ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ Yaoi] The Perfect Boy Next Door (KyuHan)

    ลำดับตอนที่ #3 : The Perfect Boy Next Door Part 3

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 53


    Title: The perfect boy next door

    Author: imazawa

    Pairing: Kyuhyun/Hangeng

    Rate: PG-13

     

    Part 3

     

    ร่างบางเดินตามร่างสูงไปบนถนนที่กลายเป็นสีส้มด้วยแสงจากไฟข้างทางอย่างเงียบๆ

     

    เขาเองก็รู้สึกแปลกอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเดินตามคนอื่นกลับบ้านของตัวเองวันนี้แหละ

     

    ส่งฉันแค่นี้ก็ได้ นายกลับบ้านเถอะ ขอบใจมากนะ ฮันคยองตัดใจพูดขึ้นในที่สุด

     

    เขารู้ว่าเด็กหนุ่มร่างสูงคนนี้ไม่เต็มใจที่จะเดินมาส่งเขา ถึงแม้ว่าเขาจะอยากให้ใครสักคนอยู่เป็นเพื่อนแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าอีกฝ่ายแสดงออกมาว่า
    ไม่พอใจอย่างชัดเจนขนาดนี้ เขาก็คงไม่กล้าพอที่จะรั้งอีกฝ่ายไว้

     

    ไม่ได้ ฉันรับปากพ่อกับแม่แล้วว่าจะไปส่งนายที่บ้าน ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆเช่นเคย ขายาวก็ยังก้าวต่อไปไม่หยุด ราวกับว่าอยากจะไปให้ถึงจุดหมายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

     

    ฉันไม่เอาไปฟ้องคุณลุงกับคุณป้าหรอกน่า ฮะๆๆ เพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่าเด็กอย่างนายกลัวพ่อแม่ด้วย ร่างบางพูดกลั้วหัวเราะ

     

    ร่างสูงที่ตั้งหน้าตั้งตาเดินอยู่เมื่อสักครู่นี้ชะงักฝีเท้าแล้วหันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

     

    แววตาแข็งกร้าวของเด็กหนุ่มทำให้ร่างบางรู้สึกตกใจไม่น้อย

     

    ฉันไม่ใช่คนหน้าไหว้หลังหลอกนะ! ฉันรักษาสัญญาเสมอ โดยเฉพาะสัญญากับพ่อแม่ ไม่ว่าพวกท่านจะทราบหรือไม่ทราบ ฉันก็ไม่มีวันผิดสัญญาเด็ดขาด!” คยูฮยอนตะคอกใส่อีกฝ่ายด้วยความโมโห

     

    เขารู้ว่าร่างบางอายุมากกว่าและมันเป็นการเสียมารยาทมากที่เขาพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแบบนั้น แต่นั่นเป็นเพราะเขาทนไม่ได้จริงๆที่อีกฝ่ายเข้าใจเขาผิด

     

    นี่หายเห็นฉันเป็นคนแบบไหนกันเนี่ย?

     

    ร่างบางอึ้งไปเมื่อถูกอีกฝ่ายตะคอกใส่แบบนั้น แต่แทนที่เขาจะโกรธ เขากลับรู้สึกผิดและชื่นชมในตัวอีกฝ่ายเสียมากกว่า

     

    นายเป็นเด็กดีกว่าที่ฉันคิดนะเนี่ย ขอโทษทีนะที่เข้าใจนายผิด ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะดูถูกนาย ฮันคยองพูดพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างเคยแล้วก้มหัวให้อีกฝ่ายเล็กน้อยเป็นการขอโทษ

     

    เด็กหนุ่มถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นร่างบางทำแบบนั้น

     

    เขายืนนิ่งอยู่พักใหญ่จนกระทั่งเสียงของอีกฝ่ายเรียกสติของเขากลับมา

     

    นิ่งทำไมล่ะ? เดินต่อสิ เดี๋ยวก็เช้าซะก่อนหรอก ฮันคยองนำคำพูดแสบๆคันๆที่ร่างสูงชอบใช้มาเป็นเครื่องมือเล่นงานอีกฝ่ายเสียเอง

     

    คยูฮยอนเบ้ปากด้วยความไม่พอใจแล้วก็เริ่มต้นเดินต่อไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งทั้งสองคนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของฮันคยองในที่สุด

     

    เข้ามาในบ้านก่อนมั้ย? เดี๋ยวฉันหาอะไรมาให้ดื่ม ตอบแทนที่นายมาส่งฉันไงล่ะ ร่างบางเอ่ยชวนพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร

     

    ไม่ล่ะ ฉันจะกลับบ้านแล้ว เด็กหนุ่มร่างสูงปฏิเสธทันควัน

     

    นั่นสินะ คนรวยอย่างนายน่ะคงไม่อยากเข้าไปในที่แคบๆโทรมๆอย่างบ้านฉันหรอก ร่างบางแกล้งพูดเสียดสีอีกฝ่าย เพราะเขารู้ว่า
    ปฏิกิริยาตอบสนองของร่างสูงจะต้องออกมาเหมือนที่เขาคิดไว้แน่ๆ

     

    ไม่ใช่นะ! ฉันเองก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกับนายนั่นแหละ ยืนนิ่งอยู่ทำไมล่ะ? เปิดประตูเร็วๆเข้าสิฉันจะได้เข้าไป!”

     

    ร่างบางแอบยิ้มอย่างพอใจ

     

    เห็นมั้ยล่ะ? เป็นอย่างที่ผมคิดเลย ทีนี้ก็ได้เพื่อนอยู่ด้วยแล้ว

     

     เมื่อฮันคยองเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ความรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจก็จู่โจมเขาอีกครั้ง

     

    หึ กลิ่นของนายยังติดอยู่เลยนะซีวอน แล้วอย่างงี้เมื่อไหร่ฉันจะลืมนายได้ล่ะ?

     

    โห บ้านนายนี่เรียบร้อยจังแฮะ  ดูไม่ออกเลยนะว่านายเป็นคนเจ้าระเบียบ ร่างสูงเอ่ยชมเจ้าของบ้านด้วยคำพูดเจ็บๆตามแบบฉบับของตัวเอง

     

    ฮะๆๆ นายดูไม่ผิดหรอก ฉันไม่ใช่คนเจ้าระเบียบจริงๆ นี่น่ะ...ฝีมือซีวอนทั้งนั้นแหละ ร่างบางพูดแล้วหัวเราะฝืดๆ

     

    ...... เด็กหนุ่มร่างสูงพูดอะไรไม่ออกเมื่อรู้ว่าคำพูดของตัวเองไปสะกิดโดนอะไรบางอย่างในใจของร่างบางเข้าเสียแล้ว ใจหนึ่งเขาก็อยากจะ
    กล่าวคำขอโทษ แต่ปากของเขาหนักเหลือเกิน

     

    เฮ้ย! ไม่ต้องรู้สึกผิดไปหรอกน่า ฉันไม่เป็นไรสักหน่อย ก็บอกแล้วไงว่าฉันเข้าใจเขา เราจากกันด้วยดี ฮันคยองตบไหล่ของร่างสูงสองสามทีแล้วพยายามทำให้ตัวเองดูร่าเริง

     

    ...... คยูฮยอนเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า แน่ใจเหรอว่านายไม่เป็นอะไรจริงๆ?

     

    หากใครได้เห็นสายตาคมกริบของร่างสูงที่จ้องมองมาอย่างคาดคั้นแบบนี้ก็คงจะต้องยอมบอกทุกอย่างออกมาแน่ๆ...ฮันคยองเองก็เช่นกัน...

     

    ฉันไม่เป็นไรจริงจริ๊ง... ก็แค่...คิดถึงนิดหน่อยเท่านั้นแหละ  ร่างบางสารภาพออกมาในที่สุด

     

    รอยยิ้มยังคงไม่เลือนหายไปจากใบหน้าหวาน หากแต่แววตากลับหมองหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด

     

    ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว รีบไปหาอะไรมาให้ฉันดื่มเร็วๆสิ เดินมาเหนื่อยจะแย่ ร่างสูงพยายามเปลี่ยนเรื่องพูด

     

    ผมไม่ได้เห็นแก่กินนะ แต่มันทำตัวไม่ถูกนี่นา เรื่องปลอบใจคนเนี่ย ผมไม่ถนัดเอาซะเลย

     

    ได้ๆ งั้นนายไปนั่งรอในห้องรับแขกก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันมา ฮันคยองพูดกับอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องครัว

     

    ทันทีที่ร่างบางเปิดสวิตช์ไฟ แสงจากอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะทานอาหารก็แวบเข้าตาของเขา

     

    ฮันคยองหันไปดูสิ่งนั้นด้วยหัวใจที่หนักอึ้งแล้วก็พบว่ามันเป็นกุญแจสำรองของบ้านหลังนี้ที่เขาเคยมอบให้กับอดีตคนรัก ใต้กุญแจนั้นมีกระดาษโน้ตสีฟ้าสดใสวางอยู่ด้วย

     

    มือบางที่สั่นเทาเก็บกุญแจใส่ในกระเป๋ากางเกงอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนที่จะหยิบกระดาษโน้ตที่ถูกวางอยู่ขึ้นมาอ่าน

     

    พี่เกิง...กุญแจนี้ ต่อไปผมคงจะไม่ได้ใช้มันอีกแล้ว ผมคืนให้พี่นะครับ แต่ว่าพวงกุญแจรูปสิงโตคู่กับลูกแกะที่พี่ทำให้ผมนั่นผมขอเก็บเอาไว้แล้วกัน หวังว่าพี่คงจะไม่ว่าอะไร ดูแลตัวเองดีๆนะครับพี่ ซีวอน

     

    น้ำตาที่เคยเหือดแห้งไปกลับเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง นิ้วเรียวกดที่บริเวณหัวตาเพื่อห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล เขาพยายามกัดฟันเพื่อไม่ให้มีเสียงสะอื้นหลุดออกมา เขาไม่อยากร้องไห้ แต่การที่ต้องกลั้นเอาไว้มันก็ทำให้เขาอึดอัดเหลือเกิน

     

    ทำไมล่ะซีวอน? ทั้งๆที่นายตัดสินใจเดินจากฉันไปแล้ว แต่ทำไมถึงยังใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆของเราอยู่อีก? ทำไมถึงยังใส่ใจเรื่องของฉันอยู่อีก? 
    แล้วแบบนี้ฉันจะตัดใจจากนายได้ยังไง? ตลอดเวลาที่เราคบกันนายดีกับฉันทุกอย่าง ไม่เคยทำให้ฉันเสียใจ แต่ทำไมตอนนี้นายถึงได้ใจร้ายกับฉันเหลือเกินซีวอน? ความอ่อนโยนของนายกำลังทำร้ายฉันอยู่นะ รู้ตัวบ้างหรือเปล่า?

     

    ร่างบางถอนหายใจยาวแล้วสะบัดหัวแรงๆราวกับว่านั่นจะสามารถช่วยลบเลือนความเศร้าออกไปได้

     

    ฮันคยองเปิดตู้เย็นแล้วหยิบกระป๋องเบียร์กับน้ำอัดลมออกมาก่อนที่จะเดินออกจากห้องครัวไป

     

    มาแล้วๆ ขอโทษนะรอนานหรือเปล่า?  ร่างบางปรับสีหน้าให้ดูร่าเริงขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย

     

    เด็กหนุ่มร่างสูงที่กำลังถือรีโมททีวีอยู่ในมือหันมาทำหน้าเบื่อโลกสุดขีดให้ร่างบางที่เพิ่งจะเดินเข้ามา

     

    นานมาก! บ้านเล็กแค่นี้ทำไมนายใช้เวลานานนักฮะ? ไอ้ทีวีบ้านนายนี่ก็น่าเบื่อเหลือเกิน ทำไมมันถึงมีแค่ห้าช่องล่ะ? คยูฮยอนบ่นยาว
    อย่างไม่สบอารมณ์

     

    ฮะๆๆ ขอโทษนะขอรับคุณชาย พอดีกระผมไปเก็บของนิดหน่อยก็เลยช้าน่ะขอรับ ฮันคยองเอ่ยแซวร่างสูงพร้อมรอยยิ้ม

     

    คยูฮยอนมองร่างบางตาขวาง

     

    เอ้า! แล้วไหนน้ำของฉัน? ร่างสูงถามเสียงเข้ม

     

    นายอายุเท่าไหร่แล้ว? ร่างบางไม่ตอบแต่ถามกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกงงไม่น้อย

     

    สิบแปด อีกครึ่งปีจะสิบเก้า ถามทำไม?

     

    ยังดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้สินะ งั้นเอานี่ไปละกัน ฮันคยองพูดพร้อมกับยื่นกระป๋องน้ำอัดลมให้เด็กหนุ่ม

     

    ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ เอามานี่ฉันดื่มได้ คยูฮยอนเถียงแล้วพยายามแย่งกระป๋องเบียร์จากมือของร่างบาง

     

    ไม่ได้ๆ นายต้องรอให้อายุครบยี่สิบก่อน ไหนบอกว่าไม่ใช่คนหน้าไหว้หลังหลอกไง? ไหนบอกว่าเป็นคนรักษาสัญญาโดยเฉพาะสัญญากับพ่อแม่ไง? ร่างบางเอ่ยปากห้าม

     

    ไม่เคยสัญญาว่าจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์นี่ ร่างสูงยังเถียงไม่เลิก

     

    ฮันคยองส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของอีกฝ่าย

     

    ไม่ได้นะ ถ้าพ่อกับแม่นายรู้ว่านายดื่มของแบบนี้ทั้งๆที่อายุยังไม่ครบกำหนด นายคิดว่าพวกท่านจะรู้สึกยังไง? จะไม่ผิดหวังในตัวนายเหรอ? แล้วถ้าพวกท่านรู้ว่าฉันเป็นคนให้นายดื่มพวกท่านก็จะรู้สึกแย่กับฉันไปด้วย ที่สำคัญนะ มันไม่ดีต่อสุขภาพและสมองอันชาญฉลาดของนาย เข้าใจมั้ย? 
    ร่างอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนอีกฝ่ายต้องยอมแพ้

     

    เฮอะ ก็รู้นี่ว่าไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วยังจะดื่มอีกทำไม?  เด็กหนุ่มร่างสูงยังไม่วายบ่นแต่ก็ยอมรับน้ำอัดลมมาดื่มแต่โดยดี

     

    ฮันคยองหัวเราะเบาๆกับท่าทางของคนที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนที่จะเปิดฝากระป๋องเบียร์ในมือของตัวเองแล้วยกขึ้นจิบ

     

    รสชาติขมเฝื่อนทำให้ร่างบางเบ้ปาก

     

    ซีวอนดื่มเข้าไปได้ยังไงทุกวันนะ ไม่เห็นจะอร่อยเลย อา ~ ผมวกไปคิดเรื่องซีวอนอีกแล้วเหรอเนี่ย? ทำยังไงดีล่ะ? ผมอยากจะหยุดคิดเรื่องของเขาเร็วๆจัง

     

    ร่างบางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าถือของตัวเองก่อนที่จะหยิบแผงยาสีขาวออกมา

     

    ร่างสูงมองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยความสงสัยแล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอมเบียร์เอาไว้และกำลังจะใส่ยาเข้าปาก

     

    หยุดนะ! นายคิดจะทำบ้าอะไรของนายน่ะ?!” คยูฮยอนปัดยาสีขาวที่อยู่ในมือบางทิ้งอย่างรวดเร็วก่อนที่อีกฝ่ายจะได้กินมัน

     

    แค่กๆๆ อะไรของนายเนี่ย? มาปัดยานอนหลับของฉันทำไม? ร่างบางขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ

     

    นายนั่นแหละเป็นอะไร? อยากตายมากนักเหรอ?! เมื่อเย็นก็สูบบุหรี่ คราวนี้จะกินยานอนหลับพร้อมกับเบียร์ นายอยากตายมากเลยใช่มั้ย?!” ร่างสูงตวาดใส่ร่างบางด้วยความโกรธ

     

    ใช่! ผมกำลังโกรธ โกรธมากด้วย! เพราะอะไรน่ะเหรอ? โอ๊ยยย ผมไม่รู้ ผมคงทนเห็นคนทำอะไรงี่เง่าๆแบบนี้ไม่ได้ล่ะมั้ง

     

    เปล่านะ! ฉันแค่จะกินยานอนหลับ ฉันอยากนอนพัก ไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายซะหน่อย

     

    แต่การที่นายกินยานอนหลับพร้อมกับเบียร์มันอาจจะทำให้นายตายได้รู้หรือเปล่า?!”

     

    ร่างบางเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาไม่รู้จริงๆว่าสิ่งที่เขาจะทำอาจทำให้เกิดผลร้ายกับตัวเองได้ถึงขนาดนั้น

     

    เด็กหนุ่มส่ายหน้าด้วยความเอือมระอาเมื่อเห็นว่าร่างบางคงจะทำไปเพราะความไม่รู้จริงๆ

     

    เฮ้อ~ ไม่รู้จริงๆสินะเนี่ย? นายเรียนจบจากที่ไหนมา? ฉันจะเขียนจดหมายไปร้องเรียนให้ปิดที่นั่นเดี๋ยวนี้เลย มีอย่างที่ไหนเรื่องสำคัญแบบนี้ไม่ยอมสอนเด็ก ร่างสูงพูดด้วยท่าทางจริงจังจนร่างบางต้องรีบปราบ

     

    เอาน่าๆ อย่าไปโทษทางมหาลัยเขาเลย ตอนที่อาจารย์สอนเรื่องนี้ฉันอาจจะแอบหลับก็ได้ ร่างบางพูดแล้วยิ้มแห้งๆก่อนที่จะเดินไปเก็บยาที่ตกอยู่บนพื้นไปทิ้งถังขยะ

     

    นายกินยานอนหลับแบบนี้เป็นปกติเหรอ? คยูฮยอนถามขึ้นเมื่อร่างบางเดินกลับมานั่งที่โซฟา

     

    อ๋อ เปล่าหรอก ตั้งแต่เกิดมาฉันเพิ่งจะเคยกินยานอนหลับแค่สองครั้งเอง แต่วันนี้...รู้สึกว่าคงจะนอนไม่หลับแน่ๆก็เลยคิดว่าจะต้องกินน่ะ ฮันคยองตอบยิ้มๆ

     

    รู้สึกแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ?

     

    อืม ก็ไม่เชิงว่าแย่หรอก แต่ยังไม่ชินมากกว่า...มันยากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลย  ประโยคหลังร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายจะเป็นการพูดกับตัวเองเสียมากกว่า แต่โสตประสาทอัจฉริยะของคยูฮยอนก็ยังสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน

     

    ร่างสูงทำท่าครุ่นคิดอะไรอยู่สักพักก่อนที่จะเอ่ยขึ้น

     

    คืนนี้ไปค้างบ้านฉัน เด็กหนุ่มเอ่ยเรียบๆ ไม่ใช่ประโยคขอร้อง ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคคำสั่ง!

     

    นายว่าไงนะ? ร่างบางถามเพราะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า

     

    ฉันบอกว่าให้นายไปค้างบ้านฉันคืนนี้ไงเล่า! เพราะหูตึงแบบนี้หรือเปล่า เวลาอาจารย์เขาสอนอะไรถึงไม่รู้เรื่องน่ะ?

     

    ฉันได้ยินน่าว่านายพูดอะไร ที่ฉันจะถามก็คือ ทำไม?... ร่างบางพูดได้แค่นั้น อีกฝ่ายก็ขัดขึ้นเสียก่อน

     

    ฉันไม่ได้เป็นห่วงนายหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด! แค่ไม่อยากให้มีใครมาตายข้างบ้าน ถ้าเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมาจะเดือดร้อนครอบครัวฉันอีก

     

    คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้ฮันคยองอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

     

    ฮะๆๆ ฉันรู้น่าว่านายไม่ได้เป็นห่วงฉัน แต่ไม่เป็นไรหรอก ไม่อยากรบกวนที่บ้านนายไปมากกว่านี้แล้ว ฉันอยู่คนเดียวได้น่า แล้วก็สัญญาว่าจะไม่ตาย จะไม่ทำให้ครอบครัวนายเดือดร้อนด้วย โอเค๊?

     

    ไม่! ไปค้างที่บ้านฉันนั่นแหละดีแล้ว สภาพนายนี้อาจจะทำอะไรลงไปโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้ แล้วถ้าเกิดนายดันเอ๋อ

    เหมือนเมื่อกี๊อีกจะทำยังไง?

     

    ฉัน...

     

    ไปค้างบ้านฉัน เด็กหนุ่มเอ่ยซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำทรงพลังจนคนฟังไม่อาจปฏิเสธได้

     

    ไม่รบกวนแน่นะ? คุณลุงคุณป้าจะไม่ว่าเหรอ? ร่างบางถามด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

     

    ไม่หรอก พ่อกับแม่ปลื้มนายจะตาย ทีนี้จะไปได้หรือยัง?

     

    อืม ร่างบางพยักหน้ารับในที่สุดก่อนที่จะเดินไปหยิบของใช้ส่วนตัวแล้วเดินตามเด็กหนุ่มร่างสูงไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่อีกครั้งอย่างว่าง่าย

     

    พวกคุณคงคิดว่าผมเป็นคนที่ไม่มีความเกรงใจเลยอีกแล้วใช่มั้ย? ไปรบกวนเขาถึงสองครั้งภายในวันเดียว แถมคราวนี้ถึงกับหอบผ้าหอบผ่อนไปค้างบ้านเขาเลยอีกต่างหาก ผมคงเห็นแก่ตัวจริงๆนั่นแหละ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าปัญหามันคืออะไร ไม่ใช่ว่าผมอยู่คนเดียวไม่ได้ แต่ผมอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้ ที่ๆความทรงจำระหว่างซีวอนกับผมสามารถย้อนกลับมาทำร้ายผมได้ทุกเสี้ยววินาที ผมคงต้องใช้เวลาทำใจสักพัก...สักคืนนึงก็ยังดี ไม่ว่าคยูฮยอนเขาจะชวนผมด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หากมันไม่ฝืนใจเขาจนเกินไป ผมก็ยินดีที่จะตอบรับคำชวนของเขาด้วยความเต็มใจและความรู้สึกขอบคุณ เขาเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผมในตอนนี้

     

    ผมรู้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหนเมื่ออยู่ที่นี่ ต้องให้ผมย้ำสักกี่ครั้งกันว่าผมน่ะเป็นอัจฉริยะ รอยยิ้มเสแสร้งของเขามันไม่เนียนเอาซะเลยในเมื่อตาของเขามันฉายแววเศร้าชัดเจนขนาดนั้น ผมเห็นว่าท่าทางเศร้าๆมันไม่เหมาะกับเขา ก็เลยคิดว่าการพาเขาออกไปจากที่นี่น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จะว่าผมเป็นห่วงเขาก็ได้มั้ง ตอนผมเห็นเขากำลังจะกินยานอนหลับพร้อมเบียร์น่ะ ผมตกใจมากเลย ผมไม่อยากเห็นเขาตายต่อหน้าต่อตานี่ ถึงผมจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ก็เถอะ แต่จะให้บอกตรงๆว่าเป็นห่วงน่ะผมทำไม่ได้หรอก มันไม่ใช่ตัวผม เอ๋? ถ้าผมไม่ชอบเขาแล้วทำไมผมถึงต้องห่วงเขาน่ะเหรอ? โอ๊ยยย อย่าถามอะไรยากๆแบบนี้ได้มั้ย? ผมตอบไม่ได้หรอก ไม่รู้สิ ผมก็หาเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน เอาเถอะ สมองอัจฉริยะอย่างผมมันก็ต้องมีเรื่องที่คิดไม่ได้บ้างเหมือนกันแหละน่า

     

    To be continued…

     

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

     

    Talk: ตอนนี้อาจจะไร้สาระ มึนๆ งงๆหน่อยนะคะ ไรเตอร์แต่งตอนดึกอ่ะค่ะ =_=”

    ขอโทษด้วยนะคะที่ครั้งนี้หายไป 2 อาทิตย์เลย ช่วงนี้ยุ่งมากเลยอ่ะค่ะ ปั่นไม่ทันจริงๆ

    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านนะคะ m(_ _)m เจอกันตอนหน้าค่ะ ^o^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×