คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1(100%)
Chapter 1
ในเช้าวันที่อากาศดี๊...ดี จนผมแทบคลั่ง ผมเดินกระฟัดกระเฟียดออกมาจากห้องนอน ถามผมว่าเพราะอะไรน่ะเหรอ? ...ถามได้ ก็ผมดันเจือกสอบติดโรงเรียนข้อสอบกวนบาทานั่น ...แต่ก็ดีอย่างหนึ่ง คือ พวกเพื่อนๆผมมันสอบติดกันหมดเลยไง แถมได้อยู่ห้องเดียวกันอีก ฮ่าๆๆ (ใครไม่ติดก็ประสาทไม่ก็โง่เต็มทนน่ะ) ผมนี่ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมนักเรียนโรงเรียนนี้ถึงมีเยอะ ทั้งๆที่เปิดแค่ชั้นม.4-6 เท่านั้น (ก็เล่นเหยียบสามพันคนยังงั้น)
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของผม กับชุดนักเรียนใหม่ๆ ซึ่งผมเพิ่งได้ตรัสรู้เห็นชาติว่า... มันเป็นชุดเดียวกับ ไอ้โรงเรียนที่ตีกันหน้าบ้านผมเมื่อเดือนก่อนนั่นแหละครับ!!! ผมเลยต้องกระฟัดกระเฟียดที่ดันมาติดโรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่าดีนักดีหนา แต่ในโพรงนี่ไม่มีอะไรเลยน่ะสิครับ ...ให้ตายเถอะ ก็เพราะรับเข้ามาด้วยข้อสอบปัญญาอ่อนนี่หว่า (เริ่มพาลแล้วครับท่าน)
“เท็มจ๊ะ เท็ม ลงมากินข้าวได้แล้วลูก” แม่ผมตะโกนดังสนั่นหวั่นไหว ประเทศไทยถล่ม เพื่อเรียกผมลงไปกินข้าว - -
“ผมกำลังลงไปครับแม่” ผมชะโงกหน้าออกไปบอกแม่ตรงระเบียงหน้าห้อง แล้วรีบเดินลงไปหาแม่ ก่อนที่แม่จะตามผมลงมาทำหมูหันซะก่อน
“โห่ พี่ตื่นเต้นมากเหรอที่ได้ไปโรงเรียนใหม่น่ะ ดูแต่งซะ” ไอ้น้องปากดีของผมมันทักขึ้น ทันทีที่ผมโผล่หัวให้มันเห็น (สาบานได้ว่านี่น่ะน้องผม)
“ปากดีนักนะแก ของพี่น่ะแต่งดีเพื่อให้เกียรติ์โรงเรียน แต่แกน่ะ แต่งตัวอย่างกับกุ๊ยข้างถนน ยังมีหน้ามาว่าพี่อีกเรอะ” ผมด่ามัน แล้วเอามือไปตบหัวมันเพื่อสั่งสอน
“มีดิพี่ หน้าผมก็อยู่บนหัวนี่ไง มันไปไหนไม่ได้ซะหน่อย” ว่าแล้วมันก็หัวเราะอีก จนผมเอาฝาหม้อข้าวขึ้นมาขู่นั่นแหละครับ ถึงจะหยุด
“เดี๋ยวเหอะแก นี่เด็กม.2 แน่เหรอวะ กวนส้นจริงๆเลย อย่างนี้สักวันนะ ต้องมีคนมากระทืบแกเพราะหมั่นไส้แหงๆ” ผมบ่นๆ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ประจำ แม่ก็ยกจานผัดผัก ไก่ทอด หมูกระเทียมออกมาตั้งไว้บนโต๊ะ
“บ่นมากน่าพี่ พี่นะครับ ไม่ใช่แม่ผม” ดูมันพูด แถมดูมันทำนะครับ หันไปกอดแม่ที่กำลังจัดโต๊ะ แล้วลูบหน้าไปมาเหมือนลูกหมาอ้อนแม่ - -...
“ชิ ทำเป็นอ้อนนะ แน่จริง เรียนเกรดดีให้แม่ภูมิใจหน่อยสิเว้ย” ผมนึกคำเด็ดๆแล้วเอามาแหย่มันเล่น แม่ก็เล่นด้วยผลักไอ้ทิ้วออกห่างตัว แล้วพยักหน้า ฮ่าๆๆ สะใจครับ ขอบอก
“แม่อ่ะ” มันทำหน้างอนแม่ แม่ก็เลยได้แต่ส่ายหัว ก่อนจะลูบหัวมัน แล้วนั่งลงตรงที่ข้างพ่อ
“สมน้ำหน้า เป็นไงล่ะ หึๆๆ” ผมส่งเสียงหัวเราะในลำคอไปถากถางมัน มันเลยได้แต่ส่งสายตาจิกๆมาทางผมแค่นั้น แล้วผมก็เริ่มจัดการสวาปามอาหารลงท้องจนเกลี้ยง
“แม่ งั้นผมไปก่อนนะครับ” แม่พยักหน้ารับ แล้วให้เงินผมมาสองร้อย ผมยิ้มให้แม่ แล้วไหว้ตามมารยาท (เห็นไหมว่าผมน่ะเด็กดี) ส่วนพ่อผมก็ออกรถไปโดยหอมแก้มแม่ผมทีนึง แล้วบอกลาก่อนจะไป
ไอ้น้องผมน่ะเหรอ รับตังส์ไหว้เสร็จก็ผลุบหายไปอย่างรวดเร็ว - -...
“เรียนดีๆนะลูก ใช้เงินเก็บๆบ้างนะ” แม่พูดกับผม แล้วลูบหัวด้วยความเอ็นดู ...ลูกคนโปรดก็เงี้ยแหละครับ ฮ่าๆๆ...
ผมชิ่งออกจากบ้านมา ไปที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งรอไม่นานรถมันก็มาตามเวลาเป๊ะๆ ผมขึ้นรถไปอัดกับผู้คนบนรถที่เริ่มคล้ายๆปลากระป๋อง มีเด็กหลายคนที่เป็นเด็กโรงเรียนผม ส่วนมากจะเป็นผู้ชายท่าทางทึกๆทั้งนั้น - - (ทำไมไม่มีผู้หญิงสวยๆบ้างฟะ โรงเรียนนี้)
ผมโหนตัวอยู่บนรถเมล์ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงเป้าหมาย ...โรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนเอกชนที่ดีที่สุดในประเทศ... จะภูมิใจดีไหมเนี่ย
พอผมลงมาจากรถเมล์ ผมก็เจอเพื่อนๆมันมาออรอผมอยู่ที่ข้างสนามฟุตบอล ครบเลยล่ะครับ สงสัยจะอยากมาเหล่สาวมาก เพราะดูสายตาพวกมันมองสาวแต่ละคนสิ เยิ้มเชียว - -...จำไว้นะครับ มันไม่ใช่เพื่อนผม ฮ่าๆ
“เฮ้ย มองห่าอะไรกันหนักหนา” ผมทักทายเพื่อนด้วยการตบเรียงหัวทีละคน อย่างที่เคยชิน
“แม่ง อะไรวะ นานๆทีจะมีสาวๆโผล่มาให้เห็น ที่โรงเรียนนี้ก็ดันส.ใส่เกือกมีแต่พวกทึกๆทั้งนั้น มองหน่อยไม่ได้เหรอวะ” ไอ้อาร์ตหันมาด่าผม ทันทีที่ผมตบหัวมันเป็นคนสุดท้ายเสร็จ
“ไม่ได้บอกว่าไม่ได้นิ คนไหนๆวะสวยๆน่ะบอกข้าให้ดูบ้าง” ผมเล่นไปกับมัน มันก็หัวเราะหน่อยๆ แล้วชี้ไปที่สาวน้อยคนนึงที่มีเพื่อนติดสอยห้อยตามอีกเป็นสิบ (ทั้งกะเทยทั้งหญิงแท้) หน้าตาเธอก็น่ารักดีนะครับ ตัวเล็กๆ ผมยาวถึงกลางหลัง ผิวขาวแบบจีนๆ แต่ตาโตมากๆ ...โอ้ย ถูกใจใช่เลย
“น่ารักใช่ไหมล่ะ คนนี้ข้าจองนะเว้ย ฮ่าๆ” ไอ้อาร์ตพูด ที่เหลือก็เลยหันขวับมามองมันอย่างเคืองๆ
“เชี่ย เอ็งหน้าตาดีมากรึไงวะ ถึงได้เสนอหน้าไม่ดูเพื่อนเลยยยย” ไอ้บอสมันด่า แล้วตบหัวไอ้อาร์ตเป็นการลงโทษ
“โอ๊ยๆ ข้าก็แค่พูดเล่นๆ จริงจังไปได้ ไอ้เวร...” ไอ้อาร์ตมันก็เว่อร์ตามนิสัยมันต่อไป ซึ่งผมก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะผมเจ็บมือง่ะ ขี้เกียจตบ แถมหัวมันใช่ว่าหอมตายล่ะ - -...
“เออๆ ไหนๆก็มากันครบแล้วก็รีบๆไปเหอะว่ะ เดี๋ยวแม่งไม่มีที่นั่งพอดี” ไอ้ต๋อง ผู้ที่เป็นเด็กเรียนที่สุดออกปากเตือนเพื่อนๆ
“เออว่ะ ลืมเลยเนี่ย” ไอ้เอกพยักหน้าหงึกหงัก ที่เหลือก็เลยต้องตามๆกันไป
จนถึงห้องเรียน...ม.4/13 เลขนี้ผีไม่หลอก (รึเปล่าหว่า - -...)
“เลขสวยมากเลยว่ะแกเอ๊ย” ผมทักขึ้น เมื่อเห็นเลขห้องและเลขที่ตัวเองเมื่อมองไปที่กระดาษรายชื่อหน้าห้อง “คนที่13เนี่ยนะ ข้ารับไม่ได้ว่ะ” ผมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ให้พวกนั้นเห็นใจ แต่มันก็แค่ยิ้มสมน้ำหน้า แล้วเดินลิ่วเข้าห้องไปเลย...ไอ้เพื่อนเวงๆๆ...
“นั่งหลังห้องดีไหมวะ ยังว่างๆ” ไอ้บอสบอก ไอ้กริชที่เป็นคนเงียบๆมันไม่พูดอะไร มันนั่งลงไปตัวสุดท้ายติดหน้าต่าง ไอ้บอสมันยิ้มให้เพื่อนสนิทมันก่อนจะวางกระเป๋าแล้วนั่งลงข้างๆไอ้กริช พวกผมว่าไงก็ว่าตามกัน ก็นั่งล่นลงไปเรื่อยๆ เพราะแต่ละแถวมันมีสองตัว ผมก็นั่งหลังไอ้เอกกับไอ้ต๋อง ซึ่งมันเป็นเด็กเรียนเลยขออยู่หน้าๆหน่อย ผมนั่งกับไอ้อาร์ต ไอ้ปิ๊กนั่งกับไอ้โบ๊ต ไอ้กริชนั่งกับไอ้บอส ตามระเบียบ
“เฮ้ย! เท็มๆ เอ็งดูนั่นดิ ผู้หญิงคนนั้นไง เชี่ย อยู่ห้องเดียวกับเราด้วยว่ะ สัด น่ารักฉิบหาย” ไอ้อาร์ตมันชี้ไปทางผู้หญิงคนเดิมที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง โดยถูกจับจ้องด้วยสายตาของผู้ชายในห้อง รวมทั้งไอ้พวกสมาคมเพื่อนผมทั้งหลายด้วย - -...
ผมมองที่ผู้หญิงคนนั้นที่เดินเข้ามาในห้องเพียงคนเดียว และไร้วี่แววของเพื่อนที่เคยเดินตามกันมา (สงสัยอยู่คนละห้องกันมั้ง ก็ใครจะบ้าได้มาอยู่ห้องเดียวกันแบบพวกผมล่ะครับ) เธอมองซ้ายมองขวาอย่างอึดอัดสายตาที่มองมาซะเหลือเกิน ผมถอนหายใจ พลางยิ้มให้เธอ เมื่อเธอกวาดสายตามาปะทะกับผมพอดี เธอยิ้มแหยๆคืนให้ผม แล้วเดินมานั่งที่ข้างๆผมในแถวถัดไปที่ยังว่างอยู่ (ผมเพิ่งรู้สึกตัวเองนะครับ ว่าผมหน้าตาดี ฮ่าๆ)
“หวัดดี นาย
“อืม ดีๆ เราชื่อเท็ม ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” ผมตอบอิ๊งค์ไป ทั้งๆที่ไม่สบตาเลย
“อือ เท็มมาจากโรงเรียนไรอ่ะ เรามาจาก สตรีราชินีน่ะ” อิ๊งค์ว่าไปเรื่อย เหมือนตั้งใจจะชวนผมคุย แต่ผมรู้สึกได้ถึงบรรยากาศรอบๆตัวผม ซึ่งมันมาคุชอบกล =___= ผมเลยต้องรีบหันไปมองเธอ เพื่อกลบความรู้สึกรอบๆตัวนั่นทิ้ง (ได้โอกาสเลย หึๆ)
“สตรีราชินี โรงเรียนดังเลยนิ เรามาจาก วรวุฒิบุรุษ แทบฝั่งธนฯน่ะ” ผมเริ่มคุยอย่างลื่นไหล เพราะอิ๊งค์ก็ไม่มีท่าทางขัดเขิน ทั้งๆที่เพิ่งเจอผมไม่ถึงสองนาที
“โห ก็ดังไม่เบานี่ โรงเรียนรวยเลยนะเนี่ย” อิ๊งค์ยิ้มทีนี่ ผมล่ะอยากจะละลาย ...มองไกลๆก็รู้สึกงั้นๆ พออยู่ใกล้ๆเธอกลับรู้สึกว่า แม่งงงง น่ารักฉิบหายวายวอดเลย!!
“แล้วมากับเพื่อนกี่คนอ่ะ เพื่อนเราถูกแยกกันหมดเลยอ่ะ” เธอทำหน้าเบ้ๆเล็กน้อย เหมือนจะแสดงอาการเสียดาย
“อ๋อ มากับเพื่อนอีกเจ็ดคนน่ะ นี่ไง ไอ้พวกเนี้ย” ผมชี้ตั้งแต่แถวรองจากแถวหน้าผมมายันด้านหลังสุดของห้อง “ได้อยู่ห้องเดียวกันหมดเลยน่ะ ไม่รู้ว่าเพราะไรเหมือนกัน” ผมยิ้มฝืดๆให้เธอ ไอ้เพื่อนตัวดีของผมก็เริ่มหันมาสนใจแล้ว เพราะรู้ว่าผมต้องแนะนำมันให้รู้จักแน่ๆ
“ดีอ่ะ กลุ่มเดียวกันหมดเลย แล้วนี่มีใครบ้างอ่ะ กลุ่มเท็มคนเยอะจัง” อันที่จริงนะ ผมว่ากลุ่มอิ๊งค์ตอนที่เดินมาน่ะ เยอะกว่าผมอีกนะนั่น
“อ๋อ เริ่มจากไอ้นี่ก่อนเลยล่ะกัน” ผมชี้ไปที่ไอ้เอกที่นั่งริมหน้าต่างด้านหน้าผม “นี่เอก ต๋อง นี่อาร์ต ส่วนสองคนนี้ก็ปิ๊กกับโบ๊ต แล้วก็หลังๆนู่น คนริมชื่อกริช นั่นชื่อบอส อืมๆ คนเยอะน่ะ อาจงงๆหน่อยอ่ะ” ผมบอกเสร็จ ก็ยิ้มให้เธออีกรอบ แล้วเธอก็พยักหน้าหงึกหงักตอบ
“อืมๆ จะพยายามจำให้ได้นะ ยินดีที่ได้รู้จักนะทุกคน เราชื่ออิ๊งค์นะ” แล้วอิ๊งค์ก็ยิ้มโปรยเสน่ห์ เล่นเอาพวกนั้นมองเธอตาวาวเลย ถ้าไม่ติดว่าไอ้พวกนี้อยู่ต่อหน้าเธอล่ะก็นะ ผมคงตบกบาลพวกมันไปนานแล้วล่ะครับ
- -+
“ครับ ผมยินดีที่ได้รู้จักคนน่ารักเหมือนกัน” ไอ้อาร์ตนี่รีบเสนอหน้าเลย ดูมันครับ ยิ้มจนแก้มแทบปริแน่ะครับ มันม่อจริงๆ
อิ๊งค์อมยิ้มแล้วทำเป็นไม่สนใจกลับมาคุยกับผมต่อ “เพื่อนเท็มตลกดีเน๊าะ ดูแหวกแนวดี” เธอพูดติดตลก ซึ่งผมก็ได้แต่ยิ้มจืดๆกลับไปให้เธอ
“ฮ่าๆ มันก็อย่างนี้แหละ บ้าๆบอๆน่ะ แต่ก็คุยสนุกนะ” ประโยคหลังนี่ ผมพูดเพราะรู้สึกถึงรังสีแปลกๆรอบๆตัว(อีกแล้ว)น่ะครับ
“เอ้อ แล้วทำไมถึงมาคุยกับเรา ทั้งๆที่ผู้หญิงก็มีเยอะนะ ไม่กวนเราบ้างเหรอ” ผมถามเรื่องที่คาใจผม - - ก็เข้าใจแหละครับว่าหน้าตาก็ไม่ได้ดีมาก จนมีใครมาสนใจ (ถ้ามีคนสน ผมคงมีแฟนนานแล้วล่ะครับท่าน)
อิ๊งค์มองผมครุ่นคิดนิดหน่อย แล้วยิ้มให้ “ก็ไม่รู้สิ สายตาที่นายมองเรามันดีกว่าคนอื่นน่ะ” ฮ่าๆ ดูเหมือนเธอกำลังกวาดตาไปทั่วห้องรวมทั้งมองพวกเพื่อนผมด้วย ประมาณไอ้พวกเนี้ยมองเธอแบบนั้น เธอก็เลยว่าเบาๆ เหมือนกลัวคนจะได้ยิน แล้วมารุมกระทืบเธอทิ้ง
ผมหยักหน้ารับ “อ๋อ อืมๆ” ผมตอบเธอได้แค่นั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก แล้วก็มีหญิง(ไม่)สาวเดินอุ้มพุงของเธอมายืนอยู่หน้าห้องเรียน ผมก็เลยต้องเงียบเสียง เพราะเธอกวาดสายตามารอบๆอย่างเฉียบคม ...
“น่ากลัวอิ๊บอ๊าย” ไอ้อาร์ตทำเสียงหนีบๆ จนผมรู้สึกอยากหัวเราะ
“นักเรียน...ขอแสดงความยินดีที่ได้เข้ามาศึกษาในโรงเรียนแห่งนี้อย่างเป็นทางการ ครูเป็นครูประจำชั้นของพวกเธอ ครูชื่อ สุขศรี รักษ์ระเบียบ ยินดีที่ได้รู้จัก (แปะๆ...มีคนตบมือและเงียบลงด้วยสายตาคมๆของคุณครูที่เคารพ) ขอให้พวกเธออยู่ในความเรียบร้อยตลอดที่เรียนอยู่ที่นี่ ซึ่งทางเราเข้มงวดกับกฎระเบียบมาก ขอให้จำไว้ให้ดี หากใครก่อเรื่องที่ทำให้เสื่อมเสียแกโรงเรียนเรา จะมีการภาคทัณฑ์ ที่โหดกว่าโรงเรียนไหนแน่นอน ขอย้ำว่าไม่ได้ล้อเล่น” แล้วคุณเธอก็ขยับแว่น กวาดสายตาไปทั่วอีกครั้ง แล้วทิ้งตัวนั่งลงกับเก้าอี้เสียดัง (เพราะน้ำหนักตัว)
ทุกคนในห้องเรียนยังคงนั่งนิ่งเงียบ...เงียบจนชักคล้ายๆป่าช้าเข้าไปทุกที เมื่อกี้ผมรู้สึกหนาวๆขึ้นมาง่ะ -*- เจ๊แกน่ากลัวจริงๆ ใครส่งเจ๊แกมาอยู่ห้องกระผมเนี่ย ผมจะเอาระเบิดไปบอมม์บ้านมันทิ้งซะ
“เอาล่ะ ครูจะเช็คชื่อนะ” เจ๊สุขศรีมองที่รายชื่อบนโต๊ะ แล้วเริ่มร่าย... “เลขที่1 นายสุภรัตน์”
“ครับ” มีเสียงขานรับจากผู้ชายฝั่งติดประตูขึ้น ครูสุขศรีพยักหน้า แล้วเรียกต่อไปเรื่อยๆ
“เลขที่ 13 นายธนโชติ” ครูขานเรียกผม
“ครับ” ผมตอบแบบเกร็งๆ ครูสุขศรีขยับแว่นแล้วนิ่ง ก่อนจะมองผม
“เลขที่ 13 เป็นเลขอาถรรพ์ของห้องนี้ ครูว่าเธอเป็นเด็กดีนะ หวังว่าคงไม่ก่อเรื่องให้ครูผิดหวัง” ครูพูดบางอย่างที่ทำให้ทั้งห้องหันมามองผม แล้วครูแกก็กลับไปเรียกชื่อต่อ
“เฮ้ยๆ เลขอาถรรพ์นี่มันคือไรฟะ” ไอ้อาร์ตถามหลังจากที่ครูสุขศรีออกไปสอนในคาบของเจ๊แก
“ข้าจะไปตรัสรู้เองได้ไหมฟะ เอ็งก็รู้พร้อมๆกับข้านิ” ผมตอบมันกวนๆ แล้วยักคิ้วหน่อยๆ มันเลยตบป๊าบเข้ามากบาลผมเต็มๆแทนคำพูด
“เชี่ย ...เอ็ง ตีหัวข้าทำซากพระแสงหอกง้าวไรวะ” ผมเริ่มโวยวายหลังถูกตบโดยไร้เหตุผล ทั้งๆที่ผมก็พูดจริงนะ ถึงผมจะกวนมันหน่อยก็เถอะ (ยังไม่ยอมรับความจริงอีกเน๊าะ)
“ข้าอยากรู้ว่ะ ถ้าบอกว่าเลข 13 เป็นอาถรรพ์ ทำไมมันไม่ข้ามเลขนี้ไปซะก็จบ ไม่ต้องมีใครอยู่ไง” เออว่ะ...ไอ้ต๋อง สมกับที่มันฉลาด คิดได้ไงวะ
“บางที ครูโรงเรียนนี้อาจฉลาดน้อยกว่าเอ็งแค่นั้นล่ะมั้ง ไอ้ต๋อง” ไอ้เอกคู่เพื่อนซี้มันหันกลับมาจับกลุ่มคุย เมื่อผมเริ่มบทสนทนากับไอ้อาร์ต
“นั่นดิ” ไอ้บอสมันเดินมายืนตรงกลางระหว่างผมกับไอ้อาร์ต
“แจ่มว่ะ คิดได้ไงวะ สัด ไอ้ต๋อง โคตรสร้างสรรค์ ฮ่าๆๆ” ก็รู้ว่ามันเป็นคำด่าน่ะนะครับ ไอ้ต๋องเลยชูนิ้วกลางส่งไปให้ไอ้ปิ๊กที่นั่งอยู่บนโต๊ะตัวเอง ซึ่งไอ้ปิ๊กก็ไม่ยอมแพ้ ส่งกลับมาให้มัน แล้วหัวเราะใหญ่ ไอ้ต๋องก็ได้แต่ส่ายหน้าไม่สนใจกับคนบ้าๆที่ไม่ชอบคุย แต่โคตร...ชอบเหน็บแนมคนอื่น
“พอๆๆ ครูมานู่นแล้ว” ครูหนุ่มร่างทึกๆ เดินเข้ามาในห้อง ด้วยท่าทางสงบและใจเย็น ทำให้เสียงเจ๊าะแจ๊ะให้ห้องเบาบางลง...
“หวัดดีนักเรียนทุกคน ครูชื่อ พิเชษฐ์ อุดม สอนฟิสิกส์ ยินดีที่ได้รู้จัก” ครูพิเชษฐ์ดูเป็นคนใจดีคนหนึ่ง ใจเย็นโคตรด้วย ชอบเดินๆวนรอบห้องเพื่อสอนนักเรียน แต่แปลกที่ไม่มีใครคุยกันเลย แต่ที่แปลกกว่า นั่นก็คือ มาวันแรกยังไม่ทันรู้ตารางสอน ก็ให้เอาสมุดขึ้นมาจดแระ - - โหดฉิบ
ผมจดไปเรื่อยๆตามที่ครูบอกทุกประการ สักพัก ครูก็เดินไปด้านหลังห้องตรงกลาง ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่ง ...
ผั๊วะ!!!!
เสียงดังมาก คล้ายเสียงตอนผมโดนไอ้ทิ้วเบิดกะโหลกหลังจากที่ผมนั่งหลับในห้องน้ำ โดยสันหนังสือ
ผมหันไปมองต้นเสียง เด็กผู้ชายที่หน้าตายังตื่นไม่เสร็จดี กำลังคลำหัวตัวเองป้อยๆ เหมือนโดนอะไรกระแทกอย่างหนัก แล้วที่อยู่บนมือครูพิเชษฐ์ก็คือหนังสือฟิสิกส์เล่มหนาปกแข็งซะด้วย...หัวแตกไหมนั่น
“วันหน้าวันหลัง ถ้าครูเห็นหลับในห้องเรียนอีกนะ ครูจะจับไปห้อยหัวลงตึก ดูสิ ยังจะหลับลงอีกไหม” ครูแกว่าไปนั่น ทั้งๆที่ใบหน้ายังยิ้มอยู่เลย - - เหอๆ ตอนนี้ผมรู้ล่ะ ว่าครูโรงเรียนนี้ ไม่มีใจดีสักคนแหงๆ
“เอาล่ะ มาเรียนกันต่อ จากทฤษฎีของวิกตาเกอร์....ฉอดๆๆ” แล้วครูแกก็พล่ามต่อไป ส่วนผมก็หันมาจดหยิกๆน่ะสิครับ
ผมรู้สึกได้ว่าวันนี้คงต้องมีอะไรร้ายๆมาหาผมแน่ๆ เพราะตาซ้ายผมมันกระตุกไม่หยุดเลย ถี่ซะด้วย =___=;; อาจกลับไปโดนพ่อเพ่นกบาล ข้อหาวันนี้แม่ให้เงินเกินจากร้อยเป็นสองร้อยกระมั้ง ...แต่ไม่อยากเจอเลย ถ้าเป็นไปได้...
**********************
เดี๋ยวมาอัพต่อค่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รักคนอ่าน เม้นท์ๆด้วยน้า
ดีใจที่เขาไม่เซ็นเซอร์ง่ะ =__=;;;
ความคิดเห็น