คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : [Fic] [SiHan] Love at the Chinese Restaurant Part 4 [END]
Title: Love at the Chinese Restaurant
Author: imazawa
Pairing: Siwon/Hangeng, Feat. Vanness/Ken
Rate: PG-13
Part 4 [END]
เสี้ยวเทียนมองเพื่อนที่เดินกลับเข้ามาในห้องครัวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยอย่างเห็นอกเห็นใจ เขาเฝ้าสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดผ่านทางกระจกบานเล็กของห้องครัว
ถึงแม้เขาจะค่อนข้างมั่นใจว่าลูกค้าหนุ่มหน้าหล่อต้องรู้สึกอะไรกับเพื่อนของเขาบ้าง แต่เมื่อได้เห็นภาพชายหนุ่มกับหญิงสาวอีกคน มันก็ทำให้เขาคิดว่าตัวเองอาจจะดูผิดไป
ร่างอวบของชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งเดินเข้าไปประคองเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง
“เกิง...” เสี้ยวเทียนอยากปลอบใจอีกฝ่ายเหลือเกิน แต่ก็ไมรู้ว่าจะหาคำพูดที่เหมาะสมได้อย่างไร
ฮันคยองพยายามฝืนยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าเป็นเชิงบอกให้เพื่อนอย่าคิดมาก
“ฉันเผื่อใจเอาไว้แล้วล่ะเสี้ยวเทียน คนที่สมบูรณ์แบบอย่างคุณซีวอนมีแฟนแล้วมันก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ถ้าไม่มีสิแปลก”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ฉันไม่อยากเชื่อเลยจริงๆว่าจะดูผิดไปขนาดนั้น ฉันคิดว่าเขา...” เสี้ยวเทียนพูดพึมพำคล้ายจะบ่นกับตัวเองมากกว่า แต่ฮันคยองก็ยังได้ยินทุกคำอย่างชัดเจน
“ช่างมันเถอะ” ร่างบางตัดบทก่อนที่เสี้ยวเทียนจะพูดจบประโยคเพราะรู้ว่าสิ่งที่จะได้ยินต่อไปอาจทำให้เขาสะเทือนใจไปมากกว่าเดิม
เขาเดินตรงไปยังซึ้งนิ่งหมั่นโถวก่อนที่จะหันกลับมาหาเพื่อนอีกครั้ง
“หมั่นโถวพวกนี้น่ะฉันขอเอาไปให้เขาได้มั้ย?” ฮันคยองถามเสียงแผ่ว เมื่อเห็นว่าเสี้ยวเทียนพยักหน้ารับแล้วเขาจึงค่อยๆคีบ
หมั่นโถวรูปหัวใจสีชมพูใส่จานอย่างระมัดระวัง
“ให้ฉันเอาออกไปให้มั้ย?” ชายหนุ่มผมยาวถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากไปอวยพรเขาด้วยตัวเองน่ะ” ร่างบางยิ้มแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่ก่อนจะเดินออกไปจากห้องครัวอีกครั้งด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อเจ้าของร้านหน้าสวยวางจานหมั่นโถวซึ่งมีรูปร่างและสีสันแปลกตาลงบนโต๊ะ ลูกค้าหนุ่มหน้าหล่อก็เงยหน้าขึ้นมองเขา
ด้วยความสงสัย
“โปรโมชั่นพิเศษในวันวาเลนไทน์ครับ” ฮันคยองพูดโดยที่ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายถาม
“ผมขอให้พวกคุณรักกันมากๆตลอดไปนะครับ สุขสันต์วันวาเลนไทน์”
ลูกค้าทั้งสองคนสบตากันด้วยท่าทางงงๆอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพากันระเบิดหัวเราะออกมา เจ้าองร้านหน้าสวยมองการกระทำนั้น
อย่างไม่เข้าใจ
“ฮ่าๆๆ พวกเราคงรับคำอวยพรของคุณไม่ได้หรอกครับ เราไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย” ซีวอนพูดกลั้วหัวเราะ ส่วนคนฟังนั้น
เบิกตากว้างราวกับไม่อยากจะเชื่อ
“เอ๋? แต่ว่าพวกคุณ...”
“ยุนอาเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเองครับ พวกเราสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เธอรู้ว่าผมมาทานอาหารที่นี่ก็เลยแวะมาเอาของฝาก
จากญี่ปุ่นน่ะ” ซีวอนอธิบายแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นอาการของชายหนุ่มชาวจีนเมื่อสักครู่นี้ ถึงแม้ว่าร่างบางจะพยายามฝืนยิ้ม
แต่ซีวอนก็ยังดูออกว่าอีกฝ่ายรู้สึกเสียใจที่เห็นเขาอยู่กับยุนอา
ฮันคยองถึงกับทำหน้าไม่ถูกเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกประหลาดใจและในขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจมากทีเดียว
“ได้ของฝากแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะพี่ซีวอน แล้วเจอกันค่ะ” หญิงสาวร่างโปร่งบางพูดก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะ เธอไม่ลืมที่จะ
หันมาส่งยิ้มพร้อมกับก้มศีรษะให้ฮันคยองด้วย
ชายหนุ่มหน้าสวยโค้งตอบอีกฝ่ายก่อนที่จะหันกลับมามองลูกค้าหนุ่มหลังจากหญิงสาวเดินออกไปจากร้านแล้ว
“ตอนนี้ยุนอาก็กลับไปแล้ว ฮันคยองจะรังเกียจมั้ยครับถ้าผมขอให้คุณมาทานอาหารร่วมกับผม?” ซีวอนถามด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้อง
“เอ่อ...มันจะดีเหรอครับ?” ร่างบางทำท่าลังเล
“ดีสิครับ อาหารตั้งมากมายขนาดนี้ผมทานคนเดียวไม่หมดแน่ โดยเฉพาะหมั่นโถวพวกนี้น่ะ” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่พูดพร้อมกับ
ส่งสายตาล้อเลียนไปให้เจ้าของร้านที่ยังยืนอยู่
ฮันคยองหน้าแดงวาบด้วยความเขินที่ตัวเองเข้าใจผิดและคิดเป็นตุเป็นตะไปคนเดียว ร่างบางนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับซีวอน
ทั้งคู่เงียบกันไปสักพักก่อนที่ฮันคยองจะเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน
“ตอนแรกผมคิดว่าคุณกับคุณยุนอาเป็นคนรักกันซะอีก” เสียงหวานพูดอ้อมแอ้ม ดวงตากลมโตจ้องจานใส่หมั่นโถวสีชมพูเพราะ
ไม่กล้าสบตาคมของคนที่นั่งตรงข้ามกัน
ซีวอนหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“คุณไม่ใช่คนแรกหรอกครับที่เข้าใจผิด คนส่วนใหญ่ที่เห็นเราสองคนอยู่ด้วยกันครั้งแรกก็คิดแบบคุณกันทั้งนั้น เราสนิทกันมาก
จนเหมือนกับพี่น้องที่คลานตามกันมาเลยล่ะ เวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นเราก็มักจะลืมว่าอาจจะถูกเข้าใจผิดได้ แต่ต่อไปนี้ผมจะระวังตัว
ให้มากขึ้นแล้วครับ ไม่อยากให้คุณคิดมากอีก” เมื่อซีวอนพูดจบฮันคยองก็เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความสงสัย
“เอ๋? คุณ...หมายความว่ายังไงครับ?”
ซีวอนส่งยิ้มอบอุ่นให้อีกฝ่ายก่อนจะคว้ามือบางเข้ามากุมไว้
“ผมรักคุณ ฮันคยอง” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจังอย่างที่ฮันคยองไม่เคยเห็นมาก่อน
ร่างบางใจเต้นรัว ระบบประมวลผลในสมองดูจะรวนไปหมด
“......”
“......”
“......”
“หา?”
ซีวอนแทบหัวทิ่มกับปฏิกิริยาตอบรับของอีกฝาย เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างขำๆ
“คุณตั้งใจจะแกล้งผมหรือเปล่าครับ? นิ่งไปตั้งนานแล้วพูดแค่ ‘หา?’ เนี่ยนะ?”
ฮันคยองปั้นหน้าไม่ถูก เขารู้สึกดีใจจนเหมือนจะลอยได้ แต่ในขณะเดียวกันก็สับสน เขาไม่รู้จริงๆว่าควรจะพูดอะไรออกไปดีจึงจะเหมาะสม
“คือผม...ไม่เข้าใจ คุณรักผมจริงเหรอครับ?” ร่างบางถามซื่อๆ
ซีวอนยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยความเอ็นดูพร้อมกับบีบมือบางแน่นขึ้น
“ผมรักคุณครับฮันคยอง ผมถูกใจคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว ตอนแรกก็แค่ชอบเพราะหน้าตาคุณน่ารักดี พอได้ใกล้ชิดคุณมากขึ้น
ได้ศึกษารายละเอียดของคุณมากขึ้น รู้ตัวอีกทีความชอบของผมมันก็เปลี่ยนเป็นความรักไปแล้ว” ชายหนุ่มหน้าหล่ออธิบาย เมื่อเห็นว่า
คนฟังยังเงียบอยู่ เขาจึงพูดต่อ
“คุณรู้มั้ยครับว่าผมซื้อดอกทิวลิปสีแดงมาให้คุณทุกครั้งเพราะอะไร?”
“คุณเคยบอกว่าแจกันหน้าร้านมันโล่งไป คุณก็เลยซื้อมาฝากเพราะเห็นว่าสีมันเข้ากับบรรยากาศ...” ฮันคยองตอบด้วยท่าทางไม่มั่นใจนัก
ซีวอนยิ้มให้กับความใสซื่อของอีกฝ่ายที่ดูจะเชื่อคำพูดของเขาไปเสียหมด
“นั่นมันก็แค่ข้ออ้างของคนขี้ขลาดอย่างผมเท่านั้นแหละครับ จริงๆแล้วดอกทิวลิปสีแดงมันมีความหมายในตัวของมันอยู่ มันเป็น
ตัวแทนของการสารภาพรัก มันหมายความว่าผมอยากบอกให้คนทั้งโลกรู้ว่าผมรักคุณ” ร่างสูงลูบท้ายทอยอย่างเขินๆก่อนที่จะพูดต่อ
“น่าแปลกนะครับ ผมกล้าบอกให้คนทั้งโลกรู้ว่าผมรักคุณ แต่ผมกลับไม่กล้าบอกคุณคนเดียวซะนี่ เรื่องของฝากก็เหมือนกัน มันไม่ใช่แค่ของที่ผมซื้อติดไม้ติดมือมาส่งๆอย่างที่บอกคุณหรอกนะ ผมตั้งใจเลือกทุกชิ้นมาให้คุณโดยเฉพาะเลย”
ฮันคยองก้มหน้างุดด้วยความเขินเมื่อฟังซีวอนพูดจบ หัวใจดวงน้อยพองโตจนคับอก
“ผมดีใจนะที่ได้ยินอย่างนั้น” เสียงหวานพูดขึ้นเบาๆหลังจากที่เงียบไปนาน
“คุณช่วยขยายความหน่อยได้มั้ยครับ? ผมไม่ค่อยเข้าใจเลย” นักธุรกิจหนุ่มถาม จงใจแกล้งคนตรงหน้า
ฮันคยองกัดริมฝีปากอยู่หลายครั้ง เขาเขินจนแทบจะระเบิดอยู่แล้วแต่ชายหนุ่มเจ้าเล่ห์ก็ยังจะแกล้งให้เขาเขินมากขึ้นไปอีก
“ผมก็...รักคุณเหมือนกัน” ร่างบางรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมาในที่สุด
ซีวอนยิ้มกว้างด้วยความพอใจก่อนที่จะโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อประทับจูบลงบนริมฝีปากสีชมพูของคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามอย่างอ่อนโยนโดยที่ร่างบางแทบไม่มีโอกาสตั้งตัว แต่ไม่นานร่างบางก็ตอบสนองจุมพิตรสหวานนั้นอย่างเคอะเขิน
ร่างสูงถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่งเมื่อรู้สึกว่าฮันคยองเริ่มอึดอัดเพราะขาดอากาศหายใจ ชายหนุ่มหน้าหวานก้มหน้าหลบสายตา
ของซีวอน
ซีวอนบิหมั่นโถวรูปหัวใจออกเป็นชิ้นขนาดพอดีคำแล้วยื่นไปจ่อที่ริมฝีปากของฮันคยอง
ร่างบางมองเขาด้วยสีหน้าสงสัย
“คำอวยพรที่คุณให้ผมเมื่อกี๊ ผมขอให้มันเป็นคำอวยพรของเราแทนนะครับ ขอให้เรารักกันมากๆตลอดไป สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับฮันคยอง” ซีวอนพูดแล้วยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอบอุ่น
ฮันคยองอ้าปากรับชิ้นแป้งเนื้อนุ่มเข้าไปก่อนที่จะทำแบบเดียวกันให้กับซีวอนบ้าง
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับซีวอน”
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งที่แอบดุเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านกระจกของห้องครัวยิ้มกับตัวเองด้วยความยินดี
‘ในที่สุดก็ลงเอยกันจนได้สินะ เราดูไม่ผิดจริงๆด้วย’
ขณะที่เขากำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น มือเรียวหยิบมันออกมาจากกระเป๋าด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
“ฮัลโหล?”
“......”
“ประชุมเสร็จแล้วใช่มั้ย? นายมารับฉันออกไปจากที่นี่เร็วๆเลยนะ”
“......”
“ฉันไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอคู่รักคู่ใหม่น่ะสิ”
“......”
“อืม อืม...แล้วเจอกัน”
“......”
“ฉันก็รักนาย สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะเจี้ยนหาว”
‘สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะเกิง...คุณซีวอนด้วย สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับทุกคน’
[END]
Talk: จบแล้วค่ะ ฟิคซีฮันเรื่องแรกในชีวิต รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันธรรมดาไปหน่อย ถ้ามีอากาสแต่งซีฮันคราวหน้าจะพยายามให้มากกว่านี้ค่ะ >///<
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านนะคะ ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอดค่ะ ^^
Happy Valentine นะคะ ^3^
Ps. สถานีต่อไป ---> มี่เกิง ^O^
ความคิดเห็น