะไปสู้ความเร็วของคนปั่นจักรยานได้ เบียคุรันลอยหน้าลอยตาปั่นจักรยานมาคู่คนข้างๆ

     

    ผมก็สำนึกผิดแล้วน้า จะไม่ยกโทษให้จริงๆเหรอ

     

    “…”

     

    ชิ… เดี๋ยวก็ลากพงหญ้าตรงนี้ซะเลย” ร่างสูงงึมงำ ยิ่งเร่งอารมณ์หงุดหงิดของร่างเล็กให้พุ่งสูงมากยิ่งขึ้น

     

    เบียคุรัน!!!” เสียงใสตะโกนลั่น “นายไม่ได้สำนึกผิดเลยซักนิด!”

     

    เอ้ยยย ผมไม่ได้หมายความยังง้านนน

     

    บ้า… บ้าๆๆๆๆ” เสียงหวานตัดพ้อ พลางสาวเท้าให้เร็วขึ้น

     

    สึนะโยชิคุง คืนดีกันเถอะนะ เดินไปตลอดทางแบบนั้นเดี๋ยวขาสวยๆก็บวมหมดหรอก

     

    ขาฉันบวมก็ดูดีกว่าหน้านายแล้วกัน!”

     

    ร่างสูงชักสีหน้าแหยๆ ยังคงไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะขอคืนดีกับร่างเล็ก แม้ว่าคำพูดเมื่อครู่จะฟังดูไม่เข้าหูเขาซะเลยก็ตาม

     

    เดี๋ยวสิครับ ผมว่าเราโกรธกันแบบนี้ไม่เวิร์คหรอก คุณจะให้ผมชดใช้ยังไงบอกมาดีกว่า

     

    มันเป็นเรื่องของความรู้สึกต่างหากเล่า” ร่างบางหันไปตอบร่างสูงที่ยังคงขี่จักรยานขนาบเขามาเรื่อยๆ ไม่สนใจสายตาคนรอบข้างที่มองมาทางพวกเขาด้วยสายตาแปลกๆเล็กน้อยเพราะระดับเสียงในการสนทนาที่ดังเกินกว่าปกติ “มาถามว่าจะให้ชดใช้ยังไง… เนี่ยนะ

     

    โอเค งั้นผมขอย้อนความ… ไม่สิ ทำความเข้าใจกับคุณนิดหนึ่งนะ” เบียคุรันพูดด้วยท่าทีสบายๆ มือทั้งสองข้างกอดอก ขายังคงปั่นจักรยานต่อไปเรื่อยๆ

     

    “…” ร่างเล็กไม่ตอบอะไร แต่ชะลอฝีเท้าลงน้อยๆเป็นเชิงรอฟัง

     

    ถ้าลองคิดอัตราเฉลี่ยต่อเดือนที่เราได้เจอกันก็จะประมาณเดือนละสี่ครั้ง อาทิตย์ละครั้ง แล้วก็จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ขึ้นอยู่กับเวลาว่างของผมกับอัตราความปลอดภัยที่ผมจะไม่โดนเจื๋อนถ้าโผล่ไปหาคุณในจังหวะที่มีคนในแฟมิลี่คุณอยู่ในห้องของคุณ… อย่างแรกน่ะ ผมพอจะเจียดเวลาหามาให้ได้…”

     

    นี่นายจะบอกว่าการที่จะมาหาฉันเนี่ย นายเจียดเวลามางั้นเหรอ” สึนะแหวขึ้น พลางสาวเท้าให้เร็วขึ้นอีกครั้ง

     

    เอ้ย ไม่ๆๆๆ ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น…” เบียคุรันรีบค้าน

     

    ผมก็ไม่ได้ขอร้องซะหน่อย!!!”

     

    อย่าทำท่าแบบนั้นสิครับ สึนะโยชิคุง ผมใจหายนะ  ผมขอโทษแล้วไง จะให้ผมทำยังไง บอกผมสิ

     

    “…” ร่างเล็กก้มหน้า ร่างสูงยังคงต้องปั่นจักรยานตามเรื่อยๆ พยายามยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆร่างบางเพื่อฟังคำตอบ และถ้านัยน์ตาสีฟ้าของร่างสูงมองไม่ผิด แก้มนวลๆของใบหน้าหวานค่อยๆแดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ

     

    ขอ……สิ” เสียงหวานๆพึมพำเบาๆราวกับพูดกับตัวเอง เบียคุรันไหวตัวน้อยๆ พลางยื่นหน้าของตัวเองเข้าไปให้ใกล้หน้าของร่างเล็กยิ่งขึ้น

     

    อะไรนะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยทวนคำถาม ร่างเล็กหยุดฝีเท้าลงแล้ว แต่ยังคงไม่เงยหน้าขึ้นมามอง เบียคุรันมองสีหน้าที่แดงขึ้นเรื่อยๆของร่างเล็กอย่างสนใจ รู้สึกหัวใจเต้นตึกตักขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้พิจมองใบหน้าหวานๆนั่นดีๆ

     

    ขอผม… แต่งงานสิ

     

    “…”

     

    ร่างสูงเบิกตากว้างอย่างอึ้งๆ ทั้งๆที่น้ำเสียงที่เอ่ยตอบมานั้นจะแผ่วเบา แต่กลับดังก้องสะท้อนอยู่ทั้งหัวใจของร่างสูง นัยน์ตาสีน้ำตาลค่อยๆช้อนขึ้นมาสบกับตาของเบียคุรันอย่างอ้อยอิ่ง ยิ่งมองสีหน้าน่ารักของร่างเล็กก็ยิ่งทำให้ใจเต้น อยากจะกอด… อยากจะบอกรัก… แล้วก็อยากอะไรอีกหลายๆอย่าง ยิ่งได้คิดตามคำพูดน่ารักๆเมื่อครู่แล้ว… ความปรารถนาก็ยิ่งพุ่งขึ้นมาในหัวใจ

     

    อะไรนะครับ” เอ่ยถามย้ำอย่างไม่แน่ใจ แต่มันยิ่งกลับทำให้ร่างเล็กหน้าแดงยิ่งขึ้น

     

    มะ… ไม่พูดแล้ว!!!”

     

    เอ้ยๆๆๆๆ อย่าเพิ่งหนีสิครับ พูดจาน่ากินแบบนี้แล้วจะจากไปงั้นเหรอ ผมไม่ยอมหรอกนะ

     

    มะ… ไม่ต้องมาต่อรองเลยนะ คนที่ผิดก่อนคือนายนะ!”

     

    อะ… สึนะโยชิคุง!” แต่คราวนี้ร่างสูงไม่ได้ตามร่างเล็กไปทันที เพราะคำพูดเมื่อครู่ เบียคุรันอมยิ้ม มองตามแผ่นหลังไวๆของร่างบาง

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

      

      

      

     

    แฮ่ก… แฮ่ก… บ้าชะมัด เบียคุรัน… อึ้ก” สึนะเลื่อนมือมากุมหน้าที่แดงก่ำของตัวเอง พลางปรายสายตามองด้านหลังน้อยๆอย่างหวังจะให้ร่างสูงตามมา

     

    แต่ก็ไม่มา

     

    โอ้ยให้ตายเหอะ คนบ้า!” พูดอย่างน้อยใจ พลางทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเก้าอี้สาธารณะตัวหนึ่งแรงๆ “จะตามมาพูดอะไรหน่อยก็ได้นี่นา หรือว่าจะ… ให้ตายเถอะ… ไม่น่าพูดเลยเรา บ้าจริงๆ

     

    นัยน์ตาสีน้ำตาลก้มมองลงพื้นนิ่ง สมองครุ่นคิดอะไรหลายๆอย่าง จริงๆแล้วการที่เขากับเบียคุรันคบกันมันอาจจะเป็นอะไรที่ผิวเผินก็ได้ ได้พบกันเดือนละสี่ครั้งงั้นเหรอ? เรื่องจริงมันมากขนาดนั้นรึเปล่ายังไม่รู้เลย

     

    เฮ้อ… ทำแบบนี้ตลอดไปมันคงไม่ไหวจริงๆสินะ

     

    สึนะเอาเท้าเขี่ยๆดินอย่างเบื่อๆ นานขนาดนี้แล้ว… คงไม่ตามมาแล้วมั้ง คิดพลางหันกลับไปมองน้อยๆรอต่อไปก็คงเก้อ… กลับดีกว่า

     

    สิ้นความคิด ยังไม่ทันที่จะลุกออกจากเก้าอี้ เสียงล้อจักรยานที่ดังเสียดสีกับพื้นดินก็ดังขึ้น สึนะตวัดกลับไปมอง ก็พบร่างสูงหอบหายใจหนักๆอยู่บนรถจักรยานสีเหลืองคันเก่งของพวกเขา ก่อนจะเดินลงมาเร็วๆ โดยไม่สนใจจักรยานที่ล้มลงไปกองกับพื้น พลางสาวเท้าเข้ามาหาร่างเล็กเร็วๆ

     

    ผมจะพูดแน่ๆ” ร่างสูงพูดทั้งๆที่ยังหอบหายใจน้อยๆ

     

    หา?” สึนะเลิกคิ้วงงๆ

     

    ปัดโธ่เอ๊ย ทียังงี้มางงนะ คุณนี่” เบียคุรันส่ายหัวน้อยๆ พลางดึงร่างเล็กเข้ามาโอบช้าๆอย่างแนบเนียน

     

    “????” ยังคงงง

     

    ผมจะพูดในสิ่งที่คุณขอเมื่อกี๊แน่ๆ” พลันสีหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นอีกครั้ง

     

    แล้ว…”

     

    แต่ตอนนี้… คงยังไม่ได้

     

    “…”

     

    ผม… ผมยังไม่พร้อม

     

    “…” สึนะยังคงไม่ตอบอะไร

     

    แล้วผมก็คิดว่า… คุณก็คงยังไม่พร้อมเหมือนกัน

     

    “…”

     

    เพราะงั้น…” ร่างสูงพูดพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบแหวนสีทองเกลี้ยงขึ้นมาวงหนึ่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง ก่อนจะหันไปมองหน้าร่างสูงอย่างอึ้งๆ เบียคุรันอมยิ้ม

     

    เพราะงั้น… ผมจะหมั้นคุณเอาไว้ก่อน

     

    มือหนาเลื่อนไปกุมมือข้างซ้ายของร่างเล็ก พลางสอดแหวนเข้าไปในนิ้วนางอย่างถือสิทธิ์ ร่างเล็กหน้าแดงวูบขึ้นอีกครั้ง พลางซุกตัวน้อยๆลงบนอกกว้างของร่างสูง

     

    งั้น… คราวนี้ คุณก็หนีผมไปไหนไม่รอดแล้วสิ” ร่างสูงพูดกลั้วหัวเราะ ร่างเล็กไม่ตอบอะไร ดวงตายังคงจับจ้องไปที่แหวนในมือไม่วางตา

     

    แต่… ดูเหมือนคุณก็ไม่ได้คิดจะหนีไปไหนอยู่แล้วนี่นะ

     

    นี่…” สึนะพูดเบาๆ “นี่นาย… เอาจริงหรือเปล่า

     

    เรื่องแบบนี้เขาไม่เอามาพูดเล่นกันหรอกนะครับ” ร่างสูงยิ้ม

     

     

    จะไปรู้เหรอ” ร่างเล็กเกลี่ยนแหวนในมือ “แล้วนายคิดว่าเรื่องเมื่อคืนฉันโกรธนายเรื่องอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะ… ฉันกลัว… กลัวว่าสิ่งที่นายทำ มันไม่ใช่ของจริง

     

    จะบ้าเหรอครับ ที่รัก มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน” พูดพลางสวมกอดร่างเล็กแน่นๆ “ผมรักคุณจะตาย ไม่รู้เหรอ

     

    เขาว่าผู้ชายที่ชอบใช้คำหวานมากๆเนี่ย เจ้าชู้นะ” สึนะพูดลอยๆหน้าตาย เสียดสีคนข้างๆ ร่างสูงสะอึก พลางยื่นหน้าเข้าไปหาใบหน้าหวาน

     

    ไม่ได้รวมถึงผมด้วยใช่ไหมครับนั่น

     

    ไม่รู้สิ นายเป็นแบบนั้นรึเปล่าล่ะ” ร่างเล็กตีหน้าตาย พลางกลอกสายตาไปมาเป็นเชิงไม่รู้ไม่ชี้

     

    เบียคุรันยิ้ม “งั้น… เรากลับกันดีกว่าครับ สึนะโยชิคุง ป่านนี้แล้ว… คฤหาสน์คุณคงวุ่นวายกันใหญ่แล้วมั้ง ป่านนี้

     

    เออ… จริงด้วย” อุทานอย่างนึกขึ้นได้ “เห็นไหม เพราะนายแท้ๆเลยอ่ะ  แล้วจะทำยังไงกันล่ะที่นี้น่ะ

     

    เอ๊า นี่สรุปวกกลับมาเรื่องผมผิดอีกแล้วเหรอ

     

    ก็ใช่น่ะสิ!”

     

    เบียคุรันคลายอ้อมแขนออก พลางเดินไปจูงจักรยานที่ล้มลงไปกองกับพื้นเมื่อครู่เข้ามาหาร่างบาง

     

    งั้นกลับกันเถอะครับ ผมจะไปส่งเอง นะ

     

    อื้อ…”

     

      

      

     

     

     

    รุ่นที่สิบ!!!! รุ่นที่สิบหายไป!!! นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ” น้ำเสียงเครียดๆดังมาจากคนผมสีเงินตลอดทาง ในขณะที่คนตัวสูงกว่าข้างๆอย่างคงทำสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน

     

    นายก็พูดเกินไป โกคุเทระ ดูทั่วรึยัง” ยามาโมโตะเอ่ยถาม พลางก้มหน้าลงไปเสื้อสูทของตัวเองให้เข้าที่ พร้อมหันไปส่งคำทักทายให้กับคนในแฟมิลี่ที่เดินสวนทางกัน

     

    นี่นายลอยหน้าลอยตาเกินไปแล้วรุ่นที่สิบหายไปแล้วนะพอฉันเคาะประตูห้องไม่มีใครตอบ แล้วพอเปิดประตูเข้าไปมันก็ว่างเปล่าน่ะเข้าใจไหม!”

     

    เข้าใจสิ เข้าใจๆ” ร่างสูงพยักหน้าหงึกหงักอย่างขอไปที ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดให้คนข้างๆเข้าไปอีก

     

    นี่แก!!!”

     

    โอเคๆ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” ยามาโมโตะพูดสวน “นายบอกว่า ตอนนายเปิดเข้าไปไม่เจอสึนะอยู่ในนั้นใช่ไหม งั้นคราวนี้นายลองดูคราวฉันนะ เดี๋ยวฉันจะ…”

     

    นี่แกจะดูถูกฉันรึไง!!! แกคิดว่าฉันแตกตื่นไปเองเหรอ!!!” โกคุเทระแหว คนตัวสูงกว่าเลิกคิ้ว

     

    อื้ม… ตอนแรกฉันจะบอกว่านายคิดมากไปเอง แต่นายว่าแตกตื่น ก็เข้าท่าดีเหมือนกัน

     

    นี่แกตลกมากนักใช่ไหม!!” ร่างสูงไม่ตอบอะไร แต่เลื่อนมือไปจับลูกบิดประตูห้องบอสของตน

     

    โย่ว สึนะ ขอเข้าไปละนะ

     

    เฮ้ นี่แกฉันบอกว่า…”

     

    พรวดดด

     

    เฮือก!” เสียงสะดุ้งน้อยๆดังแว่วขึ้นมาภายในบริเวณห้อง ทำให้โกคุเทระและยามาโมโตะต้องละการโต้เถียงกันชั่วครู่

     

    นัยน์ตาสีนิลกวาดมองไปรอบห้อง ก่อนจะส่งยิ้มร่าให้เจ้าของห้องที่กำลังกำคอเสื้อของตัวเองด้วยสีหน้าเกร็งๆ แต่เป็นเพราะความซื่อบื้อของร่างสูงรึเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ เพราะเจ้าตัวไม่รู้สึกถึงสีหน้าที่ซีดลงเล็กน้อยของเจ้าของห้องเลยซักนิด

     

    อะ… ตะ… แต่…” โกคุเทระพูดตะกุกตะกัก “ก็เมื่อกี๊…”

     

    อะ… มะเมื่อกี๊… ทำไมเหรอ” สึนะถามอ้ำอึ้งๆอย่างเสียวๆ ยามาโมโตะยักไหล่ พลางรีบตอบคำถาม

     

    ไม่มีอะไรหรอก แค่เมื่อกี๊มีคนที่ยังตื่นไม่เต็มตาพูดพลางพยักเพยิดไปที่คนข้างๆ โกคุเทระฮึดฮัด

     

    ฉัน…!!”

     

    โอเคๆๆๆ นายอยู่ในห้องก็ดีแล้ว ขอโทษที่มารบกวนนะ ไปละ รีบๆไปกินข้าวเช้านะ” ร่างสูงพูดกลั้วหัวเราะพลางผลักหลังคนผมเงินออกไปข้างนอกห้อง

     

    นี่แก… ปล่อยฉันนะโว้ย!!!” พร้อมกับเสียงทิ้งท้าย

     

    สึนะมองตามแผ่นหลังของเพื่อนทั้งๆที่ใจยังเต้นตึกตักด้วยความหวาดเสียว ดีนะที่เป็นยามาโมโตะ… ดีนะถ้าเป็นโกคุเทระคุง… ถ้าเป็นคุณฮิบาริหรือมุคุโร่ละก็… เขาไม่ถึงที่ตายวายชีวาวาสเรอะ!!!




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×