คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [Fic] [SiHan] Love at the Chinese Restaurant Part 3
Title: Love at the Chinese Restaurant
Author: imazawa
Pairing: Siwon/Hangeng, Feat. Vanness/Ken
Rate: PG-13
Part 3
ชายหนุ่มหน้าตาน่ารักสองคนนั่งมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
ทั้งๆที่พวกเขาช่วยกันคิดโปรโมชั่นในวันวาเลนไทน์จนดึกดื่น ทั้งๆที่ใบปลิวหลายร้อยแผ่นก็ถูกแจกจ่ายออกไปจนทั่วเมืองแล้ว
แต่จำนวนลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านก็ยังถือว่าน้อยมากอยู่ดีและคนที่มาส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าประจำ ไม่ใช่คู่รักที่มา
ฉลองวันวาเลนไทน์อย่างที่พวกเขาหวังเอาไว้
“ขอโทษนะเกิง มันเป็นความผิดของฉันเองแหละที่คิดโปรโมชั่นได้ไม่น่าดึงดูดใจพอ” เสี้ยวเทียนพูดหงอยๆส่วนฮันคยองก็รีบ
ส่ายหน้า
“ไม่ใช่นะเสี้ยวเทียน ความคิดของนายเจ๋งที่สุด ฉันเองต่างหากที่ดื้อไม่เข้าเรื่อง ถ้าฉันยอมรับความจริงตั้งแต่แรกว่าร้านอาหารจีนกับ
วันวาเลนไทน์มันไม่เข้ากัน นายก็คงไม่ต้องลำบากไปด้วยแบบนี้หรอก” ร่างบางพูดอย่างรู้สึกผิด
สองเพื่อนรักกุมมือกันไว้เพื่อปลอบโยนกันและกันอยู่พักหนึ่งก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น
“ก๊อกๆๆ”
ทั้งฮันคยองและเสี้ยวเทียนหันไปตามต้นเสียงทันที
“คุณเจี้ยนหาวมารับนายกลับบ้านแล้วล่ะมั้ง?” ร่างบางออกความเห็นด้วยรอยยิ้มแซวๆแต่อีกคนกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ใช่หรอก วันนี้เขามีประชุมดึก ตอนนี้ยังไม่เสร็จแน่ๆ อีกอย่างเจี้ยนหาวไม่เคาะประตูหรอก” ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งพูดอย่างมั่นใจ
ทั้งสองคนขมวดคิ้วมองหน้ากันด้วยความสงสัย ฮันคยองตัดสินใจลุกขึ้นไปเปิดประตูอย่างระมัดระวังในที่สุด ดวงตากมเบิกกว้าง
เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของคนที่ยืนอยู่หน้าประตู
“ขอโทษที่มารบกวนตอนดึกๆนะครับฮันคยอง ยังพอมีอะไรเหลือให้ผมทานบ้างมั้ย?” นักธุรกิจหนุ่มในชุดสูทสีดำเอ่ยถามพร้อม
รอยยิ้มก่อนที่จะยื่นช่อดอกทิวลิปสีแดงให้ร่างบางผู้เป็นเจ้าของร้านเหมือนกับทุกครั้งที่เขามาที่นี่
ฮันคยองยื่นมือออกไปรับช่อดอกไม้ด้วยท่าทางเงอะๆงะๆ ไม่ใช่ว่าซีวอนเพิ่งจะเคยมาที่ร้านของเขาหลังเวลาปิดร้านเป็นครั้งแรก
แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจออีกฝ่ายในวันนี้
“คุณบอกว่าจะไปญี่ปุ่นสองวันไม่ใช่เหรอครับ? ผมคิดว่าคุณจะกลับมาพรุ่งนี้เช้าซะอีก”
“ผมขอกลับมาก่อนคนอื่นน่ะครับ เพิ่งลงจากเครื่องเมื่อกี๊เอง” ซีวอนตอบก่อนที่จะหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเดินทางที่เขาลากมาด้วย
“นี่ครับ ของฝากจากฮอกไกโด เห็นมันวางขายอยู่ที่สนามบินก็เลยซื้อติดมือมา” ร่างสูงพูดพร้อมกับยื่นช็อกโกแลตขาวกล่องใหญ่
ให้ร่างบาง
ฮันคยองมองของกำนัลที่อีกฝ่ายซื้อมาจากญี่ปุ่นด้วยความเกรงใจ ไม่กล้ายื่นมือออกไปรับ
“ผมรับไว้ไมได้หรอกครับ ซีวอนเป็นลูกค้าของผมนะ คุณซื้อของฝากมาให้ผมบ่อยๆแบบนี้ผมก็ลำบากใจแย่สิ”
“อย่าคิดอย่างงั้นสิครับฮันคยอง ผมก็แค่อยากขอบคุณที่คุณทำอาหารอร่อยๆให้ผมทาน อีกอย่างมันก็เป็นแค่ของขึ้นชื่อที่หาได้ทั่วไปตามร้านค้าในสนามบิน ไม่ได้มีราคาอะไรมากมายสักหน่อย” ชายหนุ่มหน้าหล่อพูดแล้วยัดเยียดกล่องช็อกโกแลตใส่มือฮันคยอง
จนอีกฝ่ายต้องรับเอาไว้อย่างปฏิเสธไม่ได้
ฮันคยองยู่ปากอย่างงอนๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซีวอนหอบหิ้วของขึ้นชื่อจากเมืองต่างๆทั่วโลกมาฝากเขา ถึงแม้เขาจะปฏิเสธที่จะรับของเหล่านั้นแต่ร่างสูงก็ไม่เคยฟังเสียที
“คราวหน้าผมคงต้องทำอาหารมื้ใหญ่เลี้ยงคุณเป็นการตอบแทนบ้างแล้ว”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ถ้ามันทำให้คุณสบายใจขึ้น ว่าแต่...วันนี้ยังพอมีอะไรเหลือให้ผมทานบ้างมั้ยครับ? หิวจนไส้จะขาดแล้ว”
ร่างสูงถามประโยคในตอนแรกซ้ำอีกครั้งพลางเอามือกุมท้องไปด้วย
“มีสิครับ วันนี้มีเยอะเลยล่ะ” เจ้าของร้านหน้าหวานพูดเศร้าๆก่อนที่จะปรับสีหน้าให้ดูร่าเริงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวผมไปเตรียมอาหารให้ รอสักครู่นะครับ” พูดจบฮันคยองก็จูงมือเสี้ยวเทียนเข้าไปยังห้องครัวทันที
เมื่ออยู่ด้วยกันเพียงสองต่อสองแล้ว ชายหนุ่มผมยาวก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวเพื่อน
“ฉันว่าเขาต้องคิดอะไรกับนายแน่ๆเลย ไปไหนก็ต้องมีของติดไม้ติดมือมาฝากตลอด”
ฮันคยองหน้าแดง กัดริมฝีปากล่างโดยที่ไม่รู้ตัว
“ไม่หรอกน่า เขาก็บอกแล้วไงว่าเห็นมันวางขายอยู่ก็เลยซื้อมาฝากในฐานะคนรู้จักแค่นั้นแหละ ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก”
“เหรอ? ถ้าคิดแบบนั้นเขาก็รู้จักฉันเหมือนกันนะ ทำไมฉันไม่เคยได้รับอะไรจากเขาสักอย่างเลยล่ะ?” เสี้ยวเทียนไล่ต้อนต่อไป
อย่างไม่ลดละ
“เอ่อ...เขาอาจจะคิดว่ายังไงฉันก็ต้องแบ่งให้นายอยู่แล้วล่ะมั้ง” ร่างบางพูดอ้อมแอ้ม เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่พูดออกไปมันดู
สมเหตุสมผลหรือเปล่า
“แล้วเรื่องดอกไมล่ะ? เขาซื้อดอกไม้มาให้นายทุกครั้งที่มาที่นี่เลยนะ ไม่คิดว่ามันแปลกหรือไง?”
“โธ่เอ๊ย! เรื่องนั้นยิ่งไม่ต้องคิดมากเลย เขาบอกฉันตั้งแต่แรกแล้วว่าดอกไม้พวกนี้เขาซื้อมาให้ฉันตกแต่งร้าน เพราะว่าแจกันหน้าร้านเรามันดูโล่งๆ”
“แต่นี่มันสี่ทุ่มครึ่ง เลยเวลาปิดร้านไปตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วนะเกิง เอาดอกไม้มาตกแต่งร้านตอนนี้แล้วคิดว่าจะมีใครเห็นเหรอนอกจากเขากับเราสองคน?” เสี้ยวเทียนพยายามจี้ให้ฮันคยองคิด เขารู้ว่าเพื่อนของเขาแอบมีใจให้กับลูกค้าหนุ่มรูปหล่อคนนี้มานานแล้ว และถ้าเขามองไม่ผิด ซีวอนเองก็น่าจะรู้สึกดีๆกับเพื่อนของเขาเช่นเดียวกัน
ร่างบางนิ่งไปเมื่อได้ฟังคำพูดของเพื่อนสนิท หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามอย่างควบคุมไม่ได้ เขาพยายามตั้งสมาธิกับซุปตรงหน้าเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้
“ฉันไม่กล้าหวังอะไรหรอกเสี้ยวเทียน นายก็รู้ว่าฐานะของเขากับฉันมันต่างกัน” ร่างบางพูดเรียบๆ สักพักก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น
บนไหล่ข้างซ้าย เสี้ยวเทียนบีบไหล่บางของฮันคยองเพื่อให้กำลังใจ
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอกนะ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฉันก็จะอยู่ข้างนาย” ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งพูดด้วยแววตาจริงจังซึ่งฮันคยองก็พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่ทั้งสองคนจะลงมือปรุงอาหารกันต่อไป
เสี้ยวเทียนลอบมองเพื่อนรักที่กำลังทำอาหารอย่างตั้งอกตั้งใจเป็นระยะ ดูปราดเดียวก็ร่าร่างบางใส่ใจกับทุกขั้นตอนมากแค่ไหนเพื่อที่จะทำให้ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ได้ทานอาหารที่ดีที่สุด
‘พระเจ้าครับ วันนี้เป็นวันดี ได้โปรดช่วยทำให้หานเกิงมีความสุขด้วยเถอะ’
ไม่ถึงสิบห้านาทีต่อมา อาหารหลากหลายชนิดก็ถูกตักใส่ภาชนะก่อนจะยกไปเสิร์ฟให้นักธุรกิจหนุ่มที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศ
ร่างบางผู้เป็นเจ้าของร้านถือถาดอาหารอกไปพร้อมรอยยิ้ม แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็จางลงและเลือนหายไปในที่สุดเมื่อเขาเห็นชายหนุ่ม
ร่างสูงนั่งอยู่กับหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง
ภาพซีวอนที่กำลังยิ้มและลูบผมหญิงสาวอย่างสนิทสนมทำให้คนที่มองอยู่รู้สึกเจ็บแปลบในอกข้างซ้ายอย่างห้ามไม่ได้ ขาเรียวที่แทบไม่เหลือเรี่ยวแรงประคองตัวก้าวไปยังโต๊ะที่คนสองคนนั่งอยู่อย่างช้าๆ ร่างบางยิ้มกว้างทั้งๆที่หัวใจกำลังแตกสลายขณะที่วาง
ถาดอาหารลงบนโต๊ะ
“ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ” พูดจบฮันคยองก็โค้งให้ลูกค้าทั้งคู่ จากนั้นจึงหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องครัวพร้อมกับน้ำตาที่
ไหลลงมาอาบแก้มโดยที่เขาไม่รู้ตัว
To be continued
Talk: ตอนหน้าก็จะจบแล้วนะคะ ตั้งใจว่าจะลงให้ทันวันวาเลนไทน์ แต่ถ้าไม่ทันก็จะลงภายในวันศุกร์หน้านะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านนะคะ ^^
ความคิดเห็น