คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : Hormones' Part : 11
ปุ้!
งือ....
มือบางจับหัวตัวเองอย่างงงๆเมื่อเหมือนมีอะไรกระแทกใส่ เออ ก็แค่เบาๆเหมือนพวกก้อนกระดาษอะไรแบบนั้น
สไปรท์หันหน้ามองเพื่อนข้างๆ ก็อิไมค์กี้เจ้าเก่านั่นแหละแต่ระยะห่างกันนิดหน่อยตามสไตล์จัดโต๊ะสอบ มันทำเล่นหูเล่นตาขยิบยุกยิก สี่ที ข้อสี่? สาวไปรท์ก้มลงมองกระดาษของตนมีตัวเลขเขียนกระปิดกระปอยทำได้มั่งไม่ได้มั้งแต่ไอ่ข้อที่คุณเพื่อนว๊อนนักนี่ดันเว้นไว้ไง
ไม่รู้
เธอขยับปากไปแบบนั้นแล้วรีบหันควั่บก้มหน้าก้มตาใส่กระดาษเพราะครูดันเดินมาเฉียดหน่ะซี่ ดีนะนางยังไม่เห็น
สไปรท์ขบหัวปากกาเลิกคิ้วข้างหนึ่งหัวก็คิดสูตรต่างๆที่ท่องจำมาบ้าง เอ่อ อันไหนทำไม่ได้ก็เขียนสูตรไว้ก่อนนี่แหละเผื่อจะได้ค่าหมึกซักคะแนนก็ยังดี อ๋า...ข้อนี้ขวัญให้ทำด้วยนี่ เยี่ยม!
.
.
.
“อิไปรท์ค่ะ ไหนบอกเมื่อวานติวมาปึ๊กปั่กแล้วอะไร๊ ถามไม่เห็นจะตอบได้ซักข้อ
นี่กั้กหรอ!”
สไปรท์เหลือบมองเพื่อนตุ๊ดทำสะบัดสะบิ้งใส่พลางเลื่อนโต๊ะให้ชิดกันเตรียมเรียนคาบต่อไป เธอป้องปากหาวยาวๆหนึ่งที
“ก็ติว แต่ยังอ่านไม่จบ”
เลื่อนโต๊ะเสร็จปุ้บก็ทิ้งก้นแหมะใส่เก้าอี้นอนฟุบทันที
โอ้ย! จะสะกิดทำไมเนี่ยง่วง!
“เหย....ตาแพนด้ามากอะมึง บอกมาเลยนะเมื่อคืนทำไรมา ตงติวอะไรรึมึงไปทำการบ้านกับใครมายะ
โอ้ย! แล้วตกลงสามีมึงนี่ใครอะเมื่อไหร่จะบอกค๊า!!”
ประสาท
สไปรท์ปัดมือคุณเพื่อนดังเพี๊ยะให้เพื่อนตุ๊ดถลึงตาหน้าพิโรจน์ใส่แต่เธอก็หาได้แคร์ไม่ หลับตาเพริ้มจะนอนต่อ
พยายามไม่สนใจเสียงงุ้งงิ้งเป็นตุ๊ดแตกน่ารำคาญ
“นักเรียนเคารพ”
เสียงคุณหัวหน้าห้องมันทำให้เธอต้องผลุบหัวขึ้นอย่างช่วงไม่ได้ ไหว้โค้งงามๆโน้มซะหน้าผากแปะใส่โต๊ะเรียนเกือบจะเคลิ้มหลับอีกรอบอิไมค์กี้มันก็สะกิด เออะ เธอเรียกว่าการที่มันใช้เท้าหน้าดีดซะแขนระบมว่าสะกิดแล้วกัน นางบอกครูมองสไปรท์เลยหันไปเปิดกระเป๋าหยิบสมุดประจำวิชามาวางแผ่ที่โต๊ะ เปิดพึ่บพั่บแล้วทำหน้างงเมื่อลายมือมันไม่ใช่ของเธอซักหน่อย อ่า...เอนไซม์บ้าบออะไรไม่รู้จัก! หืม.... นี่มันลายมือ
“ครองขวัญ”
เหอะ? สไปรท์หันควั่บทำตาโตใส่ชายใจสาวที่พลิกปกสมุดขึ้นดูหน้าตาเฉย นางทำหน้าคิดอะไรซักนิดแล้วยกมือปิดปากกว้างๆของมันให้รู้ว่าตระหนกตกใจกับสิ่งที่เรด้าจับได้แอคติ้งเว่อซะอยากจะปาสันสมุดใส่หน้าซักที นางลดวอลุ่มเสียงแต่น้ำเสียงนี่ตื่นเต้นสุด
“นี่! อย่าบอกนะคะว่าเมื่อวานแกไปหลับนอนกับขวัญอะ”
“ขวัญมาค้างด้วยเฉยๆ เอาคืนมาดิอิไมค์กี้!”
กระชากคืนได้ก็เก็บใส่กระเป๋าเอาสมุดวิชาอื่นมาวางหลอกตาครู นี่คงหยิบสลับกันตั้งแต่เมื่อวานนั่นแหละ เล่นตื่นซะสายแทบจะลากขวัญไปอาบน้ำพร้อมกันอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่านางจะเขินหน่ะนะ นึกๆดูแล้วนี่หน้าเธอยังเหลือยางให้อายอยู่ไหมเนี่ยมีผู้หญิงที่ไหนมันนึกอยากพากันโชว์ของดีจับเพื่อนสาวนัวเนียอย่างกับตาแก่หื่นๆ สไปรท์โคลงหัวใส่ความคิดเรื่อยเปื่อย จะตั้งใจเรียนซักหน่อยหน้ามันก็วูบเหมือนโดนจ้อง แล้วต้นเหตุมันก็มาจากไอ่คนข้างตัวนี่แหละ สไปรท์ถอนหายใจกรอกตาใส่หนึ่งทีแล้วเท้าคาง
“อยากรู้ไรก็ถามมาสิยะ จ้องอยู่ได้เดี๋ยวกูท้อง”
“อี๋! ชะนีนอแหลมอย่างมึง กูไม่เอามาทำเมียหรอกค่ะ”
โห......ด่าเจ็บขนาดนี้ตบกันเลยมะ! สาวไปรท์ถลึงตาใส่มันแต่ยังไม่ทันจะด่าไมค์กี้ก็ทำกรีดมือกรีดไม้ทำเสียงซุบซิบงุบงิบ
“อย่าหาว่าโง้งี้เลยนะเว่ยยยย แต่หน้ามึงอะ มันบริงค์ขึ้นปะวะกูรู้ว่าสาเหตุมาจากสามีมึง
แต่ขอโทษเถอะค่ะ ตั้งแต่เปิดเทอมกูเห็นแต่มึงหนีบขวัญตัวติดหนึบหนับไปโน่นนี่แทบจะขี้ส้วมเดียวกันอยู่แล้ว ถามจริงเหอะ”
นางเอานิ้วชี้มาจิ้มจึ๊กใส่กันแล้วเกี่ยวนัวซะไม่รู้ความหมายเล้ย
“นี่มึงฉิ่งฉับทัวส์มีผัวเป็นผู้หญิงแล้วชิป๊ะ เอ๊ะรึมึงเป็นผัวเค้าวะ โอ้ยกูเครียด!”
“ไม่รู้ คิดเองสิฉลาดนักไม่ใช่หรอคะ”
ยักไหล่เสริมความน่าหมั่นไส้ให้ตุ๊ดแทบอกแตกตายจะซักเพื่อนสาวให้ตัวเปื่อยอีกซักรอบแต่ครูหัวเหม่งดันทำหน้าโหดเหี้ยมใส่ซะไม่กล้าเปิดปากเลยนั่งเป็นตุ๊ดเงียบไปตลอดคาบ เอิ่บนี่ไง พอจบคาบปุ้บอิไปรท์มันก็ถลาออกห้องอีกละ คงไปหาสามีพันธ์ชะนีชัว
ก็ดี๊ คู่แข่งแย่งผู้ชายหมดไปสองแบบนี้ไมค์ชอบ~
**
“นักเรียนเคารพ”
‘ขอบคุณค่ะ/ครับ คุณครู’
คุณหัวหน้าห้องคิงแห่งระดับชั้นมัธยมห้าบอกทำความเคารพเสร็จก็เก็บของกันให้ควั่กสภาพหวงแหนเวลาพักอันมีค่า
“ขวัญ วันนี้ไปกับพวกเราปะ หรือจะไปกับสไปรท์”
แตงโมเพื่อนร่วมกลุ่มหันมาหา แหม่ ก็ชวัญเล่นไปกับสไปรท์ตั้งแต่เปิดเทอมอะ ตอนแรกก็งงอยู่นะแต่เริ่มชินละ
มองคุณหัวหน้าห้องคนเก่งเก็บของซะเรียบร้อยนางก็ยิ้มบางๆให้
“คงไปกับไปรท์อะ”
“แหมม... คืนดีกับเพื่อนเก่าแล้วลืมพวกเราเลยนะ น้อยใจอะ”
เพื่อนอีกนางทำหน้าน้อยอกน้อยใจได้น่ารักน่าหมั่นไส้ให้ เธอหัวเราะไป
ตอนแรกก็นึกว่าเพื่อนจะเคืองหรอนะแต่เป็นแบบนี้เธอค่อยโล่งใจหน่อย
“ลืมไรหล่ะก็เห็นหน้ากันอยู่นี่ไง”
“จ้า แค่ไม่ลืมแชร์การบ้านตอนเช้าให้ก็ปลื้มไม่จบละ”
ขวัญคว้ามือถือติดมือแล้วเดินตามกลุ่มเพื่อน พูดคุยหัวเราะคิกคักตามประสาเพศสาวแล้วขอตัวแยกเพื่อนเลยเดินไปก่อน เธอจะไปรอสไปรท์หน้าห้องสองซะเลยแต่ยังไม่ทันพ้นประตูดีก็ผงะไปด้านข้างนิดๆเมื่อมีคนโผล่มาซะตกใจ ตอนแรกนึกว่าสไปรท์แกล้งนะ
“ขวัญ ขอคุยไรด้วยหน่อยดิ”
ของขวัญมองเหยียดตั้งแต่หัวจรดเท้า นี่วินยังกล้าเสนอหน้ามายุ่งกับเธออีกหรอ
เด็กสาวกรอกตาไป ทำเมินใส่
หมั่บ!
ขวัญสะบัดแขนทันทีแต่มือนายวินมันจับซะแน่น เพิ่มแรงกระชากออกจนแขนเจ็บแต่สู้แรงผู้ชายไม่ได้อยู่ดี
บีบแขนเธออยู่แบบนั้นถึงแม้ของขวัญจะดื้อรั้งไม่หยุด
“เธอจะหลบหน้าเราทำไมวะหัดเปิดใจฟังกันบ้างได้ปะ”
“ก็คนมันไม่อยากฟัง จะบังคับให้ได้อะไรขึ้นมา”
ไม่ใช่เสียงเธอ และนั่นทำให้วินชะงัก เลิกคิ้วนิดมองคนที่โพล่งขึ้นขัด ไล้สายตามองสไปรท์ที่เดินมายืนข้างขวัญ หล่อนหลุบตามองมือเขาที่จับแขนขวัญไว้แน่น “แล้วอีกอย่างนะ” แกะมือนายวินออกอย่างไม่เร่งรีบแล้วเลื่อนลงตามเรียวแขนขวัญจนกุมกระชับมือบาง เอียงคอนิดทั้งช้อนตาขึ้นสบกับคนตรงหน้า
“เห็นๆอยู่ว่าผู้หญิงเค้าไม่เอา ยังจะตามตื้ออยู่ได้
ไม่มีปัญญาไปหาคนอื่นแล้วรึไง”
วินมองคนตรงหน้าแววตาติดจะเยาะเย้ยใส่เขาจึงล้วงกระเป๋ากางเกงท่าถนัด เบ้ปากนิดๆแล้วตอกกลับ
“คนอื่นมันเกลื่อน มันง่าย...... มันไม่มีค่า”
เขาเน้นเสียงย้ำทุกคำใส่สไปรท์ที่จ้องตอบอย่างไม่ยอมกัน แววตาที่เปลี่ยนเป็นสั่นระริก ไม่ใช่เพราะหวั่นไหวหรอก คงจะโกรธจนอยากตบหน้าเขาใจจะขาดอยู่แล้วหล่ะมั้ง มันยิ่งทำให้เขาเหยียดมุมปาก “แล้วถ้านึกภาพไม่ออกหน่ะนะ เห้ยไม่ดิ เราว่าเธอน่าจะรู้ดีเลยมากกว่า” มือเธอเจ็บ เพราะขวัญบีบซะแน่นแต่ประโยคที่มันจะพ่นออกมากลับเรียกความสนใจได้มากยิ่งกว่า วินหรี่ตาลงเอ่ยเสียงที่แทบจะเป็นกระซิบ
“ต้องให้ช่วยนับปะ ว่าจำนวนผู้ชายที่เธอมั่วด้วยมันพอจะให้เธอเข้าข่ายคนอื่นได้ยัง”
ผลั่ก!
วินตัวเซไปด้านหลังเมื่อของขวัญผลักเขาสุดแรง
สีหน้าโมโหยิ่งกว่าคนโดนด่าซะอีก
“เก็บปากไว้ด่าตัวเองเหอะ”
ทิ้งคำสุดท้ายแล้วดึงกึ่งกระชากสไปรท์ให้ตามไปทันท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงรุนแรงขึ้นได้อย่างน่าแปลกใจสร้างความงงงวยให้เขาเอาเรื่องเลยหล่ะ วินยืนกอดอก มองตามสองสาวที่ดูท่าจะกลับมาคบกันเป็นเพื่อนสนิทเหมือนเดิม
รักเพื่อนกันดีเนอะ
**
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าดังเรื่อยๆตามจังหวะการย่ำอย่างไม่คิดหยุดสไปรท์มองแผ่นหลังของคนที่เดินดุ่มๆหัวฟัดหัวเหวี่ยงสภาพพร้อมฆ่าคน
เธอก็โมโหนะ ใครบ้างจะไม่อารมณ์ขึ้นเล่นโดนด่าซะขนาดนั้นแต่ยังไม่ทันจะตอบโต้ก็เป็นของขวัญที่ออกตัวแรงแทนซะได้
ว๊าย!
สไปรท์ร้องว้ายนิดๆเมื่อดันสะดุดพื้นขรุขระคนด้านหน้าถึงได้หยุดเดินหันมาหากัน
ทั้งยังหายใจแรงอย่างกับพยายามสะกดกั้นความพิโรจน์เต็มที่ เพิ่งรู้ว่าขวัญโกรธน่ากลัวก็ตอนนี้เนี่ยแหละ
“เป็นไรรึเปล่า”
“ไม่อะสะดุดตัวหนอนเฉยๆ เรียงยังไงของมันไม่เห็นเท่ากัน”
บ่นงุ้งงิ้งเรื่อยเปื่อยตามนิสัย เธอเห็นของขวัญถอนหายใจตั้งท่าจะเดินมาราธอนต่ออีกรอบเลยรีบเบรกก่อน
“แล้วนี่จะเดินไปไหน” “ไม่รู้”
อ่าว.. สาวไปรท์ทำหน้างงเต็กโคลงหัวนิดๆพลางกระตุกมือให้ขวัญเลี้ยวตามเธอมา
“งั้นนั่งนู่นกัน”
เพยิดไปที่ที่นั่งแถวยาวสำหรับให้นั่งเล่นหน้าห้องเรียน ลากสาวโมโหติดมือมานั่งกินลมหวังจะให้เย็นลงได้
พอก้นแตะที่นั่งแข็งๆขวัญก็เอนหลังพิงราวกั้นด้านหลังทันที ทำหน้ายุ่งคิ้วขมวดความไม่พอใจทาอยู่เต็มสไปรท์เลยเขยิบเข้าใกล้ขยับมือดุ๊กดิ๊กเล่นนิ้วขวัญของมือข้างที่กุมกันไม่ปล่อย
“ขวัญ
ขอบคุณนะ”
นางหันมาทำหน้างงใส่หนึ่งทีเลยยิ้มกริ่มหน้าบานใส่ขยายความต่อ
“ก็ที่ด่าวินแทนเรา โคตรปลื้มเลยอะ”
“ก็มันน่าด่าปะ
ถามจริงชีวิตมีไรดีบ้างนอกจากผลการเรียน คนแบบนี้ไม่ไหวหว่ะ”
อื้อๆ สไปรท์พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับคำสาดด่าจากปากบางๆเต็มที่นั่งฟังจนนางเหนื่อยจะด่าเองถึงได้เอียงคอมองคนที่นั่งก้มหน้าเหมือนเก็บคำพูดของวินมาคิดมากจนหน้าเครียด ถามในเรื่องที่สงสัยไป
“ขวัญ ถามไรหน่อยดิ”
อือ ของขวัญครางอือขึ้นจมูกเปนว่ารอฟัง
“เธอกับวิน คือ ตอนนั้นเรานึกว่าเธอโอเคกับวินแล้วทำไมตอนนี้ถึง”
“เหม็นขี้หน้าใช่ปะ” เออ คำนั้นก็ได้มั้ง
ของขวัญก้มหน้าลง มองกระโปรงสีกรมท่าปล่อยให้ความคิดมันเปิดลิ้นชักสมองคว้าเอาความทรงจำที่อยากลืมๆไปซะ
“วินรู้เรื่องพ่อเราตั้งแต่แรก แล้วก็ตั้งใจทำให้เรารู้”
สไปรท์เลิกคิ้วขึ้นนิดๆเหมือนไม่เข้าใจจุดประสงค์
“แล้ววินจะทำแบบนั้นไปทำไม”
“ไม่รู้ดิ สะใจมั้ง” ขวัญส่ายหัว ดูท่าจะไม่รู้อย่างที่ปากว่าจริงๆนั่นแหละ เธอนั่งเงียบไม่มีอะไรจะถามต่อ แต่ท่าทางที่ของขวัญกัดปากเหมือนมีเรื่องอึดอัดกับทำให้เธอเลือกที่จะมองนิ่งๆแบบนั้น พยามตั้งใจฟังเมื่อของขวัญเปิดปากปล่อยให้เสียงรอดแค่แผ่วราวกับพึมพำกับตัวเองมากกว่าให้เธอรับรู้
“ทำทำไม ทำไมวินต้องหลอกเรา สนุกนักรึไงที่ทำให้เรารู้สึกช...”
ท้ายประโยคหายไปเพราะเจ้าตัวยั้งปากไว้ ขวัญหันมองเธอ
แววตากลับดูตื่นตระหนกเหมือนกลัวอะไร สไปรท์มุ่นคิ้วนิด
“รู้สึกอะไร?”
“เปล่า” ส่ายหน้าเสริม“ไม่มีอะไร”
ไม่มีก็ไม่มี โคลงหัวไปมาสภาพไม่หค่อยหยี่ระอะไรมันทำให้ของขวัญถอนหายใจอย่างโล่งอก นึกอยากตบปากตัวเองแรงๆที่ดันเกือบหลุดอะไรที่ไม่สมควรสไปรท์รับรู้ นั่งลูบกระโปรงอย่างไม่มีอะไรทำแต่สมองคิดอะไรให้วุ่น คิ้วเรียวขมวดเข้าอีกครั้งเมื่อภาพใบหน้าของนายชัยชนะมันลอยเข้าหัว
ต้องให้เราช่วยนับปะว่าจำนวนผู้ชายที่เธอมั่วด้วยพอจะเข้าข่ายได้ยัง
โถ่ เลิกคิดซักที!
ขวัญหลับตาปี๋พยายามปัดไล่เสียงของวินออก เธอเกือบลืมไปแล้ว เกือบจะทำเป็นลืมๆมันสำเร็จ
เกือบทำเป็นลืมได้ว่า.....สไปรท์ก็เคยมีอะไรกับวินเหมือนกัน
“ที่จริงเธอไม่ต้องซีมากก็ได้ เราชินแล้วหล่ะ”
สไปรท์โพล่งขึ้นอยากจะพูดให้ขวัญเลิกเครียดเห็นหน้าตายับเห็นแล้วอึดอัดแทนแต่เหมือนผลที่ได้มันจะตรงข้าม
ของขวัญถึงได้เงยหน้าทันควันรัวคำพูดใส่
”ชินอะไร เรื่องแบบนี้มันไม่สมควรจะชินนะไปรท์ งี้ถ้าคนอื่นหาว่าเธอเป็นพวกมั่วไม่เลือกอีกเธอจะยอมรับรึไง”
สไปรท์ส่ายหน้านิดๆ
“เปล่า แต่จะให้เราทำไงก็พวกนั้นมองเราแบบนั้นไปแล้วนี่”
“เธอก็ทำอะไรซักอย่างดิให้คนอื่นเลิกมองเธอแบบนี้ซักที!”
น้ำเสียงที่เกือบจะเป็นตะคอกมันมันทำให้สไปรท์คลายรอยยิ้มจนเจื่อน เหมือนของขวัญเพิ่งจะรู้ตัวถึงได้หันหน้าไปทางอื่นพยายามสงบสติอารมณ์ เธอไม่เข้าใจทำไมขวัญถึงต้องทำตัวใจร้อนทั้งที่ปกติไม่ใช่คนแบบนี้ แต่ถ้าจะให้เดา คงไม่พ้นเรื่องไผ่อยู่ดีหรืออาจจะคนอื่นด้วยก็ได้ จะว่าไปตอนนั้นเธอก็แรดอย่างที่ใครๆด่าจริงๆนั้นแหละ สไปรท์เอนหลังพิงที่กั้นด้านหลังพูดเสียงเรียบ
อุส่าห์คิดว่าขวัญจะมองข้ามเรื่องแย่ๆพวกนั้นไปได้แล้วนะ
“แล้วขวัญลืมเรื่องที่เราเคยทำได้มั้ยหล่ะ”
เธอใช้หางตามองคนที่มองไปทางอื่นเหมือนไม่อยากตอบคำถามกัน “ก็ไม่” และเป็นเธอเองที่ตอบให้
สไปรท์คลายมือที่กุมกันออกและขวัญก็ไม่ได้รั้ง เธอยกแขนขึ้นกอดอกตายังคงจดจ้องใบหน้าด้านข้างของคนที่เย็นลงเยอะ
“เราบังคับความคิดใครไม่ได้ ไปสั่งให้เค้ามองเราแบบไหนก็ไม่ได้
ถ้าไม่พอใจเราก็แค่มองข้ามมันซะเพราะพวกนั้นไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตเรา แต่กับเธอ”
สไปรท์เม้มปากแน่น ผุดลุกขึ้นเมื่อเสียงออดมันดังเป็นสัญญาณหมดเบรกเช้า
“ใช่ว่าเราไม่อยากให้เธอลบภาพพวกนั้นทิ้งนะ ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันเหมือนกัน
แต่เพราะมันเป็นไปไม่ได้ไง เรา.....
ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันหว่ะ”
'ไปเหอะหมดพักแล้ว' อีกประโยคที่เธอพูดและเดินนำไปก่อน ไม่ได้เร่งฝีเท้า เดินจังหวะปกติแรงดึงที่แขนเสื้อถึงจะไม่มากแต่กลับทำให้เธอเลือกที่จะยกรอยยิ้มเท่าที่จะทำได้ หันไปหาคนที่มาเดินข้างกัน ดวงตาขวัญสั่นระริก หางคิ้วลู่ลงเหมือนรู้สึกผิดที่ทำเอาใจเธออ่อยวบตามเคย
“ขอโทษ”
สไปรท์ส่ายหน้านิดๆทั้งใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้ม “ช่างมันเถอะ เราเข้าใจ”
เข้าใจตั้งแต่แรกแต่ไม่เคยรับผลของมันได้ซักที น่าแปลกนะที่เธอกลับเริ่มนึกถึงคำที่ขวัญเคยใช้ว่ากัน
เคยนับบ้างรึเปล่าว่าใช้คำนี้กี่ครั้งแล้ว แต่ไม่หรอก เธอไม่อยากพูด ไม่อยากใช้คำพูดที่ทำให้เราต้องรู้สึกแย่ต่อกันอีก
ถึงแม้ความรู้สึกมันเหมือนจะร้าวนิดๆแล้วก็เถอะ
*****
เธอกำลังอึดอัด ทั้งที่ห้องนอนเปิดแอร์เย็นสบายแล้วตัวสดชื่นจากการเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
มือบางขยับหวีผมอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือแอบใช้หางตาเหล่มองคนที่นอนมองเพดานห้องอย่างกับกำลังอยู่ในโลกส่วนตัว สภาพเสื้อกล้ามพร้อมนอนแต่ตาลอยอย่างกับหลับไม่ลง ขวัญหวีผมอีกซักสามสี่ทีแล้ววางหวีบนโต๊ะลวกๆ เคาะนิ้วใส่โต๊ะเขียนหนังสืออย่างไม่รู้จะเริ่มบทสนทนายังไง ก็ตั้งแต่เรื่องเมื่อเบรกเช้าสไปรท์ก็ทำตัวเหมือนเดิม แต่กลับเป็นเธอเองนี่แหละทำตัวไม่ถูก และเป็นเธอเองที่ขยั้นขยอให้สไปรท์มาค้างด้วยกันจนตอนนี้สไปรท์ถึงได้มานอนตาโตอยู่บนเตียงเธอนี่ไง ขวัญขยับเสื้อยืดตัวใหญ่ชายยาวครึ่งขาอ่อนให้มันโบกกระพือลมเย็ๆใส่หน้าท้องลดความอึดอัด ทำตาหลุกหลิกคิดประเด็นชวนคุยจนไปปะกับอายไลน์เนอร์ใหม่เอี่ยมอ่องบนโต๊ะ
“เอ้อ ไปรท์”
“หืม?”
สไปรท์หันมาเลิกคิ้วใส่เป็นคำถาม มองขวัญหยิบอายไลน์เนอร์ที่เธอเป็นคนซื้อให้
เอ่อ...มันลดราคาเปห็นแล้วเตะตาเลยซื้อมาฝากอะไรแบบนั้น นั่นแหละ เอาเป็นว่าขวัญชูมันเหมือนจะเรียกเธอ
“คือ เราใช้ไม่เป็นอะ”
“จะให้สอน?”
อื้อ “ก็ประมาณนั้น”
ขวัญพยักหน้าหงึกหงักและสไปรท์ก็ตอบรับด้วยการถดตัวขึ้นนั่ง ร่มผ้าห่มไปกองข้างตัว ตบพื้นเตียงข้างตัวแปะๆ
“มานั่งนี่ดิ เดี๋ยวทำให้ดู” ขวัญรีบผลุบไปนั่งแหมะแปะก้นข้างสไปรท์ทันทีซะเตียงเด้ง
ถดขาขึ้นขัดสมาธินั่งหลังตรงแด่วแล้วสไปรท์ก็คว้ามือถือมากดเปิดกล้องหน้ายื่นส่งให้เธอ
“อะถือให้หน่อย ไม่ๆไม่ได้ให้ส่องหน้าเธอ หันจอมาหาเราซี่ไม่งั้นเราจะกรีดอายส์ไงหล่ะ”
ขวัญย่นจมูกใส่คนที่ทำเสียงเอือมๆ แต่ก็ยอมถือให้แต่โดยดี สไปรท์เปิดเอาอายส์ไลเนอร์ให้พร้อมใช้งานแล้วปิดตาลงข้างหนึ่งให้เธอได้เห็นแพรขนตาหนา มองสไปรท์จรดปลายแหลมของมันลงที่เปลือกตา ค่อยลากกรีดให้เส้นสีดำมันทับเรื่อยจนสุดทาง ตะหวัดแค่นิด แล้วทำอีกข้างนึง ของขวัญกลืนน้ำลายที่มันดันหนืดขึ้นมาพยามให้มันลงคอเมื่อเรียวหน้าสวยที่จดจ่ออยู่กับการแต่งเติมเปลือกตา ที่แค่ไร้เครื่องสำอางเธอยังคิดว่าสวยมากพอ แต่ยิ่งแบบนี้มัน
“พอรู้แนวยัง”
เสียงสไปรท์เหมือนมาจากที่ไกลเธอถึงจับใจความไม่ได้ซักนิด ของขวัญหายใจสะดุดเมื่อคนตรงหน้าค่อยเปิดเปลือกตาขึ้นใช้ดวงตาสวยคมจ้องมองกัน อีกครั้งที่ปากบางๆเรียกเธอ มือขาวแตะหน้าขาของขวัญให้สะดุ้ง
“ขวัญ? เป็นไรปะเนี่ยสะดุ้งไม ตกลงพอจับทางได้ไหม”
“อะ อ่อ เอ่อ....ก็พอได้ มั้ง”
“ก็ดี ”
สไปรท์พยักหน้าหงึกหงัก แล้วยื่นแท่งอายไลน์เนอร์ให้
“ลองกรีดให้เราดูหน่อยดิ”
ห๊ะ!
“จะดีหรอไปรท์”
“ดีสิ เราจะได้บอกได้ว่าเธอต้องแก้ตรงไหนไง”
เริ่มยังไม่ถูกเลยนี่แหละปัญหา ขวัญมองไอ่ปลายแหลมๆสีดำปื๊ดพร้อมลุยเปลือกตาแล้วกลืนน้ำลายเอื้อก สไปรท์ก็ถือมือถือส่องหน้าให้อย่างดีเห็นหน้านางลุ้นจัดเลยยอมปิดตาลงข้างนึงเอาปลายอายไลน์เนอร์ใกล้ซะจนแทบทิ่มใส่เปลือกตาอยู่แล้วแต่รีบชักออกให้สไปรท์ทำหน้างงใส่
“เอ่อ... เราทำไม่เป็น”
“รู้แล้ว เลยจะให้ลองนี่ไง“
ขวัญเสียบฝาปิดดึงมือถือสไปรท์กดปิดกล้อง
“ไม่เอาขี้เกียจละ”
“เอ๋า อะไรของขวัญเนี่ย”
สไปรท์ทำเสียงงุ้งงิ้ง งงกับอารมณ์แปรปรวนของเธอสุดๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรกำลังจะเลื้อยตัวลงนอนใหม่แต่ขวัญกลับดึงเสื้อกล้ามเธอไว้ซะเสียวหลุดเลยถดตัวนั่งดีๆ มองขวัญที่ทำหน้าตากรุ่มกริ่มใส่ สไปรท์หดคอนิดๆเมื่อขวัญดึงอายไลน์เนอร์ใหม่แถมยังล๊อคคางเธอไว้ซะหลบไม่ทัน
“ทำไรเนี่ย”
“ขอเขียนให้เธอนะ”
“เขียนไร เรากรีดเรียบร้อยแล้วนี่ไง”
ชี้เข้าที่ตาสวยๆของตัวเองประกอบคำพูด แต่ขวัญกลับส่ายหน้าซะงั้น แถมขยับเข้ามาใกล้ยกขาแยกเพื่อเหยียดทับต้นขาคร่อมตัวสไปรท์ที่นั่งขัดสมาธิอยู่ทั้งสองข้างกั้นไม่ให้หนี กดเน้นๆเมื่อเห็นสไปท์ขยับตัว ขยับหน่ะใช่ แต่มันเพราะ...
“หลับตาดิ”
โอ...ไม่อยากทำเลย
สไปรท์ฝืนหนังตาให้มันปิดแต่ของล่อตาจากท่านั่งไม่ระวังตัวมันให้ความหื่นมันตีขึ้นจมูกแทบจะพุ่งกำเดาใส่หน้าขวัญ
จะหรี่ตามองต้นขาขาวๆกับของดีใต้ร่มผ้าซักหน่อยขวัญดันดุใส่บังคับให้หลับตาเลยจำใจถอนหายใจเห้อด้วยเสียดายอาหารเสริมกระชุ่มกระชวยจิตใจ แต่เออะ... มันต้องเขียนที่ตาไม่ใช่เรอะ แต่ไอ่สัมผัสเหนอะหน่ะที่จมูกนี่อะไร
“ทำไรเนี่ย”
“อย่าเพิ่งลืมตา!”
โอเคค่ะ สไปรท์หลับตาแน่น ดูท่าไม่ต้องห่วงเปลือกตาแล้วหล่ะ ขวัญคงมันส์กับการใช้หน้าเธอเป็นกระดาษระเรงศิลปะปลายพู่กันน่าดู ฟังนางหัวเราะคิกคักสภาพสะใจสุดๆแล้วถามเสร็จยัง? เป็นรอบที่สามขวัญถึงตอบรับ “เสร็จละ อะดูดิ”
ยืนมือถือเปิกล้องหน้ามาให้ หืม....
“ว่าไง เจ้าเหมียว”
สไปรท์มองคนที่นั่งขำตัวสั่นหงึกๆทั้งที่นั่งท่าล่อตาแบบนั้นนี่แหละ เลยวางมือถือไว้ส่งๆที่พื้น นั่นยังไม่หยุดขำอีก ไม่รู้ซะแล้ว สไปรท์กระโจนใส่ซะของขวัญตกใจหงายหลังใส่เตียงทันที
เอ๊ะ!!
“ไปรท์!”
“หง่าวววววว”
“หง่าวบ้าอะไรออกไป!”
แมวตัวใหญ่หัวเราะเห๊อะๆขึ้นจมูกลอยหน้าลอยตาใส่ทั้งยังร้องหง่าวๆไม่หยุด ยันแขนคร่อมฉกหน้าจะกัดมือขาวๆเมื่อขวัญจะดันออก ขวัญดันไหล่สไปรท์เมื่อยัยเหมียวมันแลบลิ้นแผล่บทำท่าอย่างกับจะพุ่งมาเลียหน้า ร้องวี๊ดว๊ายสั่งให้หยุดแต่แมวมันดื้อใส่ ยื่นหน้าหนวดจมูกปลายดำใส่ยิ้มกริ่มดูเจ้าเล่ห์ด้วยตาที่หรี่ลงพราวระยับ กดเข่าใส่ต้นขาเธอไม่ให้หนีได้
“รู้ปะ” เสียงกระซิบที่มันใกล้เกินไปขวัญรีบหันหน้าหนีให้ลมหายใจร้อนรดใส่สันกราม แล้วเกร็งตัวขึ้นมาเสียดื้อๆเมื่อสไปรท์แลบลิ้นเลียกกหูเธอให้สยิว “ว่าเราไม่ใช่แมวธรรมดานะ” เว้นจังหวะหวังจะให้เธองงแต่สติตอนนี้แทบไม่เหลือจะตั้งคำถามเมื่อคนตรงหน้าแตะจูบที่ปลายคาง ช้อนดวงตาคมสวยแฝงความดุดันทั้งริมฝีปากแนบผิวเธอจนร้อนไปหมด
“เราเป็นแมวป่ายั่วสวาทททท เมี้ยว~”
พูดจบกดจูบใส่ทันทีไม่รอให้เธอสู้ สไปรท์แทรกมือกุมกระชับไว้ทั้งสองข้างสอดประสานกดขึงลงเตียงไม่ให้ขัดขืน
ฮื่อ.... ไม่น่าเลยยัยขวัญ
ถึงในหัวจะคิดแบบนั้นแต่เธอขยับริมฝีปากตอบรับความร้อนรุ่มของปากแมวขี้เล่น
เผยอเปิดทางให้เรียวลิ้นเจนจัดแทรกเข้ากวาดต้อนความหวานซะให้พอ
ขวัญครางอือ..เมื่อแมวตัวโตมันพลิกตัวนอนหงายดึงเธอให้ทาบทับทั้งริมฝีปากไม่แม้แต่จะปล่อยให้แยกจากกัน เรากำลังนอนกลับหัวกลับหางเท้าจะก่ายหมอนอยู่แล้วแต่ไม่คิดจะสนใจในเมื่อคนตรงหน้ามันดึงดูดได้มากกว่า ขวัญหลับตาเพริ้มเพิ่มแรงบดริมฝีปากขยับจนแทบดูดกลืนรับมือบางที่ไล้ตามเรียวขาเธอ เลื่อนขึ้นให้ชายเสื้อร่นเผยแพนตี้ตัวน้อยที่คนมือไวแค่กุมสะโพกเธอไว้บีบคลึงให้เคลิ้มตาม
ฮื่อ...
สไปรท์ยั่วเก่ง รู้มาตั้งนานแต่เพิ่งชัดแจ้งก็หลังๆมานี่แหละ หลายครั้งที่เราเกือบมีอะไรกันแต่ยั้งทันตลอด แต่ครั้งนี้เธอชักไม่แน่ใจ สไปรท์หน่ะไม่ค่อยจะยั้งตัวเองอยู่แล้วแต่คราวนี้กลับเป็นเธอที่ถดตัวให้คร่อมแทนที่จะทับหล่อน ปากยังคงดูดดึงไม่ให้เกิดช่องว่างแม้เพียงนิด เลื่อนมือดึงชายเสื้อกล้ามตัวบางให้ร่นขึ้นดึงถอดหลุดศีรษะสวยๆของสไปรท์ให้หลุดจูบจากกันแค่เสี้ยววิ โยนไปกองอยู่ข้างเตียงแล้วโน้มหน้าตามแรงรั้งรอบลำคอไปแลกริมฝีปากกันต่อ
ตัวเธอร้อน ร่างกายมันต้องการ และใจมันยิ่งไม่อยากจะห้าม ขวัญปรือตาให้เห็นภาพพร่ามัวของเรียวหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อจนน่ารักอย่างกับแมวเมาเหล้า ลดหน้าขบตามลำคอขาวเรียกเสียงอื้ออึงในลำคอเจ้าเหมียวช่างยั่วที่ได้การตอบสนองเป็นมือซนที่สอดเข้าเสื้อยืดนอนมาลูบไล้หลังเธอ กดลากจิกปลายเล็บให้รู้สึกแสบกระตุ้นความต้องการเพิ่มอุณหภูมิในห้องนอนแสนสบาย
เธออยากได้สไปรท์
ความต้องการเบื้องลึกมันออกคำสั่งให้เลื่อนมือสอดอ้อมไปด้านหลังที่สไปรท์แอ่นตัวขึ้นให้ความร่วมมือเต็มที่ เกี่ยวนิ้วพยายามปลดตะขอบราที่มันแกะยากเหลือเกิน ฮื่อ....เสียงครางงือเหมือนแมวหมดแรงมันทำให้ขวัญยิ่งกดริมฝีปากหนัก ดูดผิวอ่อนที่กระดูกไหปลาร้าจนแทบขึ้นสี อะ....
เสียงสไปรท์เพราะจัง
อยาก.....ฟังอีก
ต้องให้ช่วยนับปะ ว่ามั่วผู้ชายมากี่คนแล้ว
งือ...
สไปรท์ย่นคิ้ว ครางงือเมื่อทุกสัมผัสมันหยุดซะดื้อๆ จึงฝืนยกเปลือกตาหนักๆขึ้นถึงเห็นใบหน้าเนียนใสที่ยังโน้มคร่อมกัน
แต่กลับเบิกตากว้างเหมือนตกใจอะไร สไปรท์แตะแก้มอุ่นจัดที่ขวัญกลับสะดุ้ง เธอขมวดคิ้วด้วยความกังวล
“ขวัญ เป็นไรรึเปล่า”
หลุบตาลงมองปลายจมูกแดงก่ำเห็นลางๆว่าขวัญยังหอบหายใจถี่ตามอารมณ์ที่ยังไม่มอดหมด
สไปรท์มองท่าทางนิ่งงันที่คงจะไม่ได้สานต่อก็ถอนหายใจพยายามปัดไล่ความต้องการที่ขยันเทใส่ตัว
“ถ้าไม่อยากทำก็นอนเหอะ” สไปรท์ดันตัวขวัญออก เคลื่อนไปหยิบเสื้อกล้ามตัวบางขึ้นสวมใส่ ดึงชายให้ร่นลงปิดหน้าท้องขาวๆปล่อยให้ขวัญนั่งกลืนน้ำลายมองสไปรท์คลานเอื่อยๆมาซุกเข้าผ้าห่มนอนขดตัวหันหลังให้กัน ของขวัญขบริมฝีปากล่างจนหนึบ ตัดสินใจลุกไปปิดไฟแล้วจึงกลับมาสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันนอนมองแผ่นหลังบางๆผ่านความมืดสลัว
“คือ เราปวดหัว” “โอเค...เราเข้าใจ”
คำนี้อีกแล้ว ขวัญถอนหายใจหนักๆเคลื่อนตัวเข้าสวมกอดสไปรท์จากด้านหลัง
แนบใบหน้าลงกับแผ่นหลังบอบบาง กระซิบแค่แผ่ว
“ขอโทษนะ”
อีกแล้ว สไปรท์ย่นคิ้วให้กับคำขอโทษที่ได้ยินบ่อยจนเริ่มเข้าใจขวัญที่เคยโดนเธอพูดใส่จนเอือม แต่วันนี้กลับกลืนน้ำลายตัวเองรึไง
แรงกระชับรอบเอวคอดเพิ่มขึ้นจนรู้สึกถึงไออุ่นจากคนด้านหลัง เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าเธอไม่เคยโกรธขวัญได้เลยซักครั้ง นี่ก็เหมือนกัน
มือบางกุมเรียวแขนคนที่กอดกันไม่ปล่อย ดึงให้คลายนิดเพื่อที่จะพลิกตัวหาได้ สไปรท์เกลี่ยไรผมที่ปรกตามใบหน้าเนียนใส ทัดให้ที่หลังใบหูแล้วเคลื่อนหน้าแตะปลายจมูกไว้ด้วยกัน มองลึก..เข้าไปในนัยส์ตาเผื่อจะได้รู้เหตุผลที่ขวัญไม่คิดจะเอ่ยปากตรงๆซักที “ถ้าแค่จูบ” เลื่อนมือลงเปลี่ยปลายนิ้วลูบตามริมฝีปากนุ่มอุ่นเรียกลมหายใจสั่นๆรดใส่ปลายจมูกเธอ
“ขวัญทำให้เราได้ไหม”
แทนคำตอบด้วยการแนบริมฝีปากร้อนจัด จูบซ้ำจนปากแทบช้ำแบบนั้นเกือบทั้งคืน
TBC.
ความคิดเห็น