ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหยื่อรักกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 เราต้องหนี...................................

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 56


    ไอร้อนจ่างร่างน้อยในอ้อมแขนส่งผลให้คนที่นอนหลับด้วยความอ่อนเพลียสะดุ้งตื่น  ชายหนุ่มรีบก้าวลงจากเตียง  สภาพยับเยินของสาวน้อยที่ถูกพรากความสาวก็ปรากฎ  ทำให้อนิรุทตกใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน..มือหนาเก็บเสื้อผ้าที่กองเรี่ยราดตามพื้นขึ้นมาสวม..ตาคมชำเลื่องมองเลือดที่แห้งกรังเป็นทางยาวบริเวณขาอ่อนของหญืงสาวที่ยังหลับอยู่บนเตียง..มองเลยไปอีกนิดก็เจอรอยด่างดวงสีเข้ม..เล็กบ้างใหญ่บ้างกระจัดกระจายเต็มผ้าปูที่นอน..ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่เคยร่วมรักกับสาวพรหมจรรย์มาก่อน  แต่ชายหนุ่มก็ตระหนักถึงบ้างอย่างที่ผิดปรกติ  มันไม่ใช่แค่เลือดพรหมจารี แต่หมายถึงอะไรบ้างอย่างที่ถูกรุกรานอย่างรุนแรงบจนฉีกขาด..ชายหนุ่มค่อย ๆ เอื้อมมือไปแตะที่ขาหญิงสาว  ท่อนแขนเรียวราวกับแกะสลักนั้นร้อนจี๋  หัวใจดวงใหญ่ใจหาบวาบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...ก่อนที่จะรีบเข้าไปในห้องน้ำเพื่อรองน้ำก่อนจะค้าหาผ้าขนหนูเพื่อมาเช็ดตัวทำความสะอาดให้หญิงสาวและเพื่อเป็นการลดไข้ให้เธอไปในตัว..พร้อมกับนำผ้าห่มมาห่มให้สาวน้อย   เมื่อเห็นว่าหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เมื่อน้อยพยายามไขว่คว้าหาผ้ามาห่มทั้งที่เธอนั้นยังไม่ได้สติ  ชายหนุ่มก้มลงเก็บเสื้อผ้าของหญิงสาวมาใส่ตระกร้าทิ้ง  เพราะมันไม่สามารถใช้การได้แล้ว  เนื่องจากความใจร้อนของเขาเอง..จากนั้นอนิรุมก็รีบออกจากห้องไปตามพนักงานประจำเรือเพื่อตามมามารักษาหญิงสาว..แต่ตลอดทางเขาไม่เห็นสิ่งมีชีวิตสักคน  ผู้คนหายไปไหนกันหมดนี่..อนิรุทคิดอย่างหงุดหงิด  เมื่อสิ่งที่เขาต้องการนั้นไม่มีอยู่ตรงนี้เลย..ขณะนี้ท้องฟ้าเริ่มสว่างพระอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นมาจากริมน้ำแล้ว  ..ชายหนุ่มเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงท้ายเรือ..ทำให้เขาเจอกับเจ้าของเรือพอดี..ชายเจ้าเล่ห์กำลังคุยอะไรกับลูกน้องของเขาก็ไม่รู้...

    “ผมต้องการหมอ..”อนิรุทบอกเสียงเรียบ...

    “หมอเหรอครับ..”เชิดชัยเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง..เพราะที่เรือของเขานั้นไม่เคยมีหมอ. ก็ใครจะไปจ้างล่ะว่ะ แพงจะตาย

    “ใช่..ผู้หญิงคนเมื่อคืน..เธอไม่ค่อยสบายน่ะ..”อนิรุทบอก

    “อ้าวเธอเป็นอะไรเหรอครับ..”นายเดชถามขึ้นบ้างอย่างนึกเป็นห่วงและรู้สึกผิดในใจ...

    “ก็เป็นไข้..ตัวร้อนน่ะ..”อนิรุทอธิบายอย่างสั้นที่สุด..เขาไม่ต้องการให้ใครรู้รายละเอียดไปมากกว่านี้..ไม่ใช่ว่าเขาจะอับอายกับสิ่งที่ตนทำลงไป  แต่ชายหนุ่มไม่อยากให้หญิงสาวอับอายไปด้วย..นี่ก็อีกปกติเขาไม่เคยห่วงความรู้สึกของผู้หญิงคนไหน..แต่กับเธอสาวน้อยที่ได้ร่วมเตียงกันแค่คืดเดียวแม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชื่ออะไร..แต่ทำไมเขาต้องแคร์ความรุ้สึกเธอด้วยก็ไม่รู้...

    “บนเรือไม่มีหมอหรอกครับ..”เชิดชัยบอกอย่างม่ใส่ใจ..พร้อมกับคิดว่า  แค่เป็นไข้หวัดทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้..กินยาพาราแค่สองเม็ดเดี๋ยวก็หาย..

    “ว่าไงนะ..ไม่มีหมองั้นเหรอ..”อนิรุทเอออกมาอย่างเสียงดัง...

    “ครับ..เดี๋ยวผมให้นายเดชเอายาแก้ไข้ไปให้แล้วกัน..เชิดชัยบอกอย่างตัดความลำราญพร้อมกับเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจ..ใครจะเป็นจะตายอย่างไรทำไมเขาต้องใส่ใจด้วย  ไม่ใช่ญาติเขาซะหน่อย...ทิ้งให้อนิรุทยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน...

    “เออ..คุณผู้หญิงเธอเป็นมากไหมครับ...”นายเดชถมอาการอย่างเป็นห่วง..

    “ก็เอาการอยู่...”อนิรุทตอบ 

    “งั้นเดี๋ยวผมเอาเรือเร็วไปส่งให้ที่ฝั่งก็ได้นะครับ..เพราะว่ากว่าเรือจะเข้าฝั่งก็ตอนบ่าย ๆ นั่นแหละครับ..”นายเดชอาสาอย่างแข็งขัน  ถือเป็นการไถ่โทษที่ตนมีส่วนทำให้หญิงสาวเป็นอย่างนี้..

    “เอางั้นก็ได้..นายช่วยไปเอาของใช้ของเธอให้ฉันหน่อยได้ไหม..ฉันจะไปรอที่ห้องนะ..”อนิรุทบอกก่อนจะเดินจากไป..พร้อมกับคิดว่า  ถึงแม้เรือลำนี้จะห่วยแตก  แต่อย่างน้อยก็ยังมีคนมีน้ำใจอย่างลูกน้องนายเชิดชัยอยู่...

    เมื่อมาถึงที่ห้องพัก..ชายหนุ่มจัดการหากระดาษเขียนข้อความส่งให้เพื่อนรักว่าตนต้องขึ้นฝั่งก่อนเพราะมีธุรด้วย..สักพักชายหนุ่มได้ยินเสียงเคาะประตู..คงเป็นลูกน้องนายเชิดชัย..ชายหนุ่มคิดก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องให้..

    “นี่ครับ..เสื้อผ้าของเธอ..ผมเอามาให้แล้ว..เดี๋ยวผมจะรออยู่ที่หน้าประตูนะครับ..ถ้าเรียบร้อยแล้วเรียกผมได้เลยนะครับ.”

    “อืม..ขอบใจนายมากนะ..”อนิรุทบอกก่อนที่จะรับของจากมือนายเดชเพื่อจักการแต่งตัวให้หญิงสาว..

    อนิรุทรีบจัดการสวมเสื้อผ้าให้หญิงสาวอย่างรวดเร็ว..รอยช้ำตามเนื้อตัวของหญิงสาวที่ยังนอนไม่ได้สตินั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกข่มในคอขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  ผิวบอบบางของหญิงสาวนั้นมีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด..

    “ฉันเรียบร้อยแล้ว..นายเปิดประตูได้เลย..”อนิรุทเปร่งเสียงบอกคนที่รออยู่หน้าประตู เมื่ออุ้มหญิงสาวร่างบางขึ้นมาแนบที่อกอย่างแผ่วเบา..นายเดชเดินนำหน้าร่างสูงใหญ่ไปที่ท้ายเรือ  เพื่อลงเรือเร็วพาทั้งสองกลับเข้าฝั่ง...ตลอดการเดินทางนายเดชค่อยลอบมองปฏิกิริยาที่ชายหนุ่มปฎิบัติต่อหญิงสาวนั้นท่าทางที่กอดหญิงสาวเอาไว้แนบอก เพื่อให้ความอบอุ่นกับหญิงสาวเหมือนกลัวว่าหญิงสาวจะหนาว  ท่าทางถนุถนอมนั้นอีกบ่งบอกว่าหญิงสาวมีความสำคัญมากแค่ไหน..

    “ขอบใจนายมากนะ..นายเป็นคนที่มีน้ำใจมาก..”อนิรุทบอกเมื่อส่งหญิงสาวเข้าห้องฉุกเฉินเรียบร้อยแล้ว...

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ..ที่จริงผมอยากทำอะไรเป็นการไถ่โทษกับคุณผู้หญิงบ้างล่ะครับ..”นายเดชบอกออกไป..

    “ไถ่โทษหรือ..เรื่องอะไร..”อนิรุทบอกอย่างสงสัย...มองมายังนายเดชอย่างคาดคั้น..

    “เออ..ไม่มีอะไรหรอกครับ..ผมไปก่อนนะครับ...ต้องรีบกลับไปที่เรืออีก...”นายเดชรีบขอตัว  ก่อนที่เขาจะหลุดปากบอกอะไรชายหนุ่มไปมากกว่านี้...

    “อืม..ชั้นฝากจดหมายนี่ให้เพื่อนฉันด้วยนะ..นายรู้ใช่ไหม..ว่าเพื่อนฉันเป็นใคร..”อนิรุทบอก  เมื่อเห็นว่านายเดชไม่บอกอะไรไปมากกว่านี้...

    “ได้ครับ...ผมจะส่งให้ถึงมือเลยครับ...”นายเดชบอก  เพราะแขกทั้งเรือของนายเขานั้น..ก็มีแค่คุณผู้ชายตรงหน้ากับเพื่อนเขาท่านนั้นแหละที่ดูโดดเด่นที่สุด..เขายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลักษณะท่างทางอย่างชายหนุ่มทั้งสองคนจะมาเทียวเรือของเจ้านายเขาได้..เดชคิดขณะเดินจากมา  ทิ้งให้ชายหนุ่มอยู่เฝ้าหญิงสาวแค่คนเดียว...

     

    “ชิต..นายเก็บของให้ฉันด้วยนะ..ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด..นายเอาของไปไว้ที่โรงแรมของฉันก็ได้..ฉันคงไปพักที่นั่น..ถ้านายจะกลับเลย”

    อนิรุท

    ภูชิตอ่านข้อความในจดหมาย ก่อนจะมองหน้าคนที่ส่งจดหมายของเพื่อน  ก่อนจะถามเหตุผลที่เพื่อนของเขาไปที่โรงพยาบาล  นี่เพื่อนเขาเป็นอะไรทำไมต้องไปที่โรงพยาบาลด้วย..

    “นายรู้ไหมว่าเพื่อนฉันเป็นอะไรทำไมต้องไปโรงพยาบาลด้วย..”

    “คือ..คุณผู้หญิที่คุณผู้ชายที่ประมูลได้เมื่อคืนนี้.เธอเกิดไม่สบายหนักนะครับ..คุณผู้ชายเลยพาไปโรงพยาบาลน่ะครับ”นายเดชตอบคำถามที่ชายหนุ่มข้องใจ..

    “งั้นเหรอ..แล้วเรือจะถึงฝั่นตอนกี่โมงนี่..”

    “ประมาณบ่ายโมงน่ะครับ..”

    “ขอบใจมาก..นายจะทำอะไรก็ไปเถอะ..”ภูชิตบอกก่อนจะเดินกลับเข้าห้องพัก  เพื่อเก็บของตนและของเพื่อน...พร้อมกลับคิดว่า..สงสัยเพื่อนรักของเขาคงจะหลงเสน่ห์แม่สาวน้อยคนเมื่อคืนซะแล้ว..ไม่งั้นคงไม่ตามไปเฝ้าที่โรงพยาบาลหรอก..หวังว่าเพื่อนเขาคงไม่คิดที่จะเลี้ยงแบบจริง ๆ จัง ๆหรอกนะ..เพราะทุกที่เพื่อนเขาไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเกิยสองครั้งเลย..ภูชิตคิดขณะเก็บกระเป๋าไปด้วย...

    ...................................................................................................

    “หมอครับ..คนไข้เป็นยังไงบ้างครับ..”อนิรุท รีบรุกจากเก้าอี้ที่นั่งรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินทันที เมื่อเห็นหมอที่เข้าไปตรวจหญิงสาวออกมาจากห้องฉุกเฉิน...

    “คุรคงเป็นสามีของคนไข้..”คุณหมอถาม  ก่อนจะมองหน้าชายหนุ่มด้วยสาตาพินิจพิเคราะห์...หน้าตาท่าทางดีขนาดนี้  ไม่น่าเลย...คุณหมอคิดในใจ..

    “คือเราคงต้องให้คนไข้นอนพักที่โรงพยาบาลสักคืนนะครับ...เพราะร่างกายเธอได้รับความบอบช้ำมา..จนทำให้คนไข้อ่อนแอ..จนไม่สบายมากอย่างนี้..หมออย่างให้คุณถนุถนอมเธอให้มากกว่านี้หน่อยนะครับ..ถึงคุณจะเป็นสามีของเธอก็ตาม..แต่ผู้หญิงย่อมต้องบอบบางว่าผู้ชายอยู่แล้วนะครับ...ผมรบกวนคุณไปติดต่อเรื่องห้องพักให้คนไข้ด้วยนะครับ..หมอจะให้พยาบาลนำคนไข้ไปไว้ที่ห้อง...”คุณหมออธิบาย พร้อมกับมองมาที่ชายหนุ่มอย่างตำหนิ ส่ายหน้าก่อนจะเดินจากไป..ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนอึ้งเมื่อโดนตำหนิตรง ๆ อย่างนี้..เพราะที่ผ่านมาเขายังไม่เคยโดนใครตำหนิมาก่อนเลย..เมื่อได้สติชายหนุ่มก็เดินไปจัดการเรื่องห้องพักให้หญิงสาว   แล้วรอหญิงสาวที่ในห้องพักเลย..สักครู่บุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงคนไข้เข้ามาในห้อง..บนเตียงนั้นชายหนุ่มเห็นร่างบอบที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ ใบหน้าซีดเซียวเหมือนไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง..

    “อีกนานไหมครับกว่าเธอจะฟื้น..”อนิรุทถามกับพยาบาลสาวที่คุมเตียงคนไข้มา..

    “คงอีกหลายชั่วโมงน่ะค่ะ..”พยาบาลสาวบอกพร้อมกับมองชายหนุ่มอย่างเสียดาย  เฮ้อ ทำไมคนหล่อ ๆ ไม่หลุดมาหาเราบ้างนะ..คิดก่อนจะเดินออกจากห้องเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่สนใจที่จะถามอะไรอีก  มองแต่คนป่วยทื่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง....

    “งั้น..ฉันกลับโรงแรมไปอาบน้ำก่อนนะ..สาวน้อย..หวังว่ากลับมาเธอคงจะตื่นได้แล้วนะ..อย่าเอาแต่นอนขี้เซาล่ะ..”ชายหนุ่มบอกกลับร่างที่นอนหลับอยู่ราวกับว่าเธอจะได้ยิน..ก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อกับไปอาบน้ำที่โรงแรม...

    ร่างสูงใหญ่เดินเข้าโรงแรมหรูด้วยท่วงท่าสง่างาม  ทีใคร ๆ เห็นต่างก็มองด้วยความสนใจและชื่นชม  ด้วยทั้งหน้าตาที่หล่อเหลา ดวงตาคมกริบที่กวาดมองไปรอบ ๆ โรงแรมอย่างพินิจพิจารณา...เหมือนจะมองหาความบกพร่อง...พนักงานต้อนรับ  เมื่อเห็นนายใหญ่ผู้เป็นเจ้าของปรากฎตัวขึ้นทั้งที่ไม่มีแพลนที่จะเข้ามาตรวจโรงแรมในวันนี้ ก็ตกใจจนต้องรีบโทรไปตามผู้จัดการโรงแรมมาต้อนรับโดยด่วน...

    “สวัสดีครับ..ท่านประธาน..”คุณเมธีที่ลงมาจากห้องด้วยความเร็วสูงเมื่อพนักงานข้างล่างโทรไปบอกว่านายใหญ่เข้า...

    “สวัสดีครับคุณเมธี...ให้ใครไปเปิดห้องพักให้ผมด้วย  คืนนี้ผมจะนอนที่นี่...”อนิรุทบอกเสียงเรียบสายตายังคงมองความเรียบร้อยของโรงแรมด้วยสายตาที่เหมือนจะสแกนสิ่งบกพร่องที่เกิดขึ้น...

    “เออได้ครับ.ว่าแต่ท่านจะพักกี่คืนครับ..ผมจะได้จัดตารางการตรวจงานที่โรงแรมให้ท่านน่ะครับ..เออ..คือห้องของท่านตอนนี้คุณชิตรออยู่ที่ห้องแล้วครับ.”นายเมธีกล่าวอย่างนอบน้อม

    “ผมไม้ได้มาตรวจโรงแรมหรอก..พอดีมีธุระนิดหน่อยน่ะ.นายชิตรออยู่แล้วใช่ไหม..งั้นผมขึ้นไปเองได้คุณไม่ต้องไปส่งหรอก..แต่ช่วยให้ใครจัดอาหารไปส่งให้ด้วยนะ..และผมขออาหารสำหรับผู้ป่วยกับผลไม้สักชุดแพ็คใส่กล่องให้ด้วย..”บอกเสร็จชายหนุ่มก็เดินจากไปทันที โดยไม่สนใวจสายตาของผู้จัดการโรงแรมที่มองอย่างสนใจ...

    “ว่าไงนายชิต.ฉันนึกว่านายจะกลับเลยซะอีก...”อนิรุททักทายเพื่อนที่อายน้ำตอนที่เขามาถึงห้องพัก  แล้วได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำจึงรู้ว่าเพื่อนอยู่ในนั้น..

    “นายจะให้ฉันกลับไปได้อย่างไรล่ะ..ในเมื่อนางส่งจดหมายมาว่าอยู่ที่โรงพยาบาล  เก็บของกลับให้ด้วย...”ถ้าฉันไม่ถามคนที่ส่งจดหมายมาให้นะว่าทำไมนายไปโรงพยาบาล..ฉันคงนึกว่านายป่วยซะแล้ว..”ภูชิตตอบคำถามของเพื่อนพลางเช็ดผมที่เพิ่งสระใหม่  ๆ...

    “นายเข้ามาได้ยังไง..ไม่มีมารยาทเลยนะ..เพื่อน ..”ภูชิตเอ่ยอย่างยอกล้อเพื่อนที่นั่งหน้านิ่งอยู่ที่โฟฟาข้างเตียงนอน..

    “ห้องของฉันจะเข้าเมื่อไหร่ก็ได้..ว่าแต่ทำไมนายยังไม่กลับบ้านไปอีกล่ะ..ไม่ต้องทำมาเป็นห่วงฉันหรอก..นายรู้อยู่แล้วนี่ว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร..บอกมาซะดี ๆ ...”

    “แหม..นายรู้ทันฉันตลอดเลย..ฉันก็แค่จะไปดูหน้าสาวน้อยคนนั้นซะหน่อยว่ามีดีอะไรนะ..ถึงทำให้ผู้ชายอย่างอนิรุท  รัตนโยธินไปนั่งเฝ้าได้เป็นวัน..ง”ภูชิตยอมบอกความจริงกับเพื่อนในที่สุด  ก็อย่างนี้แหละพวกเขาสนิทกันจนรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว..

    “หึ..ว่าแล้วเชียว..เรื่องสอดรู้เรื่องคนอื่น  ต้องยกให้นายคนเดียว..ดีนะที่ไอ้หมอไม่มาด้วยอีกคน...”อนิรุทว่าเพื่อนอย่างไม่จริงจัง  ก่อนจะเดินไปอาบน้ำบ้าง..

    “อะไรว่ะ..ด่าเสร็จก็เดินหนีเลยนะ  ไอ้รุท  ข้าไม่ได้เป็นพวกสอดรู้นะโว้ย..”ภูชิตตะโกนออกไป  ก่ออนจะเดินไปดูที่โต๊ะอาหารเห็นของกินวางไว้เต็มโต๊ะอย่างน่ากินเชียว..

    “แหม..ไอ้เพื่อนอยากนี่รู้ใจกันจริง ๆ ว่าเพื่อนคนนี้กำลังหิวอยู่พอดีเลย..”พูดเสร็จก็ลงมารับประทานอย่างหิวโหย..ไม่สนใจจะรอเพื่อนรักที่กำลังอาบน้ำอยู่อย่างสบายใจ....

    ..........................................................................

    “อ..ย่า..อย่ามายุ่งกับฉันนะ..”แก้วกันหาร้องออกมาก่อนจะสะดุ้งตื่น  สายตามองไปรอบ ๆ อย่างมึนงง

    “ นี่ เราอยู่ที่ไหนนี่ ” พร้อมกับก้มลงมองเสื้อผ้าที่สวมใส่..

    “ชุดคนไข้..”เสียงหวานแหบน้อย ๆ พูดกับตัวเอง..งั้นเราก็ต้องอยู่ที่โรงพยาบาล  ใครเป็นคนพาเรามานะ..หญิงสาวคิดก่อนลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอ  ก่อนที่เธอจะสลบ  พร้อมกับน้ำใส ๆ ก็ค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่หวานอย่างกับหยาดน้ำฝนที่ตกลงมา..เสียงสะอื้นดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่เธอต้องเอาผ้าห่มปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไป..”ฮือ..ฮือ.ง” เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอต้องสูญเสียไปอย่างไม่มีวันได้กลับคืน..เธอไม่เหลืออะไรแล้ว...หญิงสาวคิดอย่างอดสูใจ..น้ำตายังคงไหลไม่หยุดและคิดว่าคนใจร้ายพวกนั้นคงพาเธอมาส่งที่โรงพยาบาล....จากนั้นก็คิดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมานอนที่โรงพยาบาล  อย่างนึกละอายกับสิ่งที่เธอได้ทำลงไปเพราะฤทธิ์ยา  ใบหน้าของใครคนนึงปรากฎขึ้นมาในความคิด ดวงตาคมกริบที่มองมายังเธออย่างเร่าร้อน..เธอคงไม่มีทางไปแจ้งความกับตำรวจหรอก  เธออายเกินกว่าที่จะไปให้ปากคำกับตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น..มันคงไม่ดีแน่ ๆ ถ้าเกิดเป็นข่าวหน้าหนึ่งขึ้นมา  พ่อแม่ของเธอจะเอาหน้าไปไว้ไหน..หัวใจของท่านทั้งสองคงแตกสลายอย่างแน่นอน...ที่ลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านนั้นถูกล่อลวงจนถึงขั้นเสียตัวให้กับใครก็ไม่รู้......พร้อมกับคิดว่า  พวกนั้นคิดจะทำอะไรกับเธออีกหรือเปล่านะ...หญิงสาวคืดอย่างหวาดหวั่นในจิตใจ..ตอนนี้เธอเหมือนกับหวาดระแวงไปหมด..เธอจะต้องหนีก่อนที่พวกนั้นจะกลับมา..แก้วกันหาคิด  ก่อนจะค่อย ๆ ลงมาจากเตียง..หญิงสาวร้องครางออกมา อย่างณู้สึกเจ็บ  ระบบไปทั้งตัว..หญิงสาวค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างช้า ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บป่วย..น้ำตายังคงไหลรินเหมือนกลับว่ามันไม่มีวันหยุด..แก้วกันหาเดินไปหยุดที่หน้าประตูตู้เสื้อผ้าของผู้ป่วย..โชคดีที่เสื้อผ้าของเธออยู่ในนั้น..หญิงสาวรีบเดินเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ..ก่อนที่พวกนั้นจะกลับมา...จากนั้นหญิงสาวรีบเดินออกจากห้อง..โชคดีที่ตลอดทางนั้นไม่มีหมอหรือพยาบาลสักคน..ทำให้เธอไม่ต้องค่อยหลบใคร..เมื่อ..ออกมาจากโรงพยาบาลหญิงสาวก็ต้องมายืนเคว้งคว้างเพราะเธอไม่รู้จะไปทางไหนดี..และเธอไม่มีเงินสักบาท..ทำไมเธอต้องโชคร้ายอย่างนั้นด้วยนะ...หญิงสาวคิดอย่างท้อแท้ใจ..เธอเดินไปนั่งเก้าอี้ที่หน้าโรงพยาบาล..สักพักเธอก็เริ่มยิ้มออกเมื่อยกมือขึ้นมาลูบสร้อยคอที่เธอใส่อยู่..จริงสินะ..เรายังมีไอ้นี่อยู่..อย่างน้อยในความโชคร้ายเธอก็ยังไม่ร้ายมากนัก..แก้วกันหาคิดก่อนจะลุกขึ้นออกเดินไปเรื่อย ๆ ในแหล่งชุมชน  ดีนะตอนนี้ยังไม่เย็นมากนัก..และโรงพยาบาลก็อยู่ในเมืองด้วย..แต่ละย่างก้าวของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่มันตอกย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอนั้นเป็นเรื่องจริง..เธอไม่ได้ฝันไป...ยังไงเธอก็ต้องไปจากที่นี่ให้ได้..และเธอจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย..แก้วกันหาตั้งปณิธานกับตัวเอง  และกัดฟันเดินต่อไปเรื่อย ๆ .....

    อนิรุทเดินทางมาโรงพยาบาลพร้อมกับภูชิตที่รบเร้าขอตามมาด้วย....ป่านนี้เธอจะฟื้นหรือยังนะ..ชายหนุ่มคิดในใจ  ตอนนี้ใจของเขาแล่นไปถึงที่ห้องของหญิงสาวแล้ว..ถ้าเธอฟื้นแล้วสิ่งแรกที่เขาต้องทำคือขอโทษเธอก่อนเลยที่ทำให้เธอต้องมานอนที่โรงพยาบาลแห่งนี้....แหมก็ใครจะอดใจไหวในเมื่อเธอน่ารักออกอย่างนี้...ชายหนุ่มคิดอย่างครึ้มใจ..แต่เมื่อชายหนุ่มมาถึงห้องกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด..เมื่อห้องที่คิดว่าสาวน้อยจะนอนอยู่บนเตียงกลับว่าเปล่า..ไม่มีสิ่งมีชีวิตสิ่งใดอยู่ในห้องนี้เลย....หรือเธอจะอยู่มนห้องน้ำ..ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลองไปเคาะประตูห้องน้ำ...

    “สาวน้อยคุณอยู่ในนี้หรือเปล่า” เงียบไม่มีเสียงตอบรับ..ตอนนี้หน้าชายหนุ่มการที่เรียบเฉยก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเครียดขรึม

    “เธอไม่อยู่ในห้องหรือ..”ภูชิตเอ่ยถามหลังจากที่ช่วยชายหนุ่มสำรวจห้อง...อนิรุทไม่ตอบแต่เดิไปกดกริ่งที่อยู่บนหัวเตียงผู้ป่วยเพื่อเรียกพยาบาลเข้ามาสอบถาม...

    “คนไข้ห้องนี้ไปไหน..”อนิรุทเค้นเสียงถามออกมาทันที่ที่พยาบาลเดินเข้ามาข้างใน..

    “เออ..เออ..เธอไม่อยู่ในห้องหรือค่ะ...”พยาบาลถามอย่างสงสัย  แต่ไม่ยอมสบตาชายหนุ่มที่มองมาด้วยสายตาดุดัน..

    “ถามโง่ ๆ ..ถ้าอยู่ผมจะเรียกคุณมาถามทำไม..”อนิรุทตะคอกกลับอย่างหัวเสียงเมื่อเห็นว่าพยาบาลตอบไม่ตรงคำถาม..

    “เฮ้ย..รุทใจเย็น ๆ ก่อนเพื่อน...”ภูชิตรีบเข้ามาห้ามเพื่อน..เมื่อเห็นว่าเพื่อนเขาเหมื่อนจะเข้าไปบีบคอพยาบาลผู้โชคร้ายนางนี้..

    “นายจะเห็นฉันใจเย็นได้ไงว่ะ..ก็เห็นอยู่ว่าพยาบาลที่นี่สับเพร่าแค่ไหน..คนไข้หายไปยังไม่รู้เรื่องเลย...”บอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด...

    “พวกคุณทำงานกันได้สัพเพร่ามาก..แค่ดูแลคนไข้ยังทำไม่ได้..อย่างนี้ผมว่าน่าจะพิจารณาว่า สมควรเป็นพยาบาลอยู่หรือเปล่า...”ว่าเสร็จ..อนิรุทก็รีบเดินออกจากห้องเพื่อตาหาหญิงสาวที่หายไป โดยไม่สนใจเพื่อนที่มัวแต่ขอโทษพยาบาลที่ชายหนุ่มต่อว่าอย่างไม่ไว้หน้า...ส่วนพยาบาลสาวนั้น หน้าเหลือไม่ถึงสองนิ้ว..น้ำตาเหมือนจะร่วงออกมาให้ได้..เมื่อสายตาเหมือนใบมีดชองเจ้าของคนไข้มองมายังเธอ  ราวกับเธอนั้นไม่มีค่าพอที่จะทำงานนี้อีกต่อไป....

    อนิรุทเอินตามหาหญิงสาวจนทั่วโรงพยาบาลทั้งในและบริเวณใกล้เคียงชายหนุ่มก็คว้าน้ำเหลว  ไม่พบกับสิ่งที่ต้องการ  “เธอไปอยู่ที่ไหนของเธอนะ..ยังไม่หายป่วยดีเลย..”อนิรุทพึมพำอย่างเป็นห่วงสาวน้อยยิ่งนัก...ดวงใจที่เคยแข็งแกร่งเหมือนกับหลุดหายไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  เมื่อคิดว่าตนจะไม่เจอกับหญิงสาวอีกแล้ว..โดยที่ไม่รู้เลยว่าสาวน้อยที่ตนตามหาอยู่นั้นตอนนี้ได้นั่งร้องไห้ อยู่บนรถทัวร์ที่พาตนนั้นหอพักของตัวเอง

    ........................................................................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×