คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Chapter 1] โรงเรียนใหม่
“นี่...แว่น แกจะย้ายไปจริงๆเหรอ” เสียงหวานๆของยัยนวลลอยมากระทบประสาทของฉัน ในขณะที่มือของฉันยังคงง่วนอยู่กับการรื้อข้าวของภายในห้องนอน ที่ตอนนี้มีเพียงนวลกับฉัน
“มันช่วยไม่ได้นี่หน่า ก็ฉันต้องย้ายตามงานของพ่อกับแม่ อีกอย่างนะ...จะให้ฉันถ่อจากกรุงเทพฯมาเชียงใหม่ทุกวันก็คงไม่ไหว” ฉันแจกแจงให้ยัยนวลฟัง แต่มือก็ยังไม่หยุดรื้อ
ถึงแม้ว่าฉันจะพูดเหมือนไม่ใส่ใจ แต่น้ำตานี่มันคลอเบ้าแล้วว้อย!! TOT ไอ้บ้านวล ทำไมแกต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วยฟะ
ฉันพยายามหลบสายตาของนวลอย่างเต็มที่ ก็ใครจะไปอยากให้เพื่อนเห็นน้ำตาว่ะ แล้วยิ่งคนอย่างฉันด้วยแล้วยิ่งไปใหญ่
“...แว่น...” น้ำเสียงเศร้าๆซึมๆ ของยัยเพื่อนสนิทคนเดียวของฉันที่มันรักตัวกลัวตายยิ่งกว่าอะไรดีเมื่อไม่มีฉัน มันทำให้ฉันอยากจะ...บ้องกะโหลกหนาๆของมันสักที
“แกเลิกอ้อนได้ไหมวะ แกเข้าใจฉันบ้างสิ ฉันก็ไม่อยากจากแกเหมือนกัน” พอฉันพูดจบ ยัยเพื่อนรักตัวแสบก็โถมเข้าใส่ฉัน ด้วยใบหน้าที่นองน้ำตาคล้าย (ผี)หมีแพนด้า >[]< อ๊ากกก น่ากลัว
แค่กๆๆๆ
“โอ๊ยยยยย ไอ้นวล ฉันหายใจไม่ออกเว้ยยยย” ฉันบ่นกระปอดกระแปดสลับกับไอค่อกแค่ก เนื่องจากโดนยัยผีแพนด้าที่ตาบวมช้ำยิ่งกว่าอะไรกอดซะแน่น จนไม่มีอากาศหายใจ
“โฮๆๆๆๆๆๆๆ แกนะแก ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป แกต้องโทรหาฉันทุกวันนะเว้ยยย ฟึ้ดดด” ยัยนวลร้องไห้โฮพลางสั่งน้ำมูก
“ไอ้เว่อร์ จะโทรแกก็โทรมาเองดิ เปลืองค่าโทรศัพท์ฉันเว้ย” ฉันที่เริ่มทนไม่ไหว กลัวจะได้ตาย ก่อนจะอายุครบสิบหกพอดี - -“ จึงรีบผละออกจากยัยนวลทันที จากนั้นก็ไอค่อกแค่กหลายทีกว่าจะหยุด
“โธ่...! แกอ่ะ เสียบรรยากาศหมด คนอุตส่าห์จะทำซึ้งๆ เผื่อแกกลับมาเมื่อไร จะได้มีของฝากจากกรุงเทพฯติดไม้ติดมือมาให้ฉันบ้างก็เท่านั้นเอง” ยัยนวลที่เลิกเล่นละครร้องไห้ฟูมฟาย หันมาแลบลิ้นปลิ้นตาเหมือนเด็กๆใส่ฉัน
“อ๊ากกกกกกก ยัยบ้า แกหลอกฉันเหรอออ~~!!!” ฉันที่โง่ให้มันหลอกทำซึ้งอยู่ตั้งนาน พอรู้จุดประสงค์ที่แท้จริง ก็รีบพ่นไฟใส่มันไม่หยุด “งานนี้แกไม่ตายดีแน่” - -+ (ชิ้ง) แล้วเราก็วิ่งไล่กระทืบกันรอบห้องนอนประมาณสามสิบนาที ยัยนวลถึงยอมโบกมือยอมแพ้ อันที่จริง ฉันเองก็เหนื่อยตั้งแต่สิบนาทีแรกแล้วล่ะ แต่ความอายที่โดนหลอกมันมีมากกว่า
“แหม ก็ใครใช้ให้แกโง่ล่ะ ยัยอินโนเซ้นส์” มันหันขวับมารับประทานดันฉันที่นั่งหอบแห่กๆอยู่ที่ขอบเตียง
ฉันสบถพรืดไปสองสามคำ แต่มันยังคงยิ้มน่าระรื่น...มันน่านัก ยัยเพื่อนตัวแสบ
“งั้น ฉันกลับก่อนนะเว้ย พรุ่งนี้ฉันจะมารอส่งแกนะเว้ย อย่าช้าล่ะ” ว่าแล้ว มันก็พรวดพราดออกจากห้องฉันไป
ตุบๆๆๆ
โอ๊ยยยย
พนันได้แสนต่อหนึ่ง...ยัยนวลมันลื่นก้นกระแทกบันไดชัวร์ =___=
คิดได้แบบนั้นก็ต้องส่ายหน้าระอากับไอ้เพื่อนโรคจิต ที่ไม่รู้ว่าตัวเองคบเข้าไปได้ยังไง
แล้วฉันก็ล้มตัวลงนอน โดยที่ลืมเก็บข้าวเก็บของเตรียมย้ายบ้านไปเลย และสติมันก็ค่อยหลุดลอยไปกับอากาศที่ยังคงมีความเย็นอยู่บ้าง...ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่อากาศแปรปรวนสุดๆ
“แม่ขา~~ งั้นหนูไปโรงเรียนก่อนนะคะ” ฉันว่าเสียงสดใส หลังจากที่ฟาดอาหารบนโต๊ะจนเกลี้ยง ^_^”
“จ้าๆ โชคดีนะแว่น” ฉันไหว้แม่ครั้งนึงแล้วกระโดดโลดเต้นออกจากบ้านไป
หูยยย วันนี้มันเป็นบ้าอะไรไม่รู้ อารมณ์ดีมากๆ หรือเป็นเพราะอยากไปโรงเรียนใหม่เร็วๆก็ไม่รู้ แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็ตั้งแต่เนิร์สเซอรี่ ยันม.3 ฉันก็อยู่แต่โรงเรียนเอกชนที่มีแต่ผู้หญิงล้วน (เอ๊ะ นี่แกหวังอะไรอยู่รึเปล่าน่ะ ยัยแว่น =__=) แต่ตอนนี้ฉันได้ย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียนเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯที่เป็นโรงเรียนสหฯ
อ๊ากกก นี่มันเป็นประสบการณ์ที่ฉันจะจดจำไปชั่วชีวิต
ฉัน “แว่น” หรือ ลิปิการ์ แดนดิน ที่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะได้เป็นนักเรียนม.ปลายอย่างเต็มภาคภูมิ(ยัยเว่อร์) ฉันมีฉายาที่ใครๆก็เรียกกันว่า ‘ยัยอินโนฯ’ เนื่องด้วยหน้าตาที่ดูอ่อนต่อโลกของฉัน แถมยังไม่มีสิวเสี้ยนเลยสักเม็ด โฮะๆๆๆ ^O^ จึงทำให้ฉันได้ครอบครองตำแหน่งยัยหน้าเด็กประจำห้องตอนม.3ด้วย
อันที่จริงจะว่าไป ฉันก็หน้าตาเด็กจริงๆนั่นแหละ ปล่อยผมยาวถึงกลางหลังแต่ฟูนิดหน่อยเนื่องจากผมฉันมันหนา =o= แล้วก็ตาโตๆ แก้มยุ้ยๆ แต่ไม่อ้วนนะเค๊อะ - -\ แถมตัวก็ยังเล็กๆ เหมือนเด็กๆ อยากจะบอกว่า ฉันสูงแค่ 150 เซนติเมตรเอง T[]T อยากจะร้องไห้ ใครทำให้ฉันเกิดมาเตี้ยแบบนี้ฟะ จนถูกเข้าใจผิดบ่อยๆว่าเป็นเด็กประถม...(กรรม)
เหอๆ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ฉันก็ภูมิใจที่เกิดมาไม่แบน เหมือนใครบางคน ก๊ากๆๆๆ (แกหัวเราะใครน่ะ ฉันก็ไม่แบนนะเฟ้ย - -; : หนูกองกอย)
เอาล่ะๆ กลับมาในสภาพความเป็นจริง
ตอนนี้ฉันกำลังเดินจ้ำอ้าวๆไปตามฟุตบาทที่หากเดินเท้าจากบ้านฉันไปถึงโรงเรียนก็ใช้เวลาแค่สิบห้านาทีก็ถึง ฉันยิ้มหน้าบานเป็นจานกระด้ง ถึงแม้ว่าจะรู้สึกถึงความผิดปกติจากคนรอบข้างก็เถอะ...(เขามองว่า แกบ้าอ่ะ รู้ตัวรึเปล่า -*-)
และแล้วในที่สุด ฉันก็มาหยุดอยู่หน้าโรงเรียนที่แสนจะใหญ่โตโอ่อ่า มีเนื้อที่มากกว่าสี่ตารางไร่ (จะบ้าเรอะ โรงเรียนในกรุงเทพฯที่ไหน ใหญ่ขนาดนั้น - -^^^) ฉันล้อเล่นน่ะค่ะ ก็แค่โรงเรียนมีทางเข้าใหญ่เบ้อเริมจนไม่รู้ว่าสร้างให้ไดโนเสาร์เข้าได้รึเปล่าเท่านั้นเอง ส่วนข้างในน่ะฉันยังไม่เห็น ก็แหมโรงเรียนเอกชนนี่หน่า แม่ยัดๆตังส์เข้าก็เข้าได้แล้ว แต่แม่บอกว่ายัดไม่มาก็เข้าได้ เพราะรู้จักกับคนในโรงเรียนนี้ ฉันก็เลยได้อภิสิทธิ์พิเศษ
ฉันเดินเข้าไปตามทางเดินที่ปูลาดด้วยอิฐจากหน้าประตูโรงเรียนที่ตอนนี้ยังมีนักเรียนทยอยเข้ามาไม่ขาดสาย ฉันมองต้นไม้ที่ปกคลุมอยู่รอบๆจนไม่รู้ว่าตึกเรียนมันอยู่ทางไหน - -* แต่ฉันก็ยังมีความฉลาดเดินตามนักเรียนคนอื่นๆไปบ้างน่ะนะ
ประมาณห้านาทีจากหน้าโรงเรียนฉันก็มาถึงอาคารเรียนที่สูงประมาณเจ็ดชั้นที่ดูท่าจะผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชนพอตัว มันเป็นอาคารต่อกันอย่างนี้ประมาณสี่ห้าอาคารต่อกันจนเป็นดูรูปครึ่งวงกลม
แล้วฉันจะตรัสรู้เองได้ไหมนั่นว่า ฉันเรียนตึกไหน...ที่รู้ๆก็มีแค่ ห้องเรียนของฉันคือ ห้อง ม.4/13 เลขส๊วย...สวย จนฉันอยากเอาหัวโขกพื้นปูนนี่ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
สุดท้าย ฉันไม่รู้จะพึงใคร จึงเดินไปถามเด็กนักเรียนที่ดูท่าว่าจะอยู่แค่ม.ต้น (โรงเรียนนี้มันมีตั้งแต่ประถมถึงม.ปลายน่ะค่ะ - -“)
“น้องคะ ไม่ทราบว่ารู้จักห้อง ม.4/13ไหมคะว่าอยู่ที่ไหน” ฉันเห็นน้องม.ต้น(ซึ่งเป็นผู้ชายน่ารักซะด้วย กรี๊ดดด >.<) มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เด็กประถมทำไมมาใส่ชุดนักเรียนม.ปลายล่ะ” กรี๊ดดดดด เสียมารยาทว้อย ฉันเป็นนักเรียนม.ปลายแล้วนะเฟ้ย ไอ้เด็กบ้า เมื่อกี้ฉันไม่น่าชมเลยให้ตายสิ มีตาหาดูไม่(ยัยนี่มันประสาทกลับแน่ๆ) แต่ฉันก็ได้แต่คิดในใจเท่านั้น
“เอ่อ คือ พี่อยู่ม.ปลายแล้วนะคะ ถึงพี่จะ...หน้าเหมือนเด็กประถมก็เถอะจ้ะ” ฉันยิ้มพราวดุจนางฟ้า (แน่ใจเหรอหล่อน) เด็กคนนั้นผงะนิดนึงก่อนจะหน้าแดง 555++ ช่วยไม่ได้ว้อย หนูกองกอย คนมันสวยก็งี้แหละ (เดี๋ยวฉันก็เขียนให้แกตายซะเลยนิ - -+)
“อ่ะ..เอ่อ อยู่ตึก 5 ชั้นสามครับ คิดว่าน่าจะอยู่ริมๆสุด” เด็กม.ต้นตอบแบบระล่ำระลั่ก
“ขอบใจจ้ะ” ฉันยิ้มหวานอีกครั้ง ก่อนที่จะมุ่งไปทางอาคาร 5 ทันที
ก๊ากๆๆๆๆ อะไรก็ไม่สะใจ เท่าน้องแกเขินรอยยิ้มตู (กรี๊ดดด อยากบอกว่าน้องแกหน้าแดงได้น่ารักมั่กๆ ///>.<\\\ เขินวุ้ย) (เด็กก็ยังจะเอานะนั่น -*- ใครให้มันมาเป็นนางเอกเรื่องตูเนี่ย)
ฉันเดินเรื่อยๆจนมาถึงชั้นสามของอาคารเรียน แล้วเดินไปเรื่อยๆจนสุดทางเดิน...ฉันเงยหน้ามองป้ายหน้าห้อง...[ม.4/13] ฉันขยับยิ้มนิดนึง ก่อนจะกำมือเรียกขวัญกำลังใจ วันนี้ฉันต้องมีแฟนให้ได้...เอ้ย ฉันต้องมีเพื่อนให้ได้ - -“”
ทันทีที่ขาเรียวๆ(ยังจะเอานะนั่น)ของฉันก้าวเข้าไปในห้องเรียน ทุกสายตาก็หันขวับมาจ้องฉันทันที แต่ที่รู้ๆเหมือนห้องนี้จะมีนักเรียนชายมากกว่านักเรียนหญิงเท่าตัวเลยแหะ แถมแต่ละคนนี่...หล่อลากกระชากมดลูกสุดๆ >[]< (หนูกองกอยขอบใจมาก สำหรับห้องเรียนแบบนี้ : แว่น)
แต่ทว่าความคิดทั้งหมดก็พังทลายลง เมื่อ...
“เฮ้ย! น้องใครมาไปดูดิ เดี๋ยวโดนไอ้เอ็มอุ้มไป” ชายคนหนึ่งท่าทางก้างๆที่นั่งอยู่แถวหลังห้องตะโกนขึ้น เรียกเสียงหัวเราะจากคนหลายๆคนในห้อง
“เชี่ย...กูไม่ได้โลลิคอนนะเฟ้ย ไอ้เลี่ยน” ชายอีกคนใส่แว่นเหมือนเด็กเรียนที่นั่งอยู่ด้านหน้าชายที่พูดคนแรกหันมาด่า ไอ้เลี่ยน (ชื่อประหลาดผิดมนุษย์จริงๆ - -) ที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“ไม่ใช่ก็ต้องใช่ล่ะเว้ย แล้วนี่ตกลงน้องใครน่ะ” มันยังหันกลับมาที่ฉันที่ยังยืนค้างมองสองคนนั้นคุยกันอยู่หน้าห้อง
ทุกคนในห้องส่ายหน้า แล้วในที่สุดฉันก็ปลงอนิจจัง จึงตะโกนออกไปเสียงดัง “ฉันอยู่ม.ปลายแล้ว ไม่ใช่เด็กประถม ขอโทษที่ฉันมันหน้าเด็ก แต่ก็ช่วยแหกตาดูให้ดีบ้าง ว่าฉันใส่ชุดนักเรียนม.ปลายนะเว้ย!!!”
พอฉันตวาดจบ ทุกสรรพสิ่งในห้องก็เงียบสงัดลงทันที...เวรล่ะ...ตูทำไรผิดป่ะนิ
“เด็กใหม่แหงเลยว่ะ ถึงว่าไม่เคยเห็นหน้า” เอ็มว่า
“อ่านะ ดูท่าจะดุซะด้วย ทั้งๆที่ตัวเล็กนิดเดียวเองนะนั่น” เลี่ยนเสริม
ทั้งสองคนหัวเราะนิดหน่อย ก่อนที่จะหยุดไป เพราะฉันเดินไปหาที่นั่งแล้วฟาดกระเป๋าลงเต็มๆโต๊ะดังปัง จนหลายๆคนสะดุ้งเฮือกสุดตัวเลยทีเดียว (แอบสะใจเล็กๆ)
ชิ...คนอารมณ์ดีมาทำให้อารมณ์เสียซะได้ ไอ้พวกนี้
ที่นั่งของฉันอยู่แถวที่สองริมขวาใกล้ประตูของห้องที่ยังไม่มีใครมาจับจอง ฉันหันไปมองกลุ่มผู้หญิงที่อยู่ถัดไปสองแถวกำลังยิ้มแล้วชูนิ้วโป้งมาให้ฉัน ประมาณว่า เธอเยี่ยมมากอะไรประมาณนั้น
แต่ผู้หญิงอีกกลุ่มที่นั่งใกล้ๆแถวผู้ชายด้านหลังกลับทำหน้าเบ้ๆไม่สบอารมณ์แต่ก็ไม่ได้เดินมาต่อว่าหรือตบตีอะไร...ดูท่าก็เป็นห้องที่ดีห้องนึง...
เอาล่ะ...ต่อจากนี้คงต้องสร้างมิตรมากขึ้นสินะ
ความคิดเห็น