คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เจอกันจนได้................
เที่ยงคืนกว่า ๆ ที่หน้าหอพักระดับปานกลาง มีหญิงสาวคนหนึ่ง ค่อย ๆ ลงจากรถแท็กซี่ที่เธอเรียกมาจากรถทัวร์ หลังจากที่เธอมาถึง..หญิงสาวค่อย ๆ เดินเข้าไปข้างในหลังจากที่จ่ายค่าแท็กซี่เรียบร้อยแล้ว..ตอนนี้เธอคิดถึงเตียงนอนเล็ก ๆ ของตัวเองเป็นที่สุด เมื่อร่างกายเธอเรียกร้องการพักผ่อน..เฮ้ยอดทนหน่อยนะแก้วกันหา เธอจะถึงห้องพักแล้ว...ให้กำลังใจตัวเองในใจ...ตอนนี้ที่หอพักของเธอนั้นไม่มีผู้คนอยู่ที่ด้านนอกเลย..นอกจากยามที่ตอนนี้ก็นั่งหลับไปเรียบร้อยแล้ว...หญิงสาวค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันไดอย่างช้า ๆ ดีนะที่ห้องของเธออยู่ที่ชั้นสอง ขึ้นบันไดนิดเดียว..แก้วกันหาค่อย ๆ ก้มไปหยิบกุญแจที่เธอซ่อนเอาไว้ที่ใต้พรมไขเข้าห้องพักของตวเอง เสียงประตูปิดลงตามหลังพร้อมกับร่างบอบบางก้าวขึ้นเตียงด้วยความอ่อนเพลียที่สุดที่เธอเคยได้รับมาเลยที่เดียว..แก้วกับหาหลับทันทีที่หัวถึงหมอน โดยไปรู้เลยว่ามีใครบางคนที่ยังตาหาเธออย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย.............แก้วกันหาลืมตาตื่นขึ้นมา..หากแต่เธอยังไม่ขยับตัวไปไหน เธออยากจะยืนยันอีกครั้งว่าสถานที่ ที่เธอนอนอยู่นี้เป็นห้องของเธอจริง ๆ เธอไม่ได้ฝันไป..ทุกอย่างมันจบลงแล้ว...เธอจะคิดว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เธอนั้นแค่ฝันไป..มันเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้นเอง...มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย..ไม่เคย..ไม่เคยจริง ๆ แก้วกันหาคิดในใจ..ก่อนจะกดโทรศัพท์หากรรณิการ์ที่ไม่รู้ว่าป่านนี้เพื่อนเธอจะเป็นยังไงบ้าง หวังว่าคงปลอดภัยดี..หญิงสาวคิดขณะรอสาย..
“กรรณิการ์พูดค่ะ”..
“กรรณ..นี่แก้วเองนะ..”
“แก้ว..แก้วจริง ๆ เหรอ..เธอหายไปไหนมาน่ะ..รู้ไหมพวกเราตามหาเธอกันให้วุ่นเลยนะ..”เสียงปลางสายบ่งบอกถึงความตื่นเต้นที่ได้ยินเสียงของเพื่อนรักอีกครั้ง....
“จ๊ะ..แก้วเอง..พอดีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นนิดหน่อยน่ะ..”แก้วกันหาบอกเพื่อนแต่ไม่บอกถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น...
“แล้วบตอนนี้เธออยู่ที่ไหนนี่...
“เราอยู่ที่ห้องน่ะ...แล้วกรรณล่ะกลับมาถึงเหรอยัง...”
“จ้าจะถึงแล้ว...เดี๋ยวเราไปหานะ จะเอาของ ๆแก้วไปให้เราเก็บมาให้หมดแล้ว...”กรรณิการ์บอกเพื่อน
“จ้าขอบใจมากนะ...แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกคนวุ่นวาย...งั้นแค่นี้ก่อนนะ...”แก้วกันหาบอกก่อนจะวางสาย...
“จ้า..แล้วเจอกัน..”
ตอนบ่าย แก้วกันหาได้ตอนรับเพื่อนสาวที่รีบมาหาเธอด้วยความเป้นห่วง เมื่อสองสาวเจอกันต่างกอดกันด้วยความดีใจทันที่ที่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง..กรรณิการ์ซักไซร้ถึงสาเหตุที่หญิงสาวได้หายตัวไปจากเรือ ซึ่งแก้วกันหาได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หญิงสาวไม่ได้เล่าว่าหลังจากที่พวกนายเชิดชัยช่วยเธอขึ้นมาแล้วเธอต้องเจอกับอะไรบ้าง เธอบอกแต่เพียงว่า พวกเรือประมงหาปลาที่จอดหลบฝนแถวนั้นได้ช่วยชีวิตเธอไว้แล้วพาเธอมาส่งที่โรงพยาบาลหลังจากฝนหยุดแล้ว...เธอไม่อยากให้เพื่อนของเธอต้องรู้สึกผิดไปมากกว่านี้..แค่นี้เพื่อนเธอก็รู้สึกผิดมากแล้วที่ทิ้งให้เธออยู่ที่ท้ายเรือเพียงคนเดียว...
“กรรณขอโทษนะ...เป็นเพราะกรรณที่ทิ้งแก้วไว้คนเดียว..”กรรณิการ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ...เพราะรู้สึกผิดที่ทิ้งเพื่อนไว้เพียงคนเดียว...
“โธ่กรรณ...มันไม่ใช่ความผิดของกรรณสักหน่อย..กรรรณอย่าโทษตัวเองเลยนะ..มันเป็นคราวเคราะห์ของแก้วเอง..”แก้วกันหาปลอบเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนสาวทำท่าจะร้องไห้เพราะรู้สึกผิด...
“แก้วต้องขอบใจกันมากนะที่เก็บของมาให้ด้วย...กรรณกลับไปพักเถอะ...กลับมาเหนื่อยๆ “แก้วกันหาบอกเพื่อนหลังจากนั่งคุยกันสักพัก...
“จ๊ะ...กรรณก็ว่าจะขอตัวกลับเหมือนกัน..แก้วจะได้พักด้วย..ยิ่งป่วยอยู่..”กรรณิการ์บอกอย่งเห็นด้วยกับเพื่อน..พร้อมกับขอตัวกลับทันที...
“กรรณไปแล้วนะ...เดี๋ยวค่อยนัดเจอกันก่อนที่กรรณจะไปเรียนต่อนะแก้ว...”กรรณิการ์บอกลาเพื่อน..
หลังจากที่กรรณิการ์กลับไปแล้ว..แก้วกันหาก็โทรกลับไปที่บ้าน..เพราะเธอไม่ได้โทรกลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้ว ป่านนี้พ่อกับแม่คงจะเป็นห่วงเธอจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้วมั้ง...
“สวัสดีค่ะ..บ้านสวนส้มกำนันกรค่ะ..”
“ขอพูดกับแม่กัลยาคนสวยหน่อยค่ะ...”
“แก้ว..แก้วเหรอลูก.ทำไมหายไปหลายวันเลย..ไม่โทรกลับมาที่บ้านด้วย..แม่โทรไปก็ไม่รับ...รู้ไหมว่าพ่อกับแม่เป็นห่วงแค่ไหนหือ...”กัลยาถามออกไปเป็นชุดไม่เว้นที่ว่าลูกสาวตอบคำถาม..ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว...เสียงของนางทำให้กำนันกรที่เพิ่งกลับมาจากสวนรีบวิ่งมาแย่งโทรศัทพ์ไปคุยเอง...เพราะกำนันกรเองก็คิดถึงลูกสวหัวแก้วหัวแหวนเหมือนกัน...
“แก้ว..นี่พ่อเองนะ...จะกลับบ้านวันไหนลูก..พ่อจะได้ไปรับ...”กำนันกรเอ่ยถามทันที่ ไม่สนใจสายตาของเมียที่มองค้อนด้วยความโมโห...ที่โดนแย่งโทรศัทพ์ไปจากหู...
“พ่อ..พ่อจ๋า แก้วคิดถึงพ่อจังเลย..”แก้วกันหา เอ่ยเสียงเครือ เหมือนจะร้องไห้ เมื่อได้ยินเสียงอันเป็นที่รักของเธอ..
“แก้ว..แก้วเป็นอะไรลูก หนูร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรลูกบอกพ่อสิ...”ผู้เป็นพ่อ ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน เมื่อได้ยิน เหมือยลูกสาวร้องไห้..
“แก้ว..ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ..แก้วแค่ดีใจที่ได้ยินเสียงของพ่อนะจ้ะ..”แก้วกันหารีบบอก..
“โธ่..ถ้าคิดถึง ทำไมหนูยังไม่กลับอีกล่ะ..สอบก็เสร็จแล้ว..”
“คือแก้วจะไปสมัครงานทิ้งไว้ก่อนค่ะ..แล้วค่อยกลับ..”
“อ้าวทำไมไม่มาทำงานที่บ้านของเราล่ะ..”
“คือแก้วอยากลองทำงานที่บริษัทใหญ่ ๆ ในกรุงเทพฯก่อนสักสองปี แล้วค่อยกลับไปทำที่บ้าน พ่อกับแม่คงไม่ว่าอะไรแก้วนะค่ะ...แก้วของเวลาแค่สองปีเอง..”เสียงใส ๆ บอกอย่างอ้อน ๆ ...
“เอางั้นก็ได้..แค่สองปีนะ..พอครบสองปีเมื่อไหร่ห้ามบ่ายเบี่ยงล่ะ...พ่อไม่ยอมแล้วด้วย..”เสียงขึง ๆ บอกเป็นเชิงขู่ออกไป...
“ค่ะ..พ่อไม่ต้องเป็นห่วงแก้วนะ..แก้วกลับบ้านของเราแน่..อยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนบ้านเราเนอะ..”แก้วกันหารีบประจบผู้เป็นพ่อทันที...
“ขนาดมีความสุขยังไม่อยากจะกลับบ้านเราเลยนะ”ผู้เป็นพ่อบอกอย่างประชด....
“โธ่พ่อจ๋า..ก็แก้วบอกแล้วว่าขอเวลาแค่สองปีเองจ้ะ...”
“พ่อรู้แล้วน่า..”
“พ่อจ๋า..งั้นแค่นี้ก่อนนะ...พ่อกับแม่ดูแลตัวเองดี ๆ นะ..แก้วเป็นห่วง”
“แก้วก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ เป็นผู้หญิงอยู่ในเมืองคนเดียวมันอันตราย....อยากกลับดึก ๆ ด้วยล่ะ...พ่อเป็นห่วง...พ่อรักหนูนะลูก..”
“ค่ะ แก้วก็รักพ่อกับแม่มากเหมือนกันจ้า..ฝากบอกแม่ด้วยนะค่ะ...”แก้วกันหาบอกเสียงสั่น ๆ ก่อนจะรีบวางสายก่อนที่จะร้องไห้ให้พ่อกับแม่ได้ยิน เธอไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงไปมากกว่านี้..
“ลูกว่าไงบ้างล่ะ..พี่กำนัน..”คุณกัลยารีบถาม...
“ลูกมันบอกว่าคิดถึงพ่อกับแม่มาก..ดูแลตัวเองด้วย...”
“เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว..ที่อยากรู้คือลูกจะกลับเมื่อไหร่..”คุณกัลยาบอกอย่างเริ่มโมโห...
“อ้อ..เจ้าแก้วมันบอกว่าจะยังไม่กลับ..ขอทำงานหาประสพการณ์อีกสองปีน่ะ..”กำนันบอกก่อนจะเดินไปที่โต๊ะอาหารที่ผู้เป็นเมื่อเตรียมไว้ให้...
“อะไรนะต้องสองปีเลยเหรอ..แล้วพี่กำนันก็ยอมน่ะนะ...”คุณกัลยาร้องอย่างไม่ได้ดังใจ ขณะเดินตามสามีเพื่อมารับประทานอาหารด้วย..
“เอาน่า..ลูกมันอยากหาประสพการณ์ในการทำงานน่ะ...อุตสาห์ร่ำเรียนมาน่ะ...”
“หึ..พี่กำนันก็อย่างนี้ทุกทีนั่นแหละ..ตามใจกันมาตลอดนี่...ยัยแก้วอ้อนนิดอ้อนหน่อย..ก็ใจอ่อนและ..เป็นไงล่ะ ถ้าลูกติดใจนะไม่ยอมกลับบ้านล่ะก็...จะสมน้ำหน้าให้ดู...”คุณกัลยาตอกกลับไปทำให้กำนันกรหน้าเจื่อนไปเลยที่เดียว...
....................................................................................................
“เฮ้ย..ในที่สุดเธอก็ได้งานทำแล้ว..”แก้วกันหาร้องออกมาอย่างดีใจ เมื่อออกมาจากบริษัทรัตนโยธินที่เรียกเธอมาสัมภาษณ์งาน..อีกตั้งสองอาทิตย์แน่ะกว่าจะเริ่มงาน..เรากลับบ้านไปอ้อนพ่อกลับแม่ดีกว่า..แก้วกันหาคิดอย่างอารมณ์ดี..ตอนนี้เธอไม่คิดถึงเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว...ถึงแม้ตอนกลางคืนเวลานอนเธอจะอดคิดถึงไม่ได้ก็ตามที..เธอขออยู่กับปัจจุบันและอนาคตดีว่า..หญิงสาวกลับหอพักเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านในวันพรุ่งนี้..แค่คิดว่าจะได้กลับไปกอดพ่อกับแม่เธอก็มีความสุขแล้ว..ป่านนี้จะทำอะไรกันอยู่นะ..หญิงสาวคิดขณะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า..
วันรุ่งขึ้น..แก้วกันหาออกจากหอพักแต่เช้า ไปที่หมอชิตเพื่อขึ้นรถทัวร์กลับบ้าน..บ้านสวนของเธอนั้นอยู่จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย..บ้านของเธอนั้นเป็นชาวสวน ปลูกส้มไว้ขายมีรายได้พอประมาณไม่ลำบากอะไร..แต่อาชีพเกษตรกรก็ย่อมไม่สบายเหมือนอาชีพอื่น ๆ เธอรู้ดีเพราะเคยไปช่วยพ่อ บ่อย ๆ ไป..ไหนจะต้องคอยต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลางอีก...หญิงสาวคิดขณะนั่งอยู่บนรถทัวร์...
“เฮ้อรู้อย่างนี้น่าจะโทรให้พ่อไปรับที่สถานีดีกว่า..เป็นไงล่ะอยากเซอร์ไพร์ต้องเดินเข้าบ้านเองเลย..แถวนี้รถก็ไม่มีผ่านด้วยสิ..แก้วกันหาเดินไปบ่นไป..สักพักหญิงสาวก็ได้ยินเสียงแตรรถดังอยู่ข้าง ๆ ..จึงหันไปมองด้วยความสงสัย..
“เอ้อจะไปไหนครับ..ผมไปส่งไหม..”เสียงคุ้นหูดังขึ้นกระจกรถก็ค่อย ๆ เลื่อนลงทำให้หญิงสาวยิ้มอย่างดีใจที่ไม่ต้องเดินเข้าบ้านเอง..ก่อนจะทักทายออกไป...
“สวัสดีค่ะ..พี่ทัศ พอดีแก้วจะเข้าบ้านน่ะค่ะ..” เสียงหวานใสทักทายออกไป..พร้อมกับวางกระเป๋ายกมือไหว้อย่างคนที่ได้รับการอบรมมาดี..
“ดีเลยจร้า..พี่กำลังจะไปหาลุงกำนันพอดีเลย ขึ้นมาเลยจร้า” พร้อมกับลงมายกกระเป๋าของหญิงสาวใส่ท้ายรถให้..
“ขอบคุณมากค่ะ..”บอกขอบคุณก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งข้างคนขับ...ที่ทัศนัยเปิดประตูไว้รอ..
“นี่น้องแก้วมาเยื่ยมลุงกำนันกับป้ากัลหรือกลับมาอยู่บ้านเลยจ๊ะ..”ทัศนัยหันไปถามสาวน้อยที่ตนแอบชอบมานานอย่างดีใจที่ได้เห็นหน้าสาวน้อยอีกครั้ง...
“แก้วแค่มาเยี่ยมพ่อกับแม่น่ะค่ะ..อีกสองอาทิตย์แก้วจะเริ่มงานน่ะค่ะ...”
“อ้าวไหนลุงกำนันบอกว่าน้องแก้วเรียนจบแล้วไม่ใช่เหรอครับ..พี่นึกว่าน้องแก้วจะกลับมาอยู่บ้านซะอีก...เอหรือว่าแอบม่แฟนอยู่ที่โน่นเอ่ย....”ชายหนุ่มถามพร้อมกับลุ้นกับคำตอบของหญิงสาวไปด้วย...
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ คือแก้วอย่างทำงานหาประสบการณ์จากบริษัทใหญ่ ๆ ที่กรุงเทพฯก่อนสักสองปีน่ะค่ะ..จะได้นำมาปรับใช้งานที่นี่ไงค่ะ..ส่วนเรื่องแฟน แก้วยังไม่อยากคิดเรื่องนี้หรอกค่ะ..”เพราะคงไม่มีใครที่อยากได้ผู้หญิงอย่างเธอไปเป็นคนรักหรอก..หญิงสาวต่อประโยชน์นั้นในใจก่อนจะหันไปมองวิวข้างทางเพื่อเป็นการตัดบทสนทนา..
“อ้อ..”ทัศนัยรับคำเป็นการรับรู้แต่ไม่ได้ชวนคุยต่อ เพราะเห็นหญิงสาวสนใจวิวข้างทาง แค่รู้ว่าน้องแก้วยังไม่มีใครเขาก็ดีใจแล้ว..รอให้กลับมาอยู่บ้านก่อนเถอะ.ค่อยลงมือจีบอย่างจริงจัง..ชายหนุ่มคิดอย่างคริ้มใจ..จนรถวิ่งมาจอดที่ใต้ต้นหูกวางต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาอยู่หน้าบ้าน...เสียงรถที่วิ่งมาจอดที่หน้าบ้านทำให้คุณกัลยาที่กำลังทำกับข้าวในครัวต้องเดินออกมาดู เพราะเด็กที่ช่วยงานบ้านเธอนั้น เธอใช้ให้ไปเก็บใบกระเพราตั้งนานแล้วยังไม่กลับมาเลย..
“ใครมากันนะ..”บ่นพึมพำก่อนจะออกมาดูที่หน้าบ้านอย่างสงสัย...
“สวัสดีดีจ้า..ป้ากัล ผมเองครับ..”ทัศนัยลงจากรถ เดินเข้ามาทักทายเจ้าของบ้าน พร้อมกับยกมือไหว้อย่างมีสัมมาคารวะ..
“โธ่นึกว่าใคร พ่อทัศเอง..เป็นไงมาไงกันล่ะพ่อ...”คุณกัลยาทักทายอย่างเป็นกันเอง..
“พอดีผมมีเรื่องจะปรึกษาลุงกำนันหน่อยน่ะจร้า เลยแวะเข้ามาหา..แล้วนี่ลุงกำนันอยังไม่กลับจากสวนหรือจ๊ะ..”ทัศนัยถาม ก่อนจะมองหาบริเวณรอบ ๆ บ้าน...
“ยัง..หรอกสักพัก แน่ะ..พ่อทัศนั่งรอก่อนนะ ..เดี๋ยวป้าให้เด็กเอาน้ำมาให้...
“อ้อป้ากัลครับ..วันนี้ผมไม่ได้มาคนเดียวนะ..พาคนรู้จักมาหาด้วยแหละ...”ทัศนัยบอกอย่างมีเลศนัย..
“พาใครมากัน..คุณกัลยาถามอย่างสงสัย พร้อมกับมองเลยผ่านไปด้านหลังของทัศนัยอย่างอยากรู้อย่างเห็น..ก่อนจะตกตลึง เมื่อเห็นคนที่ทัศนัยพามาด้วยความดีใจ..
“แก้ว..แก้วจริง ๆ ด้วย..มาได้ไงนี่ ไหนบอกว่าจะอยู่ทำงานที่โน่นก่อนไง..”คุณกัลยารีบเดิบไปหาสาวน้อยที่หลบอยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม..ที่ยืนรอให้ทัศนัยทักทายผู้เป็นแม่ก่อน...สองสาวต่างวัยต่างสวมกอดกันด้วยความคิดถึงและความเอื้ออาทรที่มีให้กัน..ทำให้ชายหนุ่มเพียงคนเดียวที่ยืนเป็นส่วนเกินปลอกให้สองสาวได้ทักทายกันตามลำพัง โดยการไปหยิบกระเป๋าของสาวน้อยลงมาจากรถเข้ามาไว้ในบ้าน..
“แก้วคิดถึงแม่จังเลยค่ะ....คิดถึงจนทนไม่ไหวต้องรีบกลับมาหานี่ไงค่ะ..”หญิงสาวได้ที่อ้อนผู้เป็นแม่อย่างกับเด็กเล็ก ๆ ..
“ไม่ต้องมาพูดเอาใจเลย...ปากบอกว่าคิดแต่ไม่ยอมกลับมาอยู่บ้านเรา ทั้งที่เรียนก็จบแล้ว...”ผู้เป็นแม่ประชดอย่างไม่จริงจังนัก.แต่ยังกอดลูกสาวเอาไว้แน่น..
“โธ่แก้วบอกแล้วไงค่ะ ว่าขอเวลาสองปีรับรองกลับมาแน่ ๆ ..”บอกพร้อมกับหอมแก้มของมารดาอย่างเอาใจ...จนทำให้ผู้เป็นแม่ต้องยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ กับความช่างอ้อนของลูกสาว..กี่ปี กี่ปี่..ลูกสาวเธอก็ยังเหมือนเด็กเล็ก ๆ ไม่เปลี่ยน..คุณกัลยาคิดก่อนจะบอกลูกสาวให้ขึ้นไปพักผ่อนเพราะมาเหนื่อย ๆ ...
“หนูไปพักเถอะลูก...เดี๋ยวพ่อเรากลับมาจะได้กินข้าวกัน..”เสียงนุ่ม ๆ ของกัลยาบอกลูกสาว..
“ได้ค่ะแม่..เออ พี่ทัศค่ะแก้วขอบคุณมากนะคะที่รับแก้วเข้าบ้านมาด้วย..”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ..คนกันเองทั้งนั้น...”ชายหนุ่มบอกก่อนจะยิ้มให้หญิงสาวอย่างเอาใจ...
“อ้อ พ่อทัศ เดี๋ยวเย็นนี้ เราอยู่กินข้าวด้วนกันนะ...เดี๋ยวป้าให้เด็กเอาน้ำมาให้..นั่งรอพ่อกำนันไปพลาง ๆ ก่อนแล้วกัน น้าจะเข้าไปทำกับข้าวก่อน..”
“ได้ครับ..ผมอยู่ได้..”ชายหนุ่มรับคำอย่างยินดีที่จะได้ทานข้าวกับสาวน้อยในฝัน...
“ป้า..ป้าเป็นไรมากไหมเนี่ย เดินยิ้มคนเดียวก็ได้ด้วย..” กำไล เด็กสาวที่นางรับมาอุปการะ ถามอย่างแปลกใจ ที่เห็นป้าตัวเองเดินยิ้มเข้ามา...
“ก็ข้าดีใจนี่หว่า..”คุณกัลยาตอบออกไป ยังยิ้มไม่เลิก...
“ดีใจอะไรป้า...ถูกหวยเหรอ..แล้วใครมานี่..เห็นคุยกันตั้งนานสองนาน...”เด็กสาวถามอย่างกวนประสาท...
“เอ็งนี่..ชักจะกวนประสาทขึ้นทุกวันแล้วนะ..เอ็งก็รู้ว่าข้าไม่ได้เล่นหวย..ว่าแต่เอ็งเถอะไปเก็บใบกระเพราถึงไหนฮะ ไปเป็นชาติ..เอ็งรีบเอาน้ำไปเลี้ยงแขกเลยนะ..ป่านนี้พ่อทัศหิวน้ำจนคอแห้งแล้ว...”คุณกัลยาบ่น ก่อนใช้ให้เด็กสาวเอาน้ำไปให้แขกที่นั่งรออยู่ด้านนอก..
“อ๋อ พี่ทัศมาเหรอ..แค่พี่ทัศมาต้องดีใจด้วย..แอบกิ๊กกันเหรอเปล่านี่..เดี๋ยวจะฟ้องลุงกำนันนะ...”กำไลล้อผู้เป็นป้า..พร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่...ก่อนจะทำคนย่น เมื่อผู้เป็นป้าทำท่าจะเขวี้ยงตะริวใส่..ก่อนจะรีบวิ่งเอาน้ำไปให้แขกทันที..
“โธ่ฉันไปเอาน้ำให้พี่ทัศดีกว่า..” เสียงเซ็ง ๆ บอกออกไป..
แก้วกันหาเดิเข้าห้องนอนของตัวเองที่ยังเหมือนเดินทำอย่าง ไม่เปลี่ยน แถมห้องยังสะอาดสะอ้าน บ่งบอกว่าทำความสะอาดประจำ..ก่อนจะวางกระเป๋าพร้อมกับทรุดนั่งบนเตียงนอนที่เธออาศัยนอนมาตั้งแต่จำความได้...พอหายเหนื่อยหญิงสาวจัดการเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ ก่อนจะอาบน้ำเพื่อลงไปช่วยผู้เป็นแม่เตรียมอาหารเย็นรอพ่อกลับบ้าน...
“อ้าว พ่อทัศ มาหาลุงเหรอ..”เสียงห้าว ๆ ใหญ่ ๆ ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งคิดอะไรเพลิน ๆ ถึงกับสะดุ้ง..
“สวัสดีครับลุงกำนัน..มั้งแต่เมื่อไหร่นี่..ผมไม่รู้ตัวเลย...”
“ฮา..ฮา..ก็มาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แหละ..นั่งคิดถึงสาวคนไหนอยู่ล่ะ..ลุงเรียกถึงไม่ได้ยินน่ะ..”ผู้สูงวัยกว่าถามอย่างหยอกล้อ มากว่าจริง ๆ ..แต่ก็ทำให้ชายหนุ่ม หน้าเจื่อนได้ พร้อมกับคิดว่า ถ้าบอกไปว่า ผมคิดถึงลูกสาวลุงนั่นแหละครับ..เขาจะได้กินลูกปืนแทนข้าวเย็นที่แสนอร่อยของป้ากัลยาหรือเปล่านะ...
“เออ..ผมก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่าเวลารอลุงนั่นแหละครับ...พอดีผมมีเรื่องจะปรึกษาลุงนิดหน่อยน่ะครับ..”ชายหนุ่มเอ่ยออกไป..
“อ้อ ได้สิ..เดี๋ยววันนี้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันนะ..เฮ้ยใครอยู่บ้านบ้างนี่ เอาน้ำมาให้ข้ากินแก้เหนือยหน่อยสิ..ข้ากลับมาแล้วโว้ย”..ประโยคแรกบอกกับชายหนุ่มรุ่นลูก ก่อนจะตระโกนเรียกคนในบ้านให้เอาน้ำมาให้กิน...
“นี่ค่ะน้ำ..รับรองเย็นสดชื่น..”เสียงหวาน ๆ ใส ๆ พร้อมกับแก้วน้ำวางลงตรงหน้า ทำให้กำนันกรที่กำลังคุยธุระอยู่กับทัศนัย เงียบเสียงลง นั่งอึ้งไปพักนึง ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้ามองคนที่เอาน้ำมาให้ ว่าเป็นคนที่ตนคิดถึงอยู่ใช่หรอเปล่า..ทำไมเขาจะจำเสียงของแก้วตาดวงใจของตัวเองไม่ได้..ในเมื่อเสียงอย่างนี้เขาได้ยินจนคุ้นชิน ....
“แก้ว..มาได้ไงลูก...”เสียงห้าว ๆ ใหญ่ ๆ ที่เหมือนจะสั่นน้อย ๆ ถามลูกสาวออกไปอย่างดีใจ..
“แก้วก็นั่งรถมาสิคะ..พ่อจะให้แก้วมายังไงล่ะ..”หญิงสาวล้อออกไป ก่อนจะกางแขนรอผู้เป็นพ่อเข้ามากอด..ซึ่งกำนันกรก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปกอดลูกสาวตัวเอง กอดด้วยความรักความคิดถึงทั้งหมดที่ตนมีต่อสาวน้อยร่างเล็กคนนี้...อ้อมกอดนี้สินะที่เธอโหยหา..อ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่น และค่อยปกป้องเธอมาตลอดไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน..แก้วกันหาคิดก่อนที่จะน้ำตาไหลออกมาอย่างดีใจที่เธอกลับบ้านมาในวันนี้..แม้จะกลับมาแค่ชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตามที...กำนันกรเมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้ก็อดที่จะล้อลูกสาวทันที เพื่อไม่ให้ตนเองร้องไห้ตามไปด้วย...
“อะไรกันโตเป็นสาวยังขี้แยเป็นเด็ก ๆ อีก..ไม่อายพี่ทัศบ้างเหรอลูก”..
“พ่ออ่ะ..ล้อลูกอีกแล้ว..ก็คนมันดีใจอะที่ได้มากอดพ่อกอดแม่อย่างนี้...”แก้วกันหาร้องบอก แก้มใส ๆ แดงขึ้นมาทันตา เมื่อเห็นชายหนุ่มที่นั่งคุยกับผู้เป็นพ่อมองมาที่เธอดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ...
“อ้าว..ก็พ่อพูดจริงนี่..”
“แก้วไม่พูดกับพ่อแล้ว..ไปช่วยแม่ทำกับข้าวนี้กว่า..”หญิงสาวบอกอย่างงอน ๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าครัว..พร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะของผู้เป็นพ่อกับทัศนัย...
“กินข้าวกันได้แล้วจ๊ะ หนุ่ม ๆ อาหารเย็นเสร็จแล้ว..”เสียงของคุณกัลยาดังขึ้นมาแทรก ขณะชายหนุ่มสองวัยนั่งคุยกันที่ด้านบ้านอย่างติดพัน...
“ไปพ่อทัศ..ไปกินของอร่อยฝีมือแม่กัลกันดีกว่า...”กำนันเอ่ยชวน พร้อมกับกอดไหล่ชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างเอ็นดู...
“กินเยอะ ๆ นะลูก..แม่ว่าเราผอมไปนะ..”คุณกัลยาบอกลูกสาว เมื่อสังเกตุว่าลูกเธอกลับบ้านมาคราวนี้ดูซูบลง..
“จริงด้วยลูก..พ่อว่าจะทักเหมือนกัน..”กำนันกรเอ่ยอย่างเห็นด้วย..
“โธ่พ่อจ๋าแม่จ๋า เดี๋ยวนี้เค้าก็ฮิตหุ่นอย่างนี้กันทั้งนั้น..จริงไหมค่ะพี่ทัศ..”แก้วกันหาเอ่ย พร้อมกับหันไปที่ชายหนุ่มที่นั่งฟังอย่างเงียบ ๆ
“เอ่อ..จริงครับลุงกำนัน..เดี๋ยวนี้เขาฮิตกันอย่างนี้แหละครับ..แต่พี่ว่าอย่างน้องแก้วนี่อ้วนได้อีกหน่อยนะ..”ทัศนัยหันไปบอกเทรนกำลังฮิตของสาว ๆ สมัยนี้ ให้กำนันฟัง แต่ก็เห็นด้วยกับกำนันกรและคุณกัลยาว่าหญิงสาวผอมมากจริง ๆ ....
“เราไม่ต้องไปตามแฟชั่นเขาหรอก เดี๋ยวเป็นโรคขาดสารอาหารจะยุ่ง ยิ่งอยู่คนเดียวที่โน่นใครจะดูแลฮึ..”กำนันดุลูกสาวอย่างเป็นห่วง...
“ค่ะ..เดียวแก้วจะกินให้หมดทุกอย่างเลยอาหารบนโต๊ะนี้..”แก้วกันหารับคำอย่างเอาใจพร้อมกับก้มหน้าก้มตาทานอาหารใจจานตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย จนคนบนโต๊ะอาหารมองอย่างเอ็นดู...
เสร็จธุระบนโต๊ะอาหารก็พากับมานั่งเล่นที่ชานหน้าบ้านจนทัศนัยเห็นว่าดึกมาแล้วจึงของตัวกลับก่อนเพราะรู้สวึกเกรงใจเจ้าของบ้านที่คงอยากจะพักผ่อนกันตามประสาพ่อแม่ลูกที่ต่างก็คิดถึงกัน ทั้งที่ในใจอยากนั่งคุยกับสาวน้อยหน้าหวานให้มากกว่านี้...
“ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่านะครับ..ดึกมากแล้ว..”ทัศนัยเอ่ยลา...
“อืม..จริงสิ เราก็ชวนพ่อทัศคุยซะไม่ได้ดูเวลาเลย...”กำนันเอยอย่างเห็นด้วย..
“จริงด้วย..ยังไงวันนี้ป้าก็ขอบคุณพ่อทัศมากนะที่มาส่งเจ้าแก้วมัน...”คุณกัลยาเอยขอบใจอีกครั้ง...
“ไม่เป็นไรหรอกครับ...แค่นี้เอง ผมจะมาที่นี่อยู่แล้วด้วย...”ชายหนุ่มออกตัวทันที..ก่อนจะหันไปมองหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนหวานเหมือนจะให้หญิงสาวรู้ความในใจ...
“น้องแก้วจะอยู่กี่วันครับ...”
“ว่าจะอยู่สักสองอาทิตย์ค่ะ...”หญิงสาวบอก เริ่มรู้สึกอึดอัดกับสาวตาที่ชายหนุ่ทมองมา...
“ถ้าน้องแก้วอยากไปไหนบอกพี่ได้เลยนะครับ พี่ยอมเป็นสารถีให้น้องแก้วเต็มที่ไม่ต้องเกรงใจ..”
“เอ่อ..แก้วคงไม่ไปไหนหรอกค่ะ..คงจะเข้าสวนไปกับพ่อมากกว่า...”หญิงสาวออกตัวทันที...
“พี่บอกเพื่อไว้น่ะจ๊ะ..ผมกลับก่อนนะครับทุกคน..”บอกพร้อมกับหันไปไหว้ลาผู้ใหญ่สองคนที่มองเขาอย่างรู้ทัน...
“จ๊ะวันหลังมาอีกนะ..”
“ครับ ผมมาแน่นอนครับ..”ชายหนุ่มรับปากอย่างเต็มใจก่อนจะกลับ...
“ไปเราไปอาบน้ำนอนกันดีกว่า...ตกลงพรุ่งนี่ไปกับพ่อใช่ไหม..”ถามพร้อมกับกอดไหล่ลูกสาวเดินเข้าบ้านสามสคนพ่อแม่ลูก..
“ใช่ค่า..พรุ่งนี้พ่อใช้แก้วได้เต็มที่เลย..”หญิงสาวบอกอย่างแข็งขัน...ทำให้ผู้เป็นแม่มองอย่างเอ็นดู..
“ดีเลย..พรุ่งนี้ห้ามบ่นแหละ..”กำนันขู่...
“ไม่บ่นแน่นอนลูกกำนันกรกับแม่กันซะอย่าง..”หญิงสาวเอยอยากอวดตัว...
“ขี้โม้เอ้ย..ไปอาบน้ำไป..”คุณกัลยาว่า..อย่างไม่จริงจังพร้อมกับไล่ให้ไปอาบน้าเมื่อส่งถึงหน้าห้อง..
“แก้วว่าคืนนี้แก้วไปนอนกอดพ่อกับแม่ดีกว่า...ห้ามล๊อกห้องนะค่ะ ของเวลาอาบน้ำแปบเดียวจ้า..”ว่าแล้วสาวน้อยก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องทันที่ ปล่อยให้พ่อกับแม่มองตามด้วยความเอ็นดู....
แก้วกันหาใช้เวลาสองอาทิตย์ที่กลับบ้านอย่างมีความสุขเต็มที่เหมือนชาร์แบตไปในตัว เพื่อเตรียมตัวเริ่มงานแรกในชีวิต..ที่ใกล้จะมาถึง..จนถึงวันกลับจริง ๆ หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกใจหายที่ต้องกลับไปใช้ชีวิตในเมืองกรุงคนเดียว...
“เฮ้ย..ทำไมเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็วอย่างนี้นะ..แปบเดียวต้องกลับซะแล้ว..”แก้วกันหาคิดขณะเตรียมตัวขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ..โดยมีพ่อกับแม่มาส่งที่สถานี...
“แก้ว..ถ้างานมันไม่ดีก็กลับบ้านเรานะ..”กำนันบอกเสียงเครือนิดนึง เมื่อมาส่งลูกสาว...
“ค่ะพ่อ..ไม่ต้องห่วงค่ะ..แล้วแก้วจะกลับบ้านเราบ่อย ๆ นะคะ..”ว่าแล้วก็เข้าไปกอดพ่อกับแม่เพื่อเป็นการบอกลา..
“ดูแลตัวเองนะลูก..แล้วโทรกลับบ้านบ่อย ๆ ล่ะ..อย่างกลับดึก ๆ ดื่น ๆ ด้วยนะ..ห้องหับก็ปิดล๊อกให้เรียบร้อย..”คุณกัลยาสั่งอย่างเป็นห่วง...
“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ..แก้วจะระวังตัวให้ดี..แล้วจะโทรหาบ่อย ๆ นะคะ..แก้วรักพ่อกะแม่มากนะคะ..ดูแลตัวเองให้ดีนะคะ แก้วเป็นห่วง..” บอกด้วยน้ำเสียงสะอื้น.. ก่อนจะยกมือไหว้ พร้อมกับขึ้นรถ เมื่อใกล้เวลารถออก..
.....................................................................................
ตืด..ตืด..เสียงโทรศัทพ์ที่ดังปลุกให้ชายหนุ่มที่เพิ่งได้นอนตอนตีสามต้องลุกขึ้นมารับอย่างอารมณ์เสีย..
“ว่าไง..” ถามด้วยน้ำสียงห้วน ๆ ทำให้คนปลายสายถึงกับสะดุ้ง..ก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ...
“เออ..คือ..นิดอยากถามว่าวันนี้ท่านจะเข้าไหมคะ..วันนี้มีนัดปหระชุมผู้ถือหุ้นตอน สิบโมงค่ะ..นิดจะได้คอนเฟริม น่ะคะ.” นตยาถามพร้อมกับลุ้นคำตอบอยู่ในใจ เพราะเจ้านายเธอนั้นเบี้ยวการประชุมตั้งสองครั้งแล้วทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย..เธออยากรู้จริง ๆ ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้นายใหญ่ของเธอเป็นเช่นนี้...
“อืม..ผมรู้แล้วน่า แค่นี้นะ..” ชายหนุ่มบอกเสียงห้วน วางสายทันที ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ เพราะไม่มีอารมณ์จะนอนต่อ...ทั้งที่ชายหนุ่มนอนไปได้แปบเดียว เพราะเพิ่งกลับมาจากหัวหินเมื่อคืนนี้...และภารกิจตามหาแม่สาวน้อยก็ยังไม่สำเร็จอีกตามเคย
“ไม่นะ..ไม่..อย่าเข้ามา..”เสียงใส ๆ วี๊ดร้องอย่างหวาดกลัว..ก่อนจะสดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกใจ...นี่เธอฝันอย่างนี้อีกแล้วเหรอ หญิงสาวคิด ยกมือลูบเหงื่อออกจากหน้า..ทำไมเธอต้องฝันเห็นเหตุการณ์นั้นอยู่เรื่อยเลยนะ มันผ่านไปแล้วนะแก้ว เธอจะไม่ต้องเจอคน ๆ นั้นอีกแล้ว ซาตานที่ทำร้ายเธอนะ....หญิงสาวคิด น้ำตาคลอเบาขึ้นมาทันที ด้วยความสงสารตัวเองที่ไม่รู้วันจะหลุดพ้นจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเมื่อไร.. เธอต้องอยู่กับปัจจุบันสิ...เธอต้องทำได้ ให้กำลังใจตัวเอง...หญิงสาวรีบลุกจากเตียงอย่างรวดเร็ว เมื่อเหลือบสายตามองนาฬิกาที่บ่งบอกว่า ถ้าเธอมัวแต่นั่งทบทวยความฝันอยู่อย่างนี้ เธอต้องไปทำงานไม่ทันแน่ ๆ ...
“เป็นไงล่ะ..มัวแต่นั่งสงสารตัวเอง มาทำงานสายจนได้..”หญิงสาวบ่นตัวเอง ก่อนจะรีบข้ามถนน เมื่อก้มมองนาฬิกาที่บ่งบอกว่าเธอต้องสายแน่ ๆ เพราะเหลืออีก 5 นาที่ เธอยังอยู่ที่หน้าบริษัทอยู่เลย..จนทำให้ไม่เห็นรถสปอร์ตคันหรูที่บ่งบอกถึงฐานะคนขับได้อย่างชัดเจน ที่วิ่งมาด้วยความเร็วตามอารมณ์ของคนขับ ที่จะเข้ามาจอดที่หน้าบรนิษัทเหมือนกัน ทำให้หญิงสาวหลบไม่ทัน...
“ว้าย!!..” แก้วกันหาร้องออกมาอย่างตกใจ พร้อมกับล้มลงลงอย่างเสียหลัก...
“นี่เธอเดนข้ามถนนอย่างไรนี่..ไม่มีตามองเหรอไงหา..หรืออยากได้ตังค์..เลยทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้องไปด้วย..”เสียงตะคอกที่ดังอยู่บนหัว พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ยืนค้ำหัวเธออยู่ทำให้ แก้วกันหาขยับตวเตรียมลุกขึ้น และเงยหน้ามองไอ้คนนิสัยไม่ดีอย่างไม่พอใจ...คนอะไรตนเองขับรถโดยประมาณ จนชนเธอแล้วยังมาด่าเธออีก อย่างนี้ยอมไม่ได้..
“นี่..มันจะมา.ก.” หญิงสาวชะงัก..อ้าปากค้างทันที่ เมื่อเห็นคู่กรณีของเธอจะจะ..
“ไม่..ไม่จริง...มันต้องไม่ใช่..”หญิงสาวพึมพำบอกตัวเอง พร้อมกับร่างบาง ๆ ของหญิงสาวจะล้มลงตรงหน้าชายหนุ่มทีนที..แต่ร่างบางไม่ล้มลงกัยพื้น เพราะท่านแขนแข็งแรงรองรับหญิงสาวไว้ได้ทัน ก่อนที่หญิงสาวจะถึงพื้น..
“นี่มัน..เป็นไปได้ไงนี่..”อนิรุทพูดกับตนเองอย่างประหลาดใจ ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อก้มมองหน้างสาวน้อยที่สลบอยู่กับอกเขา..
“ท่านประธานมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ..”รปภ ที่อยู่หน้าป้อมรีบวิ่งมาทันที่ เมื่อเห็นรถของนายใหญ่จอดอยู่..พร้อมกับเห็นหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม..เพราะถูกรถของท่านประธานเกือบเชี่ยวเอา...
“ไม่มีอะไรหรอก คุณกลับไปทำหน้าที่ของคุณเถอะ แค่นี่ผมจัดการได้...”อนิรุทสบอกเสียงเรียบ..พร้อมกับอุ้มสาวน้อยไปที่รถตัวเองทันที...พร้อมกับมองอย่างหญิงสาวเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ว่าเขาไม่ได้ตาฝาดไปเอง ..
“ฮึ..ฮึ.สุดท้ายก็เจอกันจนได้นะ..แม่นางฟ้าจำแลง..”ชายหนุ่มบอกกับร่างที่หลับไหล..ก่อนจะยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเคลื่อนรถสปอร์ตคันหรูออกจากบริษัทที่ตนยังไม่ได้ยางกรายเข้าไปข้างในด้วยซ้ำ..ก่อนจะกดโทรหาเลขาสาวเพื่อบอกเลื่อนการประชุมออกไป เพราะเค้ามีภารกิจที่สำคัญต้องทำมากกว่านั้น...
“คุณนิด วันนี้ผมไม่เข้านะ..บอกเรื่องประชุมให้ผมด้วยแค่นะนะผมขับรถอยู่.ง”บอกพร้อมกับวางสายทันทีไม่รอให้เลขาสาวได้ถามอะไรทั้งสิ้น..
“อะไรนะคะท่าน..ท่าน..ท่านค่ะ.เดี๋ยวค่ะท่าน...” นิตยาร้องเรียก แต่ชายหนุ่มไม่สนใจที่จะฟัง ทำให้เลขาสาวถึงกับถอนใจกับความเอาแต่ใจของเจ้านาย พร้อมกับบ่นกับตัวเอง
“สุดท้ายก็ให้เราเคลียร์ให้ตลอด..แล้วผู้ถือหุ้นจะว่าไงบ้างนี่..บอกกลับไปกลับมา..” บ่นพร้อมกับโทรเลื่อนประชุมกับผู้ถือหุ้นทีละคนทีละคน...ส่วนตัวต้นเรื่องตอนนี้ไปนั่งเฝ้าสาวน้อยที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว....
...............................................................................................
ความคิดเห็น