ตอนที่ 8 : บทที่ 1 - 3
บทที่ 1 - 3
“แกจำคำพูดนี้ของแกไว้ให้ดีเพื่อนรัก เพราะฉันเชื่อว่าแกจะต้องกลืนน้ำลายตัวเองแน่ๆ”
คนพูดหงายหน้าหัวเราะร่วนชอบอกชอบใจ
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงาน ก่อนปรากฏร่างบอบบางหอบแฟ้มเข้ามาในห้อง แฟ้มเต็มมือจนแขกหนุ่มอดไม่ได้ รีบดีดกายลุกเดินมาช่วยหญิงสาวหอบหิ้ว ระสาถึงกับปั้นหน้าไม่ถูกไม่คิดว่าจะโดนจู่โจมกระทันหัน พอง้างปากจะห้ามปรามก็ไม่ทันเสียแล้ว อีกฝ่ายแย่งแฟ้มไปไว้ในมือเดินนำไปโต๊ะ
“คุณชินเขต คือว่า...”
“เปลี่ยนจากคำห้ามปรามเป็นคำอื่นได้ไหมครับ”
หนุ่มหล่อสวมแว่นยิ้มกริ่มเมื่อวางแฟ้มแล้วหมุนกลับมามองใบหน้าเนียนจืดๆ ที่มีสีเลือดซับบนใบหน้าราวกับเด็กสาววัยรุ่น ให้ตายดับเชื่อเลยว่าขนาดเขายังรู้สึก แล้วไอ้เพลย์บอยอย่างปกรณ์มันจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยหรือ ถึงจะสวมแว่นตาไม่เข้ากับกรอบหน้า แต่ออร่าความน่ารักของเธอเด่นชัดมากๆ ผู้ชายในโลกหากบอกว่าไม่สวยเขาคิดว่ามันคงตาถั่วแล้วละ
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
“หมดหน้าที่ก็ออกไปได้แล้วระสา”
เสียงห้าวทุ้มของบอสหนุ่มทำเอาเธอต้องหันไปมอง น้ำเสียงและใบหน้าของเขาราบเรียบก็จริง แต่ดวงตาคู่คมสีน้ำตาลกำลังบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องไม่พอใจในเมื่อผู้ชายตรงหน้าคือเพื่อนของเขา
“ค่ะ คุณกรณ์” หญิงสาวขานรับคำสั่ง
“ออ คืนนี้คงต้องอยู่ดึกหน่อยนะ”
“ทราบค่ะ คุณธิดาบอกสาแล้ว”
“เข้าใจก็ดี รีบไปทำงานให้เสร็จ”
หญิงสาวค้อมศีรษะแล้วเดินตัวลีบออกไปดังเช่นทุกครั้ง ชินเขตเดินกลับมานั่งยังโซฟาตัวเดิมด้วยท่าทางสบายใจ
“แค่นี้ก็ต้องทำหน้าดุ คุณสาเธอกลัวจะแย่แล้วมั้ง”
“เรื่องของฉัน แล้วแกล่ะ จะห้าโมงเย็นแล้ว ไม่รีบกลับหรือไง”
“ไม่อะ ว่าง อยากอยู่เป็นเพื่อนแกว่ะ”
ปากบอกอยากอยู่เป็นเพื่อน แต่ดวงตากลับมองไปยังประตู เหมือนจะมองให้ทะลุถึงคนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านนอกหน้าห้องทำงานนี้
“กลับไปก่อน ไว้ค่อยคุยกันวันอื่น ฉันก็จะสะสางงานเหมือนกัน”
“รีบไล่เชียว กลัวหรือไง หึๆ บอกไว้ก่อนนะกรณ์ แกก็รู้ว่าเสือมันคือนักล่า อะไรที่ฉันอยากล่าต่อให้แกจะห้ามปรามยังไง ฉันก็ไม่สนว่ะ ไปนะเพื่อน ไว้จะมาใหม่ขอไปล่ำลาเลขาหน้าจืดแสนสวยของแกก่อน”
พูดจบก็ลุกขึ้นยืนยักคิ้วกวนๆ ให้คนหน้าขรึมที่เห็นอาการของมันแล้วอยากจะหัวเราะให้ฟันหัก การมาเมืองไทยครั้งนี้มันทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าชีวิตมีสีสันขึ้นแล้วสิ
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม ระสายังช่วยพิมพ์งานและปรินต์เอกสารเอาเข้าแฟ้มให้เรียบร้อย พี่ธิดากลับไปแล้วเธอจึงทำคนเดียว เสร็จแล้วก็นำแฟ้มอีกสามแฟ้มเข้าไปในห้องของเจ้านาย เคาะห้องสองครั้งก่อนผลักประตูเข้าไปด้านใน สิ่งที่เห็นคือใบหน้าหล่อเหลาที่เรียกได้ว่าหล่อจัดเอนไปพิงพนักด้านหลังหลับตา
สีหน้าของบอสดูเคร่งเครียดอ่อนล้า คงเพราะหน้าที่การงานที่เรียกได้ว่าหนักหนาเอาการ ทั้งบริษัทแม่ทั้งบริษัทลูก ไหนจะยังโรงงาน และไหนจะหุ้นหลายตัวในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ชายคนนี้รับผิดชอบมากมาย ไม่แปลกใจหรอกทำไมสาวๆ จึงยื้อแย่งอยากเป็นตัวจริงของเขา เพราะผู้ชายคนนี้สามารถบันดาลให้ได้ทุกอย่าง สุขสบายไปทั้งชาติ แต่แปลกเหลือเกินที่ระสากลับอยากจะช่วยแบ่งเบาความรู้สึกหลายๆ อย่าง เพื่อให้เขาผ่อนคลาย
“คุณกรณ์คะ” เงียบไม่มีเสียงตอบ
“คุณกรณ์ หลับหรือคะ”
เธอถามอีกครั้ง ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากเจ้านายรูปหล่อ จึงวางแฟ้มในมือลงเบาๆ ก่อนถือวิสาสะเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปหยุดยืนข้างๆ เก้าอี้นวมของผู้บริหารหนุ่ม มือบางยกขึ้นช้าๆ สั่นเล็กน้อยแตะบริเวณหน้าผากของอีกฝ่าย จึงพบว่าเขาตัวรุมๆ
“แย่แล้ว คุณกรณ์ตัวร้อน”
ยกมือทาบอกด้วยความตกใจ หันรีหันขวางกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี นี่ก็ดึกมากแล้วจะโทรเรียกรปภ.เข้ามาช่วยพยุงก็ดูจะไม่เหมาะเท่าไรนัก เธอลองใช้มืออังหน้าผากของชายหนุ่มอีกครั้ง ก็ต้องตกใจกว่าเก่า เมื่อมือหนาขยับแล้วจับมือของเธอรวดเร็ว เปลือกตาของเขาเปิดขึ้นจ้องเขม็งมองหน้าเธอ
“ทำอะไรระสา”
“ปะ เปล่าคะ คือสา...”
“เปล่าอะไร ก็เห็นว่าเธอใช้มือแตะตัวของผม” น้ำเสียงห้าวทุ้มคล้ายไม่พอใจ
“เอ่อ คือว่า คือ...”
ไม่รู้ว่าควรพูดออกไปอย่างไร ยิ่งเห็นดวงตาคู่คมมองคาดคั้นสาวเจ้าก็ใจสั่น ยิ้มแห้งๆ ยอมรับว่าตัวเองห่วงเขามากเกินไป ห่วงจนลืมตัวกระทำการไม่เหมาะสม
“สาขอโทษค่ะ คือสาไม่ได้ตั้งใจจะแตะต้องตัวคุณกรณ์ แต่เห็นคุณกรณ์หลับสาเลยเกรงว่าคุณจะไม่สบาย แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ขอโทษอีกครั้งนะคะ คราวหลังสาจะไม่ทำตัวบังอาจแบบนี้อีกแล้ว”
ก้มหน้างุดพยายามดึงมือกลับแต่เจ้าของห้องจับแน่นไม่ยอมปล่อย
“ผมบอกหรือยังว่าไม่ชอบสิ่งที่คุณทำ”
“คือสา... เอ่อ...”
“อ้ำอึ้งอยู่นั่น น่าเบื่อจริง เป็นห่วงก็พูดมาตรงๆ อย่าอ้อมโลก”
น้ำเสียงห้วนดุก็จริงหากสาวเจ้าจะเงยหน้ามองสักนิด คงจะได้เห็นแววตาอ่อนโยนของบอสหนุ่มที่กำลังทอดมองใบหน้าเนียนของเลขาหน้าจืด
“คุณกรณ์กลับไปพักผ่อนนะคะ งานไว้ต่อพรุ่งนี้ก็ได้ สุขภาพต้องมาก่อน นี่ก็เคลียร์ไปได้เยอะแล้ว ที่เหลือไว้พรุ่งนี้ดีกว่า”
หญิงสาวพูดไปอีกเรื่อง เลี่ยงไม่ตอบหรือพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเอ่ยก่อนหน้า แน่นอนมันส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจยากเกินกว่าจะควบคุม
“เธอว่าอะไรดี ก็ตามนั้นแล้วกัน หยิบกุญแจรถมา ในลิ้นชัก แล้วขับพาฉันกลับคอนโด”
“วะ ว่าไงนะคะ”
หน้าตาตื่น เห็นแล้วทั้งน่าขำและน่าเอ็นดูในเวลาเดียวกัน หล่อนเหมือนเด็ก เด็กที่ต้องคอยถามย้ำซ้ำๆ ต่อคำสั่งของเขา
ระสากลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ รีบทำตามคำสั่งโดยไม่เอ่ยอะไร แต่ก็ยังเหลือบมองคนบนเก้าอี้ทำงานเป็นระยะ หยิบกุญแจรีโมทรถยนต์คันหรู ดูตราสัญลักษณ์แล้วถึงกับต้องถอนหายใจ รถของเขาหรูมากมีหลายคัน เฉพาะที่คอนโดเท่าที่เห็นก็ปาไปสามคันแล้ว ไม่รู้ที่บ้านจะมีอีกกี่คัน
..................................
อัยยะ ไงล่ะ ยายหน้าจืดห่วงใยบอสด้วยนะคะ ฝากติดตามร่วมลุ้นกับความรักทั้งคู่ด้วยค่ะ รูปเล่มน่าจะมาต้นเดือน มิย. นะคะ โปรดเตรียมสินสอดรอด้วยจ้า
ขอบคุณจากใจ
กานต์มณี ช่อศิญา
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คุณกรณ์ดุสาจังเลย
แบกกลับไปค่ะ คุณเลขา เจ้านายให้ท่าแล้ว
ชอบทำเข้มดุตลอดเลยนะ บอส.... อยากให้เฮียแว่นมาก่อกวนบ่อยๆ คนบางคนจะได้ใจแตกค่ะไรต์
งานนี้ต้องไปดูแลบอสป่วย