ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    oh my brother เมื่อผมกับน้อง เรา...

    ลำดับตอนที่ #2 : INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 56


     

    Brother xxx  เมื่อผมกับน้อง เรา...

     

     

    คีตาร์...ต่อจากนี้ลูกต้องดูแลน้องนะเข้าใจมั้ย ยังไงก็ครอบครัวเดียวกันแล้ว

     

     

         ประโยคช๊อกโลกนั้นทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนนับตั้งแต่นั้นมา เดิมทีครอบครัวผมมีแค่พ่อแม่แล้วพี่ชายแล้วก็ผมแต่ตั้งแต่ที่แม่ผมเสียไปหลังจากนั้นสี่ปี  พ่อก็มาบอกว่าจะแต่งงานใหม่การแต่งงานใหม่ของพ่อไม่น่าตกใจเท่าคนที่จะมาเป็นแม่ใหม่ของผมดันมีลูกติดมาด้วย!

     

     

         ผมไม่ได้รังเกลียดหรือรู้สึกแย่กับการที่พ่อแต่งงานใหม่เลยนะครับ แต่ที่รู้สึกแน่คือลูกของแม่บุญธรรมหรือน้องชายคนใหม่ผมต่างหาก ใครจะไปคิดล่ะว่าของ ที่เคยพนันกันไว้สามปีก่อนจะมาเป็นน้องชายคนใหม่

     

     

         ทันทีที่ผมเจอตัวครั้งแรกบอกตรงๆว่าทั้งตกใจทั้งดีใจมันปนๆกันหมด ฝ่ายนั้นไม่แม้แต่มองหน้าผมอันนี้ผมเข้าใจดี ก็สมควรจะเกลียดผมนั้นล่ะนะ แต่บางทีผมก็แอบดีใจก็ถ้ามันไม่น่ารักผมไม่สนใจมันขนาดนี้หรอก ถ้าพ่อรู้ว่าผมเคยทำอะไรไว้ รับรองผมต้องถูกตัดออกจากกองมรดกแน่ๆ

     

     

         นี่ก็ผ่านมาได้สี่ปีแล้ว...พี่เคียนติเรียนอยู่ที่อเมริกา พ่อกับแม่ไปฮันนีมูนกันตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนผมกับน้องคนใหม่นั้น ตอนแรกมันไม่ยอมคุยกับผมเลย ปีนึงได้มั้งเหมือนคุณน้าจะไปบอกให้มันเลิกดื้อจากนั้นมันก็คุยครับถามคำตอบคำ แรกๆนี่โคตรอึดอัด แต่นี่ผ่านมาสี่ปีแล้วบอกตรงๆเลยว่าชินมากๆ ผมก็ไม่ใช่คนพูดมากอะไรเพราะงั้นเลยไม่สนใจเท่าไหร

     

     

         ตอนนี้ผมอยู่ปีสามคณะสถาปัตยกรรม มันกำลังจะสอบเข้าปีหนึ่งคณะนิเทศศาสตร์ หน้าตามันไปได้เลยล่ะทางนั้น ตัวเล็ก ผิวขาว ปากแดง ได้แม่มาเต็มๆบางทีอยู่ใกล้ๆมันยังคิดเลยว่ามันน่ารักเกินกว่าจะเป็นผู้ชาย ขนาดชื่อยังน่ารักมุ้งมิ้งเลย ชื่อมายน์น่ะ คิดดูเถอะ...

     

     

         “คุณคีตาร์จะรับอาหารเช้าอะไรดีคะ” ทันทีที่ผมก้าวออกจากห้องเมดรับใช้ก็ถามขึ้น ผมหันไปมองห้องข้างๆที่ปิดอยู่ก่อนจะตอบออกไป

     

     

         “ข้าวต้มกุ้งไม่ใส่ผักแล้วกันครับ”

     

     

         “ค่ะ รับทราบค่ะ”

     

     

         ผมเดินลงไปที่ห้องอาหารรอทานอาหารเช้า หมู่นี้บ้านเงียบแปลกๆพอไอ้จอร์จหมาที่คนงานเลี้ยงไว้ตายไปเงียบเหงาจริงๆ ตอนมันตายไอ้น้องชายตัวดีผมนี่ร้องไห้เหมือนพ่อตายเลยครับ ร้องไปสามวันอะไรจะขนาดนั้น

     

     

         “ป้านวลครับ เช้านี้มีอะไรให้ผมทานบ้างครับ...”

     

     

         เสียงเล็กๆดังขึ้นพร้อมกับตัวบางๆของมัน ลงมาข้างล่างพร้อมชุดนอนอีกล่ะ มีผู้ชายคนไหนเขานอนใส่ชุดนอนลายคิตตี้สีชมพูกันบ้าง แต่ก็นะ...เสือกใส่แล้วเข้าไง

     

     

         “เสียงดัง..” ผมแอบกัดมันไปทีนึง มันหันมามองก่อนจะไปอ้อนป้านวลต่อ

     

     

         “คุณหนูไปนั่งรอที่โต๊ะกับคุณคีตาร์ก่อนนะคะ เดี๋ยวป้ายกข้าวต้มกุ้งร้อนๆไปให้”

     

     

         “ป้านวลรู้ใจผมจริงๆ รู้ได้ไงว่าผมอยากกินข้าวต้มกุ้ง” มันยิ้มให้ป้านวลก่อนจะวิ่งมานั่งที่โต๊ะ

     

     

         “คุณคีตาร์ต่างหากที่บอกให้ป้าทำข้าวต้ม ช่วงนี้คุณหนูถึงได้กินของชอบทุกๆเช้ายังไงล่ะคะ” ป้านวลยกถ้วยข้าวต้มมาให้มัน มันเงยหน้ามองผมก่อนจะลงมือกินข้าวไม่สนใจ

     

     

         “วันนี้มีเรียนกี่โมง” หลังจากรอมันกินเสร็จผมก็ถามไปเรียบๆ

     

     

         “.....”

     

     

         “กูถามเพราะต้องการคำตอบไม่ใช่ต้องการเห็นมึงหายใจทิ้ง”

     

     

         “สิบโมงครึ่ง”

     

     

         “ถึงกี่โมง”

     

     

         “บ่ายโมงยี่สิบ”

     

     

         “บ่ายโมงครึ่งกูไปรับ รอด้วยห้ามหายหัว”

     

     

         “กลับเองได้...”

     

     

         “ไม่อนุญาต เข้าใจแล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัวกูให้ลุงมีเอารถมารอมึงแล้ว”

     

     

         มันมีท่าทีไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ก็แน่ล่ะมันดื้อยิ่งกว่าอะไรดีโดนบังคับแบบนี้คงด่าผมในใจไปแล้วแน่ๆ

     

     

         “เผด็จการ”

     

     

         “ก็แล้วจะทำไม เป็นน้องก็ต้องเชื่อฟังกู”

     

     

         “น้องไม่แท้เหอะ”

     

     

         “หรือจะให้กูสั่งในสถานะอื่นล่ะ” ผมมองมันกวนๆ

     

     

         “สถานะอะไร”

     

     

         “ผัวมึงไงครับ” ผมจงใจยิ้มกวนประสาทให้มัน

     

     

         “หุบปากไปไอ้เลว” มันตะโกนใส่หน้าผมก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปข้างบน

     

     

         บางทีโดนด่าแบบนี้มันก็เจ็บเหมือนกันแฮะ...

     

     

         “ทำไมคุณหนูว่าคุณคีตาร์อย่างนี้ล่ะคะ คุณคีตาร์ออกจากใจดีกับคุณหนู ทั้งบอกให้ทำอาหารที่ชอบ ซื้อของให้ เป็นห่วงเอาใจสารพัด” ป้านวลเข้ามาถามผมอย่างอดไม่ได้

     

     

         “นั่นสินะครับ...”

     

     

         ทำดีร้อยครั้งไม่อาจลบล้างความชั่วที่ทำเพียงครั้งเดียว...

     

     

         แค่คำขอโทษคงไม่พอ

     

     

         บอกหน่อยได้มั้ยครับผมต้องทำยังไง

     

     

         เมื่อไหรจะหายโกรธ

     

     

         เมื่อไหรจะยอมเข้าใจ

     

     

         เมื่อไหรกูจะได้บอกความรู้สึกกับมึงนะ...



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×