คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สอบข้อเขียน+สัมภาษณ์ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ
บทความนี้เพื่อนพี่ก็พิมพ์มาแชร์จ้า (พี่ขอนี้แหละ555อยากให้รุ่นน้องได้ลองอ่านนะ)
สำหรับคณะ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ อ่านะ!
วันแรกสอบข้อเขียน
วิชาแรกอังกฤษ แบ่งเป็น 3 พาร์ท
- Conversation พาทนี้เป็นพาทเก็บคะแนนจริงๆ เป็นพวกสนทนาง่ายๆ
- Grammar จะเป็นแนว cloze test แม่นแกรมม่าก็ดีไปสำหรับพาทนี้
- Reading พาร์ทนี้โหดมี 2 เรื่อง เรื่องแรกจะเป็นเรื่องสั้นๆ ส่วนเรื่องที่ 2 ก็นะ..2 หน้า!
เวลาสอบเขาให้มา 1.30 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนมีคนทำไม่ทัน! แนะนำให้ทำ Conversation ก่อน แล้วไป Reading เรื่องแรก กลับไปทำ Grammar สุดท้ายให้ทำ Reading เรื่องยาว ทำแบบนี้เวลาจะเหลือ เพราะพี่ทำแบบนี้แล้วมีเวลาเหลือให้ตรวจดูข้อสอบอีกมาก (และก็ทำให้รู้ว่า Reading เรื่องหลังพี่ทำผิดเยอะมาก ถ้าไม่กลับมาตรวจนะ)
วิชาที่ 2 วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ) แบ่งเป็นวิชาล่ะ 20 ข้อ
ฟิสิกส์ เรื่องง่ายๆนะ ไม่ยากเท่าไหร่ คือรู้อ่ะว่าทำไง (สำหรับคนที่เตรียมมาดี) มันไม่ได้ออกลึก แทนสูตรได้เลย จำข้อสอบได้ข้อสุดท้าย จะเป็นการดุลสมการนิวเคลียร์ ให้หาเลขมวลกับอะตอมของสาร X
ชีวะ อันนี้จำล้วนๆ ไม่ออกทุกเรื่อง เท่าที่จำได้
ข้อแรก จะให้รูป มอส กับ เฟิร์น มาแล้วชี้ ให้ส่วนที่ชี้ตรงมอสเป็น A และที่เฟิร์นเป็น B แล้วถามว่า A กับ B คืออะไร (ถาม gametocyte กับ Sporophyte )
อีกข้อนะ จะถามว่าถ้าผู้หญิงตัดมดลูกแล้ว จะสามารถตกไข่ได้มั้ย ตัวเลือกก็จะมี ได้ กับ ไม่ได้ แล้วมีเหตุผลประกอบ
เคมี เน้น ทฤษฎี พวกคำนวณไม่ออกอ่ะ จะให้กราฟ ให้ปฏิกิริยามา ถ้ารู้ค่า K2 K3 จะหา K1 ยังไง
(สำหรับข้อเขียน มันไม่ยากอ่ะ ขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวของเรา ไม่ได้ลึกมาก หรือซับซ้อนเลย)
วันที่ 2 สัมภาษณ์
เขาจะให้เราไปอยู่ให้ห้องก่อนอ่ะ! แล้วเรียกไปทีล่ะ 5 คน ของวิทยาศาสตร์ชีวภาพ จะสัมภาษณ์พร้อมกับเคมีประยุกต์ส่วนนึง ของพี่ได้คนที่ 2 ของวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ก็นะ! ตื่นเต้น!!
คนแรกเข้าไปประมาณ 5 นาที แต่สำหรับเรามันนานไง ฮ่าๆๆ
พอพี่เข้าไป เขาก็ขอ พล็อตก่อนเลย กรรมการมี 2 คน ผู้หญิงทั้งคู่ เราก็สวัสดีเขา จากนั้นเขาก็ให้เราแนะนำตัว เราก็แนะนำตัวไป เอาที่เราเตรียมมานั้นแหละ แบบอังกฤษพื้นๆ ของพี่นี้ที่เตรียมแนะนำตัวมาพูดไม่หมดนะ เขาแทรกคำถามมาก่อน ส่วนคำถามก็มี
“ชอบชีวะหรอ? ทำไมล่ะ”
“ทำไมถึงเลือกเรียนที่นี้”
“เลือกที่นี้เพราะคุณพ่ออยากให้เข้าด้วยรึป่าว” (อันนี้พี่ตอบเลยว่า Yes! เพราะมันก็เป็นเหตุผลหนึ่ง)
“คิดว่าโอกาสที่จะได้เข้าที่นี้กี่ %” (อันนี้พี่ตอบ 60 %” เขาก็ถามต่ออีกว่า “แล้วอีก 40%ล่ะ” พี่ก็ตอบไปว่าไม่มั่นใจฟิสิกส์ เขาก็ชวนคุยว่า “คุณไม่ชอบฟิสิกส์” ตอบอย่างมั่นใจ! Yes!! I don’t like Physic! แล้วเขาก็พูดว่า มันอาจจะต้องใช้นะ…ประมาณนี้ๆ)
“ได้สมัครหรือเลือกที่อื่นไว้มั้ย?” อันนี้พี่ฟังไม่เข้าใจ เขาก็พูดเป็นภาษาไทย
“แล้วที่ มช กับ ศิลปากร เลือกคณะอะไรไว้บ้าง” พี่ตอบไปว่า มชเลือกวิทย์ ศิลปากรเลือกเภสัช
เขาก็จี้มาทางวิทย์ล่ะ หลังจากนี้คือถามเป็นไทย!
“เลือกวิทย์ที่มช. เลือกสายอะไร”
“อยากเรียนอะไรเกี่ยวกับชีวะ” อันนี้คือคำถามที่ก่อเหตุสุดๆ เพราะพี่ตอบไปว่าอยากเรียนพันธุศาสตร์ เขาก็จี้เลยด้วยคำถามที่ว่า
“ที่นี่ไม่มีให้เรียนพันธุศาสตร์นะ จะอยากเรียนอยู่มั้ย?” ก็ตอบว่าเรียนได้ เพราะอยากเรียนเกี่ยวกับชีวะยู่แล้ว ก็ถามมาอีกว่า
“ชีวะที่ว่าเกี่ยวกับอะไรล่ะ” ...อารมณ์พี่ตอนนี้คือ เริ่มคุล่ะ! กูอยากเรียนอ่า!!
“ถ้าได้จะมช. กับที่นี้ จะเลือกไหน”
“ชอบชีวะมากเลยใช่มั้ย บอกหน่อยได้มั้ยว่า พืชกับสัตว์ ต่างกันยังไง” บางคนคิดว่าคำถามนี่ง่ายนะ! แต่ถ้าใครได้ไปอยู่สถานการณ์นั้น บอกได้เลย คุณอาจจะตอบแบบตะกุกตะกัก! ในหัวมันโล่งมากก คือตอบข้อนี้แบบแถๆอ่ะ T T กรรมการที่ถามมีแอบขำด้วย (คือขำทำมายยย
T T บั่นทอนความมั่นใจสุดๆ)
แล้วสุดท้ายเขาก็ถามว่า “เรื่องภาษาอังกฤษไม่เป็นปัญหาใช่มั้ย” อันนี้พี่บอกเลยว่า ถ้าได้เข้า ก็จะพัฒนาต่อไปค่ะ!
….เท่าที่สัมภาษณ์ก็มีแค่นี้แหละ มันก็ไม่ได้อะไรมาก แค่มีสติ! อย่าตื่นสัมภาษณ์แบบพี่…..
ความคิดเห็น