คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CH 04
‘...แล้วอย่างลืมจับกลุ่มด้วยนะคะ กลุ่มละสามคนแล้วส่งหัวข้อให้ครูวันจันทร์หน้าด้วยนะคะนักเรียน
แล้วเจอกันคาบหน้านะจ๊ะเด็กๆ’
“นักเรียน กราบ”
‘เอ้าๆรีบกันจังนะพวกเธอ’
เหมือนครูจะบ่นหงุบหงิบเมื่อเยาวชนรีบเก็บของกันให้ควั่ก
ถลาพุ่งออกจากห้องแทบไม่ทันดูหวงแหนเวลาพักเที่ยงอันมีค่ามากกว่าการตักตวงความรู้ไปพัฒนาชาติซะอีก
หัวหน้าห้อง หมายถึงหัวหน้าห้องขาประจำ เท่าที่จำความได้นะเธอก็เห็นของขวัญครองตำแหน่งมาตลอด
แหม่ มีเพื่อนเป็นใหญ่เป็นโตนี่มันน่าภูมิใจดีจริงๆ สไปรท์ยืนพิงสะโพกไว้กับโต๊ะเรียนรอของขวัญเก็บปากกาหลากสีเข้ากระเป๋าดินสอ
“ปะ”
สไปรท์พูดแล้วดึงแขนของขวัญมากอดแน่นๆเมื่อขวัญเดินมายืนข้างกัน
พากันออกห้องพลางสุมหัวคิดเมนูกลางวัน ก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อมีคนมายืนขวางทาง
“ของขวัญ เราขอกลุ่มกลุ่มเธอด้วยดิ ยังไม่ครบใช่ปะ”
ปากหน่ะพูดกับขวัญแต่ทำตาวิบวับใส่เธอนี่คืออะไร
“เอาสิ”
แล้วยัยขวัญก็ดันรับอีกแหนะ เออเอาเข้าไป
ไอ่คุณต้นมันยิ้มกริ่มเลยหล่ะ น่าหมั่นไส้ชะมัด แต่เอาวะ ฉีกยิ้มงามๆไปซักทีเผื่อมันคิดเปลี่ยนใจรีเทิร์นพุ่งเป้าไปหาขวัญอีก
เด็กสาวตาโตรับกับใบหน้าเรียวเล็กร่วมด้วยปากบางกระจับ ให้ความสวยดูลงตัวสมวัยมันคงเป็นที่พอใจของผู้ชายน่าดู
ยิ่งสไปรท์ยิ้มให้แบบนี้เลยทำใจกล้าขอช่องทางติดต่อซักนิด
“สไปรท์ เราขอไลน์หน่อยดิไว้คุยงานกลุ่มอะ เรายังไม่มีไลน์เธอเลย”
สไปรท์เหล่มองคนข้างตัว แล้วต้องถอนหายใจออกมานิดๆเมื่อของขวัญไม่ได้มีท่าทีอะไรซ้ำยังทักทายต้นเหมือนปกติ
เลยรับเอามือถือต้นมาพิมพ์หาไอดีกดแอดไปจึงส่งกลับ
“งั้นไปก่อนนะ”
พูดไปแบบนั้นแล้วลากของขวัญให้ตามมา
แต่เสียงวิ่งตั่กๆตามมาด้านหลังนี่มันน่าหงุดหงิดดีจริงๆ
“เราไปกินด้วยดิ ไอพวกกรมันหนีไปเตะบอลกันหมด เราหิวหว่ะ”
ต้นหมายถึงเพื่อนในแก๊งมันหน่ะแหละ ยังไม่ทันที่เธอจะบอกปัดก้เป็นคนข้างตัวที่แทรกขึ้นมาก่อน
“เอาดิ ไปเลยปะคนเยอะแล้วมั้ง”
ข้างซ้ายของเธอคือต้นเจ้าเก่า ส่วนของขวัญเดินขนาบขวา หูเธอได้ยินเสียงต้นพูดอะไรไม่รู้ไม่หยุด
เหมือนจะพยายามชวนคุยซึ่งเธอก็แค่ครางอือเป็นระยะ ยิ้มรับบ้างไม่ให้มันดูนอยด์เกินไป
เรียวหน้าด้านข้างของของขวัญคือสิ่งที่เธอจรดจ้องและเทความสนใจไปให้เกือบจะทั้งหมด
ขวัญไม่ใช่คนสวยอะไรมากมาย แต่สำหรับเธอแล้วขวัญกลับเป็นผู้หญิงที่น่ารักยิ่งกว่าใคร
ไม่รู้สิ มันอาจไม่ใช่แค่หน้าตาที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น คนที่กำลังนึกถึงหันมาหาเหมือนจะรู้ตัวว่าโดนมอง
ส่งยิ้มจนตาปิดมาให้หัวใจเธอเต้นระส่ำปนกับความหน่วงจนหนึบ
“วันนี้ซื้อพิซซ่าร้านสองปะ
ต้นมาด้วยจะได้ช่วยกันกิน เราอยากกินมานานละ”
นี่ไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง
.
.
.
..
.
โรงอาหารนี่มันครึกครึ้นตลอดเลยแห๊ะ หรือเพราะมันเป็นพักเที่ยงด้วยหล่ะมั้ง
“โหไรวะ!!ให้ปูอัดโคตรน้อยเลย!”
“เอาน่า ตามราคา ผู้ชายไรวะขี้บ่นอย่างกับตุ๊ด”
“อ่าวๆ พูดแบบนี้หมดสวยเลยนะครับคุณสไปรท์”
เธอเพิ่งรู้ว่าไอ่ต้นมันก็คุยสนุกดีเหมือนกัน สไปรท์ทำยักคิ้วเชิดหน้าใส่บอก ‘สวยมหาศาลขนาดนี้ไม่หมดง่ายๆหรอกหย่ะ’
เรียกเสียงหัวเราะจากคนข้างเธอได้เป็นอย่างดีเลยหล่ะ ของขวัญทำเสียงแหวะๆแล้วยังยัดพิซซ่าเน้นแป้งนั่นเข้าเต็มปากเธอ อื้อ! ปากเลอะซอสเลยเห็นปะเนี่ย!! สไปรท์ดึงพพิซซ่าออกวางลงจานแล้วรับทิชชู่ที่ต้นยื่นส่งมาให้ พูดขอบคุณไปเบาๆ
นั่นๆ ขวัญยังไม่หยุดหัวเราะอีก ตลกนักไงความทุกข์ของเพื่อนเนี่ย
“ขี้เหร่ตรงหลงตัวเองนี่แหละ ไปรท์เอาหัวหอมปะ”
“เอาๆ เขี่ยมาดิ”
ของขวัญเขี่ยหัวหอมที่ใส่ตามสูตรพิซซ่าของโรงเรียน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใส่เยอะอะไรนักหนา
เอาเถอะ เอาเป็นว่าขวัญไม่ชอบกินถึงได้เขี่ยใส่จานให้เธอจัดการแทน สไปรท์หั่นพิซซ่าเป็นชิ้นเล็กๆแล้วจิ้มเข้าปาก
อา...หัวหอมเยอะเวอร์จริงๆ
“กินเยอะระวังสวยแต่ปากเหม็นนะ”
“เธอก็ระวังขี้เหร่แล้วปากแตกด้วยนะคะคุณต้น”
“โหดชิบ” นายต้นบ่นงึมงำแต่รอยยิ้มเต็มหน้า ดูมื้อกลางวันนี่จะครึกครื้นขึ้นทันตาเลยหล่ะ ร่วมกินด้วยกันมันสนุกกว่าแยกจานใครจานมันตั้งเยอะ กินไปคุยไปซักพักต้นก็ชะงัก ยกแขนกวักมือเรียกใครให้มานั่งด้วยที่ทำเอาสไปรท์และของขวัญหันควั่บมองตาม สไปรท์เลิกคิ้วขึ้นเล็กๆเมื่อกร เพื่อนต้นหน่ะแหละ หนุ่มผิวแทนคู่ขาวดำกับไอ่คุณต้นมันวิ่งแผ่วมานั่งข้างต้น
เขายกมือเหมือนจะทักทายสองสาวฝั่งตรงข้ามแล้วชี้ๆไปที่จานพิซซ่าที่เหลืออยู่สองสามชิ้น
“หวัดดีสไปรท์ ขวัญ กินด้วยได้ปะ”
“เชี่ยกร จ่ายก่อนสิม-ึง ของฟรีไม่มีในโลกนะเว้ย”
“อยู่กับสาวๆอย่าพูดคำหยาบสิครับคุณต้น มันไม่งาม”
กรดูเป็นคนกวนๆดี แล้วนั่นทำให้สไปรท์กับของขวัญหัวเราะกับการหลอกเล่นของเพื่อนชาย ตบหัวกันบ้างนี่เป็นเรื่องปกติหล่ะมั้ง พักเที่ยงกำลังครึกครื้นและมันใกล้หมดพักแล้วหล่ะ เลยชวนกันไปเก็บจาน และก็เป็นหนุ่มต้นอาสาเป็นสุภาพบุรุษยกจานทั้งหมดเก็บให้ สไปรท์เลยถือพวกแก้วน้ำตามไปด้วยเพราะดูท่าคนเดียวจะเก็บไม่หมด ปล่อยให้ของขวัญอยู่กับกรไป
“ไปรท์รู้ปะ”
สไปรท์ชะงักกึกเมื่อคนข้างหน้าเบรกกระทันกันซะเกือบเสยแก้วน้ำใส่หลังอยู่ละ
ต้นถอยกลับมาให้เดินข้างกัน หน้าตาดูกรุ่มกริ่มมองกลับไปยังเพื่อนของเขา “ว่า?”
“ไอกรมันชอบขวัญ”
ขาเธอชะงักกึกที่ครั้งนี้ดูรุนแรงกว่าเก่า สไปรท์หันกลับไปมองสองคนที่นั่งคุยกันอย่างออกรส
มือเผลอกำแก้วจนสั่นอย่างไม่ตั้งใจ
“แต่โชคดีชะมัดเลย”
สไปรท์มองต้นอย่างสงสัยในประโยคที่เขาพ่นออกมา
แล้วเหมือนเด็กหนุ่มจะไม่ปล่อยให้รอนานถึงได้ดึงแก้วในมือเธอทิ้งขยะให้แล้วจับแขนเธอ ให้เดินตามกลับไปทางที่จากมา
“ชอบกันคนละคนแบบนี้ คงไม่ต้องต่อยกันแย่งผู้หญิงแล้วหล่ะ”
อยากจะดีใจที่แผนสำเร็จ แต่จะให้หยุดแค่นี้
คงไม่ได้แล้วหล่ะ
**
“เย็นนี้คุยเรื่องรายงานกันปะ ว่างกันรึเปล่า”
เพราะประโยคนั่นประโยคเดียวเรา หมายถึง เธอ ขวัญ และไอ่คุณต้นมานั่งหน้าลอนอยู่ในร้านทอมทอมแห่งสยามเซนเตอร์
มันช่างเป็นร้านที่บรรยากาศดีเงียบสงบน้องๆสตาบัคเหมาะแก่การซื้อกาแฟซักแก้วแล้วนั่งสุมหัวดีจริงๆ
นี่ก็น่าจะประมาณสองสัปดาห์แล้วหล่ะที่เหมือนต้นจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น
พักกลางวันก็เสนอหน้ามากินข้าวด้วยตลอด นั่น..มันเอาโกโก้เย็นของเธอไปดูดอีกละ คิดจะขอก่อนบ้างไหมเนี่ย
“ไม่คิดว่าเราจะรังเกียจน้ำลายเธอบ้างหรอ”
สไปรท์ถามทั้งหน้าหงุดหงิด ดึงแก้วโกโก้สุดโปรดคืนจากไอ่คุณต้นที่ยังทำหน้าไม่ทุกข์ร้อน
แถมยังจะออกแนวชอบใจซะอีกแหนะ หน้าเธอมันโหดไม่พอรึไงเนี่ย!!
มันคงเป็นแบบนั้นแน่ๆหล่ะ หน้าตาบูดบึ้งของเด็กสาวมันเรียกรอยยิ้มของต้นได้เต็มแก้ม
เขาทำพูดขอโทษเสียงอ่อยพลางเลื่อนแก้วไวท์ช็อคเฟรบเป้ให้แทน
“งั้นกินของเราเลย พอทดแทนกันได้น่า”
“แทนได้ซะที่ไหน แก้วนี้ขวัญเลี้ยงเราเลยนะ”
เนื่องในโอกาสที่คะแนนสอบย่อยอังกฤษได้ซะรองท็อป เออ ท็อปหน่ะก็ของขวัญหน่ะแหละ เพื่อนสาวเลยให้รางวัลเป็นโกโก้เย็นแก้วใหญ่เผื่อจะเป็นแรงกระตุ้นให้ยัยตัวขี้เกียจมีแรงจูงใจในการเรียนมากขึ้น ยังไงก็เถอะ เห็นปะว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าไอ่นมปั่นขาวๆของไอ่ต้นมันตั้งเยอะ สไปรท์ดึงแก้วโกโก้เย็นของตนมาดูดอึกใหญ่พลางตะหวัดสายตาจิกใส่ต้นให้เขาหัวเราะแหะๆ
“เราก็เลี้ยงเธอได้นะไปรท์
อยากกินโทสไหม โทสคาราเมลของที่นี่อร่อยมากเลยนะเราชอบ”
“ไม่เอา อ้วน”
เอ๋า ต้นเหวอไปเมื่อสไปรท์ไม่เอาซะงั้นแถมยังทำหน้าเหมือนจะงอนใส่ให้เขางงว่าผู้หญิงนี่โกรธง่ายขนาดนี้เลยรึไง
มองเรียวหน้าด้านข้างของสไปรท์ ผิวแก้มเนียนนุ่มมันล่อตาให้อดใจไม่ไหวเลยบีบซะให้สาวเจ้าร้องเสียงหลง ปัดมือเค้าออกเป็นพัลวัน
นั่น กะแล้วว่าต้องโวยวายใส่
“แต๊ะอั๋งรึไง!”
“ก็นิดนึง เธอน่ารักอะ ฮะ ฮะ ฮะ”
กึก!
หืม... สไปรท์ยังกุมแก้มทั้งหันมองของขวัญที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันเหมือนเพื่อนสาวจะสะดุดการเขียนลิสหัวข้อทำรายงานจากการที่ไส้ดินสอเกิดเปราะหักเอาซะง่ายๆ ของขวัญกดหัวดินสอแกร่กๆแต่เหมือนไส้มันจะหมดพอดีอีกตะหาก เธอจึงเปิดกระเป๋าดินสอแล้วหยิบ ไส้ดินสอเจ้าปัญหาออกมายื่นส่งให้
“อะ... เอาไปสิ ไส้หมดแล้วขวัญ กดอยู่ได้”
“ไม่เป็นไรเราก็มี ”
ของขวัญบอกปัดแล้วหยิบกล่องใส่ไส้ดินสอในกระเป๋าดินสอของตัวเองออกมาใช้
ให้สไปรท์พยักหน้าไปเป็นว่ารับรู้เก็บของตนเข้ากล่อง นั่งมองของขวัญพยายามยัดไส้ดินสอใส่ทางปลายดูยากลำบาก
เป๊าะ! นั่นไง หักอีกแล้ว
“ไส้มันตันแล้วขวัญ
มาๆเดี๋ยวเราใส่ให้”
สไปรท์ส่ายหัวนิดๆแล้วเอื้อมมือไปเหมือนจะช่วยทำให้เอง
แล้วต้องชะงักเมื่อแรงปัดที่ ถึงจะไม่รุนแรงแต่ก็ทำเอาคำพูดหายลงคอไปหมด ได้แต่มองหน้าของขวัญที่ค้างไปเหมือนกัน
แต่ไม่นานของขวัญก็ย่นจมูกใส่อย่างน่ารัก
“เราทำเองได้น่าแค่นี้เอง”
“อะ...อ่อ อืม”
ของขวัญเปลี่ยนเป็นใส่ไส้ดินสอทางหัวแทน เขย่าๆแล้วกดไม่กี่ทีดินสอกดก็พร้อมใช้งานอีกครั้ง
เธอเลื่อนสมุดโน้ตหันด้านให้ทั้งสองคนตรงข้ามกันอ่านออก ชี้ๆปลายดินสอแล้ววงหัวข้อต่างๆ
“ต้น ทำหัวข้อแรกกับสี่แล้วกัน ส่วนไปรท์ทำสองกับสามนะ แล้วที่เหลือเดี๋ยวเราทำเอง”
“โอเค งั้นเดี๋ยวเราแวะเอาโน๊ตบุ๊คไปบ้านขวัญด้วยเลยดีกว่า จะได้ช่วยกันทำ”
“ช่วยกันหรือให้ขวัญทำให้กันแน่”
“ไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะคะคุณต้น”
ภาพหยอกกันของเด็กวัยรุ่นคงดูน่ารักดี เมื่อสไปรท์ผลักหัวเกรียนๆนั่นด้วยความหมั่นไส้หรือหงุดหงิดก็ตามที แต่มันเรียกเสียงหัวเราะของต้นได้หนักกว่าเก่า ขวัญกำลังยิ้ม หัวเราะร่วมไปกับสงครามขนาดย่อม ก่อนจะก้มลงรวบข้าวของเก็บใส่กระเป๋านักเรียนแล้วลุกขึ้นยืนและสไปรท์ก็ลุกตามเหมือนทุกทีเป็นอันรู้ว่าถึงเวลากลับบ้าน ของขวัญกำลังจะเดินนำออกไปแต่เสียงแหบๆของต้นกลับเรียกความสนใจไปได้ซะหมดทั้งที่เขาไม่ได้พูดกับเธอซักนิด
“ไปรท์ ไปดูหนังกันปะ เราได้ตั๋วฟรีมาสองใบอะ”
สไปรท์ส่ายหน้าแบบไม่ต้องคิดให้เด็กหนุ่มใจแป้ว รีบมาจับแขนสไปรท์เหมือนจะวอนขอ
ทำสีหน้าดูผิดหวังมากมายแต่คงใช้ไม่ได้ผลกับสไปรท์ซักเท่าไหร่
“ไม่ดีกว่า วันนี้เราจะค้างบ้านขวัญเดี๋ยวกลับช้าอะ”
“วันนี้บ้านเราไม่ค่อยสะดวกอะไปรท์ พ่อจะพาไปกินข้าวนอกบ้าน คงกลับดึกหน่อย”
สไปรท์หันมาทำหน้าเหวอ
“อ้าว ไหนเมื่อกี้ยังบอกว่าว่างไง”
“ก็เราเพิ่งนึกออก กลับก่อนนะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
ของขวัญโบกมือลาที่เพื่อนสาวก็พยักหน้าให้ทั้งยังดูงงไม่หาย
เด็กสาวเดินแยกออกจากทั้งสองที่คงจะไม่เร็วพอถึงได้ยินคำขอเดิมของนายต้นด้วยคำตอบที่ต่างไป
“เออ งั้นไปดูหนังด้วยก็ได้”
**
จำไว้บ้างสิยะ ว่า ผอ. ย่อมาจากผัวคนอื่น!!! เพี๊ยะ
จอสี่เหลี่ยมยังคงฉายภาพการเคลื่อนไหว แสดงตัวอย่างการแย่งผู้ชายได้อย่างน่าประทับใจคนดู
แต่ตอนนี้คงจะไม่มีผลกับเด็กสาวที่นั่งเหม่อ กอดหมอนอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ดวงตายังคงจดจ้องที่หน้าจอแต่ประสาทไม่ได้รับรู้ภาพการตบตีตรงหน้าเลยซักนิด
“ขวัญมากินลอดช่องมา แม่ซื้อเจ้าประจำมาให้เลยนะเนี่ย”
เสียงแม่ดังใส่หูที่ทะลุออกอีกข้างแทบจะทันที ของขวัญถึงได้ไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองให้แม่ต้องเรียกซ้ำอีกครั้ง “ขวัญ?”
ซึ่งก็เหมือนเดิม สาวรุ่นใหญ่จึงเดินไปนั่งข้างลูกรักมองหน้าตาเหม่อลอยของคนเป็นลูกแล้ววางมือลงที่ไหล่บางที่ได้แรงสะดุ้งด้วยความตกใจเป็นการตอบสนองทันที ของขวัญหันมามองหน้าแม่เลิ่กลั่ก
“คะ?”
“แม่ทำลอดช่องให้เรา เจ้าโปรดขวัญเลยนะ”
“อ๊อ ขอบคุณค่ะแม่ แม่ของขวัญน่ารักที่สุดเลย~"
ปากหวานใส่ซักทีก็รับชามลอดช่องมาตักใส่ปากคำโต
“ปากหวานตลอดนะเรา แล้วเมื่อกี้เหม่ออะไรน้า
เหม่อถึงหนุ่มๆรึเปล่าเอ่ย”
ค่อก!!
แม่ทำหน้าหยอกเล่นให้เธอเกือบสำลักลอดช่องให้พ่นขึ้นจมูก ไอ่ค่อกแม่จนแม่รีบหยิบทิชชู่ให้
ของขวัญรับมาเช็ดปากเช็ดคางปล่อยให้แม่ดึงชามของหวานไปวางที่โต๊ะรับแขกแทน
เธอยังซับตามริมฝีปากแล้วยิ่งรู้สึกร้อนๆหนาวๆเมื่อแม่หรี่ตาเหมือนจะจับผิด
“นี่เหม่อถึงหนุ่มๆจริงๆหรอขวัญ”
“เปล่านะแม่ ขวัญไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย”
แม่ถอนหายใจแล้วส่ายหัวไปมา ของขวัญเอนเข้ากอดเอวแม่ ทำเงยหน้าขึ้นทำหน้าออดอ้อนที่ได้รับรางวัลเป็นการลูบหัวอย่างอ่อนโยน
“แม่ไม่ได้จะว่าเราซักหน่อย อืม แต่ยังไงแม่ก็อยากให้โฟกัสเรื่องการเรียนก่อนนะ
อย่างเพิ่งรีบมีแฟนหล่ะเรา ถ้าแค่ดูๆไปหน่ะได้”
“ง่ะ ก็ขวัญบอกแล้วไงคะว่าไม่ได้คิดเรื่องนั้น
เห้อ....ไม่เอาไม่พูดแล้ว แล้วนี่เมื่อไหร่พ่อจะกลับมาอะ ขวัญคิดถึงพ่อจะแย่แล้ว~”
แม่ของขวัญยิ้มให้กับความน่ารักของคุณลูกที่ทำเนียนเปลี่ยนเรื่องไปเฉย
หอมแก้มคุรลูกไปซะฟอดใหญ่ให้ของขวัญจุ้บแก้มคืนแล้วนั่งซุกกอดแม่ต่อ
“จันทร์หน้าไง แม่บอกขวัญไปแล้วไม่ใช่หรอ”
“ก็ขวัญอยากถามอีกนี่”
“กวนจริงๆเลยลูกคนนี้ แล้ววันนี้สไปรท์ไม่มาด้วยหรอเรา
ไหนบอกแม่ว่าจะพาเพื่อนมาค้างด้วยไง”
คำถามเดียวที่ทำเอาคนที่กำลังออดอ้วนแม่ชะงักทันที
ของขวัญยิ้มแหยๆแล้วเลื่อนตัวนอนตักแม่ ปล่อยให้แม่ลูบหัวให้รู้สึกสบายตัว
“ไปรท์ติดธุระค่ะ เลยมาไม่ได้แล้ว ”
แม่ทำหน้าแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
“งั้นไปอาบน้ำนอนได้แล้วเรา ตัวเหม็นจะแย่แล้ว”
“ง่ะ พรุ่งนี้วันหยุดนะแม่ ขอนอนดึกน้า~”
“งั้นก็ไปอาบน้ำก่อน ไม่เหนียวตัวรึไงเนี่ย”
ของขวัญพยักหน้ารับคำค่าๆ ปล่อยให้แม่จับตามตัวประมาณว่าเหนียวตัวแทนมากมายแล้วผลิกหน้ากอดเอวแม่แน่นๆ
ให้แม่หัวเราะหยอกกันตามประสาแม่ลูกไม่ได้สนเสียงทีวีเลยซักนิด
ครืด ครืด
หืม...
เสียงสั่นครืดคราดบนโต๊ะรับแขกหยุดการหยอกเล่นของแม่ลูก ของขวัญเอื้อมไปหยิบมือถือซะเกือบกลิ้งตกโซฟาให้แม่รีบจับตัวไว้แถมดุใส่ข้อหาซุ่มซ่าม เจ้าตัวก็ได้แต่ทำหน้าหงอย แล้วก้มลงมองรายชื่อบนหน้าจอที่สว่างวาบไม่หยุด
สไปรท์
ขวัญกำมือถือแน่นเริ่มกัดริมฝีปากด้วยความกดดันอะไรที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกแบบนั้น
เธอเอาแต่ตัดสินใจจนมือถือมันแน่นิ่งไปเลยถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่เพียงไม่นานมันก็สั่นใหม่ซึ่งคราวนี้เรียกความสนใจจากแม่ได้เต็ม
“รับสิขวัญ แม่ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าเหนียวตัวจะแย่แล้ว ปิดบ้านด้วยนะ อ๊อกินลอดช่องให้หมดก่อนหล่ะ”
“ค่ะแม่”
ของขวัญรับคำไปส่งยิ้มอ่อนๆให้แม่ ที่เดินหายขึ้นชั้นสอง จึงละความสนใจมาจดจ้องเจ้ามือถือจอยาวอีกครั้ง
ที่ยังไม่หยุดเรียกร้องให้รับสายเสียที เธอหายใจเข้าลึกแล้วสไลด์อันล็อคหน้าจอ
“ว่าไงไปรท์”
“ขวัญ”
เราคุยโทรศัพท์กันไม่ค่อยบ่อยหรอก ก็ในเมื่อเห็นหน้ากันแทบทุกวัน ไม่รู้สิ คงเพราะไม่ค่อยคุ้นกับเสียงในโทรศัพท์ของสไปรท์หล่ะมั้งเธอถึงรู้สึกประหม่าแบบนี้ คิดอะไรเพียงไม่นานปลายสายก็ดึงสติเธอเข้าที่อีกครั้ง
“ขวัญ เธอกลับบ้านรึยัง”
เอ่อ.... ของขวัญเงยหน้ามองนาฬิกาติดผนังแล้วขมวดคิ้ว
อืม..ทุ่มครึ่ง ไม่ค่อยดึกเลยแห๊ะ บอกว่ากินข้าวอยู่กับพ่อจะดีกว่ามั้ง
“ยังเลย เรากินข้าวอยู่นอกบ้านหน่ะ ไปรท์มีอะไรรึเปล่า”
“อ่าวหรอ”
สไปรท์รับคำแค่นั้นแล้วเงียบไปนานพอดูเลยหล่ะ มันมีแค่เสียงลมหายใจของเราสองคนดังทำลายความเงียบ
เธอจึงตัดสินใจพูดอะไรออกไปตัดความรู้สึกอึดอัดในใจซักที
“ไปรท์ งั้นถ้าไม่มีอะไรไว้คุยกันนะ เรากินข้าวอยู่อะ”
“อะ อ๋อ โอเค”
...
ในเมื่อสไปรท์ไม่วางก่อน ของขวัญจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายตัดสาย อีกไม่ถึงมิลปลายนิ้วกำลังจะสัมผัสหน้าจอหยุดบทสนทนา
แต่เสียงที่เล็ดรอดออกมาแค่แผ่วกลับทำเอานิ้วของเธอชาขึ้นมาเสียดื้อๆ
“อืม.....งั้นหมายความว่าบ้านเธอ เปิดไฟทิ้งเอาไว้งั้นสิ
เอาเถอะ ยังไงก็ฝากสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ด้วยแล้วกัน”
TBC.
ความคิดเห็น