คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Destine love in my heart 1 : โชคชะตา หรือฟ้าลิขิต
Destine love in my heart 1 : โชคชะตา หรือฟ้าลิขิต
“ฮัลโหล จีนเหรอ ออกมาเจอฉันทีสิ ทีสยามโอเชี่ยนเวลล์นะ”ตอนนี้ฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับจีนเพื่อนรักอยู่
“เฮ้ยอะไรวะไอ้ปุ่น อยู่ๆก็ชวนออกไปข้างนอกเฉยเลย”ไอ้จีนโวยวายกลับมา
“เอาน่า ออกมาหาฉันทีสิ ฉันมีเรื่องสำคัญมากๆจะปรึกษาแก ไอ้จีน”
“เรื่องอะไรของแกวะที่ว่าสำคัญเนี่ย”ไอ้จีนถามอย่างฉงน
“ออกมาหาฉันสิ แล้วฉันจะบอก อย่าลืม! สิบเอ็ดโมงนะ”พูดเสร็จฉันก็ตัดสายไปเลย
~~~~ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ~~~
เสียงสนทนาระหว่างฉันกับเพื่อนสุดซี้ ฉันชื่อ วีรตรี บรมวงศ์สุนทร ชื่อเล่นชื่อ ญี่ปุ่น วันนี้เป็นวันอยุด จริงๆแล้ววันอยุดก็คือวันพักผ่อนของใครหลายๆคน แต่สำหรับฉันในตอนนี้ มันไม่ใช่ เพราะวันอยุดวันนี้มันคือวันโลกาพินาศ สาเหตุมาจากเมื่อเช้า บิดาคนเดียวของฉันโทรมาบอกเหตุร้ายมากๆสำหรับฉัน ฉันจึงต้องมานั่งกลุ่มใจอย่างนี้ไง
---------------------------
11.00 น. ~~สยามเชี่ยนเวลล์~~
ฉันกำลังนั่งเดินกระสับกระส่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ในขณะที่รอยัยจีน เพื่อนสุดรักที่ขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะโผล่หัวมาให้เห็น เมื่อความอดทนหมดลงฉันจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรจิกเพื่อนรักอีกครั้ง
“ฮัลโหล ไอ้จีน แกอยู่ไหนแล้วเนี่ย”ฉันร่ายไอ้จีนเป็นชุด
“โหแก กรุงเทพนะไม่ใช่พัทลุง ที่ว่ารถจะไม่ติดน่ะ”ไอ้จีนตอบกลับมาอย่างกวนๆ
“อ้าว เวร แล้วเกี่ยวอะไรก่ะพัทลุงวะ”ฉันถามอย่างฉงน
“ก็ไม่รู้ดิ เออๆเอาเหอะจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้แกอยู่ไหนแล้ว เดี่ยวไปถึง ฉันจะได้ไปเจอแกถูก”
“เออๆเดินเข้ามาแล้วแกก็เจอ อะโอ้ย!!! แกร็ก”ฉันเดินคุยก่ะไอ้จีนโดยไม่ได้มองทาง เลยชนเข้าจังๆกับคนร่างสูงตรงหน้า ทำให้ฉันหล่นลงไปกระแทกกับพื้นเข้าจังๆพร้อมกับโทรศัพท์
“เอ่อ ขอโทษนะครับ”ชายตรงหน้ากล่าวคำขอโทษพร้อมพร้อมกับเข้ามาช่วยประคองฉันเอาไว้
“นี่คุณ หัดดูตาม้า ตาเรือซะมั่งสิ รู้รึป่าวว่าฉันรีบๆอยู่ แล้วนี่อะไร โทรศัพท์ของฉัน นายทำมันตก แล้วไหนยังจะเดินมาชนฉันจนล้มไปจะรู้ไหมเนี่ยว่าฉัน **+-@#@#$^^& ” ฉันร่ายไปสารพัดอย่างที่คิดออกในตอนนี้ ก็นายตรงหน้านี้มันมารขัดฉันชัดๆ
“พอๆๆๆคู้น พอได้แล้ว ผมชนคุณนิดเดียวเอง คุณร้องซะลั่น”
“ชนนิดเดียวอะไรกันคุณ”ฉันแทรกเขาพูด ก็มันยอมไม่ได้นี่ หน้าตาก็ดีอยู่หรอกนะ
“เดี่ยวคุณฟังผมก่อน ผมขอโทษคุณไปแล้วด้วยนะครับ คุณจะเอาอะไรนักหนา ผมก็รีบเหมือนกันนะคุณ”ผู้ชายคนนี้พูดออกมา ทำไมเขาจึงไร้มารยาทเช่นนี้
“นี่คุณ คุณชนฉันก่อนนะ ฉันกำลังคุยธุระกับเพื่อนอยู่ แล้วคุณทำโทรศัพท์ฉันหล่นเนี่ย เพื่อนฉันจะรู้รึป่าว ว่าฉันรอเขาอยู่ที่ไหน หา!!” ฉันตะโกนว่าเขาออกไป ตอนนี้เราสองคนกำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนในห้าง แต่ถึงอย่างไร ฉันก็ไม่สน
“ก็ผมบอกว่าขอโทษไง ไม่ได้ยินรึไง เหอะ! หรือว่าจะเรียกร้องค่าเสียหาย จะเอาเท่าไหร่ดีล่ะ หรือว่าจะให้ผมซ่อมโทรศัพท์ให้ หรือว่าจะเอาใหม่ซะเลยล่ะ แค่นี้ผมมีปัญญาจ่ายน่า จะเรียกเท่าไหร่ก็ว่ามา ผมรีบ”เขาตอบแบบดูถูกคนอย่างฉัน คนนี้มากๆ
“อีตาบ้า แค่นี้ฉันมีปัญญาจ่ายย่ะ ไม่ต้องไปแบกใบบุญคุณหรอก คิดว่าคนอย่างฉันหน้าเลือดขนาดไม่มีตังค์ซ่อมโทรศัพท์เลยเหรอคุณ”ตอนนี้ต่อให้เอาน้ำแข็งขั้วโลกมาให้ฉันอาบ มันก็คงจะละลายกลายเป็นน้ำที่ร้อนดั่งไฟเหมือนฉันในตอนนี้ไงล่ะ ดั่งใจคิด ด้วยความที่ฉันเป็นพวกมือไว เลยทำให้พลั้งมือไปตบหน้าผู้ชายตรงหน้า
“เพี๊ยะ”
เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าของชายตรงหน้าฉัน
“หน้าตาก็ดี พูดจาสุนัขๆมากเลยนะคุณ”พลั้งมือไปที่หน้าเค้ายังไม่พอ ฉันยังเผลอปากเสียใส่เขาไปด้วย และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
~~จ๊วบบบบบบบบบ ~~
ตอนนี้เราสองคนกำลังเป็นที่สนใจของคนในระแวกนั้นอย่างมาก จากที่สนใจอยู่แล้ว ก็สนใจหนักขึ้นไปอีก เพราะขณะนี้ผู้ชายที่ฉันกำลังทะเลาะอยู่ด้วยตรงหน้าเมื่อกี้ ตอนนี้เขากำลังจูบฉันกลางห้างดังใจกลางกรุง ผู้ชายแปลกหน้าที่เพิ่งพบกันเมื่อครู่จูบฉัน โดยที่ฉันยังไม่รู้แม้แต่หัวนอน ปลายเท้าของเขา
~~แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ~~
แสงไฟวูบวาบ สว่างขึ้น ถ้าเดาไม่ผิดเมื่อกี้คงเป็นแสงแฟลชแน่ๆ ตายแล้ว พรุ่งนี้ฉันต้องโดนลงข่าวอีกเป็นแน่แท้ ครู่หนึ่งเขาก็ถอนริมฝีปากออกจากฉัน มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน
“เป็นไงล่ะคุณ อยากแว๊ดๆดีนัก เจอเข้าซะมั่ง โห หน้าแดงเชียว”เขาพูดกับฉันหน้าตาย มากๆ ตอนนี้ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปแทรกแผ่นดินไหนอยู่แล้ว ก็มันอายมากๆ
“เอ่อ คุณสองคนโอเคมั้ยคะ”มีผู้หญิงคนหนึ่งท่าทางมีอายุสักหน่อยเดินเข้ามาถามเราสองคนอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ครับ เราโอเคกันมากเลย ใช่ไหมจ๊ะที่ดาร์ลิ้งค์”เขาตอบแล้วก็แสร้งทำเป็นโอบไหล่ฉันเข้าไปกอดแล้วทำหน้าเหมือนว่าเรารักกันมาก แต่ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรเขากลับไป
“อ๋อ จ๊ะเป็นแฟนกันเหรอจ๊ะ ป้าเห็นบรรยากาศดูเครียดๆแล้วอยู่ๆพวกหนูก็ เอ่อ จ๊วบ กันน่ะ ป้าเลยเขามาถามดูนะจ๊ะ”ป้าพูดแล้วก็หน้าแดงซ่าน ยังก่ะว่าตัวเองเป็นคนโดนจูบ แต่ไม่ใช่ ฉันนี่ไง ฉันคนนี้ คนที่โดนจูบน่ะ ป้าไม่มมาเป็นหนูป้าไม่รู้หรอกค่ะ ว่านรกน่ะมีจริง
“ครับป้า ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง” ป้าเขาก็ยิ้มแล้วเดินจากเราไป เขาหันกลับมาจะพูดกับฉัน แต่แล้วเหมือนพระเจ้าจะส่งคนมาโปรดฉัน เสียงสวรรค์ดังขึ้น
“ญี่ปุ่นนนนนนนน แกอยู่นี่เอง ตามหาซะทั่ว”เสียงของไอ้จีน มันเรียกฉันแบบไม่อายใคร แล้วก็เดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาฉัน แต่ฉันยังคงอึ่งกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ เลยไม่ได้ตอบอะไรมันไป
“งั้นคุณ..เอ่อคุณชื่ออะไรนะเปิ่นๆอะไรซักอย่าง”เขาถามชื่อฉัน
“อ๋อ ยัยนี่ชื่อญี่ปุ่นค่ะ ไม่ใช่เปิ่นๆ ส่วนฉันจีนค่ะเพื่อนของยัยปุ่น”ยัยจีนตอบให้ฉันซะเสร็จสรรพ เพราะมันเป็นพวกแพ้คนหล่อ
“ครับคุณประเทศทั้ง 2ท่าน ไว้มีโอกาสเราคงได้เจอกันอีกครั้งนะครับคุณจีน คุณญี่ปุ่น”เขาพูดแล้วหันหน้ามาเน้นที่ฉัน
“ส่วนนี่นามบัตรผมครับ ลาก่อนแล้วเจอกันครับ”เขาพูดโดยส่งนามบัตรมาให้ฉัน แล้วก็เดินออกไป
“เหอะ คิดว่าฉันจะโทรไปขอความช่วยเหลือคุณเหรอ หา!คุณเอ่อ ตาบ้า”ฉันโพล่งขึ้นหลังจากพูดในใจอยู่เป็นนาน
“มันก็ไม่แน่หรอกนะคุณปลาดิบ”เขาพูดแล้วยักคิ้วอย่างกวนๆก่อนเดินไปอีกครั้ง
“ไอ้จีนฉันว่านายนี่ต้อง ติ๊งต๊องแน่เลย กวนประสาทมากๆแถมยัง จะ จุ เอ่อ จะ จะ เรียกฉันว่ายัยปลาดิบอีก”ฉันร่ายคำบอกยัยจีนซะยาวยืด
“เดี๋ยวๆเราไปคุยกันที่ใดที่หนึ่งเถอะ ตรงนี้มันพลุกฟล่านเกินไปน่ะ”ยัยจีนชวนฉันไปปักหลักคุยกัน และแล้วเราก็มาถึงร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ เหตุที่เราเลือกร้านนี้ก็เพราะ ร้านอาหารญี่ปุ่นมักจะมีห้องเป็นสัดส่วนให้เราได้อยู่กันตามสบาย ไม่ว่าคุณจะมากับมากับเพื่อน พ่อแม่ หรือแม้แต่คนรัก คุณก็จะมีที่ส่วนตัวให้ได้นั่งคุยกันโดยไม่ต้องมาพะวักพะวงว่าใครจะได้ยิน
+++++++
จบตอนที่ 1
++++++++++++++++
ความคิดเห็น