คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : The Perfect Boy Next Door Part 4
Title: The perfect boy next door
Author: imazawa
Pairing: Kyuhyun/Hangeng
Rate: PG-13
Part 4
“อ้าว คยูฮยอน...ฮันคยอง มีเรื่องอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?” คุณนายโจเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของลูกชายเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับร่างบางที่เธอเพิ่งจะใช้ให้เจ้าลูกชายตัวดีออกไปส่งเมื่อสักครู่นี้
“อ๋อ คือผมอยากคุยกับฮันคยองต่ออีกหน่อยน่ะครับแม่ คืนนี้ให้เขาค้างที่นี่ได้มั้ยครับ?” ร่างสูงถามผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
แจวอนอดที่จะยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางของลูกชาย
“แม่น่ะไม่มีปัญหาหรอก จะให้ฮันคยองย้ายมาอยู่บ้านเราก็ยังได้ แต่ลูกถามพี่เขาแล้วเหรอว่าอยากจะมาหรือเปล่าน่ะ? ไม่ได้ไปฉุดกระชากลากถูพี่เขามาแน่นะ?” แจวอนขมวดคิ้วถามคยูฮยอนอย่างไม่ไว้ใจ
ร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆเด็กหนุ่มร่างสูงหัวเราะ
“ฮะๆๆ เปล่าหรอกครับคุณป้า ผมเต็มใจมาครับ ผมเองก็อยากคุยกับเขาเหมือนกัน ขอโทษนะฮะที่มารบกวนอีกแล้ว” ฮันคยองพูดพร้อมกับก้มหัวให้แจวอนด้วยความเกรงใจ
ความลำบากใจที่แสดงออกมาทางสีหน้าและแววตาของร่างบางทำให้แจวอนอดที่จะสงสัยไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป
“คยูฮยอน พาพี่ฮันคยองขึ้นไปข้างบนสิ ให้พี่เขาอาบน้ำอาบท่าซะก่อนนะแล้วค่อยคุยกัน เชิญตามสบายนะจ๊ะฮันคยอง ทำตัวให้เหมือนอยู่บ้านตัวเองนั่นแหละจ้ะ” หญิงวัยกลางคนยิ้มให้ร่างบางอย่างใจดี ก่อนที่จะหันไปพูดกับลูกชายของตัวเอง
“เดี๋ยวพาฮันคยองขึ้นไปเสร็จแล้วลงมาช่วยแม่หาของแป๊บนึงนะ”
เด็กหนุ่มร่างสูงพยักหน้าให้ผู้เป็นแม่เบาๆ เขาพอจะเข้าใจความหมายที่แจวอนพยายามบอกเขาผ่านดวงตา
‘ไม่ได้เรียกมาช่วยหาของแน่ๆล่ะ’
“เอ้า ทีนี้ก็ตามฉันมาได้แล้วเร็วๆเข้า ถ้าช้าฉันทิ้งให้นอนที่ห้องโถงนี่จริงๆด้วย” คยูฮยอนเอ่ยเสียงเข้ม
“คร้าบๆคุณชาย~ นำไปได้เลยครับ” ร่างบางล้อเลียนอีกฝ่าย แต่ก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย
บรรยากาศภายในบ้านระหว่างทางเดินไปยังห้องของร่างสูงยังคงสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับร่างบางได้ตลอดเวลา
‘โห~ อะไรมันจะหรูเว่อร์ขนาดนี้เนี่ย? ถ้าหลงทางในนี้จะหาทางออกเจอมั้ยน้า? ว้าว! รูปปั้นอันนั้นสวยจังเลยแฮะ’
“เอ้าๆ มัวแต่เหม่ออยู่นั่นแหละ ระวังจะเดินไปชนอะไรตกแตกเข้าล่ะ ของในบ้านฉันแต่ละชิ้นน่ะราคาไม่ใช่น้อยๆนะ นายทำงานทั้งชีวิตจะซื้อได้หรือเปล่าก็ไม่รู้” เด็กหนุ่มแกล้งขู่อีกฝ่ายเล่นด้วยความนึกสนุก แต่ร่างบางกลับกลัวขึ้นมาจริงๆ
ฮันคยองเดินตัวเกร็ง แขนทั้งสองข้างแนบเข้ากับลำตัวแน่น และหันซ้ายหันขวาตลอดเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองจะไม่เดินไปชนอะไรเข้า
ร่างสูงหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ฮะๆๆ ฉันล้อเล่นน่า ฉันล้อเล่น! อย่าทำท่าแบบนั้นได้มั้ย? เห็นแล้วมันจั๊กจี้ลูกตา” คยูฮยอนพูดกลั้วหัวเราะ
ฮันคยองส่ายหน้ายิ้มๆกับความขี้เล่นของอีกฝ่ายและความเปิ่นของตัวเองที่โดนเด็กหลอกได้อย่างง่ายๆ
แต่ถึงแม้ว่าร่างบางจะรู้แล้วว่าสิ่งที่ร่างสูงพูดเป็นเพียงแค่การขู่เขาเล่นเท่านั้น แต่เขาก็ยังไม่หายเกร็งอยู่ดี ก็เรื่องที่ว่าของในบ้านนี้แต่ละชิ้นราคาไม่ใช่น้อยๆน่ะ ร่างสูงไม่ได้โกหกแน่ๆ
“นี่ เลิกเกร็งได้แล้ว ถึงห้องฉันแล้ว” คยูฮยอนพูดพร้อมกับเปิดประตูแล้วเบี่ยงตัวหลบให้ฮันคยองเดินเข้าไปก่อน
ภายในห้องของเด็กหนุ่มถูกตกแต่งด้วยสีดำและสีขาวเสียเป็นส่วนใหญ่ ดูๆไปแล้วก็เหมือนกับห้องของผู้ชายทั่วไป จะแตกต่างก็ตรงที่เฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ดูจะหรูหรามีสไตล์กว่า
“เชิญชื่นชมซะให้พอใจนะ แต่อย่าจิ๊กอะไรของฉันไปก็แล้วกัน เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำซะ ห้องน้ำอยู่ด้านนู้น เดี๋ยวฉันจะลงไปช่วยแม่หาของก่อน”
น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียบๆ
เมื่อร่างสูงเห็นว่าฮันคยองพยักหน้ารับแล้วจึงเดินออกไป ปล่อยให้ร่างบางสำรวจรอบๆห้องและทำธุระส่วนตัวของตัวเอง
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
“มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอแม่?” เด็กหนุ่มร่างสูงถามขึ้นทันทีที่เดินเข้าไปถึงห้องนั่งเล่นซึ่งมี โจ แจวอน ผู้เป็นแม่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“อืม นั่งก่อนสิลูก” แจวอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตาลูกชาย
“จะคุยยาวเหรอครับ? ถึงกับต้องให้นั่งเลย?”
“เปล่าหรอก แต่อยากให้ตั้งใจฟังดีๆเท่านั้นแหละ”
“......” ร่างสูงไม่พูดอะไร ดวงตาคมกริบสบตากับแจวอนตรงๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเขาพร้อมที่จะรับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะพูดแล้ว
“ฮันคยองเขามีปัญหาอะไรที่บ้านหรือเปล่า?”
“เขาเพิ่งเลิกกับแฟนน่ะแม่ แล้วก็คงจะรักกันมากมั้ง เลยทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับบรรยากาศเดิมๆคนเดียว” คยูฮยอนตอบตรงๆ
‘ผมรู้ดีว่ามันเป็นการเสียมารยาทที่เอาเรื่องของคนอื่นมาพูดแบบนี้ แต่สิ่งที่ผมรู้ดีกว่าก็คือแม่ของผมรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว นี้ไม่ใช่สิ่งที่ท่านอยากจะรู้จากผมจริงๆหรอก อัจฉริยะอย่างผมดูออก’
“เขาขอให้ลูกพาเขามาค้างที่นี่เหรอ?” แจวอนถามต่อ
‘นั่นไงล่ะ ผมว่าแล้ว ทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างนะ?......จะถูกได้ยังไงล่ะ ก็ผมไม่เคยซื้อหวย อย่างผมน่ะต้องเล่นหุ้น’
“เปล่า ผมบอกให้เขามาค้างที่นี่เองแหละ”
“แล้วลูกให้เขามาค้างที่นี่ทำไม?”
“ก็ผมเห็นว่าสภาพจิตใจเขาย่ำแย่มาก ถ้าอยู่คนเดียวจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมไม่อยากเป็นข่าวเพราะคนข้างบ้านดับอนาถนะ แต่ถ้าแม่ไม่พอใจ ผมพาเขากลับไปส่งที่บ้านตอนนี้เลยก็ได้” ร่างสูงเริ่มหงุดหงิดเมื่อถูกผู้เป็นแม่ซักไซ้ด้วยท่าทางที่เดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“แม่ไม่ได้ไม่พอใจนะ แม่เองก็เป็นห่วงฮันคยองเหมือนกัน แล้วแม่ก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือเขาเต็มที่ แต่เพราะแม่เป็นห่วงทั้งลูกแล้วก็ฮันคยองนี่แหละ แม่ถึงต้องถามแบบนี้”
“......”
“ลูกไม่ใช่เด็กๆอีกต่อไปแล้วนะคยูฮยอน ต่อไปนี้จะทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นลูกอาจจะทำให้คนอื่นหรือแม้แต่ตัวลูกเองเสียใจได้ สักวันลูกจะเข้าใจ แม่พูดได้แค่นี้แหละ” แจวอนโน้มตัวมาจูบแก้มราตรีสวัสดิ์ลูกชายก่อนที่จะเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง ทิ้งให้ร่างสูงนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาตัวหรูเพียงลำพัง
‘ทำไมวันนี้มันถึงมีเรื่องที่อัจฉริยะอย่างผมไม่เข้าใจเยอะจังนะ?’
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
เด็กหนุ่มร่างสูงเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเองโดยที่เสียงของผู้เป็นแม่ยังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา
‘แม่ต้องการจะบอกอะไรผมกันแน่เนี่ย?’ ร่างสูงพยายามคิดทบทวน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เข้าใจ บางทีตอนนี้มันอาจจะดึกเกินกว่าที่จะมานั่งคิดอะไรล่ะมั้ง?
คยูฮยอนสลัดความคิดนั้นออกจากหัวก่อนที่จะเปิดประตูห้องนอนของตัวแล้วเดินเข้าไป
ร่างสูงพบว่าฮันคยองที่อยู่ในชุดนอนสีฟ้าอ่อนกำลังนั่งอยู่หน้าเปียโนในห้องของเขา เรียวนิ้วสวยไล่ไปตามคีย์ต่างๆแต่ก็ไม่ได้กดลงไป
ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับขยับตัวออกห่างจากเปียโนตัวใหญ่โดยอัตโนมัติ
“นายเล่นเปียโนด้วยเหรอ?” ฮันคยองถามร่างสูงด้วยเสียงอ่อยๆ
“......” ร่างสูงทำหน้านิ่ง ไม่ได้ตอบอะไร
“เอ่อ...ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะยุ่งกับของส่วนตัวของนาย” ร่างบางกล่าวขอโทษพร้อมกับก้มหัวให้อีกฝ่ายเมื่อเห็นว่าร่างสูงยังไม่ยอมพูดอะไรกับเขาเลยแม้แค่คำเดียว
‘โดนโกรธซะแล้วเหรอเนี่ย? ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเปียโนนี่เป็นของสำคัญถึงขนาดแตะต้องไม่ได้น่ะ ก่อนไปก็ไม่เห็นบอกอะไรสักคำ’
ร่างสูงถอนหายใจพรืดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกลัวเขามากเพียงใด
‘จะกลัวอะไรกันนักหนา? ผมไม่ได้จะฆ่าจะแกงเขาสักหน่อย คนหล่อเครียดครับ ผมล่ะไม่เข้าความคิดของคนธรรมดาเลยจริงๆ’
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย อยากเล่นก็เล่นไปสิ” คยูฮยอนพูดห้วนๆก่อนที่จะเดินไปนั่งบนเก้าอี้นวมสีดำตัวใหญ่พร้อมกับหยิบหนังสือเล่มหนาขึ้นมาอ่าน
“......”
“......”
ร่างสูงละสายตาจากหนังสือที่อ่านอยู่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป
“เป็นอะไรล่ะ? ทำไมไม่เล่น? ฉันรอฟังอยู่นะ? หรือว่านายเล่นเปียโนไม่เป็น?” เด็กหนุ่มถามด้วยแววตาท้าทาย
“เล่นเป็นสิ! เปียโนน่ะเป็นเครื่องดนตรีชนิดเดียวที่ฉันเล่นเป็นเลยนะ!” ร่างบางเถียงทันควัน
“ว้าว~ เป็นเครื่องดนตรีชนิดเดียวที่เล่นเป็นเลยเหรอ? น่าภูมิใจมากเลยนะนั่น” ร่างสูงหัวเราะ
ฮันคยองหน้าขึ้นสีเพราะเพิ่งจะรู้ตัวว่าสิ่งที่พูดไปนั้นนอกจากจะไม่ทำให้ตัวเองดูดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการเผยให้ร่างสูงรู้อีกด้วยว่าเขาไร้ความสามารถขนาดไหน
‘อ๊าก ปากพาซวย ไม่น่าปากไวเลยผม ดูสายตาที่เขามองผมสิ! เขากำลังเยาะเย้ยผมอยู่ชัดๆเลยนะนั่น’
“เล่นให้ฉันฟังสักทีสินาย ยืนนิ่งอยู่ทำไมล่ะ? อย่าบอกนะว่าเล่นเป็นอยู่แค่อย่างเดียวแล้วยังจะเล่นไม่เก่งอีกน่ะ?”
“ไม่ใช่ซะหน่อย! แต่ตอนนี้มันก็ดึกแล้วนะ มันจะไม่เสียงดังรบกวนพ่อแม่นายเหรอ?”
“ไม่หรอก ห้องฉันเป็นห้องเก็บเสียง ทีนี้จะเล่นให้ฉันฟังได้หรือยัง?”
ร่างบางทำหน้ายู่ แต่ก็ยอมเดินกลับไปนั่งหน้าเปียโนสีชมพูอ่อนโดยดี
‘เปียโนสีชมพูอ่อน? สีชมพูอ่อน? ใช่แล้วครับ พวกคุณฟังไม่ผิดหรอก เปียโนตัวนี้เป็นสีชมพูอ่อนจริงๆ มันเป็นสิ่งของอย่างเดียวในห้องนี้ที่ไม่ใช่
สีขาวดำ ผมเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่เห็นมันในห้องของคนๆนี้ เพราะดูจากบุคลิกแล้ว เขาไม่น่าจะมีรสนิยมแบบนี้เลย’
“เปียโนตัวนี้น่ะของนายจริงๆเหรอ?” ร่างบางถามออกไปตรงๆด้วยความสงสัย เพราะไม่ว่าจะดูมุมไหน ร่างสูงผู้เป็นเจ้าของห้องก็ไม่น่าจะชอบ
สีโทนนี้ และอีกอย่างร่างสูงก็ดูไม่เหมือนคนที่ชอบเล่นเปียโนด้วย
“อืม ของฉัน เพิ่งจะเล่นเป็นเมื่อไม่นานนี่เอง” ร่างสูงตอบเรียบๆ
“ฟังจากน้ำเสียงของนายแล้ว เหมือนนายจะไม่ได้ชอบเปียโนสักเท่าไหร่เลยนี่ แล้วนายจะเล่นไปทำไมกัน?”
“ใช่ ฉันไม่ได้ชอบเปียโน แต่คนที่ฉันรักเขาชอบเปียโนแล้วก็ชอบสีชมพูด้วยน่ะสิ ทีนี้นายจะเลิกสงสัยได้หรือยังว่าทำไมถึงมีเปียโนสีชมพูอยู่ในห้องของฉัน?” ถึงแม้ว่าจะตอบด้วยถ้อยคำกวนประสาทแต่น้ำเสียงทุ้มต่ำนั้นก็ถูกเจือด้วยความเศร้าจนฮันคยองอดที่จะสงสารไม่ได้
“นายต้องรักเขามากแน่ๆเลยถึงได้ยอมลงทุนขนาดนี้น่ะ แปลกนะ ทั้งๆที่นายพยายามมากขนาดนี้แต่ทำไมเขาถึง...” ยังไม่ทันที่ร่างบางจะต่อประโยคจนจบ ร่างสูงก็สวนขึ้นมาเสียก่อน
“นั่นมันไม่ใช่เรื่องของนาย! นายไม่จำเป็นที่จะต้องรู้!” ร่างสูงตะคอก
วินาทีนั้น ฮันคยองสาบานได้ว่าเขาเห็นน้ำตาของเด็กหนุ่มที่พร้อมจะไหลออกมาจากดวงตาแข็งกร้าวนั้นทุกเมื่อ
“ขอโทษนะ ฉันพูดอะไรโง่ๆออกไปอีกแล้ว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายต้องคิดถึงมันอีก ขอโทษจริงๆนะ” ดวงตาเรียวสวยของร่างบางเองก็รื้นไปด้วยน้ำตาเช่นกัน
เขาทั้งรู้สึกผิดที่ยุ่งอะไรไม่เข้าเรื่องจนทำให้อีกฝ่ายโมโหและตกใจที่อีกฝ่ายตะคอกใส่เขาด้วยท่าทางน่ากลัวแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
คยูฮยอนเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยเหมือนกันที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จนต้องระเบิดอารมณ์ใส่ร่างบางอีกครั้งทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหากจะว่าไปแล้ว เพียงแต่มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจของเขาและเขาก็ไม่อยากกลับไปคิดถึงมันอีกก็เท่านั้นเอง
‘เอาอีกแล้วครับ ผมทำให้เขากลัวจนน้ำตาซึมอีกแล้ว เมื่อไหร่เขาถึงจะเลิกกลัวผมสักทีนะ? เมื่อไหร่เขาจะเข้าใจว่าผมก็เป็นคนเจ้าอารมณ์ของผมอย่างงี้แหละ? เฮ้อ~ คนหล่อเบื่อจริงจริ๊ง สงสัยต่อไปนี้ผมคงต้องใจเย็นให้มากกว่านี้เวลาอยู่กับเขาซะล่ะมั้ง?’
“เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ...นายลองเล่นเปียโนให้ฉันฟังสักเพลงสิ ฉันอยากรู้ว่านายจะเก่งเหมือนที่พูดหรือเปล่า” เด็กหนุ่มพูดแล้วยกยิ้มให้ร่างบางอย่างท้าทาย
ร่างบางยิ้มออกมาบ้างก่อนที่เรียวนิ้วสวยจะเริ่มบรรเลงเพลงไปตามอารมณ์ของเจ้าตัว
ท่วงทำนองหวานปนเศร้าที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวโน้ตแต่ละตัวนั้นบาดลึกเข้าไปในจิตใจของคนที่ได้ฟัง แม้กระทั่งคนที่มีจิตใจเข้มแข็งอย่างคยูฮยอนก็อดที่จะรู้สึกเศร้าไปกับเพลงไม่ได้
“เล่นซะเศร้าเลยนะ กลัวชาวบ้านเขาไม่รู้หรือไงว่าเพิ่งอกหักมาน่ะ?” ร่างสูงแซว
ฮันคยองยิ้มบางๆ นิ้วเรียวยังคงบรรเลงเพลงอย่างต่อเนื่อง
“ให้ชาวบ้านเขารู้ก็ดีเหมือนกันนะ ฉันจะได้ไม่ต้องแบกรับความรู้สึกบ้าๆนี่ไว้คนเดียวไงล่ะ” ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถึงแม้ว่าจะพยายาม
ฝืนยิ้ม แต่ในที่สุดน้ำตาก็เป็นฝ่ายชนะ
ร่างบางของฮันคยองเริ่มสั่นเพราะแรงสะอื้นจนไม่สามารถเล่นเปียโนต่อไปได้อีก
“นี่ ถ้ามันเจ็บนักก็ระบายออกมาเถอะ ร้องออกมาซะให้หมด จะได้ไม่ต้องไปร้องบนหมอนของฉัน”
คำพูดปลอบใจในแบบฉบับของร่างสูงทำให้ร่างบางนึกอะไรขึ้นมาได้
“เออใช่ ฮึก แล้วนาย ฮึก จะให้ฉันนอนที่ไหนเนี่ย?” ฮันคยองถามทั้งๆที่ยังไม่หยุดสะอื้น
“ก็นอนที่นี่ไง” คยูฮยอนตอบสั้นๆ
“เฮ้ย ได้ไง? แล้วนายจะลงไปนอนที่พื้นเหรอ?”
ร่างสูงเบ้ปากเมื่อได้ยินคำถามของอีกฝ่าย
‘พ่อคุณเอ้ย~ ไม่ได้เกรงใจกันเลยใช่มั้ย? มาค้างบ้านคนอื่นแล้วยังจะให้เจ้าของบ้านเขาลงไปนอนที่พื้นอีก คิดได้ไงครับเนี่ย?’
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน(??)หรอกน่า ห้องฉันมีสองเตียง” เด็กหนุ่มตอบ
“สองเตียง? เอาไว้ทำไมล่ะ? นายเป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ?” เมื่อหยุดสะอื้น ร่างบางก็เริ่มทำตัวเป็นผู้ใหญ่ขี้สงสัยทันที
“ก็ตอนที่ฉันจะสารภาพรักกับพี่ซองมินน่ะ คิดว่าถ้าพี่เขาตกลงปลงใจกับฉัน ฉันก็จะจับพี่เขากดเลย ก็เลยซื้อเตียงเอาไว้เผื่อพี่เขาด้วย” ร่างสูงพูดประชด แต่แล้วก็ต้องกุมขมับเมื่อเห็นร่างบางถอยห่างจากเขาไปจนติดผนังห้องแล้วตอนนี้
“เจ้าบื้อเอ๊ย! นี่นายคิดว่าฉันพูดจริงงั้นเหรอ? ฉันไม่ได้หื่นขนาดนั้นนะ! อีกอย่างถ้าฉันจะจับพี่เขากดจริงๆฉันทำบนเตียงของฉันก็ได้ ทำไมฉันถึงต้องซื้อเตียงอีกเตียงให้มันรกห้องด้วยล่ะ? ก่อนจะเชื่ออะไรก็คิดซะบ้างสินายน่ะ!” เด็กหนุ่มร่ายยาว
‘ให้ตายเถอะคนเรา อะไรมันจะซื่อบื้อได้ขนาดนี้นะ คนหล่อไม่เข้าใจจริงๆ ใครก็ได้ช่วยบอกผมทีว่าคนธรรมดาอย่างเขาคิดอะไรอยู่’
“แล้วถ้าอย่างงั้นนายจะซื้อเตียงอีกเตียงไว้ทำไมล่ะ?” ร่างบางถามด้วยท่าทางไม่ไว้ใจ
“บางทีแม่หรือไม่ก็พ่อจะมานอนคุยกับฉันที่นี่น่ะสิ ถ้าจะนอนเตียงเดียวกันมันก็แคบเกินไปหน่อย ฉันกลัวว่าพวกท่านจะนอนไม่สบายก็เลยซื้อเตียงเพิ่มมันซะเลย ทีนี้นายจะเลิกกลัวแล้วเข้ามาใกล้ๆฉันได้หรือยัง?” ร่างสูงตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
ฮันคยองค่อยๆเดินเข้ามาใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นหลังจากที่ได้ฟังคำอธิบาย
“แล้วทำไมนายถึงต้องให้ฉันนอนที่ห้องนี้ด้วยล่ะ? ไม่รู้สึกแปลกๆหรือไงที่มีคนอื่นมานอนในห้องของตัวเองน่ะ? ฉันไปนอนที่ห้องรับแขกก็ได้นะ” ร่างบางถามอีกฝ่าย ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะไม่ไว้ใจแต่เป็นเพราะเขารู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายมากกว่า
“นายนี่ไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆให้ตายเถอะ ถ้าฉันจะปล่อยนายให้ไปไกลหูไกลตาแบบนั้น ทำไมฉันถึงจะต้องลงทุนพานายมาที่บ้านฉันด้วยฮะ?
ถ้าฉันจะปล่อยให้นายไปนอนที่ห้องรับแขกคนเดียว สู้ฉันพานายกลับไปส่งบ้านไม่ดีกว่าเหรอ? ที่ฉันลากนายมาที่นี่เป็นเพราะฉันกลัวว่าถ้านายอยู่คนเดียวแล้วจะทำอะไรโง่ๆอีก เข้าใจมั้ย? เพราะฉะนั้นรู้เอาไว้เลยว่าคืนนี้ฉันไม่ปล่อยให้นายคลาดสายตาแน่ๆ!” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
ฮันคยองลอบยิ้มบางๆกับตัวเอง
‘ถึงเขาจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ผมก็พอจะรับรู้ได้ว่าเขาห่วงผมบ้างล่ะนะ’
“ไปล้างหน้าล้างตาซะสิ จะได้เข้านอนสักที ตานายปรือจนจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้วนะรู้ตัวหรือเปล่า?” เมื่อร่างสูงพูดจบประโยค ร่างบางก็หันมาค้อนควับ
“ไม่ใช่เว้ย ฉันตาตี่ ลืมตาให้โตสุดๆแล้วได้แค่นี้แหละเฟร้ย ฉันเป็นคนจีนนะ!” ฮันคยองโวยวาย
“อ้าวเหรอ? ฮะๆๆ โทษทีๆ” ร่างสูงกล่าวขอโทษ แต่แววตาทะเล้นนั้นก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังดูจะชอบใจเสียด้วยซ้ำที่แกล้งอีกฝ่ายได้อีกครั้ง
ฮันคยองเดินกระแทกเท้าเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา เมื่อเขาออกมาเด็กหนุ่มร่างสูงก็เข้าไปอาบน้ำต่อ
ร่างบางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม สักพักต่อมาความง่วงก็เข้าโจมตีทำให้สติของเขาเริ่มเลือนรางไปทีละน้อย เขารับรู้ว่าร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็ล้มตัวลงนอนที่เตียงข้างๆ
ค่ำคืนนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีอ้อมแขนแข็งแกร่งของคนๆนั้นที่คอยโอบกอดเขาไว้ แต่เสียงลมหายใจของร่างสูงที่นอนอยู่ในห้องเดียวกันก็ทำให้เขารู้ว่า ตัวเองไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
ฮันคยองยิ้มอย่างอุ่นใจก่อนที่จะจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา
ตรงข้ามกับร่างสูงที่พยายามข่มตาให้หลับแต่ทำอย่างไรก็หลับไม่ลง ทั้งๆที่เขาเองก็เห็นกับตาว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้วและคงจะไม่ทำอะไรโง่ๆอีก แต่เขาก็ยังไม่สามารถละสายตาจากดวงหน้าหวานของอีกฝ่ายได้เสียที
ร่างสูงยิ้มออกมาด้วยความสุขที่ตัวเองก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไร
To be continued
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
Talk: ตอนนี้มาลงได้ทันกำหนด1อาทิตย์ค่ะ หุๆ อาทิตย์นี้ไม่ค่อยมีงานเลยมีเวลาปั่นฟิค แต่ตอนหน้าอาจจะนานหน่อยนะคะ
อาทิตย์หน้านี้งานเข้ามากมายค่ะ ทั้งการบ้าน ทั้งสอบ ทั้งไปแข่งนู่นแข่งนี่ บลาๆๆ อยากให้ผ่านอาทิตย์หน้าไปไวๆจังเลยค่ะ T-T
จะพยายามมาลงต่อให้เร็วที่สุดนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านเช่นเคยค่ะ ไรเตอร์รักทุกคน เจอกันตอนหน้านะคะ ^o^
ความคิดเห็น