ตอนที่ 11 : บทที่ 1 - 5
บทที่ 1 – 5
“อย่าไปครับ อันตราย เราต้องรีบออกจากที่นี่”
“ฉันดูแลตัวเองได้”
“ไม่ครับ ผมต้องไปกับท่านชีค”
“อลัน ฉันขอออกคำสั่งให้แกไปช่วยเหลือคนเจ็บ พาออกห้องห้องโถง ฉันไม่อยากคิดเลยว่ามันเป็นฝีมือใคร”
งานมงคลกลายเป็นงานเปื้อนเลือด สีแดงฉานอาบพื้นทุกหนทุกแห่ง เสียงหวีดร้องดังระงม เช่นเดียวกับเสียงปืนจากสองฝ่ายที่เกิดการปะทะกันรุนแรง
“แต่ว่า...”
“ไปทำตามคำสั่งของฉัน เร็ว!”
สั่งเสียงเครียด สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจเลย ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของพวกคนร้ายมันต้องการอะไร เพราะมันยิงดะไม่เลือกว่าเป็นหญิงหรือชาย แม้แต่เด็กมันก็ไม่ละเว้น พรุ่งนี้คงได้กลายเป็นข่าวใหญ่โตดังไปทั้งโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
อลันจำต้องรับคำสั่งของท่านชีคไปแจ้งทหารของตนเอง ให้ช่วยเหลือแขกที่เข้ามาร่วมงาน คนของท่านรอดีลมีมากและนำกำลังทหารของรัฐซายันเข้ามาเสริมทัพ
เพราะต้องมาคอยคุ้มกันความปลอดภัยของชีคอัสมานท่านผู้นำรัฐ ที่ชีคคาริมเห็นเพียงแวบในงานแต่ยังไม่ได้เข้าไปทักทาย
ชีคคาริมขยับตัวอย่างระมัดระวัง มีช่วงหนึ่งปะทะกับคนร้ายเขายิงมันตกจากระเบียง ตรงจุดนั้นเขาเห็นหลังไวๆ ของใครคนหนึ่งวิ่งเข้าไปในสวนหย่อมที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามบริเวณหลังตึก เจ้าตัวสั่นงันงกอยู่ในพุ่มไม้ ดวงตาสีสนิมเหล็กวาววับสาวเท้าอันเบาเข้าไปด้านหลังแล้วปิดปากเมื่อสวมกอดเอวบางเจ้าหล่อนเตรียมร้อง
“เงียบ”
“ท่าน อือ...”
“จับได้สักที ยายสิบแปดมงกุฎ!”
สิบแปดมงกุฎสะบัดใบหน้าเบิกตากว้าง เมื่อเห็นด้านหลังเขามีร่างใหญ่ถือปืนแสยะยิ้มตรงเข้ามา แต่จังหวะที่มันเตรียมลั่นไก มันต้องร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อคนตัวใหญ่ที่บอกว่าชื่อชีคคาริม ดึงกริชเล่มเล็กแหล่มคมออกจากส้นร้องเท้าปักไปที่เบ้าตาของคนร้ายอย่างไม่พลาดเป้า ภาพนั้นชัดเจนเต็มสองตาของเพลินตา หวาดกลัวจับใจแต่ไม่ว่าอย่างไร ความหวังที่พี่น้องหลายคนฝากไว้มันยิ่งใหญ่กว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เคยเจอมาก่อน จู่ๆ ก็มีคนร้ายกราดยิงในเสี้ยวนาทีที่เธอออกจากห้องโถงที่ใช้จัดงาน
“ปะ ปล่อย”
ดิ้นรนขัดขืนเราต้องออกจากคฤหาสน์หลังนี้ให้ได้
“อย่าคิดจะดิ้นหนีให้ยาก ไปกับฉัน”
“ไม่ ฉันไม่ไป ปล่อยนะ บอกให้ปล่อย”
“ดิ้นให้ตายก็หนีไม่พ้น อย่าคิดเรียกพวกพ้องมาช่วยเสียให้ยาก ยายสิบแปดมงกุฎตัวการ”
น้ำเสียงรอดไรฟันด้วยความโมโห ปกติคาริมเป็นคนอารมณ์ดีเสมอ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้คนอารมณ์ดียิ้มไม่ออก เสียงหวีดร้องเสียปืนดังระงมทั่วบริเวณ มันเป็นเหตุการณ์อุกอาจเย้ยกฎหมายบ้านเมืองชนิดไม่สนไม่แคร์ผลที่จะตามมาว่ามันร้ายแรงแค่ไหน
“ไม่นะ ปล่อยฉัน ท่านกำลังเข้าใจผิด”
“ฉันจะสอบสวนเธอด้วยตัวเอง”
กระชากลากถูหญิงสาวหลบกระสุนมาด้วยความโมโหสุดขีด มีเจ้าหล่อนมาด้วยมันทุลักทุเลเพราะต้องหลบกระสุนคนร้าย ต่อเมื่อตรงไปยังลานจอดรถจึงรู้สึกปลอดภัย เพราะทหารของชีคอัสมานเข้าล้อมบริเวณนี้ไว้ทั้งหมด ส่วนเพลินตาถูกจับยัดเข้าไปในรถยนต์คันหรูแบบไม่ปราณี เธอเคาะกระจกและร้องเรียกหวังอิสระ
“ไม่เด็ดขาด มันต้องไม่จบแบบนี้สิ”
สาวเจ้าพึมพำพยายามทุกกระจกทุบประตู แต่คนด้านนอกเพิกเฉย ก่อนประตูอีกด้านของรถยนต์จะเปิดออก ร่างสูงใหญ่ของคนที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นท่านฮัมดานก้าวเข้ามานั่งด้านข้าง ขึงตาใส่วาวโรจน์ราวกับโกรธแค้นหนักหนา
“ออกรถ เราจะกลับไบยา”
เพลินตาหันขวับมามองดวงตาเบิกกว้าง ไบยา เขาหมายถึงรัฐไบยางั้นเหรอ ไม่ได้นะ เพื่อนๆ รอการช่วยเหลือของเธออยู่ ทุกคนตกอยู่ในอันตราย เธอจะไปกับท่านชีคไม่ได้ สถานที่ที่เราต้องไปคือสถานทูตไทยประจำประเทศมูฮาน ทำไงดีล่ะ ทำไงดี คนพวกนี้จะพาเราไปไหน
“ท่านกรุณาจอดรถ”
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสาวน้อย”
“ฉันไปกับท่านไม่ได้”
“ต้องไป เธอไม่มีทางเลือก”
น้ำเสียงที่โต้ตอบกลับมาเย็นยะเยือกไม่ต่างจากน้ำแข็งขั้วโลก หญิงสาวดึงพาที่คลุมหน้าจนหมดหวังแสดงความจริงใจให้อีกฝ่ายเห็น ว่าเธอไม่ใช่คนตะวันออกกลาง แต่เป็นคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งถูกคนชั่วร้ายจับมาขายตัว
“ได้โปรดปล่อยฉันลงจากรถ ฉันมีภารกิจต้องทำ มองหน้าฉันสิคะ ฉันไม่ใช่คนประเทศนี้”
คนที่นั่งตัวตรงหันมา ฉับพลันนั้นร่างกายของชีคคาริมก็สะท้านเยือกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เขาไม่คาดคิดว่านักเต้นระบำจะเป็นสาวเอเชีย ใบหน้านวลเนียนขาวผ่องหมดจด แก้มเนียนใส ดวงตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อย แพขนตายาวงอนโดยไม่ต้องปัดมาสคาร่า ไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นที่ตนจะมารู้สึกตะลึงต่อรูปโฉมของผู้หญิงที่ตกอยู่ในข่าวผู้ต้องสงสัย ความสวยมันทำอะไรคนอย่างคาริมไม่ได้
แต่... ทำไมเขาจึงอยากแต่จะมองหน้าหล่อน
“ท่านชีคคาริม หากท่านมีเมตตา ได้โปรด...”
“เธอทำให้งานแต่งของเพื่อนฉันต้องล่ม พรุ่งนี้ข่าวคงออกกันทุกช่อง รวมถึงข่าวต่างประเทศ เหตุการณ์ร้ายแรงอย่างนี้คงปิดไม่มิด เธอจะรับผิดชอบอย่างไร”
ถามเสียงกระด้างไม่มีรอยยิ้มจากใบหน้าหล่อเหลาดุดัน ที่เพลินตาต้องยอมรับว่าขนาดมีไรเคราดำดำเขาก็ยังดูหล่อหาตัวจับยาก หน้าตาของเขาไม่ใช่ตะวันออกกลางแท้ แต่เสมือนมีส่วนผสมของยุโรปด้วย
“อะไรกัน ท่านอย่ามาโยนให้เป็นความผิดของฉันสิคะ”
“เธอออกมาไม่เท่าไร พวกมันก็กราดยิง แถมมันยังเป็นคนมาจากคณะเต้นรำ”
“ฉันไม่เกี่ยวด้วย”
“เกี่ยวไม่เกี่ยวเดี๋ยวก็รู้”
ดวงตาวาววับคาดโทษ พอถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ชายหนุ่มก็ดึงแขนเรียวให้ก้าวลงมาด้วยกัน เพลินตาขืนตัวไว้สุดกำลัง แต่พละกำลังของเธอกับเขามันเทียบเท่ากันไม่ได้ โอ มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา คำภาวนาทำไมจึงไม่สำฤทธิ์ผล เรากำลังหนีเสือปะจระเข้อย่างนั้นเหรอ
“ท่านจะพาฉันไปไหน”
“ไปค้นหาความจริง”
“บ้าเหรอ ท่านต้องปล่อย ฉันไม่ไปกับท่าน”
“มาจับตัวผู้หญิงคนนี้ มัดแล้วพาขึ้นเฮลิคอปเตอร์”
สั่งทหารของตัวเองเสียงเข้ม ทหารสองคนเข้ามาจับแขนหญิงสาว แล้วรวบมัดไว้ด้านหลัง เพลินตาพูดอะไรบริภาษขนาดไหนก็ไม่มีใครฟัง มิไยทุกคนยังทำหูทวนลมราวกับเสียงและคำขอร้องของเธอคืออากาศธาตุ
สุดท้ายหญิงสาวก็จำต้องนั่งเงียบไปตลอดทาง สมองเฝ้าคิดวนเวียนว่าจะหาทางออกให้ตัวเองอย่างไร จะรอดเงื้อมมือคนตัวใหญ่ที่นั่งหน้าบึ้งได้หรือเปล่า เขาคงยิ่งใหญ่มากทหารทุกคนจึงให้ความเคารพย่ำเกรง คำสั่งใดที่อีกฝ่ายเอ่ยจะได้รับการปฏิบัติทันทีโดยไม่มีใครกล้าคัดค้าน
.......................................................
ไงล่ะท่านชีคคาริมของเรา จับได้แล้วนะ จับผู้สมรู้ร่วมคิดได้แล้ว เพลินตาของเราอะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้ เอาใจช่วยนางด้วยนะคะ ลุ้นกันยาวๆ บอกเลยไม่อยากให้พลาดความร้อนแรงที่ผู้แต่งตั้งใจมากๆ รูปเล่มมาเดือน กพ. นะคะ
.
ปล. มีข่าวดีมาแจ้ง อุบัติรักจอมใจชีค ผ่านการพิจารณาจากสนพ.ไลต์ออฟเลิฟ เรียบร้อยแล้ว ดีต่อใจมากๆ ฉะนั้นเย็นนี้ถ้ามีคนปูเสื่อรอถึงยี่สิบคน จะมาอัพอีกตอนค่ะ รักท่านชีคน้อยๆ แต่รักนานๆ ก็พอ กราบแม่ยกที่ติดตามกันเสมอมา
ขอบคุณจากหัวใจ
กานต์มณี ช่อศิญา
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 มกราคม 2561 / 10:26