ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Girlfriend [สไปรท์xของขวัญ] Hormones (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #33 : SPECIAL PART (Irony) : First Part

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.2K
      18
      21 ต.ค. 56



     






     

    “ปวดฉี่  ปวดฉี่อะ”

     

    “รู้แล้วๆ อั้นไว้ก่อน อย่าเพิ่งปล่อยนะ!

     

    ขวัญ กอดเอวประคองคนที่ยืนบิดไปมา มืออีกข้างนี่สั่นหงึกๆเสียบกุญแจไขเปิดห้องอย่างเร่งรีบพอเปิดประตูผ่างก็ รีบคว้าสไปรท์ไว้แทบไม่ทันเมื่อทำท่าจะถลาลงเตียง โยนกระเป๋าของเธอกองไว้ที่ชั้นหน้าทีวีลวกๆส่วนของสไปรท์ก็เขี่ยใส่เตียง ลากแขนให้นางเดินเป๋มาที่ห้องน้ำ ผลักเข้าไปแล้วปิดประตูรอให้ยัยขี้เมาจัดการธุระซะให้พอ

     

    เห้อ... เหนื่อยได้อีก

    เธอก็ไปนั่งรอที่เตียงได้ยินเสียงกดชักโครกแต่ยังไม่เห็นวี่แววของคนด้านใน

    นั่ง กวาดตามองสภาพหอพักของเราเรื่อยเปื่อย จนสะดุดตากับกรอบรูปที่วางอยู่ที่ชั้นวางหน้าทีวีที่ดันคว่ำเพราะแรงกระแทก จากกระเป๋าหล่ะมั้ง ขวัญเดินไปหยิบมันขึ้น ยิ้มบางๆทั้งมือลูบภาพคู่ของเราในวันฉลองจบการศึกษาม.ปลาย คิดถึงวัยนั้นเหมือนกันนะ ไว้กลับโรงเรียนไปเยี่ยมครูบ้างดีกว่า วางกรอบรูปไว้ที่เดิมมือก็วางแนบเคียงข้างเคาะชั้นไม้ใช้เสียงกึก กึกให้มันคลอเป็นเพื่อน

     

     ก็... ขอแม่อยู่หอพักกับไปรท์ตั้งแต่ปีหนึ่งนั่นแหละ เหตุผลว่าเดินทางสะดวกนี่ช่วยได้เยอะเลยหล่ะ จนตอนนี้ปีสามแล้ว แยกมาอยู่กันเองแบบนี้จากแค่สถานะคนรักเริ่มรู้สึกเหมือนโดนยัดเยียดความ เป็นแม่ให้ยัยเด็กเที่ยวนี่ด้วยน่ะสิ คนอะไร ซกมกแล้วยังชอบเที่ยวอีก
    ส่ายหัวหน่ายๆกับพฤติกรรมเด็กชิว แล้วมองเข้าที่ประตูห้องน้ำที่รู้สึกว่านานเกินไปจนชักเป็นห่วงจึงเดินไปเคาะประตู

     

    ก๊อก ก๊อก

     

    “ไปรท์ เสร็จยัง”

    เรียก อีกรอบที่ได้แต่ความเงียบตอบสนอง “ไปรท์ งั้นเราเปิดประตูนะ” บอกเตือนไปที่ไม่มีเสียงค้านถึงบิดลูกบิดที่มันไม่ได้ล็อค ดันประตูแง้มเข้าไปให้ต้องถอนหายใจออกมาอีกระรอก เมื่อคนที่เป็นห่วงดันนั่งคอพับพิงกำแพงดูหลับสบายจนน่าหมั่นไส้ ดีหน่อยที่ใส่อะไรๆเสร็จแล้วไม่งั้นนี่จะเทศน์ให้

     

    “เธอนี่มัน”

    กัดฟันกรอดๆใส่ยัยขี้เมา เรียนมาก็เหนื่อยแล้วต้องมารับมือกับยัยลำยองอีก ชีวิต

    สอดแขนเข้ารัดตัวบางๆร้องฮึ๊บ!ดึง ตัวโงนเงนของสาวขี้เมาให้พิงตัวเธอไว้เพื่อกระเตงพาออกห้องน้ำที่อีกฝ่ายไม่ ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ ปล่อยสไปรท์ร่วงปุใส่เตียงจนตัวเด้งผมสยาย ยืนเท้าสะเอวมองคนที่นอนแผ่หลาทั้งขายังห้อยเกยพื้นจึงนั่งยองถอดรองเท้าส้น แหลมให้ก่อนจะขยับเข้าทิ้งตัวนั่งข้างสไปรท์ มองคนที่ปรือตาขึ้นทำตาฉ่ำมองเธอ นั่น แล้วจะยิ้มทำไม ขวัญลูบหัวสวยๆให้นางครางงือเหมือนจะสบายตัว

    “ไง เที่ยวสนุกไหม”

     

    “อืม.... สนุกมากเลย ขวัญน่าจะไปด้วยกัน”

    “ไปได้ไง งานเยอะจะตาย ควิสทุกอาทิตย์อีก”

    ตอบไปที่สไปรท์ดันยู่ปากใส่ บ่นหงุบหงิบ

    “ก็เห็นเยอะตลอดอะ”

    “ใครจะทำตัวว่างได้ตลอดเหมือนเธอหล่ะ”

     

    “งานเราก็มี แต่มันไม่เยอะเท่าเธอปะ เรียนไรเยอะแยะวะ”

    เอ๋า นี่เธอผิด? ขวัญหัวเราะทั้งส่ายหน้าใส่คนที่เริ่มเถียงอ้อแอ้ ตบแก้มแดงๆของอีกคนเบาๆ

    “นอนดีๆหน่อยดิ” อืม...สไปรท์ครางรับในลำคอตัวก็ขยับเลื้อยถดขาขึ้นจนหัวแปะใส่หมอนที่ขวัญสอดมารองรับพอดี
    นอนเอียงหน้ามองขวัญกดมือถือขึ้นดูเวลา ทำท่าเหมือนจะไปหาไอ่กองหนังสืองั่งๆนั่นอีกจึงรีบคว้าแขนขวัญไว้ ช้อนตาขึ้นมอง

    “ขอกอดหน่อย”

    “หืม... เรายังไม่อาบน้ำเลยนะ”

    “ก็ช่างดิ”

    ทำดื้อใส่ได้น่ารักขนาดนี้เลยตามใจซะหน่อย โน้มตัวลงสวมกอดที่สไปรท์ซุกเข้าหาทันที

    ขวัญกดจูบใส่หัวหอมๆแนบก้มลงกับกลุ่มผมนุ่ม “เป็นอะไรหล่ะเนี่ย อ้อนจัง”

    สไปรท์ส่ายหัวซะเธอชักจะจั๊กจี้คางพูดอู้อี้ใส่อกเธอ

     

    “เปล่า  ก็แค่... เหงานิดหน่อย”

     

    ขวัญหลุบตาลงมองร่างที่เห็นแต่เส้นผมดัดลอน มือลูบเข้าที่หลังบาง

    “เหงาอะไร เห็นเธอเที่ยวเกือบทุกวันเลยนะ ถ้าเงินเดือนหมดนะเราจะฟ้องแม่เธอให้”

    “เออ!เธอไม่เข้าใจหรอก”

    หน่ะ มีทำเสียงเหวี่ยงใส่ เงยหน้ามาทำตาเขียวปั๊ดใส่กันหนึ่งทีก่อนจะผลุบจากอ้อมกอดไปพลิกตัวหันหลังใส่ให้รู้ว่างอน

    ขวัญขยับเข้าใกล้ แตะเข้าที่ต้นแขนกลมกลึงคลึงหัวแม่โป้งลงไปแผ่วเบา “โกรธหรอ”

     

    กระซิบถามพลางลากมือลงตามผิวลื่นจนจบอยู่ที่สะโพกผาย
    กระตุกมุมปากนิดเมื่อร่างตรงหน้าหยัดขึ้นเมื่อเธอเน้นน้ำหนักบีบสะโพกล่อตา โน้มหน้าเข้ากระซิบชิดใบหูแดงจัด

     

    ขอโทษ
    คำ ขอโทษพร้อมกดริมฝีปากร้อนอุใส่ต้นคอหอมกรุ่น มือลากไล้ ตามลำตัวบางที่สไปรท์ไม่ได้ขัดขืนจนจบที่ซิบด้านหลังเดรสตัวสวย ค่อยรูดมันลงให้เผยผิวขาวจัดสู่สายตาตามการแหวกออกของเนื้อผ้าที่เจ้าตัว กลับหันกลับมาวางมือข้างหนึ่งลงกับหมอน อีกข้างแนบไว้ที่แก้มอุ่นๆของเธอ หนุนหมอนมองกันด้วยระยะประชิดจนลมหายใจร้อนผ่าวรดรินใส่ผิวหน้า เธอไม่รู้ว่าดวงตาสั่นระริกของสไปรท์หมายความว่าอะไรและถูกปัดความคิดทิ้ง หมดเมื่อเรียวหน้าสวยผงกเข้าดูดดึงริมฝีปากให้ต้องขยับตอบรับ ขวัญลูบตามร่างยั่วยวนค่อยดึงเดรสน่าเกะกะให้มันร่นเผยความขาวจัดที่สไปรท์ ยิ่งหายใจสะดุดแต่กลับขยับขาช่วยถีบเดรสให้มันหลุดออกจากตัว

     

    อืม....

    โนบรา? ขวัญหลุบตาลงมองร่ายกายน่าขย้ำก่อนจะถูกเจ้าตัวดึงความสนใจด้วยรสจูบดูดดื่ม ขวัญนวดคลึงหัวไหล่เนียนรับที่สไปรท์ขยับแกะกระดุมเสื้อนิสิตเธออย่างรีบ ร้อนจนเธอหลุดขำนิดๆ “ใจเย็นสิ รีบไปไหนเนี่ย” ผละเพียงนิดกระซิบแหย่เล่น ปล่อยให้สไปรท์สอดแขนผ่านสาปเสื้อไร้ที่เหนี่ยวเข้ากอดลำตัว ลูบไล้ตามแผ่นหลังให้อารมณ์รักยิ่งโหมกระพือ

     

    ครืด ครืด...

     

     

    หืม? กำลัง จะหันไปตามเสียงแต่กลับถูกสองมือรั้งหน้าไว้ให้หันไปรับจูบอีก ถูกดูดความสนใจจากเครื่องมือสื่อสารไปได้ซะหมด ขยับตามแรงรั้งให้คร่อมร่างบางลดใบหน้าขบคลึงที่เนื้ออ่อนใต้เรียวคางที่ สไปรท์เชิดหน้าเปิดทางให้อย่างเต็มใจ กำลังเล้าโลมอย่างใจเย็นแต่กลับถูกมือของคนใจร้อนดึงมือให้แตะที่ต้นขา เหมือนเร่งกระบวนการให้นึกขำในใจ

     

     ครืด ครืด ครืด.....

     

    ห้ามหยุดนะ

    เสียงกระซิบ ขู่ลอดไรฟันที่เธอต้องปัดความสนใจจากเครื่องมือสื่อสารทิ้ง ลูบท้องน้อยสไปรท์จนหดเกร็งตามจังหวะรับการสอดขยุ้มเรือนผมจากร่างเบื้องใต้ ขวัญก้มหน้าก้มตาละเลียดผิวร้อนผ่าวที่อกแต่ตาไม่รักดีดันเฉมองมือถือที่ ขยันสั่นครืดคราดจนรำคาญหู เธอขมวดคิ้วนิดๆเมื่อมันยังคงสั่นไม่หยุดประสานกับเสียงครางในลำคอสไปรท์ให้ เร่งตัดสินใจเหลือบมองนาฬิกาตั้งโต๊ะบนหัวเตียง ตีหนึ่ง?

     

    ฟุ่บ

     

     

    อือ....

     

    เปลือกตาสวยปรือขึ้นเมื่อสัมผัสสวาทมันวูบหายหมด ลืมเปลือกตาหนักๆหรี่มองร่างที่ดันหุนหันไปคว้าไอ่มือถือสัปรังเคจนได้

    “ห๊ะ! เลื่อนวันควิส!เออๆ ขอบใจมาก”

     

    สไปรท์ ขยี้หัวอย่างหงุดหงิด พลิกตัวกระแทกกระทั้นดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงอก ไม่สนเสียงโวยวายของคนที่ดูท่าจะเลิกสนใจในตัวเธอหมดไปแล้วแน่หล่ะ ถึงได้ลุกจากเตียงไปนั่งแปะก้นที่โต๊ะเขียนหนังสืองั่งๆนั่นแทน  สไปรท์เอียงหน้ามองคนที่รีบร้อนกางหนังสือพึ่บพั่บจนลืมแม้กระทั่งจะติดกระดุมให้เรียบร้อย จึงถอนหายใจยาวหันกลับมาฟุ่บก้มแนบกับหมอนใบโตเช่นเดิม เอาเท้าเขี่ยกระเป๋าถือที่ปลายเตียงมาหยิบมือถือก่อนจะปล่อยกระเป๋าร่วงใส่ พื้น มือพิมพ์ยุกยิกใส่แอปเขียวถูกทุกตัวอักษรสภาพมีสติสุด

     

    Sprite: ไม่เห็นได้ผลเลยอิต๊อด!

     

     

    **

     

     

    “แหมะ ตาแพนด้าซะ กี่รอบหล่ะครับเมื่อคืน”

     

    “ครึ่งรอบยังไม่ถึงเลยค่ะ”

    ตอบห้วนสุดฤทธิ์ ทิ้งตัวนั่งตรงข้ามนังเก้ง คว้าแก้วน้ำของเพื่อนสาวข้างๆมาดูดให้นางโวยวายถลึงตาใส่กัน ตาสอดส่ายมองบรรยากาศใต้คณะเศรษฐศาสตร์ เออก็คณะที่เธอสังกัดนี่แหละ บ้างก็นั่งดีดกีตาร์แหกปากร้องเพลง ถ้าพวกผู้หญิงก็จับกลุ่มเม้ามอยเหมือนเธอตอนนี้ไง สอดส่ายสายตามองบรรยากาศชิวๆใต้คณะไม่ทันไรเพื่อนชะนีนางก็แซะไหล่

    “จริงหรอยะ แหม่...แต่เมื่อคืนแม่มึงนี่ของขึ้นใช้ได้นะ กลับห้องแล้วนางไม่มีอารมณ์อยากซั่มสั่งสอนแกบ้างจริงดิ”

    สไปรท์กรอกตาใส่ท่าทางอยากรู้อยากเห็นของเพื่อน

     

    “ก็แค่เกือบ”

    โวะ สะกิดไรอยู่ได้! ไม่ใช่แขนสาธารณะนะเว้ย

    นัง เปิ้ล เออมันชื่อแอปเปิ้ล สาวหมวยผมซอยสั้นทำสีน้ำตาลส้มซะเปรี้ยวจี๊ด
    นั่นแหละมันทำหรี่ตาแตะๆคางเหมือนกำลังคิดวิเคราะห์พฤติกรรมแฟนเธอ
    “ขวัญเซ็กส์เสื่อมปะวะ รึอะไรๆของแกมันไม่เร้าอารมณ์
    เห้ย
    ! ขวัญอาจจะเปลี่ยนมาชอบกล้ามปูมากกว่าแอร์แบคจุ่มจิ๋มของแกก็ได้นะเว้ย!!
     

    สไปรท์ดันหน้าเรียวๆของมันให้พ้น รำคาญท่าถลึงตาของมันจริงๆ กระแทกเสียงใส่หน้ามัน

    “ไม่มีทาง!

     

    “เอ๋าใครจะรู้ ตอนม.ปลายเพศชายมันยังไม่โตเต็มวัย อาจจะมาติดใจกล้ามโตมหาลัยวัยเจริญพันธุ์ก็ได้”

    “ถ้าแกยุให้แตกหักอีกครั้งนะ เงินที่ยืมไปกูคิดดอกเบี้ยนะคะ”

     

    ขู่ไปซะเปิ้ลหุบปากมากๆของมันทันที บ่นหงุบหงิบว่าเธองก งกบ้าอะไร ไม่ งั้นจิกหัวทวงไปตั้งนานแล้วเหอะไม่ปล่อยให้ลูกหนี้มันลอยหน้าลอยตาค้างมาเป็นอาทิตย์แบบนี้หรอก สไปรท์เหลือบมองหน้าสวยๆของเปิ้ลที่มุ่งมั่นในการดูดน้ำปั่น เออมันก็น่ารักดีหรอกนะถ้าไม่ติดว่าพูดมากไปซะหน่อย แบบนี้ไงถึงหาผู้ชายไม่ได้ซักที  นั่งเท้าคางมองเพื่อนชายมันตีปิงปองฆ่าเวลาแล้วต้องเฉตามาสนใจเพื่อนเก้ง เออชื่อต๊อด เมื่อหนุ่มหน้าใสสไตล์เกาหลี(แต่ชะนีอดแดกนะคะ)เปิดปากเหมือนจะพูดอะไร

     

    “เอาจริงๆนะ พวกสายเนิ้ดแบบแพทย์ ทันตฯไรก็เรียนหนักอยู่แล้วปะ

    ทำตัวเรียกร้องความสนใจแบบนี้ระวังขวัญจะรำคาญให้นะครับ”

    “แล้วจะให้ไม่ทำอะไรเลย นอนเฉาอยู่ในห้องเปลี่ยวๆคนเดียวทุกวันงั้นดิ

    มีเรียนก็ไม่กี่ตัว ว่างก็เยอะเกิ๊น ว่างมากๆกูฟุ้งซ่านมึงเข้าใจปะ ทุกวันนี้อย่างกับอยู่คนเดียว น่าเบื่อ”
     

    “มึงก็มาเที่ยวกับกูนี่ไงคะ ยัยลำยอง”

    เออะ ฉายานี้ใครตั้ง ปัดเหนี่ยว! สไปรท์ถลึงตาใส่เปิ้ลรับประโยคสุดท้ายที่มันพ่นแทรก

     

    “ลำยองไร เมื่อวานกูแกล้งเมาค่ะ เหนื่อยโคตร”

    เปิ้ลมันยังยักไหล่ทำเบะปากพึมพำว่าแอคติ้งเนียนเนอะ

    เนียนสิ เมื่อคืนมันก็แค่กรึ่มๆเหอะไม่งั้นจะมีสติยั่วขวัญได้ไงหล่ะจริงปะ

    สาว ไปรท์ละความสนใจจากเพื่อนสาวกับหนึ่งเก้งเมื่อไอ่คู่รักประจำคณะมันเดินผ่าน
    ให้นึกหมั่นไส้ท่าทางสวีทลืมโลกเหมือนช่วงรักโปรโมชั่นให้นึกเฉากับคู่ตัว เอง แล้วเสียงต๊อดมันก็ดึงจากภวังค์


     

    “เข้าใจแฟนแกบ้างสิครับ เลยช่วงโปรโมชั่นมามันก็งี้ แล้วนี่คู่แกกี่ปีแล้ว

    คู่รักสามัญชนคนธรรมดามันยังจืดตามเวลาแล้วยิ่งมีหมอเป็นทูนหัว ทำหน้าที่ผัวได้อาทิตย์หล่ะครั้งก็บุญโขแล้วครับ”

     

    ผัวรึ หรือเมียวะ เออช่างมันเถอะ

    สไปรท์ เหล่มองคุณต๊อดที่ควักมือถือมาหมายจะสไกป์หาสามีมัน ถอนหายใจยาวซะเปิ้ลแซวว่าตีนตาโผล่แต่เธอก็ไม่ได้ตอบโต้เหมือนทุกที นิ้วเกลี่ยหยดน้ำที่ซึมจากแก้วน้ำเล่น เหม่อมองมันอย่างกับจะใช้เป็นตัวแทนในการรับฟัง

    “แต่ความใส่ใจกันก็ไม่เห็นจำเป็นต้องลดลงตามจำนวนปีที่คบกันปะวะ”

     

     

    พึมพำเสียงแผ่วที่ทำเอาเปิ้ลกับต๊อดหน้าเจื่อนหมดคำปลอบมันทันที

    “ถ้าคบกันแล้วมีเวลาไม่พอที่จะเอาใจใส่กันแบบนี้ จะเป็นแฟนกันไปทำไม”

     

    .

    .

     

    .

     

     

     

     

    “อือ อยู่กับต๊อด เปิ้ลก็อยู่

    รู้แล้วน่า วันนี้ไม่ได้เที่ยวซะหน่อย คอนโดต๊อดมันมีเหล้าซะที่ไหน”

    ถ้าเบียร์ก็ว่าไปอย่าง

     

    สไปรท์เอียงคอหนีบมือถือไว้ทั้งมือง่วนกับการยัดข้าวกล่องใส่ไมโครเวฟ

    ปรับจำนวนนาทีที่ต้องการแล้วยืนพิงเคาเตอร์ครัวจับมือถือแนบหูแทนที่ต้องทำท่าให้มันเมื่อยคอ

     

    แล้วจะกลับกี่โมง

    “ไม่รู้เหมือนกัน ก็อยู่เรื่อยๆแหละ เธอเหอะจะกลับห้องปะเนี่ย”

     

    น่าจะนะ ถ้าไม่ติดอะไร

    สไปรท์พยักหน้ารับถึงจะรู้ว่าปลายสายคงไม่เห็นหรอก

     

    “โอเคๆ อย่าดึกมากแล้วกัน  อืม..บาย”

     

    ติ๊ด

    สไปรท์ โยนมือถือใส่กระเป๋าถือส่งแล้ววางกองที่โต๊ะกินข้าว ได้ยินเสียงตี๊ดของเครื่องไมโครเวฟจึงเปิดเอาข้าวกล่องหอมฉุยควบช้อนส้อมถือไปโซฟาที่เปิ้ลมันนอนครองอยู่ เลยทิ้งก้นทับขามันให้หดหนีแทบไม่ทัน  ตาก็ดูละครหลังข่าวมือก็ตักข้าวร้อนๆเข้าปากเคี้ยวหงุบหงับทำเป็นไม่สนเมื่อเปิ้ลมันร้องหิวๆขอส่วนบุญ สไปรท์ถกกระโปรงพีชขึ้นเพื่อจะได้นั่งขัดสมาธิได้สะดวก หูได้ยินเสียงต๊อดกำลังสวีทกับสามีมันผ่านสไกป์ให้นึกหมั่นไส้เล่น

     

    “ไปรท์ๆ ยืมกล้องมึงหน่อยดิ แฟนกูต้องใช้เรียนอะ เอาไปค่ายสองวัน”

    ต๊อดมันเสนอหน้าจากห้องนอนพร้อมรีเควสมาแบบนั้น เธอก็พยักหน้าไป

    “เลนส์แบบไหน?”

    ตักข้าวผัดกระเพราคำโตเข้าปากมองต๊อดมันถามคุณแฟนแล้วเลิกคิ้วหนาๆนั่นขึ้น

     

    “ไม่รู้หว่ะ เอาแบบถ่ายวิวอะ มึงมีปะ”

    “เออได้ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูเอามาให้ที่ม.แล้วกัน”

     

    ต่อรองเสร็จก็กลับมาสนใจจอทีวีอีกครั้งแล้วต้องเลิกคิ้วขึ้นใส่โฆษณาโปรโมตอุปกรณ์ป้องกันการมีลูก

    สไปรท์หรี่ตาลงในหัวก็คิดอะไร ก่อนจะโยนข้าวกล่องลงถังขยะเฉี่ยวหัวเปิ้ลไปนิดเดียวซะเจ้าตัวโวยวายแต่เธอก็ไม่ได้สนใจตะโกนเรียกต๊อด
     

    “ต๊อด!! มึงมีถุงยางปะ”

     

    ห๊ะ! มันเสนอหน้าออกมาทำตาโตใส่

    กระซิบกระซาบสไกป์วางหูหวานใจก่อนจะมายืนกอดอกพิงขอบประตู

     

    “ไอ่มีหน่ะก็มี แต่จะเอาไปทำไมครับ จะนอกใจประชดขวัญรึไง”

    พูดเหมือนรู้ทันที่สไปรท์กรอกตาใส่ ไม่สนประโยคที่เหมือนจะว่ากัน

     

    “เออ ประชดแต่ไม่นอกใจ ขอซองนึงดิ ยืมก็ได้”

    ขอไปที่ต๊อดมันดันส่ายหน้า

    “มีอะไรก็พูดกันดีๆสิครับ ทำแบบนี้เลิกกันได้เลยนะเว้ย”

     

    “แค่พูดมันไม่ได้ผลหรอก จะเอามาให้ดีๆหรือจะให้กูไปซื้อเองแล้วแฟนมึงชวดกล้อง เลือกเองนะ”

     

    นังต๊อดมันจิ๊ปาก บ่นหงุบหงิบประมาณว่าเบื่อชะนี แต่ก็ล้วงกางเกงหยิบกระเป๋าตังมาดึงถุงสีเงินสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบนๆนั่นมายื่นส่งให้เธอ
    สไปรท์คว้ามาทั้งยิ้มกริ่ม เดินไปเปิดกระเป๋าถือหย่อนของดีใส่เก็บไว้เผื่อจะได้ทำอะไรกระตุ้นอีกคน

     

     

     

    **

     

     

    เอาหล่ะ รู้ว่ากำลังทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย
    หมายถึง มันค่อนไปทางแย่นิดหน่อยกับพฤติกรรมใช้ต่อมหึงขวัญให้เป็นประโยชน์

     

    สไปรท์หย่อนมือถือใส่กระเป๋าคู่กับของดี วางไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือที่ยัยหมอฟันใช้ประจำ วันนี้ขวัญบอกกลับเร็ว ก็ไม่รู้ว่าเชื่อได้แค่ไหนนี่ก็ปาไปสามทุ่มแล้วเหอะ เอาเป็นว่าตอนนี้เธออยู่ในชุดพร้อมนอนเสื้อกล้ามกางเกงวอมขาสั้นจุ๊ดแบบเดิม นั่นแหละ ใส่แบบนี้สบายจะตาย

     



     

    แกร๊ก

     

    เสียงเปิดประตูทำเอาสไปรท์รีบเด้งตัวนอนพลิกหันหลังให้ประตูดึงผ้าหุ่มคลุมถึงคอแอ๊บหลับสุดความสามารถ

     

    “หืม...นอนเร็วจัง”

    ตัวเริ่มเกร็งเมื่อขวัญทิ้งตัวนั่งข้างกัน ไม่รู้ว่าสีหน้าขวัญเป็นยังไงแต่แรงยุบที่หายไปทำให้เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำถึงหรี่ตาขึ้น แอบหันไปด้านหลังเห็นขวัญในชุดนิสิตเต็มยศล้างหน้าลบเครื่องสำอางอยู่ที่อ่างล้างมือ จึงหันกลับหยิบโนเกียรุ่นโบราณมาอยู่ในระดับสายตา ก็ของต๊อดมันนั่นแหละ มันซื้อมาไว้ใช้ตอนที่ไอโฟนมันเจ๊งเลยยืมมาก่อน กดยุกยิกอะไรซักพักเสียงริงโทนมันก็ลั่นจากกระเป๋าถือ สไปรท์หลับตา รอฟังเสียงการเคลื่อนไหวที่ถึงดังจนสายตัดไปแล้วยังไม่รู้ถึงสิ่งที่คาดการณ์ไว้อยู่ดี จึงทำเป็นพลิกตัวทั้งยังหลับตาให้ดูเหมือนนอนเปลี่ยนท่า แล้วหรี่ตาขึ้นนิดให้เห็นขวัญที่ยืนอยู่ใกล้โต๊ะเขียนหนังสือทั้งยังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับน้ำตามใบหน้าก่อนจะวางพาดไหล่ กดเปิดโคมไฟก่อนจะเดินไปปิดไฟห้องแล้วกลับมาประจำตำแหน่งเสพความรู้ เห็นนางเลื่อนเก้าอี้ออกทำท่าจะนั่งจึงกดโทรออกอีกครั้งให้ขวัญชะงักหันมองกระเป๋าเธอ

     

    หยิบสิ! นั่นแหละดีมาก

    สไปรท์ยิ้มมุมปากแล้วหุบแทบไม่ทันเมื่อขวัญเปิดกระเป๋าแล้วหันมาทางเธอจึงรีบแกล้งตายหลับตาเพริ้ม

    มือกดตัดสายทันทีที่บรรลุเป้าหมาย ก็... คงต้องเห็นอะไรบ้างหล่ะวางซะเด่นขนาดนั้น เธอได้ยินเสียงกุกกัก ตามด้วยเสียงพลิกกระดาษได้ปกติซะน่าฉงนจึงลืมตาอีกนิดให้เห็นเรียวหน้าด้านข้างของคนเดิมที่ดันสนใจเทกส์เล่มหนามากกว่าของที่ควรจะตกใจ สไปรท์ขมวดคิ้วเพ่งมองกระเป๋าตน หรือขวัญจะไม่เห็น เห้ย แต่วางถุงยางไว้บนสุดเลยนะ

     





     

    “เราทำเธอตื่นหรอ”

    เฮือก!!

    ร่างบางสะดุ้งสุดตัวเมื่อขวัญจ้องเธอซะเต็มตา
    สีหน้าห่วงใยในแสงสลัวของโคมไฟมันทำให้เธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

     

    “เอ่อ.... เปล่า เราตื่นเองแหละ”

    “ไฟแยงตารึเปล่า”

     

    สไปรท์ ส่ายหน้า “เปล่า” ตอบไปที่ขวัญยิ้มอ่อนๆส่งมา ก่อนจะหยิบกล่องพลาสติกใสขนาดพกพา เหมือนจะเป็นกล่องประจำตัวของนักศึกษาทันตฯหล่ะมั้ง ก็เคยเห็นพวกฟันจำลองกับเครื่องมือแพทย์ในนั้น ขวัญเปิดกล่องหยิบเอาพวกฟันจำลองมาวางคู่กับเทกส์บุ๊ค ดูท่าจะท่องจำส่วนต่างๆอยู่นั่นแหละ

     

    เป็นหมอคงต้องใช้ความจำเยอะน่าดู

    ขวัญเป็นคนหัวดี ชื่อประหลาดๆของเส้นประสาทไม่ก็กล้ามเนื้อนั่นถึงจำได้หมด

    แต่น่าตลกดีนะ วันสำคัญของเรากลับลืมมันไปได้น่าตาเฉย ก็....คงต้องใช้สมองส่วนความจำไปกับไอ่พวกนั้นหมดเลยหล่ะมั้ง

     

    “เรียนเป็นไงมั่ง เหนื่อยรึเปล่า”

     

    “มากกกก จารจับผิดเก่งชะมัดเรากรอฟันผิดไปนิดเดียวโดนกลับมาแก้ใหม่หมด ไม่รู้จะโหดอะไรนักหนา”

     นางบ่นทั้งหน้ามุ่ยใส่หนังสือเล่มหนา เธอหัวเราะในลำคอ คงหมายถึงกรอไอ่ฟันปลอมนั่นหล่ะมั้ง

    สไปรท์แนบหน้าลงกับหมอนใบนุ่ม มองการเคลื่อนไหวของขวัญที่ยังตรึงสายตาเธอได้เสมอ

     

    “แล้ว..... ควิสเมื่อสองวันก่อน เป็นไงบ้าง”

     

    ขวัญเลิกคิ้วนิดทำหน้าคิดอะไรก็หันมายิ้มอ่อนๆให้เธอ

    “ก็พอได้อยู่”

    ตอบแค่นั้นแล้วหันกลับไปพลิกหน้ากระดาษ ถือชุดฟันจำลองนั่นเทียบกับรูปในหนังสือ

    “แล้วไปรท์หล่ะ เทอมนี้ยากไหม”

    “นิดหน่อย แต่ก็พอไหว”

     

    น่าตลกดีที่บทสนทนาก่อนนอนเรากลายเป็นแบบนี้ซะแล้ว อย่างกับแม่ถามลูกตามหน้าที่อย่างไงอย่างนั้น

    สไปรท์หลับตาลง พลิกตัวหันอีกทางผ่อนจังหวะการหายใจลงเพื่อดึงตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทราให้พ้นไปอีกวัน

     

    ฟรี้.....

     

     

     

     

     

    กึก

     

    ฟันจำลองถูกวางลงกับหน้ากระดาษเมื่อผู้ศึกษาเลือกที่จะหยุดความสนใจจากมัน

    จับพนักเก้าอี้ ดันตัวลุกขึ้นไปยืนข้างเตียง โน้มมองใบหน้าของร่างที่กำลังหลับใหลท่าจะสบายตัว

     

     

    จริงๆซักที

     

    หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะยกมือชื้นเหงื่อขึ้นคลายแรงกำสิ่งที่ทำเอาความกลัวมันกอบกุมก้อนเนื้อในอก มองห่อพลาสติกสีเงินยับยู่ยี่สลับกับคนที่หลับเพริ้ม หลุบตามองโทรศัพท์รุ่นโบราณที่อีกฝ่ายกุมไว้ จึงดึงผ้าห่มร่นกองอยู่ที่เอวคลุมให้ปิดแขนเปลือยที่โผล่จากเสื้อกล้ามตัวบาง ก่อนจะเสตาหลบละความสนใจไว้บนใบหน้าเรียวสวยแทน

     

    ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น สไปรท์ยิ่งสวยจนเธอ...หวงจนแทบบ้าอยู่แล้ว

     

     ขวัญเกลี่ยปอยผมที่ระผิวแก้มอุ่นออกให้ วางมือแนบกับศีรษะได้รูปพลางเกลี่ยผมลื่นมือแผ่วเบาราวกับจะกล่อมให้ฝันดี ภาพสไปรท์ขดตัวด้วยความหนาวอย่างกับลูกแมวมันน่ารักเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้ ไม่รู้ทำไม การยกยิ้มมันถึงทำได้ยากขึ้นราวกับโดนบางสิ่งมันถ่วงจนหน่วงเกินกว่าจะยกมุมปาก

     

    ขวัญทิ้งตัวนั่งลงเตียง มองแผ่นหลังบางผ่านความมืดสลัวด้วยแววตาที่หมองลง

    แต่ดูท่า.....สไปรท์คงจะไม่รู้ตัวหรอก

     

    **

     

     

     

     

     

    “มึงท้อง!!

     

    พรวด! แค่ก!!!

     

    ท้อ ค่ะ กูท้อ ไม่ใช่ท้อง ไอ่เกย์หูตึง!

     

    มือบางควานทิชชู่ในกระเป๋ามาเช็ดปากเช็ดคางหลังจากพ่นชานมไข่มุกซะเลอะไปถึงคอเลอะเสื้อนักศึกษา

    เธอนั่งลงที่นั่งหน้าห้องน้ำในดิจจิตอลเกทเวย์แห่งสยามที่นังต๊อดเกย์เคะมันก็เบะปากใส่ยืนกอดอกค้ำหัวกันอยู่แบบนั้น

    ก็ ไม่ได้กะมาสนทนาหน้าสุขาแบบนี้หรอกนะ แต่แฟนมันดันปวดหนักให้เดือดร้อนนั่งรอแทนที่จะไปแกร่วร้านเกะกันซักที นานๆที่นังเปิ้ลมันจะป่วยนอนตายอยู่บ้านไม่มีคนแย่งไมท์ แล้วต้องมาเสียเวลารอหวานใจมันอีก เห้อ.... อยากแหกปากจะแย่แล้ว

     

    ยืนนานต๊อดชักเมื่อยถึงนั่งลงข้างสไปรท์ ยกขาขึ้นไขว่ ถองศอกสะกิดคนข้างตัวซะสไปรท์เกือบสำลักไข่มุก
     

    “ท้ออะไร คอนดอมไม่ได้ผลรึ”

    “เออ”

    ตอบห้วนๆพลางเอาหลอดเขี่ยนไข่มุกที่อยู่ซะก้นแก้วด้วยแรงสูบมันดูดไม่ขึ้น

    “ไม่ซักนิด?”

     

    “ไม่ซัก ไม่เหวี่ยง เมื่อเช้าซื้อโจ๊กมาให้ด้วย นี่ขวัญไม่หึงกูบ้างหรอวะ อย่างน้อยก็น่าจะถามหน่อยดิว่าไอ่ถุง!!

    เอิ่บ คนเยอะอยู่นะ สไปรท์กระแอมเมื่อเสียงมันดังไปซักหน่อย

    “นั่นแหละ คือก็น่าจะถามปะว่าเอามาจากไหน จะใช้กับใคร อะไรเทือกนั้น”

     

    ต๊อดลูบคางมองเพื่อนสาวที่ดูหัวฟัดหัวเหวี่ยงเคืองในการตอบสนองขัดกับการคาดการณ์ที่เจ้าตัวคงหงุดหงิดน่าดู

    มองสไปรท์เขย่าๆไอ่แก้วชานมไข่มุกหมายจะเอาหลอดทิ่มแป้งหนึบหนับเพราะไร้น้ำจะดูดขึ้น นางจิ๊ปากเมื่อมันยากเกินความสามารถกระแทกแก้ววางไว้ข้างตัว
     

    “มึงไม่คิดบ้างหรอวะ ว่านางอาจจะไม่เห็นจริงๆก็ได้ หรือไม่ก็...”

    หรี่ตากดเสียงซะเบาเกินความจำเป็น

    “รู้เห็น แต่ไม่พูด

    อันหลังน่ากลัวนะกูว่า”

     

    สไปรท์ยักไหล่รวบกระโปรงพีชหย่อนไว้หว่างขาเพื่อไขว่ห้างได้สะดวก

    “ไม่หรอก ถุงยังอยู่ในกระเป๋ากูเลย อะ เอาคืนไป”

     

    เกย์ต๊อดร้องเห่ยๆรับถุงของดีแทบไม่ทันเมื่อเพื่อนสาวไร้ยางอายมันหยิบส่งให้ซะดื้อๆ รีบยัดใส่กระเป๋ากางเกง ดีนะคนอื่นมันไม่ได้สนใจ เข็มก็ติดหราบนเสื้อกลัวไม่สร้างความเสื่อมให้มหาลัยหรอวะครับ! นี่ถ้าไม่ติดว่าไปรท์มันขอให้มาเป็นเพื่อนหาหวานใจมหาลัยเจ้าถิ่นสยามเขาไม่มาหรอก โคตรไกลจากบ้านเกิด

     

    “คบกันมากี่ปีแล้วยังจะทำตัวแง๊งแง๊งเป็นเด็กม.ปลายเรียกร้องความสนใจอยู่ได้
    ถ้าขวัญเบื่อชะนีคิดหาสามีแท้ขึ้นมากูจะขำให้นะครับ”

     

    พูดไปที่สไปรท์มันหันควั่บจิกตาใส่ทันที

    “แค่จะเบื่อกันยังไม่มีเวลาเลยมั้ง แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปหาผู้......”

    เสียงมันวืดหายไปตามสายตาที่มองผ่านหน้าต๊อดไปด้านหลังให้เพื่อนเกย์ทำหน้างงหันมองตามถึงเจอกับบุคคลในบทสนทนาดูท่าจะมีธุระกับ

     

    ชาย

    ต๊อดกลืนน้ำลายดังเอื้อกเมื่อเริ่มรู้สึกถึงรังศีอัมหิตกระแทกใส่หัว ไม่ได้ส่งให้เขาหรอก คงเป็นทางผ่านไปหาใครตรงนู้นที่ดันยิ้มคุยคิกคักอยู่ร้านกล้องกับนิสิตหนุ่ม หน้าตาน่ากินระดับหมอโอ๊ควัยเยาว์ โอเค.... แล้วก็ละสายตาจากภาพชวนสวีทมาที่เพื่อนสาว สไปรท์กำลังเม้มปากหน้านี่โกรธจัดลุกพรวดซะเขาคว้าแขนมันอย่างรวดเร็ว
     

    “เห้ย! มึงอย่าเพิ่งหึงมั่วซั่ว เพื่อนปะวะดูดีๆครับดูดีๆ”

    เอาหล่ะ เขาอยากตบปากตัวเองซักสิบแปดรอบ อุส่าห์พูดช่วยแต่เหมือนการที่ขวัญยืนยิ้มให้เจ้านั่นแช๊ะภาพเหมือนจะลองกล้องทำเอาสไปรท์ยิ่งหายใจแรงราวกับกดอารมณ์หึงหวงไม่อยู่ พูดเสียงแผ่วเหมือนจะสนทนากับเขาแต่สายตาอัมหิตจ้องภาพตรงหน้าไม่ยอมละ


    “วันนี้กูบอกขวัญว่าจะมาหาที่ม.แต่ขวัญบอกว่าไรรู้ปะ”

    สไปรท์เค้นยิ้มที่ราวกับเยาะเย้ยตัวเองกรอกตาใส่ภาพขัดหูขัดตา ขวัญดูมีความสุขดีเนอะ

    มีเข้าแลปบ่าย เราคงไม่ว่างมาเจอไปรท์หรอก  เหอะ

     

    โกหก

     

    กดเสียงต่ำตามระดับความเสียใจของเจ้าตัวก่อนจะหุนหันเดินไปอีกทางทิ้งให้ต๊อดทำหน้าเหวอ ยิ้มแหยๆเมื่อคนรักเพศเหมือนออกมาจากห้องปลดทุกข์ทำหน้างงใส่ว่าเพื่อนสาวหายไปไหน ต๊อดเกาคอแกรกๆมองแฟนเพื่อนที่ยังเลือกกล้องได้ไม่รู้ร้อนหนาวว่างานคงจะเข้าในไม่ช้า ส่ายหัวส่งยิ้มให้คนรักสุดหล่อ
     

    “เกะกันนะครับ สองคนนี่แหละ เงียบดี

     

    **

     



     

    ตอนเย็นทำตัวให้ว่างแล้วมาดินเนอร์ด้วย

    อันนี้คือไม่ได้ถามใช่ไหม

    เออ เราสั่ง มาเร็วๆด้วยหล่ะ เดี๋ยวส่งที่อยู่ร้านให้ในไลน์

    โอเค เผด็จการจังเลยเธอนี่

     

     

    เพราะประโยคสั้นๆทางโทรศัพท์เป็นสาเหตุที่เธอยืนอยู่หน้าร้านอาหารในโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้ไง
     

    “ของขวัญค่ะ”

    บอกชื่อหวานใจที่ใช้โทรจองโต๊ะแล้วพนักงานก็ก้มหน้าก้มตาหารายชื่อซักพักก็ยิ้มกว้างพายมือเชิญให้เข้าด้านใน บริการดีสมกับราคาหูขาดแหว่ง แหม่ นานๆทีอะนะ สไปรท์เดินนวยนาดพาร่างในชุดเดรสยาวเท่าเข่าไปนั่งตามที่บริกรนำ ยิ้มหวานเป็นเชิงขอบคุณเมื่อเขาเลื่อนเก้าอี้ให้และรับเมนูมากวาดตาอ่านคร่าวๆ หูก็ฟังหนุ่มบริกรสุดเลิ้ดร่ายเมนูน่าหม่ำ เธอเหลือบดูนาฬิกาข้อมือเล็กน้อย อืม.... ห้าโมงสี่สิบห้า สั่งก่อนเลยดีกว่ามั้ง

     

    “ล็อบเตอร์อบชีสร่วมกับหอยนิวซีแลนด์เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านเลยหล่ะครับ และ” “เอาสปาเกตตี้คาโบนาร่ากับเพสโตซอสพาสตา  อ๊อแล้วสลัดผักล็อคเกทด้วยนะคะ อืม....ไวน์ขวดนึง แค่นั้นแหละค่ะ”
     

    สั่งรัวซะบริกรเงิบก้มหน้าจดยุกยิกที่ร่ายมามันก็น่ากินหน่ะนะ แต่สั่งแบบที่ขวัญชอบดีกว่า เห็นไม่ทานตั้งนานแล้ว สไปรท์ยิ้มให้เมื่อพนักงานก้มหัวเป็นเชิงขอตัว เธอสูดหายใจเอาอากาศเย็นๆยามหัวค่ำเข้าปอด กวาดตามองภาพแม่น้ำสบายตา เลือกร้านเก่งจริงๆเลยสไปรท์
     

    ว่าแล้วก็ควักกระจกพกพามาส่องผมเผ้ากดต่ำอีกนิดมองเดรสตัวใหม่เอี่ยมที่ถอยมากะให้ขวัญถอด นังไปรท์ลามก! ก่นด่าตัวเองแต่หัวเราะคิกคัก ขยับจัดชุดตามอารมณ์หลุบตามองของดีที่ยัดมานิดหน่อย แหม่ถึงขวัญจะรู้ขนาดจริงก็เถอะ เราไม่ได้คบกันที่ขนาดแอแบคนี่ ก็เอาแค่ให้มีพอใส่เดรสให้มันงามก็แค่นั้นแหละ

     

    สั่งไปก่อนอาหารคงมาพอดีขวัญหล่ะมั้ง สไปรท์วางกล่องขนาดเล็กที่เตรียมมาเป็นของแลกเปลี่ยนในวันสำคัญ คัพเค้กที่อุส่าห์ถ่อไปบ้านเต้ยอ้อนให้นางสอนทำเลยนะ  ไม่รู้ว่าอร่อยรึเปล่า แต่ขวัญต้องชอบชัว ดวงตาคู่สวยมองนาฬิกาข้อมืออย่างสุขใจ มองเข็มสั้นยาวมันเคลื่อนตามหน้าที่ที่มันช้ากว่าปกติเพราะต้องมาเป็นฝ่ายรอ เอาเถอะ ยังไงขวัญก็เป็นคนตรงเวลายิ่งกว่านาฬิกาอยู่แล้ว

     

     

     

     

     

     




     

    “เอ่อ  ไม่ทราบว่าจะให้อบใหม่ไหมครับ”

    “ ก็ดีค่ะ ขอบคุณ”
    เธอพูดออกไปเมื่อบริกรหน้าเก่ามาถามไถ่ด้วยความห่วงใย อาหารมันคงชืดจนเขารู้สึกได้หล่ะมั้ง

    สไปรท์หลุบตามองเข็มสั้นที่มันชี้เลขแปด พร้อมกับเข็มยาวขยับไปถึงสิบสองพอดี

     


     

    เธอเป็นคนความอดทนไม่ค่อยสูงเท่าไหร่ หมายถึงก็ไม่ได้ต่ำอะไรมากมาย โกรธ? เรียกว่าเสียใจมากกว่า

    มือเรียวกดโทรออก ฟังเสียงรอสายทั้งสายตาดันเห็นเหล่าผู้ร่วมร้านอาหารที่มาเป็นคู่ได้อย่างน่าอิจฉา
    สไปรท์หันหน้าหนีภาพบาดตา คิ้วเริ่มขมวด ขวัญอาจจะมีเหตุจำเป็นก็ได้ 



    อะไรที่มันจำเป็นมากกว่าเธอเสมอ

     
     

    ติ๊ด

    “ขวัญ เธออยู่ไหน”

     

    ไปรท์?

    อยู่ร้านอาหารแถวม. มีอะไรหรอ

     

    ร้านอาหาร? สไปรท์อ้าปากค้างไม่เชื่อหู “ร้านอาหาร? อะไร นี่เธอไปกินข้าวกันใคร”

    เสียงจอแจเล็ดรอดออกมาให้ได้ยิน จากบทสนาชัดเจนคงไปกันไม่น้อยเลยหล่ะมั้ง

     

    อาจารย์ที่ปรึกษานัดนิสิตมากินข้าวเย็นหน่ะ เออ แล้วนี่เธอกินไรยัง

    ยังกล้าถามอีกนะ สไปรท์กุมหน้าผากเท้าศอกลงกับโต๊ะ ดวงตาหลุกหลิกด้วยโดนคำพูดของขวัญทำร้าย
     

    “กินแล้ว”

     เธอโกหก และน่าตลกดีที่ขวัญกลับเชื่อสนิทใจ ขวัญลืม ลืมสนิทเลยด้วย ลืมแบบที่ว่าปล่อยให้เธอนั่งรอเป็นชั่วโมงได้หน้าตาเฉย

    เหมือนขวัญจะพูดอะไรที่เป็นการถามไถ่เหมือนทุกครั้งที่เราคุยกัน เรียนเป็นไง งานเยอะรึเปล่า คำถามน่าเบื่อที่เธอนึกเกลียดมันขึ้นทันตา
     

    “กินให้อร่อยแล้วกัน เราง่วงแล้ว นอนก่อนนะ ”

    อืม ฝันดีนะ

     

    เธอครางรับในลำคอและกดตัดสายไม่ยื้อเล่นตัวเหมือนทุกที สไปรท์กำมือถือแน่น
    และอาหารจานเดิมก็เสิร์ฟใหม่กลิ่นหอมฉุยของมันแตะจมูกอีกครั้งที่กลับตีความสะอิดสะเอียนขึ้นมาแทนเสียได้

     

    “เชคบิลเลยนะคะ”

    “ห๊ะ เอ่อ? จะเปลี่ยนเป็นรับกลับบ้านหรอครับ”

     

    “เปล่าค่ะ เชคบิลเลย”

     

    หนุ่ม บริกรทำหน้างงแตกที่เธอก็ปล่อยไปแบบนั้น เขาพยักหน้าและรีบไปจัดการตามที่สาวอารมณ์เปลี่ยนต้องการ เธอวางแบงค์ไว้บนโต๊ะ มันเกิน และเธอก็ไม่มีอารมณ์มารอเงินทอน สไปรท์ลุกจากโต๊ะทิ้งให้อาหารน่าทานมันชมวิวแม่น้ำแทนตัวเธอเอง เดินดุ่มๆเมื่อเห็นบริกรคนเดิมกำลังตรงมาก็ยื่นกล่องคัพเค้กด้วยสีหน้านิ่งสนิท
     

    “ให้ค่ะ”

    “อะ อ่า... ขอบคุณครับ”
     

    ทันทีที่เขารับเธอก็เดินผ่านไปยังหน้าร้าน รอแท็กซี่ซักคันที่มันหายยากเหลือเกินในเวลานี้

    อะไรมันก็ขัดใจไปซะหมด ไม่ว่าแท็กซี่ แฟนไม่ได้เรื่อง

     

     

     

    แล้วยังน้ำตาบ้าๆที่ดันไหลต่อหน้าประชาชีอีก อายชะมัด

     

     

    --








    นั่นหน่ะ เหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อน






     

    กึกๆ

     

     

    “หืม?

    โอเคๆ ขอบใจมาก

    แล้วนี่แยกกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ”

     

     

    มือที่วุ่นอยู่กับกรอนประตูชะงัก  หลุบตามองช่องว่างใต้ประตูทั้งที่ยังเอียงคอหนีบมือถือไว้

    ไม่เปิดไฟ? ไม่อยู่ห้องหรอ งงไม่ทันไรก็ต้องเลิกคิ้วกับคำตอบจากปลายสายทำเอาขวัญถอนหายใจหนักเก็บกุญแจใส่กระเป๋า ละมือถือดูเวลาที่เลขดิจจิตอลมันพอตัวเลขหน้าขึ้นสองเกือบวันใหม่ให้ต้องเลิกล้มความคิดจะเข้าห้องพัก  จับมือถือแนบหูทั้งขยับกระชับถุงที่ของมันหนักเอาการ
     

    “แล้วบอกรึเปล่าว่าไปไหน

    โอเคๆ ไม่เป็นไร ขอบใจนะ”

     

    กดวางสายก่อนจะรีบโทรเข้าเบอร์อีกคน ฟังเสียงรอสายนานเกินให้ยิ่งร้อนใจรีบรุดเดินดุ่มๆไปยังลิฟท์ทั้งยังโทรออกอีกครั้ง กดชั้นหมายย้ำเร่งให้ประตูลิฟท์ปิดเร็วๆก่อนจะยืนมองตัวเลขดิจจิตอลบอกชั้นที่มันไหลลงเรื่อยๆให้รู้สึกช้าเกินไปตามความเร่งรีบในใจ ขวัญออกมาจากตัวลิฟท์ทันทีที่ประตูโลหะเปิดออกหมายจะไปลานจอดรถเตรียมไปยังที่หมายหากปลายสายรับเธอจะได้ไปให้ทันควัน  ล้วงกุญแจกดปลดล็อครถกำลังจะสาวถึงตัวรถที่กลับต้องชะงักเมื่อวีออสสีดำขับผ่านหน้าไปจอดทิ่มหัวเข้าซองอย่างสวยงามข้างรถเธอ  ไม่ได้จะใส่ใจหรอกนะ ถ้าประตูข้างคนขับที่เปิดออกจะไม่ใช่

     

     

    สไปรท์

     

    ไม่ใช่แค่เธอ เหมือนสไปรท์ก็ผงะไปเหมือนกันเมื่อหันมาปะทะสายตากันพอดี ขวัญหลุบตามองสภาพการแต่งตัวที่แค่ดูก็รู้ว่าไปไหนมาให้นึกขัดใจกระโปรงที่มันสั้นแค่คืบ ยังไม่ทันจะสาวความกลับเป็นสไปรท์ที่โพล่งขึ้น ยิ้มให้เธอ

    “เอ้อ นี่ตีโต้นะ ” หล่อนผายมือไปทางเอ่อ.. น่าจะรุ่นเดียวกันมั้ง แต่อารมณ์ผูกมิตรมันไม่ได้โผล่ขึ้นมาซักนิดที่มันคงออกทางสีหน้าเต็มที่ สไปรท์ถึงได้ทำหลบตาเธอหันไปยิ้มหวานให้ไอ่หนุ่มไถข้างนั่นที่เพิ่งออกมาจาก รถเดินอ้อนมาข้างสไปรท์

     
    “ส่วนนี่ขวัญ

    รูมเมท”

     

    รูมเมท?

    คำพ่วงท้ายแสดงความสัมพันธ์ทำเอาขวัญหันควับมองหน้าสไปรท์ทันควัน คำพูดโดนดีดกลืนลงคอหมดจนได้แต่อ้ำอึ้ง

    ขมวดคิ้วแล้วเค้นหัวเราะเหอะๆ ใส่หน้าสไปรท์ก่อนจะชี้หน้าตัวเอง “รูมเมท? เราเนี่ยนะ”

     

    “อ่า...”

    “ไม่! คุณหุบปากไปก่อน!!

     

    ชายหนุ่มหุบปากฉับเมื่อรูมเมทที่ว่ากระชากเสียงใส่มองเลิ่กลั่กสลับกับสาวที่เพิ่งเจอและหวังจะสานความสัมพันธ์กับอีกหนึ่งสาวที่ถึงการแต่งตัวชุดนิสิตดู จะเป็นสาวเรียบร้อยกว่าก็เถอะ แต่หน้าตาคงไม่พร้อมรับแขกแน่หล่ะ

     

    ขวัญหายใจลึกพยามใจเย็นกับคนที่ทำนิ่งใส่ไม่ยอมมองหน้ากัน

    เผยิดหน้าใส่ตีโต้

     

    “เป็นเพื่อนที่ม.?”

    นี่เขาพูดได้แล้วใช่ไหม

     

    “อ่า เปล่าครับ”

    “งั้นรู้จักกันได้ยังไงทำไมถึงมาส่ง”

    เจอคำถามรัวใส่ซะเขาเริ่มมึนกำลังจะขอความช่วยเหลือจากคนที่ยืนนิ่งข้างกัน
    แต่แค่ปลายนิ้วกำลังจะแตะต้นแขนกลมกลึงนั่นกลับโดนปัดออกอย่างแรงด้วยฝีมือคนตรงหน้า ตีโต้ผละออกชูสองมือข้างตัว

     

     “โวๆ ใจเย็นครับ ก็เห็นนั่งอยู่ที่บาร์คนเดียวเลยคุยเป็นเพื่อน แล้วเพื่อนคุณจะกลับผมเลยอาสามาส่ง

    อ๊อสไปรท์บอกว่าโจ๊กใต้หอพักอร่อยดีเลยว่าจะลองแวะชิมซักหน่อย มีอะไรจะถามอีกไหมครับ”

     

    ลงท้ายกวนๆไป ที่คนตรงหน้าไม่ได้มีอารมณ์ขำด้วย ขวัญละสายตาจากเขาไปคว้าแขนสไปรท์ซะเขาเลิกคิ้วอย่างงงๆ

    ใส่ท่าทางยื้อยุดระหว่างสไปรท์กับสาวรูมเมทจนสุดท้ายสาวข้างตัวเขาก็ถลาหาขวัญตามแรงกระชากไปยืนทำหน้าตาบูดบึ้ง
    ตีโต้กำลังจะพูดอะไรแต่ขวัญกับแทรกขัดก่อน

     

    “ขอบใจที่มาส่ง และจะขอบคุณอย่างสุดซึ้งถ้าไม่มีครั้งอื่นอีก”

     

    “เห้ มันไม่เหมือนคำขอบคุณเท่าไหร่เลยนะครับ อารมณ์ไม่ดีหรอคุณ

     ถ้าคุณไม่รังเกียจไปจอยกับเราก็ได้นะ ผมหิวแล้วด้วย”

     

    ขวัญคิ้วกระตุกทันที เรา? หมายถึงใคร สไปรท์กับมันรึไง เธอเหลือบมองสไปรท์ด้วยหางตา คิดจะยั่วโมโห?

     

     ยินดีด้วย ตอนนี้เธอกำลังจะสติแตกอยู่แล้ว ระดับอารมณ์ออกทางสีหน้าที่สไปรท์คงรู้ดีแต่ก็เมินมองทางมืดๆของลานจอดรถแทน
    ขวัญช้อนตาคมกริบกลับมาจ้องหน้าผู้ชายตรงหน้า กดเสียงต่ำ

     

    “นี่คงไม่ได้กะมากินโจ๊กอย่างเดียวหล่ะสิ”

    หนุ่มนั่นมันทำหน้าเงิบไปนิด แต่ซักพักก็ยิ้มมุมปากเพยิดหน้าใส่สไปรท์ นึกขันท่าทางหวงเพื่อนเกินเหตุ

     

    “อันนั้นผมก็ไม่ชัว ถามเพื่อนคุณดูสิ ถ้าเธอเล่นด้วยผมก็ไม่ขัดหรอกนะครับ”

    รู้ว่าบีบแขนสไปรท์แรงขึ้นจนเจ้าตัวพยายามบิดแขนออกแต่เธอก็ไม่คิดจะคลายมือ
    สูดหายใจเข้าลึกกดตัวเองไม่ให้เผลอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าด้วยผ่ามือก่อน จะเค้นยิ้มเหยียด

     

    “ไม่ต้องถามหรอก เพราะถึงยัยนี่จะเล่นด้วย “

    เลือนรอยยิ้มกดเสียงต่ำเค้นรอดไรฟัน


     

    แต่ฉันไม่อนุญาต

     

    ไปหาผู้หญิงคนอื่นที่ยังโสดดีกว่านะ”

     

    ทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนจะกระชากให้สไปรท์ถลาเดินตามกลับเข้าตัวอาคาร ไม่ว่าคำพูดมันจะทำให้ชายหนุ่มอึ้งกิมกี่แค่ไหน

    ไม่โสด? มีคนรัก? แฟน? โอ้วเอาเข้าไป! ชาย หนุ่มยีหัวซะผมยุ่งก่อนจะเตะล้ออย่างหัวเสียแล้วต้องกระโดดเหยงกุมเท้าเพราะมันเจ็บใช่ย่อย หายใจฟึดฟัดดึงประตูออกกระแทกตัวเข้าในรถอย่างแรงตามความหงุดหงิดเสียท่า กลายเป็นเหยื่อของคู่เลสเบี้ยนหน้าตาดี

     

    เออ ใช่ว่ามีแต่ชายแท้หายาก นี่ผู้หญิงมันก็หันมากินกันเองแล้วเหอะ

    เสียดายของชะมัด





    TBC.





    สองตอนจบค่ะเรื่องนี้ ลืมบอกไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×