คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Destine love in my heart 6 : งานหมั้น
Destine love in my heart 6 : งานหมั้น
คืนนั้นหลังจากที่ได้คุยกับนายสปาร์ค ฉันก็ไม่ได้คุยกับใครอีกเลย นอกจากยัยจีน เพราะมัวแต่เอาเวลามาเตรียมตัวทั้งเรื่องงานหมั้นและงานแต่งที่จะจัดขึ้นพร้อมกันถายในในวันเดียว และเร็วเกินคาด วันที่ฉันไม่รอคอยก็มาถึง
ฉันอยู่ในชุดไทยโบราณสีครีมนวลตา ตรงบ่ามีสไบปักเลื่อมไขว้ไว้ ผมถูกรวบให้เป็นมวย ทัดด้วยดอกไม้สดเข้ากับชุด ตอนนี้ทุกคนกำลังเตรียมงานกันอย่างวุ่นวายมองไปทางไหนก็มีแต่คนวิ่งสวนกันไปสวนกันมาราวกับเกิดการชุมนุมอะไรสักอย่าง
“น้องปุ่น ทำไมสวยอย่างนี้คะเนี่ย”พี่ปุยชมฉันเปาะ งานคราวนี้พี่ปุยคือบุคคลสำคัญที่มีส่วนร่วมในเรื่องของฉันมากที่สุด เพราะไม่ว่าจะเรื่องชุด เรื่องการเตรียมงานหรือแม้กระทั่งเรื่องจิปาถะเล็กๆน้อยๆ พี่ปุยก็จะมารับหน้าที่ดูแลเองทุกอย่าง ฉันนับถือพี่แกจริงๆ
“สวยเสยอะไรกันคะพี่ปุย ปุ่นอึดอัดจะแย่”ฉันบ่นอุบอิบ
“ทนนิดนะคะ วันนี้วันมงคลสมรสของน้องปุ่นทั้งที ไม่ใช่ว่าจะมีทุกวันนะคะ”พี่ปุยพูดปลอบฉัน ตอนนี้ถ้าใครมาหน้าฉันคงต้องคิดว่าฉันจะรีบไปฆ่าใครแน่นอน
“ค่ะ แล้วนี่งานพร้อมแล้วเหรอคะพี่ปุย”ฉันถามพี่ปุยออกไป เพราะดูจากสถานการณ์ตอนนี้มันจะเริ่มลดการเดินขวักไขว่กันบ้างแล้ว
“ก็ค่อนข้างพร้อมแล้วละคะ”พี่ปุยตอบ
“งั้นปุ่นต้องทำอะไรในพิธีบ้างคะ”ฉันถามถึงกำหนดการคร่าวๆจากพี่ปุย
จากนั้นพี่ปุยก็เล่ากำหนดการคล่าวๆให้ฉันฟัง จากที่ได้ฟัง ฉันคงต้องนั้งรอขบวนรถของเจ้าบ่าวเพื่อมายังพิธี ที่จัดขึ้น ณ บ้านใหญ่ จากนั้น คุณพ่อก็จะเข้ามาเรียกออกไปด้านนอก แล้วก็จะเริ่มการทำพิธีหมั้นหมายในช่วงเช้า ส่วนช่วงเย็นพี่ปุยจะมาบอกฉันอีกครั้ง
---------
“ปุ่น ลูกสวยมาก สวยเหมือนแม่ปิ่นของลูกตอนที่แต่งงานกับพ่อใหม่ๆเลยล่ะ”พ่อเดินเข้ามาหาฉันใกล้ๆ
“จริงเหรอคะคุณพ่อ แต่หนูคงไม่สวยเท่าคุณแม่หรอกค่ะ”ฉันตอบคุณพ่ออย่างเขินๆ
“ใครบอกล่ะ ลูกของพ่อต้องสวยอยู่แล้ว”คุณพ่อยังคงชมไม่เลิก
“พร้อมรึยังปุ่น ฝ่ายเจ้าบ่าวเค้ามาถึงแล้วนะ”คุณพ่อถามถึงความพร้อมของฉัน ตอนนี้ฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆเหลือเกิน ทั้งตื่นเต้น และสับสนไปหมด นี่ฉันมาถูกทางรึป่าว ฉันถามกับตัวเองในใจ
“พร้อมแล้วค่ะ”ฉันตอบคุณพ่อไป แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจ แล้วยื่นมือไปคล้องแขนคุณพ่อ
“ญี่ปุ่น พ่อรักลูกนะ และแม่ปิ่นของลูกก็รักลูกเช่นกัน นี่คือสิ่งที่พ่อและแม่ของลูกเลือกให้และพ่อคิดว่ามันเป้นสิ่งที่ดีที่สุดที่พ่อจะทำให้หนูได้”คุณพ่อพยายามส่งกำลังใจมาทางสายตา ขณะที่พูดกับฉัน
“หนูก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นคะ”
ถึงเวลาแล้วสินะ เวลาที่พ่อและแม่หวังที่จะได้เห็นลูกของตัวเอง เติบโตไปในทางที่ดี ไปในทางที่มีความสำเร็จอยู่ข้างหน้า ฉันเข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อแม่แล้วล่ะ ว่าพ่อแม่รัก พ่อแม่หวง และเฝ้าคอยมองดูเราเสมอไม่ว่าเราจะเดินไปในทางไหน
------------------------------
ฉันเดินเข้ามาในบริเวณห้องที่จะเริ่มทำพิธี ระหว่างทางฉันไม่แม้แต่จะมองหน้าใคร ฉันไม่กล้าที่จะสบตาคู่หมั้น
“ปุ่น นี่สปาร์ค ศรางกูรย์ เพชรอมรไพศาล ลูกชายของอาศิไงลูก จำได้รึป่าว เค้าคือว่าที่คู่หมั้นลูกไง ไหว้พี่เค้าสิลูก”คุณพ่อแนะนำคู้หมั้นให้ฉัน ณ ตอนนี้ ฉันก็ยังไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา ว่าแต่ สปาร์ค สปาร์ค ศรางกูรย์ ฉันเรียกชื่อนั้นทวนซ้ำไปวนมาอยู่หลายรอบ ทำไมมันคุ้นๆหูจังเลย หรือว่า
“คุณปาร์ค!!”ฉันอุทานลั่น นึกไว้ไม่มีผิด โลกนี้ช่างกลมดีแท้ สมแล้วที่โบราณเค้าว่าไว้ พอฉันเงยหน้าขึ้นมาเพื่อที่จะดูให้แน่ใจ ฉันก็เจอกับเขานายสปาร์คนั่นเอง เขาคือว่าที่คู้หมั้นของฉัน และเขายังเป็นว่าที่สามีของฉันด้วย
“อ้าวรู้จักกันแล้วเหรอ”คุณพ่อถามอย่างสงสัย
“ก็เคยเจอกันครั้งนึง มันเป็นอุบัติเหตุน่ะครับอาบอย”สปาร์คตอบพ่อของฉัน แล้วหันมายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน
“เหรอ ดีแล้วล่ะ แต่เธอคงไม่รู้สินะว่าเธอจะต้องมาตกล่อง ปล่องชิ้นกัน ในวันนี้”คุณพ่อของฉันยังคงพูดต่อไป
“ไม่รู้ค่ะ /ครับ”ฉัรและเขาตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“อืม ดีๆใกล้ฤกษ์แล้วล่ะ”ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น ดูจากท่าทาง ฉันรู้สึกคุ้นๆยังไงไม่รู้
“งั้นพ่อจะแนะนำญาติทางฝ่ายคู่หมั้นให้ลูกรู้จักนะปุ่น”คุณพ่อบอกฉันและเตรียมจะแนะนำ
“ปุ่น ตาปาร์คเนี่ยลูกก็คงรู้จักเค้ามาก่อนหน้าแล้วใช่ไหม งั้นพ่อผ่านไปเลยละกันนะ พ่อของตาปาร์คเนี่ยชื่อ ศิรันการณ์ หรือเรียกสั้นๆว่าอาศิ เพื่อนพ่อไงปุ่น ลูกจำไม่ได้เหรอ”คุณพ่อแนะนำพ่อของนายปาร์คให้ฉันรู้จัก ว่าแล้ว ทำไมหน้าคุ้นๆ อาศินี่เอง
“สวัสดีค่ะอาศิ”ฉันกล่าวสวัสดี
“ดีจ้าปุ่น หนูสวยมากเลยรู้มั้ย แต่ว่าเรากำลังเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เรียกอาว่าพ่อซะนะหนูปุ่น”คุณอาศิบอกฉัน
“ค่ะ คุณพ่อ”ฉันพูดแล้วก็ยิ้ม จากนั้นคุณพ่อก็แนะนำใครหลายๆคน ฉันจึงได้รู้มาว่านายสปาร์คเนี่ยมีพี่น้องสองคน เขาเป็นคนพี่มีน้องชายหนึ่งคน ชื่อซิลเวอร์ ศรันกรณ์ เพชรอมรไพศาล อยู่ชั้น ปี 3 เรียนอยู่มหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพชื่อว่า Sent Parent University เป็นมหาลัยของพวกลูกคนมีตังค์น่ะ หน้าตาของซิลเวอร์จัดว่าสูสีคู่คี่กับนายสปาร์คมาก ดูหล่อ น่ารัก นิสัยติดขี้เล่นด้วยซ้ำ ฉันรู้สึกชอบเด็กคนนี้จัง
~~11.09 น.~~
“ตาปาร์ค สวมแหวนให้น้องเค้าสิลูก”คุณพ่อของนายปาร์คบอกลูกชายให้สวมแหวนให้ฉัน
“ครับ คุณพ่อ”จากนั้นเขาก็หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดง ที่ข้างในมีแหวนเพชร บรรจุอยู่
“ยื่นมือให้พี่เค้าสิปุ่น”คุณพ่อก็คะยั้นคะยอบอกฉัน ฉันจึงยื่นมือให้เขาไป นายปาร์คบรรจงสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้ายของฉัน เขาช่างอ่อนโยนจริงๆ เมื่อสวมเสร็จคุณพ่อของนายปาร์คก็กล่าวอะไรบางอย่าง
“สินสอดที่ฉันนำมาวันนี้มันอาจมีค่าน้อยไปสำหรับลูกสาวนายนะบอย แต่ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นเครื่องการันตีว่า ฉันได้มาทำการสู้ขอลูกสาวของนายให้ลูกชายของฉันแล้วนะ”คุณพ่อของนายปาร์คกล่าวคำสู่ขอฉันอย่างเป็นทางการ
หลังจากพีธีหมั้นในช่วงเช้าเสร็จลง ทางอำเภอก็ส่งทนายความมาจดทะเบียนสมรสให้เราสองคน ก่อนจดทะเบียนนายปาร์คกระซิบที่ข้างหูฉันว่า “โลกมันช่างกลมดีเนอะ วันนี้คุณก็สวยมากด้วย”ฉันอายจนไม่รุ้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน ฉันเป็นอะไร ฉันไม่อยากแต่งงานไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมฉันต้องเขินไปกับคำพูดของนายนั้นด้วย ไม่เข้าใจเลย
พอเสร็จพิธีทุกอย่างในช่วงเช้า เราต่างก็แยกย้ายกันไป และก็จะพบกันอีกทีในช่วงพีธีแต่งงานตอนเย็น ตอนนี้ฉันไม่ใช่นางสาว วีรตรี บรมวงศ์สุนทรแล้วนะ แต่ตอนนี้ฉันเป็น นางวีตรี เพชรอมรไพศาล ไม่ใช่แค่นามนำหน้าชื่อที่เปลี่ยนไป ต่อแต่นี้ไปตัวฉันก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย
++++
จบตอนที่ 6
+++++++
ต้องการกำลังใจมากๆเลยค่ะ
แต่งต่อไม่ถูกแล้ว
ความคิดเห็น