ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามภพผูกพัน วาสนาคู่เคียง

    ลำดับตอนที่ #2 : วาสนาครั้งที่ 1 ดรุณีในกรงเล็บมังกร 35%

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 62


    วาสนาครั้งที่ 1 ดรุณีในกรงเล็บมังกร

                 ที่ตั้งของสำนักเทพไป๋อวี้ซิงคือยอดเขาสูง หากไม่ใช่เทพเซียนกรายร่างมาเหนือเมฆาก็ยากนักที่จะขึ้นมาได้ ทว่าวันนี้กลับเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนมากมายที่ตั้งใจมาฝากตัวเป็นศิษย์ แม้จะรู้ว่าบททดสอบที่ต้องผ่านนั้นเข้มงวดและถ้วนถี่ ประหนึ่งตาข่ายสวรรค์ที่ยากจะรอดผ่านไปได้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มนุษย์ผู้มีความปรารถนาจะเป็นเซียนย่อท้อ ผู้ที่บากบั่นปีนขึ้นเขามาได้จึงมีมากกว่าจำนวนที่สำนักต้องการไปมากนัก

                    ประตูทางทิศใต้คือทางออกของผู้ที่ไม่ผ่านตั้งแต่รอบแรก บรรดาผู้ที่ผิดหวังจึงต้องเรียงแถวจากไปอย่างสงบ มีเพียงดรุณีน้อยนางหนึ่งที่ไม่ยอมรับกฎซึ่งทางสำนักตั้งขึ้น เสียงโหวกเหวกโวยวายของนางดังไปทั้งหุบเขา สุดท้ายจึงถูกหิ้วปีกออกมาทิ้งทางประตูตะวันตก เพื่อไม่ให้นางก่อความเดือดร้อนและปลุกปั่นผู้ที่มีชะตากรรมเดียวกันเป็นแนวร่วม

                    “สำนักเทพสั่งสอนศิษย์เพื่อให้ช่วยเหลือผู้คน แล้วเหตุใดจึงต้องกีดกันผู้ที่ไร้พ่อขาดแม่ด้วยเล่า กฎเกณฑ์เช่นนี้ถึงตายข้าก็ไม่ยอมรับ” ซูหนิงเซียงร้องตะโกนสุดเสียงพลางผุดลุกขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ พวกเขากล้าทำเหมือนนางเป็นลูกสุนัขตัวหนึ่ง พอตอบคำถามนางไม่ได้ก็อาศัยกำลังที่มากกว่าโยนนางออกมา

                    “กฎข้อนี้ท่านเทพไป๋อวี้ซิงเป็นผู้ตราขึ้นเองนับแต่ก่อตั้งสำนัก หากเจ้าไม่พอใจก็หาทางเป็นอาจารย์หญิงให้ได้ แล้วค่อยย้อนกลับมาแก้ไขกฎข้อนี้เอาเองก็แล้วกัน” ผู้ที่โยนห่อสัมภาระตามเจ้าของออกมาตอบส่งๆ ไปอย่างนั้นเอง เพราะมั่นใจว่าดรุณีผู้ทำตัวดุจอันธพาลผู้นี้ ไม่มีทางได้เป็นอาจารย์หญิงอย่างที่เขาว่าได้แน่ จากนั้นจึงปิดประตูลงกลอนแน่นหนา ไม่สนใจเสียงโวยวายของนางอีก

                    ซูหนิงเซียงทุบประตูจนมือระบมไปหมดก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครสนใจนาง หันกลับไปมองด้านหลังก็เห็นเพียงทางลงเขาที่สูงชันกว่าทางอื่น แต่นางดั้นด้นปีนเขาขึ้นมาอย่างเหนื่อยยาก มั่นใจว่าตนเองมีคุณสมบัติที่จะเป็นศิษย์สำนักนี้ได้ หากจะถูกปฏิเสธเพียงเพราะนางเป็นกำพร้า ต่อให้ต้องตายกลายเป็นวิญญาณเฝ้าประตูอยู่ตรงนี้ นางก็ไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด พวกลูกศิษย์ปลายแถวพวกนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดจึงมีกฎข้อนี้ นางจะต้องหาทางเข้าพบเจ้าสำนักแล้วขอเหตุผลมาให้ได้

                    นางแหงนมองประตูหนาหนักที่ปิดใส่หน้า จากนั้นจึงเหลียวมองไปรอบๆ เพื่อหาทางกลับเข้าไป ทว่านอกจากทางลงเขาแล้วก็ไม่เหลือทางให้นางเดินหน้าได้อีก เว้นแต่นางจะเหินร่างเหนือเมฆขึ้นไปเท่านั้น แต่นางเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ที่ตรงนี้ดูเหมือนจะมีแต่นางเพียงผู้เดียว ยังดีที่ห่อสัมภาระของนางถูกโยนออกมาด้วย อย่างน้อยก็ยังมีของกินให้ได้ประทังหิว กินเสร็จแล้วค่อยคิดต่อว่าจะเอาอย่างไรดี

    ซูหนิงเซียงเดินไปคว้าห่อผ้าที่คลุกฝุ่นอยู่บนพื้นขึ้นมา บนท้องฟ้าแสงตะวันสาดส่องไอร้อนลงมากลางศีรษะ กวาดตามองไปจึงพบไม้ใหญ่ให้อาศัยร่มเงา ทว่าเพียงก้าวเท้าทันใดนั้นเงาดำขนาดใหญ่ก็เคลื่อนเข้ามาปกคลุม นางเบิกตากว้างทันทีที่เงยหน้าขึ้นมอง มังกรดำขนาดใหญ่อยู่ตรงนั้น ดวงตาดุจเปลวเพลิงจ้องเขม็งมาที่นาง ปากแสยะกว้างกรงเล็บแหลมคมเหยียดออก พริบตามันก็โฉบเข้ามาแล้วคว้าร่างของนางเอาไว้ พาทะยานขึ้นเหนือเมฆด้วยความเร็วจนหูของนางอื้ออึงและเจ็บปวด ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจดึงเอาวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง พรั่นพรึงจนน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด และถูกพัดหายไปกับสายลมที่กรีดผ่านร่างอย่างรวดเร็ว

    ฉับพลันการเคลื่อนไหวของมันกลับหยุดลงอย่างกะทันหัน นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นได้ยินเพียงร้องคำรามของมัน จากนั้นกรงเล็บที่บีบนางจนกระดูกแทบแหลกก็คลายออก ทิ้งร่างของนางให้ร่วงลงกลางอากาศ ด้วยความสูงที่ยิ่งกว่ายอดเขาเรียงซ้อนกัน ชั่วขณะนั้นนางคิดอะไรไม่ออกได้แต่หลับตาแน่นรู้เพียงว่าต้องตายแน่แล้ว

    ทว่าความแข็งแกร่งและอบอุ่นหนึ่งรับร่างของนางเอาไว้

    หากเป็นก้อนเมฆนางย่อมทะลุผ่าน หรือจะเป็นกิ่งไม้ใหญ่ที่ปกคลุมด้วยใบหนา นางไม่กล้าลืมตาขึ้นมองรู้เพียงสองมือที่ตะเกียกตะกายไขว่คว้าอยู่กลางอากาศกอดสิ่งนั้นไว้แน่น ร่างยังร่วงลงสู่เบื้องล่างทว่าความเร็วกลับลดลง ไม่นานทุกอย่างก็หยุดลงอย่างนุ่มนวล

    นางยังไม่ตายใช่หรือไม่...

                    ซูหนิงเซียงถามตนเองอย่างกลัวๆ กล้าๆ ดวงตาที่ปิดแน่นค่อยๆ เผยอเปิดขึ้นอย่างหวาดหวั่น คนผู้หนึ่งปรากฏกายอยู่ตรงหน้านาง หากภาพย้อนแสงกลับบดบังใบหน้าของเขาเอาไว้ กลายเป็นเงารางเลือนดุจมายา ประหนึ่งตกอยู่ในภวังค์ฝันที่ทอขึ้นด้วยภูษาขาวราวไอหมอก

                    “ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว เจ้ามีแรงยืนเองหรือไม่”

                    เสียงทุ้มกังวานนั้นดึงสติที่ปลิวหายไปแล้วของนางให้กลับมา กวาดตามองอีกครั้งจึงได้รู้ว่าชายแปลกหน้าผู้นี้กำลังอุ้มนางเอาไว้ทั้งตัว แม้แข้งขาจะยังอ่อนแรงเพราะความตกใจ หากนางก็รีบขืนตัวออกห่างเพื่อลงยืนด้วยตนเอง หลังถอยออกมานางจึงเห็นใบหน้าของเขาได้ถนัด บุรุษผู้นี้สวมอาภรณ์ขาวบริสุทธิ์ดุจปุยเมฆ ทั้งเรียบง่ายและผ่าเผย แลดูสูงส่งปราศจากมลทิน ในดวงตาล้ำลึกมีแววอบอุ่นทว่าก็สงบนิ่งจนดูเฉยชา ใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้นไม่อาจบรรยายได้หมด  ประหนึ่งเขามิใช่มนุษย์แต่คือเทพเซียนผู้เหยียบย่างอยู่บนเมฆาขาว

                    “ท่านเป็นใคร” นางถามคล้ายละเมอราวกับโดนรูปโฉมของอีกฝ่ายล่อลวงวิญญาณไป

                    “ไป๋อวี้ซิง” เขาตอบพลางพิศมองนางเช่นกัน เด็กสาวผู้นี้คือมนุษย์ที่อายุไม่เกินยี่สิบปี บนดวงหน้ามอมแมมนั้นมองเห็นร่องรอยความตื่นตระหนก ทว่าคิ้วที่ขมวดนิดๆ กลับเรียวโค้งดั่งวาด ดวงตาที่ทอประกายสุกใสจับจ้องมาที่เขาอย่างสนใจใคร่รู้ ริมฝีปากแดงดุจแต้มชาด ผิวขาวถูกย้อมด้วยฝุ่นจนขะมุกขะมอม สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบสีฟ้าตุ่นที่มีรอยปะชุนอยู่หลายแห่ง เหตุใดเด็กสาวเช่นนางจึงถูกมังกรนิลจับมาเป็นของเล่นได้

                    “ไป๋อวี้ซิง...ไป๋อวี้ซิง...ชื่อนี้คุ้นหูนัก” ซูหนิงเซียงทวนคำไปมาพลางคิดว่าเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหน ทันใดนั้นดวงตาพลันเบิกกว้างหลังกระจ่างแจ้งแล้วว่าอีกฝ่ายคือใคร “ท่านเทพไป๋อวี้ซิง”

                    “เจ้าเป็นใครกัน” ไป๋อวี้ซิงถามเด็กสาวที่ไม่น่าจะรู้จักเขาได้

                    “ข้าแซ่ซูชื่อหนิงเซียง วันนี้ตั้งใจมาฝากตัวเป็นศิษย์ในสำนักของท่าน หมายจะกราบท่านเป็นอาจารย์ แต่กลับถูกศิษย์ในสำนักของท่านโยนออกมาราวกับลูกสุนัขตัวหนึ่ง จากนั้นข้าก็ถูกมังกรดำจับตัวมาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด” นางยอมรับว่านางตั้งใจฟ้อง คิดจะให้เขาคืนความเป็นธรรมให้แก่นาง

                    “เหตุใดพวกเขาจึงโยนเจ้าออกมา”

                    “นั่นก็เพราะ...” นางยังไม่ทันตอบในอกพลันบีบรัดจนกระอักเลือดออกมากองหนึ่ง

                

                        



             สามภพผูกพัน วาสนาคู่เคียง มีวางจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊กทาง meb แล้วนะคะ ตอนนี้มีจัดโปรโมชั่นต้อนรับปีใหม่อยู่ด้วยค่ะ ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่า 

    ฝากอีบุ๊กด้วยนะคะ



    เพจกุ้ยอิงค่า



        


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×