ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ Yaoi] Dear Friend, Please Love Me (KangHan)

    ลำดับตอนที่ #4 : Part 3

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 53


    Part 4

    “Tululu~” เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นปลุกร่างบางให้ตื่นจากความฝันโดยที่เจ้าตัวไม่เต็มใจนัก
     
    มือบางเอื้อมไปคว้าเครื่องมือสื่อสารเครื่องเล็กบนหัวเตียงทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาก่อนที่จะกดปุ่มรับสาย
     
    หวาดดีก๊าบ~” ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงงัวเงียที่ปิดไม่มิด
     
    อ๊ะ! ขอโทษครับพี่ฮันเกิง ผมไม่รู้ว่าพี่ยังหลับอยู่ เสียงจากปลายสายละล่ำละลักด้วยความตกใจ
     
    ร่างบางยิ้มออกมานิดๆเมื่อนึกถึงภาพของอีกฝ่ายในตอนนี้ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
     
    โทรมาทำไมแต่เช้าฮะ?! นี่มันเป็นเวลาพักผ่อนรู้มั้ย?!” ฮันคยองแกล้งทำเสียงดุแต่ก็ไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าได้
     
    ผม...ผมขอโทษจริงๆครับพี่ ผมเห็นว่าตอนนี้มันจะเที่ยงแล้ว ไม่คิดว่าพี่ยังไม่ตื่นน่ะครับ
     
    ร่างบางสะดุ้งขึ้นมาดูนาฬิกาทันที่ที่อีกฝ่ายพูดจบ
     
    ตายล่ะ สิบเอ็ดโมงห้าสิบแล้วจริงๆด้วย ตื่นสายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยเรา อ๊ากกก! อายซีวอนชะมัดเลยอ่ะ ใจเย็นๆฮันเกิง อย่าเพิ่งสติแตก
    แผนของเรายังไม่สำเร็จ
     
    อะ เออ นั่นแหละ! จะกี่โมงก็ช่างมันเถอะ แต่ที่แน่ๆนายโทรมารบกวนเวลานอนอันแสนจะมีค่าของพี่ จะรับผิดชอบยังไงฮะ?!” ร่างบางขึ้นเสียง
    อีกครั้ง
     
    เอ่อ...พี่จะให้ผมทำอะไรล่ะครับ? ผมจะทำให้พี่ทุกอย่างเลย สัญญาครับ เสียงอ่อยๆจากปลายสายทำให้ร่างบางหลุดหัวเราะออกมาในที่สุด
     
    ฮะๆๆ เสียงนายตลกมากเลยอ่ะซีวอน ฮะๆๆ เสียดายไม่ได้อัดเอาไว้
     
    ............
     
    ซีวอน ทำไมเงียบไปล่ะ? ฮันคยองหยุดหัวเราะแล้วเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆเมื่ออีกฝ่ายเงียบจนผิดสังเกต
     
    ............
     
    ซีวอน โกรธเหรอ? ร่างบางเสียงอ่อย
     
    ............
     
    ซีวอนอ่า~ พี่ขอโทษ
     
    ฮ่าๆๆ อย่าทำเสียงออดอ้อนแบบนั้นสิครับพี่ฮันเกิง ผมฟังแล้วใจจะละลาย ฮ่าๆๆ คราวนี้เราก็หายกันแล้วนะ เป็นไงครับ? ตาสว่างแล้วสิตอนนี้?
    ซีวอนพูดปนหัวเราะ
     
    นายนี่น้า~ จะยอมให้พี่แกล้งฝ่ายเดียวสักครั้งไม่ได้เลยหรือไง? ฮันคยองบ่นอุบดิบ
     
    ถ้าผมไม่แกล้งพี่ ผมจะได้ยินเสียงอ้อนๆ น่ารักๆแบบเมื่อกี๊เหรอครับ? แล้วพี่จะให้ผมทำอะไรเป็นการไถ่โทษล่ะครับ?
     
    เอ๋? ไถ่โทษอะไรเหรอ? หนุ่มชาวจีนถามอย่างงงๆ
     
    อ้าว ยังไม่ทันแก่เลย ทำไมเป็นโรคอัลไซเมอร์ซะแล้วล่ะ? ที่พี่บอกว่าผมโทรมากวนพี่แล้วผมจะรับผิดชอบยังไงไงล่ะครับ ซีวอนขำกับความขี้ลืม
    ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวอีกอย่างของร่างบาง
     
    อ๋อ นึกออกแล้ว...โธ่เอ๊ย! ก็เพราะนายนั่นแหละที่ทำให้พี่ไขว้เขว ไม่งั้นพี่ก็ไม่ลืมหรอก ร่างบางโยนความผิดให้รุ่นน้องหน้าหล่อซึ่งยอมรับ
    ข้อกล่าวหาด้วยรอยยิ้ม
     
    ครับๆ แล้วพี่คิดได้หรือยังว่าอยากให้ผมทำอะไร? ซีวอนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
     
    อืม~ เอาไงดีน้า~ อ่ะ ถือว่าสงสารเด็กน้อยตาดำๆอย่างนายนะ ฉันจะให้ทำอะไรง่ายๆก็แล้วกัน วันนี้วันเสาร์ ฉันจะไปทำงานที่ร้านตั้งแต่บ่ายโมง
    ถึงหนึ่งทุ่ม นายต้องไปช่วยฉันทำงานแบบไม่มีค่าแรง โอเคมั้ย?
     
    โหย~ ทำไมโหดจังล่ะครับพี่?
     
    นายเป็นคนผิดนะซีวอน ไม่มีสิทธิ์ต่อรองหรอก ฮันคยองหัวเราะด้วยความสะใจที่แกล้งรุ่นน้องสุดเท่ห์ผู้ไม่เคยยอมใครคนนี้ได้สำเร็จ
     
    พี่ฮันเกิงอ่า~”
                   
    อย่ามาทำเสียงแบบนี้นะซีวอน พี่ไม่ใจอ่อนหรอก ร่างบางพยายามทำเสียงจริงจัง
     
    พี่ฮันเกิง~ ไม่สงสารผมจริงๆเหรอครับ ซีวอนเพิ่มดีกรีความน่าสงสารขึ้นอีกสิบเท่า
     
    โอ๊ย~ ทำไมพี่ถึงต้องใจอ่อนกับเสียงแบบนี้ของนายด้วยนะ ก็ได้ๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าวเย็น พอใจหรือยัง? ฮันคยองบ่น แต่ที่จริงก็คิดว่าจะเลี้ยงข้าว
    รุ่นน้องหน้าหล่อเป็นการตอบแทนอยู่แล้ว
     
    เขาไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้นซะหน่อย แค่อยากแกล้งเท่านั้นแหละ
     
    พอใจที่สุดเลยครับ แล้วพี่จะออกจากบ้านกี่โมงครับ? ให้ผมไปรับมั้ย?ร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง
     
    เดี๋ยวพี่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็จะออกไปแล้วล่ะ แต่ไม่ต้องมารับพี่หรอกซีวอน พี่ไปเองได้ ร่างบางตอบเลี่ยงๆ ไม่อยากบอกว่าจะไปพร้อมกับคังอิน
    เขาไม่ต้องการทำให้อีกฝ่ายเสียใจ
     
    ครับ งั้นเจอกันที่ร้านนะครับพี่ฮันเกิง ซีวอนยิ้มกว้าง รู้ว่าร่างบางห่วงความรู้สึกของเขามากเพียงใด
     
    อืม แล้วเจอกันนะซีวอน ฮันคยองกดปุ่มวางสายแล้วยิ้มให้กับโทรศัพท์เครื่องเล็กก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปเตรียมตัวให้พร้อม
     
    ร่างบางเดินออกมาจากห้องหลังแต่งตัวเสร็จ เขาเดินตรงไปยังห้องนอนของเพื่อนรัก
     
    ก๊อกๆๆ คังอิน ฉันเข้าไปนะ ร่างบางเคาะประตูสองสามทีตามมารยาทก่อนที่จะเปิดเข้าไป
     
    เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อไม่เห็นร่างของเพื่อนรักร่างหนาในห้อง มือถือและกระเป๋าสตางค์ของร่างหนาที่ปกติจะถูกวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง
    ก็หายไปด้วย
     
    ร่างบางรีบวิ่งลงไปที่ชั้นล่างแต่ก็ไม่เห็นร่องรอยของอีกฝ่ายอยู่ดี ไม่มีแม้กระทั่งกระดาษโน้ตสักแผ่น
     
    หนุ่มชาวจีนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดปุ่มโทรด่วนหมายเลขหนึ่งอย่างร้อนรน ไม่นานนักอีกฝ่ายก็รับสาย
     
    คังอิน! นายอยู่ที่ไหนน่ะ?!” ฮันคยองกรอกเสียงลงไปโดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้มีเวลาแม้แต่จะกล่าวทักทาย
     
    อยู่ที่ห้างฯ พาพี่ลีทึกมาซื้อของ ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้นด้วย? เสียงจากปลายสายถามห้วนๆราวกับเด็กที่ถูกขัดใจ
     
    ก็ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นนาย เลยตกใจน่ะ ร่างบางตอบด้วยเสียงสั่นเครือ
     
    นี่! นายไม่ใช่เด็กๆแล้วนะฮันคยอง! เลิกทำตัวติดฉันแจแบบนี้สักทีจะได้มั้ย?! ฉันจะไปไหน กับใคร จำเป็นต้องบอกนายก่อนด้วยเหรอ?!”
    เสียงห้วนเมื่อสักครู่เริ่มกลายเป็นเสียงตะคอก
     
    ร่างบางกัดฟันกลั้นน้ำตาอย่างสุดความสามารถและพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้
     
    ฉันแค่แปลกใจน่ะ ตั้งแต่มาอยู่เกาหลีหกปีก็เพิ่งจะมีวันนี้แหละที่ตื่นมาแล้วไม่เจอนาย ขอโทษนะที่โทรมารบกวน น้ำเสียงตัดพ้อทำให้อีกฝ่าย
    ได้สติขึ้นมานิด แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเสียงของใครอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
     
    มีอะไรหรือเปล่าคังอิน? เสียงดังเชียว
     
    เฮ้อ~ ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ลีทึก เรื่องไร้สาระน่ะฮะ อย่าใส่ใจเลย ประโยคที่ร่างหนาพูดทำให้คนที่ฟังอยู่ที่ปลายสายอีกข้างถึงกับน้ำตาร่วง
     
    ร่างบางกดปุ่มวางสายด้วยนิ้วเรียวที่อ่อนแรงก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครราวกับความรู้สึกหลากหลายที่อัดแน่นอยู่ในอกถูกระเบิดออกมา
     
    นายเห็นฉันเป็นตัวอะไรกันแน่คังอิน? เมื่อวันก่อนนายทำเหมือนกับฉันเป็นคนสำคัญ แต่วันนี้ฉันกลับกลายเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับนายไปซะแล้ว
    ฉันปรับตัวไม่ทัน นายเข้าใจมั้ย? แค่รู้ว่านายไม่รักฉันมันก็ทำให้ฉันเจ็บจนจะขาดใจอยู่แล้ว แล้วตอนนี้ แม้แต่มิตรภาพ แม้แต่คำว่าเพื่อน
    นายก็ให้ฉันไม่ได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?
     
     
     
                     
    ร่างบางวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในร้านเบเกอรี่เล็กๆที่เขาทำงานอยู่
     
    พี่ฮันเกิง เป็นอะไรครับ? ทำไมถึงวิ่งมาแบบนี้ล่ะ? เสียงทุ้มต่ำของรุ่นน้องหน้าหล่อเอ่ยถามขึ้นก่อนที่จมูกของร่างบางจะได้กลิ่นหอมของขนม
    ในร้านเสียด้วยซ้ำ
     
    พี่เผลอหลับต่อในห้องน้ำน่ะซีวอน กว่าจะได้ออกจากบ้านก็เกือบบ่ายโมงแล้ว เลยต้องรีบวิ่งมานี่แหละ ร่างบางหัวเราะ แต่ดวงตาที่บวมแดงนั้น
    ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของอีกฝ่ายไปได้
     
    ทำไมตาพี่เป็นแบบนี้ล่ะครับ? แล้วนี่พี่คังอินไปไหน? ซีวอนรีบเดินออกมาจากหลังเคาท์เตอร์ทั้งๆที่ยังสวมผ้ากันเปื้อนไม่เรียบร้อย
     
    พี่คงนอนมากไปน่ะ อย่าห่วงเลย คังอินพาพี่ลีทึกไปซื้อของ เดี๋ยวก็คงจะมาแหละมั้ง ฮันคยองพูดพร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนให้ร่างสูงไปด้วย
     
    ซีวอนมองใบหน้าหวานที่ซีดเผือดของอีกฝ่ายอยางไม่วางใจนักแต่ก็ไม่อยากซักไซ้อะไร เขาพอจะรู้ว่าร่างบางตรงหน้าคงไม่อยากจะพูดถึงมัน
    สักเท่าไหร่
     
    ร่างสูงเป็นฝ่ายใส่ผ้ากันเปื้อนให้รุ่นพี่ร่างบางบ้างก่อนที่จะพาอีกฝ่ายไปหลังร้านส่วนตัวเขาเองก็กลับออกมายืนหลังเคาท์เตอร์
     
    เวลาผ่านไปพักใหญ่ร่างบางจึงเริ่มทยอยนำเค้กหน้าตาน่ารับประทานและขนมชนิดอื่นๆที่ทำเสร็จแล้วออกมาให้ร่างสูงนำไปจัดวางในตู้
     
    เอ้าๆ รีบเอาไปวางเลยนะซีวอน ก่อนที่น้ำลายของนายจะหกลงไป ฮันคยองอดที่จะแซวไม่ได้เมื่อเห็นรุ่นน้องหน้าหล่อมองเค้กช็อกโกแลตชิ้นโต
    ด้วยดวงตาที่เป็นประกายวิบวับ
     
    ร่างสูงตัดใจวางเค้กก้อนนั้นลงในตู้โชว์อย่างเสียดาย เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็พบว่ารุ่นพี่ร่างบางที่เอ่ยปากแซวเขาเมื่อสักครู่นี้กำลังมองไปที่ประตู
    หน้าร้านด้วยท่าทางกระวนกระวายที่ปิดไม่มิด
     
    ทันใดนั้นเองประตูกระจกบานใสก็ถูกเปิดออก ร่างหนาที่ฮันคยองกำลังรออยู่เดินเข้ามาพร้อมกับรุ่นพี่หน้าสวยที่ถือข้าวของอยู่เต็มไม้เต็มมือ
     
    ชายหนุ่มร่างหนาทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นสายตาที่ร่างบางมองมาทางเขา ดวงตาบวมช้ำของเพื่อนรักทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย
     
    ร่างบางเองก็คงจะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังลำบากใจจึงรีบยิ้มออกมาแล้วเดินตรงไปหารุ่นพี่หน้าสวยก่อนที่จะคว้าของทั้งหมดในมือของอีกฝ่ายมาถือเอาไว้เอง
     
    เชิญทางนี้ครับพี่ลีทึก นั่งพักก่อนนะครับ มาเหนื่อยๆ คังอินก็ไปเอาน้ำมาให้พี่เขาสิ ยืนนิ่งเป็นหมีโดนสตัฟฟ์ไปได้ ร่างบางวางของของลีทึก
    ลงบนเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่อย่างระมัดระวังแล้วเดินไปหาเพื่อนรักที่ยังยืนนิ่งอยู่ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อสักครู่นี้
     
    ไปสิ เจ้าหมีทึ่ม! ปล่อยให้นางฟ้ารอนานๆน่ะมันไม่ดีนะ อ่อ เสร็จแล้วก็อยู่คุยกับพี่เขาข้างนอกนี่แหละ ฝากดูเคาท์เตอร์ด้วย เดี๋ยวฉันให้ซีวอน
    มาช่วยหลังร้านเอง
    ฮันคยองพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
     
    ฮันคยอง ฉัน... ร่างหนามีสีหน้าลำบากใจ
     
    รู้สึกผิด...อยากขอโทษที่ทำเรื่องแย่ๆกับคนตรงหน้า อยากขอโทษที่ทิ้งให้ร่างบางอยู่คนเดียว  
     
    เป็นห่วง...ทั้งๆที่ก็เห็นแล้วว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอะไร แต่ความห่วงใยที่อัดแน่นอยู่ในอกกลับไม่ได้ทุเลาลงเลย แต่คังอินก็คือคังอิน...จนแล้วจนรอด
    คำพูดสักคำก็ไม่หลุดออกมาจากปากของเขา
     
    ไม่เป็นไรหรอกน่า นายอยู่ดูแลพี่เขาเถอะ ร่างบางพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักเงียบไป
     
    แต่ฉันมาสาย แล้วยังจะปล่อยให้นายทำงานหลังร้านคนเดียวอีกเนี่ยนะ?
     
    ฮะๆๆ ไม่เอาน่า คิดมากไปได้ ถือว่าเป็นการไถ่โทษแล้วกันที่ฉันโทรไปรบกวนเวลาของนายก่อนหน้านี้ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ทำงานคนเดียวด้วย
    มีซีวอนอยู่ทั้งคน
    ฮันคยองยิ้มกว้างทั้งๆที่หัวใจแทบจะแตกสลาย
     
    คังอินหันไปมองหน้ารุ่นน้องหน้าหล่อนิดนึงก่อนที่จะพยักหน้ารับแล้วเดินไปรินน้ำให้ลีทึก
     
    ฮันคยองจูงมือร่างสูงไปหลังร้าน รอยยิ้มบนใบหน้าหวานจางลงเรื่อยๆทุกย่างก้าวที่เขาเดินจนรุ่นน้องร่างสูงออดเป็นห่วงไม่ได้
     
    พี่ฮันเกิงครับ พี่ไม่เป็นไรนะครับ? ร่างบางยิ้มรับ
     
    ไม่เป็นไรหรอกซีวอน มานี่ ช่วยพี่ทำงานเร็วเข้า ไม่งั้นพี่ไม่เลี้ยงข้าวเย็นจริงๆนะ ฮันคยองยิ้มทะเล้นๆให้ซีวอนแล้วหันมาสนใจกับเค้กก้อนโต
    ที่รอรับการตกแต่งจากเขาอยู่
     
    ซีวอนยิ้มบางๆ
     
    พี่นี่เป็นคนดีจังเลยนะครับ ทนได้ยังไงกัน? ร่างสูงถามขึ้นอย่างลืมตัว
     
    ร่างบางนิ่งไปสักพักก่อนที่จะเอ่ยตอบซีวอนด้วยเสียงแผ่วเบา
     
    พี่ไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นหรอกซีวอน
     
    ใช่ ผมไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย การที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะผมอยากให้เขาเห็นความดีของผมบ้าง อยากให้ความรู้สึกดีๆที่เขาเคยมีให้ผมกลับคืนมา
    เท่านั้นเอง
     
     
     
     
                     
     
    ร่างบางถอดถ้ากันเปื้อนออกแล้วบิดขี้เกียจเพื่อไล่ความเมื่อยขบ
     
    ภาพของรุ่นน้องหน้าหล่อที่ฟุบอยู่บนโต๊ะทำขนมอย่างหมดสภาพทำให้เขาอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
     
    เหนื่อยล่ะสิเรา หืม? ฮันคยองถามด้วยความเอ็นดู
     
    ไม่หรอกครับพี่ แค่นี้สบายมาก ซีวอนยิ้มพร้อมกับเบ่งกล้ามให้รุ่นพี่ร่างบางดู
     
    เหรอ~ งั้นพรุ่งนี้มาช่วยพี่ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสองทุ่มเลยนะ คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนายใช่มั้ย? ร่างบางพูดจบก็หัวเราะออกมาเมื่อเห็นปฏิกิริยา
    ของอีกฝ่ายที่ดูจะลำบากใจสุดๆ
     
    เพื่อพี่น่ะ อะไรผมก็ทำให้ได้ทั้งนั้นแหละครับ ร่างสูงตอบอย่างหนักแน่นในที่สุด
     
    ฮะๆๆ ไม่ต้องหรอกซีวอน พรุ่งนี้พี่ไม่ทำงานหรอก อยากพักบ้างเหมือนกัน นายน่ะ หัดคิดถึงตัวเองซะบ้างก็ดีนะ ร่างบางถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไปมา
     
    บอกตัวเองก่อนเถอะครับพี่ ร่างบางถึงกับอึ้งเมื่อถูกย้อนกลับมาทันควันแบบนี้
     
    เดี๋ยวนี้กล้าย้อนพี่เหรอ? รู้งี้ไม่น่าเก็บเค้กไว้ให้กินเล้ย~”
     ร่างสูงตาโตทันทีเมื่อได้ยินคำว้า เค้ก
     
    เค้กเหรอครับพี่ ไหนๆๆ? ท่าทางร่าเริงราวกับเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจซึ่งไม่ค่อยได้เห็นจากหนุ่มมาดเท่ห์อย่างซีวอนทำเอาร่างบางอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
     
    เขาเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบเค้กช็อกโกแลตชิ้นโตออกมา
     
    เห็นนายทำท่าอยากกินมาก เลยทำเผื่อไว้ให้ชิ้นนึง กินรองท้องไปก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวพี่เก็บกวาดตรงนี้อีกแป๊บนึงแล้วจะพาไปกินข้าว
    ฮันคยองพูดแล้วหันไปสนใจถ้วยชามที่วางอยู่บนโต๊ะโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกอีกฝ่ายมองด้วยแววตาที่ปลาบปลื้มเพียงใด
     
    ซีวอนหยิงกล่องสำหรับใส่เค้กกลับบ้านออกมาก่อนที่จะใส่เค้กชิ้นโตลงไปอย่างระมัดระวัง
     
    อ้าว เอาใส่กล่องทำไมล่ะ? หรือว่าไม่อยากกินแล้ว? ร่างบางเอ่ยถามด้วยสีหน้าผิดหวังนิดๆ ร่างสูงจึงต้องรีบอธิบาย
     
    เปล่านะครับพี่! แต่ผมอยากเก็บไว้ดูน่ะ ร่างบางส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูรุ่นน้องร่างสูง
     
     ถึงจะดูเป็นผู้ใหญ่ยังไงแต่ลึกๆแล้วก็ยังเป็นเด็กอยู่ดีสินะ
     
     “ของเขามีไว้ให้กินก็กินไปเถอะน่า...ถ้าชอบเดี๋ยววันหลังพี่ทำให้ใหม่ก็ได้ ฮันคยองพูดพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้อีกฝ่ายใจเต้นรัว
     
    จริงๆนะครับพี่? ซีวอนถามด้วยความดีใจ ร่างบางพยักหน้ารับ
     
    แต่พี่ไม่ทำให้ฟรีๆหรอกนะ นายต้องมาช่วยงานพี่ด้วย ตกลงมั้ยล่ะ? ร่างสูงพยักหน้าจนหัวแทบหลุด
     
    ได้เลยครับพี่ แต่ว่าเค้กชิ้นนี้น่ะผมขอเก็บไว้ก่อนแล้วกันนะ วันนี้พี่จะเลี้ยงข้าวผมทั้งที เดี๋ยวผมกินไม่คุ้ม ซีวอนยิ้มเจ้าเล่ห์
     
    นายนี่มัน... ฮันคยองพูดได้แค่นั้นแล้วก็เงียบไป
     
    ขอบคุณมากนะครับพี่ฮันเกิง ซีวอนยิ้มกว้างเผยให้เห็นลักยิ้มเด่นชัด
     
    ไม่เป็นไรหรอก เลี้ยงข้าวรุ่นน้องแค่มื้อสองมื้อ เรื่องเล็กน้อย นายเองก็ช่วยอะไรพี่ตั้งหลายอย่างแล้ว
     
    ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นครับพี่
     
    หืม? ร่างบางเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ซีวอนยิ้มกับความใสซื่อของอีกฝ่าย
     
    ขอบคุณมากนะครับพี่ฮันเกิงที่ไม่เปลี่ยนไป...หลังจากที่พี่รับรู้ความรู้สึกของผมแล้วน่ะ ฮันคยองอึ้งไปพักหนึ่งเมื่อฟังซีวอนพูดจบ ก่อนที่จะยิ้มเศร้าๆ
    ให้อีกฝ่ายโดยที่ไม่ได้พูดอะไรตอบ
     
    อย่าขอบคุณพี่เลยซีวอน เพราะพี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างการทำตัวแปลกไปแล้วบอกให้นายรู้ว่าพี่ไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับนายเลยสักนิด
    กับการทำตัวปกติ ทำดีกับนายเหมือนเดิมทั้งๆที่ในใจพี่ก็ไม่ได้คิดกับนายเกินกว่าคำว่าน้องชายเลยแบบนี้ อย่างไหนมันจะทำให้นายเจ็บปวด
    มากกว่ากัน
     
    ฮันคยอง~ เดี๋ยวฉันจะพาพี่ลีทึกไปกินข้าวเย็นนะ จะไปด้วยกันมั้ย? คังอินที่จู่ๆก็เดินหน้าเข้ามาถามทำเอาร่างบางที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิดสะดุ้งเฮือก
     
    นายไปกับพี่ลีทึกเถอะคังอิน ฮันคยองตอบหลังจากที่ตั้งสติได้แล้ว
     
    ร่างหนาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ร่างบางจึงอธิบายต่อ
     
    ฉันจะพาซีวอนไปเลี้ยงข้าวเย็นด้วยน่ะ
     
    แล้วทำไมไม่ไปด้วยกัน? ซีวอนมันอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือไง? คังอินถามเสียงแข็ง ความหงุดหงิดเริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่เขาไม่ทราบสาเหตุ
     
    เปล่าหรอก แต่นายคงอยากอยู่กับพี่ลีทึกสองคนมากกว่าใช่มั้ยล่ะ? ฮันคยองถามพร้อมกับรอยยิ้มขมขื่นจนเขาต้องก้มหน้าลงเพื่อซ่อนมันเอาไว้
     
    แล้วนายจะกลับบ้านคนเดียวได้ยังไง? ร่างหนาถามขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงแข็งกระด้างที่แทบจะไม่ต่างอะไรกับเสียงตะคอกเลย
     
    ได้สิ! ขามาฉันยังมาคนเดียวได้เลย ขากลับมันก็ทางเดียวกันนั่นแหละ ทำไมฉันจะกับคนเดียวไม่ได้?!” ความน้อยใจที่อัดแน่นอยู่ในอกทำให้
    ร่างบางเผลอพูดประชดออกมา
     
    ร่างหนาถึงกับชะงักเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนรัก นี่เป็นครั้งแรกที่ฮันคยองพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้
     
    ซีวอนที่เงียบอยู่นานเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มตึงเครียดจึงเดินไปยืนข้างรุ่นพี่ร่างบางก่อนที่จะหันไปพูดกับคังอิน
     
    ไม่ต้องเป็นห่วงครับพี่คังอิน เดี๋ยวผมพาพี่ฮันเกิงไปส่งเอง
     
     ............ คังอินไม่พูดอะไร ความรู้สึกหงุดหงิดยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อเห็นภาพรุ่นน้องหน้าหล่อโอบเอวฮันคยอง
     
    ร่างหนาถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนที่จะเดินออกไปหารุ่นพี่หน้าสวยที่ยืนรออยู่หน้าร้านแล้วพากันออกไปโดยที่ไม่แม้แต่จะหันมากล่าวลาอีก
    สองชีวิตที่อยู่ในห้องครัว
     
    ร่างบางน้ำตาคลอหน่วย แต่ไม่ยอมให้มันไหลออกมา เขารู้สึกว่าพักนี้ตัวเองอ่อนแอและร้องไห้ง่ายเกินไปแล้ว
     
    มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรานะ? น้ำเสียงตัดพ้อเอ่ยถามขึ้นลอยๆ
     
    ซีวอนสงสารคนตรงหน้ามากเสียจนเขาอดไม่ได้ที่จะดึงร่างบางๆของหนุ่มชาวจีนเข้ามากอด
     
    เพียงแค่อ้อมแขนแกร่งก็ทำให้ร่างบางรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด แม้ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของร่างสูงเลยก็ตาม
     
    นายรักพี่จริงๆหรือเปล่าซีวอน? ฮันคอยงเอ่ยถามด้วยเสียงเบาหวิว
     
    ครับ ซีวอนตอบสั้นๆแต่ทว่าหนักแน่นแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเสมือนเป็นการยืนยัน
     
    แล้วนายทนได้ยังไงซีวอน? เวลานายเห็นพี่อยู่กับคังอิน เวลาที่นายรู้ว่าคนที่พี่รักรักคือคังอินไม่ใช่นาย นายทนได้ยังไงกัน? ทำไมนายถึงยัง
    ยิ้มได้อีก? นายไม่เจ็บบ้างเลยเหรอซีวอน?
    ร่างบางเงยหน้าขึ้นส่งสายตาที่ทั้งอ่อนไหวและสับสนราวกับเด็กหลงทางให้รุ่นน้องร่างสูง
     
    ซีวอนยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่จริงใจ บ่งบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขามีความสุขจริงๆ
     
    ผมไม่เจ็บปวดหรอกครับพี่ฮันเกิง ร่างสูงตอบโดยไม่ลังเล
     
    เพราะภาพที่ผมเห็นไม่ใช่ภาพที่พี่กำลังอยู่กับคนอื่นหรือรักคนอื่น แต่เป็นภาพที่พี่กำลังมีความสุขต่างหากล่ะครับ คำตอบของซีวอนทำเอาร่างบางอึ้ง
     
    นั่นสินะ ทำไมผมถึงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจริงๆแล้วสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุดก็คือการที่ได้เห็นคังอินมีความสุข ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน กับใคร
    ตราบใดที่เขามีความสุข ผมก็น่าจะยินดีกับเขาไม่ใช่เหรอ?
     
    คังอิน...ตอนนี้ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว แต่ขอเวลาฉันสักพักนะ มันคงต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าที่ความเห็นแก่ตัวและความเจ็บปวดในใจของฉันจะ
    หายไป เมื่อถึงวันนั้น ฉันคงจะมองภาพนายอยู่เคียงข้างกับเขาด้วยความสุขและยินดีจากใจจริง
     
    ฮันคยองยิ้มให้รุ่นน้องร่างสูงที่ยืนรอเขาเงียบๆอย่างใจเย็น
     
    ขอบใจมากนะซีวอน นายดีกับพี่จริงๆ ถ้า...ถ้าพี่เจอนายก่อนเขา พี่อาจจะรักนายไปแล้วก็ได้ ซีวอนยิ้มกับคำพูดของรุ่นพี่ชาวจีน
     
    ก็ไม่แน่หรอกครับพี่ ผมเคยบอกพี่แล้วไง ขางสิ่งในชีวิตของเราได้ถูกกำหนดมาแล้ว และจิตใจของเราก็ไม่เข้มแข็งพอที่จะเปลี่ยนแปลงมันด้วย
     
    ...นั่นสินะ... ยังไงก็เถอะ พี่ขอบใจนายมากจริงๆซีวอน ถ้าไม่มีนายพี่คงคิดไม่ได้หรอก ร่างบางยิ้มกว้าง
     
    ซีวอนเห็นแบบนั้นก็สบายใจขึ้น
     
    เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นเค้กอีกสักชิ้นก็ดีนะครับพี่ ชิ้นเดียวไม่พอหรอก ผมน่ะกินจุ
     
    นายนี่น้า~ เอาเถอะๆ พี่สัญญาว่าจะทำมาให้อีกแล้วกัน ตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า หิวจนตาลายแล้วล่ะสิ?
     
    ครับผม!”
     
    ทั้งสองคนเดินออกไปจากร้านด้วยกันพร้อมรอยยิ้ม ต่างกับใครอีกคนที่เดินออกไปก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
     
    ร่างหนาก้มหน้าก้มตาเดินโดยแทบจะไม่ได้สนใจรุ่นพี่หน้าสวยที่เดินอยู่ข้างๆเลยสักนิด
     
    สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าเจ้าตัวอารมณ์ขุ่นมัวขนาดไหน
     
    เขาหงุดหงิดมากที่เห็นเพื่อนร่างบางอยู่กับซีวอน หงุดหงิดที่ร่างบางขึ้นเสียงกับเขา และสิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดที่สุดก็คือเขาไม่รู้ว่าตัวเองหงุดหงิดเพราะอะไร
     
    พี่ลีทึกก็อยู่กับผมตรงนี้ ฮันคยองก็ไม่ได้เกาะติดผมแจแล้วแท้ๆ ผมควรจะมีความสุขไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมตอนนี้ผมกลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยล่ะ?
     
    เจ้าฮันคยองจอมเอ๋อ! นายทำอะไรกับหัวใจของฉันกันเนี่ย?!
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×