ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~+Fic+Reborn! Romeo and Juliet[10027]~

    ลำดับตอนที่ #5 : #5

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 53


        

        

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เพิ่มความแรงมากขึ้น สึนะปรือตาขึ้นมาช้าๆ พลางกวาดมือไปที่หัวเตียง หยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา สี่โมง… เพิ่งสี่โมงเย็นเอง สำหรับเขาที่เมื่อคืนได้นอนเลย(เพราะใครบางคน) แถมตลอดทั้งวันเขาก็ต้องมานั่งเคลียร์งานที่ทำค้างไว้อีกต่างหาก(เพราะคนๆเดิม) เพราะฉะนั้น สี่โมงเย็นและหลังจากนี้ควรจะเป็นเวลาพักผ่อนของเขาสิ

    สึนะโยชิคุง ความอดทนกับคำว่ามารยาทของผมกำลังจะหมดแล้วนะคร้าบ ช่วยทำให้ผมเป็นคนมีภูมิฐานซักวันโดยการลุกออกมาเปิดประตูให้ผมเถอะครับเสียงเย็นๆกลั้วหัวเราะดังอยู่หน้าห้อง

    สึนะงัวเงีย พยายามโงหัวขึ้นจากหมอนนุ่มๆอย่างยากลำบาก มือบางเอื้อมมาขยี้ตาเบาๆ เสียงนั่น… มุคุโร่นี่ ให้ตายสิ มาทำอะไรตอนนี้เนี่ย… คนกำลังหลับเพลินๆ

    ก๊อกๆๆๆๆ

    อือ… มุคุโร่… ฉัน…” สึนะพยายามพูด

    โครมมมมมม!!!

    สวัสดี ยามบ่ายยยครับ!!! สึนะคุง!!!

    ร่างเล็กเบิกตากว้างทันทีที่เห็นชายหนุ่มเบิกยิ้มเริงร่าอยู่ตรงหน้าที่ไม่เข้ากับเสื้อสูทสุดเนี้ยบนั่นเลยซักนิด ที่กำลัง… ที่พังประตูห้องเขาเข้ามาเรียบร้อย อีกแล้ว… เดจาวูสิ้นดี ประตูห้องเขา เป็นบานที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย!!

    โครม… เสียง(ซาก)ประตูหล่นลงกับพื้น นัยน์ตาสีน้ำตาลมองตามอย่างอึ้งๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอาลัยอาวรณ์แทน

    สวัสดียามบ่ายเช่นกัน มุคุโร่

    อะไรกัน นี่มันสี่โมงเข้าไปแล้ว คุณยังจะนอนอีกเหรอ สันหลังยาวตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆนะ สึนะโยชิคุงมุคุโร่พูดด้วยท่าทีสบายๆ พลางปัดเศษไม้ของประตูบนตัวออกลวกๆ

    ปิ๊ด… เสียงปรอทในตัวร่างเล็กดังขึ้นน้อยๆ

    ขอโทษนะที่ฉันมันสันหลังยาว… แล้วนายมีธุระอะไร นี่เหรอ คำพูดของคนที่พูดจากับหัวหน้าของตัวเองนึกขึ้นถึงตำแหน่งของตัวเองได้ทีก็รีบข่มทันที ร่างสูงเหยียดยิ้มหวาน

    หามิได้ครับ บอส แต่ท่านควรจะรู้กำหนดการของตัวเองวันนี้นะมุคุโร่หยอดมุข แต่ใบหน้าหวานชักสีหน้ารับไม่ได้

    โอเค ฉันยอมแพ้ อย่าพูดแบบนั้นนะ แล้วกำหนดการอะไรอีก? ถ้าเป็นงานละก็ ฉันเคลียร์อยู่บนโต๊ะหมดแล้ว หยิบเอาไปได้เลย แล้วหลังจากนี้ช่วยบอกคนอื่นว่าอย่าเพิ่งเข้ามากวนฉัน… แล้วก็ เย็นนี้ฉันไม่กินข้าวเย็นนะ ไม่ต้องมาตามสึนะพูดรัวๆ พลางยกผ้าห่มขึ้นมา ตั้งท่าจะนอนต่อ อ้อ แล้วก็เรียกช่างมาซ่อมประตูห้องให้ฉันด้วย

    นี่คุณจะเชิญชวนผมรึไง?” มุคุโร่ก้าวเท้าฉับๆ ประชิดตัวร่างบาง พลางเชยคางใบหน้าหวานน้อยๆ จริงๆผมก็อยากจะตอบรับคำเชิญนั่นอยู่หรอกนะ เพียงแต่… เย็นนี้คุณมีภารกิจสำคัญที่ต้องออกไปปฏิบัติการพร้อมกับผม กับฮิบาริ เคียวยะคุง เพราะงั้น ผมอยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด…” ร่างสูงหยุดพูดไปพักหนึ่ง จะได้ขึ้นเงินเดือนซักที

    โอ๊ยยย พอเลย ปล่อยสึนะปัดมือร่างสูงออก ภารกิจอะไรล่ะ รีบอร์นไม่เห็นบอกฉันเรื่องนี้เลย นี่ไม่ใช่ว่าพวกนายมั่วนิ่มกันมาเหมือนคราวที่แล้วใช่ไหม คราวนี้ฉันไม่เล่นด้วยแล้วนะ ถ้ามีเรื่องบ้าๆแบบนั้นอีก…” สึนะนิ่งคิด ฉันจะหักเงินเดือนให้หมด!

    โอ๊ยยยย โหดร้ายยยมุคุโร่ผละออก อันนี้จริงจัง วันนี้คุณจะต้องไปออกงานสังคม… ของมิลฟีโอเล่แฟมิลี่ อื้มม ใช่ วันนี้ว่าที่บอสกำลังจะเปิดตัวคู่หมั้น

    โครม!

    ร่างเล็กสะดุดผ้าห่มล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามอย่างอึ้งๆ อะไรนะ!!

    “???” มุคุโร่เลิกคิ้ว คุณจะแปลกใจไปทำไม? อ้อ เรื่องที่เราจะไปร่วมงานของมิลฟีโอเล่น่ะเหรอ แหม เรื่องนี้ผมก็เคยบอกไม่ใช่เหรอ ในฐานะที่เราเสแสร้งทำเป็นมิตรกับเขา… ผมหมายถึง อย่างน้อยก็ตอนนี้   เพราะงั้น เราต้อง ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีไว้ก่อน อย่างน้อยก็

    ไม่ๆๆๆๆเสียงหวานเอ่ยอย่างสับสน พลางลุกขึ้นจากพื้น เดี๋ยวๆๆ ว่าที่บอสของมิลฟีโอเล่ที่ว่านี่… นายหมายถึง

    ก็มีอยู่คนเดียวร่างสูงยักไหล่ เบียคุรันคนนั้นไง

    ไม่จริ๊งงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    .

    .

    .

    .

    .

    นี่มัน… เรื่องบ้าอะไร….

    นี่ ซาวาดะ ตั้งใจหน่อยสิ ถึงมันจะเป็นงานออกสังคมไร้สาระ น่ารำคาญ วุ่นวาย น่าเบื่อขนาดไหน… แต่ถ้านายทำตัวไม่ให้ความร่วมมือแบบนี้คนอื่นในแฟมิลี่เขาเดือดร้อนนะฮิบาริที่ดูท่าทางไม่พอใจกับอีเวนท์นี้เช่นกันพูดขึ้น ในขณะที่ติดกระดุมตรงแขนเสื้อ

    ฮะ… อะไรนะ ผมไม่ได้ยินสึนะงึมงำ

    อะไรกัน อะไรกัน นี่มันอะไรกัน หมั้นงั้นเหรอ หมั้น… ทั้งๆที่เพิ่งจะผ่านเมื่อคืนร่วมกับเขามาเนี่ยนะ ทั้งๆที่เพิ่งจะสารภาพรักเมื่อเช้าแท้ๆ ทั้งๆที่บอกให้รอแท้ๆ!!!

    ผัวะ!

    โอ๊ยยย คุณฮิบาริตบหัวผมทำไม เจ็บนะ!

    มือมันไปเอง

    โอ๊ยยยย อีตาคนนี้!

    สึนะกับฮิบาริเดินออกจากตัวคฤหาสน์วองโกเล่ช้าๆอย่างเบื่อหน่าย สำหรับฮิบาริที่เป็นคนที่อารมณ์บ่จ่อยเป็นปกติอยู่แล้วคงไม่น่าแปลกใจเท่าไร แต่นายคนตัวเตี้ยๆข้างนี่สิ ทำไมดูอารมณ์แห้งเหี่ยวไปด้วยอย่างนั้นละ

    รถลีมูซีนคันหนึ่งจอดเทียบตรงถนนช้าๆ มุคุโร่เดินออกมาจากที่นั่งคนขับ พลางเหยียดยิ้มหวานอย่างอารมณ์ดี

    ไง ราชรถมาแล้วครับ สุภาพบุรุษทั้งสอง หน้าตาดูไม่สดชื่นเลยนะ เอ้า ขึ้นรถๆๆว่าพลางเปิดประตูหลังให้

    ยกเลิกได้ไหมสึนะถามเรียบๆ

    ไม่ได้ครับมุคุโร่เหยียดยิ้ม ขึ้นรถซะ แล้วก็คิดซะว่าทำงานพิเศษรับจ็อบไปแสดงละครซักฉาก เดี๋ยวคุณก็สนุกกับมันเอง เอาละ เรากำลังจะสายนะ แล้วผมก็คิดว่าคุณยังฉลาดพอที่ไม่คิดจะให้ชื่อเสียงของแฟมิลี่ลดลงใช่ไหม

    ไม่อยู่แล้วสึนะพึมพำอย่างไม่มั่นใจ เพราะถ้าฉันทำงั้นจริง คนที่จะเอาฉันตายคงไม่ใช่แค่รีบอร์นแน่

    .

    .

    .

    .

    .

    ถ้าเรื่องมันเป็นแบบนี้ ก็ทำให้มันชัดเจนเลยสิ!

    ร่างเล็กสะดุ้งกับความคิดที่ผุดขึ้นมากะทันหันในหัวหลังจากที่มันจมปลักมากับความคิดแบบสาวน้อยวัยแรกแย้มที่แฟนหนุ่มกำลังจะนอกใจมานาน

    สึนะตัดสินใจกับตัวเองเงียบๆว่าพอไปถึงที่งานแล้วเขาจะไปคุยกับเบียคุรันให้รู้เรื่องไปเลย แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว… มันไม่ง่ายแบบนั้นเลย

    กิ๊ง

    สึนะกลิ้งไวน์ในแก้วของตัวเองอย่างเหม่อลอย ฮิบาริกับมุคุโร่ที่มาด้วยกันหายไปไหนแล้วไม่รู้ คงไปหาทางสืบๆขุดๆอะไรซักอย่างตามที่วางแผนกันเอาไว้ เขาเสนอหน้ามาร่วมงาน ดูลาดเลา แล้วปล่อยสองคนนั้นเข้าไปจัดการซะ ก็ดี เป็นแผนที่ลวก เข้าใจง่ายดี เขาชอบ

    แหม คนนั้นไง ว่าที่คู่หมั้นของว่าที่บอสมิลฟีโอเล่ ดูน่ารักดีนะ ว่าไหม

    สึนะเงยหน้ามองตามเสียงกระซิบที่ดังมาแผ่วๆ ที่พูดเหมือนจงใจให้คนรอบๆข้างได้ยินมากกว่า

    อุ๊ย มาด้วยกันด้วยนี่ ดูเหมาะกันดีเหมือนกันนะ

    กึ้ก

    สึนะวางแก้วที่อยู่ในมือเมื่อครู่ลงบนโต๊ะทันที ภาพนั้นเข้ามาให้เห็นตำตา หญิงสาวหน้าตาติดสวย ทรงผมลอนๆสีน้ำตาลที่ยาวคลอลงมาบนบ่าข้างซ้ายช่วยให้สาวเจ้าดูน่ารักขึ้น

    ใช่ ถ้ามองเดี่ยวๆก็ดูน่ารักดีหรอก แต่สำหรับร่างเล็กในตอนนี้มันช่างทำให้จิตใจหล่นวูบลงไปถึงตาตุ่มอย่างไรพิกล ยิ่งได้เห็นเบียคุรันหัวเราะต่อกระซิกกับหญิงสาวขนาดไหนก็ยิ่งหงุดหงิด แต่พอคิดอีกที

    ก็น่าสงสารสาวเจ้าเหมือนกันแฮะ

    แหม ตอนนี้ก็แค่ดูๆใจไปก่อนเท่านั้นล่ะค่ะ แถมดูท่าเจ้าตัวจะไม่ค่อยสนใจฉันเป็นพิเศษเท่าไรเธอพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พลางหัวเราะคิกคักเบาๆ เช่นเดียวกับเบียคุรันที่หัวเราะในลำคอ

    ฮะๆๆๆ จริงๆแล้วผมก็เซอร์ไพรส์เหมือนกันครับ นี่เป็นเรื่องที่ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ก็พ่อผมน่ะสิ… ฮะๆๆ ผมไม่อยากจะพูดอย่างนี้หรอกนะครับ แต่ผมเป็นที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาเสมอ

    ถึงตอนนี้สึนะคัดค้านในใจเต็มที่

    เมื่อคืนผมเพิ่งจะนอนกับแฟนที่น่ารักของผมอยู่เลย

    พรู่ดด… แค่กๆๆๆสึนะที่หยิบน้ำขึ้นมาซดอีกแก้วถึงกับสำลักออกมาในทันที

    เฮ้ยยยย พูดแบบนั้นจะดีเรอะไม่เกรงใจสาวคนข้างๆหรือแขกในงานบ้างเลยรึไง!

    ฮะๆๆๆ เห็นไหมละคะ แถมทางฉันเองทางแฟมิลี่ก็ทำเซอร์ไพรส์เหมือนกัน ก็เลยไม่ค่อยคิดอะไรมากน่ะค่ะ

    แล้วก็มีเสียงหัวเราะดังออกมาในกลุ่มนั้น สึนะปาดน้ำที่มุมปากอย่างตะลึง นี่มันอะไรกันเนี่ยไม่มีใครพูดว่าอะไรหมอนั่นเลยรึไง โอ๊ยยย ยิ่งพิศมองใบหน้าคมๆนั่นชัดๆยิ่งหมั่นไส้!

    เบียคุรันที่บังเอิญเหลือบมาสบตากับร่างเล็กเข้าคลี่ยิ้มส่งให้ สึนะหน้าแดงฉ่าขึ้นทันทีอย่างไม่มีสาเหตุ ร่างสูงมองตามอย่างล้อๆ ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยอย่างนึกอะไรขึ้นได้ ยังไม่ทันที่ใบหน้าหวานจะตั้งคำถามในใจ เบียคุรันก็เอื้อมมือไปโอบไหล่ของเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างจงใจยั่ว

    อ๊ะ แต่อย่างว่า… อะไรๆมันก็ไม่แน่นะครับ

    !!!!!!!” สึนะสะดุ้งเฮือก ถึงหัวจะพยายามบอกใจว่าสิ่งที่ร่างสูงกำลังทำอยู่มันเป็นเรื่องที่ร่างสูงแค่อยากจะหยอกเล่น แต่หัวใจเจ้ากรรมมันไม่รับฟังเลยเนี่ยสิ

    แหม อะไรกันเนี่ย เบียคุรัน ไม่ต้องมาทำพูดดีเลยนะนายน่ะ… อ๊ะ แต่ว่า ถ้าจริงจังจริงๆอาจจะรับไว้พิจารณาก็ได้นะหญิงสาวหยอดคำพูดทีเล่นทีจริง

    สึนะวางแก้วน้ำในมือลงบนโต๊ะแรงๆจนเรียกได้ว่ากระแทกจะเหมาะกว่า ตอนนี้ในห้องโถงใหญ่ที่เป็นพื้นที่รับรองแขกเริ่มเต็มไปด้วยผู้คนที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้สึนะไม่ค่อยได้ยินเสียงที่กลุ่มนั้นคุยกันมากนัก

    ไอ้ไม่อยากฟังมันก็ไม่อยากฟังนักหรอก… แต่จะให้เขาไม่รู้อะไรเลย… มันก็หงุดหงิดนี่นา!!!

    .

    .

    .

    .

    .

    อีกด้านหนึ่ง

    หลังจากที่มาถึงสถานที่เป้าหมายแล้ว คนอย่างฮิบาริมีเหรอจะไปร่วมวงงานปาร์ตี้บ้าๆบอๆไร้สาระพรรค์นั้นให้เสียอารมณ์ และต่อให้มีสาระจริงเขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าร่วมด้วยเท่าไร

    ร่างสูงสาวเท้าพรวดๆผ่านจากตัวสวนที่ถูกประดับประดาตกแต่งอย่างดีด้วยต้นไม้ในรูปร่างต่างๆ ผ่านห้องโถงที่ถือเป็นบริเวณงานมาฉับๆ เลยจากส่วนที่เป็นบริเวณงานไร้สาระมาแล้วก็จริง แต่ดูเหมือนคฤหาสน์หลังนี้จะไม่ถือเป็นฐานสำคัญสำหรับมิลฟีโอเล่ซักเท่าไรนัก ซึ่งก็คงเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

    และต่อให้เป็นอย่างนั้นจริง จากข้อมูลที่ฮิบาริสืบดูมาได้ซักพัก ตัวฐานที่เก็บข้อมูลเรื่องสำคัญต่างๆก็คงอยู่ห่างจากตรงนี้ที่เขายืนไม่เท่าไรหรอก

    ชายหนุ่มหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดิน เพียงแค่เขาออกจากบริเวณห้องโถงตรงนั้นออกมาแล้ว ส่วนอื่นๆของคฤหาสน์หลังนี้ก็ดูเหมือนจะมืดสนิททั้งหมด จากตอนแรกที่เป็นเพียงไฟเริ่มสลัวๆก็กลายเป็นห้องที่มีแต่ความมืดไปในที่สุด

    น่าแปลก… ถึงตรงนี้จะไม่ใช่ที่เก็บข้อมูลสำคัญๆจริงๆ แต่ปล่อยให้ผ่านมาง่ายๆอย่างนี้ หละหลวมไปแล้วมั้ง

    ไม่ทราบว่า คุณมีธุระอะไรรึเปล่า คุณผู้พิทักษ์แห่งเมฆาของวองโกเล่แฟมิลี่

    ฮิบาริหันขวับไปทางต้นเสียงที่ฟังดูเย็นๆที่ดังขึ้นจากข้างหลัง นัยน์ตาคู่คมมองดูคนตรงหน้าอย่างพินิจ แม้ตรงนี้จะเป็นบริเวณที่เริ่มมืดแล้ว แต่แสงไฟสลัวๆที่อยู่ตรงทางเดินก็ช่วยสาดแสงให้เขาพอเห็นคนตรงหน้า แม้จะไม่ชัดเจนนัก

    นาย… อิริเอะ โชอิจิงั้นเหรอ

    ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่บริเวณที่คุณควรจะผ่านเข้าไปหรอกนะครับ ขอความกรุณาออกมาเถอะ งานจัดอยู่บริเวณห้องโถงตรงโน้น และถ้าจะหาห้องน้ำละก็ มันอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่คุณเดินมาครับ

    …” กัดไม่ปล่อยเลยจริงๆแฮะ

    และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจะไม่พูดอะไรออกมาต่อจากนี้ อิริเอะก็กลับหลังหัน ทำท่าจะเดินออกไป แต่ยังไง ผมก็ขอบอกคุณไว้อย่างต่อให้คุณจะเข้าไปจริงๆคุณก็ไม่ได้อะไรหรอก ดีไม่ดีจะมีแต่เสียซะเปล่า ผมก็แค่เตือนด้วยความหวังดีเท่านั้นเอง

    นายพูดอย่างกับว่า… มีความลับอะไรที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้งั้นแหละ

    กึก ชายหนุ่มดันแว่นขึ้นหน่อๆย ก่อนจะเอ่ยตอบ ทางคุณก็ต้องมีความลับเหมือนกันแท้ๆ ไม่เห็นจะน่าแปลกใจอะไรไม่ใช่เหรอครับ

    ฮิบาริไม่พูดอะไรตอบ และชายหนุ่มอีกคนก็ไม่คิดจะสนทนาต่อเช่นกัน อิริเอะเดินออกจากบริเวณตรงนั้นแล้วตรงไปที่ห้องโถงใหญ่ ในขณะที่ฮิบาริยังคงนิ่งอยู่กับที่ด้วยสีหน้าที่คนภายนอกดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เช่นเคย

    ตึกๆๆๆๆ

    ฮิบาริคุง ผมมาแล้วครับ โทษทีที่มาช้าฮิบาริมองมุคุโร่ที่วิ่งตามทางเดินสลัวๆนิ่งๆ

    ผมดูมาแล้วครับว่าห้องคอมที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหน ส่วนเรื่องอุปกรณ์ผมเอามาเรียบร้อยแล้ว เพราะรู้ว่าทั้งคุณทั้งบอสคงเดินกันมาตัวปลิวอยู่แล้วละมุคุโร่บ่นงึมงำ ก่อนจะวางกระเป๋าใบหนึ่งลงบนพื้น อ้าว แล้วนี่คุณมายืนทำอะไรตรงนี้ ไม่ล่วงหน้าไปก่อนเลยล่ะ?”

    เปล่า…” ทำไมไอ้หมอนี่มันไม่โดนใครพูดอะไรมาบ้างวะ ช่างเถอะ งั้นก็ไปไอ้ห้องที่ว่า แล้วรีบๆจัดการตามแผนซักที ฉันไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานนักหรอก มันน่ารำคาญ

    แผนที่ฮิบาริว่าคือการแฮคข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามผ่านห้องคอมพิวเตอร์ที่ใกล้ฐานข้อมูลที่สุดนั่นเอง เป็นเรื่องที่ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริงๆแล้วถ้าไม่มีอุปกรณ์ช่วยสนับสนุนกับคนที่มีประสบการณ์แฮคเกอร์มาก่อนก็คงไม่ประสบความสำเร็จกับแผนนี้แน่ๆ

    อือ… ก็อยากจะทำงั้นอยู่หรอกชายหนุ่มพูด เริ่มขมวดคิ้วน้อยๆ แต่ผมใช้ตัวนี้ไม่เป็น คงต้องขอให้สึนะโยชิคุงช่วย

    งั้นก็ไปเรียกมาสิฮิบาริพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดจะหงุดหงิดยิ่งขึ้น มาแล้วไม่ได้ประโยชน์… จะเอามาทำไมวะ

    แต่… จริงๆแล้วแผนนี้เราไม่ได้เตี๊ยมกับเจ้าตัวเขาเลยนะ

    งั้นจะไม่ทำ?” ฮิบาริย้อน

    ทำสิ แต่สำเร็จไม่สำเร็จนี่อีกเรื่องนะมุคุโร่รีบพูด ก่อนจะก้มลงมองนาฬิกา เอาละ… งั้นผมจะไปตามบอสมา คุณล่วงหน้าไปก่อน ต่อสายอะไรไว้เลยแล้วกัน

    .

    .

    .

    .

    .

    ในขณะนั้น

    สึนะขมวดคิ้วกับภาพที่เห็นนั่น หญิงสาวกำลังพูดหยอกล้อต่อกระซิกกับผู้ชายคนที่เขาเพิ่งนอนด้วยเมื่อคืน… เนี่ยนะพอลองคิดดูดีๆอีกทีแล้ว… เขาว่าเขาน่าสงสารแล้วนะ ผู้หญิงคนนั้น่าสงสารกว่าเขาอีก!

    น้องหนู… เธอโดนหลอกซะแล้วละ แต่ไม่เป็นไรหรอกเนอะ เพราะดูเธอก็ร้ายพอตัวเหมือนกันนี่?  สึนะลอบคิดเมื่อเห็นสาวเจ้ากำลังใช้นิ้วชี้ดัดผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอที่คลอลงมาข้างๆ ที่ใครต่อใครเห็นกันว่าน่ารักนักน่ารักหนา

    คง… ต้องหาจังหวะเข้าไปคุยดีๆกับหมอนั่น ไม่อย่างนั้นเขาต้องปรอทขึ้นแน่ๆ สึนะคิด พลางทำท่าจะเดินเข้าไปหาร่างสูง แต่เขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีมือหนามาจับแขนไว้เร็วๆ ใบหน้าหวานหันควับไปมองทันที ก่อนจะเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

    มุคุโร่…? มีอะไรเหรอสึนะถามอย่างแปลกใจ เพราะมางวดนี้เขาไม่ได้วางแผนมาทำอะไรลับๆล่อๆไม่ใช่เหรอ? งานนี้ก็แค่มางานเลี้ยงสังสรรค์ตามปกติไม่ใช่รึไง งานสังคมน่ะ? งานสังคม ใบหน้าของร่างเล็กตั้งคำถามว่าเป็นอย่างนั้น

    มุคุโร่คลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะก้มลงไปกระซิบที่ข้างหู

    ขอโทษครับ แต่คงเป็นแบบนั้นไม่ได้แล้วละ”  ร่างสูงพูดใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเคย เรามีเวลาอยู่ที่นี่สามชั่วโมง แล้วเราก็ต้องเจาะข้อมูลของฝ่ายนั้นมาภายในเวลาสามชั่วโมงนี้ ไม่มีเวลาแล้วผมต้องให้คุณจัดการ

    นี่นายไม่ได้บอกฉันเรื่องนี้เลยนะ!!

    เบียคุรันที่ลอบมองสึนะอยู่เป็นระยะๆถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นผู้พิทักษ์แห่งหมอกของวองโกเล่มาตามร่างเล็กไปที่ไหนซักแห่ง

    น่าแปลกใจ… เวลาแบบนี้เนี่ยนะ? แล้วที่สำคัญ… ถ้าร่างเล็กไม่อยู่แล้วเขาจะมายืนปั้นหน้าเพื่อหยอกให้ใบหน้าหวานหึงเล่นไปเพื่ออะไรล่ะ

    บางที…. อาจจะเพื่อสึนะเองก็ได้

    ท่านเบียคุรันครับอิริเอะเดินเข้าไปมา กระซิบให้ร่างสูง เมื่อกี๊คนของวองโกเล่… ออกไปจากบริเวณงานแล้วละครับ

    …” เพียงเท่านี้เขาก็พอจะเดาอะไรต่อมิอะไรได้แล้ว ร่างสูงคลี่ยิ้มเย็น ในขณะที่โชอิจิเริ่มทำสีหน้ากระสับกระส่าย อื้ม… ไม่เป็นไรหรอก โชจัง ปล่อยพวกเขาไปเถอะ

    ตะ… แต่ว่า

    ไม่เป็นไรน่า ยังไงเขาก็คงฉลาดพอที่จะไม่เข้าไปในตัวฐานตรงๆอยู่แล้วละ แล้วอีกอย่าง ถ้าไม่ทำแบบนั้นก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ นายพูดอย่างนั้นเองไม่ใช่หรือไง

    …” ชายหนุ่มสะอึกน้อยๆ นะนั่นสินะครับ

    …” เบียคุรัยทอดสายตาออกไปนอกประตู ใจส่วนลึกพยายามบอกให้เขาเชื่อใจร่างเล็กคนนั้น แต่ในหัวของเขากลับบอกตรงกันข้ามทุกอย่าง

    ยังก่อน… ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา

    ขอเพียงให้เขากับสึนะได้คบกันต่อไปเรื่อยๆแบบนี้ได้ ต่อให้เขาต้องเอาแฟมิลี่ของตัวเองมาเสี่ยงเขาก็ยอม


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×