ตอนที่ 3 : บทที่ 3 สู้ยิบตา
บทที่ 3 สู้ยิบตา
ผลัวะ! โครม!
เสียงเปิดประตูดังสนั่นทำให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงตวัดมองรวดเร็ว ดวงตากลมโตมองมาอย่างขุ่นเคืองเมื่อเห็นผู้มาเยือนใหม่ยืนจังกาคาช่องประตู ก่อนจะโยนอุปกรณ์ทำความลงบนพื้นตรงหน้าเธอ
ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน ดีไม่เปลือง
เรวินบอกเสียงต่ำจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ก่อนสาวเท้าหนักเข้ามาใกล้นั่งลงข้างๆ ลิลลี่ขยับจะถอยหนีแต่เขาก็จับแขนเธอไว้
เก็บกวาดไอ้สิ่งที่เธอทำไว้ซะ
ชายหนุ่มพูดเพียงนั้นก่อนขยับแก้ปมเชือกที่ผูกติดแขนทั้งสองข้างเธอไว้ด้านหลัง ไม่นานหญิงสาวก็เป็นอิสระ
ฉันไม่ทำ ตอบกลับทันทีก่อนจะกระโจนไปยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
แต่เธอต้องทำ! อย่าเรื่องมาก ที่นี่ไร่เขตตะวันฉันใหญ่ที่สุด และเธอลิลลี่ในเมื่อต้องอยู่ที่นี่ในใต้ปกครองของฉันเธอก็ต้องฟังฉัน
ฉันไม่ฟัง แกจับฉันมาเองใช่ว่าตัวฉันต้องการมาเสียเมื่อไหร่
แต่เธอต้องฟัง
พูดเสียงเหี้ยมตาวาววับ
ทำไมฉันจะต้องฟังแกด้วย แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นลึกๆ แต่สิ่งที่เธอทำกลับตรงกันข้าม
ถ้าเธอขัดคำสั่งฉันละก็ ...
เขาลากเสียงยาว
ครอบครัวเธอจะไม่เหลืออะไรเลย...เธออยากจะให้พ่อตนเองเป็นคนล้มละลายหรือไง...
เรวินแอบอ้างเอาดื้อๆ ทั้งที่ไม่รู้เรื่องมากนัก แต่เขาจำเป็นต้องสร้างเรื่องขู่ขวัญเธอไว้ก่อน จะได้ไม่แผงฤทธิ์ต่อต้านสร้างเรื่องปวดหัวแกเขา
ฮึ พวกแกมันก็ดีแต่ใช้วิธีสกปรกลอบกัดคนอื่นนั่นแหละ คุณพ่อของฉันท่าท่านไม่แน่จริงท่านคงไม่ทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จขนาดนี้หรอก
ช่างไม่รู้เอาเสียเลยนะคุณหนูลิลลี่ ว่าไอ้ที่โดนจับตัวมานี้ก็เพราะพ่อเธอนั่นแหละเที่ยวไปใช้วิธีสกปรกจนมีอริไปทั่ว และเธอคือตัวต่อรองในครั้งนี้ พ่อเธอจะไม่มีทางทำชั่วแบบนั้นได้อีก
ไอ้บ้า...แกอย่ามาว่าพ่อฉันนะ แกมีหลักฐานอะไรมาปรักปรำพ่อฉัน
เรื่องเลวๆ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานประกอบหรอก อีกไม่นานเราคงได้รู้กันว่าพ่อเธอมันเป็นจริงอย่างที่ฉันพูดไหม
ไอ้ปากเสีย ไอ้..
หยุด!
เขาตวาดเสียงเข้ม
จัดการเก็บกวาดซะ
ไม่! เธอปฏิเสธไปห้วนจัด และเชิดหน้าอย่างถือดี
เธอต้องทำเดี๋ยวนี้
หูแตกหรือไง ฉันบอกว่าไม่ทำไงเล่า
เธอรู้ไหม อาหารที่เขี่ยทิ้งเป็นเศษขยะนี้มันมีค่ามากแค่ไหน สำหรับขอทาน สำหรับยาจก สำหรับครอบครัวที่ยากจนไม่มีจะกิน สำหรับถิ่นทุรกันดารอันแห้งแล้ง แม้เพียงอาหารบูดเน่าสำหรับพวกเขาก็ยังมีคุณค่า แต่สำหรับเธอคงเคยชินกับความสุขสบายที่มีมากจนเคยตัวเลยไม่เคยรับรู้ถึงความอดอยาก ข้าวทุกเม็ดชาวนาต้องทนลำบากแค่ไหนกว่าจะปลูกมันจนโตได้ ไฮโซอย่างเธอเคยสำนึกบ้างไหม เคยคิดได้บ้างไหม ฮะ
เสียงตะวาดดังสะนั่นทำให้ร่างบางที่ยืนกำมือแน่นแนบลำตัวต้องสูดหายใจหลายๆ ครั้งด้วยความรู้สึกโกรธ แต่ลิลลี่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่ชายหนุ่มกล่าวมานั้นก่อนหน้านี้เธอไม่เคยนึกถึงเลยสักนิด แม้จะเกลียดขี้หน้าอีกฝ่ายมากมาย แต่เมื่อได้คิดตามกลับทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
ไง ถึงกับเป็นใบ้เลยรึ หรือเกิดสำนึกได้กับสิ่งที่ฉันพูดขึ้นมา
เธอไม่ตอบกลับจ้องเขาแทบจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะเดินลงส้นไปหยิบไม้กวาดกับที่ตักผง ทำความสะอาดเศษอาหารที่เธอปัดทิ้งอย่างไม่ไยดีเงียบๆ
ทำเป็นเหมือนกันนิ
เขายังประชดประชันไม่เลิก
ฉันไม่ได้ง่อยเปลี้ยเสียขานะ อ้อ แล้วก็อย่าคิดนะว่าไอ้ที่ฉันยอมทำเนี่ยเพราะกลัวแก ให้รู้ไว้ซะถ้าฉันจะทำอะไรสักอย่างละก็นั่นเป็นเพราะฉันอยากทำเองรู้ไว้ด้วย
แม้จะเก้ๆ กังๆ ดูขัดตาแต่เรวินก็มองดูหญิงสาวทำจนเสร็จ ยังแอบลุ้นอยู่ว่ากะอีแค่ทำความสะอาดมันจะอะไรนักหนาช้าเป็นเต่า เหอะ ลูกคนรวยคงจะดีแต่ใช้คนอื่นจนเคยตัว
กินข้าวซะ
หลังจากเธอทำอะไรเสร็จแล้วคนตัวโตก็ออกคำสั่งต่อทันที พร้อมกับถาดอาหารที่เขาตั้งใจกระแทกวางลงตรงหน้าหญิงสาว ก่อนจะนั่งลงตรงกันข้ามกับเธอ
ฉันไม่หิว
ไม่หิวก็ต้องกิน
เขาตะคอกกลับเสียงดัง เธอเงยหน้าขึ้นมองอยากจะกรี๊ดใส่หน้าอีกฝ่ายให้แก้วหูแตกตายไปเลย หน่อยสั่งอยู่ได้อะไรก็จะให้ได้ดังใจไปหมด
เป็นบ้าอะไร บังคับฉันอยู่ได้
อย่าเรื่องมากสั่งอะไรก็ทำตาม
ลิลลี่ยังนิ่งทำเพิกเฉยกับคนตรงหน้า
บอกให้กิน!
เอ๊ะ! บอกว่าไม่หิวไงเล่า
หรือต้องให้บังคับ ต้องให้ฉันออกแรงให้ได้ใช่ไหมถึงจะยอมทำตามได้
เขาพูดเสียงต่ำดวงตาดุกร้าว
แก...ไอ้...
จะมีเรื่องให้ได้ใช่ไหม
ลิลลี่จำใจหยิบช้อนขึ้นมาตักอาหารใส่ปากอย่างกระแทกกระทั้นแดกดันในที มองอีกฝ่ายอย่างเดือดดาลด้วยความโมโห สักพักเธอก็รวบช้อนหลังจากทานไปไม่กี่คำ
แกจับฉันมาทำไม?
เขากระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆ ก่อนตอบ
เพื่อเป็นเครื่องต่อรองทางธุรกิจ
แต่ฉันไม่...
อย่าถามมาก...
เขาพูดเพียงนั้นก่อนออกคำสั่งต่อ
โน้นกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอ จัดการยัดใส่ตู้ซะ
แกจะมาจับฉันขังไว้ในนี้ไม่ได้นะ พวกแกไม่มีสิทธิ์
ทำไมจะไม่ได้ ฉันก็กำลังทำอยู่นี่ไง
คอยดูนะ ฉันจะหนีรอดออกไปได้จะแจ้งตำรวจให้มาลากแกเข้าคุก
เชิญขี่ม้าสามศอกไปบอกเลยแม่คู้น... เขาพูดใส่หน้าเธอหยันๆ
กรี๊ด...ไอ้สารเลว...
เมื่อไม่ได้ดังใจก็กระทืบเท้าเร้าๆ หันไปหยิบหมอนมาคว้างปาใส่อีกฝ่ายจนหล่นเกลือนกลาดเต็มพื้นห้อง
เลิกแหกปากสักที แค่ให้อยู่ที่นี่ไม่กี่เดือนทำดัดจริตทนไม่ได้
กรี๊ด....ไอ้คนปากเสีย...แก...แกกล้าว่าฉัน...แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย
แล้วเรวินหงายหน้าหัวเราะเสียงดัง ก่อนจ้องเธอเขม็ง
จะพิสูจน์ไหมล่ะว่าฉันนะลูกผู้ชายรึเปล่า...บางทีเธออาจจะลืมไอ้หรั่งเมืองผู้ดีที่เคยคั่วเลยก็ได้...
คนปากเสีย...อย่ามาถูกฉันนะ...ไอ้ผู้ชายใจดำอย่างแกมันก็ดีรังแกคนไม่มีทางสู้นั่นแหละ...
ไม่มีทางสู้บ้าอะไร ทั้งทุบทั้งขวนฉัน นี่รึไม่มีทางสู้
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็นอนซะ พรุ่งนี้ยังมีงานรอเธออยู่ยัยไฮโซ
เขาพูดห้วนๆ เพียงนั้นก่อนจะสาวเท้าไปยังประตูห้อง ความโกรธที่พุ่งปรี๊ดเมื่อโดนอีกฝ่ายออกคำสั่งและว่าให้ต่างๆ นานาทำให้ร่างบางเคลื่อนตัวไปยังโคมไฟอันใหญ่ที่เป็นกระจกใสตรงมุมห้องรวดเร็ว ก่อนจะดึงมันมาไว้ในมือ เพียงเดินหนักๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวคู่อริ
เรวินหันกลับเหมือนจะรู้ว่าหญิงสาวเดินมายังเขา
เพล้ง! เพล้ง!
โอ้ย!
และก็ไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำร้ายด้วยวิธีนี้ แขนที่ยกปัดป้องจึงช้ากว่าเจ้าโคมไฟแก้วอันใหญ่ที่กระแทกใส่ศีรษะอย่างจัง เศษแก้วที่บาดลงบนแขน และรอยแตกบนขมับซ้ายมีหยดเลือดไหลออกทันตาเห็น ลิลลี่เองก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นเลือดสีแดงไหลเป็นก่อนจะหยดลงบนพื้น
ห่าเอ่ย...ระยำจริง... เรวินสบถออกมาเสียงดัง พยายามสะลัดศีรษะให้หายมึนงง
ร่างบางถึงกับสะดุ้งแล้วหญิงสาวก็ไม่ยืนรอให้อีกฝ่ายมาทำอะไรได้ผลักเขาเซล้มไปทันที ก่อนเท้าเล็กๆ จะก้าวพรวดวิ่งลงบันไดไปโดยไร้จุดหมายปลายทาง เธอรู้แต่ว่าจะต้องออกจากบ้านและไร่นี้ไปให้ได้
ว้าย...ตายแล้วคุณ
ร่างสูงวัยของคนรับใช้เก่าแกที่รีบจ้ำขึ้นบันไดมาร้องอุทานเสียงดัง เมื่อเห็นผู้เป็นนายนั่งกุมขมับด้วยความโมโห โดยเฉพาะสีแดงที่ติดมืออีกฝ่ายนั้นทำให้นางยิ่งตกใจไปกันใหญ่
จะอะไรอีกละป้านิ่ม ก็ยัยคุณหนูนั่นไงล่ะ ฝีมือหล่อนนั่นแหละ
คุณเรย์ไปทำอะไรเธอเข้าค่ะ ถึงได้โดนเธอทำรุนแรงขนาดนี้ได้
ผมยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ กำลังจะเดินออกจากห้องหล่อนก็เอาโคมไฟมาฟาดอย่างที่เห็น ฮืม คอยดูนะจับได้ละน่าดู
เขาคำรามในลำคอตาวาววับขณะพยุงตัวเองลุกขึ้น ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าที่วิ่งกรูขึ้นมายังชั้นบน ก็ไม่ใช่ใครไอ้อากรสัตวแพทย์ประจำไร่ซึ่งเป็นเพื่อนเขา แล้วก็ทามคนสนิท กับคนงานที่พักอยู่ในไร่กับครอบครัวซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังอื่นๆ ในบริเวณไร่เขตตะวัน
เฮ้ย! นี่มันอะไรกันวะเรย์ ทำไม
อย่าพึ่งถามอะไรเลยคะคุณกร ป้าว่ารีบพาคุณเรย์ไปทำแผลก่อนเถอะคะประเดี๋ยวเลือดจะไหลหมดตัวซะก่อน
ครับๆ
แล้วทั้งหมดก็มานั่งในห้องโถงกลางบ้าน ยังชุดโซฟารับแขกราคาแพง โดยมีผู้สูงวัยเป็นผู้ทำแผลให้เจ้านายหนุ่มเลือดร้อน ที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับในเวลานี้ เสียงขบกรามแน่นดังกึกทำให้ไม่มีใครเอ่ยถามอะไรแม้แต่อากรซึ่งเป็นเพื่อนรัก กระทั่งเจ้าตัวเอ่ยออกมาเสียงดัง
ทาม แกไปเกนคนงานในไร่ที่เป็นผู้ชายมาให้หมด ตามหาหล่อนให้เจอ ถ้าคืนนี้ไม่เจอก็ไม่ต้องนอน
เขาพูดเสียงเหี้ยม นึกโกรธคนก่อเรื่องขึ้นมา คอยดูนะยัยไฮโซบังอาจนักจะมาลองของกับคนชื่อเรวิน รู้จักฉันน้อยไปแล้ว
ครับนาย
ทามรับคำสั้นๆ ก่อนหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องสามด้านหลังไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย
ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้วะเรย์ แกไม่ใช่คนที่จะรุนแรงกับผู้หญิงนะโว้ย
คำถามของเพื่อนรักที่นั่งอยู่อีกฟากบนเก้าอี้ ทำให้ตาสีเขียวมรกตเข้มจัดนั้นวาววับอย่างฉุนเฉียว
ฉันยังไม่ได้ทำอะไรหล่อนเลย
กระแทกตอบไปอย่างหัวเสีย
อ้าวแล้วแผลที่หัว
หล่อนเล่นทีเผลอ...ผู้หญิง...ก็ดีแต่จะมาแว้งกัดเวลาที่เราอ่อนข้อให้...ทีแต่จะมาแทงข้างหลังยามเราเผลอ...
ประโยคนั้นอากรที่นั่งนิ่งสบตากับป้านิ่ม ไม่แน่ใจว่าเพื่อนรักกำลังหมายถึงผู้หญิงคนไหนกันแน่
ดีนะคะที่แผลไม่ลึกมาก เพียงแค่โดนเศษกระจกบาด เอาละคะป้าพันแผลที่แขนใส่ยาให้แล้ว ส่วนที่หัวแค่ใส่ยากับปิดพลาสเตอร์ก็พอคะไม่ได้ใหญ่อะไรมาก คุณเรย์ยังเจ็บตรงไหนอีกไหมคะ
ขอบคุณมากป้านิ่ม ผมไม่เจ็บหรอก
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืน ทำท่าจะออกไปจากห้อง
นั่นคุณเรย์จะออกไปไหนคะ
ผมจะออกไปตามหายัยตัวก่อเรื่องนะซิป้า
แต่ว่าให้ทามไปจัดการแล้ว รออยู่ที่บ้านไม่ดีกว่าหรือคะ
ไม่ละป้า ผมอยากจะรู้ว่าหล่อนจะหนีไปไหน ในที่ๆ มีแต่คนของเรา หล่อนจะไปมุดหัวอยู่ไหนได้
ว่าแล้วร่างบึกบึนก็หรี่ตาอย่างมาดร้าย เจอตัวละก้...ฮืม....
งั้นผมตามไปกับไอ้เรย์ด้วยแล้วกันนะป้านิ่ม
แล้วชายหนุ่มที่ตัวใหญ่สมชายชาตรีก็หายวับไปหลังประตูอีกคน ผู้สูงวัยได้แต่ถอนใจซึ่งก็ไม่รู้ว่าหนที่เท่าไหร่แล้ว นี่ยังไม่ทันข้ามคืนเจ้าหล่อนก็ก่อเรื่องได้ขนาดนี้ หากยาวนานถึงสามเดือนนางไม่อยากจะคิดต่อเลย ว่าไร่เขตตะวันจะโกลาหลขนาดไหน
ลิลลี่หันซ้ายแลขวาไม่รู้จะวิ่งไปทางไหน แม้จะมีแสงจันทร์ส่องรำไรก็ไม่อาจช่วยอะไรเธอได้เลย ไม่รู้จะวิ่งไปด้านไหนแล้วก็หวาดกลัวกับความมืดด้านหน้า ก่อนจะตัดสินใจวิ่งไปทางซ้ายอย่างทุลักทุเลด้วยพื้นดินที่เธอเหยียบเต็มๆ เท้านั้นเป็นก้อนดินใหญ่บ้างเล็กบ้างการทรงตัวจึงซวนเซยากจะควบคุม
ร่างบอบบางมอมแมนนั่งลงด้วยดวงใจไหวระทึกกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ตอนแรกเห็นเลือดเธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก ลิลลี่ก็ไม่รู้ว่าตนเองทำเช่นนั้นไปได้อย่างไร เธอไม่เคยลงไม้ลงมือกับใคร หรือจะด้วยความโกรธความอยากเอาชนะ ที่ไอ้คนปากเสียนั่นคอยสั่งตลอดเวลา ดลใจให้เธอกล้าทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง
เธอจะทำอย่างไรดีลิลลี่เอ๋ย...จะเอาตัวรอดไปได้ไหม...อยู่ส่วนใดของประเทศก็ไม่อาจรู้ได้...หญิงสาวนั่งตัวสั่นเทาใต้ต้นไม้เล็กๆ สายตามองไปยังแสงไฟลายทางสำหรับให้รถวิ่งที่พาเธอเข้ามาเมื่อตอนเย็น และในบ้านเรือนหลังเล็กๆ ก็เปิดไฟสว่างกันหมด น่าจะมีต้นเหตุมาจากเธอ ไอ้ผู้ชายกักขฬะนั่นมันคงจะสั่งคนให้ออกตามหาเธอเป็นแน่ เธอได้ยินเสียงผู้ชายมากมายกรูกระจายกันออกได้ยินเสียงพวกมันเรียกชื่อเธอดังโหวกเหวก
เปลือกตาปิดลงกระพริบหลายๆ ครั้งมองไปรอบๆ ตัว เมื่อสายตาเริ่มปรับตัวเข้ากับความมืดได้แล้ว ลิลลี่จึงมองสำรวจสรรพสิ่งรอบกายอย่างระแวดระวัง นี่เธออยู่ในสวนองุ่นหรอกหรือ เธอใช้มือเด็ดลูกองุ่นมามองเล่นอาศัยแสงสลัวของดวงจันทร์ทำหน้าที่แทนหลอดไฟ รอบตัวเธอตรงที่นั่งอยู่มีต้นองุ่นเต็มไปหมด เถาองุ่นยาวเลื้อยไปตามไม้ที่นำมายกเป็นเพิงสูงสำหรับให้มันไต่เกาะจนออกช่อ เธอตกอยู่ในภวังค์อยู่นานกระทั่งได้ยินเสียงผู้ชายดังมาใกล้ นั่นทำให้ร่างงามกอดเข่าตนเองแน่นหวาดกลัวๆ โดนจับได้
ออกมาเดี๋ยวนี้นะยัยตัวแสบ มุดหัวอยู่ไหนออกมาซะดีๆ
ไม่มีใครหรอกที่จะเรียกเธอได้แบบนี้ นอกจากไอป่าเถื่อนนั่นคนเดียว
คุณลิลลี่ครับ ออกมาเถอะครับดึกแล้ว เดี๋ยวจะโดนสัตว์มีพิษทำร้ายได้นะครับ
คุณลิลลี่ออกมาเถอะครับ คุณลิลลี่...
อากรกับทามก็ตะโกนโหวกเหวกหันซ้ายทีขวาทีด้วยความห่วงใยในตัวหญิงสาว ยิ่งไม่คุ้นเคยกับไร่ด้วยแล้วไม่รู้จะตะเตลิดหนีไปถึงไหน
เอาไงดีวะเรย์ นี่ก็ชั่วโมงกว่าแล้วนะ ยังหาตัวไม่เจอเลย
จะไปไหนได้ไกล ฉันเชื่อว่ายัยตัวดีต้องอยู่แถวๆ นี่แน่ๆ
ตอบเพื่อนเสียงเหี้ยมเกรียมดุดัน คนฟังได้แต่พยักหน้าตอบ ก่อนทำหน้าที่ตามหาสาวสวยจากเมืองกรุงต่อ
คนตัวเล็กที่นั่งแอบใต้ค้างเถาองุ่นถึงกับโมโห หน๋อยบังอาจมาดูถูกเธอ เกลียดนักหญิงสาวเผลอกำก้อนดินที่อยู่ในมือแน่นและยกกระแทกทุบจนเสียงดังตุ้บ
ประสาทสัมผัสอันดีเยี่ยมของเรวินรับรู้ได้ทันที เขายิ้มเหี้ยมตรงมุมปากจ้องไปยังผืนไร่องุ่นด้านหน้า ยัยตัวเล็กฤทธิ์มากหล่อนต้องอยู่แถวๆ นั้นแน่ เขาจึงสาวเท้าแรงๆ ไปใกล้บริเวณทางเข้าที่แบ่งออกเป็นช่องทางเล็กๆ สำหรับเอาไว้เดินตรวจตราและให้ปุ๋ย
ออกมาซะดีๆ นะยัยคุณหนู อย่าให้ฉันต้องลากตัวเธอออกมาเอง
เงียบไม่มีเสียงตอบ แต่แรงไหวของยอดองุ่นแถวนั้นมันบอกว่าคนอวดเก่งต้องซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น
ฉันให้โอกาสเธอออกมาเอง
เสียงเขาอยู่แถวๆ นี้แต่ลิลลี่ก็ไม่คิดจะแสดงตัว เรื่องอะไรจะออกไปให้โง่ละ
ลิลลี่พยายามเหลือบแลมองลอดเถาองุ่นหาต้นเสียง แต่ก็ไม่เห็นเพราะมันมืดมาก แล้วร่างบอบบางก็ต้องสะดุ้งเฮือก
กรี๊ด...ปล่อยนะ...
ปล่อยให้โง่สิ
เรวินพูดเพียงนั้นก่อนจะออกแรงกระตุกขาของหญิงสาวที่พยายามถอยร่างหนีเต็มแรง จนคนตัวเล็กถลามาตรงหน้าเขาที่นั่งลงบนส้นเท้า แผลจากเศษโคมไฟที่บาดมันไม่ได้ระคายผิวเนื้อเขาเลยสักนิด ร่างกายหนาแกร่งจึงเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว
เก่งนักนะ...เธอกล้าทำร้ายฉันทีเผลอ...เธอกล้ามาก...ยัยตัวแสบ...
ชายหนุ่มพูดรอดไรฟัน ยิ่งคนตรงหน้าถอยหนีเท่าไรเขาก็ยิ่งดึงแรงเท่านั้น
ก็แกอยากโง่เองนี่นะ สมน้ำหน้าโดนเสียบ้างก็ดี ไอ้คนป่าเถื่อน นี่แน่ะๆๆๆๆ
ไม่พูดเปล่ามือเล็กๆ ยังกำก้อนดินขวางปาใส่เขาในทันทีหลายครั้ง และมันก็ทำให้เรวินหมดความอดทนกับความพยศของหญิงสาวตรงหน้า
เก่งนักใช่ไหม เก่งให้ตลอดด้วยล่ะ
ดวงตาสีเขียวมรกตวาววับจ้องหญิงสาวเขม็ง ก่อนจะออกแรงดึงข้อเท้าทั้งสองข้างพร้อมๆ กันรวดเร็วจนคนตัวเล็กครูดมาตามแรงดึงอย่างไม่ทันตั้งตัว
ว้าย!!!
ปล่อยนะ ปล่อยๆๆๆ ไอ้คนป่านเถื่อน
เออ ได้รู้แน่ว่าฉันป่าเถื่อนขนาดไหน ยัยตัวแสบ
เรวินกำผงดินเพียงเล็กน้อยก่อนละเล็งไปบนใบหน้างามๆ เต็มแรงไม่ปราณี จนใบหน้าลิลลี่เลอะเทอะมอมแมน ไปหมด แล้วแขนแข็งแรงก็ตวัดร่างบอบบางขึ้นบ่ารวดเร็ว ก่อนจ้ำพรวดๆ ออกจากทางเดิน
กรี๊ดดดด ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้าๆๆๆๆ
ตะโกนเข้าไป ตะโหนให้หลอดลมแตกไปเลย เขาพูดเสียงดังไม่ยี่หระกับกำปั้นน้อยที่ทุบลงบนด้านหลัง
นั่นนายจะพาคุณลิลลี่ไปไหนครับ
เออนั่นสิ บ้านอยู่ทางโน้นนะโว้ยเพื่อน
ทามกับอากรถามขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน หลังจากพวกเขาได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดร้อง คนงานในไร่และเขาสองคนก็วิ่งกรูมายังต้นเสียงทันทีด้วยความเป็นห่วง เกรงว่าหญิงสาวจะเป็นอันตรายเพราะอาจเจองูเงี้ยวเขี้ยวขอนเอาได้ ทว่าสิ่งที่เห็นกลับเป็นไอ้เจ้าของไร่แบกเธอขึ้นบ่ามาหน้าตาเฉย
ฉันจะสั่งสอนยัยตัวแสบนี่เสียหน่อย
เฮ้ย อย่าให้ถึงต้องลงไม้ลงมือกันเลย
ไม่ต้องเสือกเลยไอ้หมอ ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง หมดหน้าที่แล้วจะไปไหนก็ไป
ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้เพื่อนเลือดร้อน พอเจอโจทย์เข้าหน่อยทิ้งขว้างกันซะงั้น
แกด้วยทาม ให้คนงานกลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว
ครับนาย
อากรไหวไหล่เล็กน้อยๆ สิ่งยิ้มแห้งๆ ให้กับทาม ซึ่งฝ่ายนั้นก็ยิ้มแหยเต็มทน ก่อนพวกเขาจะหันหลังเดินแยกย้ายกันกลับเข้าที่พัก
แกจะพาฉันไปไหน ไอ้บ้า ๆๆๆ เธอตะโกนไปทุบไปจนเริ่มจะหอบ
ว่าฉันเถื่อนนักไม่ใช่รึ จะได้สมใจไง
ลิลลี่แผดเสียงดังโวยวาย โดยมีร่างหนาใหญ่เดินจ้ำพรวดๆ ตัดผ่านไปด้านหลังของเนินเขาเล็กๆ เรวินไม่สนใจว่าหญิงสาวจะแผดเสียงก่นด่าเขาขนาดไหน รู้แต่ว่าจะต้องสั่งสอนหล่อนเสียบ้างที่บังอาจมาทำร้ายเขา ไม่ได้ออกไปไหน เลยนั่งแต่งนิยายซะเลย 5555 พรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะได้ไปทำงานอะเปล่า ทำงานแถวสีลมอะ เฮ้อๆๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะจ้า หลงมาแล้วแวะกันสักนิด ฝากดูแลลูกชายโหดๆ สักคนเน้อ...
******* ช่อศิลาญา *****
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ที่โดนตีหัว ก็เพราะไปลักพาตัวเค้ามานี่นา
ถ้าไม่พยายามหนีซิแปลก.... นายเร โห้ดดด โหด
ตัวก็โต้ โต อารมณ์ก็ร๊าย ร้าย ....
แสบจริง ๆ เลยน้า..ลิลลี่
ลองดีซะจนนายเรย์ของขึ้นแล้ว
งานนี้
ลิลลี่ตายแน่ ๆ
ลิลลี่สู้ๆๆๆๆๆๆ
ชอบลูกชายคนนี้ของน้องจิ๊บจังคะ เถื่อนโหดดี เจ๊ชอบ 555
ลิลลี่นี้ก็แสบเช้าขั้น ชอบๆ
ตอนต่อไปหนูลิลลี่อย่ายอมนะค่ะ สู้ๆ ^ ^V