ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Original Online

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2 ขาเทียม(สุดอเนกประสงค์?)

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 57


    ปี พ.ศ. 2700 โลกได้เข้าถึงยุดของพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานต่างๆแบบเต็มรูปแบบยกเลิกการใช้น้ำมันและแก๊สธรรมชาติ  

    ธรรมชาติที่เสื่อมโทรม ได้มีการปลูกป่าทนแทนรวมถึงการทำวิจัยต่างๆเพื่อฟื้นฝูธรรมชาติที่เสียไปด้วย

    เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นแบบก้าวกระโดด การพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษย์ด้วยการสร้างเครื่องออนไลน์เสมือนจริงไนฝัน โดยใช้เน็ตเวิร์คแบบพิเศษที่ทำให้คนสามารถคุยกันได้แบบตัวต่อตัวถึงแม้จะอยู่คนละโลกก็ตาม

    ถึงแม้เทคโนโลยีการทันสมัยขึ้นการแพทย์เจริญก้าวหน้าขึ้น คนๆหนึ่งอาจมีอายุยืนยาวได้ถึง120ปีหรือมากว่านั้น

    แต่การรักษาในปัจจุบันก็ใช่ว่าจะรักษาได้ทั้งหมดเสมอไป เช่นการสร้างอวัยวะเทียมเป็นต้น

     

     

     ประเทศไทย โรงพยาบาลรัฐแห่งในเขต ปริมณฑล

    มีหมออายุราวๆสามสิบปีคนหนึ่งเดินเข้าในห้อง302เพื่อเข้ามาปลุกเด็กหนุ่มที่พึ่งพาตัดเสร็จ

    “เฮ้ยไอ้หนูตื่นได้แล้ว”  เสียงของหมอดังพร้อมเขย่าตัวเพื่อปลุกเด็กหนุ่มที่ชุดผ่าตัดนอนอยู่บนเตียง

    “ขอนอนต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอ”  เด็กหนุ่มละเมอขึ้นมาซึ่งแน่นอนว่าคุณหมอก็ตบกระโหลกไปเด็กหนุ่มไปทีนึง

    “ไอ้เด็กบ้า ตื่นได้แล้วหรือว่าจะนอนเป็นศพในลุงผ่าพิสูจน์หรือไง”

    “ครับๆ ตื่นก็ตื่น” เด็กหนุ่มลุกขึ้นมาจากเตียงพร้อมทั้งบิดขี้เกียจ

    “แล้วขาเทียมใหม่เป็นไงบ้างล่ะ? เห็นว่าใช้เทคโนโลยีแบบใหม่”   คุณหมอกล่าวขึ้นมาหลังจากเห็นเด็กหนุ่มบิดขี้เกียจ 

    สภาพของเด็กหนุ่มคนนั้น มีอายุราวๆสิบแปดปี มีผมสั้นสีดำ แต่ที่ขาขวาของเด็กคนนั้นกลับเป็นขาเทียมที่เป็นจักรกลแทน(นึกถึง Fullmetal Alchemist )

    “ก็โอเคดีหมอกิต” คงเป็นเพราะเป็นหมอประจำตัวของเด็กหนุ่มมั้ง?เลยเรียกกันแบบสนิทสนม

    หมอกิต เป็นผอ.ประจำโรงพยาบาลรัฐแห่งนี้ โรงพยาบาลแห่งแห่งนี้เป็นสถานที่ทดลองอวัยวะเทียมแห่งใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างแขนขาเทียม(จักรกล) ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีโครงการสร้างแขนขาเทียม(จริงๆ)แทนเพราะด้วยปัจจัยภายนอกมากมายไม่ว่าอากาศ อุณหภูมิละอองฝุ่น หรือเชื้อโรคต่างๆในอากาศ แล้วจะสร้างแขนขาเทียมในหลอดทดลองไม่ได้รึไงหรือเอาแขนขาของผู้บริจาคอวัยวะไปใส่แทน เคยมีคนคิดแล้ว ผลมันออกมาไม่ค่อยดีเท่าไรแค่แขนที่เอาไปต่อเน่าเท่านั้นเอง ซึ่งตอนนี้อยู่แค่ช่วงในการทำวิจัยซึ่งแน่นอนว่าอีกนานแสนนาน

     

    “แล้วเทคโนโลยีแบบใหม่นี่มันมีอะไรเพิ่มมากกว่าเดิมล่ะ”  เด็กหนุ่มลองขยับขาเทียมอันใหม่ลองเดินหรอลองกระโดดดูแล้วซึ่งมันก็เดิมของรุ่นทดลองก่อนหน้านี้แทบทุกอย่าง

    “ก็ มันมีแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่ใช้กับขาเทียมใช้ได้นานขึ้นเกือบเท่าตัว และยังฟังค์ชั่นเสริมด้วย”

    “มีฟังค์ชั่นเสริม?” เด็กหนุ่มถามแบบงง เพราะตัวเค้าเป็นหนึ่งในผู้(หนู)ทดลอง พวกอวัยวะเทียมหลายๆรุ่น(ที่เป็นขาเทียมอ่ะนะ)

    “ใช่ แล้วล่ะ เป็นฟังค์ชั่นเสริมสุดยอดมากๆ” หมอกิตพูดแบบภูมิใจ “รุ่นนี้หมอเองก็มีส่วนออกแบบด้วย”

    “แล้วมันมีอะไรบ้างล่ะ” เด็กหนุ่มถามกลับ เค้าสังเกตที่ขาเทียบของเค้าสังเกตเห็นที่ช่องอะไรเล็กๆเหมือนทีเสียบUSBหวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่เค้าคิดนะ

    หมอกิตก็หยิบสมุดจดเล่มเล็กๆในเสื้อกาว์นขึ้นมาอ่านแล้ว

    “อย่างแรกเลย  ที่บอกไปแล้วขาเทียมรุ่นนี้สามารถชาร์จพลังงานเองได้ ซึ่งรุ่นก่อนต้องต่อสายชาร์จ ซึ่งขอไม่ถึงว่ามันทำงานอย่างไรนะ”

    เด็กหนุ่มคิด มันก็ไม่เลวสักเท่าไร เพราะปกติขาเทียมพวกนี้จะต้องชาร์จไฟ ซึ่งเค้าปกติเด็กหนุ่มจะชาร์จไฟตอนเค้านั่งเล่นคอมอยู่แล้วซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาเท่าไร “แล้วมีอะไรเพิ่มมาอีกล่ะครับ?

    “อย่างที่สองก็ เธอเห็นช่องที่คล้ายUSBรึเปล่า หมอกิตถามเด็กหนุ่มกลับไป  เด็กหนุ่มพยักหน้าเป็นการตอบรับ
                “ไอ้ช่องนั้นน่ะ เอามินิ
    USB
    นั้นเสียบกับมือถือเป็นที่ชาร์จสำรองได้ คล้ายๆpower bankไม่ต้องห่วงหรอกนะมันมีแบตเตอรี่แยกจากแบตเตอรี่หลักแล้วก็ไม่ใช่แบตสำรองด้วย”

    “...........ใส่ที่ชาร์จสำรองไว้ในขาเทียม”  เด็กหนุ่มกุมขมับ คิดได้ไง

    “อย่างที่สามเห็นช่องใกล้USBไหมล่ะ มันสามารถแกะออกมาแล้วใส่ซิมโทรศัพท์ได้ แต่ต้องใช้หูฟังบลูทูธ ใช้ได้แต่โทรเข้าโทรออกอย่างเดียวนะ”

    “.............” ขาเทียมบ้านพ่_งใส่ ซิมมือถือได้  “หมดแล้วใช่มั้ยหมอกิต” เด็กหนุ่มถามคำถามซึ่งแน่นอนว่าไม่

    “ยัง อีกสองอย่าง อย่างที่สี่สามารถปล่อยสัญญาณไวไฟได้”

    “...........”  เด็กหนุ่มคนนั้นเริ่มปลงแล้วว่าเค้าต้องเกิดหมอคนนี้ไปอีกนานถึงจะอยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้วก็ตามยังทำใจให้ชินไม่ได้ชักที

    “แล้วอย่างสุดท้ายล่ะหมอ”  หวังว่าอันสุดท้ายคงจะออกมาดีนะ

    “เคยดูการ์ตูนเก่าอย่างโคนั* ไหมล่ะ 

    “หมายความว่าไงครับ?” แค่เคยผ่านตาอ่ะนะ

    “แล้วว่าเคยสินะ” เด็กหนุ่มพยักหน้า

    “ขาเทียมใส่มีโหมดเพิ่มแรงเตะ คล้ายรองเท้าของเจ้าเด็กนรกนั้นแหละ แต่โหดกว่าเยอะ”  หมอจิต พูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจแบบสุดๆ

    “...............” ใบ้แดก อืมคิดผิดแฮะที่มาเปลี่ยนขาเทียมวันนี้

    “แล้วมันใช้ยังไงครับ” เด็กหนุ่มถามหมอกิต

    “แค่กดปุ่มตรงหัวเข่าแล้วเตะได้เลย กดหนึ่งครั้งใช้ได้หนึ่งครั้ง จะลองใช้เลยรึไง?”  หมอกิตถามกลับ หลังจากเห็นเด็กหนุ่มกดปุ่มที่หัวเข่าทันที

    “ครับ”  หลังจากเด็กหนุ่มพูดเสร็จ ก็แกว่งขาไปเตะที่หน้าห้องของหมอกิตแบบไม่ลังเล

    โครม!!!!!!!!  ตัวหมอกิตกระเด็นทะลุประตูออกไปนอนห้อง301ไปติดผนังหน้าห้อง แน่นอนว่าทีเดียวสลบคาที่(ไม่ตายก็บุญแล้ว)

    “โทษที หมอกิตพอดีมันหมดความอดทนแล้วครับ” เด็กหนุ่มกล่าวแล้วไปตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งเด็กหนุ่มใส่เสื้อเซิ้ตสีขาวธรรมดาแต่ใส่กางเกงขายาว(ก็ไม่อยากให้ใครเห็นขาตัวเองเดี๋ยวเป็นจุดเด่นซะเปล่าๆ)

     

     

    แล้วเดินลงไปที่ชั้นล่างแล้วตรงไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลทันที

    “คุณพยาบาลครับว่างป่ะเปล่าครับ” เด็กหนุ่มถามพยาบาลที่เคาน์เตอร์

    “ว่างค่ะ มาเรื่องเดิมหรอค่ะ?” พยาบาลถามเรื่องเดิมนี่คืออัดผอ.ของโรงพยาบาล ซึ่งมันเกิดแทบทุกครั้งที่เด็กหนุ่มมาเปลี่ยนขาเทียม เพราะผอ.คนนี้ชอบใส่อะไรแปลกๆลงไปในขาเทียมหรือทดลองอะไรแปลก ซึ่งเมื่อก่อนเคยใส่สปริงลงในขาเทียมของเด็กหนุ่มด้วยซ้ำ

    “ครับ ช่วยเก็บกวาดด้วยนะครับ ขอโทษด้วยนะครับ พอดีมันทนไม่ไหวจริงๆครับ” ผอ.คนนี้ก็แปลกๆ เพราะหลังจากเปลี่ยนขาเทียมทีไรเค้ามักใช้กับ(เจ้า)หมอกิตเป็นคนแรกซึ่งแน่นอนว่าทำเพื่อระบายล้วนๆ

    “ค่ะ เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ค่ะ ว่าเธอนี่ก็แปลกเนอะยอมเป็นของเล่นให้ผอ.”  พยาบาลตอบกลับไปแล้วหยิบโทรศัพท์ข้างแล้วกดเบอร์โทรหาเจ้าหน้าที่มาเก็บ(ศพ)หมอกิต

    “ก็ขาเทียมมันฟรี(ปัจจุบันแขนขาเทียมมีราคาสูงมาก)นี่ครับ ผมก็ทนๆเอาครับยอมเป็นหนูทดลอง แล้วอีกอย่างอยู่กับหมอกิต คนนี้ก็ดูหนุกดีถึงจะเพี้ยนๆไปนิด”  เด็กหนุ่มตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม แล้วกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินออกจากโรงพยาบาลไป

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×