คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The Perfect Boy Next Door Part 3
Title: The perfect boy next door
Author: imazawa
Pairing: Kyuhyun/Hangeng
Rate: PG-13
Part 3
ร่างบางเดินตามร่างสูงไปบนถนนที่กลายเป็นสีส้มด้วยแสงจากไฟข้างทางอย่างเงียบๆ
เขาเองก็รู้สึกแปลกอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเดินตามคนอื่นกลับบ้านของตัวเองวันนี้แหละ
“ส่งฉันแค่นี้ก็ได้ นายกลับบ้านเถอะ ขอบใจมากนะ” ฮันคยองตัดใจพูดขึ้นในที่สุด
เขารู้ว่าเด็กหนุ่มร่างสูงคนนี้ไม่เต็มใจที่จะเดินมาส่งเขา ถึงแม้ว่าเขาจะอยากให้ใครสักคนอยู่เป็นเพื่อนแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าอีกฝ่ายแสดงออกมาว่า
ไม่พอใจอย่างชัดเจนขนาดนี้ เขาก็คงไม่กล้าพอที่จะรั้งอีกฝ่ายไว้
“ไม่ได้ ฉันรับปากพ่อกับแม่แล้วว่าจะไปส่งนายที่บ้าน” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆเช่นเคย ขายาวก็ยังก้าวต่อไปไม่หยุด ราวกับว่าอยากจะไปให้ถึงจุดหมายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ฉันไม่เอาไปฟ้องคุณลุงกับคุณป้าหรอกน่า ฮะๆๆ เพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่าเด็กอย่างนายกลัวพ่อแม่ด้วย” ร่างบางพูดกลั้วหัวเราะ
ร่างสูงที่ตั้งหน้าตั้งตาเดินอยู่เมื่อสักครู่นี้ชะงักฝีเท้าแล้วหันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
แววตาแข็งกร้าวของเด็กหนุ่มทำให้ร่างบางรู้สึกตกใจไม่น้อย
“ฉันไม่ใช่คนหน้าไหว้หลังหลอกนะ! ฉันรักษาสัญญาเสมอ โดยเฉพาะสัญญากับพ่อแม่ ไม่ว่าพวกท่านจะทราบหรือไม่ทราบ ฉันก็ไม่มีวันผิดสัญญาเด็ดขาด!” คยูฮยอนตะคอกใส่อีกฝ่ายด้วยความโมโห
เขารู้ว่าร่างบางอายุมากกว่าและมันเป็นการเสียมารยาทมากที่เขาพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแบบนั้น แต่นั่นเป็นเพราะเขาทนไม่ได้จริงๆที่อีกฝ่ายเข้าใจเขาผิด
‘นี่หายเห็นฉันเป็นคนแบบไหนกันเนี่ย?’
ร่างบางอึ้งไปเมื่อถูกอีกฝ่ายตะคอกใส่แบบนั้น แต่แทนที่เขาจะโกรธ เขากลับรู้สึกผิดและชื่นชมในตัวอีกฝ่ายเสียมากกว่า
“นายเป็นเด็กดีกว่าที่ฉันคิดนะเนี่ย ขอโทษทีนะที่เข้าใจนายผิด ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะดูถูกนาย” ฮันคยองพูดพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างเคยแล้วก้มหัวให้อีกฝ่ายเล็กน้อยเป็นการขอโทษ
เด็กหนุ่มถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นร่างบางทำแบบนั้น
เขายืนนิ่งอยู่พักใหญ่จนกระทั่งเสียงของอีกฝ่ายเรียกสติของเขากลับมา
“นิ่งทำไมล่ะ? เดินต่อสิ เดี๋ยวก็เช้าซะก่อนหรอก” ฮันคยองนำคำพูดแสบๆคันๆที่ร่างสูงชอบใช้มาเป็นเครื่องมือเล่นงานอีกฝ่ายเสียเอง
คยูฮยอนเบ้ปากด้วยความไม่พอใจแล้วก็เริ่มต้นเดินต่อไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งทั้งสองคนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของฮันคยองในที่สุด
“เข้ามาในบ้านก่อนมั้ย? เดี๋ยวฉันหาอะไรมาให้ดื่ม ตอบแทนที่นายมาส่งฉันไงล่ะ” ร่างบางเอ่ยชวนพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร
“ไม่ล่ะ ฉันจะกลับบ้านแล้ว” เด็กหนุ่มร่างสูงปฏิเสธทันควัน
“นั่นสินะ คนรวยอย่างนายน่ะคงไม่อยากเข้าไปในที่แคบๆโทรมๆอย่างบ้านฉันหรอก” ร่างบางแกล้งพูดเสียดสีอีกฝ่าย เพราะเขารู้ว่า
ปฏิกิริยาตอบสนองของร่างสูงจะต้องออกมาเหมือนที่เขาคิดไว้แน่ๆ
“ไม่ใช่นะ! ฉันเองก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกับนายนั่นแหละ ยืนนิ่งอยู่ทำไมล่ะ? เปิดประตูเร็วๆเข้าสิฉันจะได้เข้าไป!”
ร่างบางแอบยิ้มอย่างพอใจ
‘เห็นมั้ยล่ะ? เป็นอย่างที่ผมคิดเลย ทีนี้ก็ได้เพื่อนอยู่ด้วยแล้ว’
เมื่อฮันคยองเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ความรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจก็จู่โจมเขาอีกครั้ง
‘หึ กลิ่นของนายยังติดอยู่เลยนะซีวอน แล้วอย่างงี้เมื่อไหร่ฉันจะลืมนายได้ล่ะ?’
“โห บ้านนายนี่เรียบร้อยจังแฮะ ดูไม่ออกเลยนะว่านายเป็นคนเจ้าระเบียบ” ร่างสูงเอ่ยชมเจ้าของบ้านด้วยคำพูดเจ็บๆตามแบบฉบับของตัวเอง
“ฮะๆๆ นายดูไม่ผิดหรอก ฉันไม่ใช่คนเจ้าระเบียบจริงๆ นี่น่ะ...ฝีมือซีวอนทั้งนั้นแหละ” ร่างบางพูดแล้วหัวเราะฝืดๆ
“......” เด็กหนุ่มร่างสูงพูดอะไรไม่ออกเมื่อรู้ว่าคำพูดของตัวเองไปสะกิดโดนอะไรบางอย่างในใจของร่างบางเข้าเสียแล้ว ใจหนึ่งเขาก็อยากจะ
กล่าวคำขอโทษ แต่ปากของเขาหนักเหลือเกิน
“เฮ้ย! ไม่ต้องรู้สึกผิดไปหรอกน่า ฉันไม่เป็นไรสักหน่อย ก็บอกแล้วไงว่าฉันเข้าใจเขา เราจากกันด้วยดี” ฮันคยองตบไหล่ของร่างสูงสองสามทีแล้วพยายามทำให้ตัวเองดูร่าเริง
“......” คยูฮยอนเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า ‘แน่ใจเหรอว่านายไม่เป็นอะไรจริงๆ?’
หากใครได้เห็นสายตาคมกริบของร่างสูงที่จ้องมองมาอย่างคาดคั้นแบบนี้ก็คงจะต้องยอมบอกทุกอย่างออกมาแน่ๆ...ฮันคยองเองก็เช่นกัน...
“ฉันไม่เป็นไรจริงจริ๊ง... ก็แค่...คิดถึงนิดหน่อยเท่านั้นแหละ” ร่างบางสารภาพออกมาในที่สุด
รอยยิ้มยังคงไม่เลือนหายไปจากใบหน้าหวาน หากแต่แววตากลับหมองหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว รีบไปหาอะไรมาให้ฉันดื่มเร็วๆสิ เดินมาเหนื่อยจะแย่” ร่างสูงพยายามเปลี่ยนเรื่องพูด
‘ผมไม่ได้เห็นแก่กินนะ แต่มันทำตัวไม่ถูกนี่นา เรื่องปลอบใจคนเนี่ย ผมไม่ถนัดเอาซะเลย’
“ได้ๆ งั้นนายไปนั่งรอในห้องรับแขกก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันมา” ฮันคยองพูดกับอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องครัว
ทันทีที่ร่างบางเปิดสวิตช์ไฟ แสงจากอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะทานอาหารก็แวบเข้าตาของเขา
ฮันคยองหันไปดูสิ่งนั้นด้วยหัวใจที่หนักอึ้งแล้วก็พบว่ามันเป็นกุญแจสำรองของบ้านหลังนี้ที่เขาเคยมอบให้กับอดีตคนรัก ใต้กุญแจนั้นมีกระดาษโน้ตสีฟ้าสดใสวางอยู่ด้วย
มือบางที่สั่นเทาเก็บกุญแจใส่ในกระเป๋ากางเกงอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนที่จะหยิบกระดาษโน้ตที่ถูกวางอยู่ขึ้นมาอ่าน
‘พี่เกิง...กุญแจนี้ ต่อไปผมคงจะไม่ได้ใช้มันอีกแล้ว ผมคืนให้พี่นะครับ แต่ว่าพวงกุญแจรูปสิงโตคู่กับลูกแกะที่พี่ทำให้ผมนั่นผมขอเก็บเอาไว้แล้วกัน หวังว่าพี่คงจะไม่ว่าอะไร ดูแลตัวเองดีๆนะครับพี่ ซีวอน’
น้ำตาที่เคยเหือดแห้งไปกลับเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง นิ้วเรียวกดที่บริเวณหัวตาเพื่อห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล เขาพยายามกัดฟันเพื่อไม่ให้มีเสียงสะอื้นหลุดออกมา เขาไม่อยากร้องไห้ แต่การที่ต้องกลั้นเอาไว้มันก็ทำให้เขาอึดอัดเหลือเกิน
‘ทำไมล่ะซีวอน? ทั้งๆที่นายตัดสินใจเดินจากฉันไปแล้ว แต่ทำไมถึงยังใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆของเราอยู่อีก? ทำไมถึงยังใส่ใจเรื่องของฉันอยู่อีก?
แล้วแบบนี้ฉันจะตัดใจจากนายได้ยังไง? ตลอดเวลาที่เราคบกันนายดีกับฉันทุกอย่าง ไม่เคยทำให้ฉันเสียใจ แต่ทำไมตอนนี้นายถึงได้ใจร้ายกับฉันเหลือเกินซีวอน? ความอ่อนโยนของนายกำลังทำร้ายฉันอยู่นะ รู้ตัวบ้างหรือเปล่า?’
ร่างบางถอนหายใจยาวแล้วสะบัดหัวแรงๆราวกับว่านั่นจะสามารถช่วยลบเลือนความเศร้าออกไปได้
ฮันคยองเปิดตู้เย็นแล้วหยิบกระป๋องเบียร์กับน้ำอัดลมออกมาก่อนที่จะเดินออกจากห้องครัวไป
“มาแล้วๆ ขอโทษนะรอนานหรือเปล่า?” ร่างบางปรับสีหน้าให้ดูร่าเริงขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย
เด็กหนุ่มร่างสูงที่กำลังถือรีโมททีวีอยู่ในมือหันมาทำหน้าเบื่อโลกสุดขีดให้ร่างบางที่เพิ่งจะเดินเข้ามา
“นานมาก! บ้านเล็กแค่นี้ทำไมนายใช้เวลานานนักฮะ? ไอ้ทีวีบ้านนายนี่ก็น่าเบื่อเหลือเกิน ทำไมมันถึงมีแค่ห้าช่องล่ะ?” คยูฮยอนบ่นยาว
อย่างไม่สบอารมณ์
“ฮะๆๆ ขอโทษนะขอรับคุณชาย พอดีกระผมไปเก็บของนิดหน่อยก็เลยช้าน่ะขอรับ” ฮันคยองเอ่ยแซวร่างสูงพร้อมรอยยิ้ม
คยูฮยอนมองร่างบางตาขวาง
“เอ้า! แล้วไหนน้ำของฉัน?” ร่างสูงถามเสียงเข้ม
“นายอายุเท่าไหร่แล้ว?” ร่างบางไม่ตอบแต่ถามกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกงงไม่น้อย
“สิบแปด อีกครึ่งปีจะสิบเก้า ถามทำไม?”
“ยังดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้สินะ งั้นเอานี่ไปละกัน” ฮันคยองพูดพร้อมกับยื่นกระป๋องน้ำอัดลมให้เด็กหนุ่ม
“ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ เอามานี่ฉันดื่มได้” คยูฮยอนเถียงแล้วพยายามแย่งกระป๋องเบียร์จากมือของร่างบาง
“ไม่ได้ๆ นายต้องรอให้อายุครบยี่สิบก่อน ไหนบอกว่าไม่ใช่คนหน้าไหว้หลังหลอกไง? ไหนบอกว่าเป็นคนรักษาสัญญาโดยเฉพาะสัญญากับพ่อแม่ไง?” ร่างบางเอ่ยปากห้าม
“ไม่เคยสัญญาว่าจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์นี่” ร่างสูงยังเถียงไม่เลิก
ฮันคยองส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของอีกฝ่าย
“ไม่ได้นะ ถ้าพ่อกับแม่นายรู้ว่านายดื่มของแบบนี้ทั้งๆที่อายุยังไม่ครบกำหนด นายคิดว่าพวกท่านจะรู้สึกยังไง? จะไม่ผิดหวังในตัวนายเหรอ? แล้วถ้าพวกท่านรู้ว่าฉันเป็นคนให้นายดื่มพวกท่านก็จะรู้สึกแย่กับฉันไปด้วย ที่สำคัญนะ มันไม่ดีต่อสุขภาพและสมองอันชาญฉลาดของนาย เข้าใจมั้ย?”
ร่างอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนอีกฝ่ายต้องยอมแพ้
“เฮอะ ก็รู้นี่ว่าไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วยังจะดื่มอีกทำไม?” เด็กหนุ่มร่างสูงยังไม่วายบ่นแต่ก็ยอมรับน้ำอัดลมมาดื่มแต่โดยดี
ฮันคยองหัวเราะเบาๆกับท่าทางของคนที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนที่จะเปิดฝากระป๋องเบียร์ในมือของตัวเองแล้วยกขึ้นจิบ
รสชาติขมเฝื่อนทำให้ร่างบางเบ้ปาก
‘ซีวอนดื่มเข้าไปได้ยังไงทุกวันนะ ไม่เห็นจะอร่อยเลย อา ~ ผมวกไปคิดเรื่องซีวอนอีกแล้วเหรอเนี่ย? ทำยังไงดีล่ะ? ผมอยากจะหยุดคิดเรื่องของเขาเร็วๆจัง’
ร่างบางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าถือของตัวเองก่อนที่จะหยิบแผงยาสีขาวออกมา
ร่างสูงมองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยความสงสัยแล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอมเบียร์เอาไว้และกำลังจะใส่ยาเข้าปาก
“หยุดนะ! นายคิดจะทำบ้าอะไรของนายน่ะ?!” คยูฮยอนปัดยาสีขาวที่อยู่ในมือบางทิ้งอย่างรวดเร็วก่อนที่อีกฝ่ายจะได้กินมัน
“แค่กๆๆ อะไรของนายเนี่ย? มาปัดยานอนหลับของฉันทำไม?” ร่างบางขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ
“นายนั่นแหละเป็นอะไร? อยากตายมากนักเหรอ?! เมื่อเย็นก็สูบบุหรี่ คราวนี้จะกินยานอนหลับพร้อมกับเบียร์ นายอยากตายมากเลยใช่มั้ย?!” ร่างสูงตวาดใส่ร่างบางด้วยความโกรธ
‘ใช่! ผมกำลังโกรธ โกรธมากด้วย! เพราะอะไรน่ะเหรอ? โอ๊ยยย ผมไม่รู้ ผมคงทนเห็นคนทำอะไรงี่เง่าๆแบบนี้ไม่ได้ล่ะมั้ง’
“เปล่านะ! ฉันแค่จะกินยานอนหลับ ฉันอยากนอนพัก ไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายซะหน่อย”
“แต่การที่นายกินยานอนหลับพร้อมกับเบียร์มันอาจจะทำให้นายตายได้รู้หรือเปล่า?!”
ร่างบางเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาไม่รู้จริงๆว่าสิ่งที่เขาจะทำอาจทำให้เกิดผลร้ายกับตัวเองได้ถึงขนาดนั้น
เด็กหนุ่มส่ายหน้าด้วยความเอือมระอาเมื่อเห็นว่าร่างบางคงจะทำไปเพราะความไม่รู้จริงๆ
“เฮ้อ~ ไม่รู้จริงๆสินะเนี่ย? นายเรียนจบจากที่ไหนมา? ฉันจะเขียนจดหมายไปร้องเรียนให้ปิดที่นั่นเดี๋ยวนี้เลย มีอย่างที่ไหนเรื่องสำคัญแบบนี้ไม่ยอมสอนเด็ก” ร่างสูงพูดด้วยท่าทางจริงจังจนร่างบางต้องรีบปราบ
“เอาน่าๆ อย่าไปโทษทางมหา’ลัยเขาเลย ตอนที่อาจารย์สอนเรื่องนี้ฉันอาจจะแอบหลับก็ได้” ร่างบางพูดแล้วยิ้มแห้งๆก่อนที่จะเดินไปเก็บยาที่ตกอยู่บนพื้นไปทิ้งถังขยะ
“นายกินยานอนหลับแบบนี้เป็นปกติเหรอ?” คยูฮยอนถามขึ้นเมื่อร่างบางเดินกลับมานั่งที่โซฟา
“อ๋อ เปล่าหรอก ตั้งแต่เกิดมาฉันเพิ่งจะเคยกินยานอนหลับแค่สองครั้งเอง แต่วันนี้...รู้สึกว่าคงจะนอนไม่หลับแน่ๆก็เลยคิดว่าจะต้องกินน่ะ” ฮันคยองตอบยิ้มๆ
“รู้สึกแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“อืม ก็ไม่เชิงว่าแย่หรอก แต่ยังไม่ชินมากกว่า...มันยากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลย” ประโยคหลังร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายจะเป็นการพูดกับตัวเองเสียมากกว่า แต่โสตประสาทอัจฉริยะของคยูฮยอนก็ยังสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน
ร่างสูงทำท่าครุ่นคิดอะไรอยู่สักพักก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
“คืนนี้ไปค้างบ้านฉัน” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียบๆ ไม่ใช่ประโยคขอร้อง ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคคำสั่ง!
“นายว่าไงนะ?” ร่างบางถามเพราะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า
“ฉันบอกว่าให้นายไปค้างบ้านฉันคืนนี้ไงเล่า! เพราะหูตึงแบบนี้หรือเปล่า เวลาอาจารย์เขาสอนอะไรถึงไม่รู้เรื่องน่ะ?”
“ฉันได้ยินน่าว่านายพูดอะไร ที่ฉันจะถามก็คือ ทำไม?...” ร่างบางพูดได้แค่นั้น อีกฝ่ายก็ขัดขึ้นเสียก่อน
“ฉันไม่ได้เป็นห่วงนายหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด! แค่ไม่อยากให้มีใครมาตายข้างบ้าน ถ้าเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมาจะเดือดร้อนครอบครัวฉันอีก”
คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้ฮันคยองอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“ฮะๆๆ ฉันรู้น่าว่านายไม่ได้เป็นห่วงฉัน แต่ไม่เป็นไรหรอก ไม่อยากรบกวนที่บ้านนายไปมากกว่านี้แล้ว ฉันอยู่คนเดียวได้น่า แล้วก็สัญญาว่าจะไม่ตาย จะไม่ทำให้ครอบครัวนายเดือดร้อนด้วย โอเค๊?”
“ไม่! ไปค้างที่บ้านฉันนั่นแหละดีแล้ว สภาพนายนี้อาจจะทำอะไรลงไปโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้ แล้วถ้าเกิดนายดันเอ๋อ
เหมือนเมื่อกี๊อีกจะทำยังไง?”
“ฉัน...”
“ไปค้างบ้านฉัน” เด็กหนุ่มเอ่ยซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำทรงพลังจนคนฟังไม่อาจปฏิเสธได้
“ไม่รบกวนแน่นะ? คุณลุงคุณป้าจะไม่ว่าเหรอ?” ร่างบางถามด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
“ไม่หรอก พ่อกับแม่ปลื้มนายจะตาย ทีนี้จะไปได้หรือยัง?”
“อืม” ร่างบางพยักหน้ารับในที่สุดก่อนที่จะเดินไปหยิบของใช้ส่วนตัวแล้วเดินตามเด็กหนุ่มร่างสูงไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่อีกครั้งอย่างว่าง่าย
‘พวกคุณคงคิดว่าผมเป็นคนที่ไม่มีความเกรงใจเลยอีกแล้วใช่มั้ย? ไปรบกวนเขาถึงสองครั้งภายในวันเดียว แถมคราวนี้ถึงกับหอบผ้าหอบผ่อนไปค้างบ้านเขาเลยอีกต่างหาก ผมคงเห็นแก่ตัวจริงๆนั่นแหละ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าปัญหามันคืออะไร ไม่ใช่ว่าผมอยู่คนเดียวไม่ได้ แต่ผมอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้ ที่ๆความทรงจำระหว่างซีวอนกับผมสามารถย้อนกลับมาทำร้ายผมได้ทุกเสี้ยววินาที ผมคงต้องใช้เวลาทำใจสักพัก...สักคืนนึงก็ยังดี ไม่ว่าคยูฮยอนเขาจะชวนผมด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หากมันไม่ฝืนใจเขาจนเกินไป ผมก็ยินดีที่จะตอบรับคำชวนของเขาด้วยความเต็มใจและความรู้สึกขอบคุณ เขาเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผมในตอนนี้’
‘ผมรู้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหนเมื่ออยู่ที่นี่ ต้องให้ผมย้ำสักกี่ครั้งกันว่าผมน่ะเป็นอัจฉริยะ รอยยิ้มเสแสร้งของเขามันไม่เนียนเอาซะเลยในเมื่อตาของเขามันฉายแววเศร้าชัดเจนขนาดนั้น ผมเห็นว่าท่าทางเศร้าๆมันไม่เหมาะกับเขา ก็เลยคิดว่าการพาเขาออกไปจากที่นี่น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จะว่าผมเป็นห่วงเขาก็ได้มั้ง ตอนผมเห็นเขากำลังจะกินยานอนหลับพร้อมเบียร์น่ะ ผมตกใจมากเลย ผมไม่อยากเห็นเขาตายต่อหน้าต่อตานี่ ถึงผมจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ก็เถอะ แต่จะให้บอกตรงๆว่าเป็นห่วงน่ะผมทำไม่ได้หรอก มันไม่ใช่ตัวผม เอ๋? ถ้าผมไม่ชอบเขาแล้วทำไมผมถึงต้องห่วงเขาน่ะเหรอ? โอ๊ยยย อย่าถามอะไรยากๆแบบนี้ได้มั้ย? ผมตอบไม่ได้หรอก ไม่รู้สิ ผมก็หาเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน เอาเถอะ สมองอัจฉริยะอย่างผมมันก็ต้องมีเรื่องที่คิดไม่ได้บ้างเหมือนกันแหละน่า’
To be continued
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
Talk: ตอนนี้อาจจะไร้สาระ มึนๆ งงๆหน่อยนะคะ ไรเตอร์แต่งตอนดึกอ่ะค่ะ =_=”
ขอโทษด้วยนะคะที่ครั้งนี้หายไป 2 อาทิตย์เลย ช่วงนี้ยุ่งมากเลยอ่ะค่ะ ปั่นไม่ทันจริงๆ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านนะคะ m(_ _)m เจอกันตอนหน้าค่ะ ^o^
ความคิดเห็น