ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Girlfriend [สไปรท์xของขวัญ] Hormones (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #24 : Hormones' Part : 11

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.9K
      32
      14 ก.ย. 56

     















     

     

    ปุ้!



     

    งือ....

     

     

    มือบางจับหัวตัวเองอย่างงงๆเมื่อเหมือนมีอะไรกระแทกใส่ เออ ก็แค่เบาๆเหมือนพวกก้อนกระดาษอะไรแบบนั้น

    สไปรท์หันหน้ามองเพื่อนข้างๆ ก็อิไมค์กี้เจ้าเก่านั่นแหละแต่ระยะห่างกันนิดหน่อยตามสไตล์จัดโต๊ะสอบ มันทำเล่นหูเล่นตาขยิบยุกยิก สี่ที ข้อสี่? สาวไปรท์ก้มลงมองกระดาษของตนมีตัวเลขเขียนกระปิดกระปอยทำได้มั่งไม่ได้มั้งแต่ไอ่ข้อที่คุณเพื่อนว๊อนนักนี่ดันเว้นไว้ไง


     

    ไม่รู้

    เธอขยับปากไปแบบนั้นแล้วรีบหันควั่บก้มหน้าก้มตาใส่กระดาษเพราะครูดันเดินมาเฉียดหน่ะซี่ ดีนะนางยังไม่เห็น

     สไปรท์ขบหัวปากกาเลิกคิ้วข้างหนึ่งหัวก็คิดสูตรต่างๆที่ท่องจำมาบ้าง เอ่อ อันไหนทำไม่ได้ก็เขียนสูตรไว้ก่อนนี่แหละเผื่อจะได้ค่าหมึกซักคะแนนก็ยังดี   อ๋า...ข้อนี้ขวัญให้ทำด้วยนี่ เยี่ยม!



     

    .

    .


     

    .




     

    “อิไปรท์ค่ะ ไหนบอกเมื่อวานติวมาปึ๊กปั่กแล้วอะไร๊ ถามไม่เห็นจะตอบได้ซักข้อ

    นี่กั้กหรอ!

     

    สไปรท์เหลือบมองเพื่อนตุ๊ดทำสะบัดสะบิ้งใส่พลางเลื่อนโต๊ะให้ชิดกันเตรียมเรียนคาบต่อไป เธอป้องปากหาวยาวๆหนึ่งที

     

    “ก็ติว แต่ยังอ่านไม่จบ”
    เลื่อนโต๊ะเสร็จปุ้บก็ทิ้งก้นแหมะใส่เก้าอี้นอนฟุบทันที


     

    โอ้ย! จะสะกิดทำไมเนี่ยง่วง!

     

    “เหย....ตาแพนด้ามากอะมึง บอกมาเลยนะเมื่อคืนทำไรมา ตงติวอะไรรึมึงไปทำการบ้านกับใครมายะ
    โอ้ย
    ! แล้วตกลงสามีมึงนี่ใครอะเมื่อไหร่จะบอกค๊า!!
     

    ประสาท

    สไปรท์ปัดมือคุณเพื่อนดังเพี๊ยะให้เพื่อนตุ๊ดถลึงตาหน้าพิโรจน์ใส่แต่เธอก็หาได้แคร์ไม่ หลับตาเพริ้มจะนอนต่อ

    พยายามไม่สนใจเสียงงุ้งงิ้งเป็นตุ๊ดแตกน่ารำคาญ

     

     

    “นักเรียนเคารพ”

    เสียงคุณหัวหน้าห้องมันทำให้เธอต้องผลุบหัวขึ้นอย่างช่วงไม่ได้ ไหว้โค้งงามๆโน้มซะหน้าผากแปะใส่โต๊ะเรียนเกือบจะเคลิ้มหลับอีกรอบอิไมค์กี้มันก็สะกิด เออะ เธอเรียกว่าการที่มันใช้เท้าหน้าดีดซะแขนระบมว่าสะกิดแล้วกัน นางบอกครูมองสไปรท์เลยหันไปเปิดกระเป๋าหยิบสมุดประจำวิชามาวางแผ่ที่โต๊ะ เปิดพึ่บพั่บแล้วทำหน้างงเมื่อลายมือมันไม่ใช่ของเธอซักหน่อย อ่า...เอนไซม์บ้าบออะไรไม่รู้จัก! หืม.... นี่มันลายมือ

     

     

    “ครองขวัญ”

     

    เหอะ? สไปรท์หันควั่บทำตาโตใส่ชายใจสาวที่พลิกปกสมุดขึ้นดูหน้าตาเฉย นางทำหน้าคิดอะไรซักนิดแล้วยกมือปิดปากกว้างๆของมันให้รู้ว่าตระหนกตกใจกับสิ่งที่เรด้าจับได้แอคติ้งเว่อซะอยากจะปาสันสมุดใส่หน้าซักที นางลดวอลุ่มเสียงแต่น้ำเสียงนี่ตื่นเต้นสุด
     

    “นี่! อย่าบอกนะคะว่าเมื่อวานแกไปหลับนอนกับขวัญอะ”

    “ขวัญมาค้างด้วยเฉยๆ เอาคืนมาดิอิไมค์กี้!

     

    กระชากคืนได้ก็เก็บใส่กระเป๋าเอาสมุดวิชาอื่นมาวางหลอกตาครู นี่คงหยิบสลับกันตั้งแต่เมื่อวานนั่นแหละ เล่นตื่นซะสายแทบจะลากขวัญไปอาบน้ำพร้อมกันอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่านางจะเขินหน่ะนะ นึกๆดูแล้วนี่หน้าเธอยังเหลือยางให้อายอยู่ไหมเนี่ยมีผู้หญิงที่ไหนมันนึกอยากพากันโชว์ของดีจับเพื่อนสาวนัวเนียอย่างกับตาแก่หื่นๆ สไปรท์โคลงหัวใส่ความคิดเรื่อยเปื่อย จะตั้งใจเรียนซักหน่อยหน้ามันก็วูบเหมือนโดนจ้อง แล้วต้นเหตุมันก็มาจากไอ่คนข้างตัวนี่แหละ สไปรท์ถอนหายใจกรอกตาใส่หนึ่งทีแล้วเท้าคาง

     

    “อยากรู้ไรก็ถามมาสิยะ จ้องอยู่ได้เดี๋ยวกูท้อง”

     

    “อี๋! ชะนีนอแหลมอย่างมึง กูไม่เอามาทำเมียหรอกค่ะ”

     

    โห......ด่าเจ็บขนาดนี้ตบกันเลยมะ! สาวไปรท์ถลึงตาใส่มันแต่ยังไม่ทันจะด่าไมค์กี้ก็ทำกรีดมือกรีดไม้ทำเสียงซุบซิบงุบงิบ

    “อย่าหาว่าโง้งี้เลยนะเว่ยยยย แต่หน้ามึงอะ มันบริงค์ขึ้นปะวะกูรู้ว่าสาเหตุมาจากสามีมึง
    แต่ขอโทษเถอะค่ะ ตั้งแต่เปิดเทอมกูเห็นแต่มึงหนีบขวัญตัวติดหนึบหนับไปโน่นนี่แทบจะขี้ส้วมเดียวกันอยู่แล้ว ถามจริงเหอะ


    นางเอานิ้วชี้มาจิ้มจึ๊กใส่กันแล้วเกี่ยวนัวซะไม่รู้ความหมายเล้ย

     

    “นี่มึงฉิ่งฉับทัวส์มีผัวเป็นผู้หญิงแล้วชิป๊ะ เอ๊ะรึมึงเป็นผัวเค้าวะ โอ้ยกูเครียด!

     

    “ไม่รู้ คิดเองสิฉลาดนักไม่ใช่หรอคะ”

    ยักไหล่เสริมความน่าหมั่นไส้ให้ตุ๊ดแทบอกแตกตายจะซักเพื่อนสาวให้ตัวเปื่อยอีกซักรอบแต่ครูหัวเหม่งดันทำหน้าโหดเหี้ยมใส่ซะไม่กล้าเปิดปากเลยนั่งเป็นตุ๊ดเงียบไปตลอดคาบ เอิ่บนี่ไง พอจบคาบปุ้บอิไปรท์มันก็ถลาออกห้องอีกละ คงไปหาสามีพันธ์ชะนีชัว



     

    ก็ดี๊ คู่แข่งแย่งผู้ชายหมดไปสองแบบนี้ไมค์ชอบ~

     

    **

     










     

     

     

    นักเรียนเคารพ

     

    ขอบคุณค่ะ/ครับ คุณครู

     

    คุณหัวหน้าห้องคิงแห่งระดับชั้นมัธยมห้าบอกทำความเคารพเสร็จก็เก็บของกันให้ควั่กสภาพหวงแหนเวลาพักอันมีค่า
     

    “ขวัญ วันนี้ไปกับพวกเราปะ หรือจะไปกับสไปรท์”

     

    แตงโมเพื่อนร่วมกลุ่มหันมาหา แหม่ ก็ชวัญเล่นไปกับสไปรท์ตั้งแต่เปิดเทอมอะ ตอนแรกก็งงอยู่นะแต่เริ่มชินละ

    มองคุณหัวหน้าห้องคนเก่งเก็บของซะเรียบร้อยนางก็ยิ้มบางๆให้

     

    “คงไปกับไปรท์อะ”

    “แหมม... คืนดีกับเพื่อนเก่าแล้วลืมพวกเราเลยนะ น้อยใจอะ”

     

    เพื่อนอีกนางทำหน้าน้อยอกน้อยใจได้น่ารักน่าหมั่นไส้ให้ เธอหัวเราะไป
    ตอนแรกก็นึกว่าเพื่อนจะเคืองหรอนะแต่เป็นแบบนี้เธอค่อยโล่งใจหน่อย

     

     “ลืมไรหล่ะก็เห็นหน้ากันอยู่นี่ไง”

    “จ้า แค่ไม่ลืมแชร์การบ้านตอนเช้าให้ก็ปลื้มไม่จบละ”

     

    ขวัญคว้ามือถือติดมือแล้วเดินตามกลุ่มเพื่อน พูดคุยหัวเราะคิกคักตามประสาเพศสาวแล้วขอตัวแยกเพื่อนเลยเดินไปก่อน เธอจะไปรอสไปรท์หน้าห้องสองซะเลยแต่ยังไม่ทันพ้นประตูดีก็ผงะไปด้านข้างนิดๆเมื่อมีคนโผล่มาซะตกใจ ตอนแรกนึกว่าสไปรท์แกล้งนะ






     

    “ขวัญ ขอคุยไรด้วยหน่อยดิ”

     

    ของขวัญมองเหยียดตั้งแต่หัวจรดเท้า นี่วินยังกล้าเสนอหน้ามายุ่งกับเธออีกหรอ

    เด็กสาวกรอกตาไป ทำเมินใส่



     

    หมั่บ!

    ขวัญสะบัดแขนทันทีแต่มือนายวินมันจับซะแน่น เพิ่มแรงกระชากออกจนแขนเจ็บแต่สู้แรงผู้ชายไม่ได้อยู่ดี

    บีบแขนเธออยู่แบบนั้นถึงแม้ของขวัญจะดื้อรั้งไม่หยุด

     

    “เธอจะหลบหน้าเราทำไมวะหัดเปิดใจฟังกันบ้างได้ปะ”







     

    ก็คนมันไม่อยากฟัง จะบังคับให้ได้อะไรขึ้นมา

     

    ไม่ใช่เสียงเธอ และนั่นทำให้วินชะงัก เลิกคิ้วนิดมองคนที่โพล่งขึ้นขัด ไล้สายตามองสไปรท์ที่เดินมายืนข้างขวัญ หล่อนหลุบตามองมือเขาที่จับแขนขวัญไว้แน่น “แล้วอีกอย่างนะ” แกะมือนายวินออกอย่างไม่เร่งรีบแล้วเลื่อนลงตามเรียวแขนขวัญจนกุมกระชับมือบาง เอียงคอนิดทั้งช้อนตาขึ้นสบกับคนตรงหน้า
     

    “เห็นๆอยู่ว่าผู้หญิงเค้าไม่เอา ยังจะตามตื้ออยู่ได้
    ไม่มีปัญญาไปหาคนอื่นแล้วรึไง”

     

    วินมองคนตรงหน้าแววตาติดจะเยาะเย้ยใส่เขาจึงล้วงกระเป๋ากางเกงท่าถนัด เบ้ปากนิดๆแล้วตอกกลับ



     

    คนอื่นมันเกลื่อน มันง่าย...... มันไม่มีค่า

    เขาเน้นเสียงย้ำทุกคำใส่สไปรท์ที่จ้องตอบอย่างไม่ยอมกัน แววตาที่เปลี่ยนเป็นสั่นระริก ไม่ใช่เพราะหวั่นไหวหรอก คงจะโกรธจนอยากตบหน้าเขาใจจะขาดอยู่แล้วหล่ะมั้ง มันยิ่งทำให้เขาเหยียดมุมปาก “แล้วถ้านึกภาพไม่ออกหน่ะนะ เห้ยไม่ดิ เราว่าเธอน่าจะรู้ดีเลยมากกว่า”  มือเธอเจ็บ เพราะขวัญบีบซะแน่นแต่ประโยคที่มันจะพ่นออกมากลับเรียกความสนใจได้มากยิ่งกว่า วินหรี่ตาลงเอ่ยเสียงที่แทบจะเป็นกระซิบ


     

    “ต้องให้ช่วยนับปะ ว่าจำนวนผู้ชายที่เธอมั่วด้วยมันพอจะให้เธอเข้าข่ายคนอื่นได้ยัง”





     

    ผลั่ก!

     

    วินตัวเซไปด้านหลังเมื่อของขวัญผลักเขาสุดแรง
    สีหน้าโมโหยิ่งกว่าคนโดนด่าซะอีก

     

    เก็บปากไว้ด่าตัวเองเหอะ

     

    ทิ้งคำสุดท้ายแล้วดึงกึ่งกระชากสไปรท์ให้ตามไปทันท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงรุนแรงขึ้นได้อย่างน่าแปลกใจสร้างความงงงวยให้เขาเอาเรื่องเลยหล่ะ วินยืนกอดอก มองตามสองสาวที่ดูท่าจะกลับมาคบกันเป็นเพื่อนสนิทเหมือนเดิม




     

    รักเพื่อนกันดีเนอะ


     

    **



     

     

    ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก

     

     

     

    เสียงฝีเท้าดังเรื่อยๆตามจังหวะการย่ำอย่างไม่คิดหยุดสไปรท์มองแผ่นหลังของคนที่เดินดุ่มๆหัวฟัดหัวเหวี่ยงสภาพพร้อมฆ่าคน
    เธอก็โมโหนะ ใครบ้างจะไม่อารมณ์ขึ้นเล่นโดนด่าซะขนาดนั้นแต่ยังไม่ทันจะตอบโต้ก็เป็นของขวัญที่ออกตัวแรงแทนซะได้


     

    ว๊าย!

    สไปรท์ร้องว้ายนิดๆเมื่อดันสะดุดพื้นขรุขระคนด้านหน้าถึงได้หยุดเดินหันมาหากัน
    ทั้งยังหายใจแรงอย่างกับพยายามสะกดกั้นความพิโรจน์เต็มที่ เพิ่งรู้ว่าขวัญโกรธน่ากลัวก็ตอนนี้เนี่ยแหละ

     

    “เป็นไรรึเปล่า”

     

    “ไม่อะสะดุดตัวหนอนเฉยๆ เรียงยังไงของมันไม่เห็นเท่ากัน”

    บ่นงุ้งงิ้งเรื่อยเปื่อยตามนิสัย เธอเห็นของขวัญถอนหายใจตั้งท่าจะเดินมาราธอนต่ออีกรอบเลยรีบเบรกก่อน

     

    “แล้วนี่จะเดินไปไหน” “ไม่รู้”

     

    อ่าว.. สาวไปรท์ทำหน้างงเต็กโคลงหัวนิดๆพลางกระตุกมือให้ขวัญเลี้ยวตามเธอมา

     

    “งั้นนั่งนู่นกัน”
    เพยิดไปที่ที่นั่งแถวยาวสำหรับให้นั่งเล่นหน้าห้องเรียน ลากสาวโมโหติดมือมานั่งกินลมหวังจะให้เย็นลงได้

    พอก้นแตะที่นั่งแข็งๆขวัญก็เอนหลังพิงราวกั้นด้านหลังทันที ทำหน้ายุ่งคิ้วขมวดความไม่พอใจทาอยู่เต็มสไปรท์เลยเขยิบเข้าใกล้ขยับมือดุ๊กดิ๊กเล่นนิ้วขวัญของมือข้างที่กุมกันไม่ปล่อย
     

    “ขวัญ
    ขอบคุณนะ

    นางหันมาทำหน้างงใส่หนึ่งทีเลยยิ้มกริ่มหน้าบานใส่ขยายความต่อ

     

    “ก็ที่ด่าวินแทนเรา โคตรปลื้มเลยอะ”

     

    “ก็มันน่าด่าปะ
    ถามจริงชีวิตมีไรดีบ้างนอกจากผลการเรียน คนแบบนี้ไม่ไหวหว่ะ”


     

    อื้อๆ สไปรท์พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับคำสาดด่าจากปากบางๆเต็มที่นั่งฟังจนนางเหนื่อยจะด่าเองถึงได้เอียงคอมองคนที่นั่งก้มหน้าเหมือนเก็บคำพูดของวินมาคิดมากจนหน้าเครียด ถามในเรื่องที่สงสัยไป

     

    “ขวัญ ถามไรหน่อยดิ”

    อือ ของขวัญครางอือขึ้นจมูกเปนว่ารอฟัง
     

    “เธอกับวิน คือ ตอนนั้นเรานึกว่าเธอโอเคกับวินแล้วทำไมตอนนี้ถึง”


    “เหม็นขี้หน้าใช่ปะ” เออ คำนั้นก็ได้มั้ง

     

    ของขวัญก้มหน้าลง มองกระโปรงสีกรมท่าปล่อยให้ความคิดมันเปิดลิ้นชักสมองคว้าเอาความทรงจำที่อยากลืมๆไปซะ

     

    “วินรู้เรื่องพ่อเราตั้งแต่แรก แล้วก็ตั้งใจทำให้เรารู้”

     

    สไปรท์เลิกคิ้วขึ้นนิดๆเหมือนไม่เข้าใจจุดประสงค์

     

    “แล้ววินจะทำแบบนั้นไปทำไม”

     

    “ไม่รู้ดิ สะใจมั้ง” ขวัญส่ายหัว ดูท่าจะไม่รู้อย่างที่ปากว่าจริงๆนั่นแหละ เธอนั่งเงียบไม่มีอะไรจะถามต่อ แต่ท่าทางที่ของขวัญกัดปากเหมือนมีเรื่องอึดอัดกับทำให้เธอเลือกที่จะมองนิ่งๆแบบนั้น พยามตั้งใจฟังเมื่อของขวัญเปิดปากปล่อยให้เสียงรอดแค่แผ่วราวกับพึมพำกับตัวเองมากกว่าให้เธอรับรู้

     

    “ทำทำไม ทำไมวินต้องหลอกเรา สนุกนักรึไงที่ทำให้เรารู้สึกช...

    ท้ายประโยคหายไปเพราะเจ้าตัวยั้งปากไว้ ขวัญหันมองเธอ

    แววตากลับดูตื่นตระหนกเหมือนกลัวอะไร สไปรท์มุ่นคิ้วนิด

     

    “รู้สึกอะไร?”

     

    “เปล่า” ส่ายหน้าเสริม“ไม่มีอะไร”

     

    ไม่มีก็ไม่มี โคลงหัวไปมาสภาพไม่หค่อยหยี่ระอะไรมันทำให้ของขวัญถอนหายใจอย่างโล่งอก นึกอยากตบปากตัวเองแรงๆที่ดันเกือบหลุดอะไรที่ไม่สมควรสไปรท์รับรู้ นั่งลูบกระโปรงอย่างไม่มีอะไรทำแต่สมองคิดอะไรให้วุ่น คิ้วเรียวขมวดเข้าอีกครั้งเมื่อภาพใบหน้าของนายชัยชนะมันลอยเข้าหัว

    ต้องให้เราช่วยนับปะว่าจำนวนผู้ชายที่เธอมั่วด้วยพอจะเข้าข่ายได้ยัง

     

    โถ่ เลิกคิดซักที!
    ขวัญหลับตาปี๋พยายามปัดไล่เสียงของวินออก เธอเกือบลืมไปแล้ว เกือบจะทำเป็นลืมๆมันสำเร็จ

     

    เกือบทำเป็นลืมได้ว่า.....สไปรท์ก็เคยมีอะไรกับวินเหมือนกัน

     







     

     

     

     

     

     

     “ที่จริงเธอไม่ต้องซีมากก็ได้ เราชินแล้วหล่ะ”

     

    สไปรท์โพล่งขึ้นอยากจะพูดให้ขวัญเลิกเครียดเห็นหน้าตายับเห็นแล้วอึดอัดแทนแต่เหมือนผลที่ได้มันจะตรงข้าม

    ของขวัญถึงได้เงยหน้าทันควันรัวคำพูดใส่

     

    ”ชินอะไร เรื่องแบบนี้มันไม่สมควรจะชินนะไปรท์ งี้ถ้าคนอื่นหาว่าเธอเป็นพวกมั่วไม่เลือกอีกเธอจะยอมรับรึไง”

     

    สไปรท์ส่ายหน้านิดๆ

    “เปล่า แต่จะให้เราทำไงก็พวกนั้นมองเราแบบนั้นไปแล้วนี่”

     

    เธอก็ทำอะไรซักอย่างดิให้คนอื่นเลิกมองเธอแบบนี้ซักที!

     

     

    น้ำเสียงที่เกือบจะเป็นตะคอกมันมันทำให้สไปรท์คลายรอยยิ้มจนเจื่อน เหมือนของขวัญเพิ่งจะรู้ตัวถึงได้หันหน้าไปทางอื่นพยายามสงบสติอารมณ์ เธอไม่เข้าใจทำไมขวัญถึงต้องทำตัวใจร้อนทั้งที่ปกติไม่ใช่คนแบบนี้ แต่ถ้าจะให้เดา คงไม่พ้นเรื่องไผ่อยู่ดีหรืออาจจะคนอื่นด้วยก็ได้ จะว่าไปตอนนั้นเธอก็แรดอย่างที่ใครๆด่าจริงๆนั้นแหละ สไปรท์เอนหลังพิงที่กั้นด้านหลังพูดเสียงเรียบ

    อุส่าห์คิดว่าขวัญจะมองข้ามเรื่องแย่ๆพวกนั้นไปได้แล้วนะ

     


     

    “แล้วขวัญลืมเรื่องที่เราเคยทำได้มั้ยหล่ะ”

    เธอใช้หางตามองคนที่มองไปทางอื่นเหมือนไม่อยากตอบคำถามกัน “ก็ไม่” และเป็นเธอเองที่ตอบให้

    สไปรท์คลายมือที่กุมกันออกและขวัญก็ไม่ได้รั้ง เธอยกแขนขึ้นกอดอกตายังคงจดจ้องใบหน้าด้านข้างของคนที่เย็นลงเยอะ

     

    “เราบังคับความคิดใครไม่ได้ ไปสั่งให้เค้ามองเราแบบไหนก็ไม่ได้

    ถ้าไม่พอใจเราก็แค่มองข้ามมันซะเพราะพวกนั้นไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตเรา แต่กับเธอ”

     

    สไปรท์เม้มปากแน่น ผุดลุกขึ้นเมื่อเสียงออดมันดังเป็นสัญญาณหมดเบรกเช้า

     “ใช่ว่าเราไม่อยากให้เธอลบภาพพวกนั้นทิ้งนะ ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันเหมือนกัน

    แต่เพราะมันเป็นไปไม่ได้ไง เรา.....


     

     

    ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันหว่ะ

     

    'ไปเหอะหมดพักแล้ว' อีกประโยคที่เธอพูดและเดินนำไปก่อน ไม่ได้เร่งฝีเท้า เดินจังหวะปกติแรงดึงที่แขนเสื้อถึงจะไม่มากแต่กลับทำให้เธอเลือกที่จะยกรอยยิ้มเท่าที่จะทำได้ หันไปหาคนที่มาเดินข้างกัน ดวงตาขวัญสั่นระริก หางคิ้วลู่ลงเหมือนรู้สึกผิดที่ทำเอาใจเธออ่อยวบตามเคย
     

    “ขอโทษ”

    สไปรท์ส่ายหน้านิดๆทั้งใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้ม “ช่างมันเถอะ เราเข้าใจ

     

    เข้าใจตั้งแต่แรกแต่ไม่เคยรับผลของมันได้ซักที น่าแปลกนะที่เธอกลับเริ่มนึกถึงคำที่ขวัญเคยใช้ว่ากัน
    เคยนับบ้างรึเปล่าว่าใช้คำนี้กี่ครั้งแล้ว แต่ไม่หรอก เธอไม่อยากพูด ไม่อยากใช้คำพูดที่ทำให้เราต้องรู้สึกแย่ต่อกันอีก

     

     


     

    ถึงแม้ความรู้สึกมันเหมือนจะร้าวนิดๆแล้วก็เถอะ

     

    *****

     











     

     

    เธอกำลังอึดอัด ทั้งที่ห้องนอนเปิดแอร์เย็นสบายแล้วตัวสดชื่นจากการเพิ่งอาบน้ำเสร็จ


     

    มือบางขยับหวีผมอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือแอบใช้หางตาเหล่มองคนที่นอนมองเพดานห้องอย่างกับกำลังอยู่ในโลกส่วนตัว สภาพเสื้อกล้ามพร้อมนอนแต่ตาลอยอย่างกับหลับไม่ลง ขวัญหวีผมอีกซักสามสี่ทีแล้ววางหวีบนโต๊ะลวกๆ เคาะนิ้วใส่โต๊ะเขียนหนังสืออย่างไม่รู้จะเริ่มบทสนทนายังไง ก็ตั้งแต่เรื่องเมื่อเบรกเช้าสไปรท์ก็ทำตัวเหมือนเดิม แต่กลับเป็นเธอเองนี่แหละทำตัวไม่ถูก และเป็นเธอเองที่ขยั้นขยอให้สไปรท์มาค้างด้วยกันจนตอนนี้สไปรท์ถึงได้มานอนตาโตอยู่บนเตียงเธอนี่ไง ขวัญขยับเสื้อยืดตัวใหญ่ชายยาวครึ่งขาอ่อนให้มันโบกกระพือลมเย็ๆใส่หน้าท้องลดความอึดอัด ทำตาหลุกหลิกคิดประเด็นชวนคุยจนไปปะกับอายไลน์เนอร์ใหม่เอี่ยมอ่องบนโต๊ะ


     

    “เอ้อ ไปรท์”

     

    “หืม?”

    สไปรท์หันมาเลิกคิ้วใส่เป็นคำถาม มองขวัญหยิบอายไลน์เนอร์ที่เธอเป็นคนซื้อให้
    เอ่อ...มันลดราคาเปห็นแล้วเตะตาเลยซื้อมาฝากอะไรแบบนั้น นั่นแหละ เอาเป็นว่าขวัญชูมันเหมือนจะเรียกเธอ

     

    “คือ เราใช้ไม่เป็นอะ”

    “จะให้สอน?”

     

    อื้อ “ก็ประมาณนั้น”

     

    ขวัญพยักหน้าหงึกหงักและสไปรท์ก็ตอบรับด้วยการถดตัวขึ้นนั่ง ร่มผ้าห่มไปกองข้างตัว ตบพื้นเตียงข้างตัวแปะๆ

    “มานั่งนี่ดิ เดี๋ยวทำให้ดู” ขวัญรีบผลุบไปนั่งแหมะแปะก้นข้างสไปรท์ทันทีซะเตียงเด้ง
    ถดขาขึ้นขัดสมาธินั่งหลังตรงแด่วแล้วสไปรท์ก็คว้ามือถือมากดเปิดกล้องหน้ายื่นส่งให้เธอ

     

    “อะถือให้หน่อย ไม่ๆไม่ได้ให้ส่องหน้าเธอ หันจอมาหาเราซี่ไม่งั้นเราจะกรีดอายส์ไงหล่ะ”

     

    ขวัญย่นจมูกใส่คนที่ทำเสียงเอือมๆ แต่ก็ยอมถือให้แต่โดยดี สไปรท์เปิดเอาอายส์ไลเนอร์ให้พร้อมใช้งานแล้วปิดตาลงข้างหนึ่งให้เธอได้เห็นแพรขนตาหนา มองสไปรท์จรดปลายแหลมของมันลงที่เปลือกตา ค่อยลากกรีดให้เส้นสีดำมันทับเรื่อยจนสุดทาง ตะหวัดแค่นิด แล้วทำอีกข้างนึง ของขวัญกลืนน้ำลายที่มันดันหนืดขึ้นมาพยามให้มันลงคอเมื่อเรียวหน้าสวยที่จดจ่ออยู่กับการแต่งเติมเปลือกตา ที่แค่ไร้เครื่องสำอางเธอยังคิดว่าสวยมากพอ แต่ยิ่งแบบนี้มัน

     

    “พอรู้แนวยัง”

    เสียงสไปรท์เหมือนมาจากที่ไกลเธอถึงจับใจความไม่ได้ซักนิด ของขวัญหายใจสะดุดเมื่อคนตรงหน้าค่อยเปิดเปลือกตาขึ้นใช้ดวงตาสวยคมจ้องมองกัน อีกครั้งที่ปากบางๆเรียกเธอ มือขาวแตะหน้าขาของขวัญให้สะดุ้ง

     

    “ขวัญ? เป็นไรปะเนี่ยสะดุ้งไม ตกลงพอจับทางได้ไหม”

     

    “อะ อ่อ เอ่อ....ก็พอได้   มั้ง”

     

    “ก็ดี ”
    สไปรท์พยักหน้าหงึกหงัก แล้วยื่นแท่งอายไลน์เนอร์ให้

    “ลองกรีดให้เราดูหน่อยดิ”

     

     ห๊ะ!

     

    “จะดีหรอไปรท์”

    “ดีสิ เราจะได้บอกได้ว่าเธอต้องแก้ตรงไหนไง”

     

    เริ่มยังไม่ถูกเลยนี่แหละปัญหา ขวัญมองไอ่ปลายแหลมๆสีดำปื๊ดพร้อมลุยเปลือกตาแล้วกลืนน้ำลายเอื้อก สไปรท์ก็ถือมือถือส่องหน้าให้อย่างดีเห็นหน้านางลุ้นจัดเลยยอมปิดตาลงข้างนึงเอาปลายอายไลน์เนอร์ใกล้ซะจนแทบทิ่มใส่เปลือกตาอยู่แล้วแต่รีบชักออกให้สไปรท์ทำหน้างงใส่

     

    “เอ่อ... เราทำไม่เป็น”

     

    “รู้แล้ว เลยจะให้ลองนี่ไง“

    ขวัญเสียบฝาปิดดึงมือถือสไปรท์กดปิดกล้อง

     

    “ไม่เอาขี้เกียจละ”

     

    “เอ๋า อะไรของขวัญเนี่ย”

     

    สไปรท์ทำเสียงงุ้งงิ้ง งงกับอารมณ์แปรปรวนของเธอสุดๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรกำลังจะเลื้อยตัวลงนอนใหม่แต่ขวัญกลับดึงเสื้อกล้ามเธอไว้ซะเสียวหลุดเลยถดตัวนั่งดีๆ มองขวัญที่ทำหน้าตากรุ่มกริ่มใส่ สไปรท์หดคอนิดๆเมื่อขวัญดึงอายไลน์เนอร์ใหม่แถมยังล๊อคคางเธอไว้ซะหลบไม่ทัน
     

    “ทำไรเนี่ย”

     

    “ขอเขียนให้เธอนะ”

    “เขียนไร เรากรีดเรียบร้อยแล้วนี่ไง”

     

    ชี้เข้าที่ตาสวยๆของตัวเองประกอบคำพูด แต่ขวัญกลับส่ายหน้าซะงั้น แถมขยับเข้ามาใกล้ยกขาแยกเพื่อเหยียดทับต้นขาคร่อมตัวสไปรท์ที่นั่งขัดสมาธิอยู่ทั้งสองข้างกั้นไม่ให้หนี กดเน้นๆเมื่อเห็นสไปท์ขยับตัว ขยับหน่ะใช่ แต่มันเพราะ...

     

    “หลับตาดิ”

     

    โอ...ไม่อยากทำเลย

    สไปรท์ฝืนหนังตาให้มันปิดแต่ของล่อตาจากท่านั่งไม่ระวังตัวมันให้ความหื่นมันตีขึ้นจมูกแทบจะพุ่งกำเดาใส่หน้าขวัญ

    จะหรี่ตามองต้นขาขาวๆกับของดีใต้ร่มผ้าซักหน่อยขวัญดันดุใส่บังคับให้หลับตาเลยจำใจถอนหายใจเห้อด้วยเสียดายอาหารเสริมกระชุ่มกระชวยจิตใจ  แต่เออะ... มันต้องเขียนที่ตาไม่ใช่เรอะ แต่ไอ่สัมผัสเหนอะหน่ะที่จมูกนี่อะไร

     

    “ทำไรเนี่ย”

    อย่าเพิ่งลืมตา!

     

    โอเคค่ะ สไปรท์หลับตาแน่น ดูท่าไม่ต้องห่วงเปลือกตาแล้วหล่ะ ขวัญคงมันส์กับการใช้หน้าเธอเป็นกระดาษระเรงศิลปะปลายพู่กันน่าดู ฟังนางหัวเราะคิกคักสภาพสะใจสุดๆแล้วถามเสร็จยัง? เป็นรอบที่สามขวัญถึงตอบรับ “เสร็จละ อะดูดิ”

     

    ยืนมือถือเปิกล้องหน้ามาให้ หืม....
     

    “ว่าไง เจ้าเหมียว”

     

    สไปรท์มองคนที่นั่งขำตัวสั่นหงึกๆทั้งที่นั่งท่าล่อตาแบบนั้นนี่แหละ เลยวางมือถือไว้ส่งๆที่พื้น นั่นยังไม่หยุดขำอีก ไม่รู้ซะแล้ว สไปรท์กระโจนใส่ซะของขวัญตกใจหงายหลังใส่เตียงทันที

     

    เอ๊ะ!!

     

    ไปรท์!
     

    หง่าวววววว

     

    “หง่าวบ้าอะไรออกไป!

     

    แมวตัวใหญ่หัวเราะเห๊อะๆขึ้นจมูกลอยหน้าลอยตาใส่ทั้งยังร้องหง่าวๆไม่หยุด ยันแขนคร่อมฉกหน้าจะกัดมือขาวๆเมื่อขวัญจะดันออก ขวัญดันไหล่สไปรท์เมื่อยัยเหมียวมันแลบลิ้นแผล่บทำท่าอย่างกับจะพุ่งมาเลียหน้า ร้องวี๊ดว๊ายสั่งให้หยุดแต่แมวมันดื้อใส่ ยื่นหน้าหนวดจมูกปลายดำใส่ยิ้มกริ่มดูเจ้าเล่ห์ด้วยตาที่หรี่ลงพราวระยับ กดเข่าใส่ต้นขาเธอไม่ให้หนีได้

     

    “รู้ปะ” เสียงกระซิบที่มันใกล้เกินไปขวัญรีบหันหน้าหนีให้ลมหายใจร้อนรดใส่สันกราม แล้วเกร็งตัวขึ้นมาเสียดื้อๆเมื่อสไปรท์แลบลิ้นเลียกกหูเธอให้สยิว “ว่าเราไม่ใช่แมวธรรมดานะ” เว้นจังหวะหวังจะให้เธองงแต่สติตอนนี้แทบไม่เหลือจะตั้งคำถามเมื่อคนตรงหน้าแตะจูบที่ปลายคาง ช้อนดวงตาคมสวยแฝงความดุดันทั้งริมฝีปากแนบผิวเธอจนร้อนไปหมด

     

    “เราเป็นแมวป่ายั่วสวาทททท   เมี้ยว~

     

    พูดจบกดจูบใส่ทันทีไม่รอให้เธอสู้ สไปรท์แทรกมือกุมกระชับไว้ทั้งสองข้างสอดประสานกดขึงลงเตียงไม่ให้ขัดขืน

     

    ฮื่อ.... ไม่น่าเลยยัยขวัญ

    ถึงในหัวจะคิดแบบนั้นแต่เธอขยับริมฝีปากตอบรับความร้อนรุ่มของปากแมวขี้เล่น
    เผยอเปิดทางให้เรียวลิ้นเจนจัดแทรกเข้ากวาดต้อนความหวานซะให้พอ

     

    ขวัญครางอือ..เมื่อแมวตัวโตมันพลิกตัวนอนหงายดึงเธอให้ทาบทับทั้งริมฝีปากไม่แม้แต่จะปล่อยให้แยกจากกัน เรากำลังนอนกลับหัวกลับหางเท้าจะก่ายหมอนอยู่แล้วแต่ไม่คิดจะสนใจในเมื่อคนตรงหน้ามันดึงดูดได้มากกว่า ขวัญหลับตาเพริ้มเพิ่มแรงบดริมฝีปากขยับจนแทบดูดกลืนรับมือบางที่ไล้ตามเรียวขาเธอ เลื่อนขึ้นให้ชายเสื้อร่นเผยแพนตี้ตัวน้อยที่คนมือไวแค่กุมสะโพกเธอไว้บีบคลึงให้เคลิ้มตาม


     

    ฮื่อ...

     

    สไปรท์ยั่วเก่ง รู้มาตั้งนานแต่เพิ่งชัดแจ้งก็หลังๆมานี่แหละ หลายครั้งที่เราเกือบมีอะไรกันแต่ยั้งทันตลอด แต่ครั้งนี้เธอชักไม่แน่ใจ สไปรท์หน่ะไม่ค่อยจะยั้งตัวเองอยู่แล้วแต่คราวนี้กลับเป็นเธอที่ถดตัวให้คร่อมแทนที่จะทับหล่อน ปากยังคงดูดดึงไม่ให้เกิดช่องว่างแม้เพียงนิด เลื่อนมือดึงชายเสื้อกล้ามตัวบางให้ร่นขึ้นดึงถอดหลุดศีรษะสวยๆของสไปรท์ให้หลุดจูบจากกันแค่เสี้ยววิ โยนไปกองอยู่ข้างเตียงแล้วโน้มหน้าตามแรงรั้งรอบลำคอไปแลกริมฝีปากกันต่อ

     

    ตัวเธอร้อน ร่างกายมันต้องการ และใจมันยิ่งไม่อยากจะห้าม ขวัญปรือตาให้เห็นภาพพร่ามัวของเรียวหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อจนน่ารักอย่างกับแมวเมาเหล้า ลดหน้าขบตามลำคอขาวเรียกเสียงอื้ออึงในลำคอเจ้าเหมียวช่างยั่วที่ได้การตอบสนองเป็นมือซนที่สอดเข้าเสื้อยืดนอนมาลูบไล้หลังเธอ กดลากจิกปลายเล็บให้รู้สึกแสบกระตุ้นความต้องการเพิ่มอุณหภูมิในห้องนอนแสนสบาย

     

    เธออยากได้สไปรท์

    ความต้องการเบื้องลึกมันออกคำสั่งให้เลื่อนมือสอดอ้อมไปด้านหลังที่สไปรท์แอ่นตัวขึ้นให้ความร่วมมือเต็มที่ เกี่ยวนิ้วพยายามปลดตะขอบราที่มันแกะยากเหลือเกิน ฮื่อ....เสียงครางงือเหมือนแมวหมดแรงมันทำให้ขวัญยิ่งกดริมฝีปากหนัก ดูดผิวอ่อนที่กระดูกไหปลาร้าจนแทบขึ้นสี อะ....

     

    เสียงสไปรท์เพราะจัง

    อยาก.....ฟังอีก

     





     

    ต้องให้ช่วยนับปะ ว่ามั่วผู้ชายมากี่คนแล้ว

     

     

     


     

     

    งือ...

    สไปรท์ย่นคิ้ว ครางงือเมื่อทุกสัมผัสมันหยุดซะดื้อๆ จึงฝืนยกเปลือกตาหนักๆขึ้นถึงเห็นใบหน้าเนียนใสที่ยังโน้มคร่อมกัน
    แต่กลับเบิกตากว้างเหมือนตกใจอะไร สไปรท์แตะแก้มอุ่นจัดที่ขวัญกลับสะดุ้ง เธอขมวดคิ้วด้วยความกังวล

     

    “ขวัญ เป็นไรรึเปล่า”

    หลุบตาลงมองปลายจมูกแดงก่ำเห็นลางๆว่าขวัญยังหอบหายใจถี่ตามอารมณ์ที่ยังไม่มอดหมด

    สไปรท์มองท่าทางนิ่งงันที่คงจะไม่ได้สานต่อก็ถอนหายใจพยายามปัดไล่ความต้องการที่ขยันเทใส่ตัว

     

    “ถ้าไม่อยากทำก็นอนเหอะ” สไปรท์ดันตัวขวัญออก เคลื่อนไปหยิบเสื้อกล้ามตัวบางขึ้นสวมใส่ ดึงชายให้ร่นลงปิดหน้าท้องขาวๆปล่อยให้ขวัญนั่งกลืนน้ำลายมองสไปรท์คลานเอื่อยๆมาซุกเข้าผ้าห่มนอนขดตัวหันหลังให้กัน ของขวัญขบริมฝีปากล่างจนหนึบ ตัดสินใจลุกไปปิดไฟแล้วจึงกลับมาสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันนอนมองแผ่นหลังบางๆผ่านความมืดสลัว
     

    “คือ เราปวดหัว” “โอเค...เราเข้าใจ

    คำนี้อีกแล้ว ขวัญถอนหายใจหนักๆเคลื่อนตัวเข้าสวมกอดสไปรท์จากด้านหลัง

    แนบใบหน้าลงกับแผ่นหลังบอบบาง กระซิบแค่แผ่ว

     

    “ขอโทษนะ”

     

    อีกแล้ว สไปรท์ย่นคิ้วให้กับคำขอโทษที่ได้ยินบ่อยจนเริ่มเข้าใจขวัญที่เคยโดนเธอพูดใส่จนเอือม แต่วันนี้กลับกลืนน้ำลายตัวเองรึไง

    แรงกระชับรอบเอวคอดเพิ่มขึ้นจนรู้สึกถึงไออุ่นจากคนด้านหลัง เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าเธอไม่เคยโกรธขวัญได้เลยซักครั้ง นี่ก็เหมือนกัน

    มือบางกุมเรียวแขนคนที่กอดกันไม่ปล่อย ดึงให้คลายนิดเพื่อที่จะพลิกตัวหาได้  สไปรท์เกลี่ยไรผมที่ปรกตามใบหน้าเนียนใส ทัดให้ที่หลังใบหูแล้วเคลื่อนหน้าแตะปลายจมูกไว้ด้วยกัน มองลึก..เข้าไปในนัยส์ตาเผื่อจะได้รู้เหตุผลที่ขวัญไม่คิดจะเอ่ยปากตรงๆซักที “ถ้าแค่จูบ” เลื่อนมือลงเปลี่ยปลายนิ้วลูบตามริมฝีปากนุ่มอุ่นเรียกลมหายใจสั่นๆรดใส่ปลายจมูกเธอ

     

     

    “ขวัญทำให้เราได้ไหม”



     

     

    แทนคำตอบด้วยการแนบริมฝีปากร้อนจัด จูบซ้ำจนปากแทบช้ำแบบนั้นเกือบทั้งคืน

     





    TBC.


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×