ตอนที่ 6 : บทที่ 1 - 1 My Boss
บทที่ 1 - 1 My Boss
เช้าวันจันทร์เป็นอะไรที่สุดแสนจะวุ่นวายเสมอ งานยุ่งตัวเป็นเกลียวชนิดเรียกได้ว่าแทบไม่มีเวลาหายใจ บริษัทของคุณปกรณ์มีบริษัทลูกแยกย่อยอีกหลายบริษัท เขาจับธุรกิจหลายอย่าง มีงานมากมายวันนี้เธอจึงเห็นเขานั่งอยู่ในห้องตั้งแต่เช้าจนเวลาล่วงเข้ามากระทั่งบ่ายกว่า
“น้องสา ไปกินข้าวเถอะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณกรณ์ก็ยังไม่ได้กินเลย”
“ห่วงตัวเองก่อน คุณกรณ์น่ะชินแล้ว เดี๋ยวสักครู่พี่จะสั่งอาหารมาให้ สาไปกินข้าวเถอะ”
ระสาชั่งใจชั่วครู่ก่อนสุดท้ายก็พยักหน้ารับ เพราะพี่ธิดาเพิ่งไปกินข้าวกลับมา รีบลงไปจะได้รีบมาทำงานต่อวันนี้คงจะยุ่งทั้งวัน ช่วงบ่ายสามเจ้านายก็มีประชุมใหญ่ ระสาไม่ได้เข้าเพราะเธอดูแลส่วนเอกสาร แต่พี่ธิดาจะเข้าประจำเธอเองก็อยู่ในช่วงทดลองงาน เรื่องเอกสารต่างๆ จึงต้องเตรียมให้เรียบร้อย
“เดี๋ยวสามานะคะ”
“จ้า ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป”
ธิดาหัวเราะเบาๆ กับหน้าตาน่ารักเหมือนเด็กของระสา บอกตามตรงตอนทำงานด้วยกันครั้งแรกเธอเองยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นแบบไหน พอได้เจอตัวจริงจึงทำให้รู้สึกเอ็นดูสาวน้อยคนนี้ ที่แม้จะอายุยี่สิบแปดแล้วแต่หน้าตากลับเหมือนเด็กมัธยมมากๆ ผิวขาวเหมือนหยวกหน้าใสสุดๆ ไม่แต่งแต้มอะไรก็น่ารัก นี่แหละใครๆ จึงคิดว่าเธอเป็นเด็กเส้นเพราะได้มาทำงานในตำแหน่งพิเศษที่คุณปกรณ์ซีอีโอรูปหล่อตั้งขึ้นมา
“ระสาไปไหนหรือคุณธิดา”
“ออ ฉันให้ไปกินข้าวน่ะค่ะ คุณกรณ์มีอะไรหรือเปล่าคะ”
ธิดาถามด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรจากเจ้านายนอกจากคำพูดสั้นๆ อันที่จริงธิดาค่อนข้างแปลกใจอยู่ ที่เด็กสาวอย่างระสาได้เข้ามาทำงานในตำแหน่งใหม่ หากมันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะเข้าไปยุ่ง คุณปกรณ์เป็นคนใจดีแต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวเขาจะไม่ชอบให้ใครวุ่นวาย
“เปล่า” ตอบเสียงเรียบ ก่อนเดินกลับเข้าห้องทำงานตามเดิม
มือหนาเคาะโต๊ะเบาๆ รู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ เมื่อครู่ตอนเดินออกไปไม่พบยายหน้าจืด เพราะเขาสั่งคุณธิดาให้สั่งอาหารจากภัตตาคารดังมาส่ง ก็หวังว่าจะเรียกยายตัวเล็กมากินข้าวด้วยกัน นี่เขาคงผิดเองสินะที่ไม่ได้แจ้งเลขาส่วนตัวให้ทราบล่วงหน้า
ติ๊ด ติ๊ด เสียงอินเตอร์คอมดังขึ้น เขากดรับ
“ว่าไงคุณธิดา”
“อาหารมาเสิร์ฟเล้วค่ะ”
“ให้เอาเข้ามาได้เลย”
ตอบน้ำเสียงราบเรียบ ชั่วครู่ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก อาหารถูกนำไปเสิร์ฟบนโต๊ะกระจก มีหลายอย่างมากมาย แต่เสียดายที่เขาต้องนั่งเหงาจัดการเพียงลำพังคนเดียว
อาหารเลิศรสน่ากินทั้งนั้น ในราคาที่เรียกได้ว่าหลักพัน เขาอยากมีใครสักคนนั่งกินด้วย แล้วใครคนนั้นก็คือยายหน้าจืด ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้สินะที่เขาเอาแต่นึกถึงใบหน้าเจ้าหล่อน หรือมันเป็นตั้งแต่หล่อนถูกฝากฝังให้มานอนในห้องของเขาตามความต้องการของหุ้นส่วนอย่างชีคฮัมดาน
“ให้ตายสิ เราเป็นอะไรไปเนี่ย เพล์บอยงั้นเหรอ แต่ตอนนี้มันรู้สึกเบื่อเหลือเกิน”
พึมพำเบาๆ ปัดความรู้สึกบ้าๆ ออกจากหัว ก่อนที่มันจะลุกลามเป็นเชื้อโรคเข้าสู่หัวใจ ตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหารให้มันเสร็จๆ ไปจะได้ลุยงานต่อ วันนี้คงต้องกลับดึกเพราะมีเอกสารหลายอย่างต้องสะสาง รวมทั้งการประชุมตอนบ่ายสาม
ระสาจัดการกับเอกสารจนหัวฟูวิ่งเข้าออกในห้องเจ้านายระหว่างทุกคนไปประชุม คุณธิดาบอกว่าวันนี้อาจจะอยู่ดึก เพราะมีเอกสารสำคัญต้องส่งไปที่โรงงานพรุ่งนี้เช้า คืนนี้คุณปกรณ์จึงต้องตรวจทานและเซ็นอนุมัติให้เรียบร้อย วันจันทร์มันวันโลกาวินาศชัดๆ เลย
หญิงสาวยกมือจัดการกับไรผมของตัวเอง หอบแฟ้มทั้งแปดแฟ้มเข้าไปในห้อง แต่เพราะแฟ้มมันเยอะจึงทำให้ไม่สะดวกในการเปิดประตู ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
โครม!
เสียงแฟ้มร่วงหล่นลงบนพื้น อับอายขายหน้าสุดๆ ดีว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนี้ เพราะห้องทำงานของคุณปกรณ์มีความเป็นส่วนตัวสุด นอกจากห้องประชุมและห้องรับรอง ก็แยกจากแผนกอื่นทั้งหมดที่อยู่ชั้นถัดไป ทว่า เสียงรองเท้าดำมันเงาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ก่อนจะมีใครคนหนึ่งลดกายนั่งลงแล้วเอื้อมมือมาช่วยเก็บแฟ้ม
“อะ เอ่อ คุณคือ...”
“ผมช่วยเก็บนะครับ”
ระสายืนยังตกอยู่ในอาการตกใจ ด้วยไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อน ใบหน้าหล่อเหลาคมสันยิ้มเล็กน้อย สวมแว่นตาสี่เหลี่ยมดูก็รู้ว่าราคาคงไม่ใช่ถูกๆ ชุดสูทราคาแพงไม่ต่างจากบอสของเธอ จนตอนนี้ดวงตากลมโตก็เอาแต่ไล่สำรวจคนตรงหน้า พออีกฝ่ายยิ้มให้จึงรู้สึกตัว
ร่างบอบบางรีบลุกขึ้นแล้วหอบแฟ้มไว้ในมือ เขาจัดการเปิดประตูให้หญิงสาวตัวเล็ก เธอวางแฟ้มบนโต๊ะทำงานของเจ้านายพอหันหลังกลับมาก็พบร่างหนาใหญ่ยืนอยู่ด้านหลัง ทำงานมาร่วมเดือนแล้ว ระสาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือใครเพราะเธอไม่เคยเห็นเขามาก่อน
“ไม่ทราบว่าคุณคือใครคะ มาทำอะไรตรงนี้ แล้ว...”
“เอาทีละคำถามดีไหมครับ”
ขณะที่พูดดวงตาคู่คมไม่ได้คลาดจากใบหน้าเนียนใสเลยสักนิด อยากจะหลุดขำด้วยซ้ำยามเจ้าตัวมีแววตาตื่นๆ แถมยังถอยหลังออกไปเมื่อเขาก้าวเดินเข้าหา
“ผมชื่อชินเขต เป็นเพื่อนรักกับปกรณ์”
“ออ ค่ะ ยินดีต้อนรับนะคะ คือฉันชื่อระสาเป็นเลขาของบอส ตอนนี้บอสกำลังประชุมอยู่ ยังไงเชิญคุณชินเขตรอที่ห้องรับรองก่อนดีไหมคะ”
หญิงสาวกล่าวยาวเหยียดก้มหน้าไม่กล้ามองสบกับอีกฝ่าย ด้วยเป็นเรื่องไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เขาคือเพื่อนของบอสไม่สมควรตีตนเสมอเทียบเท่า
“ไม่เป็นไร ปกติมาทีไรก็จะมาหามันห้องนี้ประจำ แต่ผมไม่เคยเจอคุณเลยคุณระสา”
“คือฉันเพิ่งมาทำงานได้เพียงเดือนเศษเท่านั้นค่ะ”
“ออ เด็กใหม่นี่เอง ดูท่าคงเหนื่อยมากสินะ เหงื่อเม็ดโตผุดเต็มกรอบหน้า”
และคนแปลกหน้าก็ทำในสิ่งที่ระสาถึงกับอึ้ง เธอไหวตัวไม่ทันเมื่อเขาคว้าผ้าเช็ดหน้าซับบนใบหน้าด้วยความเบามือ มองกรอบหน้าของเธออย่างพิจารณา อาจเพราะสวมแว่นเหมือนกันกระมัง
ชินเขตจึงรู้ว่าหากนำแว่นนี้ออกคนตรงหน้าจะสวยน่ารักมากๆ และอาจทำให้ใครบางคนเกิดความคลั่ง!
…………………………………..
อัพแล้วจ้า งานนี้ยายหน้าจืดของเรามีเสน่ห์นะคะ บอสล่ะจะว่าไง มีคนมาซับเหลื่อให้เลขา ฝากติดตามด้วยนะคะ นิยายน่ารัก อ่านแล้วยิ้ม อ่านแล้วมีความสุข ฟิน หื่น หวาน รูปเล่มมาต้นเดือนหน้านะคะ
ปล. ฝากนิยายที่กำลังแต่งตอนนี้ด้วยนะคะ เรื่องของเพื่อนเฮียปกรณ์
วิกฤตรักจอมอิทธิพล (เฮียไลก์ VS โซ่รัก)
ขอบคุณจากใจ
กานต์มณี ช่อศิญา
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ในที่สุด ตัวป่วนที่ตามมาก็เข้ามา เฮียชิณเขต...... ทำให้บอสตบะแตกให้ได้นะ555
คนนี้มาทำให้คุณกรณ์คลั่งตายแน่
เฮียกรณ์!!!จะช้าไม่ได้แล้วนะ...เห็นมะมีคนช่วยซับเหงื่อให้แล้วนะนั่น...อย่าท่าเยอะขอบอก...ระสาของเราสวยใสไร้เมคอัพนะจ๊ะเฮียจ๋า...รักนะถึงได้เตือน...5555
ลุ้นๆว่าบอสจะมาเห็นไหมน่า