ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนึงหาเจ้ากรรณิการ์

    ลำดับตอนที่ #1 : เรือนเจ้าพระยาจิณห์วรา

    • อัปเดตล่าสุด 19 ม.ค. 66


     

    "แม่หญิงเจ้าค่ะ ท่านเจ้าพระยากลับมาแล้วเจ้าค่ะ" บ่าวรับใช้คนสนิทคลานเข่าเข้าหานายหญิงของมันพร้อมเอ่ยปากกล่าวด้วยน้ำเสียงแสดงความนอบน้อม

    "งั้นหรือ" แม่หญิงจันทร์หอมยืดแขนชูขึ้นฟ้าแสดงท่าทีแสนเกียจคร้านไร้กิริยา ใบหน้างดงามเอนเอียงครุ่นคิดบางสิ่ง "พี่หญิงเล่ากลับมาพร้อมเจ้าคุณแม่หรือเปล่า"

    "เจ้าค่ะ คุณพระนายกลับมาเรือลำเดียวกับท่านเจ้าพระยาเจ้าค่ะ" บ่าวรับใช้ยันกายขึ้นเมื่อเห็นนายหญิงวาดขาเรียวลงจากตั่ง 

    จันทร์หอมใช้มือเรียวสวยจับด้ามพัดตัวงามปิดริมฝีปากอย่างมีจริต หล่อนหรี่เรียวตาคมลงอ้อยอิ่ง เส้นผมสีดำขลับเรียงรายดั่งแพรไหมพริ้วสยายตามสายลม ดูงดงามหมดจดเสมือนภาพวาดอันเลอค่า

    "กลับเรือนกันเร็วเสียจริง" น้ำเสียงทรงเสน่ห์เอ่ยเนิบช้า จันทร์หอมยันกายขึ้นจากตั่งนั่งหล่อนปรายตามองบ่าวรับใช้รอบข้างอย่างเคยชินแล้วก้าวขาเรียวยาวไปทางเรือนใหญ่โดยมีบ่าวรับใช้โดยรอบลุกขึ้นเดินตาม

    'แม่หญิงเจ้าขาท่านช่างเอาใจยากเสียจริงนะเจ้าค่ะ เดี๋ยวเดียวก็ถามหาท่านเจ้าพระยาเดี๋ยวก็กล่าวหาว่ากลับชักช้าเสียมืดค่ำ พอท่านเจ้าพระยากลับก่อนเพลาก็กล่าวหาว่ามิใส่ใจงานราชการ เอาใจยากเสียจริงนายมัน'

    บ่าวผู้นี้ตามอารมณ์ของนายหญิงมิทันแล้วเจ้าค่ะ มันก็ทำได้เพียงครหานายหญิงของมันในใจเท่านั้น มันมิกล้าเอ่ยปากว่าความกับนายหญิงของมันดอก กลัวจักโดนหวายจนหลังลายเอา

    ระรินบ่าวข้างกายรีบเร่งเดินตามนายหญิงคนงามของมันโดยเร็วพร้อมถอนหายใจอย่างลับๆมิให้นายของมันเห็น 

    "ระริน" จันทร์หอมเอ่ยเรียกบ่าวคนสนิทเมื่อใกล้ถึงเรือนใหญ่ นางเห็นแผ่นหลังแสนอกอาจบนเรือนก็เกิดขยาดขึ้นมาเล็กน้อย มิได้กลัวกระไรขนาดนั้นหรอกนางแค่มิอยากโดนบ่น ให้หูแสนเปราะบางของนางได้พักบ้าง 

    "เจ้าค่ะแม่หญิง" บ่าวสาวเร่งฝีเท้าเข้าหานายหญิงทันทียามได้ยินเสียงของนายมัน แม้จักงุนงงแต่ก็ตอบรับอย่างทันขวับ

    "ข้าง่วงเสียแล้วสิ มิอยากเจอผู้ใดแล้ว เจ้าว่า…" จันทร์หอมมิทันได้เอ่ยจบความก็เงียบลงชั่วขณะ นางใช้พัดด้ามสวยแตะริมฝีปากบางของตนแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อ "ข้าว่าข้ากลับไปที่สวนดีกว่า"

    "เอ๊ะ แม่หญิงเจ้าคะ-" ระรินเอ่ยร้องด้วยสับสนพร้อมใบหน้าชวนงุนงงเมื่อแม่หญิงคนงามหันร่างเพรียวบางกลับไปทิศทางเดิม

    "กลับมาเดี๋ยวนี้แม่จันทร์หอม" เสียงเข้มขรึมของคุณพระนายที่พึ่งกลับมาจากงานราชการแทบทำให้นางระรินผู้นี้แทบหยุดหายใจ 

    มันรู้เหตุผลที่นายหญิงของมันอยากกลับไปที่สวนแล้วล่ะ

    "จันทร์หอมได้ยินที่พี่พูดหรือไม่" แม่หญิงจันทร์ทิพย์บุตรสาวคนโตของเจ้าพระยาจิณห์วราขมวดคิ้วเรียวสวยเข้าหากัน ทำให้ใบหน้างดงามที่ดุดันอยู่แล้วเข้มขรึมจริงจังมากขึ้น น่ากลัวเสียจนบ่าวไพร่โดยรอบก้มหน้าต่ำ

    ก็ต้องได้ยินอยู่แล้วล่ะเจ้าค่ะ จันทร์หอมได้แต่บ่นในใจ

    "ไยพี่หญิงต้องตะโกนเสียงดังด้วยเล่าเจ้าค่ะ น้องมิได้หูหนวกเสียหน่อย" จันทร์หอมขยับริมฝีปากสีระรื่นอย่างดื้อรั้น แม่คนที่สองของนางเข้มงวดมิต่างจากคนแรกเลยให้ตายเถอะ 

    จันทร์หอมหันกลับไปมองพี่หญิงอย่างฉุนเฉียว มิกลัวหรอกนะจะบอกให้ แม่หญิงจันทร์ทิพย์พี่หญิงผู้เข้มงวดยังสวมใส่ชุดข้าราชการสั่งตัดอย่างดี คงเพราะพึ่งกลับถึงเรือนยังมิมีเวลาได้พลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า

    พี่หญิงจันทร์ทิพย์กำลังยืนนิ่งคิ้วขมวดมองนางด้วยสายตาเรียวแสนเข้มงวด แต่ก็ยังแฝงความระอาและหน่ายใจอยู่ลึกๆ 

    ทำไมพี่หญิงถึงมองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นเล่า!

    "ท่านมองอันใด!" นางตวัดเสียงใส่พี่สาวคนงามก่อนจะจ้ำอ่าวขึ้นเรือนโดยมิสนบ่าวคนสนิทที่ทำตัวเจี้ยมๆอยู่ด้านหลัง นางมิกล้ากระทืบเท้าเดินเสียงตึงตังหรอกมันดูไร้มารยาทเกินไป มิได้กลัว! จริงจริ๊ง!

    จันทร์หอมเชิดใบหน้าอันงดงามแสนยโสโอหังใส่พี่สาวก่อนจะรีบเดินหนีเข้าไปหาเจ้าคุณพ่อที่กำลังนั่งคุยงุ้งงิ้งกับเจ้าคุณแม่บนตั่งนั่งกลางเรือน

    เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าไร้อารยะดังมาแต่ไกล ผู้เป็นใหญ่ของเรือนทั้งสองก็หันกลับไปมองที่มาของเสียง พวกเขาเห็นบุตรสาวแสนรั้นวิ่งตัวปลิวเข้ามาอย่างเร่งรีบ มิต้องเดาก็รู้ว่าเพราะเหตุอันใด

    เจ้าคุณพ่อผู้งดงามมองนางด้วยสายตาอ่อนโยนแล้วส่ายหัวอย่างความเอ็นดู ส่วนเจ้าคุณแม่นั้นมองนางด้วยสายตาเข้มงวดมิต่างจากพี่หญิงเลย

    "เจ้าคุณพ่อเจ้าขา พี่หญิงทิพย์ดุลูกอีกแล้ว ท่านต้องจัดการให้ลูกนะเจ้าค่ะ" จันทร์หอมคุกเข่าลงบนพื้นพรมยื่นแขนเรียวยาวกอดเอวผอมเพรียวของเจ้าคุณพ่อ ซบดวงหน้าทรงเสน่ห์แนบตักบิดาอย่างออดอ้อน

    เจ้าคุณพ่อคนดีลูกโดนรังแก!

    จันทร์หอมได้ยินเสียงหัวเราะนุ่มทุ้มแสนไพเราะดังเหนือศีรษะ ฝ่ามืออบอุ่นของบิดาลูบเส้นผมนุ่มสลวยของบุตรสาวอย่างเอ็นดู ช่างเป็นบุตรสาวที่มิเคยโตเลยจริงๆ

    "แม่จันทร์หอมอายุอานามเจ้าก็ตั้งเท่าไหร่! ลุกนั่งบนตั่งดีๆ!" เจ้าพระยาจิณห์วราเอ่ยดุบุตรสาวแสนรั้นด้วยน้ำเสียงขึงขัง หล่อนเขม่นตามองบุตรสาวอย่างโทโสโทสะ 

    "เจ้าคุณพ่อ มิมีผู้ใดรักลูกเลย ลูกสาวของท่านกำลังโดยข่มเหงรังแก" จันทร์หอมกระซิบเสียงแผ่วดั่งคนไร้หนทาง "มีเพียงท่านที่รักและห่วงใยลูกด้วยใจจริง"

    ดัดจริตนักแม่นางน้อยผู้นี้

    "ไร้สาระแม่เจ้ากับจันทร์ทิพย์จักมิรักเจ้าได้เยี่ยงไร" ท่านชายประดิพัทธ์แสร้งดุบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "พ่ออยู่ข้างเจ้าเสมอแม่จันทร์หอมอย่าเศร้าไป"

    ฮือ เจ้าคุณพ่อเจ้าขาช่างอ่อนโยนเหลือเกิน

    สองแม่ลูกผู้ถูกกล่าวหาได้แต่ละเหี่ยใจ ดูเอาเถิดให้ท้ายกันเยี่ยงนี้จักมิให้แสนรั้นฟังคำมิรู้ความได้เยี่ยงไร เจ้าพระยาจิณห์วราถอนหายใจอย่างระอา ทั้งสามีทั้งบุตรสาวเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

    "ลูกรักเจ้าคุณพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ" จันทร์หอมผุดลุกหอมแก้มนุ่มนิ่มของเจ้าคุณพ่ออย่างมันเขี้ยว คนอะไรทำไมน่ารักอย่างนี้อะ

    "อ๊ะ…!" คุณชายประดิพัทธ์อุทานเสียงดัง ใบหน้างดงามแดงระรื่น ดวงตากลมโตมองบุตรสาวอย่างตกใจ มิว่าจักสักกี่ครั้งข้าก็มิอาจชินชาหรือห้ามตนมิให้ตื่นตระหนกตกใจได้เลย ยามบุตรสาวแสนรั้นหอมแก้มข้า

    "แม่จันทร์หอม!" เจ้าคุณแม่กับพี่หญิงตะโกนใส่นางด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

    อุว๊า~ เธอแหย่รังแตนอีกแล้วหรือนี่ แค่จุ๊บแก้มนุ๊บๆของเจ้าคุณพ่อเองนะ

    "พวกท่านจักตะโกนเพื่ออันดะ-! เจ้าคุณแม่ท่านจักใช้ไม้เท้าประจำตำแหน่งตีข้ามิได้!" จันทร์หอมกระโดดข้ามตั่งนั่งเพื่อหนีมารดาโมโหร้าย "ท่านบ้าไปแล้ว! นั่นพ่อข้านะ! ท่านจักหวงเพื่ออันดะ-! อ๊ะ! ท่านโยนของใส่ข้า! อ่ะ พี่หญิงปล่อยข้านะ!"

    จันทร์หอมตื่นตระหนกเมื่อพี่สาวคนงามจับแขนนางแน่น นางมองพี่สาวผู้เข้มขรึมด้วยสายตาตัดพ้อและพยายามดิ้นหนีจากมือมารทั้งสอง

    สองรุมหนึ่งโกง! พวกขุนนางข้าราชการรังแกประชาชน!!

    "อ๊ะ! เจ้าคุณพ่อ! เจ้าคุณพ่อ!" ช่วยลูกก่อนดึงสติกลับมาก่อนเจ้าคุณพ่อ ลูกตัวช้ำไปหมดแล้ว!

    "พี่หญิงปล่อยข้านะ!" นี่ก็ไม่ยอมปล่อยสักทีโว๊ย

    "โอ๊ย! ท่านแม่! ท่านกล้าตีข้า! อ๊ะ!"

    "ข้าผิด! ข้าผิดไปแล้ว! โอ๊ย!"

    "เจ้าคุณพ่อช่วยลูกด้วย! อ๊า! พี่หญิงท่านกล้าตีข้า!"

    "อ๊ากกกก! ปล่อยข้าาา!"

    เสียงอึกทึกครึกโครมเรียกสติที่กำลังเหม่อลอยของท่านชายประดิพัทธ์กลับมา ท่านชายถอนหายใจแล้วก็ยกยิ้มอ่อน นัยน์ตาแสนอ่อนโยนมองตามสามแม่ลูกอย่างขบขัน จันทร์หอมก็ช่างไร้เดียงสาไม่รู้ความ ภรรยากับจันทร์ทิพย์หรือก็ช่างเข้มงวดกวดขัน

    แต่เป็นเยี่ยงนี้ก็ดีมิน้อย

    หากเรือนแห่งนี้มีเพียงบุคคลเคร่งคัดกฎเกณฑ์และมารยาทเฉกเช่นเจ้าพระยากับแม่ทิพย์ คงมิได้เห็นบรรยากาศแสนอบอุ่นเช่นนี้

    บ่าวไพร่ในเรือนต่างก้มหน้าอมยิ้มกลั้นเสียงหัวเราะอย่างขยันขันแข็ง แม่หญิงหน๋อแม่หญิงช่างกระตือรือร้นให้คุณท่านโมโหเสียจริง





     

    "ฮืมม! เจ้าคุณพ่อท่านหักหลังลูก ท่านกล่าวว่ารักลูกแต่เหตุใดเล่าจึงปล่อยให้ลูกถูกรังแก อำมหิตนัก!" จันทร์หอมกอดอกหันหลังให้ผู้เป็นบิดาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ นางตัวช้ำไปหมดแล้วดูสิรอยเขียวเป็นจ้ำเป็นจ้ำเลย

    ดูเอาเถิด คนหลายใจ ปากบอกว่ารัก แต่ก็มิไยดี คุณชายท่านนี้ช่างใจร้ายนัก ปล่อยให้หญิงสาวบอบบางเช่นนางถูกอันธพาลรังแก นางกอดอกหันหน้าหนีใบหน้าแสนงดงามของบิดาอย่างแง่งอน

    "เจ้ายังมิหายโกรธพ่ออีกหรือแม่หญิงตัวน้อย" ท่านชายประดิพัทธ์ถือขวดยาเข้ามาในห้องบุตรสาวพร้อมเอ่ยเย้าเสียงนุ่มทุ้ม เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าบุตรสาวแสนทะเล้นผู้นี้มิได้โกรธเขาเป็นจริงเป็นจังนัก ถึงจักสงสารแต่ก็ระคนเอ็นดูเสียมากกว่า

    "แม่หญิงตัวน้อยอันใดกัน เจ้าคุณพ่อลูกโตแล้ว" เรียวคิ้วสวยขมวดย่นเข้าหากันเมื่อได้ยินวาจามิพึงประสงค์ นางโตมาหุ่นแซ่บนางเซี๊ยะขนาดนี้จะมาแม่หญิงนงแม่หญิงน้อยกระไร "ท่าน-" 

    "อย่างเจ้าน่ะรึ โตแต่ตัวน่ะสิ" ท่านพระยาจิณห์วราเอ่ยขัดบุตรสาวเสียงดัง บุตรสาวผู้นี้มิเคยหลาบจำเลยจริงๆ 

    ท่านเจ้าพระยาผู้เข้มขรึมเดินเข้ามาหยิบยาสมุนไพรจากฝ่ามือบอบบางของสามีแล้วโยนใส่บุตรสาวไร้มารยาท จันทร์หอมตกใจรีบรับขวดยาจนร้องเสียงหลง

    "เจ้าคุณแม่!"

    "รีบทายาแล้วเข้านอนเสีย อย่าทำตัวเป็นภาระให้พ่อเจ้า" เจ้าพระยาผู้สูงศักดิ์ดุบุตรสาวเสียงเข้มแล้วหันกลับมากล่าวกับสามีด้วยโทนเสียงอ่อนโยนละมุนละไม "เจ้าก็กลับไปนอนเสีย ยามวิกาลเช่นนี้ข้ามิอนุญาติให้เจ้าออกนอกห้องหับมันอันตราย เกิดอันใดขึ้นมาข้าจักทำเช่นใด" 

    "ข้าอยู่ในเรือนเจ้าพระยาจักมีผู้ใดเข้ามารังแกข้ากัน บ่าวไพร่หรือก็เต็มเรือน" ท่านชายประดิพัทธ์ช้อนดวงตาสวยมองภรรยาของตนเองแล้วเอ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม "แถมยังมีท่านอยู่ข้างกาย"

    เจ้าพระยาจิณห์วรามองสบสายตาสามีอย่างรักใคร่ หล่อนยกยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นว่าใบหน้าของสามีตัวน้อยแดงระรื่นพร้อมกับหลีกเลี่ยงการสบสายตาอย่างเขินอาย

    ภรรยาผู้สูงศักดิ์ก้มลงจุมพิตกลางกระหม่อมสามีตัวน้อยขี้อายอย่างเสน่หา

    "ข้าเป็นห่วงเจ้า สามีของข้า" น้ำเสียงของเจ้าพระยาจิณห์วราเต็มไปด้วยความเสน่หารักใคร่ "ถึงจักอยู่ภายในเรือนของเรา แม้จักอยู่ข้างกายข้า ข้าก็ยังห่วงเจ้า"

    "ภรรยา ท่าน…" ท่านชายประดิพัทธิ์จับชายเสื้อของภรรยาคนสวยอย่างเขินอาย ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นพร้อมหันใบหน้าหวานล่ำหลบหนีสายตาคลั่งไคล้ของภรรยา

    "ไยเจ้ายังเขินอาย มิใช่ครั้งแรกเสียหน่อย" ภรรยาผู้คลั่งรักใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมสีน้ำหมึกทัดหูให้คนรักอย่างแผ่วเบาพร้อมกับเอ่ยประโยคไร้ยางอายสองสามคำ

    "ท่าน…!" สามีขี้อายเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองคล้ายเจ้าลูกแมวน้อยขี้ตกใจ เมื่อเห็นเช่นนี้หล่อนจึงหัวเราะเสียงแผ่วอย่างเอ็นดู

    หวานมากจ๊ะ

    หวานมาก หวานจนมดขึ้น หวานจนมดไต่เต็มเรือนแล้วจ้า

    "..." นี่อากาศเอง มิใช่ลูกสาวมิต้องสนใจหรอก จริงๆ จริงจริ๊ง!

    จันทร์หอมกลอกตาอย่างรำคาญ อาหารหมาเกลื่อนกลาดมาก ไหนท่านเจ้าพระยาจิณห์วราผู้เคร่งขรึมจริงจัง ตอนนี้นางเห็นเพียงบุคคลหน้าม่อไร้ยางอายกำลังลวนลามเจ้าคุณพ่อของนาง

    แล้วก็เจ้าคุณพ่อท่านลืมบุตรสาวผู้นี้อีกแล้ว!

    "โอ้ ความรักแสนหวานครั้งนี้ช่างน่าประทับใจเหลือเกิน... พี่หญิง! มีโจรไร้ยางอายปีนขึ้นเรือน! โจรผู้นี้กำลังล่วงเกินเจ้าคุณพ่อ!" จันทร์หอมตะโกนเรียกพี่สาวเสียงดังจนเจ้าคุณพ่อกับเจ้าแม่สะดุ้ง บ่าวไพร่ในเรือนหรือก็เตรียมยกพร้ายกดาบมาปกป้องเจ้าคุณชายของเรือน

    "แม่จันทร์หอมเจ้า… ไร้สาระนักอย่ากล่าวหาแม่เจ้าเช่นนั้น " น๊านมีการช่วยกันไปอี๊ก เป็นนางที่ผิดหรือ 

    "แม่จันทร์หอมเจ้านี่โตแต่ตัวจริงๆ" เจ้าคุณแม่มองนางด้วยสายตาหน่ายใจพร้อมกับถอนหายใจใส่

    เอ้า!?

    แล้วคู่สามีภรรยาก็จากไปเหลือเพียงเธอที่นั่งถือยาอยู่บนเตียงอย่างงุนงง 

    อิหยังนิ๊!?

     

     

     

     

    ทุกคนคงกำลังสงสัยว่าฉันคือใคร ฉันจะเล่าความเป็นมาของฉันแล้วก็ครอบครัวของฉันให้ฟังสั้นๆก็แล้วกัน

    แม่หญิงจันทร์หอม คือชื่อของฉันหลังจากเกิดใหม่ บุตรสาวคนที่สองของเจ้าพระยา ปัจจุบันเกาะพ่อแม่และพี่สาวกินไม่ทำงานราชการเพราะไม่ชอบ

    เจ้าพระยาจิณห์วรา คือแม่ของฉัน แม่ของฉันมียศถาบรรดาศักดิ์ ทำงานอยู่ในวังเป็นมือขวาขององค์จักรพรรดินี ผู้ครอบครองดูแลกองพลและที่ดินมากมายทางทิศตะวันออก

    คุณชายประดิพัทธ์ คือพ่อของฉันเอง เป็นสามีของเจ้าพระยาจิณห์วรา บุตรชายของขุนธินิดาจากหัวเมืองแถวตะวันตก 

    ท่านแม่หนีไปเที่ยวกับองค์จักรพรรดินีจึงได้พบรักกับท่านพ่อและก็ลักพาตัวมา แค่กๆ

    แม่หญิงจันทร์ทิพย์ หรือ จมื่นจิระเดช คือพี่สาวของฉัน ปัจจุบันรับงานราชการและมีสหายเป็นองค์หญิงรัชทายาท ชีวิตดี๊ดีแต่ยังไม่มีสามี

    โลกใบนี้มีวัฒนธรรมบางอย่างที่คล้ายไทยเป็นจำนวนมาก ที่ไม่เหมือนก็มีเยอะ 

    โลกใบนี้ผู้ชายท้องได้และร่างกายของผู้ชายจะอ่อนแอเปราะบางเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน ที่สำคัญต้องได้รับการดูแล

    ส่วนหญิงสาวฉกรรจ์นั้นแน่นอนว่าแสนจะทึกทน สู้รบปรบมือ ทำงานราชการ หาเลี้ยงครอบครัว และที่สำคัญมีโจย

    อืมนั่นแหละ มันไม่ได้ผุดเข้าผุดออกได้เหมือนอัลฟ่าหญิง(โลกโอเมก้าเวิลด์น่ะ) แต่มันมีแต่เกิด! รูปทรงคล้ายชายแกร่งตั้งแต่เกิด! 

    ได้ยินมาว่าของบุรุษแสนจะอ่อนนุ่มน่ารักอ่อนหวานแตกต่างจากสตรีมาก อืม... 

    ฉันไม่เคยเห็นนะ! แค่ได้ยินมา!

    สรุปก็คือโลกที่สตรีมีโจยเป็นใหญ่ และมีความพีเรียดไทยในบางอย่างไม่อิงประวัติศาสตร์นั่นเอง

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×