ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหยื่อรักกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #1 : พายุที่ว่าร้ายยังไม่เท่าใจคน

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 56


    “ยัยแก้วมายืนฝันหวานอะไรตรงนี้ยะ....เพื่อน ๆ เราสนุกกันอยู่ข้างในนะ”เสียงแหลม ๆ ของ กรรณิการ์ สุขสวัสดิ์  ดังขึ้นด้านหลังทำให้คนที่มัวคิดอะไรเพลิน ๆ ต้องสะดุ้งอย่างตกใจ พร้อมกับหันไปมองหน้าเพื่อนสาวอย่าง เคืองๆ ที่บังอาจมาทำลายบรรยากาศอันแสนสงบของเธอ...

    “แก้วก็มายืนหาความสงบน่ะสิ..ข้างในน่ะหนวกหูจะตาย  เสียงอะไรก็ไม่รู้ดังไปหมดเลย  นี่แก้วไม่น่าหลวมตัวมาด้วยเลย”  เสียงกังวานใสบอกอย่างเซ็ง ๆ

    “แหม.แม่แก่จ๊ะ เรามาฉลองความสำเร็จของเรานะ ก็ต้องต็มที่หน่อยสิ  จะให้เรามานั่งสมาธิเหรอไงจ๊ะ  จะได้มานั่งเงียบ ๆ น่ะ ...พูดออกมาได้ว่าเสียงดัง”กรรณิการ์รีบสวนกลับ เมื่อแม่แก่ประจำกลุ่มบ่น

    “จ้า แก้วไม่เถียงหรอก ...แค่ไม่ชินกับเสียงดัง ๆ อย่างนี้มากกว่า  ..แก้วกลัวหูหนวกน่ะ เลยออกมาหาความสงบด้านนอกนี่แหละ...แล้วคุณเพื่อนสุดสวยมาตามเรามีอะไรจ๊ะ..หรือว่าเลิกกันแล้ว..ดีเลยเราจะได้กลับไปนอน..”

    “ใครบอกล่ะจ๊ะ..แม่แก่ว่าคืนนี้เราจะนอน  เราจะฉลองกันทั้งคืนตั้งหาก..แล้วพรุ่งนี้ค่อยแยกย้ายกลับบ้าน  ไปใช้ชีวิตที่เหลือตามยถากรรมของใครของมันต่างหาก...แล้วที่ออกมาตามน่ะ กรรณเห็นแก้วหายออกมานานแล้ว กลัวตกน้ำตกท่าไปน่ะสิ...”กรรณิการบอกเพื่อนอย่างอารมณ์ดี..

    “จ้า..ไม่ต้องห่วงหรอกน่า  เราว่ายน้ำเป็น  ส่วนเรือก็ลำแค่นี้เอง..กรรณเข้าไปสนุกกับเพื่อน ๆ เถอะ..เดี๋ยวเราตามเข้าไป  ..เราว่าจะอยู่ซะแปลบนึง..นี่ก็เหมือนฝนจะตกด้วยสิ”แก้วกันหาว่าพร้อมกับเงยหน้ามอท้องฟ้าที่ตอนแรกนั้นดาวเต็มฟ้าไปหมด  แต่ตอนนี้กับมีแต่ก้อนเมฆสีดำทมิฬ จับกลุ่มก้อนใหญ่ที่พร้อมจะโปรยปรายเป็นฝนได้ทุกเมื่อ..

    “จริงนะ..รีบตามเข้ามาล่ะ..อย่าให้เพื่อนที่แสนสวยคนนี้ ต้องออกมาตามอีกรอบล่ะ”บอกพร้อมกับเดิบกลับเข้าไปข้างใน

    แก้วกันหามองเพื่อนสาวที่เดินกลับเข้าไปสนุกกับเพื่อน ๆ พร้อมกับส่ายหัวกับความหลงตัวเองของเพื่อนสาวคนนี้จริง ๆ คิดแล้งก็ใจหายเหมือนกัน ..วันก่อนยังเป็นนักศึกษา เที่ยวเล่นสนุกเฮฮาอยู่เลย..แต่พอพ้นวันนี้ไปแล้ว พวกเธอต้องจริงจังกับชีวิตเพิ่มขึ้นแล้วสิ  เธอตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่ยอมมาฉลองเรียนจบกับ เพื่อน ๆ  เพราะว่าตอนไปคงไม่มีโอกาสได้มาอย่างนี้แล้วล่ะ  เพราะต่อไปคงต้องทำงานอย่างจริงจังและเวลาคงไม่ตรงกันนักหรอก...ขณะที่แก้วกันหาคิดอยู่นั้น  เรือก็เกิดโคลง ลมกรรโชกแรง  แถมคลื่นในทะเลสูงมากกว่าปรกติ

    “ว้าย..ย..นี่มันเกิดอะไรขึ้นนี้...อย่าบอกนะว่าพายุเข้าน่ะ...”แก้วกันหาคิดอย่างตกใจ..กลัวจนหน้าซีดขาว เหมือนไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยบนใบหน้า  ...เราจะทำยังไงดีนี่ ยัยแก้ว..คิดสิ..คิด  สติจงมา..อยู่กับตัวด้วยเทอด..ใช่แล้ว เราต้อรีบเข้าไปในเรือ.งไปร่วมกับเพื่อน ๆ

    “ว้าย...เรือโคลงอีกแล้ว..ให้เวลาเราเดินเข้าไปข้างในหน่อยไม่ได้เหรอไง..แก้วกันหาคิดอย่างหัวเสีย..พร้อมกับเสียหลักล้มลงกับพื้น..จนต้องหาหลักจับไว้ให้แน่นแล้วลุกขึ้นตั้งหลัก...ตั้งสติไว่ยัยแก้วอย่าตกใจ..อย่าตกใจเราต้องไม่เป็นอะไร..สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ เดินช้า ๆ ...แก้วกันหาพึมพำ บอกกับตนเอง พร้อมกับค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างช้า ๆ ..แต่เหตุการณ์กับไม่เป็นไปอย่างที่ หญิงสาวคิด เมื่อคลื่นลูกยักษ์ แล้วลมพายุก็พัดเข้ามาอีกรอบ จนทำให้แก้วกันหาเสียหลักพร้อมกับหงายหลังร่วงลงไปสู่ใต้ท้องทะเล จนเธอต้องรีบตะเกียตะกายขึ้นมาสู่พื้นผิวน้ำ  พร้อมกลับส่งเสียงตะโกนเรียกเพื่อน ๆ ของเธอที่อยู่บนเรือ

    “ช่วย...ด้วย  ช่วยแก้วด้วย..ใครก็ได้....มีใครได้ยินเสียแก้วไหม... “

    “...ฮือ ๆ ...แก้วอยู่ในน้ำ...ช่วยแก้วด้วย..”หญิงสาวยังคงเปร่งเสียงร้องเรียกคนช่วย แม้ว่าคือจะซัดร่างของเธอลอยจากเรือของเธอมาตั้งใจแล้วก็ตาม....ฮือ ๆ ทำไมไม่มีไครได้ยินเสียงของเราเลย  นี่เราต้องตายอยู่ที่ท้องทะเลนี่เหรอ  ฮือ ๆ  ฉันก็ชอบทะเลหรอกนะ..แต่ฉักยังไม่อยากตายนี่  ฉันยังไม่ได้ทำอะไรอีกต้างหลายอย่าง  เรียนก็เพิ่งจบ  งานก็ยังไม่ได้ทำเลย  บุญคุณของพ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้ทดแทนเลย  ทะเลจ๋า อย่าเพิ่งให้แก้วไปอยู่เป็นเพื่อนเลยนะ   หญิงสาวคิดอย่างท้อแท้ สิ้นหวัง   คลืนทะเลยังคงพัดพาร่างของเธอห่างออกไปจากเรือของเธอทุกที...ทุกที..จนหญิงสาวมองไม่เห็นเรือของเธอ  พร้อมกับร่างของเธอก็ค่อย ๆหมดแรงที่จะพยุงตังเอง....ฉับพลันนั้นก็มีขอนไม้ลอยมาชนร่างของเธอ ....หญิงสาวรีบเกาะกับขอนไม้ท่อนนั้นไว้อย่างแน่นเพื่อช่วยพยังร่างที่กำลังจะหมดแรงไม่ให้จมสู่ใต้ท้องทะเล ...พร้มกับภาวนาให้ใครสักคนมาช่วยชีวิตของเธอที่...ขอร้องล่ะใครก็ได้โปรดช่วยฉันที.......

    “เวร...เวรแล้วไหมล่ะ...ไอ้เดช...ทำไมนังสีดามันทำอย่างนี้กับข้าว่ะ....”เสียงหงุดหงิดกระโชกตะโกนด่าออกไปอย่างหัวเสีย...เมื่อทุกอย่างที่คิดไว้ไม่เป็นไปตามแผน...เมื่อลูกน้องมารายงานว่าผู้หญิงที่นัดไว้มามาตามนัด....

    “แล้วเราจะทำอย่างไงดีครับนาย...เราจะหาผู้หญิงที่ไหนมาให้แขกของเราประมูลล่ะครับ...นี่ก็ใกล้เวลาแล้วด้วย”เดชถามเจ้านายเสียงอ่อย  เมือเห็นผู้เป็นนายหัวเสียงอย่างหนัก.. เมื่อคิดว่าคืนน้คงชวดเงินค่าประมูลหญิงสาวอย่างแน่นอน

    “จะทำอย่างไรน่ะเหรอ...ก็ออกไปบอกไอ้พวกแขกน่าโง่พวกนั้นสิว่ะ..ว่าการประมูลคืนนี้งด..เพราะสาวสวยในคืนนี้ติดงานกระทันหัน...ไอ้โง่แค่นี้ก็คิดไม่ได้..โว้ย..คิดแล้วก็เซ็งโว้ย..”เสียงนายบ่นอย่างหัวเสีย

    “นายจะให้ผมเอาเรือเร็วออกไหมครับ..ผมไปหาผู้หญิงบนเกาะแถวนี้ให้ก็ได้นะครับนาย...”นายเดชบอกอย่างเอาใจ

    “แกอยากออกไปตายเหรอไง...ไม่เห็นเหรอว่าพายุมันแรงขานดไหน...”

    “จริงด้วยครับนาย..”เดชบอกเสียงอ่อย เมื่อความคิดที่เสนอไปโดนตีกลับ  แถมตัวเองก็เกือบออกไปตายอีกต่างหาก  พร้อมกลับมองแกไปที่หน้าต่าง  แล้วก็เห็นน้ำทะเลสีดำ  ที่มีสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างหนัก  แต่สำหรับพวกเค้าแล้วนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดามาก  เพราะตลอกชีวิตของพวกเขาแล้วนั้นต้องให้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในท้องทะเล  แล้วการเจอพายุหนักอย่างนี้นั้นเป็นเรื่องธรรมดามาก..ยิ่งกว่านี้ก็เจอมาแล้ว  เดชคิดพลางเอาหน้าแนบกับหน้าต่าง  สายฟ้าแลบออกมาจนเป็นแสงสว่างทำให้ท้องทะเลนั้นสว่างขึ้นมาทันใด  จนมองเห็นสิ่งของที่ลอยมากับท้องทะเล...

    “นาย..นายครับ  มาดูนี่สิครับนาย..ผมว่า...ผมเห็น...”เสียงเดชังขึ้นอย่างตืนเต้น

    “อะไรว่ะ...ไอ้เดช..คนจะนอนโว้ย...”นายตอบกับอย่างหัวเสียแต่ก็ยอมเดินมาดูที่หน้าต่าง

    “ผู้หญิงครับนาย...”เดชบอกอย่างตืนเต้นไม่หาย

    “ไหนว่ะ...ข้ายังไม่เห็นมีอะไรเลย..”นายนบอกพร้อมกับจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง

    “มี..จริง ๆ ..นะครับนาย...ผมว่าเราลงไปช่วยเธอกันเถอะครับนาย..นะครับ”เดชว่าพร้มอกับเดินออกไปข้งนอก   แล้วตรงไปที่ท้ายเรือ

    “ผู้หญิงจริง ๆ ...ด้วยว่ะเดช..”นายเชิดชัยพูดอีกครั้ง  เพื่อย้ำความแน่ใจให้กลับตัวเอง..เขารู้ตั้งแต่แรกลงไปช่วยแล้วว่าเป็นผู้หญิง....นายเชิดชัยค่อย.    วางร่างของหญิงสาวลงบน พื้นที่ห้องนายเดช  เขาไม่กล้วนำหญิงสาวไปไว้ที่ห้องของตน...  เพราะเขาไม่อยากให้นายประมูลของเขาอารมณ์เสียได้..นายเชิดชัยเริ่มคิดแผนการที่จะให้หญิงสาวที่เค้าได้ช่วยไว้ยอมขึ้นเวทีเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง...ตั้งแต่ที่เค้าลงไปช่วยหญืงสาวแล้ว

    เชิดชัยปัดผมที่ปิดหน้าปิดตาของหญิงสาวออกให้พ้นทางเพื่อที่เค้าจะได้เห็นหน้าของหญิงสาวชัด ๆ  ...เพราะแม้ว่าผิวของหญิงสาวจะค่อนข้างซีด  เพราะคงแช่น้ำมานาน...แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความงดงามน้อยลงไปแม้แต่น้อย...

    “เดช...แกว่าผู้หญิงคนนี้สวยไหมว่ะ..”

    เดชมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์

    “ก็...ก็สวยนะครับนาย..แต่ไม่รู้ว่าเธอจะตายหรือเปล่า”

    “มาตายหรอกน่า...แค่สลบไปเท่านั้น..”เชิดชัยพูดก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่ไม่ไกลจางเตียงเล็ก ๆ ของนายเดชมาเช็ดผม

    “แกทำยังไงก็ได้..ให้ผู้หญิงคนนี้ฟื้นขึ้นมาภายในสิบนาที..เข้าใจไหม..”

    “ทำไมล่ะครับนาย...”นายเดชถามอย่างไม่เข้าใจ

    “เดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์น่ะสิไอ้โง่...กว่าข้าจะเจรจาให้เธอยอมอีก..เร็วเข้าล่ะ..”นายเชิดชัยว่าก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง

    “ฤกษ์อะไรเค้าว่ะ..แล้วยังเรื่องเจรจาอีก”นายเดชพึมพำอย่างมึนงง...แต่ไม่กล้วถาม เพราะวันนี้เค้าโดนด่าวาโง่หลายครั้งแล้ว

    ....................................................................................

    ท่ามกลางหมอกควันที่มืดมัว...สิ่งที่แก้วกันหารู้สึกในตอนนี้คือความเจ็บ   เธอรู้สึกเจ็บคอ...เจ็บหัว...เจ็บไหล่...นอกจากความเจ็บแล้วเธอยังรู้สึกหนาวด้วย...ทำไมมันหนาวอย่างนี้นะ...

    “ฟื้นแล้ว”...เดชพึมพำอย่างดีใจ...เมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มขยับตัว

    “หนาว...หนาวจัง”...แก้วกันหาพึมพำอย่างแผ่วเบา

    “หนาวเหรอครับ”..นายเดชรับรู้คำพูดที่ออกมาจากปากที่ขมุบขมิบของหญิงสาว...ก่อนจะเดินไปลากผ้าห่มบนเตียงเพียงมาห่มให้หญิงสาวที่นอนครางอยู่บนพื้น...กระไออุ่นจากผ้าห่ม  ทำให้หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองอย่าง งง ๆ

    ใบหน้าดำ ๆ ที่ชะโงกอยู่เหนือร่างของเธอ  ทำให้แก้วกันหาเบิกตาอย่างตกใจ...เดชเองก็ตกใจเช่นกัน....เขาจึงค่อย ๆ ถอยห่าง...ขณะที่หญิงสาวกระถดตัวหนีพร้อมกับกอดผ้าห่มแน่น...

    “ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก  ผมเป็นคนช่วยคุณขึ้นมาจากน้ำไงครับ..คุณพอจะจำได้ไหม....”เดชรีบบอกออกมา..

    แก้วกันหามองหน้าเดช..ก่อนจะค่อย ๆ นึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเอง..ว่าเธอตกลงมาจากเรือสำราญที่เธอมาเที่ยวกับเพื่อน ๆ ..เธอพยายามร้องเรียกให้คนช่วย แต่ไม่มีใครได้ยิน  เพราะทุกคนอยู่กันข้างในหมด.....

    “ค..คุณเป็นคนช่วยฉันไว้เหรอค่ะ...”แก้วกันหาออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา..ท่าทางเขาดูน่ากล้ว  ด้วยรูปร่างผอมดำ..แถมใบหน้ายังเต็มไปด้วยหนวดเคราที่รกรุงรัง..แต่สายตาที่มองมายังเธอนั้นมีประกายตาที่เห็นใจเธอนั้นมันทำให้เธอใจชื้นขึ้นมา...

    “ครับ...ผมกับไต๋กง..เป็นคนช่วยชีวิตคุณไว้...”เดชบอก...

    เขาพูดถึงไต๋กง  แสดงว่าเรือลำนี้คงเป็นเรือหาปลา  แต่ทำไม..หญิงสาวมองไปรอบ ๆ ห้องด้วยความข้องใจ..ว่าทำไมมันไม่เหมือนเรือหาปลาเลย...

    “นี่เป็นเรือหาปลาหรือค่ะ...”หญิงสาวถามออกไป

    “ไม่ใช่หรอกครับ...”นายเดชบอกพร้อมกับส่ายหน้า...เขาบอกได้แค่นี้..เขาไม่อยากอธิบายอะไร..รอให้นายของเขามาอธิบายกับหญิงสาวเองดีกว่า...สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือให้หญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เร็วที่สุด...แก้วกันหามองเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มยื่นมาให้อย่างหวาดระแวง....ก็เสื้อผ้าอะไรทำไมมันสีสันแสบตาเหลือเกิน...

    “เสื้อผ้าเมียผมเองครับ...คุณรีบไปเปลี่ยนเถะครับ...ประเดี๋ยวไต๋กงก็คงจะเข้ามาคุยกับคุณด้วย...”ผมออกไปรอข้างนอกนะครับ...เดชรู้ว่าหญิงสาวคงไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าเขาแน่  เพราะเธอไม่ใช่สีดา..และเค้าไม่รู้ว่าเธอจะยอมเป็นสีดาสองไหม..ตอนนี้เค้าเริ่มรู้แล้วว่านายเค้าหมายถึงอะไรและทำไมให้เขารีบทำให้หญิงสาวฟื้นขึ้นมา...เขาชักอยากรู้แล้วสิว่านายเขาจะทำอย่างไรให้เธอยอมเป็นสีดาสอง...

    แก้วกันหาสะดุ้งสุดตัว..เมื่อเธอได้ยินเสียงเคาะประตู..เธอรีบหันไปมองที่ประตูทันได้เห็นบานประตูเปิดออก...สิ่งที่แก้วกันหาเห็นตรงหน้าคือผู้ชายที่มีหนวดเคราเต็มหน้าเหมือนนายเดชแต่ผู้ชายตรงหน้ารูปร่างใหญ่กว่าหนากว่า..และสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็คือดวงตา..เดชนั้นมีแววตาที่ค่อนข้างเห็นใจเธอ..แต่ชายตรงหน้านั้นมีสายตาที่เจ้าเลห์และสายตาเขายังกวาดมองไปทั้วร่างกายเธอ..อย่างพออกพอใจ

    “คุณคงเป็นไต๋กง” แก้วกันหาเอ่ยปากถาม

    เชิดชัยยิ้มกว้าง...มองหญิงสาวอย่างชอบใจ...

    “มันเป็นอดีตแล้วครับ...ตอนนี้ผมหันมาจับธุรกิจเรือสำราญแทนครับ” บอกพร้อมกับคิดว่า  เห็นเธอจะจะตาอย่างนี้แล้วสวยกว่าตอนที่เธอสลบอย่างที่เขาคิดไม่ถึงที่เดียว...สงสัยคืนนี้เขาคงได้เงินประมูลมากโขที่เดียว....

    ส่วนทางด้านแก้วกันหานั้น..เธอค่อนข้างใจชื้นกับท่าทางสุภาพของชายตรงหน้า..จึงยิ้มให้กับเชิดชัย...เพราะเป็นเรือสำราญนี่เองทำให้มีเสื้อเอวลอยและนุ่งผ้าผูกเอวแบบนี้นี่เอง

    “คุณใส่ชุดนี้ได้เหมาะมาก..”เชิดชัยบอกอยากชื่นชม

    แก้วกันหายิ้มอย่างเก้อกระดาก  มันเป็นครั้งแรกที่เธอได้ใส่เสื้อผ้าอย่างนื้  เพราะเอไม่ชอบใส่เสื้อผ้าประเภทที่เปิดทั้งหน้าท้องและตนขา  แถมสีสันยังแสบตาอีก....

    “คือ..ฉันต้องขอบคุณ...คุณมากนะค่ะ..ที่ได้ลงไปช่วยฉํนที่ทะเลน่ะค่ะ...”

    เชิดชัยยิ้มดวงตาเป็นประกายอย่างพึงพอใจ

    “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณผู้หญิง..”บอกพร้อมกับโบกไม้โบกมือ  แล้วเดินไปรอบตัวของหญิงสาว...

    “เราเห็นคนลำบากเราก็ต้องช่วยกับ...ผมช่วยคุณ...คุณช่วยผม...เราก็ต่างหายกัน..ดีไหมครับ”

    “หมายความว่าอย่างไรคะ”แก้วกันหาเริ่มมองนายเชิดชัยอย่างไม่ไว้ใจ

    “ก็หมายความว่าผมช่าวชีวิตคุณ..คุณก็ควรตอบแทนผมใช่ไหมครับ”

    “ตอบแทนอย่างไรค่ะ..”

    “ง่ายนิดเดียวครับ..ผมอยากให้คุณแสดงละครให้ผมนิดหน่อยน่ะครับ..”

    “เล่นละครหรือค่ะ”หญิงสาวเอ่ยถามอย่างมึนงง

    “ครับเล่นละคร  ชั่วไม่ถึงสิบนาที  ถือว่าตอบแทนที่ผมช่วยชีวิตคุณก็แล้วกัน”

    “แล้วละครที่คุณว่าเป็นอย่างไรครับ” หญิงสวถามถึงรายละเอียด

    นายเดชซึ่งได้รับคำสั่งให้รออยู่หน้าห้องคอยเอียงหูฟังคำอธิบายของนายเชิดชัยอย่างตั้งใจ  เชิดชัยใช้กลยุทธ์ทุกอย่างเพื่อหลอกล่อให้หญิงสาวหลงเชื่ออย่างเต็มที่..ส่วนด้านแก้วกันหาเมื่อเธอได้ฟังเหตุการณ์ที่นายเชิดชัยสมมติขึ้นมาก็หน้าซีดแทบไม่มีสีเลือด..

    "พอการประมูลสิ้นสุดลงเราได้ผู้ชนะ...คุณก็ได้เป็นอิสระ...ไม่อยากเลยใช่ไหมครับ...”

    แก้วกันหาพูดไม่ออก...เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องตกเป็นเชลยของใคร..หรือให้ใครมาประมูลเธอ...มันช่างเป็นการแสดงที่ดูถูกเพศแม่อย่างที่สุด....

    “เอ้อ...ดิฉันเห็นว่า..”แก้วกันหาอึกอัก

    เชิดชัยรีบโบกมือก่อนที่หญิงสาวพูดจบ

    “อย่าบอกนะครับว่าคุณจะปฎิเสธ”

    “ถูกแล้วค่ะ..ฉันว่าคุณไปหาผู้หญิงอื่นเถอะค่ะ..ฉันคงทำตามที่คุณขอร้องไม่ได้หรอกค่ะ”

    นายเชิดชัยรีบหันหลังให้หญิงสาว..ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ...แต่เขาจะไม่แสดงอาการให้หญิงสาวรู้เด็ดขาด...เพราะเขารู้ว่าหญิงสาวที่เขาได้ช่วยชีวิตไว้นั้นพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ...และเขาได้ไปโปรโมทเอาไว้มาก..เพราะฉะนั้นคืนนี้ยังไงเขาต้องทำให้หญิงสาวขึ้นเวทีประมูลให้ได้...ไม่ได้ด้วยเลห์ก็ต้องเอาด้วยกล

    “ถ้าคืนนี้ฝนไม่ตก...ผมคงให้นายเดชเอาเรือเร็วมารับผู้หญิงที่รับแสดงเอาไว้แล้วล่ะครับ...แต่นี่ฝนเกิดตกอย่างหนัก  คลืนลมก็สูง..ผมเลยไม่กล้าให้เดชออกไปเสี่ยงอันตรายหรอกครับ...”เชิดชัวว่าพร้อมกับหันไปเรียกนายเดชที่ยืนรออยู่หน้าห้องเข้ามาเพื่อยืนยันกลับสิ่งที่ตนพูด..

    “จริงไหมเดช”  เชิดชัยถามย้ำเพื่อให้เดชยืนยัย...นายเดชมองหน้าของหญิงสาว พร้อมกับเอ่ย เบา ๆ กับหญิงสาวว่า

    “จริงครับ...ไต๋กงเป็นห่วงผม..กล้วว่าผมจะได้รับอันตรายน่ะครับ”....แก้วกันหามองหาเดชก็รู้ว่าเดชไม่ได้โกหก....

    “เห็นไหมครับว่าผมเป็นห่วงลูกน้องขนาดไหน..แล้วคุณจะไม่ช่วยผู้จริงหรือครับ..น้ำเสียงของนายเชิดชัยเปลื่ยนเป็นวิงวอนเพื่อให้หญิงสาวเห็นใจ..

    “ถ้าคุณไม่ช่วยผมในคืนนี้..ธุรกิจของผมคงจะเสียหายหมดแน่นอนเลยครับ..กรุณาเถอะนะครับคุณผู้หญิง...”เชิดชัยเอ่ยย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นหญิงสางเริ่มใจอ่อน...แล้วในที่สุดเขาก็เป็นผู้ชนะ..เชิดชัยอยากจะหัวเราะออกม่ดัง ๆ เมื่อได้ยินเสียงที่เบาแสนเบาออกมาจากปากของหญิงสาว....

    “ก็ได้ค่ะ..”

    ...........................................................................................

      

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×