ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~+Fic+Reborn! Romeo and Juliet[10027]~

    ลำดับตอนที่ #2 : #2

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 53


           

    "ดูหนังไหมครับ สึนะคุง หนังผีช่วงนี้น่าดูหลายเรื่องนะ~"

     

    "ไม่เอาอ่ะ จะบ้าเหรอ ดูแล้วนอนไม่หลับผมส่ายหน้าพลางนึกไปถึงหนังผีเรื่องล่าสุดที่ตัวเองทำเท่ไปดูมา... อยากจะบอกว่าตอนดูน่ะไม่เท่าไร แต่ตอนจะนอนน่ะ... หลอนติดตาไปสามอาทิตย์จนตัวเองจะกลายเป็นผีซะเองเพราะนอนไม่หลับอยู่แล้ว ลองนึกภาพสิ ผีตาโบ๋ๆอ่ะ มันจะออกมาอาการประมาณนั้นเลย

     

    "งั้น ไปหาไรกินเล่นกันไหมครับ ผมรู้จักร้านเค้กอร่อยๆอยู่ร้านนึงนะ"

     

    "แต่ฉันเพิ่งจะกินมื้อกลางวันไปเองนะ ยังอิ่มอยู่เลยอ่ะผมบอกปัดพลางหันไปให้ความสนใจกับแว่นตาที่อยู่ในมือแทน จะออกมาข้างนอกทีก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยไว้ก่อนล่ะนะ ถ้าเกิดมีใครในวองโกเล่หรือมิลฟีโอเล่ผ่านมาแล้วจำหน้าเราได้วุ่นวายยิ่งกว่าข่าวดาราหน้าหนึ่งแหงๆ แถมไอ้สองแฟมิลี่ที่ว่ามานี่ก็ใหญ่ไม่ใช่น้อย ถึงจะมีน้อยคนที่รู้หน้าค่าตาของบอสตัวเองจริงๆก็เถอะ

     

    "งั้นเลี้ยวเข้าม่านรูดข้างหน้าเลยไหมครับ เผื่อมันจะช่วยให้คุณนึกออกว่าวันนี้อยากจะทำอะไรร่วมกับผมในวันนี้น่ะ"

     

    "หืมม ม่านรูดเหรอ แถวนี้มันมี...ฮะ...เฮ้ยยยผมสะดุ้งกับคำพูดที่หมดความอดทนของร่างสูงที่ตอนนี้กำลังส่งยิ้มเย็นๆมาให้ผม ซ้ำยังคว้าหมับเข้าที่ข้อมือแล้วเตรียมออกแรงลากแล้วด้วย"บะ... บ้าเหรอ ไม่เอา... กลางวันแสกๆ พูดอะไรออกมา ไม่อายปากรึไง อ๊า!!! ไม่เอานะ เบียคุรัน!! ปล่อยผมนะ"

     

    ร่างสูงส่งยิ้มมาให้อย่างจงใจแกล้ง ซ้ำยังลากมือผมไปต่อเรื่อยๆอีกต่างหาก ผมพยายามสะบัดมือเขาออกด้วยแรงทั้งหมดเท่าที่ตัวเองมี แต่อย่างว่า... เอาตัวผมมาซักสามคน จะสู้แรงเข้าไหวรึเปล่ายังต้องนั่งคิดเลย

     

    "หึๆๆ ก็คุณอยากเรื่องมากเองนักนี่ อุตส่าห์ตั้งใจว่าวันนี้จะตามใจคุณซักหน่อย เปลี่ยนใจแล้ว ฉุดลงข้างทางตรงนี้แหละ!"

     

    เบียคุรันพูดก่อนจะกระชากตัวผมขึ้นบ่าเร็วๆโดยไม่สนใจสายตาของคนรอบๆข้างที่ตอนนี้หันมามองเราสองคนด้วยสนอกสนใจ... แบบนี้มัน...

     

    "ว้ากกกก ว้ากๆๆๆ เข้าใจแล้ว ไม่เล่นตัวแล้วก็ได้อ้ะ เบียคุรัน... ฮื่อออ อ๊ะ... รู้แล้ว ไปสวนสนุกกันมะ ไปหาไรเล่นกัน ไม่ได้ไปมานานแล้วด้วย นะๆๆๆ ปละ... ปล่อยผมลงก๊อนน"

     

    "คิก... หน้าแดงหมดแล้ว น่ารักจังเลย สึนะโยชิคุง งั้นเดี๋ยวผมลดโทษให้ก็ได้ เอาเป็นโรงแรมที่มันดูมีระดับกว่านี้ก็ได้ถ้าคุณต้องการน่ะ"

     

    "ปล่อยน้า!! เบียคุรัน เลิกแกล้งผมซักทีสิ ถ้าเกิดมีคนในแฟมิลี่ผมหรือแฟมิลี่คุณมาเห็นเข้าจะทำยังไงเล่า!!!" ผมโวยวายในขณะที่เขาหัวเราะร่วนด้วยความพอใจก่อนจะวางผมลงช้าๆพร้อมกับเหยียดยิ้มหวาน

     

    "งั้นเราไปเอารถก่อนดีไหมครับ ถึงมันจะอยู่ไม่ไกลแต่มันก็ไม่ใกล้เหมือนกันนะ ผมน่ะอาจจะเดินไหว แต่คุณนี่สลบเหมือดกลางทางแน่ๆ"

     

    "อะ...อะไร จะเอารถ? จะไปไหน... นี่ไม่ได้คิดจะฉุดกันจริงๆใช่ไหมเนี่ย!!!"

     

    "ผมหมายถึงสวนสนุกต่างหากเล่า นี่คุณยังคิดมากอยู่อีกรึเนี่ยเบียคุรันพูดกลั้วหัวเราะ ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าแตกอีกแล้ว ร่างสูงโน้มหน้าลงมาหาผมช้าๆก่อนจะงับที่ติ่งหูผมเบาๆอย่างที่ผมไม่ทันตั้งตัว "หึๆๆ อีกอย่างถ้าผมอยากจริงๆน่ะ ไม่จำเป็นต้องฉุดคุณหรอก แค่จูบร้อนๆซักทีเดียวคุณก็ต้องเป็นฝ่ายมาขอร้องอ้อนวอนผมแล้ว"

     

    "อ่ะ...ผมหน้าร้อนฉ่า "พูดอะไรน่ะ... ผมไม่ใช่คนใจง่ายแบบนั้นซะหน่อย"

     

    "จะลองไหมล่ะครับเบียคุรันพูดอย่างท้าทาย ในขณะที่ผมได้แต่มองหน้าเขาแล้วกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

     

    จริงๆมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดซะทีเดียวหรอกนะ แต่จะว่าไม่ถูกเลยมันก็...

     

    "หึๆๆ น่ารักจังเลย สึนะโยชิคุง แต่เวลาที่เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันมันน้อย ไว้คราวหน้าผมจะมาหาคุณตั้งแต่ตีสามแล้วไปสนุกกันเต็มช่วงเวลาแบบนั้นดีกว่าเนอะ"

     

    "หยะ... หยุดพูดอะไรแบบนั้นเดี๋ยวนี้เลยนะ"

     

    หมับ

     

    "ไปกันเถอะครับ สึนะโยชิคุง เวลามันเดินไปเรื่อยๆนะเขาพูดด้วยน้ำเสียงเชิงตำหนิเล็กน้อย แล้วตกลงนี่มันความผิดผมหรอกเรอะ อยากจะรู้จริงๆว่าใครเป็นคนเริ่มกันน่ะ

     

    "เอ๊ะ... เดี๋ยวก่อน เบียคุรัน นี่ไม่คิดจะกลับไปเอารถจริงๆหรอกใช่ไหม ไม่ไปหรอกนะ แฟมิลี่นายน่ากลัวอ้ะ ขืนเขาเห็นฉัน ยิงไม่เลี้ยงแน่"

     

    "งั้นคุณจะขึ้นรถไปเหรอครับ?" ร่างสูงหันมาถามเลิกคิ้วหน่อยๆ ชักสีหน้าประมาณว่า 'ยังกับแฟมิลี่คุณมันไม่น่ากลัวอย่างงั้นแหละ?'

     

    อือ... เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้น่ะนะ ก็แฟมิลี่ของพวกเรามันไม่ถูกกันนี่

     

    "ผมรู้แล้ว เราไปซื้อรถกัน รถที่เอาไว้ใช้กันแค่เราสองคนน่ะ ดีไหมผมพูดในขณะที่จ้องเข้าไปในดวงตาคู่คมของเขา เบียคุรันทำสีหน้านิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มนิดๆ

     

    "แหม งั้นสนใจจะซื้อหอของเราสองคนซะเลยไหมละครับ"

     

    "อ้ะ...โอ๊ยยยย เสี่ยว! "นายนี่มัน... ไม่อายปากเลยจริงๆนะ"

     

    "ล้อเล่นน่ะครับ แต่ถ้าคุณพกเงินสดมาก็โอเคนะ ผมไม่นิยมใช้บัตรเครดิตเท่าไร มันดูไม่มีระดับเอาซะเลย"

     

    "ปกติจะซื้อหอนี่เขาใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตกันเหรอผมเบ้หน้ากับคำพูดเรื่อยเปื่อยของร่างสูง "พอเถอะ เถียงกับนายจนเหนื่อยแล้ว มานี่ๆ ไปดูรถกัน"

     

    ผมพูดพลางกระตุกมือเขาเบาๆให้เดินไปในทิศทางที่ผมต้องการ

     

    "เอ๊?? เอาจริงรึครับเนี่ย รวยนักรึครับ คิดจะซื้ออะไรก็ซื้อเนี่ยร่างสูงเดินตามผมต้อยๆแต่ก็ยังคงหยอดคำกวนประสาทเรื่อยๆ ยังไงนาทีนี้ขอยึดคติ... เงียบสยบความเคลื่อนไหวหน่อยแล้วกัน

     

    "เอาBMไหมครับ จะเอาทั้งทีก็ให้มีชาติตระกูลไปเลย หรือคุณสนใจพวกคลาสสิคอย่างเบนซ์มากกว่าละ"

     

    "..." ผมยังเดินต่อไปโดยไม่ตอบเขากลับ จะบ้าเหรอ เงินทองของหายากนะฟ้ย ใครจะไปซื้อได้กันล่ะ น่าหมั่นไส้จริงๆที่เขาทำกับการซื้อรถพวกนั้นเป็นเรื่องปกติเสียขนาดนั้นน่ะ

     

    "สึนะโยชิคุง... คุณกำลังจะพาพวกเราเดินไปไหนครับ?"

     

    "..." ผมไหวตัวกับคำว่า 'พวกเราเล็กน้อย พอได้ยินจากปากของคนๆนี้แล้ว... รู้สึกดีจัง

     

    "อ่ะ... ที่นี่มัน"

     

    ผมหยุดขาทั้งสองข้างที่ร้านขายรถจักรยานร้านหนึ่งก่อนจะหันหน้าไปมองใบหน้าที่เริ่มรับไม่ได้ของคนข้างๆด้วยความขำ เบียคุรันชักสีหน้าก่อนจะหันมามองหน้าผมช้าๆ

     

    "รถจักรยานงั้นเหรอ? นี่คุณล้อผมเล่นใช่ไหมครับมาถึงตรงนี้ผมหลุดหัวเราะแล้วละ

     

    "ก็มีแค่ไอ้นี่แหละที่พอจะซื้อด้วยเงินสดได้น่ะ"

     

    "อ่า... เข้าใจแล้วครับเบียคุรันเหยียดยิ้มในที่สุดก่อนสำรวจตัวผมไล่ลงจากหัวไปถึงเท้า"ถ้าคุณอยากจะใส่สูทโก้ๆนั่นปั่นจักรยาน ผมก็ไม่คิดจะว่าอะไรคุณหรอก"

     

    ผมกระพริบตาปริบๆก่อนจะก้มลงมองสำรวจตัวเอง จริงด้วย ผมยังอยู่ในชุดสูทอยู่เลยในขณะที่คนตรงหน้าอยู่ในชุดลำลองดูสบายๆ รู้งี้น่าจะเปลี่ยนก่อนออกมาแฮะ... อ๊ะ แต่เปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าคนๆนี้ก็อันตรายเหมือนกันนะ

     

    "ก็... ให้นายขี่ แล้วผม ซ้อนทายไง"

     

    "..." เบียคุรันชักสีหน้าอีกครั้ง "นี่วางแผนมาก่อนแล้วใช่ไหมครับเนี่ย"

     

    "ไม่รู้สิผมยิ้มหวาน "แต่จะให้ผมขี่ แล้วนายซ้อนท้ายเหรอ?"

     

    "อ่าๆ ผมยอมแล้วครับ งั้นเลือกสิ คุณอยากได้สีอะไรล่ะ...ร่างสูงหยุดคำพูดลงดื้อๆทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยความแปลกใจ แล้วก็ต้องแปลกใจเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นว่าหน้าเขาเริ่มซีดลงอีกครั้ง

     

    "มีอะไรเหรอ เบียคุรันผมถาม มองตามทางที่เขากำลังมอง

     

    "โชจัง...เขาพึมพำในขณะที่ผมเบิกตากว้าง

     

    "อะไรนะผมทวนอยากไม่เชื่อหูตัวเอง "โชอิจิน่ะเหรอ โกหกน่า"

     

    แต่ภาพตรงหน้าไม่ได้บ่งบอกว่าคนข้างๆผมโกหกซักนิด บุรุษผมสีน้ำตาลกับแว่นตาคู่นั้น คนที่กำลังเลือกซื้อแผ่นซีดีเพลงในร้านที่อยู่ตรงข้ามกับผม ซวยละ... ถ้าเขาหันมาล่ะก็

     

    เบียคุรันคว้าหมับเข้าที่ข้อมือผมก่อนจะดึงผมไปเร็วๆ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเขาน้อยๆเป็งเชิงถามว่า จะเอายังไงต่อ ร่างสูงหันมามองหน้าผมก่อนจะเหยียดยิ้มเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร ทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองน่ะแหละที่ลนยิ่งกว่าตัวผม

     

    "ก่อนอื่นก็ต้องจัดการกับชุดที่สะดุดตาสุดๆนั่นของคุณซะก่อน เอ๊ะ... ไม่สิ ก่อนอื่นต้อง..."

     

    "เอ่อ...ผมพยายามจะพูดอะไรซักอย่างหลังจากที่เห็นว่าเขากำลังลากผมเข้าไปในร้าน... ที่ชีวิตนี้ผมไม่คิดที่จะเข้าไปเลยจริงๆ "เบียคุรัน จะทำอะไร..."

     

    เขาหันมามองผมที่ตีสีหน้าคัดค้านอย่างสุดกำลังเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจแล้วลูบหัวผมเบาๆ

     

    "งั้นคุณรอผมตรงนี้แปปนึงนะ ระวังอย่าให้หมอนั่นเห็นคุณเข้าก่อนละกัน"

     

    ผมตอบรับแล้วเขาก็หายเข้าไปในร้านนั้นซักพักก่อนจะออกมาพร้อมกับถุงกระดาษใบหนึ่งแล้วลากผมเข้าไปที่มุมตึกแล้วหยิบของที่อยู่ในถุงนั่นมาสวมหัวผมเร็วๆ

     

    ไอ้นี่มัน...

     

    "วิกงั้นเหรอผมพูดอย่างรับไม่ได้สุดๆ "นี่... ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้มั้ง อย่างน้อยผมก็ใส่แว่นกันไว้อยู่แล้วนะ เขาไม่น่าจะจำผมได้หรอกมั้ง"

     

    "กันไว้ดีกว่าแก้ครับ สึนะโยชิคุง แค่แว่นกิ๊กก๊อกอันนึงมันจะไปหลอกใครได้นอกจากคนโง่ละครับ โชจังไม่ใช่คนโง่นะ"

     

    "อ้อ เหรอ เข้าข้างเขาดีจังเลยนะ นายน่ะผมเบ้หน้า พลางเอื้อมมือไปแตะๆกับวิกสีน้ำตาลอ่อนที่อยู่บนหัว นับว่าหมอนี่หาได้เก่งมากเลยนะ ถึงได้สีที่ใกล้เคียงกับสีผมของผมจริงๆขนาดนี้ ตัววิกยาวประบ่า แถมดูท่าจะผ่านการซอยมาไม่ใช่น้อย ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างสูงจ้องหน้าผมแบบไม่กระพริบตา ทำให้ผมเริ่มออกอาการประหม่า มือหนาเอื้อมมาถอดแว่นออกจากหน้าผมช้าๆแล้วสบตาผม ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าของเขานิ่งๆ ก่อนจะพิงหัวของตัวเองลงไปกับกำแพงที่เย็นเฉียบด้านหลังในขณะที่ร่างสูงค่อยๆโน้มหน้าลงมือจูบผมช้าๆ เบาๆ แต่เนิ่นนาน

     

    ถ้าผมเป็นคนที่ยืนอยู่ด้านนอก เป็นคนที่กำลังมองมาอยู่ ผมจะคิดยังไงนะ... ทำไมจะต้องมายืนจูบกันซอกตึกด้วย ที่กว้างๆดีๆกว่านี้ก็มีตั้งเยอะ ทำไมจะต้องทำเหมือนคอยหลบๆซ่อนๆด้วย ทำไม... ถึงต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากแบบนั้น

     

    ลิ้นอุ่นสอดเข้ามาในโพรงปากของผมอย่างนุ่มนวล ได้ยินเสียงลมหายใจของเขาเลย ผมพยายามตวัดปลายลิ้นของตัวเองตอบรับเขา ถึงจะตามจังหวะของเขาไม่ค่อยจะทันก็เถอะ อยากจะหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้... อ่า แย่ละสิ อยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้วมันทำให้ทุกอย่างตื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออก คิดอยู่อย่างเดียว... อยากจะอยู่กับเขา อยากจะอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด... อยากจะ... ให้เขาสัมผัสมากกว่านี้

     

    เบียคุรันผละจูบออกช้าๆพลางมองผมที่กำลังหายใจหอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ

     

    "น่ารักจังเลย สึนะโยชิคุง ที่พูดเมื่อกี๊เนี่ย หึงเหรอครับ"

     

    "แฮ่ก... แฮ่ก...เขาสวมกอดผมพลางซุกหน้าลงมือบนหน้าอกแล้วถูไปถูมาอย่างหมั่นเขี้ยว ผมวางมือลงบนไหล่กว้างก่อนจะส่งยิ้มให้ร่างสูงเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมามองผม

     

    "งั้น ไปดูเสื้อผ้ากันเถอะครับ ให้ตาย... ตอนนี้คุณดูเหมือนเด็กผู้หญิงจริงๆนะ"

     

    "อ่ะ...นั่นมันไม่ใช่คำชมใช่ไหม

     

     

    เขาพาผมไปเดินเข้าออกร้านนั่นร้านนี่อยู่ซักพักจนผมตอนนี้เริ่มคิดหน่อยๆแล้วว่าเวลาที่เรากำลังเสียไปมันคุ้มค่าไหมนี่? แล้วตอนนี้ที่ผมกำลังคิดอย่างคือ... ทำไมเขาเชี่ยวชาญเรื่องเสื้อผ้าผู้หญิงจังละ!!

     

    "อะ นี่ครับ สึนะโยชิคุง ลองใส่ดู"

     

    "อะ...อ้ะ...ผมพูดน้ำเสียงขาดๆหายๆเมื่อเห็นกระโปรงยีนสั้นกุดที่อยู่ในมือของร่างสูง"บะ... บ้าเรอะไม่เอานะนะ... นายคิดจะทำอะไรน่ะผมพูดพลางเริ่มถอยกรูดไปติดกับกำแพงด้านหลังในห้องลองเสื้อในขณะที่ร่างสูงย่างฝีเท้าเข้ามาหาผมแล้วคว้าหมับมาที่ตัวผมก่อนจะเลื่อนมือมาปลดเข็มขัดผมออกเร็วๆ

     

    "เฮ้ยยยย เบียคุรัน มะ... ไม่เอาน้า!!! อ๊าาาา!!!" ผมโวยลั่นพลางพยายามปัดมือเขาออก แต่ร่างสูงกลับเอื้อมมือมาคว้าข้อมือทั้งสองข้างของผมเข้าไปไว้ในมือเขาได้อย่างง่ายดาย

     

    "ชู่... อย่าเสียงดังสิครับ เป็นเด็กดีสิ ถ้าคุณไม่ทำตัวให้เป็นเด็กผู้หญิงแล้วต้องไปเจอกับโชจังขึ้นมาอีกจะทำยังไง"

     

    "อึก... นั่นมันข้ออ้าง...ชัดๆ อ๊าาา!!! เข้าใจแล้วผมจะใส่ปล่อยผมก่อนสิ อื๊อออ...ผมครางเบาๆเมื่อร่างสูงซุกหน้าลงในซอกคอแล้วประทับรอยแห่งความเป็นเจ้าของไว้แรงๆ

     

    "อ๊ะ...!!!"

     

    "คิก งั้นผมจะไปรอข้างนอกนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะไปเอาเสื้อมาให้ เป็นเด็กดีนะครับเบียคุรันพูดทิ้งท้ายเป็นคำขู่กรายๆแต่ก็พอที่จะทำให้ผมสั่นได้เหมือนกัน สั่น... ในอีกความหมายนึงน่ะนะ

     

    "//////" ให้ตายเถอะ!

     

     

     

    "งั้น... ตกลง คุณจะเอาคันนี้ใช่ไหม"

     

    "อื้มผมตอบรับสั้นๆ ยังคงอารมณ์หงุดหงิดแกมอายๆหลังจากที่ออกมาจากร้านเสื้อผ้าที่ไปร้านล่าสุด นี่ถ้าแม่มาเห็นสภาพผมตอนนี้...  ไม่ช็อกตายก็ต้องดีใจจนตัวลอยแหงๆ(ทำไมผมมีลางสังหรณ์ว่ามันจะเป็นข้อหลังมากกว่านะ) ผมเหลือบมองตัวเองที่อยู่ในกระจกแล้วก็แต่แดงวาบกับสภาพของตัวเอง

     

    ไม่อยากจะยอมรับเล้ย... แต่คนที่อยู่ในกระจกนั่นน่ะ มองมุมไหนก็ผู้หญิงชัดๆ!!!

     

    "งั้น เดี๋ยวผมจ่ายเงินก่อนนะ ให้ตายสิ ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณคิดจะเอารถจักรยานมาเป็นยานพาหนะในการเดทของเราคราวนี้น่ะ"

     

    "ไม่ใช่แค่คราวนี้หรอกน่ะ วันหลังถ้าเราจะไปที่ไหนใกล้ๆก็เอาจักรยานไปนี่แหละผมรีบพูด "นายคงไม่ได้คิดจะซื้อจักรยานมาเพื่อใช้วันเดียวแล้วก็ทิ้งหรอกนะ?"

     

    "เอ่อ...เขาชักสีหน้าลำบากใจเป็นเชิงว่า... เขาคิดแบบนั้นจริงๆ

     

    "นี่... ไม่ใช่กระดาษทิชชู่นะ จะได้ใช้แล้วทิ้งน่ะผมชักสีหน้า "ที่ฉันใช้รถจักรยานน่ะ เพราะเบื่อที่จะนั่งรถแล้วมันก็เท่านั้น แถม... ยังช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้ด้วยน้า"

     

    "แล้วก็ให้ผมขี่เนี่ยนะ?" เบียคุรันเลิกคิ้ว "ฉลาดสุดๆเลย คุณเนี่ย"  

     

    ผมแกล้งต่อยเขาเบาๆที่ไหล่ ร่างสูงแกล้งเอามือกุมแล้วทำสีหน้าอย่างกับว่าเจ็บเสียเต็มประดา

     

    "เอ้อ... ให้ผมจ่ายด้วยครึ่งนึง นายไม่ต้องจ่ายทั้งหมดหรอกผมรีบพูดเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะจ่ายเงินค่าจักรยาน

     

    "เอ๊ะ? ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมจ่ายให้เอง"

     

    "ก็บอกว่าจะจ่ายไงเล่าหนอยไอ้นี่... ทำอวดรวยเรอะ "ถ้านายจ่ายแค่คนเดียวจักรยานคันนี้มันก็ไม่ใช่'ของเรา'น่ะสิผมพูดด้วยสีหน้าที่เริ่มร้อนขึ้น

     

    เบียคุรันมองผมน้อยๆก่อนจะเหยียดยิ้มอย่างเอ็นดู เขาเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ ถึงตอนนี้จะใส่วิกอยู่ก็เถอะ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้นั่นรู้สึกดีน้อยลงเลยซักนิด

     

    ในที่สุดพวกเราสองคนก็ได้ถอยรถคันใหม่ร่วมกันจนได้ ฮ่า...ฮ่า... รู้สึกดีเหลือเกิน รถจักรยานคันเหลืองของพวกเรา ไม่ต้องใช้น้ำมัน ไม่ต้องใช้แก๊ส ใช้แต่แรงของคนที่อยู่ข้างๆก็เพียงพอ

     

    "นี่ เบียคุรันผมสะกิดเขาเบาๆขณะที่เขาขึ้นไปคร่อมบนรถจักรยานแล้วเรียบร้อย

     

    "หืม อะไรครับ"

     

    "ผมใส่กระโปรงน่ะ ถ้านั่งซ้อนมันก็เปิดหมดดิ"

     

    "..." เขาหันมามองผมช้าๆ "งั้นคุณก็ทำยังไงก็ได้ที่ไม่ให้มันเปิดสิครับ"

     

    "..." ชิ อุตส่าห์จะหาเรื่องเปลี่ยนเป็นกางเกงซะหน่อย

     

    ผมเบ้หน้าเหมือนเด็กอนุบาลที่โดนคุณครูขัดใจ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นกับบุคคลที่ไม่อยากจะเจอในเวลาแบบนี้อีกครั้ง

     

    "เบียคุรัน... โชอิจิน่ะ..."

     

    "ครับ ผมเห็นแล้ว แล้วดูท่าทางว่าเขาจะเห็นผมแล้วเหมือนกันนะครับร่างสูงตอบด้วยท่าทีสบายๆทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังลนลานอยู่แท้ๆ แค่จับผมไปเปลี่ยนนู่นเพิ่มนี่หน่อยก็มั่นใจขนาดนี้เลยเหรอ

     

    "หะ...เห็นแล้วเหรอ แล้วเขา..."

     

    เบียคุรันถอนหายใจแล้วหันมาตำหนิผม

     

    "นี่ถ้าคุณรีบๆขึ้นมันก็จบแล้วแท้ๆ สายไปแล้วครับ ตอนนี้เขากำลังเดินมาแล้ว ให้ตายสิ คุณนี่นะ"

     

    "อะ... ขอโทษ ผมไม่รู้นี่ว่า..."

     

    "ไงครับ คุณเบียคุรันเฮือก... โจทก์มาแล้ว.... "ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะครับ แต่ผมไม่ยักรู้ว่าคุณเบียคุรันมีแฟนแล้ว"

     

    ผมก้มหน้าหลบตาของบุรุษผู้มีนามว่าอิริเอะ โชอิจิลงงุดๆ มือขวาขยับแว่นตาที่อยู่บนหน้า ภาวนาให้มันช่วยให้เขาจำผมได้ยากขึ้นสักนิดทีเถอะ

     

    "ยังมีอีกหลายเรื่องครับ ที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวผมน่ะ โชจังร่างสูงเหยียดยิ้มหวาน ในขณะที่ผมเริ่มคิดตามคำพูดนั้น

     

    ใช่... ยังไม่รู้อีกหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องที่เขาเป็นแฟนกับบอสของแฟมิลี่เป็นศัตรูคู่แค้นด้วย พอคิดได้แบบนั้น ความคิดที่ว่าผมคือคนที่รู้จักเขาดีที่สุดมันก็ชวนให้ใจชื้นขึ้นยังไงไม่รู้ คงเพราะก่อนหน้านี้ผมเห็นเขาสนิทกับโชอิจิมากๆล่ะมั้งถึงได้กังวลนู่นนี่น่ะ

     

    "..." คนใส่แว่นมองหน้าผมนิ่งๆอย่างแปลกใจทำให้ผมเสียวสันหลังวาบ ใจเต้นตุ่มต่อมๆจนมือไม้เริ่มพันกันไปหมดแล้วเนี่ย

     

    "แล้ว... โชจังมีธุระอะไรกับผมรึเปล่าครับ"

     

    "อ๊ะ... อ้อ เปล่าครับ ผมไม่คิดว่าวันที่เราหยุดมันจะบังเอิญตรงกันขนาดนี้ พอเห็นคุณผมก็แค่เข้ามาทักทายเฉยๆเท่านั้นเองโชอิจิปฏิเสธ พลางทำท่าเหมือนจะพูดอะไรกับผมซักอย่างแต่ก็ไม่ได้พูด

     

    "งั้น ถ้าไม่มีอะไร ผมขอตัวนะครับ วันนี้เรามีเวลาอีกไม่มากแล้วด้วยวันนี้... จริงด้วย เสียเวลาไปมากโขเหมือนกันแฮะ

     

    ผมรีบขึ้นซ้อนท้ายจักรยานเร็วๆ หลังจากที่เขาพูดประโยคนั้นจบ

     

    "อ่า ครับ คุณเบียคุรันไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่านะ แต่รู้สึกเหมือนสีหน้าของคนๆนี้... จะเจื่อนลง "ยังไงก็... อย่ากลับเย็นนักนะครับ"

     

    "อื้ม รู้แล้วน่าร่างสูงเอ่ยตอบ แต่แวบหนึ่ง ผมเห็นแววตาที่บอกถึงความรู้สึกผิดของเขา

     

    รึว่าการที่เราสองคนมาคบกันแบบนี้... มันจะเป็นเรื่องที่ผิดกันนะ

     

     

     

    "เอ้า นั่งซึมจัง สึนะโยชิคุง ยังจะไปอยู่อีกรึเปล่าเนี่ย สวนสนุกน่ะผมได้ยินเสียงเขาพูดผ่านแผ่นหลังที่ผมกำลังนั่งพิงอยู่พร้อมๆกับเสียงลมที่มันประทะเข้ามาเรื่อยๆ

     

    "อืม... ไม่อะ ไปทะเลกัน"

     

    "เห? ทะเลเหรอ? ทำไมละเขาถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ผมถอนหายใจเบาๆ

     

    "อยากจะไปที่สงบๆน่ะ อยากจะคิดอะไรซักหน่อยผมพูดพลางจับชายเสื้อของคนข้างหน้าให้แน่นขึ้น

     

    "..."

     

    "ไม่ได้เหรอ?"

     

    "เปล่าครับ ถ้าคุณต้องการละก็...เขายักไหล่ก่อนจะเงียบลงไป

     

    "..." แล้วทุกอย่างก็ตกสู่ความเงียบอีกครั้ง มีเพียงเสียงลมกับรถไม่กี่คันที่ผ่านมาเท่านั้น

     

    ผมรู้ เขาก็คงต้องการเวลาคิดเหมือนกัน จริงๆ... ผมไม่อยากจะให้เขาคิดเลย อย่าคิดถึงอะไร อย่าคิดถึงแฟมิลี่ เพราะถ้าเขาคิด เขาอาจจะเลือกแฟมิลี่ก่อนจะเลือกตัวผมก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ... ผมจะทำยังไงดีนะ

     

    ผมถอดแว่นที่อยู่บนใบหน้าของตัวเองออกแล้วใส่เข้าไปใหม่อย่างใช้ความคิด ผมรักแฟมิลี่นะ... ถ้าหากตั้งคำถามกับตัวเองผมก็สามารถตอบได้เลยว่ารักมาก แต่ถ้าให้เลือกกับคนข้างหน้าน่ะเหรอ... ผม... ผมไม่รู้หรอก ผมเลือกไม่ได้ แล้วเขาเอง... ก็คงจะเหมือนกัน


     

    "เอ้า สึนะโยชิคุง หลับไปแล้วเหรอครับ ตื่นได้แล้ว"

     

    "อือออ...ผมครางก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆก่อนจะหันไปมองทิวทัศน์รอบๆที่เปลี่ยนจากท้องถนนเป็นท้องทะเลสีครามแทน ก่อนจะตาสว่างเมื่อนึกถึงระยะทางทั้งหมดที่เขาขับมาให้

     

    "บะ... เบียคุรัน นายไม่เมื่อยเหรอ ให้ฉันขี่บ้าง มา สลับกัน"

     

    "หึๆๆ ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงก็ถึงแล้วนี่ ว่าแต่คุณเถอะ สบายจังนะครับ นอนอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวเถอะ ทำแบบนี้ ผมเอาคืนหนักนะครับ"

     

    "อ่ะ...ผมหน้าแดงเมื่อนึกถึงคำว่า 'เอาคืนของเขามันเป็นยังไง "เอ่อ... นี่ ตอนนี้กี่โมงแล้วเหรอ"

     

    "4โมงกว่าๆแล้วครับ คุณจะลงไปเล่นน้ำรึเปล่า"

     

    ผมส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ

     

    "เราไปนั่งคุยกันเถอะ ยังไงมันก็จะหมดวันแล้วนี่ จอดได้แล้วมั้ง จักรยานน่ะ"

     

    "คร้าบ คร้าบ สั่งจังนะ คุณเนี่ย"

     

    "..." เอ๊า ผมผิดอีก

     

    ผมลงจากจักรยานแล้วซอยเท้าไปริมหาดเร็วๆ ไม่ได้ออกมาแบบนี้นานขนาดไหนแล้วนะ เดี๋ยวนี้ต้องเอาแต่ขลุกตัวอยู่กับงาน ไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกแบบนี้เท่าไร แต่ว่า... นี่ถ้ารีบอร์นจับได้ว่าออกมาข้างนอกละก็... ตายหยังเขียด นี่ยังไม่นับกระทงที่ผมมากับบอสของมิลฟีโอเล่แฟมิลี่หรอกนะ เฮ้อ...

     

    ผมถอดรองเท้าของตัวเองออกแล้วเดินเลียบน้ำทะเลให้น้ำมันซัดเล่น ชักรู้สึกว่าที่ใส่มาสั้นๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ น้ำมันจะได้ไม่โดน (ถึงมันจะเป็นกระโปรงก็เถอะ)

     

    "เบียคุรัน มาเล่นกัน!" ผมเอ่ยเรียกเขาดังๆ เพราะแถวๆนี้ไม่มีใครอยู่เลย รู้สึกดีจัง

     

    เขายิ้มให้ผมก่อนจะเดินตามมาด้วยสีหน้ายิ้มๆ แสงแดดอ่อนๆที่ส่องผ่านตัวเขาไปยิ่งทำให้เขาดูเด่นมากขึ้น น้ำเย็นๆที่ซัดอยู่ที่เท้าทำให้ผมรู้สึกสบายสุดๆ เขาถอดรองเท้าไว้ข้างๆคู่ของผมก่อนจะเดินมาหาผม

     

    "เหมือนเด็กๆเลย สึนะโยชิคุง ผมไม่ได้เห็นคุณยิ้มแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ"

     

    "อะไรกัน ผมยิ้มออกจะบ่อยนะผมหัวเราะร่วน "สงสัยเพราะฉากหลังช่วยให้ดูดีขึ้นมั้ง"

     

    "นั่นสิ ต้องใช่แน่ๆเลยเขามองวิกที่ผมสวมอยู่บนหัวที่กำลังปลิวไสวตามแรงลมด้วยใบหน้ายิ้มๆ นั่นสินะ... นานขนาดไหนแล้วที่ไม่เห็นเขายิ้มแบบนี้ รึมันจะเป็นเพราะฉากด้านหลังช่วยให้ยิ้มนั่นดูเปล่งประกายขึ้นอย่างที่ผมคิดกันนะ

     

    ซ่า...

     

    "อืม... แบบนี้มัน โรแมนติกกว่าที่คิดเยอะเลยนะครับ?"

     

    "หืม? งั้นเหรอผมเลิกคิ้ว "ฉันนึกว่าคำว่าโรแมนติกสำหรับนายมีแต่เรื่องบนเตียงซะอีก"

     

    "คุณจุดประกายเรื่องนี้ขึ้นมาเองนะครับร่างสูงตาวาววาบ ในขณะที่ผมหมุนตัวเตรียมติดเกียร์หมาทันที "อย่าหนีสิครับ วองโกเล่ แบบนี้ไม่แน่จริงนี่นา"

     

    "เหวอออ ไม่เอานะ ก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเองอ้ะ!!!" ล้อเล่นเรื่องพวกนี้กับหมอนี่ทีไร เป็นได้เรื่องทุกทีสิน่า!!!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×